ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ง้อ....ข้อตกลง...มีปัญหา
The  Friends  Ship  =O_O=
.
            ทางด้านพีระนันท์ที่โดนคิมหันต์ลากออกมาก็โดนจับโยนเข้าไปในห้องพักของนักกีฬาที่นภกานต์ทำแผลอยู่  แล้วขู่กรรโชกผิดกับรูปลักษณ์ที่แสนน่ารัก  เสียงที่กดต่ำอย่างเอาจริง
“ ไปคุยกับคุณกานต์เขาให้เคลียร์ซะ . ไม่อย่างนั้น เราจะออกโรงเองนะ !! “
            เป็นที่รู้กันว่า  ถ้าคิมหันต์ออกโรงเองนั้นน่ากลัวกว่ามรกต 100 เท่า  ทำให้เธอทำตามอย่างเสียไม่ได้เช่นเดียวกับที่นภกานต์กำลังโดนพี่แอ้มขู่อย่างจริงจัง
              “ ไปขอโทษ  หรือจะทำอะไรก็ไป  ที่ทำให้ชมรมกลับมาอยู่ในสภาพปกติ  สภาพก่อนหน้านี่น่ะ .ข้าขอล่ะตอนนี้แต่ละคนในชมรมกำลังจะแย่เพราะเอ็งแล้วรู้มั้ย ..ข้ารู้ว่าเอ็งมีเรื่องไม่สบายจะ..และจะให้ทาย  ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของนันท์ใช่มั้ยล่ะ ? “  นภกานต์เงยหน้าขึ้นมองอย่างทึ้งจัด
                “เออ .ข้ารู้ว่ะ .ไม่ต้องมองแบบนั้น  ก็บอกแล้วไง  แค่ไปขอโทษน่ะ  มันไม่ได้ทำให้เอ็งเสียผู้เสียคนสักหน่อย  แถมวันนี้เอ็งยังไปฟัดกับเพื่อนเขามาแบบนี้อีก  ไปพูดๆเถอะมันจะได้สบายใจ  “  นภกานต์ก้มหน้านิ่ง  พี่แอ้มตบไหล่อย่างให้กำลังใจ  “มันไม่ยากหรอกแค่ไม่กี่คำเอง  ข้าเชื่อว่าเอ็งทำได้ “
        พีระนันท์เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น  เข้าไปแล้วจะให้พูดอะไรเล่า ยัยคิมนะยัยคิม  ฉันไม่มีอะไรจะพูดสักหน่อย  แง่ง!!  ถ้าออกไปมีหวังโดนยัยคิมงับหูหลุดแน่ๆ  โอ้ย!!  อยากบ้าตาย  โว้ย!!
                                    พลั้ก ~!!!!!
        ประตูประแทกหน้าพีระนันท์เข้าอย่างจัง    “อูย..เจ็บจัง”  พีระนันท์เอามือลูบหน้าผากด้วยความเจ็บแสนสาหัส
        “เป็นอะไรมากมั้ย  นันท์ “ น้ำเสียงทุ้มที่เคยยียวนบัดนี้กับเต็มไปด้วยความร้อนรน  มือใหญ่ๆจับต้นแขนดึงเธอขึ้นจากพื้น  “ ไหนเอามือออกหน่อยสิ โอ้ย..แดงเลยอ่า มานี่ “  นภกานต์ลากพีระนันท์ที่ยังคงเอามือกุมหน้าผากตัวเอง เข้าไปในห้องพักนักกีฬาแล้วกดไหล่ให้เธอนั่งลง  แล้วหันไปคว้าถุงเจลออกจากตู้เย็นมาประคบให้ที่หน้าผาก
          “อูย เบาๆหน่อยเด้ .เจ็บน้า “  พีระนันท์ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆทำให้นภกานต์แอบอมยิ้มไม่ได้ .ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาเนี้ย .ไม่ได้เข้ากับรูปลักษณ์ภาพนอกเลยจริงๆ ..แต่นะ ก็น่ารักดี ..
        “ โทษๆ  ว่าแต่ไปทำอะไรอยู่หลังประตูนั่นล่ะ ”  พีระนันท์ยักไหล่  จะบอกได้ยังไงล่ะ ว่าโดนคำสั่งให้มาเคลียร์น่ะ .เสียฟอร์มหมด .อยากรู้จริงๆหมอนี่ .จะขอโทษเธอตามที่ยัยคิมบอกมั้ยน้า .
       
          ”เปล่าสักหน่อย แล้วนายน่ะทำไมเปิดประตูไม่ดูหา!!  “ พีระนันท์รวน  นภกานต์มองหน้าแม่ตัวดี .อย่างหมั่นไส้   
          ”อ้าว ก็จะไปเห็นได้ไงล่ะ ประตูไม้นะไม่ใช่ประตูกระจก .แล้วปกติมีใครเขาไปทำอะไรลับๆล่อๆอยู่หลังประตูเสียที่ไหนล่ะ ก็เลยไม่ทันได้ระวัง “  เมื่อเห็นพีระนันท์ตาชักจะวาวขึ้นมาแบบว่าจะเอาเรื่อง  นภกานต์ก็รีบชิงเปลี่ยนเรื่องทันที “ ว่าแต่ เพื่อนน่ะ .เป็นไงมั่ง” 
พีระนันท์เลิกคิ้วขึ้น
          “ยัยกตน่ะเหรอ .โห้ย! หายห่วง  ถึกจะตายแม่คนนั้นน่ะ  ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นายเถอะ  เป็นไงมั่ง “ พีระนันท์เหมือนจะลืมความขุ่นเคืองเมื่อกี้ไปเสียสนิท  เมื่อมองไปเห็นที่หน้าของนภกานต์ที่ตอนนี้แปะพลาสเตอร์ยาหลายแห่ง  ก่อนที่เจ้าตัวจะคลายยิ้ม แบบที่ปกติไม่เคยจะได้เห็นเลย  “ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่เพื่อนเธอนี่ใช้ได้เลยนะ .แรงเยอะพอๆกับพวกผู้ชายเลยนะนั่น “  พีระนันท์อมยิ้ม..เมื่อพูดถึงแม่เพื่อนซี้ “นั่นแหละ บุคลิกของเขาแหละ ยัยกตน่ะมือเท้าหนักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ป่าเถื่อน  เสียงก็ดัง  ปากก็ หือ..จัดอย่างกะอะไร “ 
          “เหรอ .ดูสนิทกันดีนะ “  นภกานต์ชวนคุยต่อ เขาไม่อยากจะให้บรรยากาศแบบนี้หายไป  อยากหยุดมันไว้อย่างนี้เลยด้วยซ้ำ .เห็นแก่ตัวจริงๆเลยน้าเรานี่ .  “ก็ นะ นานมากแล้วล่ะ ตั้งแต่ประถมปลายได้ “  คำพูดของพี่แอ้มเมื่อกี้ค่อยๆไหลเวียนเข้ามาในความคิด ..
          “เอ่อ นันท์..เรื่องงานน่ะ..ฉันขอโทษนะ “  นภกานต์เอ่ยเสียงเบาพีระนันท์เบิกตาโต  ขณะที่นภกานต์เบนสายตามองไปทางอื่น 
          “หืม..นายว่าไงนะ ฉันไม่ทันได้ฟังน่ะ “
          “เอ่อ ..ขอโทษ เรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน .ไม่ได้ตั้งใจ “  พีระนันท์แอบอมยิ้มเงียบๆ  เมื่อแอบเห็นอีกฝ่ายเสยผมอย่างเก้อๆ  น้ำเสียง  สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความเก้อเขิน น่ารัก อิอิ .อย่างนี้ต้องแกล้ง
   
          “นี่ นายงึมงำๆอะไรอ่ะ พูดดังๆหน่อยเด้ ไม่ได้ยินอ่า “  นภกานต์เม้มปากอย่างขัดใจ  นี่แค่ขอโทษ .ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้ ..แล้วดูแม่เข้าประคุณทำเข้าสิ กอดอกเอียงคอมองหน้าแบบ ‘ชักฉุนแล้วนะ จะพูดอะไรก็ว่ามาเด้’  เป็นน้องเป็นนุ่งหน่อยไม่ได้ ..จะตีให้!!
   
              “ฉันขอโทษ!! ที่ทำงานของเธอเสียเมื่ออาทิตย์ก่อน  ฉันไม่ได้ตั้งใจ !! “
              นภกานต์ตะโกนออกมา  แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง  พีระนันท์ยิ้มออกมา ..แต่แกล้งเก๊กหน้าขรึมใส่และเอ่ยเสียงเรียบ
   
          “ นายคิดว่า ขอโทษแล้วมันทำให้อะไรๆดีขึ้นหรือไง  ขอโทษแล้วงานฉันกลับมาดีเหมือนเดิม..หรือก็เปล่า “  นภกานต์หันหน้ากลับมาทันที .ซวยแล้วดิ่ .โอ้ย .  พีระนันท์แอบยิ้มในใจเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูกังวลและเครียดฉายออกมาชัด  แล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเย็นชา  ทำเอานภกานต์ใจหล่นวูบ 
            “ เพราะฉะนั้น นายต้องแลกเปลี่ยน “  นภกานต์มองอย่างไม่เข้าใจ  “หลังจากนี้  เราจะต้องเป็นเพื่อนกัน .นายจะต้องไม่แกล้งฉัน ไม่ทำอย่างที่ผ่านมา ..แล้วฉันจะยกโทษให้ “  พีระนันท์หันมายิ้มให้เขา ...ในความรู้สึกเขาตอนนี้ .มันเหมือนได้รับการเติมในช่องที่โหวงๆเมื่อสักครูจนเต็ม .จนเหมือนจะล้นทะลักออกมา เขาต้องยอมรับขึ้นมาแล้วล่ะ .ว่าเรื่องแบบนี้ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาแบบสุดๆ!!
            พีระนันท์ยืนพิงประตูด้วยท่าทีสบายๆ “ว่าไง จะรับข้อเสนอมั้ย ? “  นภกานต์ตีหน้าขรึมบ้าง “ ไม่  อย่างนี้มันเสียเปรียบนี่  เธอต้องรับข้อเสนอด้วย “ พีระนันท์เอียงคออย่างสงสัย อะไรของหมอนี่ ตามไม่ทันอ่า
          “ ข้อเสนอของฉันก็คือ .เธอจะต้องกลับมาเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม .แล้วฉันจะรับข้อเสนอของเธอ พีระนันท์”  นัยน์ตาสีน้ำตาลดำเปล่งประกายขึ้นมา  ทำให้พีระนันท์อดยิ้มไม่ได้ .. รู้สึกดีจัง .การที่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดเนี้ย  รู้งี้เชื่อแม่ 2 สาวนั่นไปตั้งนานแล้ว    เสียงโทรศัพท์ของพีระนันท์ขัดจังหวะขึ้นมา  แต่เสียงที่กรอกมาตามสายก็เรียกรอยแดงๆบนใบหน้าเธอได้ไม่ยากเลย
   
“ นี่ .เลิกจู๋จี๋ กันสักทีสิ .เพื่อนเค้ารอกลับบ้านกันจะแย่อยู่แล้วนะ .ว้ายๆๆ หน้าแดงเลย ฮิฮิ “  เสียงมรกตมีแววล้อเลียนอย่างสุดๆ พีระนันท์มองหาเพื่อนรอบๆอย่างพาล 
”แหม .หาใหญ่เลย .เนี้ยมีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่างเยอะเลยอ่ะ เกือบทั้งชมรมเลยล่ะมั่งนี่ .โฮะๆๆๆ “  มรกตหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์  พีระนันท์กัดฟันกรอด
“แกอยู่ไหนไอ้เพื่อนตัวดี  ออกมาเดี๋ยวนี้นะ “ 
“ได้เลยจ้า  มองดีๆน้า  วู้วๆๆ เห็นมั้ยเอ่ย “  พีระนันท์มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นคนเกือบทั้งชมรมค่อยๆโผล่ออกมาจากที่ซ้อนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยกันหมด  ทำเอาทั้ง 2 คนหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  มรกตโบกมือให้อย่างล้อเลียน แล้วยิ้มให้  พีระนันท์ชี้หน้านัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความโมโหแต่ไอ้รอยแดงๆนี่สิ ที่มันจำลังค้านว่าจริงๆแล้วน่ะ เจ้าตัวเขามีอารมณ์ยังไงกันแน่
                เย็นนั้น 3 สาวกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน  ถึงมรกตจะได้แผลตามตัวเต็มไปหมดแต่กับคู่กรณีซึ่งตอนนี้แอบคาดการณ์ในใจเองว่า อาจจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นเพื่อนเขย  ก็ปรองดองกันดีไม่มีที่ติ  ส่วนคิมหันต์เองก็มีความสุข  เพราะเธอเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เพื่อนๆได้ยิ้มกันแก้มปริบแบบนี้  ส่วนพีระนันท์เองนั่งหน้าขรึมเพราะโดนเพื่อนหักหลังซะมันไป ..แย่ .. แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามีเรื่องที่แย่กว่านั้น  ตรงที่ยังไม่รู้ว่า งานนี้มีตากล้องด้วย!!!  มรกตกับคิมหันต์แอบยิ้มอยู่ในใจแล้วส่งสายตาให้กัน  ขืนมันรู้มีหวังป่าช้าแตกแหง่มๆ  เก็บไว้เล่นดีก่า เหอๆ    (ช่างเป็นเพื่อนที่ชั่วร้ายอะไรอย่างนี้เนี้ย )
                “เออ. ว่าแต่กตคุยอะไรเหรอ .. “  คิมหันต์เกริ่นนำเรื่องขึ้นมา . แต่ยาก .ที่จะจับแม่ปลาไหลอย่างมรกตได้โดยง่าย  มรกตตีหน้าเฉย  แต่ในใจกลับหงุดหงิดที่ได้ยินชื่อนี้  น่าโมโห ..น่าโมโหที่สุด .น่าหงุดหงิด .มันน่า ..
              “ก็ไม่มีไรนี่ .เถียงกันนิดหน่อย “  คิมหันต์เลื่อนตัวขึ้นมานั่งตรงกลางระหว่างเบาะคนขับกับคนนั่งข้าง  แล้วเอามือสะกิดที่ไหล่เพื่อนเบาๆ 
            “มีอะไรก็บอกนะ . ไม่สบายใจอะไรก็อย่าลืมว่ายังมีพวกเราอยู่ .. “
            “พูดตามตรงนะ .เราน่ะไม่ถูกชะตากับหมอนั่นเลย ให้ตายดิ่ .เห็นมันแล้วรู้สึกขวางหูขวางตายีงไงพิกล  “  พีระนันท์ ว่า  คิมหันต์เอียงคอมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
              “  คิมว่าเขาก็ดูดีนะ .อุตส่าห์มาช่วยห้ามกตด้วยงันนี้  ไม่แน่นะถ้าเขาไม่มาห้าม อะไรๆอาจจะเลวร้ายกว่านี้ก็ได้ “  มรกตมองเพื่อนผ่านกระจกมองหลัง แล้วถอนหายใจ
            “ รูปลักษณ์ภายนอกไม่สามารถระบุสัณดานที่อยู่ข้างในได้หรอกนะคิม  ภายนอกหรือท่าทีที่แสดงออกน่ะ มันสามารถปรุงแต่งให้เป็นยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ  เพราะฉะนั้นอย่าสรุปว่าคนๆนั้นดีไม่ดีเพียงแค่ภายนอก ขนาดคบกันมานานหลายๆเดือนบางทีเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่เรารู้จักเลยซักนิดเดียว  จำคำเราไว้เลยนะ  แล้วเธอน่ะยิ่งเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆน่ารัก น่าหลอกอยู่ด้วย    “ 
            บรรยากาศเงียบลงทันที นานเพื่อนๆจะเห็นมรกตเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงและท่าทีนิ่งๆ  แบบนี้  ทั้งพีระนันท์และคิมหันต์รู้ทันทีว่าเพื่อนต้องไปเจออะไรมาแน่ๆ  และต้องเป็นเรื่องที่หนักพอตัวเลยด้วยและที่แน่ๆ ต้องไม่พ้นเรื่องของหมอนั่น .นายรวิกร .  พีระนันท์คิดอย่างขวางๆ  ต้องมีอะไรแน่ๆเลย .อย่างนี้ต้องแอบแวบไปหาข้อมูลเสียหน่อย .
            ทันทีที่ถึงบ้านมรกตก็ปฏิบัติกิจวัตรยามเย็นของเธออย่างปกติ  อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ‘คุณครู ‘ ตามที่เธอและเพื่อนๆจะแอบเรียกแม่ของตัวเองเวลาลับหลังไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด  ช่างสบายใจอะไรอย่างนี้  มรกตรดน้ำต้นไม้อย่างสบายอารมณ์    เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นทำให้เธอต้องหยุดงานที่ทำตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปรับด้วยน้ำเสียงปกติ
“สวัสดีค่ะ “
“กต นี่ซันนะ “  ท่าทีเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินเลย ในตอนนี้
“มีธุระอะไร “  เขารู้สึกได้ถึงความเย็นชาและห่างเหินส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์ 
“ ก็ . “
“ ไม่มีอะไรสำคัญใช่มั้ย? .พอดีมีเรื่องต้องไปทำน่ะช่วยรีบพูดหน่อยได้มั้ย “
“ เราโทรเข้ามือถือหลายครั้งแล้วเห็นไม่รับก็เลยโทรเข้าบ้านน่ะ  “
“ก็ขับรถอยู่  เห็นแล้วล่ะ มีเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย  สวัสดี “ มรกตว่างสายลงทันที  ราวกับว่าถ้าเธอว่างช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววินาที
   
          เธอจะต้องใจอ่อนยอมฟังแน่ๆ คำแก้ตัวนั่น .คำแก้ตัว .และเสียง ที่เธอไม่อยากฟัง .พอสักที ..   
.
            ทางด้านพีระนันท์ที่โดนคิมหันต์ลากออกมาก็โดนจับโยนเข้าไปในห้องพักของนักกีฬาที่นภกานต์ทำแผลอยู่  แล้วขู่กรรโชกผิดกับรูปลักษณ์ที่แสนน่ารัก  เสียงที่กดต่ำอย่างเอาจริง
“ ไปคุยกับคุณกานต์เขาให้เคลียร์ซะ . ไม่อย่างนั้น เราจะออกโรงเองนะ !! “
            เป็นที่รู้กันว่า  ถ้าคิมหันต์ออกโรงเองนั้นน่ากลัวกว่ามรกต 100 เท่า  ทำให้เธอทำตามอย่างเสียไม่ได้เช่นเดียวกับที่นภกานต์กำลังโดนพี่แอ้มขู่อย่างจริงจัง
              “ ไปขอโทษ  หรือจะทำอะไรก็ไป  ที่ทำให้ชมรมกลับมาอยู่ในสภาพปกติ  สภาพก่อนหน้านี่น่ะ .ข้าขอล่ะตอนนี้แต่ละคนในชมรมกำลังจะแย่เพราะเอ็งแล้วรู้มั้ย ..ข้ารู้ว่าเอ็งมีเรื่องไม่สบายจะ..และจะให้ทาย  ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของนันท์ใช่มั้ยล่ะ ? “  นภกานต์เงยหน้าขึ้นมองอย่างทึ้งจัด
                “เออ .ข้ารู้ว่ะ .ไม่ต้องมองแบบนั้น  ก็บอกแล้วไง  แค่ไปขอโทษน่ะ  มันไม่ได้ทำให้เอ็งเสียผู้เสียคนสักหน่อย  แถมวันนี้เอ็งยังไปฟัดกับเพื่อนเขามาแบบนี้อีก  ไปพูดๆเถอะมันจะได้สบายใจ  “  นภกานต์ก้มหน้านิ่ง  พี่แอ้มตบไหล่อย่างให้กำลังใจ  “มันไม่ยากหรอกแค่ไม่กี่คำเอง  ข้าเชื่อว่าเอ็งทำได้ “
        พีระนันท์เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น  เข้าไปแล้วจะให้พูดอะไรเล่า ยัยคิมนะยัยคิม  ฉันไม่มีอะไรจะพูดสักหน่อย  แง่ง!!  ถ้าออกไปมีหวังโดนยัยคิมงับหูหลุดแน่ๆ  โอ้ย!!  อยากบ้าตาย  โว้ย!!
                                    พลั้ก ~!!!!!
        ประตูประแทกหน้าพีระนันท์เข้าอย่างจัง    “อูย..เจ็บจัง”  พีระนันท์เอามือลูบหน้าผากด้วยความเจ็บแสนสาหัส
        “เป็นอะไรมากมั้ย  นันท์ “ น้ำเสียงทุ้มที่เคยยียวนบัดนี้กับเต็มไปด้วยความร้อนรน  มือใหญ่ๆจับต้นแขนดึงเธอขึ้นจากพื้น  “ ไหนเอามือออกหน่อยสิ โอ้ย..แดงเลยอ่า มานี่ “  นภกานต์ลากพีระนันท์ที่ยังคงเอามือกุมหน้าผากตัวเอง เข้าไปในห้องพักนักกีฬาแล้วกดไหล่ให้เธอนั่งลง  แล้วหันไปคว้าถุงเจลออกจากตู้เย็นมาประคบให้ที่หน้าผาก
          “อูย เบาๆหน่อยเด้ .เจ็บน้า “  พีระนันท์ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆทำให้นภกานต์แอบอมยิ้มไม่ได้ .ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาเนี้ย .ไม่ได้เข้ากับรูปลักษณ์ภาพนอกเลยจริงๆ ..แต่นะ ก็น่ารักดี ..
        “ โทษๆ  ว่าแต่ไปทำอะไรอยู่หลังประตูนั่นล่ะ ”  พีระนันท์ยักไหล่  จะบอกได้ยังไงล่ะ ว่าโดนคำสั่งให้มาเคลียร์น่ะ .เสียฟอร์มหมด .อยากรู้จริงๆหมอนี่ .จะขอโทษเธอตามที่ยัยคิมบอกมั้ยน้า .
       
          ”เปล่าสักหน่อย แล้วนายน่ะทำไมเปิดประตูไม่ดูหา!!  “ พีระนันท์รวน  นภกานต์มองหน้าแม่ตัวดี .อย่างหมั่นไส้   
          ”อ้าว ก็จะไปเห็นได้ไงล่ะ ประตูไม้นะไม่ใช่ประตูกระจก .แล้วปกติมีใครเขาไปทำอะไรลับๆล่อๆอยู่หลังประตูเสียที่ไหนล่ะ ก็เลยไม่ทันได้ระวัง “  เมื่อเห็นพีระนันท์ตาชักจะวาวขึ้นมาแบบว่าจะเอาเรื่อง  นภกานต์ก็รีบชิงเปลี่ยนเรื่องทันที “ ว่าแต่ เพื่อนน่ะ .เป็นไงมั่ง” 
พีระนันท์เลิกคิ้วขึ้น
          “ยัยกตน่ะเหรอ .โห้ย! หายห่วง  ถึกจะตายแม่คนนั้นน่ะ  ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นายเถอะ  เป็นไงมั่ง “ พีระนันท์เหมือนจะลืมความขุ่นเคืองเมื่อกี้ไปเสียสนิท  เมื่อมองไปเห็นที่หน้าของนภกานต์ที่ตอนนี้แปะพลาสเตอร์ยาหลายแห่ง  ก่อนที่เจ้าตัวจะคลายยิ้ม แบบที่ปกติไม่เคยจะได้เห็นเลย  “ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่เพื่อนเธอนี่ใช้ได้เลยนะ .แรงเยอะพอๆกับพวกผู้ชายเลยนะนั่น “  พีระนันท์อมยิ้ม..เมื่อพูดถึงแม่เพื่อนซี้ “นั่นแหละ บุคลิกของเขาแหละ ยัยกตน่ะมือเท้าหนักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ป่าเถื่อน  เสียงก็ดัง  ปากก็ หือ..จัดอย่างกะอะไร “ 
          “เหรอ .ดูสนิทกันดีนะ “  นภกานต์ชวนคุยต่อ เขาไม่อยากจะให้บรรยากาศแบบนี้หายไป  อยากหยุดมันไว้อย่างนี้เลยด้วยซ้ำ .เห็นแก่ตัวจริงๆเลยน้าเรานี่ .  “ก็ นะ นานมากแล้วล่ะ ตั้งแต่ประถมปลายได้ “  คำพูดของพี่แอ้มเมื่อกี้ค่อยๆไหลเวียนเข้ามาในความคิด ..
          “เอ่อ นันท์..เรื่องงานน่ะ..ฉันขอโทษนะ “  นภกานต์เอ่ยเสียงเบาพีระนันท์เบิกตาโต  ขณะที่นภกานต์เบนสายตามองไปทางอื่น 
          “หืม..นายว่าไงนะ ฉันไม่ทันได้ฟังน่ะ “
          “เอ่อ ..ขอโทษ เรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน .ไม่ได้ตั้งใจ “  พีระนันท์แอบอมยิ้มเงียบๆ  เมื่อแอบเห็นอีกฝ่ายเสยผมอย่างเก้อๆ  น้ำเสียง  สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความเก้อเขิน น่ารัก อิอิ .อย่างนี้ต้องแกล้ง
   
          “นี่ นายงึมงำๆอะไรอ่ะ พูดดังๆหน่อยเด้ ไม่ได้ยินอ่า “  นภกานต์เม้มปากอย่างขัดใจ  นี่แค่ขอโทษ .ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้ ..แล้วดูแม่เข้าประคุณทำเข้าสิ กอดอกเอียงคอมองหน้าแบบ ‘ชักฉุนแล้วนะ จะพูดอะไรก็ว่ามาเด้’  เป็นน้องเป็นนุ่งหน่อยไม่ได้ ..จะตีให้!!
   
              “ฉันขอโทษ!! ที่ทำงานของเธอเสียเมื่ออาทิตย์ก่อน  ฉันไม่ได้ตั้งใจ !! “
              นภกานต์ตะโกนออกมา  แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง  พีระนันท์ยิ้มออกมา ..แต่แกล้งเก๊กหน้าขรึมใส่และเอ่ยเสียงเรียบ
   
          “ นายคิดว่า ขอโทษแล้วมันทำให้อะไรๆดีขึ้นหรือไง  ขอโทษแล้วงานฉันกลับมาดีเหมือนเดิม..หรือก็เปล่า “  นภกานต์หันหน้ากลับมาทันที .ซวยแล้วดิ่ .โอ้ย .  พีระนันท์แอบยิ้มในใจเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูกังวลและเครียดฉายออกมาชัด  แล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเย็นชา  ทำเอานภกานต์ใจหล่นวูบ 
            “ เพราะฉะนั้น นายต้องแลกเปลี่ยน “  นภกานต์มองอย่างไม่เข้าใจ  “หลังจากนี้  เราจะต้องเป็นเพื่อนกัน .นายจะต้องไม่แกล้งฉัน ไม่ทำอย่างที่ผ่านมา ..แล้วฉันจะยกโทษให้ “  พีระนันท์หันมายิ้มให้เขา ...ในความรู้สึกเขาตอนนี้ .มันเหมือนได้รับการเติมในช่องที่โหวงๆเมื่อสักครูจนเต็ม .จนเหมือนจะล้นทะลักออกมา เขาต้องยอมรับขึ้นมาแล้วล่ะ .ว่าเรื่องแบบนี้ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาแบบสุดๆ!!
            พีระนันท์ยืนพิงประตูด้วยท่าทีสบายๆ “ว่าไง จะรับข้อเสนอมั้ย ? “  นภกานต์ตีหน้าขรึมบ้าง “ ไม่  อย่างนี้มันเสียเปรียบนี่  เธอต้องรับข้อเสนอด้วย “ พีระนันท์เอียงคออย่างสงสัย อะไรของหมอนี่ ตามไม่ทันอ่า
          “ ข้อเสนอของฉันก็คือ .เธอจะต้องกลับมาเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม .แล้วฉันจะรับข้อเสนอของเธอ พีระนันท์”  นัยน์ตาสีน้ำตาลดำเปล่งประกายขึ้นมา  ทำให้พีระนันท์อดยิ้มไม่ได้ .. รู้สึกดีจัง .การที่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดเนี้ย  รู้งี้เชื่อแม่ 2 สาวนั่นไปตั้งนานแล้ว    เสียงโทรศัพท์ของพีระนันท์ขัดจังหวะขึ้นมา  แต่เสียงที่กรอกมาตามสายก็เรียกรอยแดงๆบนใบหน้าเธอได้ไม่ยากเลย
   
“ นี่ .เลิกจู๋จี๋ กันสักทีสิ .เพื่อนเค้ารอกลับบ้านกันจะแย่อยู่แล้วนะ .ว้ายๆๆ หน้าแดงเลย ฮิฮิ “  เสียงมรกตมีแววล้อเลียนอย่างสุดๆ พีระนันท์มองหาเพื่อนรอบๆอย่างพาล 
”แหม .หาใหญ่เลย .เนี้ยมีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่างเยอะเลยอ่ะ เกือบทั้งชมรมเลยล่ะมั่งนี่ .โฮะๆๆๆ “  มรกตหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์  พีระนันท์กัดฟันกรอด
“แกอยู่ไหนไอ้เพื่อนตัวดี  ออกมาเดี๋ยวนี้นะ “ 
“ได้เลยจ้า  มองดีๆน้า  วู้วๆๆ เห็นมั้ยเอ่ย “  พีระนันท์มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นคนเกือบทั้งชมรมค่อยๆโผล่ออกมาจากที่ซ้อนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยกันหมด  ทำเอาทั้ง 2 คนหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  มรกตโบกมือให้อย่างล้อเลียน แล้วยิ้มให้  พีระนันท์ชี้หน้านัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความโมโหแต่ไอ้รอยแดงๆนี่สิ ที่มันจำลังค้านว่าจริงๆแล้วน่ะ เจ้าตัวเขามีอารมณ์ยังไงกันแน่
                เย็นนั้น 3 สาวกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน  ถึงมรกตจะได้แผลตามตัวเต็มไปหมดแต่กับคู่กรณีซึ่งตอนนี้แอบคาดการณ์ในใจเองว่า อาจจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นเพื่อนเขย  ก็ปรองดองกันดีไม่มีที่ติ  ส่วนคิมหันต์เองก็มีความสุข  เพราะเธอเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เพื่อนๆได้ยิ้มกันแก้มปริบแบบนี้  ส่วนพีระนันท์เองนั่งหน้าขรึมเพราะโดนเพื่อนหักหลังซะมันไป ..แย่ .. แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามีเรื่องที่แย่กว่านั้น  ตรงที่ยังไม่รู้ว่า งานนี้มีตากล้องด้วย!!!  มรกตกับคิมหันต์แอบยิ้มอยู่ในใจแล้วส่งสายตาให้กัน  ขืนมันรู้มีหวังป่าช้าแตกแหง่มๆ  เก็บไว้เล่นดีก่า เหอๆ    (ช่างเป็นเพื่อนที่ชั่วร้ายอะไรอย่างนี้เนี้ย )
                “เออ. ว่าแต่กตคุยอะไรเหรอ .. “  คิมหันต์เกริ่นนำเรื่องขึ้นมา . แต่ยาก .ที่จะจับแม่ปลาไหลอย่างมรกตได้โดยง่าย  มรกตตีหน้าเฉย  แต่ในใจกลับหงุดหงิดที่ได้ยินชื่อนี้  น่าโมโห ..น่าโมโหที่สุด .น่าหงุดหงิด .มันน่า ..
              “ก็ไม่มีไรนี่ .เถียงกันนิดหน่อย “  คิมหันต์เลื่อนตัวขึ้นมานั่งตรงกลางระหว่างเบาะคนขับกับคนนั่งข้าง  แล้วเอามือสะกิดที่ไหล่เพื่อนเบาๆ 
            “มีอะไรก็บอกนะ . ไม่สบายใจอะไรก็อย่าลืมว่ายังมีพวกเราอยู่ .. “
            “พูดตามตรงนะ .เราน่ะไม่ถูกชะตากับหมอนั่นเลย ให้ตายดิ่ .เห็นมันแล้วรู้สึกขวางหูขวางตายีงไงพิกล  “  พีระนันท์ ว่า  คิมหันต์เอียงคอมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
              “  คิมว่าเขาก็ดูดีนะ .อุตส่าห์มาช่วยห้ามกตด้วยงันนี้  ไม่แน่นะถ้าเขาไม่มาห้าม อะไรๆอาจจะเลวร้ายกว่านี้ก็ได้ “  มรกตมองเพื่อนผ่านกระจกมองหลัง แล้วถอนหายใจ
            “ รูปลักษณ์ภายนอกไม่สามารถระบุสัณดานที่อยู่ข้างในได้หรอกนะคิม  ภายนอกหรือท่าทีที่แสดงออกน่ะ มันสามารถปรุงแต่งให้เป็นยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ  เพราะฉะนั้นอย่าสรุปว่าคนๆนั้นดีไม่ดีเพียงแค่ภายนอก ขนาดคบกันมานานหลายๆเดือนบางทีเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่เรารู้จักเลยซักนิดเดียว  จำคำเราไว้เลยนะ  แล้วเธอน่ะยิ่งเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆน่ารัก น่าหลอกอยู่ด้วย    “ 
            บรรยากาศเงียบลงทันที นานเพื่อนๆจะเห็นมรกตเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงและท่าทีนิ่งๆ  แบบนี้  ทั้งพีระนันท์และคิมหันต์รู้ทันทีว่าเพื่อนต้องไปเจออะไรมาแน่ๆ  และต้องเป็นเรื่องที่หนักพอตัวเลยด้วยและที่แน่ๆ ต้องไม่พ้นเรื่องของหมอนั่น .นายรวิกร .  พีระนันท์คิดอย่างขวางๆ  ต้องมีอะไรแน่ๆเลย .อย่างนี้ต้องแอบแวบไปหาข้อมูลเสียหน่อย .
            ทันทีที่ถึงบ้านมรกตก็ปฏิบัติกิจวัตรยามเย็นของเธออย่างปกติ  อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ‘คุณครู ‘ ตามที่เธอและเพื่อนๆจะแอบเรียกแม่ของตัวเองเวลาลับหลังไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด  ช่างสบายใจอะไรอย่างนี้  มรกตรดน้ำต้นไม้อย่างสบายอารมณ์    เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นทำให้เธอต้องหยุดงานที่ทำตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปรับด้วยน้ำเสียงปกติ
“สวัสดีค่ะ “
“กต นี่ซันนะ “  ท่าทีเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินเลย ในตอนนี้
“มีธุระอะไร “  เขารู้สึกได้ถึงความเย็นชาและห่างเหินส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์ 
“ ก็ . “
“ ไม่มีอะไรสำคัญใช่มั้ย? .พอดีมีเรื่องต้องไปทำน่ะช่วยรีบพูดหน่อยได้มั้ย “
“ เราโทรเข้ามือถือหลายครั้งแล้วเห็นไม่รับก็เลยโทรเข้าบ้านน่ะ  “
“ก็ขับรถอยู่  เห็นแล้วล่ะ มีเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย  สวัสดี “ มรกตว่างสายลงทันที  ราวกับว่าถ้าเธอว่างช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววินาที
   
          เธอจะต้องใจอ่อนยอมฟังแน่ๆ คำแก้ตัวนั่น .คำแก้ตัว .และเสียง ที่เธอไม่อยากฟัง .พอสักที ..   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น