คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [Cutest Brother] บทที่ 7 : ยามวิกาล 1 (100%)
บทที่ 7
ยามวิกาล1
ทุกคนต่างลงไปหาข้าวเย็นมากินกันเองในแต่ละห้อง แน่นอนว่าไม่มีใครรอใครแน่ๆ ละจะไปกันเป็นคู่อย่างเซฮุนกับลู่หาน ชานยอลกับแบคฮยอน ไคกับดีโอ หรือจะไปเป็นแก๊งค์อย่างกลุ่มของเทาที่ดูโดดเด่นซะไม่มี ยกเว้นคริสกับเลย์ที่ไม่ออกจากห้องไปซื้ออะไรกิน
“เอาข้าวเย็นไปฝากปาป๊ากับมาม๊าดีมั้ยพี่เซฮุน” ลู่หานถามขณะที่แยกย้ายกันเดินไปคนละทาง ตอนนี้พวกเขามาหยุดอยู่ที่ร้านเนื้อย่างเกาหลีแล้ว และกำลังตัดสินใจว่าจะกินอะไรดี
“ไม่ต้องไปขัดจังหวะสองคนนั้นหรอกหน่า.....เอ้า จะกินอะไรก็เลือกเอาสิ พี่หิวแล้วนะ” เซฮุนเร่งเร้าลู่หานที่ยืนดูอยู่นาน
“ผมยังเลือกไม่ได้นี่ พี่อยากกินอันไหนก็เลือกสิฮะ ผมกินได้หมดแหละถ้าพี่จะกินอะไร” ลู่หานบ่นอุบอิบ อันที่จริงเขาเลือกเนื้อที่จะกินได้แล้ว แต่ราคาค่อนข้างโหดใช่ย่อยทีเดียว ด้วยความที่ไม่อยากขัดใจพี่ชาย บวกกับเงินในกระเป๋าอันแสนน้อยนิดของคนตัวโต ลู่หานจึงเลือกที่จะไม่ซื้อมันมากิน
“แน่ใจ?” เซฮุนถามย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินไปเลือกเนื้อที่ตัวเองชอบ
ด้านชานยอลกับแบคฮยอน
ชานยอลพยายามเดินตามคนตัวเล็กที่เดินนำไปลิ่วๆ ให้ทัน เขาทั้งโมโห ทั้งเหนื่อยที่แบคฮยอนไม่ยอมฟัง
“นี่! แบคฮยอนรอก่อน!” ชานยอลหอบแฮกๆ อยู่ด้านหลัง แต่มีหรือที่แบคฮยอนจะสนใจ เขาเดินนำไปลิ่วๆ แล้ว และดูเหมือนว่าจะพยายามเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาสั้นๆ ของเขาจะไปได้ ครั้นชานยอลจะหยุดพักก็ไม่ได้ เพราะแบคฮยอนตัวเล็กอยู่แล้ว ถ้าจะให้มาตามหาในฝูงชนมากมายอย่างนี้คงใช้เวลานาน ชานยอลตัดสินใจรวบรวมแรงที่มีอยู่วิ่งไปหาแบคฮยอนและจับตัวเขาได้ในที่สุด “ย๊า ทำไมไม่รอกันเลย นี่โกรธอะไรอะ”
แบคฮยอนหันมามองหน้าอย่างไม่พอใจก่อนจะสะบัดมือชานยอลออกจากแขน
“ไม่ต้องมายุ่ง!!!”
“โกรธอะไรล่ะ! นี่ถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องกินข้าวเลยนะ!” ชานยอลเริ่มเดือด ตอนนี้ผู้คนที่กำลังจับจ่าย๙อของในตลาดเริ่มกันมามองด้วยความสนใจบ้างแล้ว ชานยอลจึงลากแบคฮยอนไปด้านหลังร้านโชว์ห่วย “อย่าดื้อกับพี่” ชานยอลใช้สรรพนามเก่าๆ มาพูดกับแบคฮยอน ปกติเขาไม่ใช้คำว่าพี่แทนตัวเองกับน้องๆ บ่อยนัก แต่ในสถาณการณ์ที่น่าโมโหและหงุดหงิดอย่างนี้ก็ช่วยไม่ได้
แบคฮยอนหรุบสายตาลงต่ำอย่างไม่กล้าสู้หน้านัก
“....เค้าขอโทษ...” แบคฮยอนก้มหน้างุดเหมือนเด็กๆ ที่ถูกผู้ปกครองตำหนิ ชานยอลยิ้มอย่างเอ็นดู ในใจก็หัวเราะเสียงดังให้กับตัวเอง
“แล้วตัวเองจะบอกมั้ยว่าโกรธเค้าเรื่องอะไร” ชานยอลดึงตัวแบคฮยอนมาไว้ข้างตัวแล้วโยกไปมา แบคฮยอนส่ายหน้า “อ่า....ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร เราไปซื้อของกินกันดีกว่า หิวมั้ย”
“...หิวสิ..” แบคฮยอนตอบเสียงอ่อย ชานยอลหัวเราะด้วยความชอบใจก่อนจะพาร่างเล็กไปซื้อของกินด้วยกัน
ด้านไคกับดีโอ
ทั้งสองต่างสนุกสนานกับการเซลก้ากันและกันและมัวแต่ดูของเล่นจุกจิกแสนน่ารักที่ตัวเองอยากได้
“ว้าววว น่ารักมากเลย จงอินนา มาดูนี่สิ” ดีโอกวักมือเรียกไคที่กำลังเลือกกระจกแบบพกพาอยู่อีกมุมหนึ่งให้มาหาตน แต่ดูเหมือนไคจะไม่ได้ยิน ดีโอจึงเดินไปหาเอง
“ดูสิ น่ารักมากเลยใช่ม้าจงอินนา” ดีโออวดกระเป๋าใส่โทรศัพท์ลายริลัคคูมะให้จงอินดู แต่ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังง่วนอยู่กับการเลือกกระจกเสียจนไม่สนใจคนรอบข้างมากกว่า ดีโอแอบงอนน้อยๆ “นี่ฉันว่าถ้านายจะเลือกกระจกนะ คิคิ นายน่าจะเลือกสี....เฮ้ย!!”
ดีโอร้องเสียงหลงเมื่อจงอินหันมาหาตน จังหวะที่ร่างสูงกำลังขยับตัวนั้นก็เป็นการดันให้ดีโอซึ่งอยู่ที่แคบอยู่แล้วไปชนกับของเล่นด้านหลังจนล้มลงไม่เป็นท่า
“ย๊า ดีโอเป็นอะไรรึเปล่า ขอโทษๆ ไม่ได้ยินจริงๆ” ไครีบพยุงดีโอขึ้นมาแล้วก้มลงเก็บของต่างๆ ใส่ในตะกร้าอันเล็กๆ ที่คนขายวางเอาไว้
“ทำไมไม่ฟังกันบ้างเลย!” ดีโอพูดตะคอกใส่หน้าไคด้วยความโกรธก่อนจะหยิบของที่พวกเขาเลือกมาด้วยกันไว้ที่เดิมแล้วเดินไปหยิบค็อตตอนบัตแพ็กใหญ่มาสองอัน “เอาตังค์มา”
“นี่! เรายังไม่ได้ซื้อของกินเลยนะ จะซื้อไปทำไมตั้งเยอะแยะไอ้ค็อตตอนบัตเนี่ย” ไคบ่นอุบอิบด้วยความหหงุดหงิด ดีโอมองร่างสูงด้วยสายตาหาเรื่องปนตัดพ้อเล็กๆ ก่อนที่ไคจะล้วงแบงค์สีม่วงออกมาแล้วยิ่นให้ดีโอเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังไม่พอใจเขาอย่างมาก
“ไม่ต้อง!!” ดีโอตวาดด้วยความโมโหก่อนจะเดินไปเอาถุงที่พวกเขาช่วยกันเลือกของที่ถูกใจมาถือเองแล้วฉกกระเป๋าตังค์ของจงอินไป ร่างสูงยืนทำหน้าเงอะๆ งะๆ ด้วยความงง รู้ตัวอีกทีก็เห็นดีโอถือของออกมาจากจุดแคชเชียร์แล้ว
“เดี๋ยวสิ! แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของกินกันล่ะ แล้วนายเอาค็อตตอนบัตมาทำไม” ไครีบเดินตามร่างเล็กที่กลังโมโหให้ทัน
“เงียบ”
“ฉันขอโทษที่ทำให้นายเจ็บ แต่ไม่ได้ยินจริงๆ.....คยองซูยา.....อย่าโกรธกันเลยน้า”
“เงียบ”
“แล้วเราจะเอาอะไรกินดีน้า ไปหาป๊ากับมะ...”
“โธ่เว้ย! ที่ซื้อค็อตตอนบัตมาก็เพราะนายไม่หุบปากซะทีนี่ไงเล่า!!! พูดอะไรไปก็ไม่ได้ยิน ก็เลยจะซื้อไปให้แคะหูนี่ไง เผื่อจะได้ยินอะไรสะดวกๆ หน่อย พอใจยั้ง“ ดีโอตอบ ไคที่เห็นว่าตัวเองมีคนคอยใส่ใจอย่างนี้ก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองแล้วยอมๆ ให้โดนดีโอบ่นไปก่อน ถึงจะมีความสุขในช่วงแรกๆ แต่ก็อาจจะเจ็บตัวในตอนท้ายก็ได้ นี่ล่ะมั้งรักข้างเดียว
แก๊งค์เต่าทั้งสี่
“ทำไมเปาจึไม่ลงมากับเราอะ กลับขึ้นไปทำไมวะ ขี้โกง” เทาบ่นก่อนจะถอดหมวกออกมาพัดให้ตัวเอง อากาศด้านล่างยิ่งร้อนใหญ่โดยเฉพาะการที่จะต้องมาเดินเบียดกับผู้คนมากมายในตลาดอย่างนี้
“หมอนั่นไม่สบาย ทำไมนายความจำไม่ดีเลยล่ะ” เฉินว่าก่อนจะหยิบหมูเสียบแท่งต่อไปมากิน
“เฮอะ ร้อนจะตายอยู่แล้วตอนนี้ ทำไมต้องแยกกันไปหาของกินกินกันเอาเองไม่รู้! นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างฉันควรจะมาด้วยซ้ำไป แต่นี่ก็ได้ของกินครบแล้ว กลับกันเหอะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” เทาบ่น เขาไม่ฟังเสียงของซูโฮกับเฉินที่ตัวเล็กแถมยังขาสั้นเลยสักนิดที่เดินตามเขาไม่ทัน
“เทาเทา!! รอด้วย!!” เฉินร้องและพยายามมองหาเทาแทนซูโฮในฐานะที่เขาสูงกว่า แต่ท่ามกลางคนที่เยอะมากมายอย่างกับฝูงมดอย่างนี้แทบจะมองไม่เห็นเลยทีเดียว ถึงแม้เทาจะเป็นคนตัวสูง (กว่าพวกเขา) ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะมีคนสูงแค่คนเดียวในตลาดนี้นี่
“พวกเราหลงทางแล้ว!” ซูโฮทำหน้าแทบจะเป็นลมก่อนจะพาเฉินไปนั่งพักตรงเก้าอี้หน้าร้านเบเกอรี่ด้วยความเหนื่อยอ่อน “นายเอาโทษศัพท์โทร.เข้าเครื่องใครสักคนในครอบครัวเราดิ”
“อ่า แป๊บนะ” เฉินทำท่าจะกดหาเบอร์เด็กๆ ในครอบครัวกับปะป๊าและมาม๊า แต่เขาก็เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้เมมเบอร์ใครเอาไว้ในมือถือเพราะเขาเพิ่งฟอร์แม็ตมันมาหมาดๆ “แย่จริง ฉันเพิ่งฟอร์แม็ตโทรศัพท์มาเมื่อสามวันก่อนเองอะ”
ซูโอทำหน้าเอือมๆ “นายจำเบอร์คนในบ้านได้ไหม สักคนนึงอ่ะ”
“ไม่อะ เดี๋ยวนี้ใครเขาท่องเบอร์โทรศัพท์กันบ้างล่ะ” เฉินส่ายหน้า “นายอ่ะ จำไม่ได้เหรอ”
“เหมือนนายนั่นแหละ -*- ใช่ว่าพวกเราจะต้องเคยมานั่งทำอะไรให้คนอื่นๆ กินซะเมื่อไหร่ล่ะ อย่างมากก็แค่นั่งรออะ” ซูโฮบ่นงึมงัม “นายจำทางกลับที่พักได้ป่าว”
“เหมือนจะจำได้....แต่ก็จำไม่ได้ว่ะ” เฉินหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะฉุดแบคฮยอนให้ลุกขึ้นมาด้วย “ไปตามหาพวกที่อยู่ในตลาดกันเหอะ คงไม่มีคนบ้าที่ไหนซื้ออาหารเร็วอย่างกับสายฟ้าแบบพวกเราหรอก”
“แล้วไม่ไปแจ้งคนหายเหรอ” ซูโฮที่เพิ่งนึกขึ้นได้ท้วงขึ้นมาขณะเดินตามเฉินไป เขาหันมามองด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย
“แล้วมันมีมั้ยล่ะ นี่ในตลาดนะ”
“ -*- ”
ทุกคนกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้วต่างก็บ่นอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง แน่นอนว่าห้องของแก๊งค์เต่าทั้งสี่ยังไม่กลับมายกเว้นซิ่วหมินที่นอนอืดรออยู่บนเตียงในห้อง
ห้องหมายเลข 1
“มา ฉันจะป้อน” ชานยอลจิ้มเนื้อหมูจ่อปากให้แบคฮยอนก่อนจะยิ้ม “เราใช้สรรพนามแบบนั้นก็น่ารักดีเนอะ”
“อือ ก็น่ารักดี แต่ฉันจะไม่ใช้กับนายอีก” แบคฮยอนปัดส้อมของชานยอลออกจากปาก
“อ้าวเฮ้ย ทำไมทำแบบนี้อะ” ชานยอลเอียงคอมองแบคฮยอนนิดหน่อยก่อนจะส่งสายตาค้อนๆ ไปให้ “ทีตอนจะซื้อเค้ายังใช้เค้า-ตัวเองอยู่เลย -____- แล้วนี่ปัดออกทำไม กินเข้าไปไอ้เนื้อเนี่ยมันอร่อย” ชานยอลพยายามจะยัดเนื้อเข้าปากแบคฮยอนอีกครั้งจนแบคฮยอนเขยิบตัวหนี
“อย่าเอามันมาใกล้!” แบคฮยอนรีบยัดผักเข้าปากเพื่อให้ชานยอลเห็นว่ามันไม่มีที่ว่างสำหรับอาหารชึ้นต่อไปแล้ว! “ออกอ้าอำอังอ๊ดอ๊ามอักไอ อื้ออ” แบคฮยอนแทบสำลักข้าวเมื่อชานยอลง้างปากแบคฮยอนออกแล้วยัดเนื้อเข้าไป
“ฮ่าๆๆ คราวหน้าบอกให้กินก็ต้องกิน ไม่งั้นจะต้องเจออะไรใหญ่กว่านี้ในปากแน่”
“แหวะ อื้ออ” แบคฮยอนพยายามกลืนอาหารทั้งปากลงคอให้หมดก่อนจะลงมือกินข้าวต่อ “ก็บอกแล้วว่าฉันกำลังลดความอ้วน บอกว่าใส่กางเกงยีนส์ไม่ได้ทำไมนายไม่ฟังห๊ะไอ้หูกางเก้าเมตร!!” ร่างเล็กปาไส้กรอกไส่หน้าชานยอลก่อนจะวิ่งวนไปรอบห้อง ชานยอลรีบหยิบของอย่างอื่นปาใส่ทันที
“เฮ้ย! เล่นทีเผลอเรอะ!!!!”
ฟุบ!
“อ๊ากกกกก!!!”
“…!!!!!”
“เฮ้พวกนาย....เห็นทะ...” ซิ่วหมินที่กำลังเปิดประตูเข้ามาเพื่อที่จะถามหาเพื่อนของเขาที่หายไปและยังไม่กลับมา เผื่อว่าพวกเขาจะกำลังจอยกันอยู่ที่ห้องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมาผิดเวลาไปหน่อย ชานยอลกับแบคฮยอนพยายามอธิบาย แต่มันกลายเป็นข้อแก้ตัวในสายตาซิ่วหมินไปเสียอย่างนั้น “อุ๊บส์ โทษทีถ้ามาขัดจังหวะ”
ปัง!
หมับ
ชานยอลเดินเข้ามาโอบไหล่แบคฮยอนแล้วยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ แต่แบคฮยอนดูอารมณ์ไม่จอยเลย
ห้องหมายเลข 2
ซิ่วหมินเดินไปบุกห้องนี้เป็นห้องต่อไป เพราะหลังจากไปเคาะห้องไคกับดีโอแล้วก็ไม่มีใครอยู่ ลู่หานเดินมาเปิดประตูให้ซิ่วหมินอย่างดีก่อนจะชวนมากินข้าวด้วยกัน
“เทาเทา ซูโฮ กับเฉินยังไม่กลับเลยอะ” ซิ่วหมินว่าก่อนจะซดซุปเข้าไปแค่ไม่กี่คำเท่านั้นแล้วเดินไปนอนบนเตียงต่อ เพราะอาการไข้ยังไม่หายดีนั่นเอง
“หลงทางชัวร์ๆ” ไคว่าก่อนจะตักข้าวกินคำโต เซฮุนมองอย่างไม่ชอบใจนัก
ก่อนหน้านี้เซฮุนกำลังเล่นปู่ไต่กับลู่หานอยู่ และกำลังจะกินข้าวด้วยกันแล้วแท้ๆ แต่พวกพี่ๆ อย่างสองคนนี้ก็เข้ามาป่วนและมาขอกินข้าวด้วย โดยอ้างว่าไม่มีตังค์ไปซื้อข้าวกินแล้วเพราะคยองซูโมโหคนตัวโตจริงๆ เซฮุนค่อนข้างหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงทั้งสองคนนี้ก็เป็นพี่ของตนอยู่ดี
“อร้อยยอร่อยยยเนอะ! ข้าวที่ไม่ได้ซื้อกินเองเนี่ย! ภูมิใจใช่มั้ยห๊ะ!!” เซฮุนได้ทีก็รีบแขวะทันทีที่ไคแสดงอาการว่าอาหารอร่อยอย่างออกนอกหน้า คนตัวดำหันมายิ้มเย้ยให้อย่างผู้ชนะ
“นี่! ชั้นเป็นพี่แกนะ! แค่มากินข้าวด้วยนี่ทำเป็นโวยวายเชียว”
“อันที่จริงผมไม่เต็มใจ จะให้พี่ดีโอกินแค่คนเดียว” เซฮุนว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะลู่หานขอผมนะ ไม่งั้นไม่ให้พี่มากินหรอก ไปขอส่วนแบ่งจากชานยอลกับแบคฮยอนโน่นนนนนไป ห้องข้างๆ กันเนี่ย เดินไปไม่ไกลหรอก”
“เชอะ พอดีว่าอาหารห้องแกชั้นได้ยินเสียง ‘ความอร่อย’ ก็เลยอยากมากินด้วย ทำไม? ให้พี่ชายของแกกินด้วยไม่ได้รึไง จู๋คงไม่ขาดหรอกนะ”
“เค้าว่ามันมีแต่กลิ่น ไม่มีเสียง ไปเรียนภาษามาใหม่นะจงอินนา”
“แล้ว.....พี่จะทำไงกับพวกที่หายไปอะ” ลู่หานหันไปถามพี่ๆ ทั้งสามหลังจากส่งซิ่วหมินเข้านอนแล้ว “พี่ๆ หายไปเลยอะ ผมไม่สบายใจเลย”
เซฮุนหรี่ตามองลู่หานที่แสดงความกังวลบวกเป็นห่วงพี่ๆ ทั้งสามที่หายไปขนาดนั้นอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
“เราก็นอนกันดีกว่าน่ะสิ ถ้ามันฉลาดคงจะกลับมาเองแหละ โตๆ กันแล้ว ใช่หน้าที่รึไง เมียรึก็ไม่ใช่ ก็มีเมียคนเดียวนี่” เซฮุนว่ายิ้มๆ ก่อนจะแอบมองคนตัวเล็ก
“แกจะต้องออกไปตามหาคนที่เหลือกับพี่ แล้วก็ชานยอลด้วย ให้คนที่อึดๆ นั่นแหละไปอะ อย่าทำหน้าแบบนั้น ชั้นไม่ชอบ เชื่อฟังด้วย ถึงแกจะไม่ชอบขี้หน้าฉัน แน่นอนว่าฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าแก -*- แต่เอาเถอะ ยังไงสามคนนั้นก็เป็นพี่แกนะ ออกไปตามหากันมั่งสิ” ไคว่าก่อนจะเดินเข้าไปลากเซฮุนออกมาจากห้อง เซฮุนสะบัดมือไคอย่างไม่ชอบใจก่อนจะเดินงอแงมาง้องแง้งลู่หาน
“ไม่อยากไปอะ พี่ไม่อยากไปนะลู่หานนา ช่วยพี่หน่อยสิ” ลู่หานมองหน้าเซฮุนอย่างลำบากใจก่อนจะแกะมือออก
“พี่ไปช่วยหาหน่อยสิ ทำไมเห็นแก่ตัวอย่างนี้นะ” ลู่หานตำหนิร่างสูงก่อนจะคะยั้นคะยอให้เซฮุนออกไปตามหาพวกที่เหลือในขณะที่ไคกำลังไปลากตัวชานยอลออกมาจากเตียง
“แล้วจะได้อะไรตอบแทนล่ะ”
“ไม่มีหรอกครับ”
“งั้นก็ไม่ไป”
“แล้วอยากได้อะไรล่ะฮะ นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ” ลู่หานบ่นพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะมองหน้าเซฮุนที่ยิ้มเผล่
“ปั๊มลูก” เซฮุนว่าออกมาอย่างมั่นใจ
“ผมให้ลูกพี่ไม่ได้หรอก พี่ก็รู้นะ” ลู่หานพยายามผลักหน้าเซฮุนออกไปห่างๆ แต่เซฮุนก็ยังอยู่นิ่งๆ เขามองคนตัวเล็กยิ้มๆ จนกระทั่งลู่หานพยักหน้าให้
“ก็ได้ รีบไปได้แล้วไป” ลู่หานหน้าแดงฉ่าก่อนจะผลักอกเซฮุนออกจากตัว ร่างสูงมองคนตัวเล็กยิ้มๆ ก่อนจะวิ่งแจ้นออกไปหาพี่ๆ ที่รออยู่นอกห้อง
“ทำไมแกต้องเรียกชั้นออกมาด้วยห๊ะ!” ชานยอลบ่นอุบอิบก่อนจะส่องไฟฉายไปทั่ว ไคลอบมองใบหน้าคนอายุเยอะกว่าก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย
“เป็นพี่ประสาอะไรไม่ห่วงน้อง นี่ไอ้สามคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้เนี่ย สามัญสำนึกน่ะไม่มีเล้ยยยย”
“เชอะ ฉันเป็นห่วงหรอกน่าถึงได้เลิกหาเรื่องแบคฮยอนน่ะ เชอะ”
“นี่ฮยอง! รีบๆ ช่วยกันหาได้มั้ย! ผมอยากกลับห้องจะตายอยู่แล้วนะ” เซฮุนว่าอย่างหงุดหงิดแล้วไล่ส่องไฟฉายไปทั่ว ไม่มีร่องรอยแม้แต่เงาขงคนเลยทีเดียว จะมีก็แต่ร้านค้าบางแห้งเท่านั้นที่ยังเปิดไฟสลัวๆ ไว้อยู่จนดูน่าขนลุก
“จริงๆ พวกเราควรจะบอกปะป๊ากับมาม๊านะ” ชานยอลออกความเห็น “ถ้าพวกท่านรู้ก็จะแจ้งตำรวจ ไม่ต้องให้ลูกชายสุดหล่ออย่างฉันมาหาเองหรือมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
“ฉันหล่อกว่านายอีก” เซฮุนแย้ง ชานยอลหันหน้ามาหาเซฮุนก่อนจะยิ้มเยาะ
“ไอ้น้องชาย.....ฉันมันป็อบปูลาร์ที่สุดในมหาลัยนะจะบอกให้ เอาอะไรมาวัดล่ะห๊ะ” ชานยอลถามยิ้มๆ ในความมืด ไคที่กำลังส่องไฟฉายหาสามคนนั้นอยู่ก็กลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่ายของสองคนนี้ที่ไม่ยอมหุบปากแล้วช่วยกันหาซะที
“ใครหล่อกว่าก็ต้องมีเมียก่อนดิ นายอ่ะยังไม่เคยผ่านผู้หญิงมาเลยใช่ม้า เฮ้ย...จะว่าไปผู้ชายก็ยังไม่มีนี่หว่า”
“นั่นแกข่มขืนน้องชายสุดที่รักของชั้นนะ -*- เขาไม่ได้เต็มใจจะให้แกทำซะหน่อย”
“แต่ลู่หานก็ไม่ได้ขัดขืนนี่ ครางซะเพราะเลยด้วย” เซฮุนแก้ต่างให้ก่อนจะหันไปหาชานยอลแล้วเอาไฟฉายส่องหน้าตัวเองก่อนจะยิ้มเยาะเย้ยให้ เขาไม่รู้เลยว่าในความมืดแบบนี้มันน่ากลัวมากกว่าจะให้อารมณ์เยาะเย้ย
“ไอ้ลามก ฉันไม่น่ามีน้องอย่างแกเลย”
“เพราะนายมัวแต่แอ๊บใสใสอยู่นั่นไงถึงไม่เป็นฝั่งเป็นฝากับเค้าซะที แก่แล้วก็หัดคิดถึงอนาคตบ้างนะลุง เดี๋ยวมันจะเหี่ยวเอา....ทำงานไม่ได้เรื่อง”
“เชอะ ของแกล่ะเต่งตึ๊งงเต่งตึง!”
“นี่สองคนนั้นน่ะ ใจคอจะเอาแต่เถียงเรื่องเมียกันรึไง นี่ฉันก็ง่วงเหมือนกันนะ ทำไมไม่ช่วยกันหาล่ะ! ชักช้าอยู่นั่นแหละ” ไคเริ่มโวยวายทันทีที่มีโอกาส
“ไม่นะ” เซฮุนว่า “ลู่หานชักเร็วจะตาย ชักจนเราเสร็จพร้อมกันเลย” เซฮุนว่ายิ้มๆ ชานยอลหันมามองเซฮุนอย่างหมั่นไส้
“หาแล้วแต่ไม่เจอนี่! ใช่ว่าเราจะเอาแต่เถียงกันซะหน่อย!” ชานยอลโวยวายและเริ่มคิดถึงคนตัวเล็กขี้บ่นที่กำลังทำหน้างออยู่ในห้องกับเตียงนอนกว้างๆ กับอาหารอร่อยๆ
“นะ...นั่นเสียงชานยอลใช่ไหม” เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืด ทั้งามจึงหยุดและพยายามเดินเข้าไปใกล้ต้นเสียง แต่ก็ยังคงปอดแหกกลัวผีเหมือนเดิมจึงยอมเอาตัวติดกันไว้
“คะ...ใคร! ออกมานะ!” ชานยอลที่เริ่มกลัวฉี่จะราดแล้วเพราะเจ้าของเสีงยังไม่ออกมาเสียที
“ฉันเอง” ทันใดนั้นเจ้าของเสียงก็ก้าวออกมายืนตรงหน้า ทั้งสามคนแปลกใจพอๆ กัน “ชานยอลอปป้ามาทำอะไรที่นี่คะ”
“อ้าว จียองเองเหรอ” ชานยอลหัวใจแทบจะหล่นไปอยู่ที่เท้าว่าออกมาอย่างโล่งใจก่อนจะสะบัดน้องๆ ทั้งสองออกจากตัว เธอยิ้มบางๆ ให้ชานยอลก่อนจะเดินกระแทกส้นสูงออกมาแล้วเก็บถุงยางอนามัยลงในกระเป๋าสะพายสำหรับผู้หญิง
“ฉันไปล่ะนะคะ ดึกแล้ว ไม่อยากถามให้มากความหรอกว่ารุ่นพี่มาทำไม แต่ฉันมาทำงานของฉัน....ไปนะคะ” จียองว่า แต่ก่อนเธอจะหมุนตัวกลับ เธอก็หันมาฝากรอยลิผสติกสีส้มอมชมพูไว้ที่แก้มของชานยอลก่อนจะเดินกระแทกส้นสูงออกไป ก่อนจะตามด้วยชายร่างสูงที่ค่อนข้างมีอายุหน่อยเดินออกมาจากตรอกเดียวกันในสภาพที่ไม่รูดซิปกางเกง ทั้งสามจึงร้องอ๋อขึ้นมาพร้อมกันในความคิดทันที
“ทำในที่แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้นดีนะ อีกหน่อยฉันจะพาลู่หานมาทำบ้าง มันระทึกใจดีแน่ๆ คึคึ” เซฮุนว่าก่อนจะยิ้มทะเล้นให้กับความคิดร้ายของตัวเองขณะที่พวกเขาเดินมาไกลพอสมควรแล้ว
“ฉันจะไม่ให้แกแตะน้องอีกเลยคอยดู” ไคว่าอย่าง้ทาทายก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ยาว ตอนนี้เวลาสี่ทุ่มแล้ว มันเป็นเวลาที่เขาควรจะนอนได้แล้วตอนนี้ เขาเหยียดขายาวๆ ออกไปให้สุดความยาวของเก้าอี้ก่อนจะรีบชักขากลับด้วยความกลัวปนตกใจ
“เฮ้ยมีอะไรไม่รู้อยู่ตรงนี้อ่า!!!!” ไคโวยวายก่อนจะวิ่งน้ำตาแตกหันไปเกาะกลุ่มเข้ากับเซฮุนและชานยอล “เหมือนคนเลย อี๋!! มันต้องเป็นศพแน่ๆ ฉันกลัวว!!!! กลับห้องกันเถอะ!!!!” ไคโวยวายก่อนจะพาให้ปรอทความปอดแหกของสองคนที่เหลือพุ่งตามไปด้วย แต่ชานยอลที่มีศักดิ์เป็นพี่ใหญ่สุดจึงไม่ได้โวยวายอะไรออกมา ได้แต่ยืนเงียบๆ ขาสั่นแบบนั้น
“อย่าปอดแหกสิไอ้ดำ” เซฮุนได้ทีก็เย้ยขึ้นมาทันที แม้ในใจจะกลัวตามคำโวยวายของพี่ชายไม่น้อยไปกว่ากันเลย“อาจจะเป็นพวกนั้นก็ได้ เปิดไฟฉายซิฮยอง”
“ไม่!!! ฉันไม่เปิด!!! ทำไมแกไม่เปิดล่ะห๊า!!!” ไคเริ่มตัวสั่นและเดินไปแทรกกลางระหว่างสองคนนี้
“มานี่เดี๋ยวจะเปิดเอง” เซฮุนรับคำอย่างกล้าๆ กลัวก่อนจะหลับตาปี๋พร้อมกับพี่ชายทั้งสองคนแล้วเปิดไฟฉาย
“อ๊าแสบตา” เสียงหนึ่งร้องขึ้นมาท่ามกลางแสงจากไฟฉาย ทั้งามจึงลืมตาขึ้นก่อนจะพบว่าเป็นเฉินกับซูโฮนั่นเอง
“ย๊าพวกนายย!!” ชานยอลรีบวิ่งไปกอดทั้งสองทันทีด้วยความคิดถึง “ทำไมไม่โทร.บอกพวกเรา!!”
“พวกเราลืมอะ เทาเทาอยู่ไหนก็ไม่รู้อะ ฮ้าวว” เฉินว่าก่อนจะพยุงซูโฮที่หลับปุ๋ยอยู่อย่างนั้น “พวซูโฮกลับห้องที หมอนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ”
“พวกเราต้องหาเทาเทาก่อนนะ จะกลับก่อนได้ไง” ไคว่าก่อนจะต้องกลายมาเป็นคนแบกซูโฮไว้บนหลังทันที
วืดดดด....วืดดดดด.....วืดดดด
โทรศัพท์ชานยอลสั่นรัวๆ ก่อนจะพบว่าเทากลับถึงห้องแล้ว ทั้งห้าคนจึงรีบกลับห้องไปเพื่อไปนอน คงจะยกเว้นแค่คนเดียวเท่านั้นที่กลับไปแต่ไม่ได้ไปเพื่อที่จะนอน...
__________________________________
รอกันนานมากใช่มั้ยเอ่ย T^T เราขี้เกียจเองแหละจ้า 555555 นอนตีพุงอ่านฟิคอ่านโดเล่นทวิตไปเรื่อยๆ เลยรอเม้นขึ้น ก๊ากกกก ขอให้สนุกนะคะสำหรับตอนนี้ ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเนาะ ตอนนี้ยาวกว่าตอนื่นๆมากกกก แล้วก็ใช้เวลาในการแต่งแบบไฟลนตูดเลย เหนื่อยมากค่ะ -____-;
ความคิดเห็น