คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2: Valentines Day with Hibari & Reborn & Ryouhei
Chapter 2: Valentine’s Day with Hibari & Reborn & Ryouhei
หลังจากแยกมาจากพวกยามาโมโตะแล้วสึนะก็มุ่งหน้าไปยังที่ที่คิดว่าจะได้เจอผู้ที่เป็นเป้าหมายรายถัดมา นั่นก็คือ ฮิบาริ เคียวยะ รุ่นพี่ผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการรักษาระเบียบผู้รักโรงเรียนยิ่งชีวิตที่คงคาดเดาได้ไม่ยากว่าคงหนีไม่พ้นอยู่ที่โรงเรียนมัธยมนามิโมริเป็นแน่
ทั้งๆที่คิดเช่นนั้นแท้ๆ แต่ไม่ว่าจะในห้องรับแขก ตามห้องเรียน โรงอาหาร หรือที่สวนหลังโรงเรียนก็ดูจะไม่มีวี่แววของเจ้าของเรือนผมสีนิลคนนั้นเลยสักนิด ที่ดูจะเหลืออยู่ที่สุดท้ายก็เหลือเพียงแค่ที่ดาดฟ้าตึกเรียนเท่านั้นที่ยังไม่ได้ไปดู
‘
แอ๊ด
’
เสี้ยวหน้าหวานแอบลอบมองผ่านช่องประตูที่ถูกแง้มอย่างเงียบๆเพราะเมื่อคิดได้ว่าอาจจะต้องเจอรุ่นพี่คนนั้นแล้ว ความห่วยของตัวเองก็ตะโกนลั่นว่า ‘รีบหนีเถอะ! ไม่งั้นนายตายแน่ เจ้าห่วยเอ๊ย!’ อย่างน้อยๆขอเวลาทำใจสักเดียวนึงก็ยังดี
“
อ้าว?”
หากเมื่อได้เห็นว่าเบื้องหลังบานประตูที่แง้มออกนั้นกลับมีเพียงแค่ชายหนุ่มเจ้าของทรงรีเจ้นท์นามคุซาคาเบะยืนอยู่เท่านั้นแล้วสึนะก็ไม่อาจบอกได้ว่าตนเองรู้สึกเช่นไรกันแน่
อาจจะ
โล่งใจ
หรือว่า
ผิดหวัง
?
หากสิ่งที่ปรากฏให้เห็นชัดอยู่บนใบหน้าของคุซาคาเบะกลับเป็นความตกตื่นยามได้เห็นว่ามีคนเปิดประตูดาดฟ้าเข้ามา ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาล็อคคอเจ้าของดวงตากลมโตแล้วลากออกมาจากหน้าประตูดาดฟ้าให้รีบกลับเข้าไปในตัวตึกอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบเหตุผลให้ฟังอย่างพยายามที่จะให้เบาที่สุด
“โทษทีนะครับคุณซาวาดะ
ผมว่าตอนนี้คุณอย่าเพิ่งขึ้นมาดาดฟ้าดีกว่า หัวหน้ากำลังพักผ่อนอยู่และไม่อยากให้ใครมารบกวนน่ะครับ ไม่งั้นล่ะก็
”
ไม่ต้องให้คุซาคาเบะพูดต่อสึนะก็พอจะนึกถึงผลที่ได้รับจากการไปรบกวนการนอนของคุณพี่ท่านฮิบาริได้ดีจากประสบการณ์ที่ได้รับครั้งที่เคยอยู่ร่วมห้องเดียวกันกับพี่ท่านตอนเข้าโรงพยาบาลเมื่อครั้งกระนู้น
“เอ่อ
ถ้าหากว่ามีธุระอะไรล่ะก็ ฝากผมเอาไว้ก่อนดีกว่าไหมครับคุณซาวาดะ?”
เมื่อเห็นเด็กชายที่ยืนหน้าซีดเมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าวคุซาคาเบะจึงเสนอทางเลือกให้สึนะได้ปลีกตัวไม่ต้องพบหน้าคนโมโหร้ายบางคน หากเด็กชายกลับจ้องหน้าเขานิ่งอยู่เพียงสักพักราวชั่งใจอยู่หรือครุ่นคิดก่อนจะแย้มยิ้มบางๆออกมาแล้วส่ายศีรษะเบาๆพลางตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมรอคุณฮิบาริตื่นเองดีกว่า ผมไม่รีบน่ะครับ”
เมื่อเป็นเช่นนั้นคุซาคาเบะจึงเลือกปลีกตัวไปเพื่อจัดการงานของคณะกรรมการต่อแทนเพราะมีคนมาคอยเฝ้าความสงบสุขในการนอนของหัวหน้าตัวเองแทนแล้ว ส่วนเด็กชายที่โดนปล่อยทิ้งไว้กับพ่อราชสีห์ขี้เซาก็พยายามปีนขึ้นไปอย่างเงียบกริบสู่หลังคาของบันไดขึ้นสู่ดาดฟ้าที่เจ้าของเรือนผมสีนิลหลับใหลอยู่
‘
มิน่าล่ะ เมื่อกี้ถึงมองไม่เห็น เล่นปีนมานอนบนนี้นี่เอง’
เมื่อปีนขึ้นบันไดเหล็กที่พาดขึ้นมาพ้นแล้วเด็กชายก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่นอนหลับอยู่โดยมีนกสีเหลืองตัวน้อยนอนอิงอยู่เคียงกัน หากเจ้านกที่ว่าก็กระพริบตาตื่นทันทีที่เขาปีนขึ้นมาถึง ก่อนจะกางปีกบินมาทางเขาพร้อมอ้าปากจะเรียกเด็กชายว่า ‘สัตว์กินพืช สัตว์กินพืช’ ดั่งเช่นปกติ ทว่าก็ต้องหุบปากลงทันทีอย่างแสนรู้เมื่อเห็นเด็กชายยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก พร้อมกับส่งเสียง ‘จุ๊ๆ’ เบาๆเพื่อปรามมัน
...ตุบ...
เมื่อร่างบางได้ค่อยๆนั่งลงอย่างเบาเสียงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วจึงพึ่งค่อยได้พิจารณาใบหน้าคมคายที่ยังคงหลับใหลอยู่อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ทั้งหัวคิ้วที่ปกติมักจะขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิดตลอดเวลา ทั้งดวงตาคู่คมที่ยามนี้ถูกปิดซ่อนไว้เบื้องหลังเปลือกตา ทั้งจมูกโด่งรั้น และริมฝีปากเรียวบางที่มักใช้เรียกเขาว่า ‘เจ้าสัตว์กินพืช’ อยู่เสมอกลับดูน่าพิศนักเมื่อยามเวลาที่เจ้าของหลับใหลอยู่เช่นนี้
กว่าร่างเล็กจะได้รู้สึกตัวด้วยน้ำหนักของเจ้านกน้อยสีเหลืองที่บินลงพักปีกบนศีรษะตัวเองเข้า สึนะจึงเพิ่งได้พบว่าตัวเองได้เผลอยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าหล่อเหลานั้นโดยไม่ทันรู้ตัวไปเสียแล้ว หากเมื่อตกใจในสิ่งที่ตัวเองทำไปและคิดจะรีบชักมือกลับเพียงเท่านั้นก็กลับถูกมือของผู้ที่หลับใหลอยู่จนถึงเมื่อครู่จับข้อมือไว้แน่น ก่อนจะถูกแรงดึงให้ต้องลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับที่ร่างสูงได้ยกตัวขึ้นคร่อมทันทีที่ลืมตาตื่น!
“
แกคิดจะทำอะไรเจ้าสัตว์กินพืช?”
เสียงขุ่นมัวอย่างคนที่เพิ่งโดนขัดนิทรารมณ์กับท่อนเหล็กสีดำมะเมื่่อมที่ถูกพาดอยู่ที่คอ
เพียงพอเหลือเกินที่จะทำให้คนใจเล็กเท่าเม็ดถั่วทำได้แค่หลับตาปี๋พร้อมยกสองมือขึ้นกันไว้ราวจะปกป้องตัวเองไว้ได้
“
ฮิบาริ ฮิบาริ ดอกไม้ ดอกไม้
”
เสียงห้ามทัพกลับดังมาจากเจ้าตัวจ้อยสีเหลืองที่บินวนเวียนอยู่เหนือทั้งคู่ขึ่นไป เรียกให้ชายหนุ่มหันไปมองตามฮิเบิร์ดที่ร่อนลงข้างช่อดอกไม้ที่ถูกวางลงกับพื้นตอนที่สึนะนั่งรอฮิบาริตื่นเมื่อครู่ ท่อนเหล็กเยียบเย็นจึงค่อยถูกดึงออกจากลำคอระหงให้เจ้าของได้โล่งใจและพอที่จะลุกขึ้นมานั่งไอค่อกแค่กเสียงดังได้
“
ตกลงแกมีธุระอะไร?”
เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยอีกครั้งเรียกอาการสะดุ้งจากคนที่ยังไม่หยุดไอดีนักให้รีบลุกขึ้นและรีบวิ่งไปหยิบบรรดาช่อดอกไม้ที่ถูกวางทิ้งไว้ขึ้นมาแล้ววิ่งกลับมาส่งให้ชายหนุ่มหนึ่งช่อพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มทั้งๆที่หน้ายังแดงอยู่จากอากาศขาดอากาศหายใจเมื่อครู่ว่า
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ คุณฮิบาริ”
“
ไร้สาระ”
ก๊อง!!
‘
ฮะฮะฮะ ว่าแล้วว่าต้องพูดว่างึ้
’
สึนะอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้นพร้อมกับท่าทางผิดหวังที่ปิดไม่มิดที่เผยให้เห็นได้ชัดจากอาการคอตก และแววตาที่มองไปยังช่อดอกไม้ที่ยังคงอยู่ในมือที่เคยยื่นค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะห้อยตกอยู่ข้างตัวเมื่อโดนปฏิเสธมา
“
แต่เอาเถอะ
ฉันจะรับไว้ละกัน”
เมื่อกล่าวเช่นนั้นจบฮิบาริก็คว้าเอาช่อดอกไม้ที่ยังคงอยู่ในมือสึนะไปแล้วเดินหันหลังให้ ก่อนจะกระโดดลงจากหลังคาบันไดดาดฟ้าไปโดยไม่คิดพึ่งพาบันไดเหล็กที่พาดอยู่สักนิดจนคนที่มองตามหลังร่างสูงด้วยอาการตกตะลึงเมื่อครู่ต้องถลาไปมองที่ริมขอบหลังคาด้วยความเป็นห่วงหากก็ได้เห็นเพียงแค่ชายเสื้อคลุมสีดำที่พลิ้วไหวผ่านหลังประตูดาดฟ้าไปเสียแล้ว
ร่างเล็กทำได้เพียงถอนใจกับภาพและเหตุการณ์ที่เห็น หากก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มบางแล้วพึมพำเบาๆให้เพียงตัวเองเท่านั้นที่ได้ยินว่า
‘
ขอบคุณครับคุณฮิบาริ’
..
..
ปัง!
“กลับมาแล้วหรือครับหัวหน้
หัวหน้าเกิดอะไรขึ้นครับ!?”
ยามเมื่อฮิบาริเดินผ่านประตูห้องประชุมคณะกรรมการเข้ามา คุซาคาเบะและบรรดาเหล่าลูกน้องทั้งหมดก็ได้เงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามอง หากทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของฮิบาริแล้วทั้งหมดต่างก็ต้องรีบถามท่านหัวหน้าคณะกรรมการคุมกฎทันทีที่ได้เห็นว่าใบหน้านั้นแดงเท่าใด หากคำตอบที่ได้รับกลับเป็น
“พวกแกทั้งหมด ถ้าไม่อยากโดนขย้ำตาย จงลืมทั้งหมดที่เห็นซะ!!”
บรรดาเหล่าลูกน้องที่ดีทั้งหลายจึงได้แต่รูดซิปปากและกลับไปทำงานของตนต่อไปโดยพยายามไม่หันไปสบตากับท่านหัวหน้าที่หย่อนกายลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งจึงไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าคมคายที่ยกขึ้นเพียงชั่วครู่ยามเมื่อสบมองไปยังช่อดอกจัสมินและแดนดีไลออนช่อน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“หึ
เจ้าสัตว์กินพืช”
+++++++++++++++++++++++++++++++
“เอ
ต่อไปก็คุณพี่สินะ จะอยู่ที่ชมรมมวยหรือเปล่าน้า~?”
สึนะเดินไปตามระเบียงที่จะทอดพาไปยังชมรมมวยอันเป็นสถานที่ที่เป้าหมายถัดไปน่าจะสิงสถิตอยู่พลางพึมพำเบาๆกับตัวเอง หากระหว่างทางกลับได้พบกับกล่องของขวัญปริศนาที่วางทิ้งไว้ราวจะเชิญชวนให้เข้าไปเปิด
ไม่สิ อย่างนี้มันไม่ใช่ ‘ราวจะ’ หรอก แต่มันตั้งใจเชิญชวนเลยล่ะ ก็มันมีป้ายที่เขียนไว้ว่า [เปิดสิจ๊ะ] ติดอยู่นี่
หากลางสังหรณ์แปลกๆ ทำให้สึนะเลือกที่จะเดินเลี่ยงและแกล้งมองไม่เห็นกล่องที่ว่านั้นหน้าตาเฉย ทว่า
ฟี่บ!
พลั่ก!
“เอ๋ง!!”
เมื่อเดินพ้นไปได้ไม่กี่ก้าวกล่องที่ว่าก็เปิดออกอย่างเงียบกริบพร้อมกับที่อาจารย์ที่เคารพรักที่โผล่ออกมาจากกล่องนั้นกระโดดออกมาประเคนก้านคอเข้าให้เต็มรักจนร่างบางลงไปทรุด จึงได้ฤกษ์กล่าวทักทายว่า
“ยังอ่อนหัดนักนะสึนะ”
“ทำอะไรของนายเนี่ย รีบอร์น!!”
เมื่อหายจากอาการนับดาวร่างเล็กก็ลุกขึ้นมาโวยวายกับท่านอาจารย์ที่เคารพรัก หากสิ่งที่ได้ยินต่อมาก็ทำให้สึนะเลิกใส่ใจกับการทักทายด้วยวิธีโหดๆของรีบอร์นในทันที
“เจ้าพวกนั้นมาแล้วนะ
”
“จริงเหรอ!?”
“ตอนนี้กำลังโวยวายใหญ่เลย ถ้าแกมีธุระอะไรก็รีบๆไปจัดการซะล่ัะ พวกนั้นยิ่งใจร้อน ไม่ชอบคอยนานๆอยู่”
“อื้อ!ถ้างั้นเดี๋ยวอีกแป๊บฉันจะรีบไปเลยนะ”
“เออ รีบๆเข้าล่ะ”
เมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้วสึนะจึงรีบจะวิ่งไปยังเป้าหมายเดิมต่อในขณะที่รีบอร์นก็กลับเข้ากล่องแล้วโผล่ขาออกมาจากข้างใต้กล่องแล้วเดินต้วมเตี้ยมไปในทิศตรงกันข้าม ทว่าสึนะก็คิดอะไรได้จึงหันหลังกลับมาเปิดกล่องรีบอร์นที่กำลังเดินต้วมเตี้ยมจากไปแล้วยื่นดอกไม้ให้ช่อหนึ่งพร้อมกล่าวว่า
“เอ้า
รีบอร์น นี
ฉันให้ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ”
และแล้วเมื่อสึนะวิ่งจากไปอย่่างเร่งรีบรีบอร์นที่ยืนมองตามก็อดไม่ได้ที่จะพูดเบาๆกับตัวเองว่า
“สึนะ ถึงแกจะยังอ่อนหัด แต่สกิลเคะแกนี่พุ่งกระฉูดเลยว่ะ”
+++++++++++++++++++++++++++++++
“โอ้ ซาวาดะ นี่ให้ฉันจริงๆเรอะ!”
“ครับ คุณพี่่ ตอบแทนที่ช่วยเหลือมาตลอดน่ะครับ”
“โอ้ววววววว~~!!ดีใจสุดหูรูดดดดด!!”
เรียวเฮลากสึนะเข้ามากอดหมับอย่างซาบซึ้งสุดขีดก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมชมรมที่จะขึ้นชกซ้อมกับเขาในยกต่อไปอย่างหมายมาดแล้วจึงหันกลับมากล่าวกับสึนะว่า
“ซาวาดะ นายอย่าเพิ่งรีบกลับนะ เดี๋ยวฉันจะให้นายได้เห็นความสนุกของมวยล่ะ!!”
‘
ได้โอกาสโชว์เทพแบบสุดหูรูดแล้วว้อยยยยยยย!!’
.
.
แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!
“โอ้ ซาวาดะ เป็นไงบ้าง มวยสนุกสุดหูรูดเลยใช่ไหม!?”
ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้นเมื่อเรียวเฮซัดคู่ซ้อมผู้โชคร้ายไปนอนนับดาวได้ รุ่นพี่ผู้หวังกระชากใจใครบางคนด้วยฝีมือเทพของตัวเองก็รีบหันหน้ากลับมาส่งยิ้มยิงฟันให้ทางที่สึนะเคยนั่งอยู่ หากก็ได้พบเพียงอากาศธาตุพร้อมกับเสียงรุ่นน้องในชมรมที่ตะโกนส่งเสียงมาว่า
“รุ่นพี่คร้าบบบ เจ้าห่วยมันบอกว่ามีธุระขอกลับไปก่อนนะคร้าบบบบ”
ก๊อง!!
สุดท้ายซาซางาวะ เรียวเฮก็ลงไปนั่งทรุดอยู่กลางเวทีพร้อมบรรยากาศมืดมนชวนให้รุ่นน้องและเพื่อนร่วมชมรมหลายๆคนที่รู้สาเหตุอดไม่ได้ที่จะเห็นใจ
อาเมน
+++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น