ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปีเสือชงรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : เกลียดกัน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 65


    สวัสดีฉันชื่อ รวิตา ฉันเกิดวันที่หนึ่งของเดือนพอดี แม่เลยตั้งชื่อให้ว่า 'ปีใหม่' ฉันมีพี่น้องสองคน แต่พ่อแม่กับน้องทิ้งฉันไปนานแล้วเพราะอุบัติเหตุ คืนนั้นมีคนเมาขับรถซิ่งแล้วมาชนพ่อแม่กับน้องสาวเสียชีวิต ฉันแทบเป็นบ้าเมื่อได้รู้ข่าว การสูญเสียคนที่เรารักไปมันเจ็บปวดมาก มันทรมารเหลือเกินสำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่แม้เรื่องราวอันโหดร้ายมันจะผ่านมาหกปีแล้วก็ตามแต่ฉันก็ไม่เคยลืมมันได้เลย และนี่ก็คือเหตุผลที่ฉันต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่หรูหราของนักธุรกิจหมื่นล้านชื่อดังอย่างสงกรานต์ ระวีวรรณสกุล ผู้ซึ่งเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูฉันเป็นอย่างดีเพื่อชดใช้และรับผิดชอบแทนลูกสาวคนเล็กที่เป็นคนมาพรากเอาชีวิตของคนที่ฉันรักไปแบบไม่มีวันกลับมา เอ่อ!! ลืมบอกไปฉันมาอยู่ที่นี่แบบเจียมตัวรู้ตัวเองดีว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่ได้ตีตนเสมอท่านแต่อย่างใด ฉันขอย้ายลงมาอยู่ที่เรือนหลังเล็กกับพวกพี่ๆแม่บ้าน เพราะฉันสบายใจที่ไม่ต้องเจอใครบางคนที่จ้องคอยแต่จะจับผิดฉันสารพัด เขามันโรคจิตชอบหาเรื่องจิกกัดฉันได้แทบทุกวี่ทุกวัน บางทีก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาคนนั้นไม่สมควรจะชื่อ 'เสือ' เลย น่าจะชื่อไก่หรือไม่ก็หมาซะมากกว่าฟังดูมันจะเข้าท่ากว่าอีกนะฉันว่า

    ปังๆๆ!!! เสียงเคาะประตูดังรัวจนเจ้าของห้องหันไปมอง

    "ยายกาฝากเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้เปิดไง" เสียงนั้นฉันจำมันได้ขึ้นใจ ก่อนจะก้มหน้าลงไปเขียนไดอารี่ต่อไม่สนใจคนที่มายืนตะโกนเรียกเลยสักนิด เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ปากเสียที่สุดในโลก คิดได้แต่เรื่องไม่ดี และเขาก็ชอบเรียกฉันว่า 'กาฝาก' เรียกแบบนี้มาหกปีแล้วจนฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองชื่อปีใหม่

    "ยายกาฝาก!! หูหนวกรึไง" และนั่นทำให้ฉันต้องรีบวางปากกาแล้วเก็บสมุดไดอารี่ไว้ในลิ้นชักก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง ทันทีที่ประตูเปิดออกชายหนุ่มหน้าตาดีสูงหล่อผิวขาวยืนหน้าถมึงทึงรออยู่ก่อนแล้ว

    "ทำอะไรอยู่ ฉันเรียกไม่ได้ยินรึไง หูแตกเหรอ"

    "ได้ยิน แต่ไม่อยากเปิด คุณมีธุระอะไรกับฉัน"

    "เธอนี่มันร้ายกว่าที่คิดนะยายกาฝาก แอบขึ้นไปขอเงินคุณพ่อใช่มั๊ย"

    "อะไร! อย่ามาพูดมั่วๆ"

    "ฉันเห็นนะว่าเธอขึ้นไปหาคุณพ่อ น่าไม่อาย เกาะกินเงินของคนอื่นเขา ฉันล่ะเกลียดเธอที่สุด!"

    "แล้วคุณเคยถามฉันรึเปล่าว่าฉันเกลียดคุณมั๊ย" เธอตอบเขากลับอย่างไม่เกรงกลัวสายตาดุร้ายของเขาเลย

    "ยายกาฝาก!" เขาตวาดเสียงใส่ มือคว้าไหล่สองข้างของเธอบีบเอาไว้แน่นจนเจ้าตัวนิ่วหน้าเจ็บ

    "ตายแล้ว! คุณเสือไม่เอาค่ะ ปล่อยหนูปีใหม่เถอะนะคะ ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิคะ" ป้านมรีบวิ่งเข้ามาห้าม

    "ยายนี่พูดดีด้วยไม่ได้หรอกครับนม กวนประสาท"

    "ใครกันแน่ที่กวนประสาท โรคจิต!"

    "นี่เธอ!"

    "ไม่เอาค่ะๆหนูปี อย่ามีเรื่องกัน" ป้านมคว้าตัวเธอไว้ก่อน แต่สายตาของทั้งสองคนยังจ้องหน้าเอาเรื่องกันอยู่ก่อนที่อีกคนจะเดินกลับออกไป

    "เกิดอะไรขึ้นคะหนูปี นมได้ยินเสียงคุณเสือดังเข้าไปถึงในครัวเลย"

    "เรื่องเดิมๆละคะ เขาหาว่าหนูไปขอเงินคุณท่าน"

    "แล้วหนูปีไม่ได้บอกคุณเสือเหรอคะว่าที่หนูปีขึ้นไปพบคุณท่านเรื่องอะไร"

    "ไม่ได้บอกค่ะ ถึงบอกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ เสืออันธพาลชอบทำตัวระรานคนอื่นเขาไปทั่ว"

    "โถ่ หนูปีของนม" ป้านมโอบกอดเธอไว้ น่าสงสารเสียจริงคุณเสือก็ชอบมาหาเรื่อง เธอก็ต้องคอยกันทัพถามศึกทุกวันไป

    ในบ้านใหญ่สงกรานต์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่สายตาเหลือบไปเห็นลูกชายตัวดีที่พึ่งเดินกลับเข้ามาหน้าหงิกหน้างอก็ได้แต่นึกขำในใจ

    "ไงเสือ ไปหาเรื่องอะไรน้องเขาอีกละ"

    "ผมไม่ได้หาเรื่องนะครับคุณพ่อ ก็ยายกาฝากนั่นมัน" ยังไม่ทันจะพูดจบคนเป็นพ่อยกมือขึ้นห้าม

    "เรียกชื่อน้องเขาให้มันดีๆ แล้วมีเรื่องอะไรกัน"

    "ก็ผมเห็นยายนั่นขึ้นมาหาคุณพ่อ เรื่องเงินอีกใช่มั๊ยครับ"

    "ใช่ เรื่องเงิน แต่พ่อเองต่างหากที่เป็นคนไปเรียกหนูปีเขาขึ้นมา ค่าใช้จ่ายเรื่องเรียนพ่อก็ต้องเป็นธุระจัดการให้"

    "แต่ยายนั่นได้เงินเทอมละเป็นแสนๆเลยนะครับคุณพ่อ ผมว่ามันเกินไป กินอยู่ก็ฟรี แถมมีเงินใช้อีกสบายจะตาย" เสือโวยวายไม่พอใจ

    "ลูกลืมไปแล้วเหรอว่าที่หนูปีเข้ามาอยู่ที่นี่เพราะอะไร น้องเขาสูญเสียคนในครอบครัวก็เพราะยายกวางน้องของแก"

    "แต่เราก็สูญเสียคุณแม่ไปเหมือนกันนะครับ ผมคิดว่ามันคืออุบัติเหตุ"

    "เพราะความเมาจนขาดสติไง ถึงได้ขับรถไปชนพวกเขาแล้วก็ทำให้แม่ของแกต้องตาย" สงกรานต์พูดเตือนสติ

    "ถึงยังไงผมก็ไม่เห็นด้วย นี่มันหกปีแล้วนะครับพ่อที่ยายนั่นอยู่กับเรา คุณพ่อจะอุปถัมภ์เลี้ยงดูไปตลอดชีวิตเลยรึไง จะยกมรดกหรือว่าหุ้นบริษัทให้ด้วยมั๊ยล่ะ" คำประชดประชันทำให้สงกรานต์เริ่มโมโห

    "พ่อก็กำลังคิดอยู่ ที่ลูกพูดก็เข้าท่าดีเดี๋ยวพ่อจะตัดสินใจอีกทีว่าจะยกอะไรให้กับหนูปีเขาจะได้เป็นของขวัญวันรับปริญญาด้วย"

    "คุณพ่อ!" เสือร้องโอดโอยไม่พอใจเลยรีบจ้ำขึ้นไปบนห้อง สงกรานต์ได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้าเหนื่อยใจกับลูกชายของตัวเอง อันที่จริงเมื่อเช้าเขาเรียกรวิตาให้มาพบก็เรื่องค่าเทอมปีสุดท้ายที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ แต่รวิตากลับปฏิเสธที่จะรับเงินนั้น โดยให้เหตุผลว่ายังมีเงินเหลือของเทอมที่แล้วเลยไม่อยากที่จะขอเงินเพิ่มอีก และยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญเธอมาขออนุญาตออกไปอยู่ที่อื่น ออกไปใช้ชีวิตเองเพียงลำพังเพราะไม่อยากเป็นภาระของเขาอีกต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เขาก็ยังไม่เห็นด้วยถึงยังไงรวิตาก็เป็นผู้หญิงและก็ยังเด็กอยู่ในสายตาของเขาถึงแม้ว่าเธอจะอายุอานามปาเข้าไปยี่สิบเอ็ดปีแล้วก็ตาม และตอนนี้ก็กำลังจะเรียนจบปริญญาตรี

    "คุณท่านคะ" รวิตาเอ่ยเรียกแล้วยกมือขึ้นไหว้

    "หนูปีว่าไงลูก นั่งก่อนสิ"

    "คือที่คณะหนูมีกิจกรรมอาสาไปช่วยน้องบนดอยสูงหนูจะมาขออนุญาตคุณท่านไปร่วมกิจกรรมค่ะ"

    "ที่ไหนล่ะ บนเขาบนดอยอันตรายนะลุงว่า"

    "เชียงใหม่ค่ะ ไปสามวันสองคืน อาจารย์ที่คณะก็ไปกันเยอะ อีกอย่างหนูก็อยากไปเที่ยวด้วย"

    "ฮ่าๆ เอ้าๆอยากไปลุงก็จะให้ไป ดูแลตัวเองดีๆนะลูก"

    "จริงนะคะ หนูดีใจสุดๆเลย ขอบคุณมากค่ะ งั้นหนูขอตัวไปโทรศัพท์บอกเพื่อนก่อนนะคะ" รวิตายิ้มร่าออกไปต่อสายถึงเพื่อนรัก

    "ฮัลโหลเพื่อนสาว ผู้ปกครองไม่อนุญาตอีกตามเคยละสิ" คนปลายสายถาม

    "ผิดยะ คุณลุงอนุญาตให้ไปได้ ดีใจมากฉันจะได้จะไปแอ่วเหนือสมใจอยาก"

    "กรี๊ดๆ ดีใจแทนแกด้วยปี นานๆทีแกจะได้ออกไปสู่โลกกว้างกับเขาบ้าง วันนี้แกมานอนบ้านฉันมั๊ย เดี๋ยวไปรับเลย"

    "คงไม่ได้หรอกแก ยังไม่ได้ขอคุณลุงเลย เจอกันพรุ่งนี้เช้าที่คณะเลยแล้วกัน"

    "งั้นพรุ่งนี้ตีห้าฉันจะให้พี่บอลขับรถไปรับแกที่บ้านก่อนแล้วค่อยขับมารับฉันละกัน"

    "โอเคตามนั้น บาย" รวิตากดวางสายยืนยิ้มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวเดินทาง

    "ยายกาฝากจะไปไหน" เสียงพึมพำของใครบางคนเอ่ยดังมาจากมุมเสาอีกด้านหนึ่งหลังจากที่ยืนแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์

    ช่วงเช้ามืดรถกระป๋องคันเล็กขับมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่คนขับเดินลงมาทันทีที่เห็นรุ่นน้องคนสวยแบกกระเป๋าเป้ออกมาจากประตูรั้วบานเล็ก

    "สวัสดีค่ะพี่บอลปีรบกวนพี่แต่เช้าเลย" รวิตาส่งยิ้มให้

    "รบกวนอะไรกันเล่า มืดขนาดนี้ใครจะใจร้ายปล่อยให้ดาวคณะคนสวยอย่างน้องปีใหม่แบกกระเป๋าไปเองละครับ ส่งมาครับพี่ช่วยถือ" บอลบอกแล้วเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าใบใหญ่ใส่ท้ายรถก่อนจะขับรถออกไป ในความมืดนั้นยังมีสายตาคมเข้มอีกคู่หนึ่งแอบจ้องมองลงมาจากชั้นบนอยู่ตลอดเวลา

    "หึ ร้ายจริงๆนัดผู้ชายให้มารับถึงบ้านเลยเหรอ ขนเสื้อผ้าไปเยอะขนาดนั้นจะหนีไปอยู่ด้วยกันเลยรึไง ใจแตก"

    .

    .

    มี E-book นะคะ หากคุณรี๊ดสนใจอยากอ่านต่อแบบยาวๆกดลิงค์นี้ได้เลยน๊า

    https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=189666

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×