คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : Break down
Chapter 7 Break down
กายุนปิดแล็ปท็อปลงด้วยหลากหลายความรู้สึกในใจ
การแอบเล่นเฟสของพี่สาวตัวเอง ใช่ว่าเธอจะทำไม่บ่อย แต่ว่า...พอแอบคุยกับแทนอึนด้วย มันกลับเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา
เพราะอะไรกันนะ...
แต่อย่างน้อย กายุนก็รู้สึกดีที่ได้บอกออกไปแล้ว ว่าเธอขอบคุณเขามาก
ในใจของกายุนรู้สึกอย่างไร เธอรู้ตัวเองดี เพียงแต่หลอกตัวเองว่ามันอาจจะไม่ใช่ก็เท่านั้น
รู้สึกดีกับเขางั้นเหรอ ? แค่รู้สึกดี....จริงๆใช่มั้ย
แต่วันนี้ทั้งวัน กายุนก็เอาแต่นึกถึงภาพคนๆหนึ่ง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน...เขาเข้ามาใกล้เธอมาก เหตุการณ์ที่เขาต่อยไอ้บ้านั่น จนมาถึงวันนี้ที่เขาเป็นคนจัดการเรื่องรถให้
กายุนสังเกตอยู่เสมอว่าสิ่งที่แทนอึนปฏิบัติกับเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ ต่างจากสิ่งที่แทนอึนปฏิบัติกับเยอึน แทนอึนจะดูเอ๋อๆซะมากกว่า
แต่ภาพของแทนอึนที่ติดตากายุน คือภาพที่เขาทำตัวเอ๋อๆนี่แหละ
มันดูน่ารัก และแปลก แตกต่างจากคนอื่นแบบที่...ตัวเธอเองก็อธิบายไม่ถูก
กายุนไม่รู้ว่าเยอึนจะคิดเหมือนกับเธอไหม ไม่รู้ว่าในสายตาเยอึนมองแทนอึนเป็นแบบไหน ไม่รู้ว่าพี่สาวของเธอเผลอตกหลุมรักคนๆนี้ไปแล้วหรือยัง
เพราะจากไม่กี่วันที่กายุนได้พบกับเขา เธอก็รู้เลยว่า...
แทนอึนเป็นคนที่สมควรถูกตกหลุมรักมากที่สุด
นะเอยนอนไม่หลับด้วยหลายสาเหตุ นอกจากจะไม่สบายใจเรื่องแคทแล้ว เสียงของคิบอมมันก้องอยู่ในหัว
‘เดี๋ยวคืนนี้ค่อยกลับมาเอา’
นะเอยรู้ว่าเขาหมายถึงเงินค่าเล่นกีตาร์ที่ค้างไว้-___- แต่ว่า...นี่มันจะตีสี่แล้วนะ คิบอมยังไม่กลับมาเลย นะเอยเงี่ยหูฟังเสียงประตูห้องตรงข้ามแต่ก็ไม่ได้ยินอะไร
ทำไมเขายังไม่กลับมาอีกนะ... นะเอยว้าวุ่นใจเหลือเกิน
ถ้าจะเปิดไฟก็กลัวว่าเพื่อนจะตื่น นะเอยจึงได้แต่เล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา เธอหยิบมันขึ้นมาเล่นแล้วก็วางลง เล่นแล้วก็วาง เป็นแบบนี้อยู่สิบๆรอบ แม้ดวงตาจะล้าแต่มันก็ยังไม่หลับซะที พอลองนับไก่ก็ยิ่งไม่หลับเข้าไปใหญ่
ในขณะเดียวกัน..
ณ ผับแห่งหนึ่งที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
“โอ๊ย!”
คิบอมที่เมากึ่มๆถูกชายหญิงคู่หนึ่งเดินชนขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากผับ เขาหันไปมองเฉยๆและกะว่าจะไม่เอาเรื่องเพราะรู้ว่าตัวเองเมาแล้ว คงพูดจาไม่รู้เรื่องนัก
ทว่าแทนที่ชายหญิงคู่นั้นจะขอโทษ ผู้หญิงกลับหันไปพูดกับผู้ชายว่า
“ฮยอกแจคะ ทำไมคนพวกนี้ถึงเดินไม่มองทางเลย!”
ฮยอกแจ งั้นเหรอ...
ชื่อคุ้นๆนะ
“เร็วๆดิเกรฟ!” แต่ชายหนุ่มที่ชื่อฮยอกแจกลับหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่เธอแล้วเดินลิ่วไปเลย พอผู้หญิงคนนั้นยืนทำหน้าเอ๋อๆ เขาก็เดินกลับมาแล้วกระชากเธอออกไปอย่างแรง
คิบอมได้แต่นิ่งมองตามไปแล้วก็นึกถึงนะเอยขึ้นมา ..หวังว่าไอ้ฮยอกแจของนะเอยก็ไม่ใช่คนเดียวกับไอ้เลวคนนี้นะ
เขาเดินทางกลับคอนโดอย่างโซซัดโซเซ วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันแห่งการเปลี่ยนแปลงของคิมคิบอมเลยก็ว่าได้ เพราะเขาเปลี่ยนถึงสามอย่างด้วยกัน
หนึ่ง เปลี่ยนบุหรี่มาเป็นกลิ่นช็อกโกแลต ซึ่งเขาไม่ชอบเลย
สอง เป็นคืนแรกที่เขาไม่ได้เมามากขนาดนี้หลายปีแล้ว
และสาม เป็นคืนแรกที่เขาไม่ได้จูบใครเลย
คิบอมไม่รู้ตัวหรอกว่า ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะใครกัน...
คิบอมรอดจากตำรวจกลับมาถึงคอนโดได้อย่างหวุดหวิด เขาลืมดูนาฬิกาจึงไม่รู้วันรู้คืนแล้ว พอจะเข้าห้องตัวเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสัญญาอะไรกับใครไว้
ค่าเล่นกีตาร์สินะ...
เขายืนพิงกำแพงอย่างไม่มีแรงและชั่งใจว่าจะเข้าไปหานะเอยดีมั้ย
แต่บางอย่างในร่างกายก็บอกเขาว่า เขาไม่ควรจะเข้าไปตอนนี้ ในเวลาแบบนี้และสภาพนี้ ไม่ควรมากๆ
คิบอมจึงเดินเซกำลังจะเข้าห้องตัวเอง ทว่า..
“…”
นะเอยที่ได้ยินเสียง เปิดประตูออกมาอย่างง่วงๆ เธอช็อคกับสภาพเมาๆของเขาจนไม่รู้จะพูดอะไร
“เอ่อ...ค่อยเอาตังค์พรุ่งนี้นะ ขี้เกียจหา ไม่อยากเปิดไฟ”
นะเอยพูดตามบทที่คิดมาทั้งคืนเป๊ะ แต่ดูเหมือนคิบอมจะไม่ค่อยรับรู้อะไรเท่าใดนัก เขาหันกลับมาแล้วเอาหลังพิงกำแพงดังตึง ! จนนะเอยต้องปิดประตูห้องตัวเองเพราะเสียงจะเข้าไป
“ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ ! เดี๋ยวกีตาร์พังหมด”
เธอเดินเข้าไปถอดกีตาร์ออกจากหลังของเขาทันที ซึ่งคิบอมก็ยอมแต่โดยดี
“ถือเข้าไปไหวมั้ยเนี่ย” เธอถามเขา แต่คิบอมก็ไม่ตอบแล้วมองหน้า
นะเอยสบตากับเขาได้เพียงวินาทีเดียวเท่านั้นก็รีบหลบตา เธอตัดสินใจเปิดประตูห้องเขาแล้วเดินถือกีตาร์นำเข้าไป
คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำได้ในตอนนี้...
เขาทิ้งตัวลงที่โซฟาขณะที่นะเอยไล่เปิดไฟแล้วหาที่วางกีตาร์ให้เรียบร้อย ปกติแล้วนะเอยไม่ค่อยจัดการอะไรให้ใครแบบนี้หรอกนะ..
แต่บางครั้ง คนเราก็ทำบางสิ่งขึ้นมาได้ เพื่อบางคน
คิบอมหลับตาลงช้าๆ นะเอยคิดว่าเขาหลับ แต่เธอเห็นว่าลำคอไล่ลงไปถึงหน้าอกของคิบอมนั้นแดงเหมือนเป็นผื่น หรืออาจเป็นเพราะตัวร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แถมอากาศก็ร้อน นะเอยจึงหาผ้าสีขาวแถวนั้นมาชุบน้ำเย็น แล้วเอามาวางให้เขา
“เอาไปเช็ดซะ ท่าทางนายจะร้อน” …คิบอมลืมตาขึ้นมอง
คิบอมรู้สึกถึงผ้าเย็นๆที่ข้างคอและแอร์ระดับเย็นมากที่นะเอยเพิ่งเปิดให้ การกระทำแบบนี้ทำให้หัวใจของเขาไหววูบ...เพราะมันทำให้เขานึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง
แม่ของเขา...คือคนที่ทำแบบนี้ ทุกครั้งที่เขาเมากลับมาบ้าน สมัยมัธยม
แม่รู้ว่าคิบอมชอบอากาศเย็น จึงมักจะเปิดแอร์แรงๆและเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้เสมอ และถึงแม้จะรู้ว่าพอทำแบบนี้แล้วคิบอมมักจะเป็นไข้ในวันถัดไป แต่คิบอมก็ยังเรียกร้องให้แม่ทำแบบนี้ ..ก็เขาชอบนี่นา
แล้วเขาก็จะอ้อนแม่ให้เข้ามากอดแน่นๆทุกครั้งด้วย...มันอบอุ่นมากเลยล่ะ
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
คิบอมจ้องหน้านะเอยนานจนเธอถามขึ้นอย่างกลัวๆ แต่คิบอมกลับไม่ตอบ คงเพราะตอนนี้ความคิดของเขาหลุดลอยไปไกลแล้ว
นะเอยไม่อาจรู้ได้เลยว่าคิบอมกำลังคิดอะไรอยู่
จริงๆแล้วเธอไม่รู้หรอกว่าคิบอมจะชอบเย็นๆแบบนี้มั้ย แต่เธอไม่รู้จะดูแลคนเมายังไงต่างหากก็เลยลองมั่วๆไป-..-
“นายเมาหรือไข้ขึ้นกันแน่เนี่ย ถ้าเป็นอะไรก็รีบไปเรียกเลยนะ”
“…” เขายังคงเอาแต่มองเธอ
“เอ้า รีโมตแอร์”
“…”
“นอนได้แล้ว ตาจะปิดแล้วนั่น”
“…”
นะเอยไม่เข้าใจว่าคิบอมจะมองอะไรนักหนา เธอรีบเดินกลับเข้าห้องตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกๆ ใจหนึ่งก็ห่วง ใจหนึ่งก็งงๆ ปกติคิบอมก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วนะ...พอเมาหนักมาเงียบอย่างเดียวนี่กูเงิบเลย- -
คิบอมในห้องหลับตาลงอีกครั้ง เขาคว้าผ้ามาโปะๆที่หน้าและตัวของตัวเองอย่างมีความสุข พลางหลับไปโดยกอดผ้าผืนนั้นเอาไว้
สองสามชั่วโมงต่อมา อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
ภายในคฤหาสน์สไตล์ราชวงศ์ฝรั่งเศส แม้จะใหญ่และหรูหราราวกับพระราชวัง แต่ตอนนี้เหลือสมาชิกในบ้านอยู่เพียงคนเดียว บรรยากาศจึงโดดเดี่ยวเหลือเกิน
คนอื่นที่อยู่ที่นี่ด้วยก็คือพวกคนรับใช้และลูกน้อง ซึ่งโจวฮันนาไม่คิดจะไว้ใจเลยสักคน
เช้านี้สีหน้าของเธอไม่สดใสอย่างเคย จริงๆแล้วเธอรู้สึกเหี่ยวเฉามาสักพักหนึ่งแล้วตั้งแต่โจวคยูฮยอน ลูกชายคนเดียวของเธอหนีออกจากบ้านไป แต่ในวันนี้สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ สามีของเธอป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วลูกชายของเธอก็ไม่คิดจะโผล่หน้ามาเยี่ยมพ่อตัวเองเลย
ไม่แม้แต่จะติดต่อมาถามสารทุกข์สุกดิบของครอบครัวตัวเอง
ฮันนารู้ดีว่าคยูฮยอนเกลียดพ่อของเขามากแค่ไหน แต่กับเธอ…เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด ลูกถึงต้องไป เธออาจแสดงออกถึงความรักไม่เก่ง อาจไม่มีเวลาให้อย่างใครๆ แต่เธอก็ยังสนใจ ยังเป็นห่วงคยูฮยอนเสมอ ต่างจากสามีของเธอที่มีเมียน้อยอยู่มากมายหลายบ้าน ซ้ำยังหลงใหลในการสานต่อธุรกิจมากจนกระทั่งจะจับลูกชายตัวเองแต่งงานกับลูกสาวผู้มีอิทธิพลที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งฮันนาไม่เห็นด้วยและขัดแย้งกับเขาในเรื่องนี้มาตลอด
จริงๆแล้วฮันนาขัดแย้งกับสามีทุกเรื่องเลยด้วยซ้ำ พวกเขาทะเลาะกันทุกครั้งที่คุยกัน
หญิงวัยทองตัดความเศร้าเสียใจเรื่องนั้นไปก่อน แล้วแต่งหน้าแต่งตาเล็กน้อยเพื่อให้ดูสดใสขึ้นบ้าง เตรียมตัวจะไปไปเยี่ยมโจวยองฮวา สามีของเธอ ที่โรงพยาบาลชั้นนำในกรุงเทพมหานคร
ทว่าเมื่อฮันนาลงมายังรถที่ถูกเตรียมไว้ให้ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา
“คุณผู้หญิงครับ ! คือว่า…”
“มีอะไร”
เธอถามอย่างวางมาด แต่สีหน้าของลูกน้องคนนั้นดูแย่เสียจนเธออดหวั่นใจไม่ได้
“คือว่า…คุณผู้ชาย…”
“…”
“ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า คุณผู้ชายเสียแล้วครับ…เมื่อเช้ามืดนี้”
…
โจวฮันนาไม่ได้ยินเสียง มองไม่เห็นอะไรเลยหลังจากนั้น สติของเธอหลุดลอยไปและเป็นลมในที่สุด พวกลูกน้องและคนรับใช้ต่างวิ่งเข้ามาพาร่างไร้สติไปโรงพยาบาลทันที
น่าแปลกที่วันนี้พลอยเพชรตื่นเช้าได้อีกแล้ว ทั้งๆที่เมื่อคืนก็เหนื่อยแสนเหนื่อย สิ่งแรกที่เธอนึกถึงก็คืออาหารสดมากมายในตู้เย็นที่รอการปรุงด้วยฝีมือของเธอ
พอพลอยเพชรตื่นเช้า แทนอึนก็พลอยตื่นไปด้วย ซึ่งสิ่งแรกที่เธอทำก็คือเข้าเฟสบุ๊ค
เงียบ~ ไร้การแจ้งเตือนหรือเมสเสจใดๆที่มาจาก เยนนี่ เยอึน
แทนอึนคอตกอย่างผิดหวัง จึงแอบเดินลงไปมุมเภสัชกรโดยไม่บอกใครซะเลย XD เผื่อวันนี้เยอึนจะเข้ากะตอนเช้าเหมือนเมื่อวาน…
พลอยเพชรทำอาหารอย่างตั้งใจมากโดยที่เธอไม่รู้ตัว ครั้งนี้ไม่มีใครมาช่วย ไม่มีใครมาคอยกำกับหรือเร่ง แต่เธอก็ทำเสร็จในเวลาไม่นาน
เรียกว่าทำด้วยใจได้หรือเปล่านะ ?
อาหารเช้าวันนี้คือผักต้มใส่ซอสมะเขือเทศแบบที่คยูฮยอนสั่งไว้ แล้วก็มีไข่คน หมูผัดพริก ดูๆไปแล้วก็น่ากินมากๆ-..-
แต่…ถ้าทิ้งไว้นานมันก็จะไม่อร่อย พลอยเพชรจึงจำใจไปห้องตรงข้ามเพื่อปลุกไอ้คุณชายจอมขี้เกียจ
พอเข้าไปถึงก็สัมผัสได้ถึงความหนาว แล้วก็มีตัวบ้าอะไรไม่รู้นอนขดเป็นหอยอยู่บนโซฟา
พลอยเพชรเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็พบว่าเป็นคิมคิบอมนั่นเอง ไม่ใช่หอยกาบที่ไหน ตอนแรกก็นึกว่าผู้ชายห้องนี้เลี้ยงหอยนางรมซะอีก ว่าจะเอาไปทำยำหอยแครงแล้วเชียว แหม่อดกินผัดหอยแมลงภู่เลย แย่จุง #ข้ามย่อหน้านี้ไป
พลอยเพชรนึกสังเวชจึงปิดแอร์ให้ พลางบุกเข้าไปในห้องนอนเล็กก่อนเป็นอันดับแรก ดูเหมือนว่าพลอยเพชรจะลุยโดยไม่กลัวอะไรเลย
แต่พอพบว่าเป้าหมายของเธอนอนไม่ใส่เสื้ออยู่บนเตียงเท่านั้นล่ะ..
..ขาก็ก้าวไม่ออก
“คยูฮยอน! ตื่นได้แล้ว!”
เธอตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ
นางจึงตัดสินใจมองข้ามหน้าอกขาวๆกับซิกซ์แพ็คอันมีอยู่ไม่มากแต่ก็พอเห็นนั้นไป (นี่ไม่ได้สังเกตเลยจริงๆ) แล้วเดินเข้าไปเขย่าตัวเขาแรงๆ “ไอ้คุณชาย ตื่นนนนนน!!”
“ฮื่อ…”
คยูฮยอนปัดมือบางออกโดยไม่รู้ตัวแล้วนอนหันหลังให้กับพลอยเพชร
“จะกินมั้ยข้าวน่ะ!”
“อือ…..”
“ถามว่าจะกินมั้ย!!”
“…”
“อย่าบอกนะว่าอุตส่าห์ ลงไปซื้อของด้วยตัวเอง ซื้อมาเยอะแยะ แล้วสั่งฉันไว้แล้ว แล้วก็ไม่กิน?!?”
“…”
“ฉันอุตส่าห์ตื่นมาทำแต่เช้านะ!”
“…”
“เห้ย ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำนะเว่ย! นี่นายจะไม่กินจริงๆใช่มั้ยติ๋ม เออทำไมทำแบบนี้วะ!”
เสียงโหดจังว่ะ… คยูฮยอนนึกในใจ
“ตั้งใจทำจริงๆเหรอ”
เขาหันมาปรือตาถาม ทำเอาพลอยเพชรเกือบไปไม่เป็น
เธอชี้ที่ตัวเอง “ฉันพูดเหรอ?”
“ตื่นมาทำแต่เช้าด้วยเหรอ…”
รอยยิ้มแรกของวันนี้ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลุมๆของคยูฮยอน
พลอยเพชรหลบสายตาและเดินออกมาจากข้างเตียงอย่างรวดเร็ว ไม่รู้จะซ่อนหน้าหมีๆของตัวเองไว้ตรงไหน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มร้อน และแสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่างซึ่งเก็บไว้ไม่มิด
“ตกลงไม่กินใช่มั้ย?”
พอพลอยเพชรยืนแล้วคยูฮยอนก็เพิ่งมองเห็นสภาพของเธอเต็มตัว เสื้อบอลสีขาวกับกางเกงบอลสีดำ…ผู้หญิงอะไรแต่งตัวแมนชิบหาย ขัดกับหุ่นจริงๆ เขานึก
“เดี๋ยวไป..”
เขาบอกพลางบิดขี้เกียจอย่างไม่อายหุ่น
“..ตักข้าวไว้ด้วยนะ สามจาน”
พลอยเพชรจะพยักหน้าแต่ก็ไม่ตัดสินใจไม่พยัก รู้สึกเหมือนรับคำสั่งยังไงไม่รู้ เสียศักดิ์ศรี ฉันเป็นคนใช้นายเหรอยะ ! แต่ว่า…มาชวนกินข้าวแล้วเดินกลับคนเดียวแบบนี้ มันถือว่าเฟลหรือเปล่านะ-..-
พลอยเพชรเดินออกมาจากห้องนอนเล็กและป๊ะกับจงฮยอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“กินข้าวด้วยกันสิ”
เธอพยายามชวนด้วยน้ำเสียงปกติ แต่สายตาที่ออกมามันดูไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก ก็เรายังมีเรื่องแคทที่ต้องเคลียร์กันอีกเยอะนี่นา !
“น้องแคทตื่นยัง” เขาถามห้วนๆ แตกต่างจากตอนคุยกับแคทอย่างสิ้นเชิงจนพลอยเพชรนึกหมั่นไส้
“ยัง มีไรป่าวอะ”
“ปลุกด้วย เดี๋ยวเราสองคนต้องไปกันแล้ว”
“ไปไหน???”
“บริษัทไง”
เขาบอกพลางเดินเข้าห้องน้ำไป พลอยเพชรเพิ่งจะสังเกตว่าจงฮยอนพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว-*- แต่นั่นไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญก็คือ…ไปบริษัทเนี่ยน๊ะ!!!???
ว๊อท!!!? แคทกำลังจะก้าวเข้าไปในFNC????
…คุณพร
ะ
แทนอึนลงไปถึงชั้นล่างของคอนโดแล้วก็ต้องพบกับเซอร์ไพรส์
“เยอึน !”
เขาวิ่งเข้าไปหาเธออย่างกับจะกระโดดกอด แต่ก็ห้ามใจตัวเองไว้ทัน-3- “วันนี้ไม่ทำงานเหรอ”
“วันนี้ออกกะเร็วน่ะ” เธอยิ้ม... เป็นรอยยิ้มที่แทนอึนคิดถึงตลอดทั้งคืน
สิ่งแรกที่แทนอึนสำรวจก็คือวันเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเยอึนเรียบร้อยดีหรือเปล่า
จากการได้เห็นรูปเมื่อคืนทำให้เรารู้ว่า.. เห็นเงียบๆ ของเพียบนะจ๊ะ-.,-
เห้ย!!!! อย่าคิดทะลึ่งกับเธออออ><
“เออเยอึน เมื่อคืน...”
“เรามีเรื่องให้แทนอึนช่วยนิดหน่อยอะ มันคือวิทยานิพนธ์ของน้องเรา”
แทนอึนกำลังจะพูดถึงเรื่องเฟสบุ๊คเมื่อคืนแต่พวกเขาก็พูดพร้อมกันพอดี แทนอึนก็เลยเก็บเรื่องนั้นไว้ก่อน
“วิทยานิพน์อะไรเหรอ ?”
“เกี่ยวกับสังคมศาสตร์น่ะ กายุนจะต้องเก็บหน่วยกิตตัวนี้ให้ได้ภายในปีนี้ ก็คือวิทยานิพนธ์นี่แหละที่จะทำให้น้องเราผ่าน”
เยอึนอธิบายคร่าวๆ ซึ่งแทนอึนก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก “ขึ้นไปคุยข้างบนดีกว่า”
เขาอยากรู้ว่าทำไมกายุนจะต้องฝากเยอึนมาตลอด ทำไมไม่หันหน้ามาคุยกับเขาด้วยตัวเองบ้าง ? แต่ก็เก็บความสงสัยนั้นไว้...
เป็นเพราะคิบอมนอนซมไข้กินอยู่ในห้อง ข้าวที่คยูฮยอนให้พลอยเพชรตักไว้จานที่ควรจะเป็นของคิบอม จึงกลายเป็นของธันเดอร์ เช้านี้มีเยอึนมาร่วมวงด้วยเช่นเคย ดูเหมือนว่าทุกคนจะอยู่กันเกือบพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดก็แต่...
“แคท ไม่กินข้าวเหรอ” แทนอึนหันไปถามแคทที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่หิว”
ถ้าเป็นเดคาก็คงจะดูรู้ว่าเพื่อนที่น่าสงสารของพวกเรากำลังไม่สบายใจมากๆ...
พลอยเพชรกับแทนอึนหันมามองหน้ากัน แล้วหันไปมองจงฮยอน เขาหลบสายตาทันที
วันนี้แตกต่างจากเมื่อวานตรงที่จงฮยอนพูดน้อยลงเพราะความไม่สบายใจไม่แพ้กันและรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ คยูฮยอนเลยไม่รู้จะคุยกับใคร (เพราะธันเดอร์ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว- -)
กรรมจึงมาตกอยู่ที่..
“ไม่กินข้าวหรือไง ลดความอ้วนเหรอ”
ถ้าไม่ได้แซะแล้วมันเหมือนจะตายยยย ในใจของคยูฮยอนร่ำร้องบอก~
“กินอยู่นี่ไง” พลอยเพชรหันไปบอก
ความจริงแล้วเธอเอาแต่มองเขาโดยไม่รู้ตัวต่างหาก
ก็อาหารที่เราตั้งใจทำ พอเห็นว่าเขากินอย่างเอร็ดอร่อย มันก็หายเหนื่อยเหมือนกันนะ
“กินเข้าไปเยอะๆสิ เดี๋ยวลูกในท้องจะขาดสารอาหาร”
เขาตักอาหารให้พลอยเพชรอย่างเป็นจริงเป็นจัง “ไม่ได้ท้อง!” เธอตวาดแบบโหดๆอีกแล้ว...
“โอ้ย จะเสียงดังทำไม อยู่กันแค่นี้!”
“ก็ไม่ได้ดังนะ เนี่ยปกติ” พลอยเพชรหันมามองนะเอยกับมาร์กี้อย่างหาแนวร่วม สองคนนั้นก็เหมือนจะรู้งาน พยักหน้าเห็นด้วยกันใหญ่
ได้แต่พยักหน้า ไม่มีใครเสริมอะไร เพราะกลัวจะขัดจังหวะคู่นี้น่ะสิ-//-
“พูดให้มันอ่อนหวานเหมือนผู้หญิงบ้างสิ”
“ใครบอกล่ะว่าฉันเป็นผู้หญิง..”
พลอยเพชรหันไปยิ้มยั่วอย่างแมนๆ คยูฮยอนชะงักไปครู่หนึ่งเพราะไม่เคยเห็นสีหน้าของหมีแบบนี้มาก่อน
แต่แล้ววินาทีต่อมา เขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก “คิดว่าตัวเองแมนนักเหรอ”
“แมนไม่แมนก็ทำอะไรเป็นมากกว่านายก็แล้วกัน”
คยูฮยอนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดนั้นแล้วได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ เขานึกในใจ....คอยดูเหอะ ฉันนี่แหละจะทำลายความแมนของเธอให้ดู ยัยแม่บ้านหน้าหมี !
นะเอยลุกขึ้นยืนเป็นคนแรก เป็นเรื่องปกติที่นะเอยมักจะกินข้าวเสร็จก่อน
แต่วันนี้มันผิดปกติตรงที่เธอเอาจานใบใหม่มาตักข้าวใหม่นี่แหละ
“อีเอยอดอยากมาจากไหนวะ” มาร์กี้ถามอย่างไม่ดู
“มึงใช้จานใหม่ทำไมวะ” พลอยเพชรมองตาม
“กู...”
นะเอยไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องยิ้มด้วย ในใจก็หวั่นๆกลัวเพื่อนล้อแทบแย่..
เธอนั่งลงตักกับข้าวทุกอย่าง อย่างละนิดราดข้าวในจาน “..เอาไปให้คิบอม”
“อ๋อออออออออ”
รู้สึกทุกคนจะพร้อมใจกันประสานเสียงลากยาวผิดปกติ ในวงข้าวนั้นคงจะมีเพียงจงฮยอนที่ดูไม่ร่าเริงสดใสเหมือนชาวบ้านเค้า เอาแต่มองตามแคทที่เดินไปตากผ้าและเก็บกวาดห้อง
แทนอึนสังเกตจงฮยอนอยู่ตลอด แต่ก็ไม่อาจเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เขาละสายตาจากจงฮยอนแล้วหันมามองเยอึนที่อยู่ข้างๆ.. “วันนี้ไม่กินเป๊ปซี่แล้วนะ” เขายิ้มกว้าง
เยอึนก็ยิ้มกว้างเช่นกัน “ไม่ใช่แค่เฉพาะวันนี้นะ ! ต้องเป็น ทุกๆวันต่อจากนี้”
เขาชอบเวลาที่เยอึนทำหน้าดุแบบนี้ มันเป็นหน้าดุที่มาพร้อมกับรอยยิ้มจริงใจ..
...ผู้หญิงคนนี้ สวยเหลือเกิน
“สัญญาเลย”
“เกี่ยวก้อย !”
เยอึนยื่นนิ้วก้อยออกไป ไม่รู้ว่าทำไมแทนอึนถึงหัวใจเต้นรัวขนาดนี้
...มือสั่น
“...”
การสัมผัสกันเพียงเล็กน้อย กลับทำให้หัวใจของคนสองคนสั่นไหวได้อย่างมากมาย
มันคือความรู้สึกอะไรกันนะ...
ธันเดอร์เป็นคนต่อมาที่กินอิ่ม เขาไม่พูดไม่จา เดินเข้าห้องมาร์กี้อย่างเคย
“มึงไม่ตามไปเหรอกี้” พลอยเพชรถาม
“เดี๋ยวค่อยไป กูเหนื่อยละ ปลง!”
คยูฮยอนเป็นคนเดียวที่หัวเราะ เขาแก้ตัวให้เพื่อน “ธันเดอร์มันก็เป็นงี้แหละ น่ากลัวเหมือนเจ้าชาย”
“พี่มึงนี่ต่างกับมึงลิบลับเลยนะแทน” มาร์กี้วิจารณ์
จริงสินะ...แทนอึนตระหนักได้ว่าพวกเขาต่างกันมาก ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาด้วยกันนี่นา... ดูๆไปแล้ว ก็เหมือนคนละพ่อคนละแม่เลยด้วยซ้ำ อยู่ใกล้แล้วไม่มีความรู้สึกเหมือนครอบครัวเลย
แล้วตั้งแต่มานี่แทนอึนก็รู้สึกว่าเขาคุยกับพี่ชายตัวเองน้อยมาก คงต้องเริ่มผูกสัมพันธ์ซะหน่อยแหละ...เดี๋ยวพ่อจะน้อยใจ-3-
“พ่อยังไม่โทรมาเลย ไม่รู้มีความลับอะไร” แทนอึนบอกเสียงเรียบ
“ความลับไรวะแทน” พลอยเพชรหันไปถาม คนอื่นก็พลอยอยากรู้ไปด้วย
“ก็พ่อไม่ยอมบอกว่าพี่ธันเดอร์กลับมาทำอะไร เขาบอกว่าเดี๋ยวจะบอกทีหลัง ให้มาอยู่ใกล้ๆกันซักพักก่อน”
คยูฮยอนที่รู้ความลับนั้นก็พูดขึ้น “ธันเดอร์มันกลับมาแต่ง...”
“เห้ย!!”
...
เป็นเพราะจู่ๆมาร์กี้ก็อุทานขึ้นมาเสียงดัง จึงทำให้ทุกคนเงียบและหันไปมอง
“…สมุด”
เธอพึมพำกับตัวเองเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีของสำคัญอยู่ในห้องนอน ! มันคือสมุดที่เธอเขียนเมื่อคืน ประเด็นมันอยู่ที่...มันมีชื่อของธันเดอร์ด้วยเนี่ยสิ
ไม่ได้นะ ถ้าเขาเห็นขึ้นมา เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนT^T!!!!
คิดพลางวิ่งเข้าไปในห้องทันที
แต่ดูเหมือนว่า...จะไม่ทันซะแล้ว
ธันเดอร์ที่ยังอยู่ในชุดนอนกางเกงขายาวตัวเดียว ถือสมุดสีชมพูเล่มนั้นอยู่ในมือ และหันมามองผู้ที่เพิ่งพรวดพราดเข้ามาให้ห้องด้วยสายตาที่เรียกได้ว่า... น่ากลัวกว่าที่เคยเป็นมาเป็นร้อยล้านเท่า
ทางด้านนอก ขณะที่ทุกคนกำลังงงๆ จงฮยอนก็กินข้าวเสร็จพอดี
“น้องแคท..” เขาหันไปเรียกแคทที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา
“..ปะ”
“กูไปเป็นเพื่อนมั้ยแคท” พลอยเพชรถามอย่างหวังดี
“ไม่เป็นไรกูไปเองได้”
บรรยากาศอึดอัดเหลือเกิน พวกเขาจึงได้แต่หวังว่าเมื่อจงฮยอนกับแคทอยู่กันสองคนแล้ว อะไรๆคงดีขึ้นกว่านี้
แคทเดินออกมาพร้อมกับจงฮยอนอย่างเหม่อๆ แทนที่จะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเขา...ทำไมมันกลับไม่มีนะ
รู้ตัวอีกที พวกเขาก็ขึ้นมาอยู่บนแท็กซี่แล้ว
แต่เนื่องจากการพูดคุยกันอาจไม่ปลอดภัย เพราะแท็กซี่นี่แหละคือตัวปล่อยข่าวตัวดี พวกเขาจึงต้องพิมพ์คุยกันในไอโฟน
‘ขอโทษ’
จงฮยอนยื่นให้แคทอ่าน
แค่นี้...น้ำตาก็ทำเหมือนจะไหล
‘ไม่เป็นไร แคทอยากให้มันผ่านไปเร็วๆ’ เธอพิมพ์ตอบ
‘เธอไม่อยากอยู่กับฉันจริงๆเหรอ ?’
คราวนี้แคทมองหน้าเขา มันเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความออดอ้อน
‘ฉันล้ำเส้นของแฟนคลับไม่ได้ ฉันอาจเป็นได้แค่แฟนคลับของพี่ตลอดไป’
…
‘เธอล้ำมันมาเยอะมากแล้ว รู้ตัวหรือเปล่า’
แคทไม่อาจรู้เลยว่าเขากำลังตำหนิเธออยู่หรือเปล่า ‘ฉันทำให้พี่เดือดร้อนใช่มั้ย’
‘เปล่า เธอทำให้พี่ร้อนใจต่างหาก’
แคทไม่รู้ว่าคำว่าร้อนใจของเขานั้นหมายความว่าไง ‘ขอโทษจริงๆ..’
‘เลิกขอโทษซะที เธอทำเพื่อพี่มามากแล้ว..’
จงฮยอนพิมพ์เพียงเท่านี้ก็หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจพิมพ์ต่อ ‘…พี่สัญญาว่าถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจะได้มีชีวิตอยู่อย่างคนธรรมดาที่มีความสุข’
ทั้งคู่มองหน้ากัน แคทเชื่อมั่นในความรู้สึกที่บอกเธอว่าพี่จงฮยอนของเธอจะไม่โกหกเธอ เขาจะต้องทำตามอย่างที่พูด
เด็กน้อยอ่อนประสบการณ์เอ๋ย ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย...
‘ฉันไม่รู้ว่าการจะก้าวเข้าไป จะต้องปรับตัวหรือต้องทำยังไงบ้าง พี่ต้องแนะนำฉันนะ’
‘ฉันต้องช่วยเธอแน่ๆ ก็เธอเป็นแฟนฉันนิ่ : D’
จงฮยอนยิ้มอย่างขี้เล่น มันทำให้แคทยิ้มออก แต่รอยยิ้มนั้นก็ยังมีความเศร้า จงฮยอนจึงพิมพ์เพิ่มอย่างลองเชิง ‘แค่แฟนในนามเท่านั้นแหละน่า ไม่ต้องเครียดหรอก เธอคงไม่อยากมาเป็นแฟนฉันจริงๆสินะ’
‘พี่อยู่สูงเกินไป -..-‘
‘ตอนนี้ฉันอยู่ข้างๆเธอต่างหาก ;)’
แคทคิดว่าเขาเอาแต่หยอดเธอเล่นๆ จึงได้แต่ยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อนความไม่สบายใจ
ป๊า...ม๊า...แคทขอโทษ ถ้าวันพรุ่งนี้จะมีพาดหัวข่าวว่าแคทได้กลายไปเป็นแฟนของดาราคนหนึ่ง หรือพาดหัวข่าวอะไรที่มันแรงกว่านั้น ป๊ากับม๊าอย่าเครียดนะ... แคทขอโทษจริงๆที่เป็นแบบนี้ ขอโทษที่อ่อนแอเกินกว่าจะปฏิเสธเขา แคทไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่แคทมีให้ต่อเขามันคืออะไร คนเราจะเป็นแฟนคลับที่รักศิลปินได้ในเวลาเพียงแป๊ปเดียวเองเหรอ ? แคทสับสน แคทรู้แค่ว่าตอนนี้แคทอยากทำเพื่อเขา ไม่อยากให้หน้าที่การงานของเขาต้องตกต่ำหรือมีปัญหา ทั้งๆที่แคทแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยด้วยซ้ำ
เวลาที่แคทมองหน้าเขา สายตา...รอยยิ้ม...และคำพูดของเขา มันทำให้แคทต้องยอมทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ในฐานะแฟนคลับ แต่ต่อจากนี้ แคทกำลังจะต้อง ‘ยอม’ ทำให้เขาทุกอย่างในฐานะ...ผู้ชายคนหนึ่ง
แคทกลัว....แต่แคทก็กำลังวิ่งเข้าหาความน่ากลัวนั้นอย่างหยุดไม่ได้
To be continued
ครึ่งหลังแต่งยากมากอะ เหมือนแต่งไม่ออก แต่ก็ต้องยัดๆเข้าไปให้จบตอน-*- อยากแต่งตอนหน้าจะแย่แล้ว อยากเห็นคยูดราม่าโว้ยยยยยยยย
ความคิดเห็น