ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนื้อเพลง Anime

    ลำดับตอนที่ #507 : .hack//Roots ed1: Boukoku Kakusei Catharsis (การลืมตาตื่นของประเทศที่ล่มสลาย)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 55


    .hack//Roots: Boukoku Kakusei Catharsis <Ruined Country's Awakening, Catharsis>

     

    Description: 1st Ending
    by Ali Project

     

    嘆キノ壁ハ 積ミ上ゲラレテ
    愚カノ神ハ 奉ラレル

    生きるは毒杯 杞憂の苦しみを
    飲み干す術を誰が授けよう
    太陽に棲むと云う賢者の鷲
    羽搏(はばた)きだけが谺する

    この双つの眸()に宿った
    闇と光 その何方(どっち)
    僕は未来(あした)
    見つめるべきなのだろう

    渇き切った瓦礫の街
    点と線を繋ぎ合わせ
    意味など無い事ばかり
    溢れてゆく

    炎のごとき孤独 
    抱く体 鎮めては
    暗渠へと滴ってく雫

    掲げる毒杯 この生は満ちても
    焦がれる死の夢は流れ着く
    砦に喰い込む爪 孤高の鷲
    羽搏(はばた)きだけが舞い上がる

    あの蒼穹に磔刑(たっけい)にしてくれたまえ
    天と地が結ぶ場所に僕は立つ

    花実のような記憶たちは
    焼かれ爛(ただ)れ抜け殻だけ
    あの日の魂は
    どこへ行ったのだろう

    冷たい膚(はだ) 寄せて触れて
    胸の傷と傷を合わせ
    再び辿るべき地図
    ここに刻む

    世界は見えぬ翼
    その黒影(かげ)に隠された
    純白の一羽(ひとはね) 射止めよ

    生きるは祝杯 口移しの快楽(けらく)
    乾く嗤いも息も絶え絶えに

    まぐわいあう慰みの掌に
    虚しさだけが膨らんで

    ああ玉砕と美しく散りゆくならば
    恍惚の先にまだ君が居る

    嘆キノ壁ハ 突キ崩サレテ
    愚カノ民ハ 鏖(ミナゴロ)サレル

    生きるは毒杯 愛する悲しみを
    飲み干す術を誰が授けよう
    月下に眠ると云う静かの鷲
    啼き声だけが舞い降りて

    掲げる祝杯 わが生は満ちても
    果敢(はか)ない死の遊戯は果てもなく
    砦に喰い込む爪 孤高の鷲
    羽搏きだけが舞い上がる

    あの蒼穹に磔刑にしてくれたまえ
    罪と罰を生む時代(とき)を僕は見

     

    ************************************************

     

    Nageki no kabe wa tsumi agerarete
    Oroka no kami wa tatematsurareru

    Ikiru wa dokuhai kiyuu no kurushimi wo
    Nomihosu sube wo dare ga sazuke you
    Taiyou ni sumu to iu kenja no washi
    Habataki dake ga kodama suru

    Kono futatsu no me ni yadotta
    Yami to hikari sono doochi de
    Boku wa ashi ta wo
    Mitsumeru beki na no darou

    Kawaki kitta gareki no machi
    Ten to sen wo tsunagi awase
    Imi nado nai koto bakari
    Afurete yuku

    Honoo no gotoki kodoku
    Daku karada shizume te wa
    Ankyo he to shi tatatteku shizuku

    Kakageru dokuhai kono sei wa michite mo
    Kogareru shino yume wa nagare tsuku
    Tori de ni kuikomu tsume kokou no washi
    Habataki dake ga mai agaru

    Ano soukyuu ni takkei ni shi te kure tamae
    Ten to chi ga musubu basho ni boku wa tatsu

    Kajitsu no you na kioku tachi wa
    Yakare tadare nuke kara dake
    Ano hi no tamashii wa
    Doko he itta no darou

    Tsumetai hada yosete furete
    Mune no kizu to kizu wo awase
    Futatabi tadoru beki chizu
    Koko ni kizamu

    Sekai wa mienu tsubasa
    Sono kage ni kakusareta
    Junpaku no hitohane itome yo

    Ikiru wa shukuhai kuchiutsushi no keraku
    Kawaku warai mo iki mo taedae ni
    Maguwai au nagusami no te no hira ni
    Munashi sa dake ga fukurande

    Aa gyokusai to utsukushiku chiri yuku naraba
    Koukotsu no saki ni mada kimi ga iru

    Nageki no kabe wa tsuki kuzusarete
    Oroka no kami wa minagoro sareru

    Ikiru wa dokuhai aisuru kanashimi wo
    Nomihosu sube wo dare ga sazuke you
    Gekka ni nemuru to iu shizuka no washi
    Naki goe dakega mai orite

    Kakageru shukuhai waga sei wa michite mo
    Haka nai shi no yuugi wa hate mo naku
    Toride ni kuikomu tsume kokou no washi
    Hanebataki dake ga mai agaru

    Ano soukyuu ni takkei ni shi te kure tamae
    Tsumi to batsu wo umu toki wo boku wa miru

     

    ************************************************

     

    กำแพงแห่งความเศร้าได้ถูกทับถมก่อขึ้น

    เทพขลาดเขลาได้ถูกส่งมอบให้

     

    การมีชีวิตอยู่ก็คือแก้วที่บรรจุเหล้าพิษไว้เต็มเปี่ยม

    ใครจะมาช่วยสอนให้รู้ถึงวิธีที่จะกลืนกินความทรมานอันไร้เหตุผลให้หมดสิ้นกัน

    เหยี่ยวปราดเปรื่องที่อาศัยอยู่ ณ ดวงตะวัน

    มีเพียงเสียงกระพือปีกเท่านั้นที่สะท้อนก้องมาให้ได้ยิน

     

    ความมืดและแสงสว่างที่สถิตอยู่

    ในดวงตาทั้งสองนั้น อยู่ ณ แห่งหนใด

    ฉันควรจะค้นหา

    อนาคตหรือไรกัน

     

    เมืองแห่งกรวดทรายอันแห้งเหือด

    นำจุดและเส้นมาร้อยต่อประสาน

    มีแต่เรื่องที่ไร้ความหมาย

    ที่ล้นเปี่ยมอยู่เต็มไปหมด

     

    สิ่งที่ปลอบประโลม

    ร่างกายที่โอบกอดความโดดเดี่ยวไว้เช่นดั่งเปลวเพลิง

    คือหยาดหยดที่รินไหลสู่ทางน้ำใต้ผืนดิน

     

    ยกแก้วบรรจุเหล้าพิษขึ้น แม้ชีวิตนี้จะพรั่งพร้อม

    หากภาพฝันของความตายที่หลงใหลก็ยังไหลเรื่อยมาถึง

    กรงเล็บกลืนหายไปในป้อมปราการ เหยี่ยวผู้ปลีกวิเวกลำพัง

    เพียงกระพือปีกเท่านั้นก็จักทะยานขึ้น

     

    จงตรึงกางเขนฉันสิ ท่ามกลางฟากฟ้าสีครามนั้น

    ฉันจะยืนอยู่ ณ ตรงสถานที่ร้อยต่อระหว่างฟากฟ้าและผืนดิน

     

    เหล่าความทรงจำที่ผลิยอดออกดอกเช่นดั่งดอกผลของพฤกษา

    ถูกแผดเผาจนพุพอง หลงเหลือเพียงคราบร่างเท่านั้น

    ดวงวิญญาในวันวานนั้น

    ตอนนี้ไปอยู่ ณ หนใดแล้วหนอ

     

    ซบอิงแนบสัมผัสผิวหนังอันเยียบเย็น

    ประสานรอยแผลในอกกับรอยแผล

    แผนที่ที่หวนย้อนมาอีกครั้ง

    มีสลักอยู่ ณ ตรงนี้

     

    โลกคือปีกที่มองไม่เห็น

    ที่ถูกปิดซ่อนไว้ภายใต้เงามืด

    จงยิงสังหารส่วนเสี้ยวปีกขาวพิสุทธิ์นั้นสิ

     

    การมีชีวิตนั้นคือการดื่มฉลอง ความสุขสันต์ที่เล่ากันปากต่อปาก

    ทั้งเสียงหัวเราะอันฝืดเฝื่อน ทั้งลมหายใจ ขาดตอนไม่ต่อเนื่อง

    ภายในฝ่ามือที่ปลอบประโลมซึ่งประสานกันอยู่นั้น

    มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นที่อัดแน่น

     

    อา หากยอมตายโดยไม่ยอมพ่ายแพ้แล้วร่วงโรยอย่างงดงาม

    ณ ปลายทางความยินดีนั้นยังมีเธออยู่

     

    กำแพงแห่งความเศร้าถูกทำลายแหลกสลายลง

    มวลชนผู้ขลาดเขลาได้ถูกทำลายล้างสิ้น

     

    การมีชีวิตก็คือแก้วที่บรรจุเหล้าพิษไว้เต็มเปี่ยม

    ใครจะมาช่วยสอนให้รู้ถึงวิธีที่จะกลืนกินความเสียใจอันแสนรัก

    เหยี่ยวอันสงบเงียบที่หลับใหลใต้ดวงจันทรา

    มีเพียงเสียงร้องเท่านั้นที่ลอยลงมาให้ได้ยิน

     

    ยกแก้วขึ้นดื่มฉลอง แม้ชีวิตของข้าจะพรั่งพร้อม

    การละเล่นแห่งความตายอันไร้แก่นสารก็ยังคงไม่มีจะสิ้นสุด

    กรงเล็บกลืนหายไปในป้อมปราการ เหยี่ยวผู้ปลีกวิเวกลำพัง

    เพียงกระพือปีกเท่านั้นก็ทะยานขึ้น

     

    จงตรึงกางเขนฉันสิ ท่ามกลางฟากฟ้าสีครามนั้น

    ฉันจะคอยมองช่วงเวลาที่บาปและการลงทัณฑ์จะบังเกิด

     

    ************************************************

    Download:

    http://www.mediafire.com/?7vaj9diw81byd66

     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×