ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนื้อเพลง Anime

    ลำดับตอนที่ #181 : Vocaloid: Shiro no Musume (สตรีสีขาว)

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 54


    Vocaloid: Shiro no Musume <Daughter of White>

     

    Album / Collection: Hatsune Miku
    Sung by: Miku Hatsune
    Lyrics and composition by: mothy

     

     

    「生きていてごめんなさい」 いつのまにか口癖
    弱音ばかり吐いていた つまらぬだけの人生
    村の人たちは皆 きれいな緑の髪
    仲間外れの私 人と違う白い髪

    森の奥で密かに そびえ立つ千年樹
    私はここで一人 神に願いをかけた
    孤独に生き続けること それはとても寂しい
    だれでもいい私の 友達になって欲しい

    彼女と出会ったのは 千年樹
    のすぐそば
    倒れていた彼女を 助けたのが始まり
    いつのまにか二人は とても仲良くなった
    だけど私と彼女 何もかもが違った

    村の中の誰より きれいな緑の髪
    その優しい声と笑顔 誰からも愛された
    どうしてこんな私にも 優しくしてくれるの?
    自分より劣る女を 憐れんでるつもりなの?

    卑屈な私を抱きしめて
    彼女はささやいた
    「あなたは誰より素敵な人よ」
    涙がこぼれた

    たとえ世界の全ての人が
    私を蔑み笑っても
    必要としてくれる人がいる
    それだけで幸せだった

    二人で村を飛び出して 街で暮らし始めた
    不慣れな生活でも 一緒なら大丈夫
    裕福な商人の 婦人の使用人
    生きるために選んだ 私たちの仕事

    ある日屋敷で見かけた 青い髪の優男
    あいつと彼女の出会いが 全てを狂わせた
    海の向こうの国の王 彼は彼女を深く愛し
    隣の国の王女の 求婚を拒んだ

    国は戦火に包まれた
    王女が下した命令
    「緑の髪の女は全て
    殺してしまいなさい」


    みんなみんないなくなってしまった
    白い髪の私以外
    彼女の代わりに私が死ねばよかったのに
    どうして どうして

    「生きていてごめんなさい」 いつのまにか口癖
    弱音ばかりを吐いていた つまらぬだけの人生
    港町の教会 新たに暮らし始めた
    革命で王女が死んだと 風の噂で聞いた

    彼女と出会ったのは 教会のすぐそば
    倒れていた彼女を 助けたのが始まり
    いつのまにか二人は とても仲良くなった
    だけど私と彼女 何もかもが違った

    誰もいない夜の懺悔室
    偶然聞いてしまった彼女の告白
    ああ なんということでしょう
    彼女は正に
    -悪ノ娘-

    街はずれの小さな港
    一人たたずむあの娘
    背後から近づく私
    懐からナイフ
    取り出して王女の背中に向けて
    振り上げた

    あなたに謝らければいけないことがあるの
    私結局あなたの仇はとれなかった
    あの娘は昔の私 とてもとても孤独な人
    ひとりで生き続けること それはとても寂しい

    なにもできなかったあの娘
    少し料理がうまくなった
    今日のおやつのブリオッシュ
    とってもうまく焼けてる

    あの時あの海辺で
    一瞬見えた幻覚

    あの少年はいったい
    誰だったのかしら?

     

    ************************************************

     

    "Ikite ite gomennasai" itsu no ma ni ka kuchiguse

    Yowane bakari haite ita  tsumaranu dake no jinsei

    Mura no hitotachi wa mina  kirei na midori no kami

    Nakama hazure no watashi  hito to chigau shiroi kami

     

    Mori no oku de hisoka ni  sobie tatsu sennenju

    Watashi wa koko de hitori  kami ni negai wo kaketa

    Kodoku ni iki tsuzukeru koto  sore wa totemo sabishii

    Dare demo ii watashi no  tomodachi ni natte hoshii

     

    Kanojo to deatta no wa  sennenju

    No sugu soba

    Taorete ita kanojo wo  tasuketa no ga hajimari

    Itsu no ma ni ka futari wa  totemo nakayokunatta

    Dakedo watashi to kanojo  nani mo ka mo ga chigatta

     

    Mura no naka no dare yori  kirei na midori no kami

    Sono yasashii koe to egao  dare kara mo ai sareta

    Doushi te konna watashi ni mo  yasashiku shi te kureru no?

    Jibun yori otoru onna wo  owarenderu tsumori na no?

     

    Hikutsu na watashi wo dakishimete

    Kanojo wa sasayaita

    "Anata wa dare yori suteki na hito yo"

    Namida ga koboreta

     

    Tatoe sekai no subete no hito ga

    Watashi wo sagesumi waratte mo

    Hitsuyou to shi te kureru hito ga iru

    Sore dake de shiawase datta

     

    Futari de mura wo tobidashi te  machi de kurashi hajimeta

    Funare na seikatsu demo  issho nara daijoubu

    Yuufuku na shounin no  fujin no shiyounin

    Ikiru tame ni eranda  watashi tachi no shigoto

     

    Aru hi yashiki de mikaketa  aoi kami no yasa otoko

    Aitsu to kanojo no deai ga  subete wo kuruwaseta

    Umi no mukou no kuni no ou  kare wa kanojo wo fukaku aishi

    Tonari no kuni no oujo no  kyuukon wo kobanda

     

    Kuni wa senka ni tsutsumareta

    Oujo ga kudashi ta meirei

    "Midori no kami no onna wa subete

    Koroshi te shimai nasai"

     

    Minna minna inaku natte shimatta

    Shiroi kami no watashi igai

    Kanojo no kawari ni watashi ga shineba yokatta no ni

    Doushi te  doushi te

     

    "Ikite ite gomennasai"  Itsu no ma ni ka kuchiguse

    Yowane bakari wo haite ita  tsumaranu dake no jinsei

    Mina to machi no kyoukai  arata ni kurashi hajimeta

    Kakumei de oujo ga shinda to  kaze no uwasa de kiita

     

    Kanojo to deatta no wa  kyoukai no sugu soba

    Taorete ita kanojo wo tasuketa no ga hajimari

    Itsu no ma ni ka futari wa  totemo nakayokunatta

    Dakedo watashi to kanojo  nani mo ka mo ga chigatta

     

    Dare mo inai yoru no zange shi tsu

    Guuzen kiite shimatta kanojo no kokuhaku

    Aa  nanto iu koto deshou Kanojo wa masa ni

    -Aku no musume-

     

    Machi hazure no chiisana minato

    Hitori tatazumu ano ko

    Haigo kara chikazuku watashi

    Futokoro kara NAIFU

    Toridashi te oujo no senaka ni mukete

    Furiageta

     

    Anata ni ayamara kereba ikenai koto ga aru no

    Watashi kekkyoku anata no kataki wa torenakatta

    Ano ko wa mukashi no watashi  totemo totemo kodoku na hito

    Hitori de ikitsuzukeru koto  sore wa totemo sabishii

     

    Nani mo dekinakatta ano ko

    Sukoshi ryouri ga umakunatta

    Kyou no oyatsu no BURIOSSHU

    Totte mo umaku yaketeru

     

    Ano toki ano umibe de

    Isshun mieta genkaku

     

    Ano shounen wa ittai

    Dare datta no kashira?

     

    ************************************************

     

    ขอโทษค่ะที่มีชีวิตอยู่ ตั้งแต่เมื่อใดนะ ที่กลายมาเป็นคำติดปาก

    เป็นเพียงมนุษย์น่าเบื่อ ที่เอาแต่พึมพำด้วยเสียงแผ่วเบาเท่านั้น

    ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็มีเส้นผมสีเขียวสวยงาม

    มีเพียงตัวฉันที่แตกต่างจากใคร ด้วยเส้นผมสีขาวที่ผิดแผก

     

    ณ ต้นไม้ใหญ่พันปีที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเบื้องลึกของป่าอย่างไม่มีใครจะล่วงรู้

    ฉันได้เพียงวอนอธิษฐานกับพระเจ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง

    การต้องมีชีวิตต่อไปเพียงลำพัง มันช่างเหงาจับใจเหลือเกิน

    ฉันปรารถนา อยากได้ใครก็ได้ช่วยมาเป็นเพื่อนกับฉันที

     

    ฉันได้พบกับเธอคนนั้น

    ณ ข้างต้นไม้พันปีนั้น

    มันได้เริ่มขึ้นเมื่อฉันได้ช่วยเธอที่สลบล้มลงอยู่

    ตั้งแต่เมื่อใดกันนะ ที่เราสองคนเริ่มเข้ากันได้ดี

    ทว่าฉันกับเธอคนนั้น มีบางสิ่งที่ต่างกันอยู่

     

    เส้นผมสีเขียวที่งดงามกว่าใครอื่นในหมู่บ้าน

    เสียงนั้นที่ช่างอ่อนโยนและรอยยิ้ม ไม่ว่าใครต่างก็รักเธอ

    ทำไมกันนะจึงได้อ่อนโยนกับตัวฉันที่เป็นเช่นนี้

    หรือแค่เพียงเห็นใจผู้หญิงที่ด้อยค่ากว่าเธอกัน

     

    เธอคนนั้นได้โอบกอดตัวฉํนที่แสนจะไร้ค่าใดไว้

    แล้วกระซิบบอกกันอย่างแผ่วเบา

    เธอเป็นคนที่พิเศษกว่าใครยังไงล่ะ

    แค่นั้นน้ำตาก็รินไหล

     

    หากแม้ทุกคนบนโลก

    จะหัวเราะเหยาะหยันฉัน

    ขอแค่เพียงมีใครที่คิดว่าฉันนั้นสำคัญ

    ฉันก็เป็นสุขแล้ว

     

    เราสองคนได้ออกจากหมู่บ้าน แล้วเริ่มใช้ชีวิตในเมือง

    แม้จะเป็นชีวิตที่ไม่คุ้นเคย แต่ถ้าอยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไร

    เราได้เลือกที่จะมีชีวิตต่อไป

    เป็นคนรับใช้ของภรรยาพ่อค้าผู้มั่งคั่ง นั่นคืองานของพวกเรา

     

    สุภาพบุรุษผู้มีเรือนผมสีฟ้า ที่ได้พบเจอในคฤหาส์นในวันหนึ่ง

    การพบเจอของเขาและเธอคนนั้น ทำให้ทุกสิ่งผิดเพี้ยนไป

    ราชาแห่งประเทศโพ้นทะเล เขาได้หลงรักในตัวเธออย่างล้ำลึก

    จึงได้ปฏิเสธการอภิเษกกับเจ้าหญิงประเทศข้างเคียง

     

    ประเทศได้ถูกโอบล้อมด้วยไฟสงคราม

    ด้วยบัญชาที่เจ้าหญิงได้รับสั่ง

    จงสังหารหญิงสาวทั้งหมด

    ที่มีเส้นผมสีเขียวเสีย

     

    ทุกคน ทุกคน ต่างก็หายไปหมดสิ้นแล้ว

    นอกจากตัวฉันที่มีเส้นผมสีขาว

    ทั้งที่หากฉันตายแทนเธอคนนั้นได้ก็คงดี

    ทำไมนะ ทำไมกัน

     

    ขอโทษค่ะที่มีชีวิตอยู่ ตั้งแต่เมื่อใดนะ ที่กลายมาเป็นคำติดปาก

    เป็นเพียงมนุษย์น่าเบื่อ ที่เอาแต่พึมพำด้วยเสียงแผ่วเบาเท่านั้น

    ฉันได้เริ่มใช้ชีวิตใหม่ในโบสถ์ ณ เมืองท่าริมทะเล

    ได้รับรู้ข่าวลือที่แว่วมาตามสายลม ว่าเจ้าหญิงได้สิ้นพระชนม์แล้วในการปฏิวัติ

     

    ฉันได้พบกับเธอคนนั้น

    ณ ข้างโบสถ์

    มันได้เริ่มขึ้นเมื่อฉันได้ช่วยเธอที่สลบล้มลงอยู่

    ตั้งแต่เมื่อใดกันนะ ที่เราสองคนเริ่มเข้ากันได้ดี

    ทว่าฉันกับเธอคนนั้น มีบางสิ่งที่ต่างกันอยู่

     

    ในค่ำคืนที่ร้างไร้ผู้ใด ณ ภายในห้องสารภาพบาป

    คำสารภาพของเธอคนนั้นที่บังเอิญให้ได้ยิน

    อา นี่มันเรื่องอะไรกัน

    เธอนี่ช่างเป็น

    -- ธิดาปีศาจ -- โดยแท้จริง

     

    ณ ท่าเรือเล็กๆอันห่างไกลจากตัวเมือง

    เด็กคนนั้นที่ยืนนิ่งอยู่เพียงลำพัง

    กับตัวฉํนที่ค่อยเข้าใกล้เธอจากข้างหลัง

    มีดที่ซ่อนไว้อยู่ตรงหน้าอก

    ฉันได้ค่อยดึงมันออกมา หันเข้าหาเบื้องหลังของเจ้าหญิง

    แล้วยกเงื้อมันขึ้น

     

    ฉันมีเรื่องที่จะต้องขอโทษเธอ

    ในที่สุดฉันก็มิอาจล้างแค้นให้เธอได้

    เด็กคนนั้นช่างเหมือนกับตัวฉันในอดีต เป็นมนุษย์ที่แสนจะอ้างว้างโดดเดี่ยว

    การต้องมีชีวิตต่อไปเพียงลำพัง มันช่างเหงาจับใจเหลือเกิน

     

    เด็กคนนั้นที่เคยทำอะไรไม่เป็นเลย

    เริ่มทำอาหารได้อร่อยขึ้นมาบ้าง

    บริยอชที่เป็นของว่างในวันนี้

    เธอก็ทำออกมาได้ดีมาก

     

    ภาพมายาที่มองเห็นชั่วเสี้ยวหนึ่ง

    ในตอนนั้น ณ ริมทะเล

     

    เด็กหนุ่มคนนั้น

    คือใครกัน?

     

    ************************************************

    Download:

    http://www.mediafire.com/?6b63otwk3vxmabw


    ก็แค่ PV ที่อยากแปะไว้เฉยๆ ^^
    http://www.youtube.com/watch?v=hQAhGJadcro&feature=player_embedded
     
    อธิบายจิ๊ดนึง คนร้องเพลงนี้คือ Yowane Haku
    ซึ่งเป็นตัวละครที่แตกหน่อมาจากมิคุอีกที
    แต่จริงๆมันก็เป็นเสียงของมิคุแหละ
    เลยขอถือว่ามิคุเป็นคนร้องนะ

    ที่มา: http://www.animeza.com/bbs/viewthread.php?tid=548

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×