ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Friend Ship บันทึกรักเพื่อนเลิฟ

    ลำดับตอนที่ #6 : ง้อ....ข้อตกลง...มีปัญหา

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 48


    The  Friends  Ship  =O_O=



    ………….



    ………………………





                 ทางด้านพีระนันท์ที่โดนคิมหันต์ลากออกมาก็โดนจับโยนเข้าไปในห้องพักของนักกีฬาที่นภกานต์ทำแผลอยู่  แล้วขู่กรรโชกผิดกับรูปลักษณ์ที่แสนน่ารัก  เสียงที่กดต่ำอย่างเอาจริง



    “ ไปคุยกับคุณกานต์เขาให้เคลียร์ซะ…. ไม่อย่างนั้น เราจะออกโรงเองนะ !! “





                 เป็นที่รู้กันว่า  ถ้าคิมหันต์ออกโรงเองนั้นน่ากลัวกว่ามรกต 100 เท่า  ทำให้เธอทำตามอย่างเสียไม่ได้เช่นเดียวกับที่นภกานต์กำลังโดนพี่แอ้มขู่อย่างจริงจัง



                  “ ไปขอโทษ  หรือจะทำอะไรก็ไป  ที่ทำให้ชมรมกลับมาอยู่ในสภาพปกติ   สภาพก่อนหน้านี่น่ะ….ข้าขอล่ะตอนนี้แต่ละคนในชมรมกำลังจะแย่เพราะเอ็งแล้วรู้มั้ย…..ข้ารู้ว่าเอ็งมีเรื่องไม่สบายจะ..และจะให้ทาย  ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของนันท์ใช่มั้ยล่ะ ? “  นภกานต์เงยหน้าขึ้นมองอย่างทึ้งจัด



                    “เออ….ข้ารู้ว่ะ….ไม่ต้องมองแบบนั้น  ก็บอกแล้วไง  แค่ไปขอโทษน่ะ  มันไม่ได้ทำให้เอ็งเสียผู้เสียคนสักหน่อย  แถมวันนี้เอ็งยังไปฟัดกับเพื่อนเขามาแบบนี้อีก  ไปพูดๆเถอะมันจะได้สบายใจ  “  นภกานต์ก้มหน้านิ่ง  พี่แอ้มตบไหล่อย่างให้กำลังใจ  “มันไม่ยากหรอกแค่ไม่กี่คำเอง  ข้าเชื่อว่าเอ็งทำได้ “





            พีระนันท์เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น  เข้าไปแล้วจะให้พูดอะไรเล่า…ยัยคิมนะยัยคิม  ฉันไม่มีอะไรจะพูดสักหน่อย  แง่ง!!  ถ้าออกไปมีหวังโดนยัยคิมงับหูหลุดแน่ๆ  โอ้ย!!  อยากบ้าตาย  โว้ย!!







                                         พลั้ก ~!!!!!







             ประตูประแทกหน้าพีระนันท์เข้าอย่างจัง    “อูย..เจ็บจัง”  พีระนันท์เอามือลูบหน้าผากด้วยความเจ็บแสนสาหัส





             “เป็นอะไรมากมั้ย  นันท์ “ น้ำเสียงทุ้มที่เคยยียวนบัดนี้กับเต็มไปด้วยความร้อนรน  มือใหญ่ๆจับต้นแขนดึงเธอขึ้นจากพื้น  “ ไหนเอามือออกหน่อยสิ… โอ้ย..แดงเลยอ่า…มานี่ “  นภกานต์ลากพีระนันท์ที่ยังคงเอามือกุมหน้าผากตัวเอง เข้าไปในห้องพักนักกีฬาแล้วกดไหล่ให้เธอนั่งลง  แล้วหันไปคว้าถุงเจลออกจากตู้เย็นมาประคบให้ที่หน้าผาก





              “อูย…เบาๆหน่อยเด้….เจ็บน้า “  พีระนันท์ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆทำให้นภกานต์แอบอมยิ้มไม่ได้….ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาเนี้ย….ไม่ได้เข้ากับรูปลักษณ์ภาพนอกเลยจริงๆ…..แต่นะ…ก็น่ารักดี…..





            “ โทษๆ  ว่าแต่ไปทำอะไรอยู่หลังประตูนั่นล่ะ…”   พีระนันท์ยักไหล่  จะบอกได้ยังไงล่ะ…ว่าโดนคำสั่งให้มาเคลียร์น่ะ….เสียฟอร์มหมด….อยากรู้จริงๆหมอนี่….จะขอโทษเธอตามที่ยัยคิมบอกมั้ยน้า….



            

              ”เปล่าสักหน่อย…แล้วนายน่ะทำไมเปิดประตูไม่ดูหา!!  “ พีระนันท์รวน  นภกานต์มองหน้าแม่ตัวดี….อย่างหมั่นไส้    





               ”อ้าว…ก็จะไปเห็นได้ไงล่ะ…ประตูไม้นะไม่ใช่ประตูกระจก….แล้วปกติมีใครเขาไปทำอะไรลับๆล่อๆอยู่หลังประตูเสียที่ไหนล่ะ ก็เลยไม่ทันได้ระวัง “  เมื่อเห็นพีระนันท์ตาชักจะวาวขึ้นมาแบบว่าจะเอาเรื่อง  นภกานต์ก็รีบชิงเปลี่ยนเรื่องทันที “ ว่าแต่…เพื่อนน่ะ….เป็นไงมั่ง”  

    พีระนันท์เลิกคิ้วขึ้น



              “ยัยกตน่ะเหรอ….โห้ย! หายห่วง  ถึกจะตายแม่คนนั้นน่ะ  ไม่เป็นไรหรอก…ว่าแต่นายเถอะ  เป็นไงมั่ง “ พีระนันท์เหมือนจะลืมความขุ่นเคืองเมื่อกี้ไปเสียสนิท  เมื่อมองไปเห็นที่หน้าของนภกานต์ที่ตอนนี้แปะพลาสเตอร์ยาหลายแห่ง  ก่อนที่เจ้าตัวจะคลายยิ้ม แบบที่ปกติไม่เคยจะได้เห็นเลย  “ ไม่เท่าไหร่หรอก…แต่เพื่อนเธอนี่ใช้ได้เลยนะ ….แรงเยอะพอๆกับพวกผู้ชายเลยนะนั่น “  พีระนันท์อมยิ้ม..เมื่อพูดถึงแม่เพื่อนซี้ “นั่นแหละ บุคลิกของเขาแหละ ยัยกตน่ะมือเท้าหนักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ป่าเถื่อน  เสียงก็ดัง  ปากก็…หือ..จัดอย่างกะอะไร… “  





              “เหรอ….ดูสนิทกันดีนะ “  นภกานต์ชวนคุยต่อ…เขาไม่อยากจะให้บรรยากาศแบบนี้หายไป  อยากหยุดมันไว้อย่างนี้เลยด้วยซ้ำ….เห็นแก่ตัวจริงๆเลยน้าเรานี่….   “ก็…นะ…นานมากแล้วล่ะ…ตั้งแต่ประถมปลายได้ “   คำพูดของพี่แอ้มเมื่อกี้ค่อยๆไหลเวียนเข้ามาในความคิด…..







              “เอ่อ…นันท์..เรื่องงานน่ะ..ฉันขอโทษนะ “  นภกานต์เอ่ยเสียงเบาพีระนันท์เบิกตาโต  ขณะที่นภกานต์เบนสายตามองไปทางอื่น  



              “หืม..นายว่าไงนะ…ฉันไม่ทันได้ฟังน่ะ “





              “เอ่อ…..ขอโทษ…เรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน….ไม่ได้ตั้งใจ… “  พีระนันท์แอบอมยิ้มเงียบๆ  เมื่อแอบเห็นอีกฝ่ายเสยผมอย่างเก้อๆ  น้ำเสียง  สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความเก้อเขิน……น่ารัก อิอิ….อย่างนี้ต้องแกล้ง

        



               “นี่…นายงึมงำๆอะไรอ่ะ…พูดดังๆหน่อยเด้…ไม่ได้ยินอ่า “  นภกานต์เม้มปากอย่างขัดใจ  นี่แค่ขอโทษ….ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้…..แล้วดูแม่เข้าประคุณทำเข้าสิ…กอดอกเอียงคอมองหน้าแบบ ‘ชักฉุนแล้วนะ จะพูดอะไรก็ว่ามาเด้’  เป็นน้องเป็นนุ่งหน่อยไม่ได้…..จะตีให้!!

        



                  “ฉันขอโทษ!! ที่ทำงานของเธอเสียเมื่ออาทิตย์ก่อน  ฉันไม่ได้ตั้งใจ !! “



                  นภกานต์ตะโกนออกมา  แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง  พีระนันท์ยิ้มออกมา…..แต่แกล้งเก๊กหน้าขรึมใส่และเอ่ยเสียงเรียบ

        



               “ นายคิดว่า…ขอโทษแล้วมันทำให้อะไรๆดีขึ้นหรือไง  ขอโทษแล้วงานฉันกลับมาดีเหมือนเดิม..หรือก็เปล่า “   นภกานต์หันหน้ากลับมาทันที….ซวยแล้วดิ่….โอ้ย….  พีระนันท์แอบยิ้มในใจเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูกังวลและเครียดฉายออกมาชัด  แล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเย็นชา  ทำเอานภกานต์ใจหล่นวูบ  



                 “ เพราะฉะนั้น นายต้องแลกเปลี่ยน “   นภกานต์มองอย่างไม่เข้าใจ   “หลังจากนี้  เราจะต้องเป็นเพื่อนกัน….นายจะต้องไม่แกล้งฉัน …ไม่ทำอย่างที่ผ่านมา…..แล้วฉันจะยกโทษให้ “  พีระนันท์หันมายิ้มให้เขา…...ในความรู้สึกเขาตอนนี้….มันเหมือนได้รับการเติมในช่องที่โหวงๆเมื่อสักครูจนเต็ม….จนเหมือนจะล้นทะลักออกมา……เขาต้องยอมรับขึ้นมาแล้วล่ะ….ว่าเรื่องแบบนี้ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาแบบสุดๆ!!





                 พีระนันท์ยืนพิงประตูด้วยท่าทีสบายๆ “ว่าไง…จะรับข้อเสนอมั้ย ? “  นภกานต์ตีหน้าขรึมบ้าง “ ไม่  อย่างนี้มันเสียเปรียบนี่   เธอต้องรับข้อเสนอด้วย “ พีระนันท์เอียงคออย่างสงสัย อะไรของหมอนี่ ตามไม่ทันอ่า





              “ ข้อเสนอของฉันก็คือ….เธอจะต้องกลับมาเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม….แล้วฉันจะรับข้อเสนอของเธอ…พีระนันท์”   นัยน์ตาสีน้ำตาลดำเปล่งประกายขึ้นมา  ทำให้พีระนันท์อดยิ้มไม่ได้….. รู้สึกดีจัง….การที่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดเนี้ย  รู้งี้เชื่อแม่ 2 สาวนั่นไปตั้งนานแล้ว     เสียงโทรศัพท์ของพีระนันท์ขัดจังหวะขึ้นมา  แต่เสียงที่กรอกมาตามสายก็เรียกรอยแดงๆบนใบหน้าเธอได้ไม่ยากเลย



        



    “ นี่….เลิกจู๋จี๋ กันสักทีสิ….เพื่อนเค้ารอกลับบ้านกันจะแย่อยู่แล้วนะ….ว้ายๆๆ หน้าแดงเลย ฮิฮิ “  เสียงมรกตมีแววล้อเลียนอย่างสุดๆ พีระนันท์มองหาเพื่อนรอบๆอย่างพาล  



    ”แหม….หาใหญ่เลย….เนี้ยมีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่างเยอะเลยอ่ะ…เกือบทั้งชมรมเลยล่ะมั่งนี่….โฮะๆๆๆ “  มรกตหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์  พีระนันท์กัดฟันกรอด



    “แกอยู่ไหนไอ้เพื่อนตัวดี  ออกมาเดี๋ยวนี้นะ “  





    “ได้เลยจ้า  มองดีๆน้า  วู้วๆๆ เห็นมั้ยเอ่ย “  พีระนันท์มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นคนเกือบทั้งชมรมค่อยๆโผล่ออกมาจากที่ซ้อนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยกันหมด  ทำเอาทั้ง 2 คนหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  มรกตโบกมือให้อย่างล้อเลียน แล้วยิ้มให้   พีระนันท์ชี้หน้านัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความโมโหแต่ไอ้รอยแดงๆนี่สิ ที่มันจำลังค้านว่าจริงๆแล้วน่ะ เจ้าตัวเขามีอารมณ์ยังไงกันแน่









                    เย็นนั้น 3 สาวกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน  ถึงมรกตจะได้แผลตามตัวเต็มไปหมดแต่กับคู่กรณีซึ่งตอนนี้แอบคาดการณ์ในใจเองว่า อาจจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นเพื่อนเขย  ก็ปรองดองกันดีไม่มีที่ติ  ส่วนคิมหันต์เองก็มีความสุข  เพราะเธอเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เพื่อนๆได้ยิ้มกันแก้มปริบแบบนี้   ส่วนพีระนันท์เองนั่งหน้าขรึมเพราะโดนเพื่อนหักหลังซะมันไป…..แย่….. แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามีเรื่องที่แย่กว่านั้น  ตรงที่ยังไม่รู้ว่า งานนี้มีตากล้องด้วย!!!  มรกตกับคิมหันต์แอบยิ้มอยู่ในใจแล้วส่งสายตาให้กัน  ขืนมันรู้มีหวังป่าช้าแตกแหง่มๆ  เก็บไว้เล่นดีก่า เหอๆ    (ช่างเป็นเพื่อนที่ชั่วร้ายอะไรอย่างนี้เนี้ย )





                    “เออ. … ว่าแต่กตคุยอะไรเหรอ….. “  คิมหันต์เกริ่นนำเรื่องขึ้นมา…. แต่ยาก….ที่จะจับแม่ปลาไหลอย่างมรกตได้โดยง่าย   มรกตตีหน้าเฉย  แต่ในใจกลับหงุดหงิดที่ได้ยินชื่อนี้  น่าโมโห…..น่าโมโหที่สุด….น่าหงุดหงิด….มันน่า…..



                  “ก็ไม่มีไรนี่….เถียงกันนิดหน่อย “  คิมหันต์เลื่อนตัวขึ้นมานั่งตรงกลางระหว่างเบาะคนขับกับคนนั่งข้าง  แล้วเอามือสะกิดที่ไหล่เพื่อนเบาๆ  



                 “มีอะไรก็บอกนะ…. ไม่สบายใจอะไรก็อย่าลืมว่ายังมีพวกเราอยู่….. “





                 “พูดตามตรงนะ….เราน่ะไม่ถูกชะตากับหมอนั่นเลย…ให้ตายดิ่….เห็นมันแล้วรู้สึกขวางหูขวางตายีงไงพิกล  “  พีระนันท์ ว่า   คิมหันต์เอียงคอมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ





                  “  คิมว่าเขาก็ดูดีนะ….อุตส่าห์มาช่วยห้ามกตด้วยงันนี้  ไม่แน่นะถ้าเขาไม่มาห้าม อะไรๆอาจจะเลวร้ายกว่านี้ก็ได้ “  มรกตมองเพื่อนผ่านกระจกมองหลัง แล้วถอนหายใจ





                 “ รูปลักษณ์ภายนอกไม่สามารถระบุสัณดานที่อยู่ข้างในได้หรอกนะคิม   ภายนอกหรือท่าทีที่แสดงออกน่ะ มันสามารถปรุงแต่งให้เป็นยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ  เพราะฉะนั้นอย่าสรุปว่าคนๆนั้นดีไม่ดีเพียงแค่ภายนอก ขนาดคบกันมานานหลายๆเดือนบางทีเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่เรารู้จักเลยซักนิดเดียว  จำคำเราไว้เลยนะ  แล้วเธอน่ะยิ่งเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆน่ารัก น่าหลอกอยู่ด้วย    “  





                 บรรยากาศเงียบลงทันที นานเพื่อนๆจะเห็นมรกตเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงและท่าทีนิ่งๆ  แบบนี้   ทั้งพีระนันท์และคิมหันต์รู้ทันทีว่าเพื่อนต้องไปเจออะไรมาแน่ๆ  และต้องเป็นเรื่องที่หนักพอตัวเลยด้วยและที่แน่ๆ…ต้องไม่พ้นเรื่องของหมอนั่น….นายรวิกร…….  พีระนันท์คิดอย่างขวางๆ  ต้องมีอะไรแน่ๆเลย….อย่างนี้ต้องแอบแวบไปหาข้อมูลเสียหน่อย….







                 ทันทีที่ถึงบ้านมรกตก็ปฏิบัติกิจวัตรยามเย็นของเธออย่างปกติ  อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ‘คุณครู ‘ ตามที่เธอและเพื่อนๆจะแอบเรียกแม่ของตัวเองเวลาลับหลังไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด   ช่างสบายใจอะไรอย่างนี้   มรกตรดน้ำต้นไม้อย่างสบายอารมณ์    เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นทำให้เธอต้องหยุดงานที่ทำตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปรับด้วยน้ำเสียงปกติ



    “สวัสดีค่ะ “



    “กต…นี่ซันนะ “  ท่าทีเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินเลย ในตอนนี้



    “มีธุระอะไร “  เขารู้สึกได้ถึงความเย็นชาและห่างเหินส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์  



    “ ก็…. “



    “ ไม่มีอะไรสำคัญใช่มั้ย?….พอดีมีเรื่องต้องไปทำน่ะช่วยรีบพูดหน่อยได้มั้ย “



    “ เราโทรเข้ามือถือหลายครั้งแล้วเห็นไม่รับก็เลยโทรเข้าบ้านน่ะ  “



    “ก็ขับรถอยู่  เห็นแล้วล่ะ มีเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย  สวัสดี “ มรกตว่างสายลงทันที  ราวกับว่าถ้าเธอว่างช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววินาที



        

              เธอจะต้องใจอ่อนยอมฟังแน่ๆ……คำแก้ตัวนั่น….คำแก้ตัว….และเสียง…ที่เธอไม่อยากฟัง….พอสักที…..    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×