ตอนที่ 114 : ( ภาค 3 - สงครามต่างโลก ) บทที่ 4 ร่างจิตของจอมมาร
บทที่ 4 ร่างจิตของจอมมาร
ภายในสถานที่ลึกลับ...โลกที่มีเพียงสีดำ ร่างของจอมมารหนุ่มกำลังก้มหน้าลงมองที่เบื้องล่างของตนเอง ขณะที่ร่างถูกตรึงเอาไว้ด้วยโซ่สีทองทั้งสี่เส้น
แต่ในเวลานี้ร่างของเขากำลังเลือนรางคล้ายจะหายไปตลอดเวลา
“เจ้าทำได้แล้ว” เสียงดังออกจากปากของเทวทูตซึ่งกำลังลอยอยู่ ก่อนที่โซ่สีทองทั้งสี่เส้นจะปล่อยให้ร่างของไคท์เป็นอิสระ
“...” จอมมารหนุ่มยังคงมึนงงกับสภาพร่างกายของตัวเองในเวลานี้ เขารู้สึกคล้ายว่าตัวเองกำลังหลับแต่ก็ไม่ได้หลับ รู้สึกว่ายังมีสติแต่ก็ไม่เต็มทั้งสิบส่วน
“สำเร็จ?” ไคท์เอ่ยด้วยความสงสัย ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เขาเห็นคือรอยยิ้มบนใบหน้าของเทวทูตวิปริต...
“แน่นอน นั่นแหละร่างจิต ตอนนี้เจ้าสามารถควบคุมมันได้แล้ว ถึงจะไม่ถนัดนัก” เทวทูตเอ่ยตอบก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาไคท์ทันใด
เห็นแบบนั่นจอมมารหนุ่มก็เกิดความตกใจขึ้น ขณะที่จะใช้ทักษะที่มีก้าวหลบออกไป เขาก็ต้องพบกับความผิดปกติ
‘ช้ามาก’ ไคทฺคิดในใจขณะที่ใช้ออกด้วยก้าวพริบตาระดับสูงสุด แต่ร่างกายที่สมควรจะรวดเร็วพลิ้วไหว กลับเชื่องช้าเหมือนกับเต่า...
“...” และร่างของเขาก็ถูกเทวทูตจับเอาไว้ได้
“เจ้าอย่าคิดว่าจะรวดเร็วกว่าข้า เพราะในโลกแห่งนี้ข้าถือเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง ต่อให้กฎแห่งการแหกกฎของพลังที่เจ้ามีก็ไม่สามารถทำลายกฎของข้าได้” เทวทูตเอ่ย ก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“บัดซบ! เจ้าจะทำอะไรข้า” ไคท์ลนลานขึ้นมา แต่เขาก็ไม่สามารถสะบัดร่างของเทวทูตออกไปใน ขณะที่เทวทูตเคลื่อนไหวใบหน้าเข้าหาใบหน้าของเขาด้วยความรวดเร็ว…
ภายในห้องนอนของจอมมารหนุ่ม
อยู่ ๆ ร่างของชายหนุ่มผมดำซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงนอนก็ลืมตาขึ้น! ก่อนจะมีร่างโปร่งใสที่คล้ายกับร่างซึ่งกำลังนั่งอยู่กระเด็นหลุดออกจากร่างมา
“อะไรกัน” ไคท์พูดออกมาขณะที่เขายกมือซึ่งโปร่งใสของตัวเองขึ้นมอง สลับกับมองไปยังร่างซึ่งกำลังนั่งและจ้องมาที่ตัวเขาในเวลานี้
“ร่างของเจ้ามีจิตเทียมของเจ้าอยู่ภายใน มันจะควบคุมร่างกายของเจ้าเอง พูด คิดและทำตามนิสัยหรือจิตสำนึกเดิมของเจ้า แต่ถ้าเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้น เจ้าจะสามารถควบคุมมันได้พร้อมกับร่างจิตของเจ้าเอง” เทวทูตในชุดคลุมที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากด้านหลังร่างที่โปร่งใสของไคท์ ทั้งไม่พูดปล่าวร่างที่ว่ากำลังสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง เขาสัมผัสได้ทั้งกลิ่นหอมและความอ่อนนุ่มของวงแขนจากอีกฝ่าย...
“บัดซบ!!! ปล่อยข้า” จอมมารหนุ่มร้องออกมา ขณะที่พยายามสะบัดร่างของเทวทูตวิปริตออกจากตัว แต่น่าแปลกที่แรงของเขาไม่สามารถสู้แรงของอีกฝ่าย
“ฮา ๆ ๆ” เทวทูตขำออกมาด้วยเสียงของชายหนุ่มที่ฟังดูอบอุ่น แต่ร่างดังกล่าวก็ยอมคล้ายวงกอดลง
“แล้วเจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่เอาเถอะไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย” เทวทูตในชุดคลุมและปีกที่งดงามสีทองพูด ก่อนจะกลับร่างเป็นตำรายักษ์อีกครั้งแล้วค่อย ๆ ย่อขนาดลงเป็นต่างหู แล้วพุ่งเข้าไปติดที่หูของไคท์ในร่างโปร่งใส
‘ไปสิ ไปไหนก็ไป ข้าขอพักสักหน่อย’ เสียงดังขึ้นภายในหัวของไคท์ ซึ่งนั่นทำให้จอมมารหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ส่งผลให้เขานึกถึงสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำ
‘นั่นสินะ ข้าจะต้องออกไปสำรวจอะไรด้านนอกด้วยตัวเอง หวังว่าเจ้าจิตเทียมนี่จะไม่ทำอะไรแปลก ๆ’ ไคท์คิดในในก่อนจะเงยหน้ามองไปที่ร่างของตัวเอง ซึ่งในเวลานี่มันก็มองมาที่เขาพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า
‘…’ ไคท์พูดไม่ออก ถึงรอยยิ้มและสายตานั่นจะเป็นของเขาเองก็ตาม แต่พอได้มองตัวเองแล้วก็รู้สึกไม่ชอบหน้าขึ้นมา
จอมมารหนุ่มทำใจสักพัก ก่อนที่โปร่งใสจะหันหน้าออกไปด้านนอก แล้วก้าวเท้าพุ่งตัวออกไปจากห้องนอนของตนไป...
ทิ้งให้ร่างของจอมมารซึ่งมีจิตเทียมที่สร้างขึ้นด้วยจิตสำนึกของไคท์ผสมพลังจากตำราสวรรค์อยู่กับภรรยาสาวทั้งสอง
“ข้าคิดว่าข้าควรจะทำหน้าที่บางอย่างให้สมกับเป็นจิตเทียม” จอมมารหนุ่มพูดออกมาก่อนที่จะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม เพราะยังไงถ้าร่างจิตที่แท้จริงกลับมา ตัวตนของมันก็จะกลับเข้าไปรวมกับร่างจิตที่แท้จริงอยู่ดี ทุกสิ่งที่มันทำจึงเหมือนว่าจิตที่แท้จริงได้ทำ...
ด้านนอกของเกาะเทพอสูรซึ่งกำลังลอยอยู่เหนือท้องฟ้าด้วยความสูงจากระดับพื้นดินหลายสิบกิโลเมตร
ปรากฏร่างโปร่งใสของชายหนุ่มผมดำยาว ในชุดคลุมสีดำกำลังวิ่งไปบนอากาศด้วยความเร็วเท่ากับคนธรรมดากำลังวิ่ง!
“นี่ไม่ช้าเกินไปรึไง” ไคท์พูดออกมา ขณะที่ร่างของเขากำลังวิ่งไปบนอากาศด้วยความเร็วเท่ากับมนุษย์ธรรมดา
‘ข้าลืมบอกเจ้าไป เพราะนี่ไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าแต่เป็นร่างจิต ดังนั่นความสามารถ ความแข็งแกร่ง และทุกอย่างของเจ้าคงจะเทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตระดับต้น ๆ ยกเว้นบางทักษะที่ยังส่งผลลัพธ์ออกมา’ เสียงดังขึ้นในหัวของเขาอย่างไม่ใส่ใจ
“ให้มันได้อย่างนั่น” จอมมารพูดตอบกลับ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงเสียงหัวเราะภายในหัวของตน
เจ้าตัวจึงเลิกสนใจตำราสวรรค์ แล้วเริ่มกวาดสายตาลงไปด้านล่างที่กำลังวิ่งผ่านไป
เขาเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดจำนวนมากกำลังทำการต่อสู้กับมนุษย์ในชุดลายพราง เป็นชุดที่มีสีสันและลักษณะคล้ายกับซากสิ่งก่อสร้าง ทั้งใบหน้ายังถูกป้ายไปด้วยบางสิ่งทำให้ดูเหมือนว่ามนุษย์พวกนั่นเป็นหนึ่งเดียวกับสถานที่โดยรอบ
แต่ด้วยไคท์กำลังวิ่งอยู่บนอากาศเหนือหัวของมนุษย์กลุ่มที่ว่า ซึ่งต่างก็มีการเคลื่อนไหวไปด้วย จึงทำให้เขาสังเกตเห็นตัวตนของคนพวกนั่น
“ถ้าอยู่ในระยะห้าร้อยเมตร ข้าน่าจะรู้สึกได้” ไคท์เอ่ยออกไปด้วยความไม่เข้าใจในตัวเอง แต่เขารู้ว่าถ้าอยู่ในระยะที่ว่า เขาจะสามารถรับรู้ถึงตัวตนของทุกสิ่งได้ ดังนั่นชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ลดระดับความสูงลง...
‘พวกเราจะต้องค่อย ๆ ถอนกำลังกลับไป’ เสียงความคิดของนายทหารซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยพันธมิตร
‘พันตรีวิล’ คือชื่อและยศทางทหารของเขา
ตัวเขาได้รับคำสั่งโดยตรงมาจากนายพลเดมัน ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสมัยเด็กและผู้บังคับบัญชา แต่งตั้งให้ตัวเขาเป็นผู้คุมกำลังหน่วยพันธมิตรเพื่อเผชิญหน้ากับมนุษย์กลายพันนับแสน
แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างพวกเขา หน่วยต่าง ๆ ที่คุมในแต่ละพื้นที่ ค่อย ๆ ถูกทลายและกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง...
ทั้งนอกจากการบุกของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์แล้วยังมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหม่ที่ปรากฏขึ้นมากลางสนามรบ
“อย่าโจมตีศัตรูไม่ทราบฝ่าย พวกมันจะไม่โจมตีพวกเรา ถ้าพวกเราไม่ได้โจมตีพวกมันก่อน ขอย้ำ!!! อย่าได้โจมตีสิ่งมีชีวิตที่กำลังนั่งอยู่บนหลังของสิ่งที่คล้ายกับสิงโตแต่มีหัวเป็นนกพวกนั่น!!!” เสียงของพันตรีวิลสั่งไปทางวิทยุสื่อสารดังขึ้น เพราะเขาเห็นแล้ว เขาได้เห็นภาพของการสังหารโดยไม่กระพริบตามาด้วยตาของตัวเอง
เขาเห็นร่างของชายหนุ่มในชุดเกราะซามูไรสีดำซึ่งกำลังนั่งอยู่บนหลังของพาหนะที่สามารถบินได้ทำลายเครื่องบินรบด้วยการใช้ดาบซามูไรในมือฟันออกไป!!!
พวกมันมาด้วยกันสามคนและกำลังบินวนไปรอบ ๆ สนามรบที่พวกเขากำลังทำสงครามอยู่กับมนุษย์กลายพันธุ์ และทันทีที่มีคนจู่โจมไปยังพวกมัน พวกมันก็จะตอบโต้และลงมือด้วยความรวดเร็ว
นายทหารหนุ่มได้เห็นภาพที่ดาบในมือของซามูไรบนหลังพาหนะตัดผ่านเครื่องบินรบทั้งหมดในเวลาไม่นานมาแล้ว จึงหวาดกลัวเป็นธรรมดา ทั้งการที่เครื่องบินรบได้ถูกทำลายลงนั่น ได้สร้างผลกระทบใหญ่หลวงและด้านลบต่อพวกเขา มนุษย์กลับเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบในทันใด!!!
‘เรื่องแบบนี่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ ทำไมพวกมันถึงได้โผล่มาในเวลาแบบนี้’ พันตรีวิลคิดในใจ ก่อนที่จะรีบหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นออกคำสั่งอีกครั้ง
“ทุกหน่วย เตรียมตัวถอนกำลัง พวกเราจะถอยกลับไปปักหลักที่ชายป่า ขอย้ำ! ค่อย ๆ ถอนกำลังกลับ!!!” พันตรีวิลตะโกนเสียงดังผ่านวิทยุ
“ทราบแล้ว เปลี่ยน!”
“ซือ...ซือ..ทราบแล้ว เปลี่ยน!” เสียงวิทยุตอบกลับดังขึ้น นั่นส่งผลให้พันตรีหนุ่มใจชื่นขึ้นมา เสียงตอบกลับมาหมายถึงว่าคนของเขาและหัวหน้าหน่วยอื่น ๆ ยังคงปลอดภัยอยู่
หลังจากที่แจ้งทางวิทยุไปแล้ว หน่วยต่าง ๆ จึงเริ่มถอนกำลังออกจากเขตเมืองร้าง รวมถึงกลุ่มของพันตรีวิลด้วย แต่จะด้วยความโชคร้ายหรือแผนการของศัตรูก็ตาม…
“ชิบ...” พันตรีวิลร้องออกมาขณะที่ใบหน้าซีดเผือก ตัวเขาและหน่วยย่อยของตนซึ่งมีทั้งหมดห้าสิบชีวิตกำลังอยู่ท่ามกลางวงล้อมของมนุษย์กลายพันธุ์นับพันร่าง!
ไม่มีหน่วยสนับสนุนทางอากาศ ไม่มีกำลังเสริม ไม่มียุทโธปกรณ์ที่มากพอจะต่อสู้กับพวกมันที่มีมากถึงหนึ่งพันตัว!!!
“ฮา ๆ ๆ ทุกอย่างผู้นำของเราได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว และพวกแก่จะต้องถูกพากลับไปที่ฐานของเรา” หนึ่งในมนุษย์กลายพันธุ์เอ่ย มันเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีขน หาง และดวงตาคล้ายกับเสือดาว ขณะที่เล็บมือของมันเองก็แหลมคมเป็นอย่างมาก
กลุ่มของมนุษย์กลายพันธุ์นั่นมีทั้งที่คล้ายกับหมาป่า สิงโต แรด งู ช้าง หรือสัตว์ซึ่งคล้ายกับถูกสร้างขึ้นด้วยการผสมสิ่งมีชีวิตหลายชนิดรวมกัน
“แต่ข้าว่าพวกแก่เยอะไปหน่อย ข้าจะเอากลับไปแค่บางส่วนก็แล้วกัน” มนุษย์กลายพันธุ์ที่คล้ายเสือพูดขึ้น ก่อนที่มันยกมือเป็นสัญญาณให้เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่รอบ ๆ เตรียมพุ่งเข้าหากลุ่มทหาร
“เหลือเจ้านั่นไว้ เจ้าคนที่ถือวิทยุสื่อสาร มันอาจมีข้อมูลให้กับท่านผู้นำ” มนุษย์เสือพูดออกมา ก่อนที่มันจะคำรามออกพร้อม ๆ กับโบกมือลงเป็นสัญญาณเปิดศึก!!!
“กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร!!!” สิ้นเสียงคำรามและโบกมือของมนุษย์เสือ ส่งผลให้ร่างของมนุษย์กลายพันธุ์นับพันพุ่งเข้าหาทหารทั้งห้าสิบนายด้วยความไม่กลัวตายทันใด
..เพราะพวกมันตัวหนึ่งกว่าจะถูกยิงล้มหรือตายไปนั่น ต้องถูกยิงมากถึงยี่สิบนัด...
ปัง!...ปัง!...ปัง!...ปัง!...บึ่ม...บึ่ม!!! เสียงปืนกับระเบิดในมือของทหารกล้าทั้งห้าสิบนายดังขึ้นอย่างพร้อมเพียงและต่อเนื่องขณะเผชิญหน้ากับศัตรู ส่งผลให้ร่างของมนุษย์กลายพันธุ์ร่างแล้วร่างเล่าล้มลงนอนกับพื้นและแน่นิ่งไป
เช่นเดียวกับร่างของมนุษย์กลายพันธุ์บางส่วนที่โหมบุกเข้าไปถึงตัวของทหารกล้าได้ พวกมันก็กัดและแยกชิ้นส่วนของทหารคนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและเลือดสีแดงสดที่พวยพุ่งกระจายออกทั่วทั้งบริเวณ
แต่ทันใดนั่นเอง... ด้วยความที่พวกมันเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ซึ่งมีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่ภายในตัว พวกมันต่างสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรเข้าใกล้กำลังอยู่ใกล้ ๆ กับจุดที่พวกมันอยู่
“...” มนุษย์เสือเป็นร่างแรกที่หันมองไปยังจุดซึ่งมันสัมผัสได้ถึงพลังดังกล่าว
มันมองเห็นร่างของชายหนุ่มผมดำยาวในชุดคลุมสีดำเข้ม ดวงตาสีเหลืองทอง ชายคนที่ว่ากำลังนั่งมองมาที่พวกมันอยู่บนยอดตึกสูงตามลำพัง...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

252 ความคิดเห็น
-
#149 phatcharaa (จากตอนที่ 114)วันที่ 23 กรกฎาคม 2560 / 15:52เย้ๆๆๆ มาแล้วรออตั้งนานขออีกซักตอนได้มะ#1491
-
#149-1 Silver Duck(จากตอนที่ 114)23 กรกฎาคม 2560 / 18:45ขอข้าน้อยกินข้าวก่อนนะขอรับ T T#149-1
-