คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue
บทนำ
11.34 PM
ร่างบางนั่งท้าวคางมองแก้วเหล้าตรงหน้าด้วยดวงตาท่ีเหม่อลอย เสียงเพลงดังลั่นจากรอบข้างไม่อาจแทรกเข้าโสตประสาทได้เลยสักนิด สายตาทั้งสองได้แต่มองแก้วเหล้าตรงหน้าในขณะที่เหงื่อเย็นไหลซึมทั่วทั้งร่างจนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชุ่มแนบกับลำตัว นิ้วเรียวเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดและไม่คุ้นชินกับอากาศที่ร้อนจัดที่แม้แต่เครื่องปรับอากาศยังช่วยอะไรเขาไม่ได้ ความร้อนทำให้เขาหงุดหงิด และความหงุดหงิดทำให้ความสามารถในการตัดสินใจของเขาลดลง
“มาคนเดียวเหรอครับ ?”
เสียงเรียกจากด้านข้างทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก แล้วหันไปมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก
ทว่า ดวงตาเรียวกลับต้องเบิกกว้างเล็กๆ ด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าของเขาสมบูรณ์แบบเกินไป จนไม่คิดว่ามนุษย์คนไหนในโลกจะสามารถมีใบหน้าแบบนี้ได้
ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทที่เดินเข้ามาทักถือวิสาสะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บาร์ข้างๆ ก่อนจะส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์เติมเหล้าลงในแก้วทั้งสองใบ แววตาเจ้าเล่ห์ชวนให้ร้อนๆ หนาวๆ ของคนข้างๆ ทำให้ร่างบางขยับตัวหนีด้วยสัญชาติญาณ ต่อให้ใช้กล้องส่องทางไกลดูมาจากห้าร้อยเมตรยังรู้เลยว่าคนหน้าตาแบบนี้น่ะไว้ใจไม่ได้ ยิ่งเมื่อดวงตาคมหรี่มองเขาในขณะที่ริมฝีปากบางระบายด้วยรอยยิ้มเย็น
“ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะบอกเจ้าของร้านนะว่าคุณใช้บัตรประชาชนปลอมเข้ามา"
เสียงนุ่มๆ กระซิบเบาๆ ทว่ากลับได้ผลชะงัดจนทำให้ร่างบางหันขวับไปหา
“อะไรนะ ??” ริมฝีปากเล็กส่งเสียงลอดไรฟัน "รู้ได้ไง ??”
ดวงตาคมของร่างสูงเบิกกว้าง ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา
ตลกบ้าอะไรของมัน!!!
“จริงๆ ก็ไม่รู้ จนตอนนี้แหละถึงรู้ ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่บอก...” เขาว่าแล้วชิงแก้วเหล้าไปจากมือเล็ก ริมฝีปากเล็กอ้าค้างด้วยความตกใจและอายจนใบหน้าร้อนแดงลามไปถึงใบหูที่ตัวเองเพิ่งจะปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม "เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่ควรจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ"
“อย่ามายุ่ง!” ริมฝีปากเล็กตะคอกด้วยน้ำเสียงต่ำ พยายามคว้าแก้วกลับมา "ก็แค่ปีสองปี...”
“คงต้องยุ่งหน่อยนะครับ จะปีเดียวหรือวันเดียวก็ไม่ต่างกัน เพราะผมคงไม่ยอมให้ร้านผมโดนปิดเพราะปล่อยเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์เข้าร้าน" เขาว่าแล้วเอียงคอมองใบหน้าเล็กที่กำลังแสดงความไม่พอใจออกมา ดวงตาคมหรี่มองในขณะที่ร่างเล็กยังคงกระฟัดกระเฟียดด้วยโทสะเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น "แต่... ถ้าเป็นชั้นบนล่ะก็ ตำรวจไม่รู้หรอกว่ามีบาร์อยู่ด้วย"
ดวงตาเรียวหรี่มองใบหน้าหล่อเหล่าไร้ที่ติอย่างงุนงง
“หมายความว่าไง ?”
“อยากรู้ก็ตามมา"
ทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดวนที่แอบอยู่ด้านหลังชั้นวางเครื่องดื่มหลังบาร์เพื่อขึ้นไปยังชั้นบน ซึ่งปรากฏว่าเป็นชั้นบนสุดของตึกพอดี ผนังทั้งสามด้านเป็นกระจกใสทั้งหมดจนสามารถมองเห็นกรุงเทพในยามกลางคืนได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ส่วนพื้นที่กลางห้องถูกสร้างเป็นบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยเก้าอี้นวมและโซฟานุ่มบุหนังกลับสีดำ เพนท์เฮ้าส์บนยอดตึกสูงที่ถูกสร้างเป็นบาร์เปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คน มีเพียงแค่เขาสองคนเท่านั้น
“แล้ว... เด็กน้อยอายุต่ำกว่าเกณฑ์อย่างเรามีอะไรให้ต้องเครียดจนต้องมากินเหล้าคนเดียวครับ ?” ร่างสูงว่าแล้วหยิบขวดเหล้าออกมาจากชั้นวางเหล้าด้านหลังบาร์ออกมาแล้วรินใส่แก้วให้ร่างบางที่ยังคงไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ แสงสลัวทำให้เขาไม่สามารถมองใบหน้าเล็กได้ชัด แต่เพียงเท่านี้ก็มากพอให้เขาตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ "อ้อ ส่วนผมชื่อจอมทัพนะ แล้วเราชื่ออะไร ?"
“ก็แค่... หงุดหงิด เบื่อ" มือเล็กคว้าแก้วเหล้าเข้ามือแล้วกรอกรวดเดียวเข้าปาก "และผมขอไม่บอกชื่อ"
ร่างบางว่าแล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก่อนจะหยิบบัตรเครดิตสีดำสนิทวางลงบนเคานเตอร์
“ไม่เป็นไร ผมเลี้ยง" จอมทัพว่าแล้วใช้นิ้วเลื่อนบัตรเครดิตกลับไปให้
“ของฟรีไม่มีในโลกหรอก" ริมฝีปากเล็กว่า ก่อนจะดันบัตรเครดิตกลับไปหาคนตรงหน้าอีกครั้ง
จอมทัพยักไหล่ ก่อนจะวางขวดเหล้าลงแล้วลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกันกับร่างเล็ก ดวงตาคมกวาดมองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า อันที่จริง ถ้าเขาไม่เห็นบัตรประชาชนปลอมนั่นซะก่อน เขาคงไม่รู้หรอกว่ามันยังอายุไม่ถึง 20 แต่เพราะเขารู้ว่าบัตรนั่นปลอม และสาเหตุที่รู้ก็เพราะเมื่อสองสามปีก่อนนี้เขาเองก็ยังต้องพึ่งบัตรปลอมมาก่อน... ไอ้การจะหลอกปรมาจารย์คนนี้ยังเร็วไปสิบปีนะไอ้น้อง
ร่างสูงใช้นิ้วเรียวเคาะเคานเตอร์เงาวับเบาๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่จากลิ้นชักด้านล่างขึ้นมาคาบไว้แล้วจุดไฟ ประกายไฟสีแดงสว่างวาบขึ้นพร้อมกับควันสีขาวที่ม้วนตัวลอยขึ้นไปบนเพดานเหมือนกลุ่มเมฆ ร่างบางเบือนหน้าหนีเพราะไม่ทันตั้งตัวรับ เขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แต่ก็ไม่ได้เกลียดขนาดที่ทนไม่ไหว จอมทัพยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนตรงหน้าก่อนจะหยิบบุหรี่จากปากยื่นให้เขารับไว้
ร่างบางรับไว้ด้วยมือ ก่อนจะคาบไว้ด้วยปาก กลิ่นของบุหรี่เจือกับกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเขา
“มันก็จริงที่ว่าของฟรีไม่มีในโลก..." จอมทัพว่าแล้วเลิกคิ้วยิ้มให้ "แต่ผมไม่ขอรับเป็นเงินนะครับ"
คิ้วเรียวบนใบหน้าเล็กเลิกขึ้น ใบหน้าเริ่มขึ้นสีร้อนผ่าวเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“ดี ถ้าเข้าใจตรงกันแล้วก็ดี อยากได้อะไรก็บอก อะไรที่จะทำให้คุณไม่ไปแจ้งตำรวจ"
รอยยิ้มบางระบายบนริมฝีปากบางอย่างรู้ทัน ไอ้เด็กนี่มันฉลาด ฉลาดเกือบจะเท่าเขาด้วยซ้ำ
“ฉลาดแบบนี้น่าจะรู้แล้วนี่ว่าต้องแลกกับอะไร” น้ำเสียงแผ่วเบาว่าแล้วยักคิ้วให้น้อยๆ
ใบหน้าเล็กเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตรงหน้า รอยยิ้มเย็นระบายบนริมฝีปากอย่างรู้ทัน
ตรงเป็นบ้า... แต่ก็ดีกว่าต้องเสียเวลาอ้อมค้อม ยังไงมันก็ไม่รู้จักเขาอยู่แล้ว
ทั้งเขาและมันต่างก็ต้องกลายเป็นคนแปลกหน้ากันในวันพรุ่งนี้
เพราะงั้นก็... ช่างหัวแม่งมันไปละกัน ดีกว่าโดนจับ
“แล้ว... ที่นี่มีห้องเหรอ ?”
“ต้องใช้ห้องด้วยเหรอ ?”
ร่างสูงถามสวนกลับไปทันที
เสียงโทรศัพท์สองเครื่องสั่นดังครืดอยู่เหนือหัวอย่างพร้อมเพรียงกัน ปลุกให้สองร่างที่หลับไหลพลันสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมๆ กันด้วยความบังเอิญ ใบหน้าหล่อเหลาทั้งสองบิดเบี้ยวด้วยความหงุดหงิดรำคาญทั้งยังต้องพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงแดดยามเช้าที่ส่องทะลุผนังกระจกบนตึกสูงเข้ามา มือเล็กเปะปะคว้าโทรศัพท์ที่อยู่เหนือหัวมาดูชื่อของคนที่โทรมาหา พร้อมๆ กับมือใหญ่ของร่างสูงที่เอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาดูพร้อมๆ กัน
'Mom'
มือเล็กกดรับสายอย่างเนือยๆ
“อืม... ฮัลโหล แม่ครับ...”
“ลูกอยู่ไหน ??? จนป่านนี้แล้วทำไมยังไม่มาแต่งตัว!!!”
“เอ่อ... นอนอยู่ห้องเพื่อนครับ พอดีตื่นสายไปหน่อย ผม...”
“รีบมาที่โรงแรมเดี๋ยวนี้เลย!! แล้วเสียงแบบนั้น...”
“อากาศเปลี่ยน ผมแค่เป็นหวัดนิดหน่อย"
“อย่าให้แม่จับได้ว่าลูกแอบไปเที่ยวคนเดียวอีกนะ!!!"
“ครับแม่ เจอกันที่งาน รักแม่นะครับ"
“รักลูกเหมือนกัน แต่แม่จะเม้งให้หูชาเลย!!”
ปลายสายกดวางสาย ร่างบางถอนหายใจเฮือกแล้วทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนพื้นพรมนุ่ม มือข้างหนึ่งซ้อนหนุนนอนต่างหมอนอยู่ใต้ศีรษะ เรือนผมสีดำสนิทยุ่งเหยิง ร่างกายที่เปลือยเปล่ามีเพียงสูทสีดำตัวใหญ่ของคนข้างๆ ปิดบังร่างกายท่อนล่างเอาไว้ เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ของเมื่อคืนนี้ถูกถอดทิ้งเขวี้ยงกระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้อง ร่างบางลืมตากว้างจะมองเพดานเหนือหัวอย่างปลงๆ
เมื่อคืน... เมาจนแทบจะจำอะไรไม่ได้ แต่...
ดวงตาเรียวเหลือบมองคนข้างๆ ที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน
“ต้องกลับไปโลกแห่งความจริงละ" ริมฝีปากเล็กว่าแล้วยันตัวลุกขึ้น
“อะไรมันจะเลวร้ายขนาดนั้น...” คนข้างๆ ลุกขึ้นนั่งตาม ร่างสูงที่เปลือยเปล่าเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวขาวที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าที่เขาเห็นเมื่อคืนก่อนปรากฏรอยสักอีกสองสามรอย มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กไว้แล้วยิ้มเผล่อย่างเจ้าเล่ห์ กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจของร่างสูงเจือปนอยู่ในอากาศ ทั้งยังตราตรึงติดแน่นลงบนผิวหนังของเขาจากความใกล้ชิดที่เกิดจากการตัดสินใจโง่ๆ เมื่อคืนนี้ "เอาเป็นว่า ถ้าอยากมานั่งหน้าเครียดกินเหล้าคนเดียวอีกเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน"
“ไม่มีครั้งที่สองแล้ว" ร่างเล็กว่าแล้วลุกขึ้น สะบัดมือใหญ่ทิ้ง "ไปละ"
“รีบไปไหนนักหนา ??” จอมทัพลุกขึ้นแล้วคว้ามือเล็กไว้อีกครั้ง
“ไปตาย”
ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กทันที
“...นี่พูดจริงรึเปล่า”
“หมายถึง... ไปงานแต่งงาน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ... ไปตาย" ร่างเล็กว่าแล้วถอนหายใจเฮือก ก่อนจะตัดสินใจระบายออกมา "แม่ผมกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่... และนี่ก็เป็นครั้งที่ห้าที่แม่แต่งงานใหม่ แถมมันแย่ตรงที่ผู้ชายคนนั้นมีลูกติดมาด้วย แล้วหลังจากงานแต่งเวรๆ นี่แม่ก็ยังบังคับให้ผมต้องย้ายเข้าไปอยู่กับพวกขยะเปียกนั่นด้วย ซึ่งผมขอยอมตายดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณที่จะต้องมายุ่ง... พอใจมั้ย ?? แล้วจะปล่อยมือผมได้ยัง ?"
“...”
“ปล่อย ผมรีบ"
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปส่งเอง"
“...”
“เพราะผมกำลังไปงานแต่งงานนั่นเหมือนกัน...”
“...”
“เพราะว่าคนที่แม่คุณกำลังแต่งงานด้วย คือพ่อของผม"
ความคิดเห็น