คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : น้องคิ้วท์ : ครอบครัวตัวป่วน REWRITE
บทที่ 1
ครอบครัวตัวป่วน REWRITE
“ลงมากินข้าวววว!!”
เสียงดังแปดหลอดของคริสที่ดังมาจากด้านล่างทำให้แต่ละคนรีบลุกออกจากที่นอน หยุดกิจกรรมต่างๆ ของคนในบ้านลง เท้าน้อยๆ ของเด็กๆ ในบ้านต่างพาเจ้าของร่างลงมากินข้าวเช้า
ภาพเลย์ใส่ชุดกันเปื้อนกับคริสที่เดินเอาอาหารมาวางเรียงไว้ตามที่นั่งของเด็กๆ แต่ละคนเป็นภาพที่ดูจะคุ้นชินกับมันไปเสียแล้ว เด็กๆ ต่างรีบวิ่งมานั่งประจำที่ตัวเองทันที มีเพียงลู่หาน น้องเล็กสุดเท่านั้นที่ยังคงพยายามเดินลงบันไดทีละขั้นๆ อย่างระมัดระวัง
“ลู่หาน รีบลงมาสิลูก”
เลย์รีบเดินไปอุ้มเจาตัวเล็กมานั่งบนเก้าอี้ประจำตัวข้างๆ ตัวเขาก่อนจะลงมือกินข้าวเช้าอย่างเอร็ดอร่อย
“มาม๊า โรงเรียนพวกเราจะปิดเทอมกันแล้วนะ ทำไมยังไม่ไปประชุมผู้ปกครองอีกล่ะ อาจารย์บ่นพวกเราแทบจะทุกวันเลยนะฮะ” เด็กชายผิวสีหมึก คิม จงอิน หรือไค ร้องขึ้นมาหลังจากนึกได้ คริสตบมือดังป้าบทันทีที่ได้ยิน
“นั่นสินะ ลืมไปเลย แต่ช่างมันเถอะ ปะป๊าไม่ว่าง ไว้วันหลังละกันนะ เดี๋ยวปะป๊าโทร.คุยกับครูประจำชั้นให้เอง”
“แต่ปะป๊าต้องโทรไปหกสายเลยเหรอ ทำไมปะป๊าถึงมีพวกเราเยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ” เด็กชายผมหยิก ปาร์ค ชานยอล พูดตะพาบๆ อยู่ตรงหัวโต๊ะก่อนจะหันมาหาแบคฮยอนที่ยังนั่งเช็ดข้าวที่ลอยมาติดบนใบหน้าอยู่เงียบๆ “แบคฮยอนอา เดี๋ยวเราไปเล่นขายของกันเนอะ” ชานยอลชวน ก่อนจะหันไปหาน้องๆ ทุกคน แต่ละคนล้วนพยักหน้ากันทั้งนั้น
“งั้นก็รีบกินข้าวแล้วไปเล่นขายของละกันนะ เดี๋ยวปะป๊ากับมาม๊าจะต้องมีงานให้ทำอีก” เลย์พูดขึ้นทันควันจนเด็กๆ หันมามองหน้ากันเกรียว
“มาม๊าจะไป XXXX กับปะป๊าน่ะ จะไปมองหน้าเค้าทำไม” ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ คริสกับเลย์มองหน้ากันอย่างอายๆ “จะเอาอีกกี่คนกันเนี่ย ชานยอลไม่อยากได้น้องนะฮะปะป๊า” เด็กน้อยทำเสียงออดอ้อนก่อนจะยอมหุบปากเพราะเสียงดุๆ ของปะป๊า
“ปาร์คชานยอล” คริสทำเสียงเขม่นจนชานยอลรีบกินข้าวให้เร็วที่สุดก่อนจะเป็นแกนนำพาให้น้องๆ ลุกตามไปด้วย
บ้านหลังนี้มีสมาชิกครอบครัวทั้งหมดสิบสองคน มีอู๋อี้ฟาน (คริส) กับจางอี้ชิง (เลย์) เป็นผู้ปกครอง สองคนนี้มีเด็กๆ อีกสิบคนคอยสร้างสีสันให้บ้านหลังนี้ มีชานยอลเป็นพี่ใหญ่ (ชานยอลอายุมากกว่าทุกคน 2 ปี และอายุมากกว่าลู่หาน 3 ปี) รองลงมาคือไค พี่คนที่สามคือแบคฮยอน คนที่สี่คือดีโอ คนที่ห้าคือซูโฮ คนที่หกคือซิ่วหมิน คนที่เจ็ดคือเฉิน คนที่แปดคือเทา คนที่เก้าคือเซฮุน และคนสุดท้ายคือลู่หาน
เด็กๆ ทั้งสิบคนรักใคร่กลมเกลียวกันมาก แต่จะหวงน้องเล็กเป็นพิเศษไม่ให้ใครมาใกล้หรือแกล้ง และด้วยความหน้าตาน่ารักมากเป็นพิเศษแล้ว ทำให้พี่ๆ อยากเอาอกเอาใจตลอดเวลา ทั้งเนื้อทั้งตัวเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีรอยยุงกัดหรือรอยหกล้มด้วยซ้ำ แต่บางที ก็ต้องกันหนึ่งในเก้าไม่ให้เข้ามาใกล้น้องเล็กของพวกเขาด้วยเหมือนกัน
“ย๊า ชานยอลอา ส้มตำไม่พอ” เทาที่ถือหมีแพนด้าไว้ในอ้อมแขนร้องให้พ่อค้าสมมติอย่างปาร์คชานยอลกับแบคฮยอนเอาส้มตำมาเสิร์ฟให้ ชานยอลจึงถือทรายที่มีแถวๆ นั้นใส่ในจานของเล่นก่อนจะยกไปวางไว้บนโต๊ะเทา
“นี่แบคฮยอน ไปเอาส้มตำมาจากรายการไหนเนี่ย ใช่ไอ้ที่เรียกว่าติ่มซำหรือเปล่า มันคล้ายๆ กันแต่ไม่ใช่อย่างเดียวกันหรอกนะ” ชานยอลถามแบคฮยอน เพราะแบคฮยอนมักจะนำศัพท์แปลกๆ มาใช้ทุกที
“ก็รายการอาหารเอเชียที่มาม๊าดูไงล่ะ ชานยอลบ้า ไม่รู้เรื่องเลย” แบคฮยอนตำหนิก่อนจะหันไปเอาขวดน้ำมาเติมน้ำใส่แล้วเทลงไปบนทราบที่วางไว้บนจานของเล่น แบคฮยอนหยิบทรายแห้งมาโรยทับอีกที ทำให้ตอนนี้สีสันบนจานอาหารของเขามันเพิ่มขึ้นไปอีก “สวยใช่มั้ยล่ะนายนักเสิร์ฟ”
“สวยสิ อีกหน่อยแบคฮยอนต้องเป็นเหมือนมาม๊าแน่ๆ เลย” ชานยอลชม แบคฮยอนหันมามองหน้าพี่ใหญ่อย่างสงสัย
“ทำไม”
“ก็แบคฮยอนจะสวยแล้วก็ทำอาหารเก่งอย่างมาม๊าไง” ชานยอลตอบยิ้มๆ ก่อนที่แบคฮยอนจะลุกขึ้นพรวดแล้วเดินถือจานออกไป “อ้าวพ่อครัว ไม่ให้เราไปเสิร์ฟเหรอ”
“ไม่ต้อง ชานยอลจะได้เห็นไงว่าเราไม่ได้ทำอาหารอร่อยอย่างเดียวด้วย” แบคฮยอนวางจานไว้บนโต๊ะที่เทากำลังนั่งอยู่ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายในชุดผ้ากันเปื้อนเด็กอย่างงงๆ ทั้งที่ตนไม่ได้สั่งซะหน่อยว่าจะกินเมนูนี้ แต่ทำไมแบคฮยอนถึงเอามาวางไว้ให้
“แบะ.....แบคฮยอน ผมไม่ได้จะกินเมนูนี้นะ” เทาท้วงแบคฮยอนเมื่อเห็นว่าพี่ชายถูกยอจนเสียสติไปเสียแล้ว “เอามาวางไว้ทำไม”
“ก็พี่จะให้นายกินฟรีๆ ไง ไม่ชอบเหรอ” แบคฮยอนทำน้างอพลางจะเก็บจาน เทาที่เห็นพี่ชายทำหน้าอย่างนั้นก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที
“ปละ....เปล่าๆ เปล่าเลยนะ เทาเทาแค่สงสัยเฉยๆ แบคฮยอนฮยงน่ารักที่สุดเลยต่างหาก” เทาบอกก่อนจะแบกฮักแบคฮยอน ชานยอลมองสองพี่น้องด้วยสายตาหน่ายๆ
“ลู่หาน ลู่หาน ไปเล่นก่อปราสาทกับพี่เนาะ” เซฮุนยื่นมือมาให้ลู่หานจับ ลู่หานเงยหน้ามองคนเรียกก่อนจะยื่นมือให้พี่ชายจับแล้วเดินตามเซฮุนไปอย่างว่าง่าย เขาชอบที่ได้จับมือนุ่มๆ ของลู่หานแบบนี้แหละ น่ารักจริงๆ “พี่จะให้ลู่หานช่วยพี่สร้างปราสาท เอาใหญ่ๆ เลย แล้วพี่ก็จะเป็นราชา ลู่หานก็เป็นราชินี แล้วเราก็แต่งงานกัน ปกครองบ้านเมืองและประชาชน” เซฮุนยิ้มอย่างเพลิดเพลินและเคลิบเคลิ้มกับความฝันก่อนจะรู้ตัวว่าน้องเล็กของเขาไม่ได้นั่งตรงนั้นแล้ว
“จะเอาน้องไปเป็นราชินีไม่ได้!” เสียงหนึ่งดังขึ้น เซฮุนมองไปยังตัวการ ไคมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ “ดูซิ! ทรายเข้าอกน้องหมดเลย” ไคว่าอย่างหงุดหงิดก่อนจะเอามือลูบอกขาวๆ เนียนๆ แล้วปัดทรายออกให้
“อ๊า......อย่าจับหน้าอกลู่หานสิ!” เซฮุนแผดเสียงอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินตรงรี่ไปผลักไคให้ล้มลงไปกับกองกับพื้นทราย เขายกตัวลู่หานขึ้นมาอุ้มไว้ไม่ให้ห่างตัว “เค้ายังไม่ทันทำอะไรซะหน่อยยยยยย!! ไคทำไมเป็นคนอย่างนี้!!!!! น้องไม่ใช่ของตัวเองคนเดียวซะหน่อยยยยยยยยย!!!!”
“ไม่เอา!! น้องเป็นของเค้า ทำไมไม่เชื่อฟังพี่ห๊ะเซฮุน!” ไคเริ่มแย่งลู่หานกลับมา แต่เซฮุนไม่ยอม พวกที่เล่นขายของกันอยู่ก็เข้ามามุงดูกันใหญ่ แต่ไม่ว่าจะห้ามอย่างไร ทั้งสองก็ไม่ยอมปล่อยลู่หานซะที
“เค้าพาลู่หานมาก่อน ลู่หานเป็นของเค้า!!!” เซฮุนโวยวาย
“ตัวเองทำทรายเปื้อนตัวน้อง ตัวน้องสกปรกหมดแล้ว ถ้าน้องไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง ถ้า...ถ้าผื่นขึ้นล่ะ ตัวเองนิสัยไม่ดี” ไคว่า
“มาเล่นทรายตัวก็ต้องเปื้อนสิ ไม่ได้มานั่งบนพรหมซะหน่อยยย!!!”
“เดี๋ยวมันเข้าปากน้องจะทำยังไง!”
“เค้าไม่ให้เข้าปากกกกกกหรอก! ลู่หานเป็นราชินีของเค้า! เค้าไม่ให้ลู่หานเป็นอะไรหรอก! ตัวเองนั่นแหละจับอกลู่หานของเค้าด้วย! นิสัยไม่ดี! เค้าจะฟ้องมาม๊า!!”
“ไอ้ขี้ฟ้องงง!! เอาเลย! เค้าจะฟ้องปะป๊า!”
“เอาลู่หานมานะไอ้ดำ!” เซฮุนตวาก่อนจะไปดึงแขนลู่หานมา แต่ไคก็ขวางเอาไว้ เซฮุนมองขอบตาพี่ชายผิวสีที่มีน้ำตาคลอเอาไว้ ไคมักจะร้องไห้อย่างนี้เสมอเวลาพูดถึงเรื่องสีผิวที่เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ
“จะมาแย่งของเค้าทำไม!!!!”
“เงียบบ!!” ชานยอลเดินเข้ามากลางวง ด้วยความที่สูงที่สุดและเป็นพี่ใหญ่ที่สุด ทุกคนจึงหยุด
“เอาน้องมานี่!” ชานยอลรีบอุ้มลู่หานมาจากสองพี่น้องที่ทะเลาะกัน แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเซฮุนดึงมือไปซะก่อนจนลู่หานร้องไห้เสียงพังเพราะความเจ็บ เซฮุนที่เห็นดังนั้นจึงตกใจและรีบปล่อยมือน้องทันที เพราะในขณะที่เขาดึงมือลู่หานนั้นก็โดนเข้ากับแขนที่แข็งแรงกว่าของชานยอลอีกที ทุกคนที่รู้ดีว่าลู่หานร้องไห้เสียงดังกว่าใครก็รีบเอามือปิดหูทันที ชานยอลที่อุ้มลู่หานอยู่ก็ถึงกับต้องเอียงศีรษะตัวเองออกมา
“พี่จะบอกปะป๊ากับมาม๊า สองคนนี้ทำให้ตัวน้องมีแต่รอยแดงหมดเลย แล้วจะแย่งกันทำไม น้องไม่ใช่ของเล่นซะหน่อย โอ๋ๆ อย่าร้องน้า” ชานยอลกับแบคฮยอนช่วยกันโอ๋ปลอบน้องจนลู่หานเบะปากออกมาเสียงดังกว่าเดิมด้วยความขี้แย
ชานยอลส่ายหน้าพร้อมกับเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน สภาพตอนนี้เรียกได้ว่าเตี้ยอุ้มค่อมเลยทีเดียว เพราะชานยอลก็ไม่ได้ตัวสูงมากนัก เวลาอุ้มเด็กจึงทำให้ขาลู่หานแทบจะแตะพื้นอยู่แล้ว แต่ในเก้าคนนี้ก็ไม่มีใครสูงเท่าเขาอีกแล้วในตอนนี้ ทั้งเก้าคนเดินตามชานยอลไปเงียบๆ ที่ชั้นสองก่อนที่มือเล็กๆ ของชานยอลจะเคาะประตูห้องนอนแรงๆ
“ทำไมมาม๊ากับปะป๊าไม่ยอมออกไม่เปิดน้า น้องร้องไห้แล้วนะ ชู่วๆ” แบคฮยอนเดินไปเล่นกับลู่หานให้หยุดร้องไห้ แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร ลู่หานก็ไม่ยอมหยุด ร้องไห้เสียงดังจ้าอยู่อย่างนั้น “แปลกเนอะ ทุกทีมาม๊ากับปะป๊าต้องรีบวิ่งมาแล้วสิ”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ร้องไห้แบบนี้ต่อไปต้องดิ้นหลุดแน่ๆ” ซิ่วหมินตั้งข้อสังเกตเมื่อลู่หานเริ่มดิ้นออกจากอ้อมอกชานยอลอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมานองหน้า พี่ๆ เริ่มกระวนกระวายกันยกใหญ่แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
“ทุกคนหลบบ”
ปึงง!!
เทาถอยหลังแล้ววิ่งไปถีบประตูออก เขาทำอย่างนั้นซ้ำๆ หลายๆ ทีจนพี่ๆ คนอื่นๆ เริ่มทำตามเพื่อให้ประตูห้องนอนของมาม๊าและปะป๊าเปิดออก
“อะ....อ๊า คริส พอ.....อ๊า...อื้มมมม”
ทั้งเก้าตาค้างเมื่อประตูเปิดออก พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงไปไหนกับภาพตรงหน้าที่คริสคลอเคลียเลย์อยู่บนเตียง เสียงร้องไห้ของลู่หานที่แผดดังไปทั่วบ้านทำให้คริสกับเลย์ที่กำลัง ‘ทำงาน’ อยู่บนเตียงหยุดทันที ดูเหมือนว่าทั้งคู่เพิ่งได้สติ เลย์รีบเอาผ้าห่มมาบังตัวเองไว้ก่อนที่คริสจะรีบเก็บแกนกายตัวเองที่ยังไม่หายตื่นไว้ในกางเกงให้เรียบร้อยก่อนจะพาเด็กๆ ออกจากห้องไปด้วยความอาย ปล่อยให้เลย์ต้องพยายามแต่งตัวอยู่คนเดียวภายในห้องนั้น
“ปะป๊าทำอะไรกับมาม๊าง่า ทำไมมาม๊าร้องว่าเจ็บล่ะ” ซูโฮหันไปถามแบคฮยอน เขามักจะอยู่ใกล้ชานยอลมากกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้ดูเหมือนพี่คนที่สองไปโดยปริยาย เพราะชานยอลเป็นพี่ใหญ่จะต้องมีความรู้อะไรๆ มากกว่าน้องๆ อยู่แล้ว
แบคฮยอนอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เค้ากำลัง....เอ่อ เปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนฝนกัน....อะนะ...”
“ท้องฟ้าเปลี่ยนได้ด้วยหยออ อยากเห็นจัง” เทาบิดตัวไปมา แบคฮยอนมองหน้าชานยอลอย่างเหนื่อยใจเบาๆ “ถ้าอย่างงั้นพี่ซูโฮก็ลองมาทำกับเทาดูมั้ย ท้องฟ้าจะได้เปลี่ยนสีบ้าง”
“มันทำได้เหรอ”
“หยุดเลยนะ” คริสห้ามปรามเด็กๆ ที่กำลังจะลองทำเรื่องอย่างว่าด้วยความไม่รู้ “จากที่ฟังมานี่ดูเหมือนว่าปัญหาจะอยู่ที่เซฮุนกับจงอินนะ ทะเลาะอะไรกันน่ะลูก อย่ามาลงที่น้องสิ”
“ทำไมมาม๊าไม่นั่งล่ะฮะ ที่นั่งก็พอนี่” เซฮุนขัดเมื่อเห็นเลย์ยืนอยู่ข้างๆ โซฟา คริสกระแอมไอเล็กน้อย
“เอ่อ....มาม๊าปวดขาน่ะ ฟังปะป๊าดีกว่านะ” เลย์รีบปิดประเด็นก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง
“ปะป๊าไม่รู้ว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่คราวหน้าสองคนนี้อย่าเชวนกันทะเลาะจนทำให้คนอื่นเจ็บตัวอีกนะรู้มั้ย พี่ๆ ก็ด้วย เตือนๆ กันบ้าง” ไคกับเซฮุนหน้าหงอลงไปทันทีหลังจากที่คริสดุพวกเขา เซฮุนเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าเด็กน้อยที่นั่งเล่นเน็กไทด์ของปะป๊าในอ้อมอกของปะป๊าอย่างเป็นห่วง รอยแดงๆ บนผิวขาวนุ่มเมื่อกี้หายไปแล้ว เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปอาบน้ำกันได้แล้ว เล่นทรายมาตัวเปื้อนไปหมด” เลย์บอกก่อนจะต้อนเด็กๆ ให้เข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เซฮุน ทำไมนายชอบโชว์ไข่ตัวเองให้น้องดูเนี่ย ไม่น่ารักเลยนะ” คำพูดของไคทำให้ชานยอลปล่อยระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องน้ำ แบคฮยอนก็หันหน้าไปอีกทางก่อนจะก้มตัวลงหัวเราะอยู่คนเดียว ส่วนพวกที่เหลือก็พากันมองหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปเล่นฟองสบู่กันต่อ
“ฮะๆๆ ไอ้ไข่เล็ก” เซฮุนรีบลงไปในอ่างแล้วเอาลู่หานมานั่งระหว่างขาด้วยก่อนจะเล่นเป็ดลอยน้ำกับอ่านหนังสือนิทานลอยน้ำให้ฟังอย่างไม่สนใจเด็กผิวหมึกข้างสระน้ำ ลู่หานหัวเราะชอบใจก่อนจะหันไปเอามือเซฮุนมานับๆ แล้วโบกไปมาตามประสาเด็กน้อย “อิจฉาหรือไงกัมจง”
“ลู่หาน” ไคเรียก ลู่หานหันไปตามเสียงเรียก ไคยืดตัวขึ้นมาให้ลู่หานดู “ไข่พี่ไคกับไข่พี่เซฮุน ใครใหญ่กว่า”
ลู่หานเงียบไปครู่หนึ่ง นิ้วเล็กชี้ที่ปากอย่างใช้ความคิดพร้อมกับเอียงหัว
“พี่เชฮุนไง พี่กัมจงไม่รู้เหรอ” ลู่หานตอบเสียงใส เซฮุนหันไปทำหน้าเยาะเย้ยก่อนจะไปเล่นกับลู่หานในอ่างต่อ ไคที่เห็นดังนั้นจึงหน้างอแล้วไปเล่นกับคนอื่นต่อไป
เซฮุนเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของไคแล้วก็ยิ่งสะใจเป็นทวีคูณ และแล้วความคิดแปลกประหลาดก็แล่นเข้าหัวหนูน่อยคนนี้ราวกับเหนี่ยวไกปืน
“ลู่หานอา” เซฮุนเรียกลู่หานอีกครั้ง ลู่หานหันมาหาพร้อมตุ๊กตาหมีแพนด้าของเทาในอ้อมกอด “ลู่หานชอบของใหญ่ๆ หรือของเล็กๆ อ่า” เซฮุนถามแล้วยิ้มเผล่ ไคหันขวับมาทันที “แบบว่า ถ้าปะป๊ากับมาม๊าซื้อตุ๊กตามาให้ ลู่หานจะเลือกอันไหน”
“อันใหญ่ๆ!” ลู่หานตอบออกไปอย่างไร้เดียงสา พอดีกับที่ชานยอลอุ้มตัวลู่หานออกไปเช็ดตัวพอดี
เซฮุนหันมาเยาะยิ้มให้กับไคอย่างผู้ชนะ
“แค่นี้ยังไม่พออีกรึไง เป่าหูเด็ก! คอยดูเถอะโอเซฮุน! เค้าจะไม่ให้นายเข้าใกล้น้องเลย จะขัดขวางไปตลอดชาติ!”
“อ้อเหรอ ขอบคุณนะที่บอก แบร่!” เซฮุนเยาะเย้ยก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวตามชานยอลกับพี่ๆ ที่เหลือออกไป
______________________________________
ว้ายยยยยย แต่งไปก็เขินไป จริงๆ เรื่องแบบนี้น่ะแต่งง่ายค่ะ แต่ต้องใช้ความฟินกับความหื่นนิดหน่อย เล่นเอาเหนื่อยเบาๆ เหมือนกัน =..= เป็นตอนแรกเลย ฝากด้วยนะ
Rewrite ในที่สุดก็รีไรท์เสร็จไปแล้ว ใช้เวลาวันกว่าๆ ในการรีไรท์เลยค่ะ ปีที่แล้วที่ลงก็กะลงเล่นๆ นั่นแหละค่ะ แต่พอรีเฟรชหลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชม.ก็มียอดแฟนคลับขึ้นมาแบบว่า เร็วมากอ้ะ555555 ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยน้าที่อ่านแล้วชอบกัน
ความคิดเห็น