คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : น้องคิ้วท์ : หวงหรือห่วง REWRITE
บทที่ 4
หวงหรือห่วง REWRITE
“ตื่นนนๆๆๆ”
“ฮะ?.....อือ......”
ลู่หานพลิกตัวไปมาบนที่นอนก่อนจะจำได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น บางทีเซฮุนที่รีบออกไปหลังจากลู่หานหลับสนิทแล้วคงลืมข้อนี้ไปที่ว่าทุกๆ เช้าจะมีพี่ๆ มาบุกห้องลู่หานอยู่โดยไม่ซ้ำกัน และคราวนี้เป็นเทา
ลู่หานยังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ใช่ว่าเขาขี้เกียจเสียเมื่อไหร่ แต่เขาขยับไม่ได้ต่างหากล่ะ ขยับตัวไม่ได้เลย.......ก็นั่นมันครั้งแรกของเขานี่นา เมื่อคืนแค่พลิกตัวแต่ละทีก็เจ็บระบมไปทั้งตัวแล้ว ร่างเล็กนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนที่กระทบแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง ร่างกายเปลือยเปล่าที่เหลือทุกปิดไว้ด้วยผ้าห่ม
“......” เทาเริ่มอึกอัก ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อเห็นรอยแดงตามร่างกายลู่หานที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องและยังคงหลับปุ๋ยสบายใจ
ไอ้เจ้าน้องบ้า!!!!
มือหนาแตะไปตรงแผ่นหลังบางแล้วเขย่าเบาๆ เป็นเชิงให้ตื่น ลู่หานงัวเงียลืมตาขึ้นมาแล้วก็ร้องด้วยความเจ็บปวดทันทีที่จะลุกขึ้นนั่ง เทาเห็นดังนั้นจึงต้องจับน้องให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนจะพาไปใส่เสื้อผ้า
เทาที่เป็นอีกคนหนึ่งที่หวงน้องนักหวงน้องหนาก็อดไม่ได้ที่จะอารมณ์บูดมากๆ ไม่ได้ เขาค่อยๆ พยุงร่างบางออกมาแต่งตัวและเลือกสรรเสื้อผ้าที่มิดชิดที่สุดมาใส่ให้ ยอมรับเหมือนกันว่าตอนที่แต่งตัวไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองร่างกายส่วนต่างๆ บ้าง ผิวขาวๆ นั่นทำเอาเขาแอบใจสั่นอยู่ไม่น้อยเลยจริงๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมเซฮุนชอบได้คลั่งเด็กคนนี้นักหนา
“พี่ฮะ ผมเจ็บ” ลู่หานบอกเทาเสียงแหบ ในช่วงที่ต้องยกขาขึ้นแล้วใส่กางเกง เขาคิดว่าเทาคงรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วตอนนี้เรื่องอาจจะไปถึงหูทุกคนแล้วก็ได้ มือเล็กได้แต่ดึงชายเสื้อขึ้นมาปิดตรงคอขาวเนียนเอาไว้อย่างอายๆ
“....เอายาแก้ปวดมั้ย” เทาถามขึ้นท่ามกลางความเงียบที่ก่อตัวมาได้สักพักแล้ว ลู่หานก้มหน้างุด
“เอาครับ มันเจ็บมาก เหมือนกระดูกจะหัก” เทาพยักหน้าแค่นั้นก่อนจะพยุงลู่หานให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วออกไปจากห้อง หลังจากนั้นไม่เกินสิบนาทีเขาก็กลับเข้ามาพร้อมกับยาและแก้วน้ำกับถ้วยข้ามต้มในมือ “กินข้าวก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวค่อยกินยา”
เทาหยิบหมอนใบใหญ่ออกมาแล้วเอามาไว้ให้ลู่หานพิง ร่างเล็กร้องโอดโอยพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนน้ำตาคลอ ปากเล็กๆ แทบจะเบะออกมาทันทีตามความเคยชิน มันเจ็บมาก แต่ถ้าเทียบกับเมื่อคืนแล้วคงเจ็บน้อยกว่า แถมรอยเลือดตรงที่นอนก็ยังไม่ได้เช็ดออกด้วย
เอ้อ ลืมไป พี่เซฮุนเอาผ้ายางมารองไว้นี่
“เสี่ยวลู่ เจ็บมากมั้ยครับ” ลู่หานที่ยังตักข้าวเข้าปากได้ไม่กี่คำก็ถึงกับต้องชะงักเมื่อซูโฮเดินเข้ามา ให้ตายสิ นี่รู้กันหมดแล้วใช่มั้ย “พวกพี่ๆ ที่เหลือออกไปซื้ออาหารกับผลไม้มาให้เราน่ะ”
“....แล้วพี่เซฮุนล่ะ พี่เซฮุนอยู่ไหน” ร่างเล็กถามหาคนตัวโตที่ทำรักกับเขาเมื่อคืนนี้ ทั้งที่ตื่นมาตอนเช้าควรจะเห็นหน้าเขาเป็นคนแรกแท้ๆ “ออกไปซื้อด้วยเหรอ”
“อ๋อ ก็ไม่เชิงอะนะ”
“แล้วหมายความว่ายังไง แล้วพี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน” ลู่หานถามพี่ๆ ที่นั่งอยู่ปลายเตียง ความน้อยใจเริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจร่างเล็กทีละน้อย เขาไม่ได้อยากคิดว่าตัวเองโดนฟันแล้วทิ้งจากพี่ชายของตัวเอง เพราะตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเซฮุนก็มักจะแสดงท่าที่ว่าชอบเขาอยู่เสมอ ความรักที่เซฮุนมีให้ไม่น่าจะเป็นของปลอม “ไม่เชิงนี่หมายความว่ายังไงฮะ”
“....อ๋อ ก็คือแบบ....ก็น่าจะออกไปด้วยกันน่ะนะ พี่ไม่รู้อะพวกพี่ตื่นสายกัน น่าจะออกไปด้วยกันนั่นแหละ” ซูโฮตอบเออออไปชวนให้น้องชายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงสงสัย “ไม่มีอะไรมากหรอก อย่าคิดมากสิ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนี่นาจะตอบเราได้ยังไง เอาอย่างงี้ดีกว่า รีบกินข้าวกินยาแล้วนอนพักผ่อนเถอะ”
ลู่หานเหลือบตามองพี่ชายปลายเตียงเล็กน้อยก่อนจะหุบปากแล้วกลืนข้าวต้มลงไปพร้อมกับคำถามมากมายที่อยากจะถาม เขาไม่รู้จะซักไซร้อะไรต่อแล้วจากพวกพี่ๆ เพราะถึงอยากจะถามมากแค่ไหนสิ่งที่ซูโฮพูดออกมาก็ถูกอยู่ดี สิ่งที่เขาควรจะทำตอนนี้คือรีบกินข้าวแล้วกินยาเร็วๆ จะได้พักผ่อนเยอะๆ แต่ไม่วายในใจก็พะวงหน้าพะวงหลังว่าเซฮุนไปไหนอยู่ดี
ก็ทุกทีจะมาอยู่ด้วยกันนี่
“หลับไปแล้ว” เทาบอกซูโฮพร้อมกับปิดประตูห้องนอนน้องเล็กลงอย่างแผ่วเบา “คิดว่าเซฮุนจะกลับมากี่โมงกัน ไอ้เด็กบ้านั่นมันออกไปซื้อยาที่ไหนของมันวะ”
“เอาเถอะน่า กลับมากี่โมงก็ไม่สำคัญหรอก เรื่องสำคัญคือลู่หานต่างหาก คงจะเจ็บมากแน่ๆ” ซูโฮมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด พี่ๆ ต่างก็ได้ยินเรื่องนี้กันดี แน่นอนว่าเมื่อคืนอาจจะมีบ้างที่ไม่ได้นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น เสียงลู่หานก็ไม่ใช่ว่าจะเบาเลยแม้แต่น้อย พี่ๆ บางคนก็ต้องได้ยินเสียงนั้นแน่ๆ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงหายตัวไปกันแต่เช้า
“แล้วมันคิดจะกลับบ้านมากี่โมงกัน เห็นมั้ยว่าน้องเป็นห่วง แทนที่จะมาดูแล เรากลับต้องมาดูแลแทนเนี่ยนะ มันไม่ใช่ว่ะ” เทาบ่นตอนเดินลงไปข้างล่าง เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวนุ่มแรงๆ อย่างหงุดหงิด “โชคดีแค่ไหนที่ป๋ากับม๊าไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นเขาเอาพวกเราตายแน่ ไหนจะเรื่องน้องอีก เรื่องเยอะชะมัด”
“แต่ว่านะ เรื่องนี้มันก็ปิดไปได้ไม่นานหรอก ยังไงวันนึงป๋ากับม๊าก็ต้องรู้อยู่ดี แล้วนี่เซฮุนคิดจะทำยังไงกันแน่ ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่เลยแท้ๆ” ซูโฮออกความเห็นพร้อมกับทิ้งตัวลงข้างๆ น้องชาย “ดูปากพี่นะ มันไม่มีทางปิดมิดหรอก”
“เหม็นปาก แปรงฟันยั้งเนี่ย” เทาทำท่าปิดจมูกราวกับว่ามันเหม็นเต็มทนจนซูโฮเสียความมั่นใจ จากนั้นมือเล็กๆ ก็ลอยมาฟาดที่หลังเทาทันที “โอ๊ย! พี่ซูโฮ! ผมก็เจ็บเป็นนะ”
“ก็เพิ่งไปกินกิมจิมาด้วยกันแท้ๆ จะไม่ให้เหม็นได้ยังไงล่ะ” ซูโฮบ่นพลางเหลือบมองเทาที่หัวเราะจนตัวค้างตัวแข็ง “คราวหลังก็ไปชวนคนอื่นไปกินเหอะ น่ารำคาญ”
“ฮ่าๆๆ โอ๊ยเดี๋ยวสิพี่จุน! ไม่ให้ไปกับพี่ผมจะไปกับใครล่ะ อำนาจแบล็คการ์ดของพี่ทำให้ผมเสพติดพี่แล้วนะ” เทารีบเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กของคนที่ลุกขึ้นกำลังจะเดินหนีไปให้กลับมานั่งที่โซฟา แต่เพราะดึงแรงไปหรืออะไรก็ไม่ทราบทำให้ซูโฮมาตกอยู่บนตักแกร่งของน้องชายคนนี้เข้าจนได้ เทาก้มมองใบหน้าของพี่ชายจากมุมสูงก่อนที่จู่ๆ จะรู้สึกว่าอกของเขากำลังเต้นแรงอย่างร้ายกาจ “....อะ...เอ่อ...วุ้ย! จะมานั่งตักผมทำไมเนี่ย! ออกไปเลยนะนายแบล็คการ์ด!”
“โอ๊ย! แล้วแกจะลากพี่ให้มานั่งตักแกทำไม แกนั่นแหละลากชั้นมานั่งตักแก เด็กบ้า” ซูโฮที่ถูกผลักออกมาหลังจากนั่งได้ไม่ถึงครึ่งนาทีก็จัดการโวยใส่เทาทันที อะไรของเด็กคนนี้ เป็นคนลากเขาไปนั่งแท้ๆ แต่ก็ดันมาโวยวายซะเอง “แล้วจะก้มหน้าอีกนานมั้ย ไป ขึ้นไปดูน้อง”
“อะ...เออ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปน่า” เทาก้มหน้าก่อนจะโบกมือไล่ซูโฮให้เดินไปไกลๆ พี่ชายตัวเล็กมองมาที่น้องชายตัวโตอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี
เทาก้มหน้า เขาเอาหน้าซุกกับหมอนอยู่อย่างนั้นนานจนรู้สึกว่าตัวเองคงจะเป็นบ้าไปแล้ว
“โอ๊ย! ให้ตายเถอะ กว่าจะถึงบ้าน” เซฮุนบ่นมาตลอดทางกลับบ้านหลังจากที่เขาลงจากรถเมล์มาแล้ว มือหนาหิ้วถุงยามาให้น้องด้วยบวกกับของเล่นบนเตียงอีกนิดหน่อย เป็นเพราะเมื่อคืนเขารีบมากไปจึงไม่ได้ใส่เจลหล่อลื่น ลู่หานคงจะเจ็บแล้วก็แสบมากแน่ๆ มาคิดถึงเรื่องนี้เซฮุนก็รู้สึกผิดเข้าเต็มเปา ขายาวๆ รีบพาตัวเองวิ่งไปที่บ้านทันที
“แฮ่ก..แฮ่ก...กลับมาแล้ว” เซฮุนรีบถอดรองเท้าก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นสองไป พอเปิดประตูห้องลู่หานปุ๊บเขาก็พบว่าเจ้าตัวเล็กหลับไปแล้ว เซฮุนวางยาเอาไว้ข้างเตียงแล้วก็เดินออกไปถามพี่ๆ ข้างนอก “เฮ้ เทา เสี่ยวลู่ได้กินอะไรรึยัง”
“หะ...หา..? อะไรนะ”
“ถามว่าเสี่ยวลู่ได้กินข้าวกับยาอะไรไปรึยัง กินตอนกี่โมง” เซฮุนหัวเสียที่จู่ๆ เทาก็กลายเป็นคนเหม่อไปซะนี่
“เออ กินแล้ว กินแล้ว ไม่ถึงชั่วโมง กินยาแล้ว หลับแล้ว” พูดจบเทาก็เดินหนีไป ทิ้งให้เซฮุนยืนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว แต่ยืนงงไม่นานนักเซฮุนก็ปิดประตูแล้วเดินกลับไปเฝ้าน้องเหมือนเดิม
“เสี่ยวลู่ เจ็บมากมั้ย พี่ขอโทษนะ” เซฮุนพูดราวกับหวังจะให้ลู่หานได้ยิน แต่เพราะฤทธิ์ยาทำให้ลู่หานยังหลับ ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ ถึงแม้ปากจะบอกว่ารู้สึกผิดแต่สายตาก็ยังทำหน้าที่ลวนลามเหมือนเดิม วันนี้ซอกคอลู่หานแดงเล็กน้อยเพราะรอยรักที่ทำไว้เมื่อคืน แต่โชคดีที่เซฮุนไม่ได้ทำไว้เยอะมันจึงไม่ค่อยชัดมากเท่าไหร่ถ้าไม่สังเกตดีๆ
เซฮุนยิ้มพลางลูบเส้นผมนุ่มๆ ราวกับผมตุ๊กตาของลู่หาน ขนตางอนยาวราวกับเจ้าหญิงน้อยบวกกับจมูกโด่งรั้นทำให้ลู่หานดูเหมือนเจ้าชายน้อยที่ดูไร้พิษศงตามโลกแห่งความจริงที่เป็นอยู่ ริมฝีปากบางน่าจูบเผยอออกมาเล็กน้อย หน้าอกเล็กกระเพื่อมแสดงให้เห็นถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอ เซฮุนเอื้อมมือไปกุมมือเล็กเอาไว้อย่างทะนุถนอม จากนั้นก็วางลงแล้วโน้มตัวไปหอมแก้มเด็กน้อยเบาๆ
ถ้าลู่หานตื่น ป่านนี้เขาคงโวยวายและหน้าแดงแจ๊ดไปหมด แต่ในเมื่อตอนนี้ลู่หานไม่ตื่น เซฮุนก็ขอโอกาสให้มอร์นิ่งคิสกับเด็กคนนี้หน่อยเถอะ
“อุ๊ย จูบกันอยู่เหรอ เจ้าหญิงออโรร่าจะยังไม่ตื่นจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์หรอกนะ” เสียงแซวจากแบคฮยอนที่เดินเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ทำให้เซฮุนตกใจ เขารีบผละจากริมฝีปากนุ่มๆ ของลู่หานออกอย่างรวดเร็วก่อนจะทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อพี่ๆ ที่เหลือชะโงกหน้าเข้ามาดูอย่างสอดรู้สอดเห็น “อะแฮ่ม ฉันกะจะเอายามาให้น้องซะหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะได้ยาดีซะแล้วน่ะนะ”
“เออ ก็เอาวางไว้ชั้นล่างนั่นแหละ อ๊ะ ไม่ต้องๆ ไหนๆ ก็เอามาขึ้นมาแล้วก็เอามาไว้ในนี้เลย” เซฮุนเดินไปหยิบถุงยาจากพี่ๆ อย่างละน้อยก่อนจะปิดประตูใส่หน้า “ขอบคุณฮะ น้องนอนหลับแล้ว เทาเอายาให้กินแล้ว ข้าวกินแล้ว เดี๋ยวผมดูแลน้องเอง”
ปัง
“เฮ้ ไอ้เด็กนี่ปิดประตูใส่หน้าพี่ๆ ได้ยังไงกัน” ชานยอลโวย แต่พวกที่เหลือก็ไม่ได้อะไรมาก พวกเขากลับอยากเข้าห้องแล้วนอนต่อมากกว่า เพราะออกไปหาซื้อยากับของกินให้ลู่หานแต่เช้า พวกที่ไม่เคยจะตื่นเช้าขนาดนี้อย่างซิ่วหมินและเฉินต่างก็ง่วงกันเป็นธรรมดา
ยกเว้นคนหนึ่ง
“ไอ้เซฮุนมันอยู่ไหน โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตะโกนโหวกเหวกมาจากชั้นล่างที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร จงอินเดินขึ้นมาชั้นสองเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใครก่อนจะเดินไปหน้าห้องลู่หาน “เสีย่วลู่ เปิดประตูให้พี่เดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้เซฮุนมันอยู่ไหน มันอยู่ข้างไหนใช่มั้ย ออกมานะโว้ย” จงอินตะโกนเสียงดังจนพี่ๆ ต้องมาปรามให้หยุดก่อกวนเวลาพักผ่อน “ก็นอนไปสิวะ จะมายุ่งอะไร ทำไม จะเอาซักหมัดด้วยมั้ย?”
“โอ๊ย จะเสียงดังทำไมวะ มีอะไรอีไค” เซฮุนเปิดประตูมามองหน้าจงอินหน่ายๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบหมัดที่ซัดเข้ามาด้วยความเร็วแสงพร้อมกับเอามือกันหมัดนั้นเอาไว้ “เฮ้ ใจเย็นสิ มาต่อยกูทำไมเนี่ย”
“กูสิต้องถามมึง ว่ามึงมาปู้ยี่ปู้ยำน้องกูทำไม ส้นตีนเถอะ กูบอกไม่ให้มึงยุ่งกับน้องเชี่ยนี่แม่งก็ไม่เคยจะฟัง” จงอินเดินเข้าไปในห้องลู่หานพร้อมกับกระแทกไหล่เซฮุนเข้าไป แม้น้ำเสียงและบทสนทนาของทั้งคู่ในตอนนี้จะไม่ได้ดุเดือดมากนัก แต่สีหน้าและแววตาของพี่ชายผิวสีแทนคนนี้ดูจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่
“เสี่ยวลู่หลับไปนานรึยัง”
“ประมาณชั่วโมงนึงได้แล้วมั้ง เพิ่งกลับมาถึง”
“ดี งั้นคงหลับไปอีกนาน” จงอินหันมาหาเซฮุนแล้วย่างสามขุมเข้ามาลากคอเสื้อน้องชายออกจากห้องลู่หานไป “มานี่เลยนะมึง มาเคลียร์กับกูเดี๋ยวนี้”
“เคลียร์เหี้ยไรของมึงจงอิน ปล่อยกู โวะ” เซฮุนสะบัดตัวออกจากจงอินก่อนจะยืนประจันหน้ากันอยู่ชั้นล่าง
“กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าน้องไม่ใช่สิ่งของ กูก็ห้ามมึงไม่ให้ไปยุ่งกับน้องแล้ว แล้วมึงจะไปเอาน้องมันทำไม”
“เรื่องของกู อีกอย่าง กูไม่ได้ปู้ยี่ปู้ยำป่ะ น้องเขาก็สมยอมด้วย”
“มึงรู้ได้ไง อย่ามามั่วน่า”
“กูรู้สึก”
พลั่ก!
แทนคำตอบ จงอินง้างหมัดซัดเข้าใส่หน้าเซฮุนเต็มๆ แบบไม่ให้อีกฝ่ายทันตั้งตัว เซฮุนดูตกใจมากกับสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ อย่างนี้ ริมฝีปากบางห้อเลือดเล็กน้อย เซฮุนมองหน้าพี่ชายตนเองอย่างไม่เข้าใจ หรือถึงจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะเขารู้ว่าจงอินหวงน้องชายคนเล็กมากพอๆ กับที่ทุกคนหวง แต่ทำไมต้องมาต่อยเขาด้วย มันใช่เรื่องหรือไง
“มาต่อยกูทำไมเนี่ย!” เซฮุนโวยวายพร้อมกับใช้หลังมือปาดหยดเลือดที่ริมฝีปากออก “ซี้ดด....เจ็บนะโว้ย”
“ตอนมึงได้น้องครั้งแรกมึงข่มขืนเขาใช่มั้ย อย่านึกว่ากูเดาไม่ถูกนะ เพราะน้องเป็นคนใจอ่อน อะไรๆ ก็ยอมมึงหมดนั่นแหละ มันก็แปลว่ามึงข่มขืนน้อง อีกอย่าง กูเกลียดมึง”
“จู่ๆ มึงมาพล่ามอะไรตอนนี้ห๊ะดำ เรื่องมันเกิดก็เกิดไปแล้วดิ้ กูรักใครกูก็เอาคนนั้นไง ผิดมากป่ะ อย่าเสือกไอ้เหี้ย”
“มึงมันก็ไอ้ตัวเหี้ย!” จงอินเดินเข้าไปผลักเซฮุนจนแผ่นหลังแกร่งชนผนังอย่างแรง “มึงมันก็ไอ้ตัวเหี้ยที่อยากเอาน้องมาทำเมีย! ไม่ต้องมาด่ากู! กูรู้ว่ามึงเอาน้องเพราะมึงอยากชนะกูก็บอกมา”
“มึงว่าไงนะ” เซฮุนผลักจงอินออก ทั้งคู่จ้องหน้ากันอย่างไม่วางตา “สัญญาตอนเด็กๆ กูก็จำได้อยู่ แต่กูไม่ได้เอาเพราะอยากชะมึง คิดซะบ้างว่าถ้ากูอยากชนะมึงกูไม่มาเอาน้องป่านนี้หรอก”
“เฮอะ..” จงอินกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากอย่างสมเพชคนตรงหน้า “มึงมันอยากเอาใครก็เอา กูรู้หรอก”
“ละมึงจะมาดราม่าทำไมตอนนี้เนี่ย” เซฮุนถามพี่ชายอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาหงุดหงิดกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เพราะนอกจากจะโดนต่อยฟรีๆ แล้วยังจะมาดราม่าผิดที่ผิดเวลาแบบนี้กับจงอินอีก ทั้งๆ ที่เรื่องของเขากับลู่หานมันก็เรื่องของคนสองคน ไม่ใช่คนนอกอย่างจอินสักหน่อย ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องลู่หานอยู่ล่ะก็เซฮุนจะสวนหมัดกลับเป็นแน่
“มึงมันอยากเอาใครก็เอา”
“เออ กูอยากเอาใครก็เอา จบป้ะ รำคาญ!” เซฮุนตะคอกใส่หน้าจงอินอย่างนั้นก่อนจะขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เขากระแทกส้นเท้าเสียงดังปึงปังอย่างไม่เกรงใจพี่ๆ ที่กำลังนอนหลับเป็นตายกันอยู่หลายชีวิตแถวๆ นั้น
“อ้าวเสี่ยวลู่ ตื่นแล้วเหรอ” เซฮุนที่เดินเข้าห้องนอนลู่หานมาก็เจอลู่หานนอนเหยียดแขนบิดขี้เกียจทันที ร่างเล็กหลบตาร่างสูงก่อนจะเอาผ้าห่มมาบังครึ่งหน้าตัวเองอย่างอายๆ เซฮุนที่เห็นอย่างนั้นก็อยากจะจับมาฟัดอีกทีเสียจริงๆ ในตอนนี้ แต่เพราะอาการน้องน่าเป็นห่วงกว่าเขาก็เลยต้องยุบหนอพองหนอเข้าไว้ “เอ่อ....เจ็บอยู่มั้ย”
ลู่หานพยักหน้า
“จะกินอะไรมั้ย พี่จะไปเอาให้”
“เอ่อ....ขอข้าวต้มหมูแดงฮะ ขอสองถ้วย” ลู่หานบอกพี่ชายก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อเซฮุนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“จะหลบทำไม สามีภรรยากันก็ต้องมาร์นิ่งคิสหน่อยสิ” เซฮุนตอบเย้าแหย่ ลู่หานหรุบเปลือกตาลงต่ำ ในใจเต้นแรงเป็นจังหวะรัวกลอง ตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายแล้วว่าเซฮุนจะชอบใจแค่ไหนที่เห็นหน้าเขาแดงขนาดนี้
“คือว่าผม...”
“นะ ขอมาร์นิ่งคิสหน่อยสิ อุตส่าห์ไปซื้อยามาให้ตั้งแต่เช้าเลยนะ” เซฮุนออดอ้อน ลู่หานมองหน้าเซฮุนอย่างลังเล ความคิดที่ว่าจะงอนเมื่อตอนก่อนนอนเมื่อกี้หายไปหมดเมื่อรู้ว่าเซฮุนไปไหน แต่ไอ้ที่จะให้มอร์นิ่งคิสกับเซฮุนนี่ดูเหมือนจะเป็นแผนของพี่ชายตัวโตคนนี้ชัดๆ
“ผมหิวข้าว” ลู่หานเบี่ยงเบนประเด็น เซฮุนที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยิ้มมุมปากแล้วก็ออกไป แล้วก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวหมูแดงในมือสองถ้วย “ขอบคุณฮะ”
“วันนี้จะผ่อนผันไปให้ก่อนละกัน เห็นว่าป่วยหรอกนะ” เซฮุนบอกพลางพยุงน้องให้ลุกขึ้นนั่ง ลู่หานโล่งใจขึ้นมาเป็นกองเมื่อได้ยินอย่างนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า เมื่อเช้าคนตรงหน้าก็ได้ตักตวงความหวานไปบ้างแล้ว มือหนาหยิบช้อนแล้วเป่าข้าวต้มป้อนใส่ปากเล็กทีละคำๆ จนหมด ลู่หานก็เป็นแบบนี้แหละ เวลาป่วยทีไรจะกินเยอะตลอด นอนเกือบจะทั้งวัน แล้วก็ดูเหมือนจะหายเร็วขึ้นด้วย “กินแล้วก็นอนซะ อีกสี่ชั่วโมงพี่จะมาปลุกเราให้กินยาอีกรอบนึง”
“..ฮะ” ลู่หานรับคำก่อนจะล้มตัวนอนลงไป เมื่อเห็นว่าลู่หานหลับสนิทแล้วเซฮุนก็หยิบเก้าอี้แล้วมานอนเฝ้าน้องข้างๆ เตียงก่อนจะผล็อยหลับไปตามๆ กัน
วืดดด.....วืดดดด...วืดดดด..
เสียงจากโทรศัพท์ปลุกให้เซฮุนตื่นจากภวังค์ มือหนายื่นไปรับโทรศัพท์ของน้องชายที่สั่นอย่างบ้าคลั่งจากโต๊ะข้างโคมไฟมาอย่างหัวเสีย
“ฮัลโหล” เซฮุนกรอกเสียงลงไปด้วยความหงุดหงิด เขาแทบจะไม่ได้สนใจชื่อจากปลายสายด้วยซ้ำ
[เอ่อ...ขอสายลู่หานหน่อยครับ] ปลายสายที่มีน้ำเสียงทุ้มเป็นผู้ชายทำให้เซฮุนพลิกหน้าจอมือถือออกมาดูชื่อ ‘ฮยอนจุน’ งั้นเหรอ น่าหงุดหงิดชะมัด
“ลู่หานไม่ว่าง ลู่หานไม่สบาย มีอะไร” เซฮุนถามห้วนๆ
[เปล่าครับ แค่จะนัดให้ออกมาเที่ยวด้วยกันเฉยๆ]
“จะจีบน้องกูเรอะ”
[อ้าว นี่พี่ชายลู่หานเหรอครับ]
“เออ”
ตู๊ดดดดดดดดดดด....
ปลายสายรีบวางทันทีเมือ่ได้ยินอย่างนั้น เซฮุนหัวเสีย นี่ขนาดปิดเทอมแล้วยังจะมีตัวผู้มาตอมอีก ถ้าเปิดเทอมคงจะมากันเป็นฝูงแน่ๆ แล้วตกลงไอ้คนที่โทรมานี่มันจะคิดอะไรเกินเลยกับลู่หานหรือเปล่าเขาไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือพอปลายสายรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของคนตัวเล็กก็รีบวางทันที แบบนี้ไม่ให้น่าสงสัยได้ยังไง
อันที่จริงก็เป็นมากกว่าพี่ชายต่างหาก
ในอกมันคันยิบๆ เหมือนมีตัวอะไรมารุมกัด เขาไม่ชอบเลยจริงๆ ที่เวลาไปไหนมาไหนมีแต่คนมองลู่หาน ไม่ว่าจะมองเพราอะไร แต่เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี ลู่หานของเขา เขาก็มองได้คนเดียวสิ ส่วนเจ้าตัวเล็กน่ะเหรอ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ก็แค่เดินตามพี่ชายไปมาเท่านั้นแหละ อย่างเวลาไปรับลู่หานจากโรงเรียนก็เหมือนกัน มีบ้างที่ใครๆ ก็จะตกเป็นเป้าสายตา นักเรียนหญิงจากฝั่งตรงข้ามก็มองมาที่ตัวเขาเองบ้าง ซึ่งเซฮุนก็ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ แต่ที่เป็นจุดสนใจกว่าคงจะเป็นลู่หาน เกือบทุกตอนเย็นที่ลู่หานจะนั่งรอรถโดยมีกลุ่มเพื่อนผู้ชายมานั่งล้อมอยู่ด้วย ครั้งหนึ่งเขาเคยถามลู่หานว่ารู้จักกับพวกเขามั้ย ลู่หานก็ได้แต่ส่ายหน้า หรือบางครั้งก็บอวก่ารู้จักแค่บางคนเท่านั้น
เซฮุนจะไม่หงุดหงิดเลยสักนิดถ้ามีคนบางกลุ่มเอาแต่จ้องมองน้องชายของเขา
บางทีเขาอาจจะโรคจิตไปเองก็ได้ ตัวเองชอบให้คนอื่นมาสนใจ แต่ไม่ชอบให้ใครๆ มาสนใจลู่หาน
“เฮ้อ” เซฮุนถอนหายใจออกมาอย่างพยายามควบคุมอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้ ลู่หานยังคงหลับสบายๆ แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเป็นห่วงน้อง ไม่รู้ว่าน้องจะตามคนอื่นทันไหมเพราะโดนเอาใจมาตั้งแต่เล็ก แต่อีกใจหนึ่งก็หวง ไม่อยากให้น้องตามใครทัน ไม่อยากให้น้องอยู่ใกล้ใคร อยากให้เป็นของเขาแค่คนเดียว อยากให้เป็นลู่หานที่ซื่อบื้อตามคนไม่ทันแบบนี้
“อย่าไปทำหน้าอย่างนี้ให้ใครเห็นอีกนะ” เซฮุนพูดกำชับเสียงอ่อน สายตาคมจับจ้องเพียงแค่คนที่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น
บางทีก็เป็นเขานั่นแหละ ที่อาจจะหวังอะไรมากเกินไป
REWRITE
ฮึก เสร็จพอดีเลยจ้า55555555555 ตอนนี้สั้นกว่าตอนอื่นนิดนึง ปล่อยให้ลู่หานนอนหลับไปก่อนละกันเนาะ ตอนหน้าค่อยว่ากันอีกที ^^ เห็นเม้นแล้วมีกำลังใจเยอะขึ้นมาเป็นกองเลยค่ะ ขอบคุณมากน้า
ความคิดเห็น