ตอนที่ 45 : ( ภาค 2 - สงครามเทพเจ้า ) บทที่ 45 ซากปรักโบราณ
บทที่ 45 ซากปรักโบราณ
ภายในห้องห้องหนึ่ง ณ คฤหาสน์ตระกูลเดอกริม ร่างบางในชุดหนังสีดำนั่งอยู่บนเก้าอีไม้ตัวเล็ก โดยที่โต๊ะด้านหน้าของเธอมีอาหารวางอยู่
มังกรสาวใช้นิ้วเรียวสวยหยิบจับอาหารชิ้นแล้วชิ้นเล่า ขณะบรรจงเคี้ยวและกลืน พลางมองไปยังไข่สีขาวซึ่งตั้งอยู่บนเตียงนอนลายขนมแทรกต้นไม้สีเขียว
“ทำไม เขาถึงสนใจเจ้ามากกว่าข้ากัน” เดธกล่าว พร้อมกับมือที่เผลอทำขนมเลอะปาก
แต่หญิงสาวก็ไม่สนใจจะเช็ดมันออก เพราะในเวลานี้ภายในห้องมีเพียงเธอกับไข่ภูติจิ๋วเท่านั่น เธอจึงไม่จำเป็นต้องวางตัวให้สูงศักดิ์หรือคงไว้ซึ่งความหยิ่งพยองของสายเลือดแห่งราชันย์มังกร
“หรือเป็นเพราะเจ้าพบเขาก่อนข้า...” หญิงสาวเอ่ยทั้งก้มหน้าเล็กน้อย พร้อมความคิดบางอย่างแทรกเข้ามาในหัว
“ถ้าเจ้าหายไป... เขาจะสนใจข้ามากขึ้น” มังกรสาวพูดพร้อมลุกขึ้นเดินเข้าหาไข่พิกซี่
“ถ้าเจ้าหายไป...” เดธกล่าวทั้งยกฝ่ามือขึ้นอยู่เหนือไข่สีขาว มือของเธอกำลังรวบรวมพลังเวทย์สีดำเอาไว้ในปริมาณที่น่าหวาดหวั่น ซึ่งต่อให้เป็นตัวเธอเองถ้าถูกพลังนี้ซัดเข้า ก็บาดเจ็บสาหัสและคงไม่ได้สติไปอีกนาน
“ถ้า...!!!”
...ฟุบ!!!...
แต่แล้วมังกรสาวก็เก็บมือของตนกลับไป
“ไม่ได้...ถ้าข้าทำแบบนั่น เขาจะเกลียดข้า และคงไม่ยอมพบหน้าข้าอีกตลอดไป” มังกรสาวกล่าวพร้อมกับรวบรวมสติที่มืดมัวของตนไว้ ก่อนจะหันหลังกลับไป
ทันใดนั่นเธอก็สบตากับร่างๆหนึ่งทันใด
ร่างของชายหนุ่มในชุดนักล่าสีดำกำลังยืนอยู่ที่ประตูห้อง เขากำลังมองมาที่เธอด้วยดวงตาสีดำสนิท ขณะที่บนใบหน้าของกริมหนุ่ม ไร้ซึ่งการแสดงออกของอารมณ์
‘ไม่จริง เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่’ หญิงสาวรู้สึกกังวลในจิตใจ เธอกลัวว่ากริมหนุ่มจะได้ยินและเห็นในสิ่งที่เธอเกือบจะทำมันลงไป พอนึกขึ้นมาว่าเขาจะต้องเกลียดเธอแล้วแน่ๆ จึงตัดสินใจพุ่งตัวผ่านร่างดังกล่าวออกจากห้องไปทันที...
‘ข้าหักหลังความเชื่อใจของเขา…’
...พุบ... เธอผ่านร่างของกริมหนุ่มไป โดยที่ไม่ถูกเจ้าตัวขวางหรือรั้งไว้ ซึ่งมังกรสาวรู้สึกโล่งใจที่ไคท์ไม่ได้ทำแบบนั่น
ภายในห้องจึงเหลือเพียงกริมหนึ่มซึ่งกำลังมองไปยังไข่ใบสีขาวเพียงลำพัง
“หืม... ทำไมเธอวิ่งออกไปละ...” กริมหนุ่มกล่าวออกมา ก่อนจะเดินตรงไปยังไข่ของพิกซี่จิ๋ว
“ไม่รู้ว่ายัยนี่จะใช้เวลากี่วันถึงจะฟักออกมา แต่เอาเถอะ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเธอหรอก” กริมหนุ่มกล่าวขณะมองไปยังไข่ แล้วจึงเดินไปยังโต๊ะซึ่งมีจานอาหารของมังกรสาววางอยู่
เมื่อสายตาของตนสบไปยังอาหารมากหน้าหลายตาซึ่งล้วนน่ากินทุกอย่าง กริมหนุ่มก็น้ำลายไหลออกโดยไม่สามารถห้ามไว้
“เธอวิ่งออกไปแบบนั่น น่าจะรีบไปเข้าห้องน้ำหรือไม่ก็มีเรื่องด่วนแน่ เพราะฉะนั้นอาหารพวกนี้ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเองก็แล้วกัน” กริมหนุ่มกล่าวเสียงดังพอประมาณ เผื่อมังกรสาวจะได้ยินคำพูดของตน แล้วเจ้าตัวจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเล็กแล้วหยิบอาหารขึ้นมาทาน
“ยอดเลย! ไม่ยักรู้ว่าจะอร่อยขนาดนี้” ไคท์กล่าวขณะเคี้ยวเนื้อของตัวอะไรบางอย่างในปาก
“ถ้าเธอกลับมาต้องถามแล้วละว่านี้เรียกว่าอะไร” กริมหนุ่มตั้งเป้าหมายเอาไว้ ก่อนจะรีบหยิบเอาอาหารอื่นๆตามเข้าปากจนหมด...
“หมดซะแล้ว แต่เอาเถอะ” ไคท์กล่าว ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ถึงเวลาตามหาแล้ว เคล็ดต้องห้ามนั่นทำไมถึงได้ถูกห้าม!” กริมหนุ่มหมายคำตอบจากความทรงจำของมาคาเอล ก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนสีขาวของตน
ไคท์นั่งในท่าที่รู้สึกสบาย ก่อนหลับตาลงช้าๆ โดยไม่ลืมที่จะเปิดประสาทสัมผัสและทักษะการรับรู้เอาไว้
‘ไหนขอดูสิ ว่าวิชาที่ว่า ทำไมถึงถูกห้ามจากอาจารย์’
หลังจากนั่นความคิดของเขาก็ค่อยๆจมดิ่งเข้าไปในห้วงความทรงจำของมาคาเอล
เกิดเป็นตัวตนของกริมหนุ่มซึ่งกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ในความมืดมิด เขาหันซ้ายหันขวาก็พบกับเคล็ดวิชามากมายในรูปของหนังสือที่กำลังส่องแสงสีขาวจางๆออกมา
ชายหนุ่มจึงลอยไปหาหนังสือเล่มซึ่งอยู่ใกล้ๆกับตน ก่อนที่จะอ่านชื่อของมัน
‘เคล็ดผนึกศิลา’ ‘ไม่ใช่’
‘เคล็ดวานรไร้ลักษณ์’ ‘นี่ก็ไม่ใช่’
แต่เขาก็ยังไม่พบวิชาที่ตนกำลังตามหา
‘มันอยู่ที่ไหน ‘เคล็ดวิชาสถิตร่าง’!!! ’ ไคท์คิดขณะเพ่งสายตามองชื่อบนปกตำราเล่มต่างๆ
แต่ก็ไม่พบเล่มซึ่งถูกเขียนว่า ‘เคล็ดวิชาสถิตร่าง’
‘เคล็ดวิชาสถิตร่าง!!!’ กริมหนุ่มตัดสินใจใช้วิธีเดิม ซึ่งเคยค้นหาเคล็ดวิชาก่อนหน้า คือการเพ่งสมาธิและความต้องการของตนออกไป
แต่เขากลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที หลังจากเพ่งความคิดดังกล่าวเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก่อนหน้าไม่มีทีท่าว่าจะปวดหัวแบบนี่มาก่อน เพราะแค่เขาคิดอยากจะเรียนวิชาอะไร เพียงแค่นึกคุณสมบัติหรือชื่อของมัน วิธีการฝึกทั้งหมดก็จะไหลเข้ามาในหัวของเขาแล้ว
แต่ตอนนี้ภายในห้วงความจำของมาคาเอล กลับปรากฏมิติความทรงจำขึ้นมา ทั้งยังเรื่องตัวตนของกริมหนุ่มที่กำลังลอยอยู่ใจกลางความมืดมิดโดยรอบ
ขณะที่กำลังปวดหัวจนแทบเสียสติอยู่นั่น เขาก็พบกับแสงดีดำประหลาด มันส่องแสงออกมาในห้วงความมืดมิดซึ่งไร้ขอบเขตนี้
‘ที่นี้เป็นสีดำ แต่แสงสีดำนั่นกลับมืดมิดยิ่งกว่าความมืดโดยรอบ’ ตัวตนของไคท์ในห้วงความจำกำลังมองไปยังเส้นทางซึ่งแสงสีดำนั่นส่องมายังเขา
สายตาของกริมหนุ่มก็สบเข้ากับตำราเล่มหนึ่งซึ่งกำลังลอยอยู่ลึกลงไปใต้เท้าของเขา
‘มันน่าจะเป็นเล่มที่เรากำลังตามหาอยู่’ เมื่อคิดแบบนั่น ไคท์จึงพุ่งตัวลงไปลึกเรื่อยๆภายในห้วงความมืดมิดโดยรอบ...
แต่ยิ่งเขาจมดิ่งไปในห้วงความทรงจำมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกว่าตัวตนของเขายิ่งเลือนลางลงทุกขณะ จนเริ่มเอะใจบางอย่าง
กริมหนุ่มจึงหยุดที่จะค้นหาเคล็ดวิชาดังกล่าวไว้
‘เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีความรู้สึกแปลกๆ รู้สึกถึงจิตวิญญาณหรือตัวตนบางอย่างที่พยายามแทรกเข้ามา’
กริมหนุ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายและการคงอยู่ของบางสิ่งภายในร่างของตน ซึ่งมันเริ่มมีตัวตนมากยิ่งขึ้นในขณะที่เขากำลังเข้าใกล้เคล็ดวิชาดังกล่าว!!!
‘เป็นคืออะไรกันแน่’ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังสับสนอยู่นั่น จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าร่างของตนถูกสิ่งที่อยู่ภายในตัวบังคับให้ลอยเข้าไปใกล้ตำรามากยิ่งขึ้น
‘แย่แล้ว!!!’
สติของกริมหนุ่มคล้ายจะวูบดับทันใด ขณะที่ร่างของเขาเหมือนถูกบางอย่างพยายามเข้าครอบงำ
กริมหนุ่มก็พยายามขับสิ่งนั่นออกจากร่าง แต่ยิ่งเขาทำแบบนั่น สติของตนก็ยิ่งริบหรี่ลง
แต่เขาไม่ยอมให้ตนหมดสติลงภายใต้สถานการณ์นี้ เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่า หากหมดสติไป อาจถูกบางสิ่งที่พยายามสร้างตัวตนอยู่นี่เข้ามาแทนที่!!!
‘บัดซบ!!! แน่จริงก็ออกมาสู้กันดีๆ’ ไคท์ตะโกนขึ้นในห้วงความคิด ถึงเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งที่พยายามจะยึดครองร่างพร้อมกับทำให้เขาหมดสติไปเป็นตัวอะไร แต่ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้มันทำสำเร็จ
‘อึด!!!’ ไคท์กัดฟันแน่นในห้วงมิติ พร้อมกับร่างกายภายนอกของเขาที่กัดริมฝีปากตัวเองแนนจนมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา แต่กริมหนุ่มเวลานี้เสมือนตัดขาดจากร่างกายของตน เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนภายนอกอีกต่อไป…
‘บัดซบ!!!’ ไคท์ตะโกนออกมา ขณะฝืนเปลือกตาที่กำลังจะปิดในห้วงมิตินี้
‘มันเป็นตัวอะไรกัน... แย่แล้ว’ ไคท์ตะโกนขึ้นขณะที่ดวงตาค่อยๆปิดลงโดยไม่สามารถฝืนเอาไว้อีกต่อไป
‘นี่เรากำลังจะถูกยึดร่างไป?’ ก่อนที่สติทั้งหมดจะหายไป ความทรงจำมากมายเกี่ยวกับผู้คนซึ่งเขาพบเจอมา ก็ค่อยๆเรียบเรียงขึ้นเป็นฉากๆ ซ้อนอยู่ในห้วงความคิด
เริ่มจากเหล่าพี่ๆกริม พิกซี่จิ๋ว เหตุการณ์ต่างๆและผู้คนซึ่งเขาได้พบเจอมาตลอดการเดินทางนี้
‘เราน่าจะเชื่อคำเตือนของอาจารย์’ ความเสียใจของกริมหนุ่มพุ่งขึ้นสูงสุดเมื่อภาพของมาคาเอลลอยเข้ามาในความทรงจำของตน ขณะที่ตัวตนอีกตัวตนหนึ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสติของไคท์ที่กำลังจะหายไป
‘ข้าขอโทษอาจารย์ ข้าเป็นลูกศิษย์อีกคนแล้วที่ทำให้ท่านต้องเสียใจ...’ ดวงตาของเขาปิดลงช้าๆ ขณะที่สติกำลังจะดับหายไปตลอดการ...
‘จงอย่าได้ฝืน... ปล่อยให้จิตด้านลบเข้ามาอยู่ในร่าง ยิ่งเจ้าขับมันมาก มันก็จะยิ่งขับเจ้ามากเช่นกัน เพราะมันคือเจ้า และเจ้าก็คือมัน จงอย่าได้คิดทำลายมัน เพราะมันจะคิดแบบเดียวกันกับเจ้า’ เสียงที่สั่นเครือของชายชราดังขึ้นมาภายในห้วงมิติที่ตัวตนของกริมหนุ่มกำลังจะหายไป
‘ท่านเป็นใคร’ ไคท์กล่าวถามกับเสียงดังกล่าว ซึ่งดังขึ้นรอบทิศทาง ทำให้กริมหนุ่มไม่ทราบว่าอีกฝ่ายอยู่ทิศทางใด
‘จงอย่าได้เข้าใกล้ตำราเล่มนั่น หากจิตของเจ้าไม่แข็งแกร่งและมั่นคงพอ เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาดังกล่าว เพราะฉะนั่นตอนนี้เจ้าจงอย่าได้คิดเข้าใกล้มัน และถอยกลับออกมาซะ ในขณะที่ตัวตนของเจ้ายังไม่ได้ถูกทำลายลง’ เสียงดังกล่าวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสิ่งที่พยายามยึดร่างของเขาเคลื่อนไหวช้าลง ซึ่งเป็นเพราะกริมหนุ่มกำลังลังเลและฟังเสียงของชายชราอยู่
‘หรือว่ามันเองก็ลังเลเหมือนกัน’
เมื่อรู้สึกได้ถึงความลังเลจากสิ่งที่สร้างตัวตนของตัวเองภายในจิตใจของเขา มันมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง จากเดิมที่พยายามลุกไล่และทำให้สติของเขาดับไป
เวลานี้มันกำลังลังเลเช่นเดียวกับความคิดของไคท์ซึ่งลังเล หลังจากฟังคำกล่าวจากชายชราปริศนา
กริมหนุ่มจึงเริ่มทำตามคำแนะนำนั่น
‘เจ้าจงเตือนตนเอง เพราะหากเจ้าและมันเข้าใกล้สิ่งนั่น พวกเจ้าจะดับสูญไป ทั้งคู่จะหายไปตลอดกาล เจ้าต้องเตือนมันในเวลานี้ และให้มันเตือนเจ้าในเวลานี้เช่นกัน’ เสียงชายแก่กล่าวแนะนำเขา
‘ข้ากับมัน…ไม่สิ!’
‘พวกเรา...ต้องไม่ฝึกวิชานั่นในตอนนี้’ ไคท์เพ่งความคิดอย่างหนักขณะที่รอดูการตอบสนองจากตัวตนอีกตัวตนหนึ่ง
‘พวกเราจะต้องไม่ดับสูญไปในเวลานี้’ ไคท์คิดอีกครั้ง
‘...ใช่...พวกเราจะต้องไม่หายไปตอนนี้ เพราะข้ายังต้องยึดครองโลกใบนี้และเป็นผู้ปกครองเหนือทุกสิ่ง!!!’ เสียงอีกเสียงดังตอบกลับ เสียงนั่นดังขึ้นจากภายในจิตของเขา เป็นตัวตนอีกตัวตนหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นมา
‘ฉันจะปล่อยให้นายควบคุมร่างก็ได้ แต่พวกเราต้องถอยออกมาจากมัน’ ไคท์เอ่ยกับจิตของตน
‘ไม่... ยังไม่ถึงเวลาของข้า! เจ้าจงทำมัน’ อีกเสียงตอบกลับมา พร้อมกับสติจากที่ใกล้วูบดับของกริมหนุ่มเริ่มแจ่มชัดขึ้นหลังจากนั่น...
กริมหนุ่มซึ่งสามารถควบคุมร่างของตนภายในมิติความทรงจำได้อีกครั้ง เขาจึงลอยออกห่างจากตำราสีดำสนิทด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างออกจากตัวเขาไปราวสามเมตร ขณะที่พยายามไม่คิดด้านลบใดๆกับจิตใจอีฝั่งของตน
เขาพยายามคิดแต่สิ่งดีดี คิดแต่การมีชีวิตรอดของเขาเท่านั่น การควบคุมร่างของไคท์จึงค่อยๆกลับเป็นปรกติอย่างช้าๆ ขณะที่ร่างของตนลอยออกห่างจากตำรา
‘จงตามเสียงของข้ามา และมายังที่แห่งนี้ ก่อนที่มันจะหายไป’ เสียงชายชรากล่าว
‘ข้าไม่รู้ว่าท่านอยู่ทิศไหน!!!’ ไคท์เอ่ยออกมาหลังจากที่ลอยออกมาไกลจากตำราสีดำจนแทบมองไม่เห็นแสงสีดำ
‘จงใช้จิตใจของเจ้าตามเสียงของข้ามา อย่าได้ใช้หูหรือประสาทสัมผัสที่เจ้าเคยใช้’ เสียงชายแก่ตอบกลับ
‘จงมา จงมาหาข้า’ เสียงชราเรียกหากริมหนุ่มดังขึ้น ขณะที่สั่นเครือมากขึ้นทุกขณะ
‘รีบมา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป’ เสียงนั่นยังเรียกหาไคท์อีกครั้ง กริมหนุ่มจึงหลับตาลง และเริ่มตัดสัมผัสทั้งหมดออกไป
‘ถ้งข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ข้าต้องการพบกับท่าน’
‘ดี! จงตามเสียงข้ามา’ เสียงชายแก่กล่าวด้วยความพอใจ พร้อมกับร่างของกริมหนุ่มภายในห้วงมิติไร้แสงนี้ จะมีมือที่มองไม่เห็นดึงร่างของเขาไปด้วยความรวดเร็ว
...วูบ!!!…
เป็นความเร็วที่น่าตกใจ แต่กริมหนุ่มก็ไม่ได้ฝืนต้านแรงดังกล่าวไว้ แต่จริงจริงแล้วเขาเผลอต้านแรงฉุดไปหลายครั้ง แต่ก็พบว่าพลังของตนนั่นไม่สามารถต้านแรงฉุดนี้ไว้ได้!!!
...พุก!!!...
“อ๊าก!!!”
“เจ็บเป็นบ้าเลย” กริมหนุ่มร้องออกมาหลังจากหล่นลงกระแทกกับพื้นด้วยความรุนแรง เขาจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก่อนมองสิ่งรอบตัว
“ที่นี้ที่ไหน? แล้วทำไมถึงมีสถานที่แบบนี้ในห้วงความทรงจำที่มืดมิดของอาจารย์ได้” ไคท์กล่าว พร้อมกับลุกขึ้นยืนอีกครั้ง น่าแปลกที่ความเจ็บปวดเมื่อครู่จู่ๆก็หายไป
กริมหนุ่มพบว่าตนกำลังยืนอยู่ใจกลางซากปรักหักพังสีขาวสะอาดแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่จนไม่สามารถคาดเดาความยิ่งใหญ่ของมันได้ แต่น่าเสียดายที่สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงซากโบราณสถานที่เคยยิ่งใหญ่เท่านั่น...
ตัวเสาทั้งหมดหักเหลือเพียงครึ่งเดียว มีเสามากกว่าสามร้อยต้น แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มากกว่าสิบคนโอบ ทั้งยังมีรูปปั้นคล้ายเทพหรือบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งของทุกอย่างนั่นต่างพังทลาย ไม่ก็หัก หรือคล้ายถูกทุบทำลายทั้งสิ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับสถานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้กัน” กริมหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา หลังจากเห็นโบราณสถาน
“เจ้าจงมาหาข้า ข้าอยู่ทางนี้” เสียงของชายชราดังขึ้นชัดเจนจากทางด้านหลังของกริมหนุ่ม เจ้าตัวจึงหันกลับไปยังด้านหลังทันใด
“ท่าน! ท่านเป็นใครกันแล้วทำไหมถึงอยู่ในสภาพนี้ได้” ไคท์กล่าวขึ้นเมื่อเห็นร่างซึ่งอยู่ด้านหลังของตน....
------------- จบบทที่ บทที่ 45 ซากปรักโบราณ ---------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

252 ความคิดเห็น
-
#21 Mr.kongkang (จากตอนที่ 45)วันที่ 18 มีนาคม 2560 / 13:50ค้างงงงงว#211
-
#21-1 Silver Duck(จากตอนที่ 45)18 มีนาคม 2560 / 22:16ถ้าอยากอ่านภาค2เร็วๆ แนะนำให้ติดตามจากแฟนเพจได้เลยนะขอรับ อาจจะต้องวาปไปอีกเว็บหนึ่ง ขอบพระคุณที่ช่วยสนับสนุนและคอมเม้นนะขอรับ ><#21-1
-