ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [DECAMONO] เธอและฉันพบกันสวัสดี

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 : Complicated

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 56


    Chapter 4 Complicated

                    น่าแปลกที่วันนี้พลอยเพชรตื่นแต่เช้า 11โมงแน่ะ ><

                    แทนอึนลงไปซื้อเป๊ปซี่ ส่วนพลอยเพชรทำกับข้าวกินด้วยหมูที่พ่อหมักมาให้ และมักโรนีที่ซื้อมา เธอคิดว่าที่วันนี้เธอตื่นเช้าเป็นเพราะความหวาดระแวงข้าศึกที่ทำให้นอนไม่หลับ

                    ตั้งแต่เช้าพลอยเพชรยังไม่ได้เปิดประตูออกไปดูเลย เพราะว่ายังไม่ได้อาบน้ำน่ะสิ

                    เธอทำกับข้าวไปก็คอยฟังเสียงห้องตรงข้าม  จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตู พลอยเพชรวิ่งไปดูที่ตาแมวพร้อมตะหลิวทันที

                    ไอ้คุณชาย ! โถทำหน้าอ้อยมาเชียว

                    พลอยเพชรพูดอย่างหมั่นไส้(ไม่ได้แฝงความเอ็นดูเลยจริงๆนะเหวยยย) เธอเปิดประตูผ่างพร้อมง้างตะหลิว

                    เห้ย!!”

                    คยูฮยอนร้องอย่างตกใจแล้ววิ่งมาหลบหลังพลอยเพชร อย่า!!”

                    พลอยเพชรหันไปด่า แกจะมาหลบหลังชั้นทำม๊าย-*-“

                    “เออว่ะ  ว่าแล้วก็วิ่งด้วยความเร็วสูงเข้าไปหยิบฝาหม้อมาเป็นบังโล่

                    เห้ย ! ฝาหม้อนั้นฉันใช้ปิดหม้อต้มมักโรนีน้ำข้นอยู่ !”

                    “ไหน!”  คยูฮยอนชะโงกหน้ามองอาหารในหม้ออย่างสนใจสนใจ  เขายิ้มกว้างพลางเลียปากอย่างเปิดเผย หูววว น่ากินจุงเบย

                    “ไอ้คุณช๊ายยยยย!”

                    พลอยเพชรตรงรี่เข้าไปฟาดตะหลิวลงหัวกลมๆของคยูฮยอนไม่ยั้ง โหย อะไรเนี่ย!” ขณะที่ชายหนุ่มล็อคข้อมือทั้งสองข้างนั้นไว้ พลอยเพชรดิ้นๆยกเท้าขึ้นพยายามจะถีบ แต่ก็สู้แรงคยูฮยอนไม่ไหว แล้วนี่แต่งตัวอะไรเนี่ย เสื้อบ้าๆกับกางเกงบอล ต่างจากคนเมื่อวานลิบลับ- -“

                    คยูฮยอนวิจารณ์แล้วยิ้มน้อยๆอย่างไม่รู้ตัว  พลอยเพชรคิดในใจ แกเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เห็นชั้นในลุคส์แม่บ้านนะ !

                    แล้วถามจริงเหอะที่ตานี่ยังไม่ได้ล้างเครื่องสำอางหรือมันดำเอง ?”

                    “อั้ย ! อย่ามายุ่ง !”  ตะคอกพลางหลบหน้าหลบตาเพราะแอบเขินเบาๆ คยูฮยอนหัวเราะหึหึในลำคอแล้วหันไปสนใจมักโรนีที่ส่งกลิ่นเรียกเขา หอมอะขอกินหน่อยเถอะ!”

                    “ไม่ได้ !  จนกว่านายจะทำงานให้ฉัน !”

                    “เออน่าาา กินก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

                    ไม่ได้ ไอ้ตูด!!”

                    พลอยเพชรฉุดกระชากลากถูคยูฮยอนให้ออกมา เรื่องอะไรจะให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้บุกมากินอาหารฝีมือเธอได้ง่ายๆล่ะ !  คยูฮยอนตัดสินใจเลิกบุกไม่ลืมหูลืมตาเพราะเริ่มเหนื่อย แล้วตกลงทำสัญญากับพลอยเพชรอีกครั้ง เอางี้มั้ย  เดี๋ยวฉันจะพาพวกมาทำความสะอาดห้องให้หมดเลย แต่ต้องให้พวกเราได้กินอาหารฝีมือเธอ

                    “ฉันไม่เชื่อนายอีกต่อไปแล้ว

                    “น่าาาา เชื่อใจฉันสิ

                    “ไม่-0-“

                    “นะหมี…”

                    “ฉันเป็นคน-..-“

                    “นั่นล่ะ ถ้าเธอทำหน้าหมีแปลว่าตกลง เป็นอันว่าตกลงนะ

                    “ไอ้คุณชาย ! ฉันทำไว้พอกินสำหรับเพื่อนๆฉัน พวกนายจะมากินได้ยังไง

                    “ก็ทำเผื่อสิ เอานี่ แปะโป้งทำสัญญา

                    ไม่รอให้พลอยเพชรขัดขืน  คยูฮยอนจุ๊บนิ้วโป้งของเขาแล้วประทับที่กลางหน้าผากพลอยเพชร  ชั่ววินาทีหนึ่งหญิงสาวชะงักไป.. แต่พอรู้ตัวก็ตีหน้านิ่งต่อ ไม่เกี่ยวนะ

                    “โอเคนะจ๊ะ หมีน้อยที่รัก คยูฮยอนยักคิ้วพลางเดินตัวปลิวออกไป  พลอยเพชรจะห้ามก็ยังพูดอะไรไม่ออก  นี่หน้าฉันแดงเหรอหน้าฉันแดงเหรอ ไม่นะ พลอยเพชร ไอ้คุณชายบ้านั่น มันเลวเกินไป ม่ายยยยย !

                    “โถความซวยมาเยือนกูแล้วไง  พลอยเพชรตัดพ้อกับชะตากรรมของตัวเองแล้วเทเส้นมักโรนีลงหมอไปทั้งถุง มึงกล้าบุกรุกกูก็กล้าตั้งรับ อั้ย!!”

     

                    คยูฮยอนกลับเข้ามาในห้องของตนซึ่งมีจงฮยอนและคิบอมนั่งเล่นกีตาร์กันอยู่ เขากลับเข้าไปนั่งประจำที่นั่นก็คือหน้าคอมพิวเตอร์

                    เช้านี้เรามีข้าวกินแล้วนะพวกมึง

                    “ไรวะคิบอมถาม

                    ห้องตรงข้ามเลย

                    “มึงเที่ยวไปบุกห้องคนอื่นอีกแล้วเหรอ

                    “เห้ยก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน หมีตัวเมื่อคืนที่ต่อสู้กับกูอยู่แล้วมึงคลานกลับมาอะ

                    คิบอมพยายามนึกถึงเหตุกาณ์เมื่อคืนตอนที่ตัวเองเมาแล้วก็นึกหน้าหมีที่คยูว่าไม่ออก นึกออกก็แต่

                    ..รสจูบนั้น ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งชัดเจนอยู่ในความทรงจำ

                    คิบอมจดจำได้แม้แต่กลิ่นหอมอ่อนๆที่มันมาแตะจมูกตอนที่กำลังจูบกัน ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์  แล้วก็บรรยากาศที่กำกวมเมื่อคืน.. เขาคิดถึงมันอย่างประหลาด

                    แล้วผู้หญิงที่กูแบกกลับมา เมื่อคืนเขานอนไหน

                    “ก็นอนห้องเดียวกับหมี

                    “ห้องตรงข้ามเนี่ย ?

                    “เออ

                    คิบอมหันมาดีดกีตาร์ส่งๆอีกสองสามที  แล้ววางมันไว้ข้างฝาผนังพลางลุกขึ้นยืนบอกทุกคนอย่างรีบร้อน
                 “กูหิวละ



     

                    แทนอึนลงมาซื้อเป๊ปซี่ที่เซเว่นแล้วก็ไม่ลืมที่จะแวะไปมุมเภสัชกร  ซื้อเครื่องทำแผลด้วย

                    ที่มุมปากยังปวดตุ้บตั้บไม่หายเลย..แทนอึนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วก็งงตัวเอง ทำไปได้ไงว้าาา

                    แทนอึนเลือกสรรเครื่องทำแผลไม่เป็นจึงได้แต่หยิบมามั่วๆ  แต่พอเดินไปถึงที่ชำระเงิน เขาก็ต้องสตันท์

                    หน้าเหมือน..เยอึนเลย

                    เขาพูดขึ้นอย่างเอ๋อๆ  ขณะที่เภสัชกรสาวยิ้มหวานเพราะเห็นแทนอึนตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว

                    รับบริการทำแผลเพิ่มมั้ยคะ

                    เยอึนถามอย่างขี้เล่น  ขณะที่แทนอึนรับรู้ภาพตรงหน้าเพียงคำว่า..

                    ..สวย

                    ทำงานอยู่นี่เหรอ แทนอึนถามโดยที่อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

                    อื้ม หมดกะพอดี ตอบพลางถอดหมวก ถอดเสื้อคลุมสีขาวด้านนอกออกไปวางไว้ข้างใน เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานอีกคนเดินเข้ามาเปลี่ยนกะพอดี

                    แทนอึนแอบยอมรับในใจว่าเยอึนถอดเสื้อนอกเป็นอะไรที่เซ็กซี่มาก -//-

                    เยอึนเดินอ้อมเคาเตอร์ออกมาหาแทนอึน  ขณะที่เขากำลังสติหลุด เยอึนมองหน้าเขาแล้วยิ้มแปลกๆ พลางเดินนำไปยังประตูทางออก

                    ชั่วขณะนั้นแทนอึนนึกในใจ อ้าวเห้ย ! ไปไหน ! จะกลับแล้วเหรอ ! ไม่ได้นะ !

                    เขารวบรวมความกล้าทั้งหมด เอ่ยในสิ่งที่ใจคิด ไม่ทำแผลให้เราหน่อยเหรอ !”

                    เยอึนหันกลับมา เธอยิ้มกว้างด้วยความสุข มาดิ

                    แทนอึนวิ่งหลังค่อมๆตามไปราวกับหมาน้อย  น่าแปลกที่พี่น้องคู่นี้ เยอึนและกายุน ทำให้แทนอึนกล้าทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำ และความกล้าเหล่านี้ก็เกิดขึ้นในช่วงแรกที่รู้จักกัน

                    แทนอึนเดินนำเยอึนไปที่ห้อง ในระหว่างทางก็ได้พูดคุยกันเรื่องงานโดยแทนอึนไม่ลืมที่จะถามถึงน้องสาวของเยอึน

                    แล้วกายุนทำงานที่ไหนเหรอ

                    เยอึนชะงักไปเล็กน้อย แต่แทนอึนก็ไม่ทันสังเกต น้องเรายังเรียนอยู่เลย

                    “อ่อ เรียนคณะอะไรที่ไหนอะ

                    “มนุษย์ศาสตร์ ม.รังสิต ตอนแรกพ่อจะให้กายุนเรียนพยาบาลเหมือนเรา  แต่กายุนหัวไม่ถึง  เยอึนเล่าอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ตอนแรกเราจะเรียนหมอด้วยซ้ำ แต่สอบไม่ติด เธอหัวเราะแหะๆ  แทนอึนมองท่าทางเหล่านั้นอย่างเพลิดเพลิน ไม่เบื่อเลยสักนิด

                    พ่อเราวางแผนอนาคตไว้ให้ลูกทุกอย่าง แต่กายุนดื้อ กายุนเลือกที่ตัวเองถนัดและพอใจอยางเดียว

                    แทนอึนพยักหน้า พอเข้าใจว่าเยอึนเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย แตกต่างจากกายุนที่เป็นตัวของตัวเอง

                    ถ้าเป็นแบบนั้นกายุนก็คงไม่เหมาะกับอาชีพพยาบาล แต่เรียนมนุษย์ศาสตร์ก็หางานยากเหมือนกันนะ

                    คิดไปคิดมาแทนอึนก็คิดถึงกายุนขึ้นมาตงิดๆ นึกอยากจะเจอขึ้นมาแล้วสิ..

                    แต่เธอคงไม่อยากจะเจอเราเท่าไหร่หรอก ชิ ยัยป้าหน้าตูด

     

                    มาร์กี้ยืนอ้วนๆอยู่มุมห้อง โดยมีเบื้องหน้าเป็นธันเดอร์ที่กำลังอยู่ในโลกส่วนตัวของตน

                    ฉันจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าไอ้บ้านี่มันไม่ได้กำลงรื้อตู้เสื้อผ้าฉัน -3-

                    มากไปปะให้ทาย

                    ว่าพลางบุกเข้าไปแต่ก็โดนธันเดอร์กระเจียดออกมา

                    โห้ย มีแต่เสื้อผ้าผู้หญิง บ่นงึมงำๆแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่มาร์กี้ก็บ่นตามหลัง ก็ฉันเป็นผู้หญิงหนิ !”

                    ธันเดอร์ชะงัก หันมาหรี่ตามองอย่างพิจารณา มาร์กี้ทำหน้างงๆว่ามันมองอะไรวะ

                    ธันเดอร์ส่ายหน้าแล้วหันไปแอบยิ้ม แบนอย่างกับผู้ชาย

                    “ห๊ะ!?” มาร์กี้ได้ยินไม่ถนัดแต่ธันเดอร์ก็เดินออกไปซะแล้ว เขาหยิบเสื้อในตู้ของแทนอึนออกมาใส่อย่างลวกๆ

                    มาร์กี้เดินตามออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่นะเอยเดินออกมาจากห้องน้ำ และคยูพร้อมกับสหายอีก 2 คนเปิดประตูผ่างเข้ามาในห้องพอดี

                    โดยมีพลอยเพชรยืนหน้าหมีถือตะหลิวอยู่กลางห้อง ยิ้มกว้าง

                    เอิ่มทำไมผู้ชายเต็มห้อง มาร์กี้ถาม ขณะที่นะเอยหันไปมองคิบอมและเบิกตาโพลงอย่างตกใจ ขณะที่ชายหนุ่มเพียงยิ้มน้อยๆให้เท่านั้น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    โอ๊ย!ไอ้เหี้ย!” แล้วเสียงบ้าไรก็ไม่รู้ก็ดังมาจากในห้อง  ประตูห้องถูกเปิดผ่างออกมาพร้อมกับแคทที่เอาหมอนข้างไล่ตีธันเดอร์ ไอ้บ้า!ออกไป๊!!”

                    “โอ้ย! ไรวะ!!”

                    “เห้ย! ธันเดอร์!” คยูฮยอนเรียกเพื่อนของตน

                    น้องแคท !” จงฮยอนเรียกแฟนคลับของตน

                    ไอ้มัมมี่!” มาร์กี้เรียก..- -? ของตน -//-

                    มาร์กี้พุ่งเข้าไปแยกธันเดอร์ออกจากแคท ขณะที่จงฮยอนก็พุ่งเข้าไปหาแคท เกิดการตะลุมบอนย่อมๆที่กลางห้อง  นะเอยกับคิบอมจึงพุ่งเข้าไปสมทบโดยมิได้นัดหมาย

                    เหลือไว้เพียงพลอยเพชรที่วิ่งหมี เอ้ย ! วิ่งหนีออกมายืนในครัว และคยูฮยอนที่วิ่งตามออกแย่งตะหลิว หวังจะเข้าไปห้ามศึก

                    ตะหลิวชั้น!!”

                    “เราต้องเอาไปพิทักษ์โลก

                    “ไอ้คุณชาย อย่าเข้าไป!!”  พลอยเพชรคว้าแขนคยูฮยอนไว้  เขาหันมามองด้วยสีหน้าจริงจัง นี่เพื่อนเธอจะเป็นจะตายอยู่แล้วยังจะอยู่เฉยอีกเหรอ!”

                    ชิ้ง~ พลอยเพชรชูฝาหม้อขึ้นมา “..เอาโล่ไปด้วย

                    คยูฮยอนและพลอยเพชรพยักหน้าพร้อมกัน  ย๊ากกกกกกกกก ร่างสูงใช้ตะหลิวและโล่ฝาหม้อผ่ากลางเข้าไป  เป็นจังหวะเดียวกับที่แทนอึนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับแขกของเขา

                    สตันท์

                    แทนอึนหันไปมองเยอึนที่อ้าปากอย่างเบี้ยวๆและขมวดคิ้วด้วยความอึ้ง  แล้วหันกลับมามองพลอยเพชรที่โบ้ยมาเฉ๊ย อีแทน จัดการซิ!”

                    แทนอึนวิ่งอยู่กับที่สะบัดๆแขนไปมาอย่างสิ้นหนทาง พวกมึง อะไรก๊านนนนนนน!!!T^T”



     

                    10 นาทีผ่านไป..

                    ทุกอย่างสงบลงแต่ก็ยังไม่สงบดี -3-

                    “โห้ย เหี้ยแม่ง อร่อยว่ะ คยูฮยอนตักมักโรนีเข้าเต็มปาก

                    “ของเค้าดีจริง จงฮยอนเสริมแต่ก็ยังรักษาภาพลักษณ์

                    ไข่ตุ๋นก็อร่อย คยูฮยอนยังเคี้ยวหยึบหยึย

                    อันนี้ด้วยมึง จงฮยอนป้อนไข่คนให้คยูฮยอน ในบรรดาผู้ชายพวกเขาเสียงดังกันอยู่สองคนส่วนคิบอมนั่งจัดการอาหารตรงหน้าตนอย่างเงียบๆ

                    น้องแคท ไม่กินเหรอครับ ทันทีที่จงฮยอนหันไปชวนแคทและยิ้มอย่างแสนดี คยูฮยอนก็กระทุ้งศอกใส่คิบอมแล้วหันมามองหน้ากันอย่างรู้ทันไอ้จงฮยอนหน้าม่อ

                    แหมถามเหมือนเป็นเจ้าของเลยนะ พลอยเพชรบ่นเบาๆ คยูฮยอนจึงหันมาหาเรื่องเธอทันที เห้ย ว่าเพื่อนเราเหลอะ

                    พลอยเพชรเลือกที่จะไม่ตอบโต้แต่หันไปมองคยูฮยอนอย่างดูแคลนปนเอือม   คยูฮยอนจึงหรี่ตามองตอบ..  เกิดสงครามทางสายตาขึ้นเบาๆ

                    พี่จงฮยอนกินก่อนเลย ของพวกนี้แคทกินเมื่อไหร่เมื่อไหร่ก็ได้  แคทยิ้มกว้าง พลอยเพชรยังไม่วายหันมาแซะ แหมทีปกติละกินไม่รอใครเลยนะ

                    “กินเก่งก็ไม่บอก จงฮยอนพูดอย่างเอ็นดูพลางตักกับข้าวให้แคทจนพูนจาน แคทปริ่มจนไม่รู้จะพูดยังไงจึงได้แต่ยิ้มมมม ขณะที่จงฮยอนก็จ้องแคทไม่วางตา

                    แทนอึนที่นั่งมองสถานการณ์อย่างเงียบๆมานานเริ่มจะรู้สึกว่าผู้ชายสองคนนี้จะนำมาซึ่งเรื่องปวดหัว และคงไม่ไปไหนง่ายๆ  เยอึนที่นั่งข้างๆและลอบมองแทนอึนมานานเช่นกัน สะกิดเขาทำให้เขาหลุดจากภวังค์ มีเป๊ปซี่อีกมั้ย เยอึนถาม

                    เอ่อมีๆ แทนอึนมองสำรวจอยู่ครู่หนึ่ง อ้าว หมดแล้วอะ..กินกับเราก็ได้

                    เยอึนก็ไม่ปฏิเสธ  เธอดื่มเป๊ปซี่เยอะจนแทนอึนประหลาดใจ  การกระทำที่ดูเหมือนแบ่งปันกันกินธรรมดาๆแต่กลับแฝงด้วยบางอย่างที่ต่างฝ่ายก็ต่างซ่อนไว้..

                    เป๊ปซี่ไม่ได้หมด แต่แทนอึนแค่อยากกินน้ำแก้วเดียวกับเยอึน

                    และเยอึนก็ไม่ได้อยากกินเป๊ปซี่ เธอแค่ไม่อยากให้แทนอึนกินมากเกินไปจนเสียสุขภาพ

                    อาหารไทยไม่เห็นอร่อยเลย

                    เพียงธันเดอร์เอ่ยปากแม้เสียงไม่ดังมากนักแต่ก็ทำให้ทุกคนเงียบ ..

                    “พี่ธันเดอร์..”  แทนอึนเรียกชื่อเขาเบาๆแล้วมองพลอยเพชรสลับกัน  จะเกิดสงครามอีกมั้ยเนี่ย

                    ผิดคาดเมื่อคนที่ทำอาหารกลับไม่โวยวาย แต่มาร์กี้กลับเป็นคนที่โพล่งขึ้นมาเสียงเรียบ รสนิยมไม่ถึง.”

                    จากที่ก้มหน้าก้มตากินอยู่ ธันเดอร์เงยหน้าขึ้นมาจ้องมาร์กี้ซึ่งนั่งตรงข้ามเขาอย่างเอาเรื่อง ยังไง

                    ลิ้นไม่ถึง มาร์กี้เงยหน้าสบตากับเขาเพียงแว้บเดียวเท่านั้น

                    ลิ้นฉันดีกว่าที่เธอคิด คราวนี้มาร์กี้เงยหน้าขึ้นขวับ  หวังจะได้รับคำอธิบายประโยคเมื่อกี้ที่มันฟังดูกำกวมและดึ๋ยๆพิลึก   แต่ธันเดอร์กลับเพียงแค่แลบปลายลิ้นออกมาแตะเลียริมฝีปากด้านในของตนเท่านั้น

                    แววตาที่จ้องมานั้นดูเย็นชาแต่กลับทำให้มาร์กี้รู้สึกหน้าร้อนๆ-//-   เขาทำอะไรของเขาน่ะ!!!

                    คิบอมรู้สึกกินอะไรไม่ค่อยลง พอๆกับนะเอยที่พะอืดพะอมเพราะยังแฮงค์จากเมื่อคืน  ชายหนุ่มจึงเรียกเธอเสียงต่ำ เอย

                    นะเอยสะดุ้ง ตอนนี้ไม่ว่าอะไรเธอก็ละเมอเพ้อพกถึงเรื่องเมื่อคืนไปซะหมด  ยิ่งกับเจ้าของรสจูบที่นั่งข้างๆเธอยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะสบตาหรือคุยด้วย อะไร..”

                    “อิ่มแล้วเหรอ  คำถามธรรมดาแต่กลับทำให้นะเอยใจสั่น   ..แอบมองกูกินข้าวด้วยเหรอวะ ?

                    อืม กินไม่ค่อยลง เธอตอบโดยไม่สบตาเขาเลย

                    อิ่มเหมือนกันอะ  ไปข้างนอกเป็นเพื่อนหน่อยดิ  หนาว

                    คราวนี้นะเอยหันขวัยมามองเขาอย่างงงๆ ห๊ะ!?”

                    ไม่รู้ทำไมคำว่า หนาวของเขาพอนะเอยฟังแล้วรู้สึกหนาวตามไปด้วย  คิบอมไม่รอให้เธอตอบตกลง  แต่กลับลุกแล้วเดินออกไปนอกระเบียงเลย  เหมือนเป็นการบังคับกลายๆให้นะเอยต้องตามไป  แต่เธอก็ยังชั่งใจ

                    ถ้าไม่ตามไปเขาจะโกรธมั้ยวะ ?

                แล้วเราจะทิ้งให้เค้าอะโลนทำไม ก็ตามไปยืนเป็นเพื่อนหน่อยสิ !

                    หนาวงั้นเหรอ ? กูว่ากูขี้หนาวแล้วนะ กูยังเย็นสบายเลยแอร์ประมาณนี้ -..-

                    แต่เขาอยากให้กูไปเป็นเพื่อนจริงป่าววะ ไม่เห็นรอกันเลย- -

                    “อีเอยไปเร่งแอร์ดิ๊ กูร้อน พลอยเพชรกล่าว

                    ไขมันเยอะก็งี้ คยูฮยอนยังแซะหมีไม่เลิก

                    แหมตัวเองไม่มีเลยเนอะ แซะกลับพลางมองพุงคยูฮยอน

                    “นี่มันไม่ใชพุง ของข้าเอาพันเอวไว้เว่ย !”

                    “อะไรพันเอว?”

                    คยูฮยอนไม่ตอบแต่กลับหันไปสบตากับจงฮยอนแล้วหัวเราะอย่างมีเลศนัยกันอยู่สองคน  พลอยเพชรพอจะรู้แล้วว่าไอ้ ของ นั่นหมายถึงอะไร  แต่ก็ทำเงียบไว้   ถลนกันจริงๆไอ้พวกนี้-..-

                    “พลอย.. รีโมทหาย!!!! อ่ออยู่นี่

                    สุดท้ายนะเอยก็ต้องไปเร่งแอร์ให้หนาวขึ้นอีก แล้วเธอก็พยายามคิดแก้ตัวให้ตัวเองว่า ตายจริง เร่งแอร์ขึ้นแล้ว หนาวขนาดนี้ ฉันอยู่ไม่ได้หรอก ! ไปข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย : ว่าแล้วก็เดินตามคิบอมออกไป

                    สักพัก เสียงโทรศัพท์ของเยอึนดังขึ้น แทนอึนแอบเห็นว่ามันเป็นชื่อของกายุน  เยอึนรับโทรศัพท์อย่างอึดอัดเล็กน้อย

                    ฮัลโหล

                    พี่ อยู่ไหน น้ำเสียงปลายสายอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

                    “…กินข้าวอยู่

                    มาหาที่สยามหน่อย รถชน

                    “ห๊ะ!? เป็นไรมากหรือเปล่า?”  แทนอึนหูผึ่งทันทีที่เห็นความตื่นตระหนก

                    ไม่เป็นไร แต่มีเรื่องกับไอ้ประกัน มันงี่เง่ามาก คนที่ชนก็งี่เง่า พี่รีบๆมาเถอะ

                    “เออๆไปเดี๋ยวนี้แหละ

                    เยอึนรีบวางสาย  แทนอึนจึงถามทันที กายุนเป็นอะไร

                    สีหน้าของเยอึนแสดงออกถึงความกังวลอย่างไม่ปิดบัง  แม้เยอึนจะห่วงเรื่องกายุนแต่ก็ยังสังเกตเห็นได้ถึงความห่วงใยของแทนอึนที่มันดู มากเกินไป

                    รถชนน่ะ เราไปหาน้องก่อนนะ  ว่าพลางรีบลุกขึ้น แทนอึนลุกตามทันที ไปด้วย


     

                    ทันทีที่นะเอยเปิดประตูออกไปที่ระเบียง  ควันบุหรี่ก็พากันพัดมาสุมอยู่ที่หน้า  นะเอยไอค่อกแค่กเหมือนจะตายจนคิบอมหันมามอง

                    ถ้าเป็นคนอื่น คิบอมคงจะไม่สนใจและสูบต่อไป  แต่ไม่รู้ทำไม ท่าทางของนะเอยทำให้เขาต้องเขี่ยบุหรี่ทิ้งทันที

                    ไม่เป็นไรสูบต่อไปเหอะอะแฮ็กๆๆๆแค่กๆๆๆๆๆ!!”

                    นะเอยทำท่าจะกลับเข้าไปในห้อง  แต่คิบอมก็หันมาพูดนิ่งๆ เสร็จพอดี

                    …เพียงแค่อยากจะยื้อให้เธออยู่เป็นเพื่อนกันก่อน

                    นาย..”

                    นะเอยเดินไปยืนอยู่ข้างๆคิบอม เธอรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน เมื่อคืนผู้ชายคนนี้คือคนที่เห็นสภาพของเธอตอนที่เหี้ยที่สุด แล้วตอนนี้กลับมาต้องคุยกันดีๆเนี่ยนะ  !

                    “..ชอบสูบบุหรี่เหรอ และแล้วนะเอยก็ถามอะไรโง่ๆออกไป  ก็มันไม่รู้จะคุยอะไรนี่นาT_T

                    “เปล่า มันติด เขาตอบสั้นๆทำเอานะเอยคิดไปว่าเขาคงไม่อยากคุยมั้ง

                    แพ้ควันบุหรี่เหรอ คิบอมหันมาถาม

                    เปล่าหรอก แค่เหม็น ไม่ชอบกลิ่น

                    “หึ เมื่อคืนไม่เห็นเธอจะเหม็นเลย..” 

                    คิบอมหลุดปากพูดออกไปเสียงเบา  แต่กลับทำให้หัวใจของอีกคนเต้นแรงขึ้นมา ส่วนคิบอมเองพอเห็นนะเอยเงียบไปเลยก็หลุดขำ ซึ่งไม่รู้จะขำทำไม

                    ตอนเมาอะ อะไรๆมันก็หอมไปหมดแหละ  นะเอยพูดกลั้วหัวเราะ  เขินทำไมบรรยากาศมันเขินแบบนี้นะ อย่าพูดถึงได้มั้ย ไม่เขินบ้างเหลอะ!!!

                    ไม่เอาอีกแล้วนะ แบบเมื่อคืนน่ะ..”

                    ชายหนุ่มแอบยิ้ม  ขณะที่นะเอยรู้สึกใจหวิวๆ หมายถึง…?”

                หมายถึงระหว่างเรางั้นเหรอ

                ไม่นะ ทำไมมันเจ็บหัวใจแบบนี้

                    “เธอน่ะ..” เขาหันมามองนะเอย พยายามกลั้นยิ้ม “..อย่าทำตัวแบบนั้นอีก

                    “ก็ฉันอกหักนี่!”  นะเอยตะโกนเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

                    “คนอกหักอีกหลายคนเขาไม่ทำแบบเธอ

                    “ฉันเป็นตัวของตัวเอง

                    “แน่ใจเหรอว่านั่นคือตัวของเธอ เธอทำแบบนั้นแล้วมีความสุขเหรอ ?

                    นะเอยไม่รู้ว่าคำว่า  แบบนั้น ของคิบอมหมายถึงอะไร การกินเหล้าเหรอ ? การอ่อยเขา ? การร้องไห้ ? นะเอยจำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง  แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบเถียงให้ชนะจึงยอมไม่ได้ มีความสุขสิ ได้ระบายแล้วก็มีความสุข  ได้ร้องไห้.. ได้ลืมโลกแห่งความจริง ได้พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักกัน

                    “ตอนนี้เรารู้จักกันแล้ว เธอยังมีความสุขอยู่หรือเปล่า ?

                    คิบอมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามออกไปแบบนั้น แต่มันก็ทำให้นะเอยหันขวับมามอง

                    เธอมองไล่ตั้งแต่เส้นผมของเขา ใบหน้าที่ไร้ที่ติ.. แววตาที่ลึกลับ และท่ายืนที่ดูสบายๆ 

                    ฉันรู้สึกเหมือนฉันยังไม่รู้จักนาย

                    “ดีแล้วล่ะ

                    คำพูดของคิบอมสร้างความสงสัยให้นะเอยเป็นอย่างมาก  เขาทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในห้อง  แต่ก่อนหน้านั้นคิบอมหันมาบอกกับนะเอยเป็นคำสุดท้าย

                    อย่าตกหลุมรักฉันนะ

                    สีหน้าของเขาจริงจังแต่ก็แฝงด้วยรอยยิ้มแห่งเสน่ห์  ทำเอานะเอยทำหน้าไม่ถูก  ได้แต่งงๆแล้วก็เผลอยิ้มออกมาคนเดียว

                    บ้าพูดอะไรบ้าๆ ไอ้คิบอมบ้า!!!

                    … ฉันจะตกหลุมรักเพราะนายพูดจาแบบนี้นี่แหละ

     

                    “อีกี้ ไปล้างจานดิ๊

                    พลอยเพชรใช้มาร์กี้ที่เดินดุ่มๆตามธันเดอร์เข้าไปในห้อง มึงล้างไปก่อน” เธอตะโกนตอบ

                    ภายในห้องนอนของมาร์กี้  ธันเดอร์ล้มตัวลงนอนอย่างสบายตัว   นายมัมมี่ ไปช่วยเพื่อนทำความสะอาดห้องก่อน!”

                    “ใครบอกว่าฉันจะทำ พวกนั้นรับปากกันเอง

                    “เห็นแก่ตัวมาก ! เป็นผู้ชายภาษาอะไรเนี่ย

                    “แล้วเธอนี่เป็นผู้หญิงภาษาอะไร  เดินตามผู้ชายเข้ามาในห้อง

                    แม้คำพูดจะดูแรงแต่เขากลับพูดยิ้มๆ  สายตาดูแคลนที่เขามองมาไม่ทำให้มาร์กี้โกรธแบบที่ควรจะเป็น แต่กลับเขินมากกว่า

                    อยากโดนหรือไง  ธันเดอร์ยักคิ้ว  มาร์กี้จึงไม่ทน บ้าเหรอ-//-“

                    ยิ่งหน้าแดงก็ยิ่งรู้สึกอาย  มาร์กี้เดินหนีออกไปทันที  ทิ้งให้ธันเดอร์นอนยิ้มมุมปาก มองตามไปจนสุดสายตา

     

                    ขณะที่พลอยเพชรกำลังยืนล้างจาน เธอสะดุ้งเมื่อจู่ๆคยูฮยอนก็อ้อมแขนทั้งสองโอบมาจากด้านหลัง  เดี๋ยวล้างจานให้ 

                    ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เกินกว่าที่ควรจะเป็น  พลอยเพชรไม่กล้าหันไปแต่รับรู้ได้จากลมหายใจที่เป่ารดเส้นผม

                    ไม่ต้อง!”

                    แก้เขินด้วยการตะคอกเสียงดังซะเลย

                    จะดุทำไม บอกว่าเดี๋ยวล้างให้

                    “บอกว่าไม่ต้อง! ออกไป๊!”

                    ฮื่ออย่าผลักสิ

                    “เดี๋ยวล้างเอง!”

                    “เงียบๆแล้วช่วยฉันล้างเถอะ  เขาคว้าฟองน้ำยัดใส่มือพลอยเพชรแล้วบีบซันไลต์เทลงไปอย่างไม่ยั้งมือ

                    เยอะเกิน!” หมียังคงดุโหด

                    ก็ไม่เคยล้างนิ่

                    “เป็นคุณชายสินะ

                    “จะเป็นพ่อบ้านแล้ว คยูฮยอนบอกยิ้มๆ  แต่พลอยเพชรมองไม่เห็นรอยยิ้มนั้นเพราะจดจ้องเพียงแต่จานตรงหน้า  เธอพยายามไม่รู้สึกถึงไออุ่นรอบกาย แต่ก็ทำไม่ได้

                    ออกไปก่อนได้มั้ย  เธอพูดเสียงแข็งในที่สุด  แต่ยิ่งเห็นว่าพลอยเพชรสร้างกำแพงมากเท่าไหร่คยูฮยอนก็ยิ่งอยากท้าทายด้วยการทำลายกำแพงนั้น

                    ทำไมล่ะครับ  ชายหนุ่มเริ่มจะกวนประสาท

                    ฉันร้อน

                    “ผมฮ็อทเหรอ ?

                    “บอกว่าร้อน ไม่ใช่ฮ็อท  คราวนี้พลอยเพชรทำใจแข็งหันไปสบตากับคยูฮยอนด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่าที่สุดเท่าที่จะทำได้  แต่มันกลับยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้รับรอยยิ้มเกรียนๆกลับมา

                    พลอยเพชรทนไม่ไหวแล้ว  เธอลอดใต้แขนของเขาออกไปจากพันธนาการนั้นอย่างรวดเร็ว  ร่างอวบกอดอกยืนสั่งอย่างผู้มีอำนาจเหนือกว่า ล้างไป!”

                    พลอยไม้ถูพื้นอยู่ไหนวะ”  แคทเดินมาถามหาอย่างมึนๆ แต่แล้วตัวเองก็เจอเอง อ้อเจอละ

                    แคทเอาไม้ถูพื้นไปชุบน้ำยาแล้วถูเองเสร็จสรรพ ปล่อยให้จงฮยอนนั่งเฉยๆซะงั้น

                    น้องแคททท  จงฮยอนเรียกอย่างอ้อนๆขณะเอนตัวนอนสบายอยู่บนโซฟา

                    พี่ก็ไม่ได้อยากให้น้องแคทถูห้องแทนพี่หรอกนะ แต่ว่า…” เขาพูดไปหาวไป พี่ทำงานเหนื่อยมากเลยอะ

                    แคทเห็นแล้วแหละ เวลาพี่เล่นคอนเสิร์ต  เธอถูพื้นอย่างคล่องแคล่ว  จงฮยอนมองภาพนั้นอย่างเพลิดเพลินและนึกชื่นชมอยู่ในใจ

                    แคทเคยตามพี่ไปไหนหรือเปล่า ทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย

                    แคทคิดในใจ.. มรึงคงเห็นกรูหรอก กรูเพิ่งรู้จักมึงเมื่อวาน- -

                    “เอ่อไม่เคยอะ  เธอตอบสั้นๆเพราะโกหกไม่เก่ง

                    ดีแล้ว พี่ห่วงแฟนคลับ ไม่อยากให้ตาม เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุ

                    ขนาดเมื่อวานยังเกิดเลย5555”

                    “นั่นแหละ แปลกนะ พี่ไม่เคยช่วยใครขนาดนี้เลย..”

                    นะเอยที่เพิ่งเดินกลับเข้ามา บังเอิญได้ยินก็หูผึ่งทันที  ประโยคแบบนี้มันคำพูดของพวกคนหม้อชัดๆ- - พูดให้รู้สึกดีล่ะสิ กูคุ้น !

                    แต่แคทก็รู้สึกดีจริงๆ  เธอเดินไปตามเกมของเขาเป๊ะๆ เขินอะ5555”

                    แม้จะก้มหน้าก้มตาถูพื้นแต่จงฮยอนก็ยังมองเห็นว่าใบหน้าของแคทแดงซ่าน 

                    ที่แคทกล้ายอมรับตรงๆว่าเขินเพราะเห็นว่า นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ ที่เธอจะสามารถแสดงออกได้เต็มที่ว่าเธอชอบเขามากแค่ไหน

                    ต่างจากจงฮยอนที่อยากจะเป็นมากกว่านั้น ก็เลยมีลูกเล่นมาทำให้แคทหวั่นไหวได้ตลอด

                    พี่ทำแผลให้แคทเป็นคนแรกเลยนะ

                    “อืมขอบคุณค่ะ  แคทหยุดยิ้มไม่ได้และไม่รู้จะพูดอะไร

                    เหนื่อยยัง มานั่งนี่มา  จงฮยอนดันตัวขึ้นกึ่งนั่นกึ่งนอนแล้วตบๆโซฟาเรียกแคท ทว่าเธอปฏิเสธ ไม่เป็นไรนอนไปเหอะ

                    เห้ย หลบดิ๊ แต่กลับเป็นธันเดอร์ที่มาจากไหนไม่รู้ แล้วแย่งโซฟาจงฮยอนเฉ๊ย

                    อ้าว ทำไมไม่นอนในห้องวะ

                    จงฮยอนถาม ธันเดอร์ปรายตามองมาร์กี้ ณ มุมห้อง ซึ่งจ้องเขาเขม็งอยู่เหมือนกัน นอนในห้องแล้วงสงสารบางคนว่ะ ไม่มีที่นอน เขาแซะหน้านิ่ง

                    คิดได้ก็ดี!”  มาร์กี้เหวี่ยงใส่แล้วเดินเข้าห้องปิดประตูปัง!ทันที  ขณะที่นะเอยบ่นไล่หลัง จะปิดดังทำไมวะ

                    นะเอยหันไปเห็นคิบอมที่ได้รับหน้าที่จัดหนังสือวางบนชั้น แล้วก็นึกอยากจะช่วย  แต่พอเดินเข้าไปก็พบว่า คิบอมกำลังสนใจหนังสือเล่มหนึ่งอยู่

                    นี่ของใคร เขาหันมาถามนะเอย

                    ของแคท แคทมันเล่นกีตาร์

                    มันคือหนังสือทฤษฎีดนตรีนั่นเอง  คิบอมหันไปเรียกแคท แคท ขอยืมหน่อยนะ

                    ไม่รู้ว่านะเอยเว่อร์ไปหรือเปล่า แต่แค่เธอได้ยินคิบอมเรียกชื่อคนอื่น หัวใจของเธอก็สั่นไหวแล้ว

                    นายยังต้องอ่านหนังสือพวกนี้อีกเหรอ  ฉันคิดว่านายเล่นไปตามอารมณ์ซะอีก

                    “ฉันก็เพิ่งอยากจะอ่านนี่แหละ

                    คิบอมเปิดดูแต่ละหน้าอย่างสนอกสนใจ ขณะที่นะเอยนั่งลงข้างๆ

                    จะให้เล่นตามอารมณ์ไปตลอดชีวิตก็คงไม่ได้ อาชีพแบบฉันมันไม่มั่นคง เหมือนไม่มีอนาคต

                    “บ้าเหรออาชีพของนายดีจะตาย นะเอยชื่นชมอย่างจริงใจ มันไม่ใช่แค่เล่นดนตรีอิสระ แต่มันทำให้คนหลายๆคนสบายใจได้

                    “แต่มันดูไม่ดี เหมือนผิดกฎหมาย แล้วคนใกล้ตัวก็จะโดนไปด้วย

                    ก่อนหน้านี้คิบอมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้  แต่เมื่อกี้จู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาว่า ถ้าวันนึงเขาต้องมีครอบครัวขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงคนที่เขารักไปได้นานแค่ไหน ? ก็จริงอยู่ที่คิบอมไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง ไม่อยากคบใคร แต่ ความรักที่แท้จริงมันกำหนดไมได้หรอกว่ามันจะเกิดขึ้นมาตอนไหน

                    อาจจะเป็นตอนนี้ ก็ได้

                    “คนใกล้ตัว ? งงอะ แล้วมันจะเกี่ยวอะไร

                    “คนรักไง  คิบอมหันมามองนะเอย ถ้าจะมีแฟน ก็ต้องเลือกระหว่างอาชีพแบบนี้ หรือ แฟน

                    แล้วถ้าแฟนอยากให้ทำอาชีพนี้ล่ะ ?”

                    คิบอมส่ายหน้าอย่างมั่นใจ ไม่มีใครอยากให้แฟนตัวเองเที่ยวไปจูบกับคนอื่นหรอก

                    นะเอยรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมานิดๆ  งั้นเราก็คงเป็นแค่ คนอื่นที่เขามาจูบเท่านั้นสินะ

                    “..ใช่มั้ย  คิบอมหันมาถาม  นะเอยที่กำลังใจลอยก็รีบพยักหน้าเออออ

                    ก็ถูก แต่ว่า ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะไม่คิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องจูบหรือไม่จูบ  แต่ฉันแค่ไม่ต้องการให้ใครต้องทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อฉัน..”

                    คิบอมเงียบอย่างตั้งใจฟัง “..แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคนที่จะมาเป็นแฟนของนายจะคิดยังไงนะ

                    คิบอมพยักหน้าช้าๆ  ก้มหน้าดูหนังสือต่อและพูดออกมาอย่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน..

                    ก็คงคิดแบบนี้แหละ


               

          


                   To be continued...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×