ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    De voo cide ตำนานขุมทรัพย์ต้องสาป [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 52


    ปฐมบท

                    ตำนานเล่าขานเรื่องหนึ่งที่ยังคงปรากฏอยู่คู่กับโลกใบนี้มานานแสนนาน เรื่องราวของขุมทรัพย์ เดอร์วู 
    ที่ซุกซ่อนอยู่ในป่าอาถรรพ์ ทางตอนใต้ของรัฐแอลิโซน

                    เมื่อหลายพันปีก่อน ดินแดนทั้งทวีปนี้ถูกปกครองโดย อาณาจักร แอลติวาเนีย

                    ในสมัยพระเจ้า เอลเติร์ก ที่ 4 แผ่นดินยังถูกแบ่งแยกเป็นเมืองต่างๆมากมาย และไม่ขึ้นต่อกัน การทำสงคราม รบราฆ่าฟันเพื่อขยายอาณาเขต เกิดขึ้นทุกหัวระแหง แผ่นดินร้องเป็นไฟ ชาวเมืองต่างอดอยากและทุกข์เข็น พระเจ้า เอลเติร์ก ที่ 4 จึงทรงบัญชาให้ แม่ทัพ เดอร์วู นำทัพทหารกล้านับพันนาย ออกไปรวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว 

                    ด้วยความยากลำบากถึงสิบปี ในที่สุด แม่ทัพ เดอร์วู ผู้เกรียงไกร ก็สามารถผสานอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้การปกครองของ พระเจ้า เอลเติร์ก ที่ 4

                    ความดีความชอบในครั้งนี้พระองค์จึงทรงแต่งตั้งเป็น ดยุค และพระราชทานดินแดนทางตอนใต้เป็นศักดินาให้ครอบครอง

                    เหตุการณ์ในครั้งนี้กลับนำพาความไม่ชอบใจแก่องค์รัชทายาท แต่ทรงขัดราชโองการไม่ได้ จึงได้แต่เก็บความไม่ชอบใจไว้ลึกๆ เพราะดินแดนนั้นอยู่ติดทะเลเกือบครึ่งทวีป เหมาะสำหรับการคมนาคม ค้าขายเป็นอย่างยิ่ง การที่ทรงประทานให้แก่ผู้อื่นจึงเป็นเหมือนยกอำนาจในการปกครองอาณาจักรให้กับคนผู้นั้นไปเสีย องค์รัชทายาทเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของพระบิดาช่างโง่เขลายิ่งนัก

                    เมื่อสิ้นรัชกาล องค์รัชทายาทจึงถูกแต่งตั้งเป็น พระเจ้า เอลเติร์ก ที่5 อาณาจักรมีความรุ่งเรื่องถึงขีดสุด

                    เนื่องจากแผ่นดินสงบ ไม่มีสงคราม การพัฒนาจึงทำได้ง่าย

                    แม้จะรู้ว่าเป็นเพราะ ดยุค เดอร์วู แต่ความไม่พอพระทัยยังคงมีอยู่ ความรู้สึกระแวง เหมือนเป็นเสี้ยนหนามคอยทิ่มแทงพระองค์อยู่ตลอด

                    เมื่อ ดยุค เดอร์วู ตาย ลูกชายคนเดียวของตระกูลจึงรับศักดินาต่อเป็น ดยุค เดอร์วู ที่ 2 แต่ความสามารถทางด้านการรบนั้นหามีไม่

                    ดยุค เดอร์วู ที่ 2 สนใจแต่เรื่องศิลปะและวรรณกรรม อ่อนแอเสียยิ่งกว่าทาก ในสายตาขององค์กษัตริย์ เป็นจังหวะดีทีเดียวในการกำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นหูพ้นตา

                    บังเกิดข่าวลือว่า ดยุค เดอร์วู ที่ 2 คิดตั้งตัวเป็นกบฏ มีการซ่องสุมกำลังคนไว้มากมาย พระเจ้า เอลเติร์ก ที่ 5 จึงทรงส่งกองทัพไปโค่นล้มตระกูล เดอร์วู

                    แม้จะมีกำลังคนไม่ต่างกันแต่ ชั้นเชิงในการรบของ เดอร์วูนั้นเป็นศูนย์ไหนเลยจะเทียบ แม่ทัพผู้กล้าได้

                    ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ดยุค เดอร์วู ที่ 2 ก็ถูกจับกุมตัว ต้องโทษประหารทันที

                    ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ดยุค เดอร์วู ผู้อ่อนแอแต่กลับต้องการรักษาไว้ซึ่งความเป็นธรรมและศักดิ์ศรีของบิดา จึงได้ขายวิญญาณตนแก่ซาตาน แลกกับอำนาจลึกลับ

                    ว่ากันว่า ในตอนที่ประหารได้บังเกิดแสงวูบวาบ ท้องฟ้าปั่นป่วน แผ่นดินสั่นสะเทือน และคนทั้งหมดที่อยู่ในอาณาเขตตระกูล เดอร์วู หายสาบสูญ ดินแดนถูกปิดตายกลายเป็นป่าต้องสาป

                    ไม่นานต่อมา พระเจ้า เอลเติร์ก ที่ 5 ก็ทรงสวรรคตด้วยโรคประหลาด

                    ผู้คนต่างเชื่อว่าเป็นเพราะคำสาปของ ดยุค เดอร์วู ดินแดนแห่งนั้นกลายเป็นที่อาถรรพ์  แต่ทรัพย์สมบัติของตระกูลเดอร์วูที่มีอยู่มากมายน่าจะยังคงอยู่

                    กลายมาเป็น ตำนานที่น่าหลงใหล น่าค้นหา

                    วันเวลาผ่านไป เรื่องราวต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปบ้าง

                    บางตำนานเล่าว่า ป่าแห่งนั้นต่อมากลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ร้าย สัตว์ปีศาจ พวกอมนุษย์

                    บ้างก็ว่า ขุมทรัพย์นั้นถูกคุ้มครองโดย เหล่าทหารผีดิบของ ตระกูลเดอร์วู

                    บ้างก็ว่าเป็นที่สิงสถิตของเหล่าเทพเจ้า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์ไม่ควรเข้าไป

                    ถึงแม้จะมีรายละเอียดแตกต่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกๆตำนานกล่าวไว้เหมือนกันคือ

                    หากมีผู้ใดย่างกรายเข้าไปในป่าอาถรรพ์แห่งนั้นแล้ว จะไม่มีวันได้กลับออกมาอีกเลย

                    ความน่าพิศวงเหล่านี้ทำให้ใครๆต่างก็เกรงกลัว แต่ก็มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่เห็นเป็นเรื่องท้าทาย

                    คนเหล่านั้นเดินทางสู่ป่าอาถรรพ์และไม่ได้กลับออกมาอีกเลยแม้แต่คนเดียว

                    เป็นเช่นนี้มาหลายยุคหลายสมัย จนถึงปัจจุบันที่มีวิวัฒนาการใหม่ๆมากมาย  ตั้งแต่การประดิษฐ์หลอดไฟ จนล่าสุด คือรถจักรไอน้ำสายที่ยาวที่สุดสามารถสร้างข้ามทวีปอลัซซีเซีย ผ่านสิบสามรัฐสำคัญ

                    นักวิทยาศาสตร์มากมายต่างให้ความสนใจและพยายามที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ไขปริศนา แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าในป่าแห่งนั้นมีสิ่งใดอยู่กันแน่ เพราะทุกครั้งที่มีการสำรวจ จะมีเหตุการณ์ประหลาดให้การสำรวจล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม หรือไม่ก็หายสาบสูญในป่าอาถรรพ์

                    จนถึงตอนนี้ ยังมีคนอีกมายมาก ที่หลงเสน่ห์ความลึกลับนี้

                  
     
    เดินเข้าไปเหมือนต้องมนต์สะกด

                   
    มนต์แห่งความตาย

     

    #####

     

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×