ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปีเสือชงรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตัวติดแจ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 65


    โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภออมก๋อย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและเดินทางยากลำบาก อาคารเรือนไม้สองหลังสภาพผุพังตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ เด็กๆกำลังเตะฟุตบอลเล่นกันอยู่ที่ลานดินด้านหน้า รถกระบะของชาวบ้านสี่ห้าคันบรรทุกคณะอาสาสมัครจากหน้าหมู่บ้านมาส่งที่โรงเรียนเพราะเส้นทางบนดอยรถบัสไม่สามารถขึ้นมาได้เลย ทำให้ต้องพึ่งรถของคนในพื้นที่

    "ถึงแล้วโคตรไกลเลย จะเข้าเมืองทีต้องข้ามเขาหลายลูกเลยนะเนี่ย"

    "พวกเราเดี๋ยวมารวมตัวกันตรงนี้ก่อนนะ" อาจารย์เก่งตะโกนบอก หนุ่มสาวคณะอาสาสมัครขยอยเดินตามกันมา รวิตาหยุดยืนมองวิวสวยตรงหน้า เธอชื่นชอบธรรมชาติวิถีชนบทแบบนี้ เรียบง่ายไม่วุ่นวายเหมือนเมืองหลวง

    "เอ้า รีบเดินไปสิเพื่อนๆเดินไปกันหมดแล้ว" เวทิศชี้นิ้วบอกหญิงสาวที่มัวแต่ยืนถ่ายรูปจนตัวเองอยู่รั้งท้ายสุด

    "รู้แล้วน่า" รวิตาสะบัดหน้าหนี นี่เธอเป็นนักโทษรึไงกันเขาถึงต้องเดินตามคุมแจอย่างนี้

    "วันนี้พวกเราเดินทางมาไกลกันมาก ขึ้นเขาลงห้วยกันสนุกเลย ฮ่าๆ นี่ก็เย็นมากแล้วแต่ละทีมแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วให้ทุกคนกลับมาเจอกันตรงนี้หนึ่งทุ่มตรงจะได้ทานอาหารกัน เอ่อ ที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะ ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆ ใครมีอะไรให้แจ้งอาจารย์หรือพี่เสือก็ได้ เข้าใจมั๊ยทุกคน"

    "เข้าใจครับ/ค่ะ"

    "ไป พอลล่าคนสวยอย่างเราไปช่วยพี่ยกของลงจากรถกันเถอะ"

    "ใช้แรงงานอีกล่ะ พอลล่าควรต้องอยู่ทีมการเรือนมั๊ยพี่บอล"

    "งั้นปีใหม่ไปช่วยพี่บอลเอง พอลล่าช่วยงานตรงนี้แหละ ขอเมนูอร่อยๆนะไม่เน้นผัก" รวิตาบอกอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปที่รถกระบะชายหนุ่มห้าคนช่วยกันขนข้าวของเครื่องใช้มากมายที่จะเอามาให้น้องๆลงจากรถ

    "ใครกล้าใช้ดาวคณะมายกของวะเนี่ย ปีใหม่ไม่ต้องหรอกงานนี้ของผู้ชาย ยืนให้กำลังใจพวกเราก็พอแล้ว" ชายหนุ่มอีกคนเอ่ย

    "ไม่เป็นไรหรอก ส่งมาเราช่วยถือ" รวิตาเอื้อมมือจะหยิบแต่ทันใดนั้นมีมือใครอีกคนแย่งเอาไปถือไว้เสียก่อน

    "หลีกไปสิยืนเกะกะอยู่ได้ ตัวแค่เนี่ยจะยกอะไรไหว" เวทิศดุใส่ เธอเลยต้องขยับหลบทางให้เขามายืนรับของจากเพื่อนชายที่อยู่บนหลังรถกระบะ

    "น้องปีใหม่ครับช่วยหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อให้ทีครับ ไม่รู้อะไรมันเข้าตาพี่" บอลทำทีเป็นแสบตารวิตารีบเข้าไปช่วยดูใกล้ๆ

    "หันหน้ามาค่ะ ก็ไม่เห็นมีอะไรนะคะพี่บอล" หนุ่มสาวสองคนไม่รู้เลยว่าคนอื่นเห็นจากด้านหลังท่าทางมันเหมือนคนที่กำลังจูบกันอยู่ สองเท้าจ้ำอ้าวเข้ามา

    "ทำอะไรกัน!" เสียงเข้มตะโกนถามก่อนจะคว้าแขนบางให้มายืนอยู่หลังเขา

    "โอ๊ย! เจ็บนะคุณ"

    "ผมรู้สึกเคืองตานั่นพี่ น้องปีใหม่เลยดูให้ก็แค่นั้นเองพี่เสือ" บอลบอก สายตาผู้ชายด้วยกันมันดูกันออกเสือแสยะยิ้ม คิดเหรอว่าฉันจะไม่รู้ลูกไม้ตื้นๆ

    "อ่อ ไหนพี่ดูให้" สองมือคว้าใบหน้าใสไว้ส่วนอีกมือหนึ่งก็จับลูกกะตาถ่างออกกว้าง

    "เอ่อ ไม่เป็นไรครับพี่ๆ ผมหายแล้ว" บอลรีบบอกไม่อย่างนั้นตาดำเขาอาจจะหลุดออกมาได้

    "อืม ต่อไปก็ระวังๆหน่อยละกัน ไป" ว่าแล้วเวทิศคว้าแขนคนข้างๆให้เดินไปด้วยกัน

    "เอ้ยไอ้บอลปีใหม่เป็นแฟนกับพี่เสือเหรอ กูเห็นตัวติดกันแจเลย"

    "ไม่รู้วะ"

    "ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกันจะมาเดินตามคอยหึงคอยหวงกันทำไมวะ กูว่าใช่"

    "แย่แล้วพี่บอลคู่แข่งหล่อรวยเพอร์เฟคสาวๆที่ไหนก็ชอบ ทำใจเถอะพี่ แห้วชัวร์" รุ่นน้องเอ่ยปลอบใจ บอลหันกลับไปมองหญิงสาวที่แอบหลงรักอีกครั้ง รู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวใจ

    "นี่คุณ! ฉันเดินเองได้จะมาจูงมือทำไมเนี่ย" รวิตาพยายามสะบัดมือออกแต่อีกคนกลับกระชับมือนั้นให้แน่นขึ้น

    "เธอเชื่อไอ้หน้าอ่อนนั้นจริงๆเหรอ ฉันจะบอกให้นะผู้ชายทุกคนมันน่ากลัวทั้งนั้น อยู่ให้ห่างมันไว้"

    "คุณก็ด้วยสิ พี่บอลเป็นคนดีเขาไม่เหมือนคุณหรอกนะ อย่าอคติไปหน่อยเลย"

    "ทำไม! รักมันมากเลยรึไง ปกป้องมันเหลือเกินนะ หึ ฉันจะฟ้องคุณพ่อ"

    "ฟ้องเลย เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด" ทั้งสองยืนเถียงกันยกใหญ่ อาจารย์เก่งเห็นไกลๆรีบควักมือเรียก

    "เสือกับปีใหม่มานี่เร็วเข้า"

    "มีอะไรเหรอคะอาจารย์"

    "คืองี้ครูใหญ่เขาบอกว่ายังมีเด็กนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งอยู่บนเขาอีกลูก เลยจะวานให้ปีใหม่กับเสือไปดูแลทำกิจกรรมแทนหน่อย เอาของไปให้เด็กพวกนั้นด้วย ส่วนอาจารย์กับเพื่อนๆที่เหลือจะดูแลเด็กๆที่โรงเรียนนี้เอง"

    "ค่ะอาจารย์ หนูไปคนเดียวก็ได้ค่ะ"

    "ได้ไงกันให้เสือไปด้วยนั่นแหละดีแล้ว เราเป็นผู้หญิงอยู่บนเขาบนดอยมันอันตราย มีผู้ชายไปด้วยมันอุ่นใจ โอเคนะเสือช่วยหน่อยนะ"

    "ได้เลยเพื่อน ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"

    "ขอบใจมาก ขึ้นรถคันนั้นไปเลยพี่เขารอจะไปส่งอยู่ อย่าลืมเอาเต็นท์ไปด้วยนะ ขนมก็หยิบไปเยอะๆ เสือฉันฝากดูแลปีใหม่ด้วยนะ"

    "เอ่อ ไปก่อนนะเริ่มมืดแล้วด้วย" เวทิศบอกพร้อมกับหยิบเต็นท์กับกระเป๋าเป้มาถือไว้ ส่วนรวิตากลับไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ากับถุงขนมและของต่างๆให้เด็กได้ทำกิจกรรมกัน และไม่ลืมวิ่งไปบอกพอลว่าเธอต้องแยกตัวไปทำกิจกรรมอีกที่หนึ่ง

    "ร่ำลากันเสร็จยังพี่เขารอนานแล้วเห็นรึเปล่า หัดเกรงใจเขาบ้างสิ" เสียงประชดนั้นทำให้อีกคนเริ่มไม่พอใจ

    "ก็รีบอยู่เห็นมั๊ยล่ะ เอาของไปถือเลยพูดมากนัก" เธอยื่นถุงขนมมาให้เขาถือจากนั้นเขาและเธอนั่งท้ายกระบะหลังรถของชาวบ้านใจดีที่จะไปส่งที่โรงเรียนบนเขา 

    เส้นทางแคบและเล็กจนน่าหวาดเสียว ตัวโยกย้ายไปตามสภาพทางที่แสนจะขรุขระ รวิตายังชื่นชมดื่มด่ำกับวิวสองข้างทางกดถ่ายรูปมือเป็นระวิง ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปแสงสีส้มสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า

    "สวยจัง คุณถ่ายรูปให้หน่อยได้มั๊ย"

    "เธอนี่มันวุ่นวายจริงๆเลย ส่งมา" เวทิศกลายเป็นช่างภาพจำเป็น สาวหน้าหวานยิ้มผ่านเลนส์ให้เขากดถ่ายรัว รอยยิ้มสดใสนั้นพาให้หัวใจเขาสั่นไหวชอบกล

    "มา ฉันถ่ายรูปให้ ยิ้มหน่อยสิทำหน้ายังกับยักษ์วัดแจ้ง อืม ยิ้มแบบนั้นล่ะ หนึ่ง สอง สาม แชะ!!" รวิตาก้มดูรูปนั้นแล้วเผลอยิ้มออกตาอย่างไม่รู้ตัว

    "หล่อสู้ตัวจริงได้รึเปล่าหรอก ไหนดูดิ" ทั้งสองผลัดกันถ่ายรูปเล่นพูดคุยกันจนลืมไปว่าก่อนหน้านี้เขาและเธอต่างเคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน

    ทันทีที่ตะวันลาลับขอบฟ้าไปพระจันทร์ส่องแสงสีเหลืองนวลกลมลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า สายลมเย็นๆพัดแรงจนคนร่างบางเริ่มหนาวสั่น

    "เมื่อไหร่จะถึงเรานั่งรถมาไกลแล้วนะ" เธอถามเขา

    "ใกล้แล้วมั้ง หนาวเหรอเอาเสื้อฉันไปใส่ก่อนละกัน" ว่าแล้วเวทิศก็ถอดเสื้อออกบังคับให้เธอสวมทับอีกชั้นหนึ่ง ส่วนเขาเปลือยอกท้าลมหนาวต่อไป

    "คุณไม่หนาวเหรอ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกเอากลับไปใส่เถอะ" เธอทำท่าจะถอดเสื้อออกแต่เขาไม่ยอม

    "ฉันแข็งแรงกว่าเธอหรอกน่ายายกาฝาก ใส่ๆไปเถอะอย่าเรื่องมาก" รถกระบะขับฝ่าความมืดมาหลายนาทีก่อนจะเลี้ยวเข้ามาจอดอยู่ที่หน้าบ้านไม้เล็กๆหลังหนึ่งก่อนเจ้าของรถจะดับเครื่องแล้วเดินลงมาหา

    "ถึงแล้วนี่บ้านลุงเอง ไม่หนาวเหรอหนุ่มถอดเสื้อให้เมียใส่ด้วยน่ารักดีนะ" ลุงเอ่ยแซว รวิตาทำหน้าไม่ถูกจะพูดบอกก็โดนใครอีกคนพูดแทรกซะก่อน

    "บ้านลุงอยู่ไกลเหมือนกันนะครับ แต่บรรยากาศดีมากเลยผมชอบ"

    "มาๆเข้าบ้านก่อนเถอะ น้ำค้างแรงเดี๋ยวไม่สบายเอา นอนพักบ้านลุงก่อนละกันโรงเรียนก็อยู่ข้างๆนี่ล่ะไม่ไกล"

    "ขอบคุณค่ะคุณลุง หนูรบกวนลุงแท้ๆเลย"

    "ไม่เป็นไรนังหนู เมียเอ็งนี่น่ารักดีนะ สวยด้วยช่างเลือกนะหนุ่ม" ชายหนุ่มทั้งสองพากันหัวเราะชอบใจ

    "นี่คุณ ทำไมคุณไม่บอกลุงไปว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน"

    "ทำไมต้องบอกอะ ไม่เป็นไรหรอกฉันไม่ถือ" เวทิศยิ้มก่อนจะเดินตามลุงไปหน้าตาเฉย

    "แต่ฉันถือนิ ตาบ้าเอ้ย! รอฉันด้วยสิ" เธอวิ่งตามเขาไปติดๆ บรรยากาศตอนนี้มืดสนิทยิ่งได้ยินเสียงสัตว์ร้องดังกันระงมเธอเริ่มรู้สึกกลัว ดีนะที่เธอไม่ได้มาคนเดียวไม่งั้นแย่แน่ๆ มีเสืออันธพาลมาด้วยกันอย่างนี้เธอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นนิดหนึ่ง นาทีนี้คงต้องสามัคคีกันไว้ก่อน เธอขอพักยกสงบศึกไว้ก่อนชั่วคราว

    "สวัสดีค่ะคุณป้า" แขกมาใหม่ยกมือไหว้เจ้าของบ้านที่กำลังยกสำรับอาหารมาตั้งที่ลานไม้หน้าบ้านเปิดโล่งโปร่งสบายท่ามกลางธรรมชาติ

    "สวัสดี กินข้าวกันจ้าเดินทางมากันเหนื่อยๆกินน้ำกินท่ากันก่อนสิ" หญิงสูงวัยสวมชุดผ้าฝ้ายทรงกระสอบปักลวดลายสีสันสวยงามยิ้มทักทาย

    "มีแต่อาหารพื้นถิ่นนะลองกินดู" ลุงเอ่ยบอก อาหารง่ายๆเน้นผักกับน้ำพริกซึ่งเป็นอาหารแปลกใหม่สำหรับคนเมือง ยังดีที่มีไข่เจียวนั่นคือสิ่งที่พิเศษสุดแล้ว

    "คนที่นี่ทำอาชีพอะไรกันเหรอครับ"

    "ส่วนใหญ่ก็จะทำนาทำไร่ หาของป่าขายกัน" ระหว่างทางที่ขึ้นมามองไปทางไหนเห็นแต่ไร่กะหล่ำปี มะเขือเทศ พริก ฟักทอง ข้าวโพด และเห็นมีการทำนาแบบขั้นบันไดตามทิวเขาด้วย แต่ละบ้านก็เลี้ยงสัตว์ใช้กินกันในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นไก่ หมู วัว ควาย

    "บ้านป้าเล็กไปหน่อยนอนเบียดกันหลายๆคนก็อุ่นดี"

    "ไม่เป็นไรครับ พวกผมมีเต็นท์มาด้วย"

    "อ่อ ดีๆ นั้นก็กางตรงนั้นก็ได้" ลุงชี้ไปที่ลานข้างบ้าน

    "ดึกๆหนาวแน่นังหนู นอนกอดกันคงอุ่นแหละ" ป้าเอ่ยแซว

    "เอ่อ ไม่ใช่นะคะ เราไม่ได้"

    "ไม่ต้องเขินหรอก แล้วมีลูกกันรึยัง"

    "ยังครับ" เวทิศตอบหน้าตาเฉย รวิตาถลึงตาใส่แต่เขากลับหัวเราะ

    "นี่คุณ!"

    "เมียสวยขนาดนี้ หนุ่มไหนจะอดใจไหว มันต้องนี่เลยม้ากระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม นารีรำพึง หรือจะเป็นตัวนี้กำลังช้างสาร" ชื่อยาดองนั้นทำให้คนฟังหัวเราะคิกคัก รู้สึกคึกปึ๋งปั๋งเมื่อหันไปมองโหลยาดองที่วางเรียงรายอยู่

    "โห้ คุณลุงมีครบเลยนะเนี่ย"

    "ฮ่าๆ ของดีลองหน่อยมั๊ยหนุ่มคืนนี้จะได้คึก"

    "วันหลังดีกว่าครับลุง คืนนี้พวกเราคงไม่ไหวกัน" เขาตอบสองแง่สองง่ามชวนให้คิดลึก คนหน้าหวานนั่งหน้าแดงเขินอายเมื่อสายตาของทุกคนมองมาที่เธอคนเดียว

    "เอ่อ หนูไม่ได้"

    "ไม่เอาน่าเขินทำไมกันเรื่องธรรมชาติใช่มั๊ยครับคุณลุงคุณป้า" ยังไม่วายเขาแกล้งแซวต่อ เจ้าของบ้านหัวเราะชอบใจ

    .

    .

    มี E-book นะคะ หากคุณรี๊ดสนใจอยากอ่านต่อแบบยาวๆกดลิงค์นี้ได้เลยน๊า

    https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=189666

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×