คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #216 : Konjiki no Gash Bell (กั๊ช): Idea
Konjiki no Gash
Description: 4th Ending Song
by Eri Kitamura
空を裂いて光が落ちてく
凍りついた海底から
顔を上げて
呼吸する
取り乱すことなら簡単だった捌け口さえあれば
空はなぜ高くあるかを あなたは教えてくれる
バラバラになった糸を束ねて
わたしの礎を描く
小さな拳をかまえて 明日を睨んだ
Stand Out
尖っていく 粗く削り込んだ心のまま
Hang On
巡り会えるやわらかな笑顔を 舞い降りる光を
この手で掴むために
祈り続けるのは誰でも出来る 停まる屋根があれば
鈍く畝る雲を裂けて
来ない「瞬間」を待てばいい
ポケットの中 詰めた過去より
変わりゆく今を愛そう
日記の文字眺めてても 明日は見えない
Stand Out
大地を踏む 高鳴るステップを聞いていたい
Hang On
擦り切れてく萎びた靴底に 乱れてく吐息に
心を染めるように
誰かの胸を汚すことない
凛と佇む光を射そう
低く留まる影の隙間を泳いで
Stand Out
尖っていく 粗く削り込んだ心のまま
Hang On
大地を踏む 高鳴るステップに耳を澄ましてく
Stand Out
止めてごらん 走り去る稲妻よりも速く
Hang On
わたしは行く
萎びた靴底に 乱れてく吐息に
心を染めるために
************************************************
sora wo saite hikari ga ochiteku
koori tsuita kaitei kara
kao wo agete
kokyuu suru
tori midasu koto nara kantan datta hakeguchi sae areba
sora wa naze takaku aru ka wo anata wa oshiete kureru
bara bara ni natta ito wo tabanete
watashi no ishizue wo egaku
chiisa na kobushi wo kamaete asu wo niranda
Stand Out
togatte iku araku kezuri konda kokoro no mama
Hang On
meguri aeru yawaraka na egao wo mai oriru hikari wo
kono te de tsukamu tame ni
inori tsuzukeru no wa
dare demo dekiru tomaru yane ga areba
nibuku uneru kumo wo sakete
konai toki wo mateba ii
poketto no naka tsumeta kako yori
kawari yuku ima wo ai sou
nikki no moji nagamete temo asu wa mienai
Stand Out
daichi wo fumu takanaru suteppu wo kiite itai
Hang On
suri kireteku shinabita kutsuzoko ni midareteku toiki ni
kokoro wo someru you ni
dareka no mune wo kegasu koto nai
rin to tatazumu hikari wo sasou
hikuku tomaru kage no sukima wo oyoide
Stand Out
togatte iku araku kezuri konda kokoro no mama
Hang On
daichi wo fumu takanaru suteppu ni mimi wo sumashi ta
Stand Out
tomete goran hashiri saru inazuma yori mo hayaku
Hang On
watashi wa iku
shinabita kutsuzoko ni midareteku toiki ni
kokoro wo someru tame ni
************************************************
แสงสว่างที่ตัดผ่าฟากฟ้าได้ร่วงหล่นลงมา
จากก้นบึ้งท้องทะเลที่จับแข็ง
ฉันได้แหงนหน้าเฝ้ามองมัน
แล้วมีลมหายใจต่อไป
แค่เพียงอยู่ในละแวกร้านค้า จิตใจของฉันมันก็สับสนได้อย่างง่ายดาย
เธอได้สอนให้ฉันรู้ว่าเหตุใดฟ้ากว้างจึงได้อยู่สูงนัก
ฉันได้มัดเส้นด้ายที่ยุ่งเหยิงเข้าไว้ด้วยกัน
สร้างฐานของตนเองไว้
กำหมัดเล็กๆ แล้วจ้องมองไปยังอนาคตข้างหน้านั้น
Stand Out (ก้าวไปสิ)
ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจนมีรอยแหลมคม
Hang On (จับไว้ให้มั่น)
เพื่อที่มือนี้จะได้สามารถยึดเหนี่ยวรอยยิ้มอันอ่อนโยนที่พานพบเจอไว้
เพื่อที่มือนี้จะได้สามารถยึดแสงสว่างที่ร่วงหล่นลงได้
แค่เพียงการอธิษฐานเรื่อยไปไม่ว่าใครก็ทำได้ แค่เพียงมีหลังคาให้หลบพักพิง
หากเธอจะเฝ้ารอเวลาที่ไม่มีวันจะแหวกเมฆหมอกอันบิดเบี้ยวเล็กแคบเข้ามาถึง
เรื่อยไปก็ตามแต่ใจของเธอ
จงรักในยามนี้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ให้มากกว่าอดีตที่ยัดอยู่แต่ในกระเป๋าเสีย
เพราะแม้เธอจะเฝ้ามองบันทึกของวันที่ผันผ่านต่อไป ก็มิอาจจะมองเห็นวันพรุ่งได้
Stand Out (ก้าวไปสิ)
ย่างเหยียบไปบนธรณีกว้าง อยากยินเสียงจังหวะกู่ร้องกึกก้อง
Hang On (จับไว้ให้มั่น)
เพื่อย้อมพื้นรองเท้าที่สึกหรอเปื่อยยุ่ยด้วยหัวใจนี้
เพื่อย้อมลมหายใจอันสับสนด้วยหัวใจที่มี
ฉันจะทำให้แสงเยียบเย็นที่หยุดรั้งรอได้สาดส่องลง
โดยมิทำให้หัวใจผู้ใดต้องแปดเปื้้อน
จงเวียนว่ายไปบนช่องว่างของเงามืดที่อยู่ภายใต้ก้นบึ้งเถิด
Stand Out (ก้าวไปสิ)
ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจนมีรอยแหลมคม
Hang On (จับไว้ให้มั่น)
ย่างเหยียบไปบนธรณีกว้าง จงตั้งใจเงี่ยหูฟังเสียงจังหวะกู่ร้องกึกก้อง
Stand Out (ก้าวไปสิ)
ลองหยุดให้ได้สิ ความเร็วของเราที่มากกว่าแสงที่วิ่งไป
Hang On (จับไว้ให้มั่น)
ฉันจะมุ่งไป
เพื่อย้อมพื้นรองเท้าที่สึกหรอเปื่อยยุ่ยด้วยหัวใจนี้
เพื่อย้อมลมหายใจอันสับสนด้วยหัวใจที่มี
************************************************
Download:
http://www.mediafire.com/?ml8rwbm2bby3j6y
ความคิดเห็น