ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {hunhan ft.others} Cutest Brother รักนะครับพี่ชายสุดหื่น.

    ลำดับตอนที่ #1 : น้องคิ้วท์ : ครอบครัวตัวป่วน REWRITE

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    farry 1000%

    บทที่ 1

    ครอบครัวตัวป่วน REWRITE

     

     

      ลงมากินข้าวววว!!”

     

     

    เสียงดังแปดหลอดของคริสที่ดังมาจากด้านล่างทำให้แต่ละคนรีบลุกออกจากที่นอน หยุดกิจกรรมต่างๆ ของคนในบ้านลง เท้าน้อยๆ ของเด็กๆ ในบ้านต่างพาเจ้าของร่างลงมากินข้าวเช้า

     

     

                ภาพเลย์ใส่ชุดกันเปื้อนกับคริสที่เดินเอาอาหารมาวางเรียงไว้ตามที่นั่งของเด็กๆ แต่ละคนเป็นภาพที่ดูจะคุ้นชินกับมันไปเสียแล้ว เด็กๆ ต่างรีบวิ่งมานั่งประจำที่ตัวเองทันที มีเพียงลู่หาน น้องเล็กสุดเท่านั้นที่ยังคงพยายามเดินลงบันไดทีละขั้นๆ อย่างระมัดระวัง

     

     

                “ลู่หาน รีบลงมาสิลูก

     

     

                เลย์รีบเดินไปอุ้มเจาตัวเล็กมานั่งบนเก้าอี้ประจำตัวข้างๆ ตัวเขาก่อนจะลงมือกินข้าวเช้าอย่างเอร็ดอร่อย

     

     

                           “มาม๊า โรงเรียนพวกเราจะปิดเทอมกันแล้วนะ ทำไมยังไม่ไปประชุมผู้ปกครองอีกล่ะ อาจารย์บ่นพวกเราแทบจะทุกวันเลยนะฮะ” เด็กชายผิวสีหมึก คิม จงอิน หรือไค ร้องขึ้นมาหลังจากนึกได้ คริสตบมือดังป้าบทันทีที่ได้ยิน

     

     

                           “นั่นสินะ ลืมไปเลย แต่ช่างมันเถอะ ปะป๊าไม่ว่าง ไว้วันหลังละกันนะ เดี๋ยวปะป๊าโทร.คุยกับครูประจำชั้นให้เอง

     

     

                “แต่ปะป๊าต้องโทรไปหกสายเลยเหรอ ทำไมปะป๊าถึงมีพวกเราเยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ” เด็กชายผมหยิก ปาร์ค ชานยอล พูดตะพาบๆ อยู่ตรงหัวโต๊ะก่อนจะหันมาหาแบคฮยอนที่ยังนั่งเช็ดข้าวที่ลอยมาติดบนใบหน้าอยู่เงียบๆ “แบคฮยอนอา เดี๋ยวเราไปเล่นขายของกันเนอะ” ชานยอลชวน ก่อนจะหันไปหาน้องๆ ทุกคน แต่ละคนล้วนพยักหน้ากันทั้งนั้น

     

     

                “งั้นก็รีบกินข้าวแล้วไปเล่นขายของละกันนะ เดี๋ยวปะป๊ากับมาม๊าจะต้องมีงานให้ทำอีก” เลย์พูดขึ้นทันควันจนเด็กๆ หันมามองหน้ากันเกรียว

     

     

                 “มาม๊าจะไป XXXX กับปะป๊าน่ะ จะไปมองหน้าเค้าทำไม” ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ คริสกับเลย์มองหน้ากันอย่างอายๆ “จะเอาอีกกี่คนกันเนี่ย ชานยอลไม่อยากได้น้องนะฮะปะป๊า เด็กน้อยทำเสียงออดอ้อนก่อนจะยอมหุบปากเพราะเสียงดุๆ ของปะป๊า

     

     

                 “ปาร์คชานยอล” คริสทำเสียงเขม่นจนชานยอลรีบกินข้าวให้เร็วที่สุดก่อนจะเป็นแกนนำพาให้น้องๆ ลุกตามไปด้วย

     

     

                บ้านหลังนี้มีสมาชิกครอบครัวทั้งหมดสิบสองคน มีอู๋อี้ฟาน (คริส) กับจางอี้ชิง (เลย์) เป็นผู้ปกครอง สองคนนี้มีเด็กๆ อีกสิบคนคอยสร้างสีสันให้บ้านหลังนี้ มีชานยอลเป็นพี่ใหญ่ (ชานยอลอายุมากกว่าทุกคน 2 ปี และอายุมากกว่าลู่หาน 3 ปี) รองลงมาคือไค พี่คนที่สามคือแบคฮยอน คนที่สี่คือดีโอ คนที่ห้าคือซูโฮ คนที่หกคือซิ่วหมิน คนที่เจ็ดคือเฉิน คนที่แปดคือเทา คนที่เก้าคือเซฮุน และคนสุดท้ายคือลู่หาน

     

     

                เด็กๆ ทั้งสิบคนรักใคร่กลมเกลียวกันมาก แต่จะหวงน้องเล็กเป็นพิเศษไม่ให้ใครมาใกล้หรือแกล้ง และด้วยความหน้าตาน่ารักมากเป็นพิเศษแล้ว ทำให้พี่ๆ อยากเอาอกเอาใจตลอดเวลา ทั้งเนื้อทั้งตัวเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีรอยยุงกัดหรือรอยหกล้มด้วยซ้ำ แต่บางที ก็ต้องกันหนึ่งในเก้าไม่ให้เข้ามาใกล้น้องเล็กของพวกเขาด้วยเหมือนกัน

     

     

                “ย๊า ชานยอลอา ส้มตำไม่พอ” เทาที่ถือหมีแพนด้าไว้ในอ้อมแขนร้องให้พ่อค้าสมมติอย่างปาร์คชานยอลกับแบคฮยอนเอาส้มตำมาเสิร์ฟให้ ชานยอลจึงถือทรายที่มีแถวๆ นั้นใส่ในจานของเล่นก่อนจะยกไปวางไว้บนโต๊ะเทา

     

     

                            นี่แบคฮยอน ไปเอาส้มตำมาจากรายการไหนเนี่ย ใช่ไอ้ที่เรียกว่าติ่มซำหรือเปล่า มันคล้ายๆ กันแต่ไม่ใช่อย่างเดียวกันหรอกนะ ชานยอลถามแบคฮยอน เพราะแบคฮยอนมักจะนำศัพท์แปลกๆ มาใช้ทุกที

     

     

                            ก็รายการอาหารเอเชียที่มาม๊าดูไงล่ะ ชานยอลบ้า ไม่รู้เรื่องเลย แบคฮยอนตำหนิก่อนจะหันไปเอาขวดน้ำมาเติมน้ำใส่แล้วเทลงไปบนทราบที่วางไว้บนจานของเล่น แบคฮยอนหยิบทรายแห้งมาโรยทับอีกที ทำให้ตอนนี้สีสันบนจานอาหารของเขามันเพิ่มขึ้นไปอีก สวยใช่มั้ยล่ะนายนักเสิร์ฟ

     

     

                            สวยสิ อีกหน่อยแบคฮยอนต้องเป็นเหมือนมาม๊าแน่ๆ เลย ชานยอลชม แบคฮยอนหันมามองหน้าพี่ใหญ่อย่างสงสัย

     

     

                            ทำไม

     

     

                            ก็แบคฮยอนจะสวยแล้วก็ทำอาหารเก่งอย่างมาม๊าไง ชานยอลตอบยิ้มๆ ก่อนที่แบคฮยอนจะลุกขึ้นพรวดแล้วเดินถือจานออกไป อ้าวพ่อครัว ไม่ให้เราไปเสิร์ฟเหรอ

     

     

                            ไม่ต้อง ชานยอลจะได้เห็นไงว่าเราไม่ได้ทำอาหารอร่อยอย่างเดียวด้วย แบคฮยอนวางจานไว้บนโต๊ะที่เทากำลังนั่งอยู่ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายในชุดผ้ากันเปื้อนเด็กอย่างงงๆ ทั้งที่ตนไม่ได้สั่งซะหน่อยว่าจะกินเมนูนี้ แต่ทำไมแบคฮยอนถึงเอามาวางไว้ให้

     

     

                            แบะ.....แบคฮยอน ผมไม่ได้จะกินเมนูนี้นะ เทาท้วงแบคฮยอนเมื่อเห็นว่าพี่ชายถูกยอจนเสียสติไปเสียแล้ว เอามาวางไว้ทำไม

     

     

                            ก็พี่จะให้นายกินฟรีๆ ไง ไม่ชอบเหรอ แบคฮยอนทำน้างอพลางจะเก็บจาน เทาที่เห็นพี่ชายทำหน้าอย่างนั้นก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที

     

     

                            ปละ....เปล่าๆ เปล่าเลยนะ เทาเทาแค่สงสัยเฉยๆ แบคฮยอนฮยงน่ารักที่สุดเลยต่างหาก เทาบอกก่อนจะแบกฮักแบคฮยอน ชานยอลมองสองพี่น้องด้วยสายตาหน่ายๆ

     

             

                “ลู่หาน ลู่หาน ไปเล่นก่อปราสาทกับพี่เนาะ” เซฮุนยื่นมือมาให้ลู่หานจับ ลู่หานเงยหน้ามองคนเรียกก่อนจะยื่นมือให้พี่ชายจับแล้วเดินตามเซฮุนไปอย่างว่าง่าย เขาชอบที่ได้จับมือนุ่มๆ ของลู่หานแบบนี้แหละ น่ารักจริงๆ “พี่จะให้ลู่หานช่วยพี่สร้างปราสาท เอาใหญ่ๆ เลย แล้วพี่ก็จะเป็นราชา ลู่หานก็เป็นราชินี แล้วเราก็แต่งงานกัน ปกครองบ้านเมืองและประชาชน” เซฮุนยิ้มอย่างเพลิดเพลินและเคลิบเคลิ้มกับความฝันก่อนจะรู้ตัวว่าน้องเล็กของเขาไม่ได้นั่งตรงนั้นแล้ว

     

     

                “จะเอาน้องไปเป็นราชินีไม่ได้!” เสียงหนึ่งดังขึ้น เซฮุนมองไปยังตัวการ ไคมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ “ดูซิทรายเข้าอกน้องหมดเลย” ไคว่าอย่างหงุดหงิดก่อนจะเอามือลูบอกขาวๆ เนียนๆ แล้วปัดทรายออกให้

     

     

                “อ๊า......อย่าจับหน้าอกลู่หานสิ!” เซฮุนแผดเสียงอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินตรงรี่ไปผลักไคให้ล้มลงไปกับกองกับพื้นทราย เขายกตัวลู่หานขึ้นมาอุ้มไว้ไม่ให้ห่างตัว “เค้ายังไม่ทันทำอะไรซะหน่อยยยยยย!! ไคทำไมเป็นคนอย่างนี้!!!!! น้องไม่ใช่ของตัวเองคนเดียวซะหน่อยยยยยยยยย!!!!”

     

     

                “ไม่เอา!! น้องเป็นของเค้า ทำไมไม่เชื่อฟังพี่ห๊ะเซฮุน!” ไคเริ่มแย่งลู่หานกลับมา แต่เซฮุนไม่ยอม พวกที่เล่นขายของกันอยู่ก็เข้ามามุงดูกันใหญ่ แต่ไม่ว่าจะห้ามอย่างไร ทั้งสองก็ไม่ยอมปล่อยลู่หานซะที

     

     

                 “เค้าพาลู่หานมาก่อน ลู่หานเป็นของเค้า!!!” เซฮุนโวยวาย

     

     

                “ตัวเองทำทรายเปื้อนตัวน้อง ตัวน้องสกปรกหมดแล้ว ถ้าน้องไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง ถ้า...ถ้าผื่นขึ้นล่ะ ตัวเองนิสัยไม่ดี” ไคว่า

     

     

                “มาเล่นทรายตัวก็ต้องเปื้อนสิ ไม่ได้มานั่งบนพรหมซะหน่อยยย!!!”

     

     

                “เดี๋ยวมันเข้าปากน้องจะทำยังไง!”

     

     

                “เค้าไม่ให้เข้าปากกกกกกหรอกลู่หานเป็นราชินีของเค้าเค้าไม่ให้ลู่หานเป็นอะไรหรอกตัวเองนั่นแหละจับอกลู่หานของเค้าด้วยนิสัยไม่ดีเค้าจะฟ้องมาม๊า!!”

     

     

                “ไอ้ขี้ฟ้องงง!! เอาเลยเค้าจะฟ้องปะป๊า!”

     

     

                 “เอาลู่หานมานะไอ้ดำ!” เซฮุนตวาก่อนจะไปดึงแขนลู่หานมา แต่ไคก็ขวางเอาไว้ เซฮุนมองขอบตาพี่ชายผิวสีที่มีน้ำตาคลอเอาไว้ ไคมักจะร้องไห้อย่างนี้เสมอเวลาพูดถึงเรื่องสีผิวที่เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ

     

     

                 “จะมาแย่งของเค้าทำไม!!!!”

     

     

                “เงียบบ!!” ชานยอลเดินเข้ามากลางวง ด้วยความที่สูงที่สุดและเป็นพี่ใหญ่ที่สุด ทุกคนจึงหยุด

     

     

                “เอาน้องมานี่!” ชานยอลรีบอุ้มลู่หานมาจากสองพี่น้องที่ทะเลาะกัน แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเซฮุนดึงมือไปซะก่อนจนลู่หานร้องไห้เสียงพังเพราะความเจ็บ เซฮุนที่เห็นดังนั้นจึงตกใจและรีบปล่อยมือน้องทันที เพราะในขณะที่เขาดึงมือลู่หานนั้นก็โดนเข้ากับแขนที่แข็งแรงกว่าของชานยอลอีกที ทุกคนที่รู้ดีว่าลู่หานร้องไห้เสียงดังกว่าใครก็รีบเอามือปิดหูทันที ชานยอลที่อุ้มลู่หานอยู่ก็ถึงกับต้องเอียงศีรษะตัวเองออกมา

     

     

     “พี่จะบอกปะป๊ากับมาม๊า สองคนนี้ทำให้ตัวน้องมีแต่รอยแดงหมดเลย แล้วจะแย่งกันทำไม น้องไม่ใช่ของเล่นซะหน่อย โอ๋ๆ อย่าร้องน้า” ชานยอลกับแบคฮยอนช่วยกันโอ๋ปลอบน้องจนลู่หานเบะปากออกมาเสียงดังกว่าเดิมด้วยความขี้แย

     

     

                ชานยอลส่ายหน้าพร้อมกับเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน สภาพตอนนี้เรียกได้ว่าเตี้ยอุ้มค่อมเลยทีเดียว เพราะชานยอลก็ไม่ได้ตัวสูงมากนัก เวลาอุ้มเด็กจึงทำให้ขาลู่หานแทบจะแตะพื้นอยู่แล้ว แต่ในเก้าคนนี้ก็ไม่มีใครสูงเท่าเขาอีกแล้วในตอนนี้ ทั้งเก้าคนเดินตามชานยอลไปเงียบๆ ที่ชั้นสองก่อนที่มือเล็กๆ ของชานยอลจะเคาะประตูห้องนอนแรงๆ

     

     

                “ทำไมมาม๊ากับปะป๊าไม่ยอมออกไม่เปิดน้า น้องร้องไห้แล้วนะ ชู่วๆ” แบคฮยอนเดินไปเล่นกับลู่หานให้หยุดร้องไห้ แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร ลู่หานก็ไม่ยอมหยุด ร้องไห้เสียงดังจ้าอยู่อย่างนั้น แปลกเนอะ ทุกทีมาม๊ากับปะป๊าต้องรีบวิ่งมาแล้วสิ

     

     

                            แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ร้องไห้แบบนี้ต่อไปต้องดิ้นหลุดแน่ๆ ซิ่วหมินตั้งข้อสังเกตเมื่อลู่หานเริ่มดิ้นออกจากอ้อมอกชานยอลอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมานองหน้า พี่ๆ เริ่มกระวนกระวายกันยกใหญ่แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

     

     

                “ทุกคนหลบบ

     

     

                ปึงง!!

     

     

                เทาถอยหลังแล้ววิ่งไปถีบประตูออก เขาทำอย่างนั้นซ้ำๆ หลายๆ ทีจนพี่ๆ คนอื่นๆ เริ่มทำตามเพื่อให้ประตูห้องนอนของมาม๊าและปะป๊าเปิดออก

     

     

                           “อะ....อ๊า คริส พอ.....อ๊า...อื้มมมม

     

     

                ทั้งเก้าตาค้างเมื่อประตูเปิดออก พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงไปไหนกับภาพตรงหน้าที่คริสคลอเคลียเลย์อยู่บนเตียง เสียงร้องไห้ของลู่หานที่แผดดังไปทั่วบ้านทำให้คริสกับเลย์ที่กำลัง ‘ทำงาน’ อยู่บนเตียงหยุดทันที ดูเหมือนว่าทั้งคู่เพิ่งได้สติ เลย์รีบเอาผ้าห่มมาบังตัวเองไว้ก่อนที่คริสจะรีบเก็บแกนกายตัวเองที่ยังไม่หายตื่นไว้ในกางเกงให้เรียบร้อยก่อนจะพาเด็กๆ ออกจากห้องไปด้วยความอาย ปล่อยให้เลย์ต้องพยายามแต่งตัวอยู่คนเดียวภายในห้องนั้น

     

     

     

     

     

                “ปะป๊าทำอะไรกับมาม๊าง่า ทำไมมาม๊าร้องว่าเจ็บล่ะ” ซูโฮหันไปถามแบคฮยอน เขามักจะอยู่ใกล้ชานยอลมากกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้ดูเหมือนพี่คนที่สองไปโดยปริยาย เพราะชานยอลเป็นพี่ใหญ่จะต้องมีความรู้อะไรๆ มากกว่าน้องๆ อยู่แล้ว

     

     

                แบคฮยอนอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เค้ากำลัง....เอ่อ เปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนฝนกัน....อะนะ...

     

     

                “ท้องฟ้าเปลี่ยนได้ด้วยหยออ อยากเห็นจัง” เทาบิดตัวไปมา แบคฮยอนมองหน้าชานยอลอย่างเหนื่อยใจเบาๆ ถ้าอย่างงั้นพี่ซูโฮก็ลองมาทำกับเทาดูมั้ย ท้องฟ้าจะได้เปลี่ยนสีบ้าง

     

     

                มันทำได้เหรอ

     

                หยุดเลยนะ คริสห้ามปรามเด็กๆ ที่กำลังจะลองทำเรื่องอย่างว่าด้วยความไม่รู้ จากที่ฟังมานี่ดูเหมือนว่าปัญหาจะอยู่ที่เซฮุนกับจงอินนะ ทะเลาะอะไรกันน่ะลูก อย่ามาลงที่น้องสิ

     

     

                “ทำไมมาม๊าไม่นั่งล่ะฮะ ที่นั่งก็พอนี่ เซฮุนขัดเมื่อเห็นเลย์ยืนอยู่ข้างๆ โซฟา คริสกระแอมไอเล็กน้อย

     

     

                 “เอ่อ....มาม๊าปวดขาน่ะ ฟังปะป๊าดีกว่านะ” เลย์รีบปิดประเด็นก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง

     

     

                                        ปะป๊าไม่รู้ว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่คราวหน้าสองคนนี้อย่าเชวนกันทะเลาะจนทำให้คนอื่นเจ็บตัวอีกนะรู้มั้ย พี่ๆ ก็ด้วย เตือนๆ กันบ้าง ไคกับเซฮุนหน้าหงอลงไปทันทีหลังจากที่คริสดุพวกเขา เซฮุนเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าเด็กน้อยที่นั่งเล่นเน็กไทด์ของปะป๊าในอ้อมอกของปะป๊าอย่างเป็นห่วง รอยแดงๆ บนผิวขาวนุ่มเมื่อกี้หายไปแล้ว เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

     

                            ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปอาบน้ำกันได้แล้ว เล่นทรายมาตัวเปื้อนไปหมด เลย์บอกก่อนจะต้อนเด็กๆ ให้เข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า

     

     

                            “เซฮุน ทำไมนายชอบโชว์ไข่ตัวเองให้น้องดูเนี่ย ไม่น่ารักเลยนะ” คำพูดของไคทำให้ชานยอลปล่อยระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องน้ำ แบคฮยอนก็หันหน้าไปอีกทางก่อนจะก้มตัวลงหัวเราะอยู่คนเดียว ส่วนพวกที่เหลือก็พากันมองหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปเล่นฟองสบู่กันต่อ

     

     

                “ฮะๆๆ ไอ้ไข่เล็ก” เซฮุนรีบลงไปในอ่างแล้วเอาลู่หานมานั่งระหว่างขาด้วยก่อนจะเล่นเป็ดลอยน้ำกับอ่านหนังสือนิทานลอยน้ำให้ฟังอย่างไม่สนใจเด็กผิวหมึกข้างสระน้ำ ลู่หานหัวเราะชอบใจก่อนจะหันไปเอามือเซฮุนมานับๆ แล้วโบกไปมาตามประสาเด็กน้อย อิจฉาหรือไงกัมจง

     

     

                “ลู่หาน” ไคเรียก ลู่หานหันไปตามเสียงเรียก ไคยืดตัวขึ้นมาให้ลู่หานดู “ไข่พี่ไคกับไข่พี่เซฮุน ใครใหญ่กว่า

     

     

                ลู่หานเงียบไปครู่หนึ่ง นิ้วเล็กชี้ที่ปากอย่างใช้ความคิดพร้อมกับเอียงหัว

     

               

                “พี่เชฮุนไง พี่กัมจงไม่รู้เหรอ” ลู่หานตอบเสียงใส เซฮุนหันไปทำหน้าเยาะเย้ยก่อนจะไปเล่นกับลู่หานในอ่างต่อ ไคที่เห็นดังนั้นจึงหน้างอแล้วไปเล่นกับคนอื่นต่อไป

     

     

                เซฮุนเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของไคแล้วก็ยิ่งสะใจเป็นทวีคูณ และแล้วความคิดแปลกประหลาดก็แล่นเข้าหัวหนูน่อยคนนี้ราวกับเหนี่ยวไกปืน

     

               

                “ลู่หานอา” เซฮุนเรียกลู่หานอีกครั้ง ลู่หานหันมาหาพร้อมตุ๊กตาหมีแพนด้าของเทาในอ้อมกอด “ลู่หานชอบของใหญ่ๆ หรือของเล็กๆ อ่า” เซฮุนถามแล้วยิ้มเผล่ ไคหันขวับมาทันที แบบว่า ถ้าปะป๊ากับมาม๊าซื้อตุ๊กตามาให้ ลู่หานจะเลือกอันไหน

     

     

                “อันใหญ่ๆ!” ลู่หานตอบออกไปอย่างไร้เดียงสา พอดีกับที่ชานยอลอุ้มตัวลู่หานออกไปเช็ดตัวพอดี

     

     

                 เซฮุนหันมาเยาะยิ้มให้กับไคอย่างผู้ชนะ

     

     

                 “แค่นี้ยังไม่พออีกรึไง เป่าหูเด็กคอยดูเถอะโอเซฮุนเค้าจะไม่ให้นายเข้าใกล้น้องเลย จะขัดขวางไปตลอดชาติ!”

     

     

                “อ้อเหรอ ขอบคุณนะที่บอก แบร่!” เซฮุนเยาะเย้ยก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวตามชานยอลกับพี่ๆ ที่เหลือออกไป

     

     

     

                             ______________________________________

                            ว้ายยยยยย แต่งไปก็เขินไป จริงๆ เรื่องแบบนี้น่ะแต่งง่ายค่ะ แต่ต้องใช้ความฟินกับความหื่นนิดหน่อย เล่นเอาเหนื่อยเบาๆ เหมือนกัน =..= เป็นตอนแรกเลย ฝากด้วยนะ

     

                            Rewrite ในที่สุดก็รีไรท์เสร็จไปแล้ว ใช้เวลาวันกว่าๆ ในการรีไรท์เลยค่ะ ปีที่แล้วที่ลงก็กะลงเล่นๆ นั่นแหละค่ะ แต่พอรีเฟรชหลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชม.ก็มียอดแฟนคลับขึ้นมาแบบว่า เร็วมากอ้ะ555555 ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยน้าที่อ่านแล้วชอบกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×