คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 : Welcome to celebrity's life
Chapter 5 : Welcome to celebrity's life
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตราคาแพงสีขาว และกางเกงขาเดฟราคาแพง ยืนอยู่ข้างรถพอร์ช 1 ใน 11 คันของโลก หยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงในเคสของหลุยส์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย
“เห้ย รถชนว่ะ มึงเดินมาหากูที่หน้าวัตสันก่อนดิ๊”
กายุนเองก็ยืนกอดอกมองเขาอย่างอารมณ์เสียเช่นกัน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ดูดีไม่ได้ทำให้จิตใจของผู้ชายคนนี้ดูดีขึ้นมาเลยซักนิด !
มีอย่างที่ไหน.. ขับรถชนเราเองแท้ๆ แล้วยังจะมาโวยวายอีก ให้เรียกทนายก็เรื่องมาก เบื่อจริงพวกไฮโซ :(
ไมกี่นาทีถัดมา ‘เพื่อน’ คนที่ชายหนุ่มโทรเรียกก็เดินมาถึง เขาเป็นเพียงทอมตัวเล็กๆ ดัดฟัน ผมสั้นประบ่า ใส่เสื้อสปอนจ์บ็อบและกางเกงสีฟ้า ที่น่าหมั่นไส้(สำหรับกายุน)ก็คือ…เดินยิ้มกว้างโชว์เหล็กมาเชียว ไม่เห็นหรือไงว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด- -
นั่น แล้วไอ้หนุ่มไฮโซก็ยังยิ้มตามอีก กระซิบงุ้งงิ้งไรกันไม่รู้ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันรอเคลียร์อยู่น่ะ!!
“ถุงแป้ง เคลียร์ดิ๊” เขาบอกยิ้มๆ มือหนึ่งก็กดไอโฟนอัพทวิต
“อะไรของมึงเนี่ยเจมมี่ รกว่ะ” ถุงแป้งด่าไปขำไป
ขณะที่กายุนเริ่มทนไม่ไหวและกำลังจะเปิดศึกอีกรอบ เยอึนและแทนอึนก็มาทันเวลาพอดี
“ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า” เยอึนตรงเข้ามาหากายุนทันที ขณะที่แทนอึนสำรวจสภาพรถและสำรวจสถานการณ์รอบๆ สายตาก็ดันไปสะดุดที่ทอมตัวเล็กนางนั้น
“เห้ย ถุงแป้ง!”
“อีแทน!”
แล้วทั้งสองก็พุ่งเขาหากันราวกับมิตรสหายที่พลัดพรากกันมานับสิบปี แทนอึนและถุงแป้งกอดกันกลมกระโดดๆ ช่างเป็นภาพที่น่ารัก.
ยังไม่ทันที่แทนอึนจะได้ทักทายดูโอ้ของตนไปมากกว่านี้ กายุนก็หันมาเหวี่ยงใส่แทนอึนทันที “รู้จักกันเหรอ”
แทนอึนไม่รู้จะทำไงจึงได้แต่ยิ้มเอ๋อๆ
“ถ้าสนิทกันก็ช่วยเคลียร์ด้วย”
กายุนบอกแล้วพยายามทำหน้าโหดสุดชีวิต เพราะเกือบเผลอยิ้มตามไปแล้วเชียว…
“ใจเย็นๆ” แทนอึนบอกกายุน พลางหันไปมองเจมมี่ “อ้าว มี่ อ้าว” เขามองเจมมี่สลับกับถุงแป้งอย่างรู้ทัน “อะไรมึงอีแทน” ถุงแป้งเบรคความคิดมั่วๆของแทนอึนไว้เท่านั้น
“อย่านึกว่าไม่รู้ อย่านึกว่าไม่รู๊!!” แทนอึนบอกถุงแป้งด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ กายุนเริ่มจะทนไม่ไหวอีกรอบ “อีกนานมั้ย!”
คราวนี้ทุกคนหยุดหัวเราะทันที มีเพียงเยอึนที่เดินมาอยู่ข้างๆแทนอึนพลางบอก “แทนอึน ช่วยน้องเราหน่อยนะ”
กายุนหันไปมองพี่สาวของตนกับแทนอึนที่ดูสนิทสนมกันเหลือเกินแล้วก็นึกขัดใจ
“เห้ย ไม่เป็นไร เพื่อนกัน” เจมมี่ออกปากทันที โดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาทรงเสน่ห์ไปหาเยอึน
สวยว่ะ… ชอบ
ซึ่งถุงแป้งสังเกตเห็น จึงยิ้มและกัดฟันกระซิบเจมมี่ “หม้อตลอดนะมึง”
“เรื่องของกู” เจมมี่ก็ยิ้มและแอบกัดฟันตอบถุงแป้งเช่นกัน
เขาไม่รู้เลยว่ามันทำให้หัวใจของทอมคนนี้แอบกระตุกวูบ..
“ตอนแรกน้องคนนี้บอกว่ารีบไม่ใช่เหรอ ก็งั้นเดี๋ยวแยกย้ายกันไปเลย แต่จะเอาค่าเสียหายก่อนก็ได้..” ป๋ามี่บอกพลางยืนท่าที่คิดว่าเท่สุดๆ “..เท่าไหร่ว่ามา”
ทั้งแทนอึนและถุงแป้งก็ต่างรู้อยู่ในใจว่าป๋ามี่แสดงพาวเวอร์โชว์สาวอีกแล้ว แทนอึนหันไปถามกายุน “ว่าไง”
“นาย..ว่าไงล่ะ ช่วยดูหน่อยสิ”
แม้กายุนจะขอความช่วยเหลือแต่ก็ยังไว้ฟอร์ม แทนอึนจึงเดินดูรอบๆรถแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไรมากมาย “สามหมื่น”
“เห้ย แทน… เราไม่ชอบเลขเศษว่ะ ปัดขึ้นเป็นห้าหมื่นละกัน” เจมมี่บอกพลางควักเงินสด สปอร์ตตัลหลอดดดด
“มากไปมั้ง..” เยอึนหันมาบอกแทนอึน กายุนเบรคทันที “ไม่มากไปหรอก”
แทนที่เจมมี่จะยื่นเงินใหกายุน กลับยื่นให้เยอึนแทน โดยไม่ลืมที่จะยิ้มหวานส่งไปด้วย เยอึนไม่รู้จะทำหน้ายังไงจึงได้แต่ก้มๆหน้า
พอรับเงินมาก็ว่าจะเดินไปหลบหลังแทนอึนเพราะรู้สึกตงิดๆกับผู้ชายคนนี้ แต่แทนอึนกลับเป็นฝ่ายก้าวมายืนข้างหน้าเองซะงั้น
“ไปได้แล้วไป” แทนอึนบอกเจมมี่นิ่งๆ แต่เจมมี่ยังไม่รู้ตัว ยังคงโปรยเสน่ห์อย่างต่อเนื่อง จนถุงแป้งสังเกตถึงความโหดผิดปกติของสีหน้าแทนอึน จึงลากเจมมี่กลับเข้ารถโดยเร็ว แต่เจมมี่ก็ยังไม่ไปอีก!
จนแทนอึนต้องดันๆเยอึนให้ถอยออกไป ส่วนตนเองนั้นจ้องหน้าเจมมี่เขม็ง กายุนที่สังเกตเห็นการต่อสู้ทางสายตาทั้งหมดก็รู้สึกอารมณ์เสียแปลกๆ จึงเดินกลับเข้ารถไปเลย
“อย่านึกว่าไม่รู้” คราวนี้แทนอึนไม่ปัญญาอ่อนอย่างตอนพูดกับถุงแป้งแล้ว เขาพูดเบาๆให้ได้ยินกันเพียงเขา เจมมี่ และถุงแป้ง
“เห้ยกูไม่ได้ทำไร๊” เจมมี่ยังยิ้มสบายๆไม่เลิกพลางเดินเข้ารถไป ส่วนถุงแป้งก่อนจะกลับเขารถก็หันมาส่งสายตากับแทนอึนเป็นเชิงว่า เดี๋ยวมึงเล่าให้กูฟังด้วยนะ- -
แทนอึนมองรถพอร์ชของเจมมี่ขับออกไปจนสุดสายตาอย่างโล่งใจ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้แสดงออกถึงความ ‘หวง’ มากเกินไปแค่ไหน ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้รถของกายุนขับปาดหน้าแทนอึนแล้วเฉี่ยวนั่นเฉี่ยวนี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
ก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เยอึนกับแทนอึนเป็นอะไรกัน รู้แค่ว่าไม่ชอบ.. และไม่ต้องการแบบนี้ !
เรื่องราววุ่นวายในห้องจบลงอย่างยากเย็น เมื่อสาวๆถึงเวลาต้องอาบน้ำเพื่อไปเรียน หนุ่มๆก็พากันกลับห้องอย่างแสนเสียดาย
พวกเขาไม่ลืมที่จะตั้งใจบุกห้องตรงข้ามอีกในคืนนี้ โดยมีคยูฮยอนเป็นหัวโจก
“เราต้องวางแผนการกินเพื่อล่าเสบียง”
จงฮยอนตบหัวคยูฮยอนทันที “มึงนี่ก็คิดแตเรื่องแดก วันๆเอาแต่แดกกับเล่นเกม มิน่าล่ะพ่อถึงไล่มึงออกมา”
“เห้ยย ถึงพ่อกูจะไล่กู แต่แม่กูก็ยังส่งคนมาตามกูนะ”
“น่าภูมิใจตายห่าล่ะ มึงออกมาแล้วไง ไม่มีอะไรจะแดก ชีวิตไม่เห็นจะดีขึ้นตรงไหน- -“
“มึงออกมาจากวงแล้วมีอะไรแดกมั้ยล่ะ- -“
“กูยังไม่ได้ออก” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางกระดกเบียร์ “ตอนนี้ข่าวยังไม่แพร่กระจายถึงแฟนคลับ ยังไงถ้าสถานการณ์แย่ลง ผู้จัดการก็ต้องง้อให้กูกลับไป”
“แล้วมึงจะกลับไปหรือเปล่า” คิบอมที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้น
จงฮยอนนิ่งไปครู่หนึ่ง “…กูรักดนตรีมาก”
“มึงก็ทำงานเดี่ยวได้ไม่ใช่เหรอ” คิบอมแนะนำ
งานเดี่ยว งั้นเหรอ..
แล้วความรู้สึกของแฟนคลับล่ะ ?
…ความรู้สึกของน้องแคทล่ะ
“ไม่อะ เดี๋ยวค่อยคิด!” จงฮยอนบอกปัดพลางล้มตัวลงนอน เราจะไปนึกถึงความรู้สึกของคนๆเดียวทำไมกัน.. ปัญญาอ่อนแล้วลีจงฮยอน !
“ว่าแต่ เพื่อนมึงที่กลับจากอียิปต์นี่ กลับมาทำอะไรวะ”
คิบอมหันไปถามคยูฮยอนอย่างกับว่าธันเดอร์ไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยโดนสายตาขวางๆส่งมาจากเจ้าชายน้ำแข็ง แต่คิบอมก็ไม่สนใจ
“เออ มึงกลับมาทำไรวะธันเดอร์” คยูฮยอนหันไปถามเพื่อน
ธันเดอร์เงียบไปนานเหมือนจะไม่ตอบ เขาหยิบเศษมาม่าดิบกินแล้วตอบนิ่งๆ “มาแต่งงาน”
“ห๊ะ?!!”
ทุกคนหันไปมองธันเดอร์เป็นตาเดียว “ใครวะ ทำไมกูไม่รู้” คยูฮยอนถาม
“กูยังไม่รู้เลย” ธันเดอร์บอกส่งๆอย่างไม่ใส่ใจ จงฮยอนจึงเริ่มเปิดประเด็น “ถ้าในทั้งหมดนี้ ธันเดอร์แต่งงานเป็นคนแรก… พวกมึงว่า ใครจะแต่งงานเป็นคนต่อไปวะ”
คิบอมและคยูฮยอนมองหน้ากัน คิบอมพูดก่อน “ที่แน่ๆไม่ใช่จงฮยอน”
“เออดิ กูยังสนุกกับชีวิตวัยรุ่นนะ”
ทั้งหมดเงียบไปสักพัก กระทั่งจงฮยอนพูดขึ้น “แต่อาชีพอย่างคิบอมก็ไม่น่าจะแต่งงานเร็วได้นะ”
คราวนี้ทุกคนจึงหันไปมองคยูฮยอนที่มาม่าดิบยังคาปาก “พวกมึง…มองกู ทำไมวะ”
…
“เห้ยยย กูเนี่ยนะจะแต่งงาน มึงช่วยดูด้วย หนึ่งในสาเหตุที่กูหนีพ่อมาก็เรื่องแต่งงานนี่แหละ”
“อ้าว มึงอาจจะมาเจอคนที่ใช่ที่นี่ก็ได้นะ” จงฮยอนไม่ได้ชงเลยจริงๆนะเว่ย
คิบอมกับจงฮยอนหันมามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ จงฮยอนยิ้มกรุ้มกริ่มขณะที่คิบอมเพียงยิ้มน้อยๆที่มุมปากเท่านั้น
“ใครวะ” ธันเดอร์ที่ไม่รู้เรื่องเกิดอยากรู้ขึ้นมาซะงั้น
คงไม่ใช่ยัยถั่วงอกขาใหญ่นั่นหรอกนะ ! ธันเดอร์นึกในใจ
“ใคร ไม่มีหนิ” คยูฮยอนก็ไม่ได้ร้อนตัวเบยเว่ย
“ใครล่ะที่มึงยุ่งกับชีวิตเขาอยู่นั่นแหละ” จงฮยอน…ดอกแรก
“คนที่มึงติดใจฝีมือการทำอาหาร” คิบอม…ดอกสอง
“ไม่ใช่คนที่ขาใหญ่ๆใช่มั้ย” ธันเดอร์…ไม่เกี่ยวป้ะติ๋ม- -
“ขาใหญ่มั้ยเหรอ…ไม่ใหญ่นะ ไม่ขาวด้วย แต่…ขาสวย” สายตาของคยูฮยอนเมื่อนึกถึงคนที่คุณก็รู้ว่าใคร มันเหม่อลอยและดูลึกซึ้งจนจงฮยอนอดเขินแทนไม่ได้
“แล้วไงต่อวะ>//<”
“แล้วก็…ผมไม่ได้หอมเท่าไหร่หรอก แต่หนา”
“แล้วไงอีก”
“อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอุ่น…เห้ย!!! อะไรของพวกมึงเนี่ย-*-!!!!”
อาการเขินของไอ้เด็กเกรียนทำเอาทุกคนหัวเราะ ยกเว้นธันเดอร์ เพราะมัวแต่นึกอยู่ว่ามันหมายถึงใครวะ
“ใครวะ..” เขาพึมพำกับตัวเอง
“มึงจะไปรู้อะไรวะธันเดอร์ กูเห็นมึงหลับอย่างเดียว” จงฮยอนแซะ
“หึ..”
ธันเดอร์ไม่พูดอะไรต่อ หากนึกในใจ กูหลับแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นแหละ..
ที่เหลือ…กูก็แค่สำรวจห้องคนบางคน
“ก่อนที่จะคิดเรื่องแต่งงาน กูว่าพวกมึงหางานทำกันก่อนดีกว่า” คิบอมมาอย่างมีสาระ
“จริง” จงฮยอนรีบเสริม
“แล้วกูจะไปหางานที่ไหนวะ ขอทานเหรอ” คยูฮยอนบอก
“มึงลองถามพวกห้องตรงข้ามดูสิ พวกนั้นเรียนพิเศษไม่ใช่เหรอ เผื่อหางานในที่ๆมีผู้คนพลุกพล่านได้ไง” จงฮยอนบอกคยูฮยอน
“สรุปคือคยูฮยอนให้ยัยแม่บ้านขาสวยทำให้ทุกอย่างตั้งแต่กับข้าวยันหางาน” คิบอมพูดยิ้มๆ ธันเดอร์แทรกขึ้นเสียงเรียบ “ทำอย่างอื่นด้วยก็ได้มั้ง”
… แต่ทำเอาทุกคนเงียบกริบ
“555555555!!” แล้วก็ระเบิดหัวเราะกันท่ามกลางหน้ามุ่ยๆของไอ้เด็กเกรียน
“พวกมึงงงง!!! คิดอะไรกันวะ!!! กูไปเล่นเกมดีกว่า- -“
“55555 โอ้ยยย คยูงอนเว้ย!”
“5555555555” ไม่มีใครสนใจและกินเบียร์กันต่อ และในช่วงเวลาที่ในวงเหล้าลืมเรื่องที่แซวกันไปแล้ว มีเพียงคนถูกแซวเท่านั้นแหละ…ที่ยังหมกหมุ่นวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องพลอยเพชร จนไม่เป็นอันเล่นเกม
“โว้ยยยยยยยย ยัยหมีบ้า!!!!!”
หลังจากที่แทนอึนเคลียร์เรื่องกายุนเสร็จ เขาก็แยกย้ายกับเยอึน และไปเรียนพิเศษที่พญาไทกับเพื่อนๆ ในตอนแรกที่กลุ่มของเดคาโมโนยูนิตย่อยเดินเข้าไปในที่เรียนพิเศษ มีวัยรุ่นบางกลุ่มมองมาที่พวกเขา… แต่ก็ยังไม่มีใครเอะใจอะไร
จนกระทั่งเรียนเสร็จ บีนบีนวิ่งนมเด้งเข้ามาหาพวกเธอด้วยข่าวใหม่ “พวกมึงงงงแย่แล้ว!!”
“อะไรอีกล่ะ” แทนอึนถาม
“บีนทำเสื้อดีๆนมหก” มาร์กี้กล่าว
“นี่พวกมึงไม่เห็นข่าวกันเลยเหรอ!!” สีหน้าของบีนบีนดูตกใจมาก
“เบาๆ” พลอยดุ
“มึงงงงงมันเป็นเรื่องใหญ่มาก!!”
“มึงก็บอกมาดุ๊” แคทบอกอย่างเริ่มหัวเสีย
บีนบีนจึงควักหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งที่แอบฉีกมาจากของคนอื่น ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นให้แคทดู
…
‘ จงฮยอน ซีเอ็นบลู หม้อไม่เลิก ! ดึกดื่นยังคั่วสาวข้างซอย ต้นสังเกิดเผย ลุยแน่ ! ‘
…
“มึงงงงง มึงเข้าใจมั้ยแคทกูดูก็รู้แล้วว่าเป็นมึงอะ แท้จริงกูไม่อยากให้มึงเครียดแต่แบบมึงเข้าใจป้ะ ลงข่าวหน้าหนึ่งอะ !” บีนบีนบอกแคทเสียงดังจนพลอยเพชรต้องปรามอีกรอบ “บีน! แค่นี้คนก็มองจะทั้งวรรณสรณ์แล้ว”
ทั้งหมดมองไปรอบๆแล้วรู้สึกว่าคนจะยิ่งหันมามองมากขึ้นทุกที “มีเนื้อหาข่าวข้างในมั้ยบีน” นะเอยถาม
“กูฉีกมาแค่นี้อะ..” บีนยิ้มแหยๆ อายจุงกว่าจะแอบฉีกมาได้-3-
“กูว่า…เรื่องใหญ่จริงๆว่ะ” แทนอึนบอกอย่างเครียดๆ
“กูว่ามึงต้องไปคุยแล้วแหละแคท” มาร์กี้แนะนำ
…
มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมา
แคทเองก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองต้องร้องไห้เพราะอะไร ความรู้สึกหลายอย่างมันสุมกันไปหมด คนเขียนข่าวใช้คำที่แย่มาก เหมือนดูถูกกัน แล้วยังจะรูปของเธอ ซึ่งถ้าพ่อแม่มาเห็นล่ะ ? แล้วไหนจะความรู้สึก หน้าที่การงานของพี่จงฮยอน ต้นสังกัดอีกล่ะ ? ปัญหามากมายเข้ามาให้หัวของแคทไปหมดแล้ว !
“ใจเย็นๆเว่ย..” แทนอึนทำอะไรไม่ได้นอกจากหันไปปลอบแคท ซึ่งได้แต่เช็ดน้ำตาผ่านแว่น
“กูไม่นึกว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่..” ยิ่งมองเห็นรูปที่จงฮยอนกำลังพันข้อเท้าให้เธอ แคทก็ยิ่งร้องไห้หนัก พลอยเพชรจึงบอก “ไม่อย่างนั้นก็ต้องรีบกลับห้องก่อนเว่ย พวกนั้นอาจจะอยู่รอเคลียร์ก็ได้”
“ปะ” มาร์กี้ชวน “โชคดีนะแคท..” บีนบอกแคทอย่างเศร้าแทน
แล้วทั้งหมดก็พากันรีบขึ้นบีทีเอสกลับคอนโด ซึ่งมันยากเย็นมากสำหรับแคทที่ต้องฝ่าสายตาเป็นพัน และก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำตาของตนเอง จริงๆแล้วแคทไม่อยากใหใครเห็นด้วยซ้ำว่าเธอกำลังร้องไห้ เพราะเดี๋ยวคนก็คงเอาไปพูดกันต่างๆนานา แคทเกลียดความรู้สึกนี้จริงๆ…เธออยากให้เหตุการณ์ที่น่าอายแบบนี้เป็นแค่ฝันไป
พี่จงฮยอนจะโกรธเรามั้ยนะ…ที่เราทำชื่อเสียงของเขาป่นปี้แบบนี้
พี่จงฮยอน…แคทขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ..
แคทไม่รู้ตัวเลยว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอห่วงพี่ชายคนนี้มากกว่าห่วงตัวเอง
เมื่อกลับมาถึงคอนโดในตอนค่ำ พลอยเพชร แทนอึน และมาร์กี้ เข้าเซเว่น โดยปล่อยให้นะเอยพาแคทขึ้นไปหาจงฮยอน
แต่แล้วเมื่อมองจากระยะไกลกลับพบว่า พ่อแม่ของแคทมายืนรออยู่ที่หน้าคอนโดแล้ว
“ชิบหายแล้วแคท แม่มึงมาว่ะ” นะเอยหันมาบอก
“อืม เอาไงดีวะ” ตอนนี้สมองของแคทคิดอะไรไม่ออกแล้ว
“มึงอยู่คุยข้างล่างไปก่อน เดี๋ยวกูขึ้นไปเซอร์เวย์พื้นที่บนห้อง”
“อืมๆ”
แล้วนะเอยก็วิ่งคาร์ฟอร์แคชขึ้นไปบนชั้น 6 โดยพลัน ทิ้งให้แคทฝืนใจรับหน้าพ่อกับแม่ไปก่อน
แต่พอประตูลิฟท์ชั้น 6 เปิด… ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอก็คือ
คิมคิบอม
“…”
“…”
นะเอยกดลิฟท์ค้างไว้อย่างนั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไร
“…ไปทำงานเหรอ” นะเอยเปิดประเด็นอย่างประหม่า
“อืม” คิบอมตอบนิ่งๆ
…เขากำลังจะไปจูบกับคนอื่น ที่ไม่ใช่เรา..
นะเอยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเดินออกจากลิฟท์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องของตนเองเสียแล้ว
หัวใจมันหวิวและเหม่อลอยเสียจนไม่รับรู้อะไร… ทำไมเราถึงเป็นแบบนีนะ ? เขาจะไปจูบกับใครก็ช่างเขาสิ.. มันงานของเขานี่นา… ไม่เกี่ยวกับเราเลยสักนิด
นะเอยปัดความคิดเหล่านั้นออกจากสมอง แล้วหันหลังกลับไป เธอยกมือขึ้นจะเคาะประตูเรียกจงฮยอน แต่แล้ว แสงที่ลอดออกมาจากประตูที่ปิดไม่สนิท ก็ทำให้เธอตัดสินใจยังไม่เคาะประตู
ไม่รู้เซ้นส์อะไรดลใจให้นะเอยเลือกที่จะแอบฟัง…
“มึงจะเอาอะไรจากกู” …เสียงจงฮยอน
“กูให้มึงเดา” …อันนี้เสียงใคร ???
“มึงคงไม่ได้อยากให้กูกลับไปอยู่ซีเอ็นบลูหรอกยงฮวา คนอย่างมึงไม่มาง้อกูด้วยตัวเองหรอก” …อ้อ คนที่กำลังคุยด้วย คือจองยงฮวาสินะ
“หึ มึงนี่รู้จักกูดีจริงๆ ลีจงฮยอน”
“มึงต้องการเงิน ?”
“…”
“ต้องการชื่อเสียงที่ดังกว่าเดิม ?”
“…”
ดูเหมือนว่าจะเดาไม่ถูกสักอย่าง นะเอยอดไม่ได้ที่จะขยับใบหน้าเข้าไปจนชิดประตูและแอบมองทั้งสองยืนคุยกันอย่างลูกผู้ชาย
อืม…ไอ้บุญยงก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย-3-
“กูต้องการแค่ความสะใจ” ยงฮวาเฉลยและแสยะยิ้ม
“หึ…กูน่าจะเดาถูกตั้งแต่แรกนะ นี่แค่มึงมาเยาะเย้ยกูเรื่องข่าวฉาวนั่น มึงก็สะใจแล้วเหรอ ?”
เอาแล้วไง… นะเอยคิด เข้าประเด็นละอีดอกกกกก
“กูไม่ทำแค่นั้นหรอก”
คราวนี้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจ้องหน้ากันด้วยสายตาที่ฟาดฟัน ดูเหมือนว่าต่างคนจะต่างอ่านเกมของอีกคนออก สีหน้าของจงฮยอนเปลี่ยนเป็นตึงเครียดมากกว่าเดิม..
คือ มึงอย่าเงียบได้มั้ยสองหนุ่มน้อย กูไม่เข้าใจ-*- มองตาแล้วก็เข้าใจกันอยู่สองคนเนี่ยอีห่า ! นะเอยบ่นในใจ
จงฮยอนพูดทีละคำอย่างชัดเจน
“อย่า คิด ยุ่ง กับ ผู้หญิง ของ กู”
ยงฮวายิ้มมุมปากอย่างชอบใจ… ในที่สุดมึงก็เดาออกสินะ จงฮยอนคนโง่
“จริงจังกับคนนี้เหรอลีจงฮยอน ? หึ… มองจะหลงมากซะจนลืมเลยนะ ว่านั่นมันที่สาธารณะ”
นะเอยเงียบฟังด้วยความตื่นเต้นและเก็บข้อมูลให้มากที่สุด
“ทำไมล่ะ มึงหาไม่ได้อย่างกูล่ะสิ”
อ้าวไอ้จงฮยอน นี่มึงไม่คิดจะแก้ข่าวให้เพื่อนกูหน่อยเหรอ ? นะเอยนึกด่าในใจ
“หึ คิดว่าแฟนมึงดูดีมากรึไง ?”
“ภายนอกดูดีมั้ยไม่รู้ แต่ภายใน…ก็ดีกว่าเกรฟอะ”
คราวนี้เป็นฝ่ายยงฮวาที่ชะงัก ไม่รู้ว่าคำว่า ‘ภายใน’ ของจงฮยอนมีความหมายอะไรแฝงบ้าง แต่มันก็ทำให้เขาโกรธที่จงฮยอนกล่าวถึงรักเก่าของเขาขึ้นมา
“มึงอย่าคิดนะ..ว่ามึงจะแย่งผู้หญิงกูไปได้ แล้วก็ทิ้งไปหาคนอื่นๆอีกอย่างมีความสุข ! มึงอย่าคิดว่ามึงทำกับกูแบบนั้นแล้วจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข!” ยงฮวาเริ่มเสียงดัง
“…”
“กูจะทำให้ แฟนมึง.. กลายมาเป็นของกูให้ได้”
ทั้งคู่จ้องมองกันอย่างดุเดือดและไม่มีใครยอมใคร จงฮยอนไม่นึกเลยว่ายงฮวาจะมาเพื่อประกาศกร้าวแบบนี้ ถามว่าเขามีอะไรลึกซึ้งกับแคทหรือเปล่า…ตอนนี้ยัง แล้วเขาจะรักแคทหรือไม่…เขาก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ…
ตอนนี้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ที่จงฮยอนไม่มีทางปฏิเสธคำท้าอย่างแน่นอน
“กูจะรอดู” จงฮยอนพูดเสียงแข็งไม่แพ้กัน
ขณะเดียวกัน นะเอยกำลังช็อค และวินาทีถัดมา ความรู้สึกเกลียดชังก็หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ผู้ชาย…ทำไมผู้ชายถึงเป็นแบบนี้นะ ! แคทยังไม่ได้เป็นอะไรกับจงฮยอนเลยด้วยซ้ำ.. ทำไมถึงไม่อธิบาย!? ทำไมใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือแบบนี้!!!
ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ นะเอยก็รู้สึกถึงไออุ่นจากด้านหลังและตามมาด้วยเสียงเข้มที่กระซิบอยู่ข้างหู “ทำอะไร”
นะเอยสะดุ้งและเกือบจะกรี๊ดแต่ยั้งปากไว้ทัน เธอหันไปมองผู้ที่เพิ่งมาด้วยความตกใจ
ณ เวลานี้… คิมคิบอมดูน่ากลัวเหลือเกิน
“ฉัน…ฉันก็แค่..”
“แค่อะไร แอบดูเพื่อนฉันทำไม” คิบอมถามเสียงเข้ม แววตาคาดคั้น ทำเอานะเอยไปไม่เป็น
“แค่…บังเอิญมาได้ยิน อะไรบางอย่าง” เธอบอกไปตามตรง
นะเอยกำลังจะทนไม่ไหวกับดวงตาที่มีอำนาจคู่นั้นแล้ว…
“บอกความจริงมา”
คิบอมก็แค่ลืมกระเป๋าตังค์และจะกลับมาเอา แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นใครบางคนกำลังสอดแนมต่อหน้าต่อตาแบบนี้
“เรา…ไปคุยกันที่อืนได้มั้ย” นะเอยบอกเสียงเบาเพราะกลัวข้างในจะได้ยิน
คิบอมเหลือบมองภายในห้องเพียงแว้บเดียว สลับกับจ้องดวงตาที่ดูหวาดกลัวคู่นี้ พลางลากนะเอยขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าทันที
ในที่สุดแคทก็เคลียร์กับพ่อแม่ได้ เธอให้พวกเขากลับไปก่อนโดยอ้างว่ามันดึกแล้ว เธอใข้ความพยายามอย่างสูงในการกลั้นน้ำตา แต่ยิ่งอยู่คนเดียว มันก็ยิ่งร้องไห้
เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาจึงทำให้เดินชนผู้ชายที่เดินสวนมา “ชิท!”
“โอ้ย!”
ชายหนุ่มทำท่าจะโวยวาย แต่พอวินาทีถัดมาเมื่อเขาเห็นหน้าคนที่เดินชนชัดๆ.. สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“ขอโทษค่ะ” แคทบอกแล้วทำท่าจะรีบเดินไป ดูเหมือนว่าน้ำตาจะเริ่มไหลอีกแล้ว…
“ไม่เป็นไรครับ น้อง…เอ่อ เป็นอะไรหรือเปล่า”
เขาถามแต่แคทก็ยังส่ายหน้า แต่ชายหนุ่มก็ยังห่วงไม่เลิก “เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ..”
แคทส่ายหน้าอย่างเดียว น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ยิ่งทำให้สถานการณ์ดูยุ่ง
ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรจึงยื่นผ้าเช็ดน้ำสีน้ำเงินของเขาให้กับเธอ แคทรับมาด้วยความเกรงใจ เขาได้แต่ยืนมองเธอร้องไห้เพียงไม่กี่วินาที ก็เดินสวนออกไป โดยก่อนที่จะเดินไปนั้น เขาไม่ลืมที่จะวางมือบนบ่าของเธอเป็นการให้กำลังใจ
แคทเงยหน้ามาอีกที ชายหนุ่มนิรนามผู้ใจดีก็ไปซะแล้ว
เธอจึงถือผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ แล้วไปยืนอยู่หน้าห้องของจงฮยอน
แต่ยังไม่ทันที่แคทจะรวบรวมความกล้าเคาะประตู คนๆนั้นก็เปิดประตูออกมา
“น้องแคท..”
เขาดูตกใจเล็กน้อยกับสภาพของแคท
“พี่…จงฮยอน..” แคทเรียกชื่อของเขาอย่างยากเย็น “..แคทขอโทษ แคท..”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” เขาบอกเสียงนุ่มพลางลูบหัวเธอช้าๆ แต่สัมผัสที่อ่อนโยนก็ยิ่งทำให้แคทร้องไห้หนัก
“ฮึก…”
เพียงแค่มองจงฮยอนก็ดูรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รู้สึกผิดต่อเขามาก เธอเป็นคนดี…ดีมากเสียจนจงฮยอนคิดว่า เธอไม่ควรมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้เลย
“ไม่ต้องร้อง พี่ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น”
เขาเดินเข้าไปใกล้เธอมาขึ้นจนเกือบชิด จึงสังเกตเห็นผ้าเช็ดหน้าในมือของแคท ที่สีมันดูคุ้นตาเหลือเกิน
ตัวอักษรเล็กๆบนผ้าเช็ดหน้าที่ปักไว้ ดูโดดเด่นจนจงฮยอนมองเห็นและอ่านออก มันคือคำว่า..
‘จอง ยงฮวา’
เขาเก็บความสงสัยนั้นไว้ก่อน ไม่ว่าผ้าเช็ดหน้าของยงฮวาจะมาอยู่ในมือแคทได้ยังไง แต่ตอนนี้ เขาก็ต้องเหนือกว่า
มือหนาข้างหนึ่งลูบและประคองหัวแคท ส่วนมืออีกข้างค่อยๆไล้นิ้วโป้งที่พวงแก้มแดงระเรื่อ ปาดซับน้ำตาให้หายไป
“พี่ไม่รู้จะทำยังไงให้แคทหยุดร้องไห้.. พี่ไม่มีผ้าเช็ดหน้าหรอกนะ พี่มีแค่นี้แหละ..” เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างช้าๆ ซึ่งแคทก็โอนอ่อนผ่อนตาม “..แคทจะหยุดร้องไห้เพื่อพี่ได้มั้ย ?”
เด็กสาวงอแงไม่รู้เรื่องหรอกว่าจงฮยอนกำลังแซะยงฮวาเต็มๆ เธอรู้แค่ว่า…อ้อมกอดของพี่ชายคนนี้มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน แม้มันจะไม่แน่นหนา แต่ก็รู้สึกว่ามีไออุ่นอยู่รอบๆตลอดเวลา และมันจะไม่หายไป
แคทพยายามหยุดร้องเพื่อจงฮยอน เธอใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าพลังงานของเธอก็จะหมดลงไปด้วย
จงฮยอนประคองแคทมานั่งที่โซฟา เขาใช้โอกาสที่เธอกำลังหมดแรงและงงๆ ฉวยผ้าเช็ดหน้าของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไปจากมือของแคท แล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็นั่งลงข้างๆแคท
“พรุ่งนี้…เราจะต้องไปอธิบายทุกอย่างที่บริษัท”
จงฮยอนบอกพลางปัดไรผมของแคทอย่างนุ่มนวล แคทถามเสียงแผ่วเบา “อธิบายความจริงทั้งหมดใช่มั้ย พี่จะแก้ข่าวให้ฉันใช่มั้ย..”
จงฮยอนก้มหน้าอย่างลำบากใจ “พี่..มีเรื่องหนึ่งจะขอร้องเธอ”
“อะไรคะ”
“พี่ไม่รู้ว่าบริษัทต้องการอะไรจากข่าวนี้บ้าง แต่ถ้าให้พี่เดา…พวกเขาคงอยากจะเล่นข่าวต่อไป และถ้าเราบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาก็จะเล่นข่าวไม่ได้.. พี่ก็อาจจะต้องโดนออกจากค่าย”
“…”
“พี่รักดนตรีมาก แคทสัญญาได้มั้ยว่าไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง..เธอจะช่วยพี่”
ความจริงแล้วแคทไม่กล้าสัญญา แต่พอสบสายตาอ้อนวอนคู่นั้นก็ทำให้เธอลังเลมาก จงฮยอนเลื่อนมือลงมาจับมือของเธอและบีบมันเบาๆ
“ตั้งแต่คบกับใครมา พี่ไม่เคยเป็นข่าวเลย จนตอนนี้ พี่คิดว่าถ้าเราหลอกสื่อมวลชนว่าเราคบกันต่อไป มันคงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”
ในใจของแคทไม่คิดว่ามันจะเป็นเหตุผลที่ดีเลย มันดูแปลกๆด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อพี่ชายที่แสนดีตรงหน้ากำลังขอร้องเธอถึงขนาดนี้แล้ว และการกระทำของเขามันก็อ่อนโยนมากๆด้วย
“อื้ม แคทสัญญา”
จงฮยอนยิ้ม.. มันเป็นรอยยิ้มแบบที่แคทชอบ เธออดยิ้มตามไม่ได้ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกรอบ
จงฮยอนไม่พูดอะไรเพียงแค่ลูบหัวแคทอยู่อย่างนั้นจนเธอผล็อยหลับไป
ชายหนุ่มจ้องมองแคทที่หลับไม่รู้เรื่อง ด้วยความรู้สึกหลากหลายปนกัน เขาแยกแยะมันออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก แต่ที่รู้ๆ…จงฮยอนคิดว่า ตอนนี้เขามีแววจะชนะยงฮวาแล้วล่ะ : )
จงฮยอนหยิบไอโฟนของตนเองขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับผ้าเช็ดหน้าของยงฮวา แล้วอัพทวิตเตอร์ว่า
‘คนนั้นหลับไปแล้ว เรื่องร้ายๆกำลังจะผ่านพ้นไป’
แน่นอนว่าเหล่าบ๊อยซ์ก็คงจะฟินยงฮยอนกันกระจาย เมื่อจู่ๆนายซุปหมูก็ถ่ายรูปคู่กับผ้าเช็ดหน้าของบุญยงแบบนี้ แถม ‘คนนั้น’ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของผ้าเช็ดหน้า><
หลายคนสบายใจที่จงฮยอนออกมาอัพทวิต เพราะนั่นหมายความว่ากระแสข่าวก็คงจะไม่แย่ลงอย่างที่คิด พวกแฟนคลับจึงมีกำลังใจที่จะอยู่ข้างๆซีเอ็นบลูต่อไป
แต่คงจะมีแค่พวกเขาทั้ง 4 คนที่รู้ว่าอะไรๆมันก็ไม่เหมือนเดิม…
และคงมีแค่จงฮยอนและยงฮวา ที่เข้าใจความหมายของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ กับคำว่า ‘คนนั้น’ ของจงฮยอน
“คราวนี้ก็แค่รอเวลาให้ไอ้ยงฮวามันมาเห็น… หึ ให้มันรู้มั่งว่าใครเป็นของใคร” จงฮยอนพึมพำกับตัวเอง โดยที่แคทไม่ได้ยิน ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นเพราะหลับไปนานแล้ว
แคทไม่รู้แม้กระทั่งว่า คำสัญญาในวันนี้…มันอาจทำให้ชีวิตของเธอต่อจากนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล
…เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่ ชีวิตของคนดัง
To be continued
ความคิดเห็น