ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [DECAMONO] เธอและฉันพบกันสวัสดี

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 : Secrets

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


    Chapter 6 Secrets

                   บนดาดฟ้ายามค่ำคืน ที่มีสระว่ายน้ำ แม้จะดูโรแมนติกแค่ไหน แต่ตอนนี้นะเอยหวาดกลัวมากกว่า

                   หัวใจของนะเอยเต้นแรงมากอย่างไม่รู้ตัว  จนกระทั่งคิบอมปล่อยมือเธอ

                   “ว่าไง เธอมาสอดแนมอะไรพวกฉัน

                   นะเอยเม้มปากแน่น ชั่งใจว่าจะพูดความจริงดีหรือไม่  กลัวว่าคิบอมจะเข้าข้างพวกนั้น

                แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องโกหกนี่เราไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย

                   ฉัน..บังเอิญไปได้ยินอะไรบางอย่าง

                   สีหน้าของคิบอมเปลี่ยนไปเล็กน้อย  แม้อยู่ในความมืดแต่นะเอยก็ยังสังเกตเห็น

                   มันทำให้ฉันรู้ว่าจงฮยอนเป็นคนยังไง

                   คราวนี้คิบอมเอียงคอด้วยความสงสัย ยังไง

                   “พวกเขาใช้แคทเป็นเครื่องมือ ทั้งจงฮยอน แลวก็ยงฮวา พวกเขาเหมือนจะใช้แคทเป็นเดิมพัน แข่งกันจีบแค่นั้น..”

                   คิบอมเงียบไปอย่างใช้ความคิด

                   “…แล้วไง

                   “แล้วไงเหรอ !”

                   นะเอยพูดอะไรต่อไม่ออก นี่ผู้ชายเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ย

                มันทำให้ฉันนึกถึงลีฮยอกแจ  ผู้ชายเลวคนนั้น  ผู้ชายมันก็เป็นเหมือนกันหมด !!

                   “พวกนายเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงแบบนี้เหรอ !”

                   เธอไม่เข้าใจหรอก

                   “ก็ไม่เข้าใจน่ะสิ ฉันไม่ใช่ผู้ชายนี่ !”

                   “แล้วทำไมผู้หญิงถึงชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนักล่ะ

                   …

                   “ฉันก็แค่ห่วงเพื่อน..”

                   “เพื่อนเธอโตแล้ว ให้เขาเผชิญกับโลกเองบ้างเถอะ เพื่อนนะไม่ใช่ลูก

                   สายตาของคิบอมเหมือนกับผู้ใหญ่ที่สอนเด็ก เขาไม่ได้ไม่พอใจเพียงแค่อยากชี้แจงให้นะเอยเข้าใจเท่านั้นเอง

                   แต่ผู้หญิง(โดยเฉพาะแบบนะเอย)เข้าใจผู้ชายได้ยากมาก ถึงจะเข้าใจก็ไม่ยอมรับหรอก !

                   นายจะปล่อยให้ฉันอยู่เฉยๆ ยอมให้เพื่อนโดนหลอกต่อหน้าต่อตาเหรอ…”

                   คิบอมเริ่มใจเย็นลงจึงนั่งลงข้างขอบสระ แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นจุดสูบ จงฮยอนไม่ทำแบบนั้นหรอก

                   “รู้ได้ไง เขากำลังทำอยู่เนี่ย

                   “ถ้ามันทำแบบนั้นจริง คนที่จะเสียใจยิ่งกว่าก็คือจงฮยอน ไม่ใช่แคท

                   “แล้วทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย

                   น้ำเสียงของนะเอยบ่งบอกถึงความไม่พอใจมากๆ  แต่แล้วเธอก็เพิ่งสังเกตของกลิ่นควันบุหรี่ที่มันเปลี่ยนไป

                หอมเหมือนช็อกโกแลต

                   เอาเป็นว่า เธอเฉยๆเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของพวกเขา

                   “แต่ฉัน..”

                   “เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดเลย

                   คราวนี้นะเอยเงียบกริบ  แอบงอนคิบอมเบาๆ : (  ทำไมต้องวกมาว่าฉันด้วยเล่า !!

                   “ถ้าแคทเสียใจขึ้นมา นายจะรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองยังไง

                   คิบอมเอนตัวลงนอน พูดเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ความเสียใจจากความรัก มันก็คือบทเรียน ถือว่าเป็นรางวัลชีวิตก็ละกัน

                   นะเอยถอนหายใจยาว ไม่รู้จะปรับความเข้าใจกับความคิดของผู้ชายยังไง

                   ยิ่งคิดถึงเรื่องแคทก็ยิ่งเครียด เลยตัดปัญหาด้วยการนั่งลงข้างๆคิบอมซะเลย #เดี๋ยวนะ

                   พวกเขาเงียบไปพักใหญ่ๆ  แทนที่นะเอยจะคิดถึงเรื่องแคท  แต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆกลับทำให้ความคิดของเธอวนเวียนอยู่แต่เขา  แม้เขาจะแค่นอนสูบบุหรี่เฉยๆไม่พูดอะไรเลยก็เถอะ แม้จะนั่งอยู่ข้างๆกัน นะเอยก็ยังหยุดคิดถึงเขาไม่ได้ 

                   เป็นเพราะอะไรกันนะ หรือว่า เป็นเพราะเวลามันใกล้เคียงกับที่เราเจอเขาเมื่อคืน ?

                   แล้วนายไม่ไปทำงานเหรอ  น้ำเสียงของเธอยังคงไม่เป็นมิตรนักเพราะยังงอนอยู่

                   คิบอมมีไอเดียใหม่  ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างเปี่ยมสุข  เขาดันตัวขึ้นนั่งพลางหันไปถาม เธออยากเป็นลูกค้าคนแรกของฉันมั้ยล่ะ

                   แสงจากดวงจันทร์ที่ส่องลงมาทำให้มองเห็นเพียงเสี้ยวหน้าของชายหนุ่ม แต่เพียงเท่านั้นก็สามารถทำให้หัวใจของนะเอยสั่นไหวได้

                   รอยยิ้มเพียงเล็กน้อยของเขา ทำไมมันถึงมีพลังทำลายล้างสูงขนาดนี้

                   บ้าเหรอ ที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงานของนายนะ

                   “ฉันไม่มีที่ทำงานซะหน่อย เร่ร่อนไปตามผับ แต่คืนนี้อยากอยู่ที่นี่

                   ว่าพลางหยิบกีตาร์ของตนออกมาโดยไม่รอคำตอบ  นะเอยจึงได้แต่นั่งเงียบเพราะใจจริงก็อยากฟังกีตาร์ของเขาเหมือนกัน

                   คืนนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ สบายใจได้

                   คิบอมพูดไปยิ้มไป ก็มันเขินน่ะ

                   อยากได้เพลงบรรเลงคลาสสิกยาวๆซักเพลง แล้วจะลงไปหาแคทละ

                   เหมือนนะเอยจะบอกตัวเองมากกว่า ย้ำเตือนกับตัวเองว่าต้องรีบลงไปอยู่เป็นเพื่อนแคท  ไม่งั้นคงติดลมแน่ๆ

                   หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย คิบอมจัดเพลงให้ตามคำขอ  เขาเหลือบมองคอร์ดกีตาร์สลับกับคนข้างๆ ที่เอาแต่เงยหน้ามองท้องฟ้าไปเรื่อย  คิบอมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

                   บทเพลงสวยงาม ที่ชื่อสั้นๆว่า Kiss the rain.

                  

                   But tonight, I really wanna kiss you

     

                   “กี้ มึงขึ้นไปดูแคทก่อนไป กูกะแทนจะไปวิลล่า

                   พลอยเพชรหันไปบอกมาร์กี้ ร่างอวบพยักหน้ารับรู้และเดินเข้าคอนโดไปอย่างเดียวดาย

                   ระหว่างทางที่พลอยเพชรและแทนอึนเดินไปวิลล่ามาร์เก็ต ก็ปรึกษาหารือเรื่องแคทไปด้วย โดยประชุมผ่านไลน์ decamono ซึ่งตอนนี้ทุกคนรับรู้หมดแล้ว ยกเว้นตองหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าไลน์

                   แต่เดี๋ยวเอ้มเอ้ก็คาบข่าวไปบอกเองแหละ ๆ

                   จนกระทั่งมาถึงมุมผักในวิลล่ามาร์เก็ต พลอยเพชรรู้สึกว่า.. ไอ้ผู้ชายที่ยืนเลือกผักด้วยท่าทางเก้ๆกังๆอยู่ตรงนั้นมันคุ้นๆป้ะวะ

                   คยูฮยอน

                   พลอยเพชรเผลอเรียกชื่อเขาเสียงดังด้วยความตกใจ  ชายหนุ่มจึงหันมายิ้มหวานเหมือนเด็กๆ

                   นายมาทำอะไร??”

                   “ก็บอกแล้วไงว่าจะเป็นพ่อบ้าน

                   ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวช้าไปหน่อยว่าต้องวางฟอร์ม  คยูฮยอนรีบหุบยิ้มและกระแอมไอเล็กน้อย  พลางยืดตัวยืนอย่างคุณชาย แม่บ้านประจำตัวเธอต้องมาช่วยฉันเลือกซื้อผักแล้วล่ะ

                   “ใครแม่บ้านน๊าย!? แล้วเอาตังค์ที่ไหนซื้อน่ะ

                   “ยืมคิบอมมาแล้ว มาเถอะน่ะ เร็วๆ ฉันงงจะแย่แล้ว!”  เขากวักมือเรียก ซึ่งสภาพคยูก็ดูจะไม่ถนัดจริงๆ  พลอยเพชรจึงต้องเดินเข้าไปช่วยเลือกผัก

                   ยิ้มอะไรยัยหมี  คยูฮยอนว่าเข้าให้

                   พลอยเพชรก็เพิ่งรู้ตัวนี่แหละว่าตัวเองกำยังยิ้ม..

                   สมเพช เธอหันไปบอกซะเต็มปากเต็มคำ

                   หึ เลือกผักให้ดีล่ะ ถ้าแกล้งฉัน เธอตายแน่!”

                   พลอยเพชรหันไปบอกแทนอึนอย่างไม่สนใจคยูฮยอนเลยสักนิด แทน มึงซื้อของไปก่อนก็ได้ ถ้าเสร็จก่อนก็กลับก่อนเลย

                   แทนอึนพยักหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะทำหน้ารู้ทัน  แต่ดูเหมือนว่าทั้งพลอยเพชรทั้งคยูฮยอนจะไม่มีใครสนใจแทนอึน เพราะมัวแต่สนใจกันและกันอยู่

                   ได้ยินฉันหรือเปล่า!”  คยูฮยอนตะคอกใส่พลอยเพชร

                   “เออได้ยินแล้ว!” พลอยเพชรทำเสียงใหญ่

                   งั้นก็ไปเลือกผลไม้ แล้วก็เนื้อสัตว์ด้วย เอาเนื้อหมู ไก่ ปลา เอามาให้หมด เนื้อหมีได้ยิ่งดี

                   ชิ้ง~ พลอยเพชรมองค้อนคยูฮยอน

                แต่ถามว่าคยูคนนี้จะกลัวมั้ย ? ไม่ ! X)

                   มองอะไร เดินนำไปสิหมี!”

                   ไอ้หน้าหมา

                   พลอยเพชรด่านิ่งๆแล้วเดินลิ่วไปเลย  ทำเอาคยูฮยอนรีบวิ่งลุนรถตาม

                   ก็ยังดีกว่าหน้าหมีล่ะวะ!”

                   เขาตะโกนแล้วก็สะดุดล้อรถเข็นตัวเอง โอ้ยยยยย อะไรจะซวยขนาดนี้วะ! แต่ดีที่ยัยหมีไม่เห็น-..-

                   ไม่นานคยูฮยอนก็วิ่งตามพลอยเพชรทัน  พวกเขาเดินเลือกซื้อของด้วยกันอยู่นานโดยมีพลอยเพชรเดินนำและคอยคัดทุกอย่าง ส่วนคยูฮยอนเป็นฝ่ายเดินตามและคอยขัดทุกอย่าง -_____-

                   ถ้าคนที่ไม่รู้จักสองคนนี้ ก็คงจะนึกว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน

                   ที่มาช่วยเลือกของก็เพราะสงสารหรอกนะ

                   พลอยเพชรพูดประโยคนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง  ทำให้คยูฮยอนไม่ค่อยจะรู้เล้ยว่าพลอยเพชรร้อนตัว

                   ค้าบบบบรู้แล้วค้าบบบบ  เขาบอกอย่างกวนๆ   แม้จะหมั่นไส้ในความฟอร์มจัดของหมีตนนี้ แต่ก็ยังดีใจที่ได้มีคนมาช่วยซื้อของไปทำอาหารกิน ไม่ต้องเดินห้างอย่างเดียวดายและเคว้งคว้างเหมือนที่คิดไว้

                   บางครั้งเวลาที่คนเรากำลังมีความสุข เราก็ไม่รู้ตัว และลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปในชั่วขณะหนึ่งได้เหมือนกัน



                   บนคอนโดมิเนียม  เมื่อมาถึงชั้น 6 มาร์กี้กำลังจะเดินเข้าห้องตัวเอง  แต่จู่ๆประตูห้องตรงข้ามก็เปิดผ่าง!ออกมา

                   เหี้ย!” นางอุทาน

                   อะไร

                   ธันเดอร์หรี่ตามองเธออย่างมึนๆและหัวเสีย  มาร์กี้พิจารณาร่างสูงตั้งแต่หัวจรดเท้า..รวมถึงสังเกตกลิ่น ซึ่งบ่งบอกว่า เขากำลังเมาเหล้า

                   ไม่ต้องมานอนห้องฉันนะ เหม็น

                   “ฮื่อออ  ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว  ธันเดอร์เปิดประตูห้องของมาร์กี้ แต่ก็โดนเจ้าของห้องฉุดไว้

                   หยุด!!”

                   “อะไร!!”

                   “ห้องตัวเองมีทำไมไม่นอน!”

                   ธันเดอร์หันไปมองประตูห้องตัวเองที่ยังปิดไม่สนิทด้วยซ้ำ พลางบ่น ก็เพื่อนเธอนั่นแหละ นอนละเมออะไรไม่รู้เสียงดังโวยวาย ฉันรำคาญ!”

                   ห๊ะ!? เพื่อนฉัน ใคร!!?

                อย่าบอกนะว่า

                   “แคทน่ะเหรอ!?”

                   ธันเดอร์ไม่ตอบแต่เดินตรงเข้าไปในห้อง มาร์กี้พึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัย อีแคทไปอยู่ห้องนั้นทำไมวะ

                   เธอไม่ต้องไปยุ่งหรอก  จู่ๆธันเดอร์ก็หันกลับมากระชากมาร์กี้เข้าห้องไปซะงั้น โอ๊ย! ปล่อย! จะไปหาอีแคท!”

                   “หาทำไม แฟนกันเขาจะอยู่ด้วยกัน เขาพูดเสียงดังผิดปกติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ พลางลากมาร์กี้เข้ามาในห้องได้สำเร็จและล็อคประตูให้ซะด้วย

                   เดี๋ยวนะ แฟน!?”

                   ธันเดอร์ทำเสียงในลำคออย่างขัดใจแล้วเดินเร็วๆไปล้มตัวลงนอนบนเตียงของมาร์กี้อย่างเคย  เมื่อเห็นดังนั้น หญิงสาวก็เก็บความสงสัยไว้ก่อนแล้วจัดการกับบุคคลผู้บุกรุก

                   นายมัมมี่ ! อย่าเอากลิ่นเหล้ามาแพร่ใส่ห้องฉันนะ ออกไปเดี๋ยวนี้!”

                   แม้รู้ว่าคำพูดของตนไม่เคยได้ผลเลย แต่มาร์กี้ก็ยังคงไล่ธันเดอร์ทุกครั้งด้วยวิธีเดิมๆ

                   ธันเดอร์เพียงแต่ครางในลำคอด้วยความรำคาญตอบกลับมาเท่านั้น มาร์กี้จึงถอนหายใจยาววววว

                   เห้อออออออ ! ถามจริง ทำไมถึงชอบมานอนห้องชาวบ้านเค้า !”

                   “ฉันชอบห้องเธอมั้ง  เขาตอบเสียงอู้อี้

                   ชอบห้องฉัน ? ห้องฉันมีแต่สีชมพูและคิตตี้ มีแค่ผู้หญิงกับตุ๊ดเท่านั้นแหละที่ชอบ

                   ธันเดอร์นึกสนุกจึงพลิกตัวกลับมานอนหงายแล้วตอบนิ่งๆ เออ ฉันเป็นตุ๊ด

                   มาร์กี้มองใบหน้านิ่งเฉยนั้นอย่างเหยียดๆ  ในใจก็คิดไปว่า เขาจะมาไม้ไหนอีก

                   “ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นสีชมพู ชอบหมอนสีชมพู..”  เขาหันไปมองหมอนลายคิตตี้ของเธอ พลางค่อยๆลุกจากที่นอน “..ตู้เสื้อผ้าสีชมพู  ผ้าเช็ดเท้าสีชมพู..”  ธันเดอร์เดินเข้ามาหาเธอและมองไปรอบๆ เขาชี้ทุกอย่างที่เป็นสีชมพู พูดจาเลื่อนลอยอย่างคนเมา

                   จนกระทั่ง “…เสื้อสีชมพู..” ธันเดอร์เดินเข้ามาจนชิดมาร์กี้ แล้วจับที่แขนเสื้อ  

                   หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่รู้ทำไมมันขยับตัวไม่ได้ทุกทีที่ผู้ชายคนนี้มารุกล้ำกันแบบนี้

                   ใกล้เกินไปแล้ว ธันเดอร์ นายออกไปเดี๋ยวนี้นะ..

                   “..ยางมัดผม สีชมพู

                   เขามองตามสิ่งที่ตัวเองพูดถึงแล้วจับมันเขย่าเล็กน้อย  สิ่งของแต่ละอย่างเขาพูดมันออกมาช้าลงเรื่อยๆ..

                   “สร้อยคอ สีชมพู

                   ธันเดอร์มองสำรวจทั่วร่างกายของมาร์กี้ว่ามีอะไรสีชมพูที่เขาพอจะเล่นได้อีก แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่..

                   “..แก้มสีชมพู

                   เขาหยิกมันเบาๆอย่างถือวิสาสะ  มาร์กี้เบิกตาโพลงและทำท่าจะปัดมือเขาออก  แต่กลับถูกธันเดอร์จับข้อมือไว้ได้ทัน

                   ปาก..สีชมพู..”

                   มือหนาเลื่อนลงมาสัมผัสริมฝีปากอิ่มอย่างช้าๆ  คราวนี้กลับกลายเป็นมาร์กี้ที่อ่อนระทวยและไม่มีแรงจะต่อต้านการกระทำของธันเดอร์

                   ธันเดอร์มอง ปากสีชมพูที่เขากำลังจับเบาๆแล้วเผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว

                   ชายหนุ่มอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ว่า

                   หมดแล้ว ไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว

                   “…”

                   มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ดังอยู่ภายในห้องนี้  หัวใจของทั้งคู่เต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

                   นายกำลังเมามากนะนายมัมมี่

                   มาร์กี้อยากจะบอกออกไปแบบนั้นแต่กลับพูดอะไรไม่ออก  ยิ่งธันเดอร์ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้และยังจ้องหน้าเธออยู่อย่างนั้น  ยิ่งทำให้มาร์กี้รู้สึกเหมือนกำลังจะหยุดหายใจ

                   ทว่า

                   “พี่ธันเดอร์คะ!”

                   แทนอึนบุกเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเหมือนกับข้าวโพดที่เพิ่งผลิออกจากฝัก  ด้วยสัญชาตญาณทั้งคู่จึงผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว

                   พี่จงฮยอนให้มาตามกลับห้อง

                   แทนอึนรู้เห็นเหตุการณ์แต่ก็ทำเป็นไม่รู้   ขณะที่มาร์กี้ยังคงพูดอะไรไม่ออก

                   สีหน้าของธันเดอร์แสดงออกถึงอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด

                   อะไรวะ!”

                   ธันเดอร์บ่นเสียงดังซะจนมาร์กี้กลัวว่าแทนอึนจะสงสัย

                   ธันเดอร์เดินเร็วๆออกจากห้องไปเลย  ขณะที่แทนอึนเดินตามออกไปดูแคท ซึ่งเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วเธอเพิ่งจะลากกลับมานอนบนโซฟา

                   หมดสภาพเลยแคทเอ้ย..”  แทนอึนพึมพำด้วยความสงสาร  มาร์กี้ที่เพิ่งจะตั้งสติได้ก็เพิ่งเดินตามออกมา

                   มันเป็นไงมั่งอะ

                   เธอกำจัดเรื่องเมื่อครู่ออกไปจากหัวแล้วห่วงเพื่อนก่อน

                   อย่างที่เห็น  แทนอึนบอกอย่างเพลียๆ  แต่แล้วก็นึกอะไรบางอย่างได้

                   อีเอยอะ ?

                   “เออว่ะ อีพลอยอะ ?

                   “อยู่วิลล่า

                   …

                   “โทรตามอีเอยดิ๊

                   มาร์กี้บอกแทนอึนแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง  เธอล้มตัวลงนอนและข่มตาหลับอย่างยากเย็น

                   กลิ่นของเขาภาพของเขาลมหายใจของเขา

                   ทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความรู้สึกและยากที่จะขจัดออกไป

                เขาก็แค่เมามาร์กี้จำไว้นะว่าเขาแค่เมา

                   ก่อนที่มาร์กี้จะหลับ เธอนึกขึ้นได้ว่าลืมทำอะไรบางอย่าง  มาร์กี้คว้าสมุดของเธอที่หัวนอนแล้วเขียนถึงคนๆหนึ่งที่เพิ่งเจอที่เรียนพิเศษวันนี้

                   ‘ 3 Mar 2013

                   เรียนพิเศษวันแรก >< เจอผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง ! เก็บปากกาให้เรา เวลาเราจดไม่ทันก็ให้ดู ช่วยเหลือกันทุกอย่าง

                   ไม่นึกว่าจะมีผู้ชายแสนดีแบบนี้อยู่ที่นี่ ! ถ้าเราไม่ได้ได้ยินผิด รู้สึกว่าเขาจะชื่อว่า เซฮุน ><

                   แต่ดูไปดูมา เขาก็หล่อเท่าๆกับนายมัมมี่นะ

                   แต่เซฮุนนิสัยดีกว่าเป็นหลายยยยยล้านนนนเท่า !! : ((((

                   มาร์กี้รู้สึกง่วงจึงจบไดอารี่ไว้เพียงเท่านั้น พลางไปถอดคอนแทคเลนส์และเตรียมตัวนอน

     

                   นะเอยไม่รู้ตัวว่าเธอเผลอหลับซบไหล่คิบอมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้เธอสะดุ้งตื่น

                   ฮัลโหล..นะเอยกรอกเสียงลงไปอย่างง่วงๆ  คิบอมหันไปมองด้วยความเสียดาย

                   เอย อยู่ไหน แทนถาม

                   สระว่ายน้ำ...

                   “อยู่กับใคร

                   “คิบอม

                   แทนอึนเงียบไปเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น “..ลงมาได้แล้ว

                   “อ่าๆ

                   นะเอยรีบลุกขึ้นยืนขณะที่คิบอมเก็บกีตาร์อย่างอ้อยอิ่ง เพื่อนไม่ว่าเหรอ

                   “ไม่หนิ นะเอยส่ายหน้า  เธอยืนรอเขา

                   บอกเพื่อนทุกเรื่องเลยเหรอ  เขายืนประจันหน้ากับเธอ

                   อื้ม ทำไมอะ

                   คิบอมเม้มปากแน่นอย่างไม่รู้ตัว  เขาจ้องมองใบหน้าที่แสดงความสงสัย เหมือนกับเด็กไร้เดียงสา 

                   ไรผมที่มาปรกหน้าเพราะลมพัดแรงยิ่งทำให้คิบอมอยากมองภาพนี้นานๆน่ารัก.. เขาคิดในใจ

                   คิบอมรู้สึกว่าเขาไม่ควรจ้องเธอนานกว่านี้จึงตัดสินใจบอกออกไป “..ไม่มีอะไรหรอก

                   “เอ๊า

                   “เธอยังเด็กอยู่นะ

                   พูดในลำคอแล้วเดินออกไปเฉยเลย  ดูเหมือนว่าเขาจะพูดกับตัวเองมากกว่า  นะเอยจึงวิ่งตามไปอย่างงงๆ

                   แล้วคืนนี้นายจะไปผับหรือเปล่า

                   นะเอยถามขณะอยู่ในลิฟท์ด้วยกัน แม้จะกลัวคำตอบแต่ก็ยังอยากรู้

                   ไปสิ  เขาบอกนิ่งๆ ลิฟท์ลงมาถึงชั้น 6 พอดี  ทั้งคู่ต่างรู้สึกว่าลิฟท์มันเร็วเกินไป..

                   นะเอยเดินออกมาจากลิฟท์แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้จึงหันหลังกลับไป เออ ฉันลืมให้เงินนายค่าเล่นกีตาร์ !”

                   คิบอมมัวแต่ยืนนิ่งจึงกดเปิดลิฟท์ไม่ทัน  ลิฟท์ปิดลงอย่างรวดเร็วและถ้านะเอยฟังไม่ผิด...ประโยคที่เธอได้ยินแว่วๆจากปากของคิบอมก็คือ

                   เดี๋ยวคืนนี้ค่อยกลับมาเอา

     

                   พลอยเพชรใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการเกลี้ยกล่อมแกมบังคับแกมทำสงครามเพื่อบอกให้คยูฮยอนกลับห้องไปก่อน เพราะคืนนี้มันดึกแล้วและเธอขี้เกียจทำอาหารแล้ว

                   อย่าลืมนะ พรุ่งนี้เช้า!”

                   คยูฮยอนบอกอย่างโหวกเหวกแล้วกลับเข้าห้องไป ...คืนนี้อารมณ์ดีหรอกนะถึงยอม หึ !

                   พลอยเพชรหอบอาหารสดทั้งหมดเข้ามาในห้องอย่างเหนื่อยๆ  ไม่นึกว่าตัวเองจะต้องกลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวขนาดนี้

                   แคทเป็นไงมั่ง  พลอยเพชรถามแทนอึนที่นั่งเล่นโน้ตบุ๊คอยู่

                   ยังไม่รู้ ถามเอยว่าตกลงเรื่องเป็นไงเอยก็บอกลืม

                   “โถ...รู้นะว่าอีเอยขี้ลืมแต่ไม่นึกว่าจะขี้ลืมขนาดนี้

                   แทนอึนไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่ได้ใส่ใจนัก แต่คนที่เก็บไปคิดมากคือคนที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนโซฟา

                   นะเอยที่ได้ยินพลอยเพชรพูดและได้แต่นึกในใจ ...จะบอกความจริงดีมั้ยนะ ? บอกทุกคน ยกเว้นแคท ดีมั้ยนะ ? แล้วคิบอมล่ะ...คิบอมจะโกรธเราหรือเปล่า

                ทำยังไงดีๆๆๆๆๆๆT______T นอนดีกว่า!!!

                   เวลาล่วงเลยมาจนดึกดื่น ทุกคนหลับหมดยกเว้นพลอยเพชรที่กำลังอ่านฟิค และแทนอึนที่เล่นเฟสอยู่

                   ทำไมคืนนี้มึงนอนเร็ววะพลอย แทนอึนถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพลอยเพชรทำท่าจะนอน

                   พรุ่งนี้กูต้องตื่นเช้า

                   แทนอึนหันมามองพลอยเพชร มึงมีเรียนเช้าเหรอ ?

                   ป่าว

                   พลอยเพชรตอบปัดๆเหมือนไม่ค่อยอยากตอบ แทนอึนจึงไม่ถามต่อ

                   เพราะความจริงแล้วพลอยเพชรต้องตื่นมาทำกับข้าวให้คุณชายหมาป่านั่นต่างหาก

                   แทนอึนเลื่อนหน้าทามไลน์เฟซบุ๊คดูแล้วก็ต้องสะดุดกับอะไรบางอย่าง

                   ‘Jemmy Boonmechote is now friend with เยนนี่ เยอึน

                   เขาเพ่งอ่านอีกทีเพื่อความแน่ใจ และแล้วความรู้สึกหมั่นไส้สุดส้นตีนก็ตามมา  ด้วยความรวดเร็วเขาคลิกเข้าเฟสของเยอึนแล้วแอดเฟรนด์โดยพลัน

                   เร็วกว่ากูอีกนะเจมมี่... เธอพึมพำอย่างแค้นๆ

                   แทนอึนแทบจะกระโดดด้วยความดีใจเพราะเยอึนรับแอดเร็วมากกกกกก ! ในตอนแรกเขาว่าจะทักไป แต่แล้วก็คิดว่า

                   เผื่อเธอจะทักมาก่อน อิอิ

                   แทนอึนเข้าไปส่องรูปโปรไฟล์โดยพลัน เขาคิดไว้ว่าจะไม่ไลค์ทุกรูป จะไลค์เฉพาะรูปที่สวยๆที่ชอบจริงๆ เพราะกลัวเยอึนจะคิดว่าเขาเรียกร้องความสนใจ-//-

                    มีทั้งรูปที่เยอึนใส่ชุดพยาบาล ชุดอยู่บ้านสบายๆ ชุดไปเที่ยว ชุดราตรี  แทนอึนเผลอกดไลค์ทุกรูปอย่างไม่รู้ตัว... รู้ตัวอีกที เยอึนก็ทักแชทมาซะแล้ว

                   เสียง ตื่อดึ๊ง ! ประหนึ่งเสียงสวรรค์ที่ทำให้แทนอึนยิ้มกว้าง

                เยนนี่ เยอึน : ไลค์ทุกรูปเลยนะ....^///^

                   แทนอึนยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว เธอตอบไปตามตรง

                ATtaneun Nilyaporn : ก็มันสวยทุกรูปอ่ะ

                   แทนอึนรอ....รอให้เยอึนตอบ  อ่านแล้วทำไมไม่ตอบห๊ะ!!!

                   เยนนี่ เยอึน : ปากหวาน...

                   ATtaneun Nilyaporn : กินเป๊ปซี่เยอะไง

                   พิมพ์ส่งไปแล้วแทนอึนเพิ่งรู้สึกได้ว่ามันฟังดูแปลกๆนะ- -

                เยนนี่ เยอึน : อย่ากินเยอะ มันไม่ดี

                ATtaneun Nilyaporn : ค่ะ คุณเภสัตตตตตต-0-

                เยนนี่ เยอึน : เภสัช

                ATtaneun Nilyaporn : โทษๆสะกดผิด5555

                เยนนี่ เยอึน : กินเป๊ปซี่เยอะแบบนี้ ก็ปากหวานกับทุกคนอะดิ :P

                   ATtaneun Nilyaporn : บ้าเหรอ

                เยนนี่ เยอึน : เยอะ!!

                   ATtaneun Nilyaporn : ป่าวววววเลยยยย

                เยนนี่ เยอึน : เดี๋ยวจะตามไปคุม ;)

                   แทนอึนหยุดพิมพ์ไปพักหนึ่ง.... ทำไมมันเขินแบบนี้นะ><

                   ATtaneun Nilyaporn : ไม่ต้องคุมเราหรอก เราเรียบร้อย555

                เยนนี่ เยอึน : หมายถึงคุมการกินเป๊ปซี่

                เยนนี่ เยอึน : 555555

                   แทนอึนรู้สึกเหมือนอีกาบินผ่านหัวยังไงไม่รู้ แป่ว... ไอ้เราก็นึกว่าคุมการจีบสาวอะไรทำนองนั้นT^T

                   ATtaneun Nilyaporn : -0-

                   เยนนี่ เยอึน : ไม่นอนเหรอออ

                ATtaneun Nilyaporn : ไม่ง่วง

                ATtaneun Nilyaporn : เธออะแหละ เป็นเภสัตชไม่ใช่เหรอ ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสิ

                เยนนี่ เยอึน : เราทำงานนนนนน><

                   เยนนี่ เยอึน : เออแทน

                เยนนี่ เยอึน : แทนคิดว่า กายุนน้องเรา เป็นยังไง?

                   …แทนอึนเงียบไปสักพักด้วยความสงสัย

                ATtaneun Nilyaporn : ห๊ะ ?

                เยนนี่ เยอึน : ชอบหรือเปล่า ?

                ATtaneun Nilyaporn : ทำไมถามแบบนั้น

                เยนนี่ เยอึน : แค่อยากรู้5555

                ATtaneun Nilyaporn : กายุนน่ารักดี

                ATtaneun Nilyaporn : ถ้ายิ้มบ่อยๆคงน่ารักกว่านี้

                ATtaneun Nilyaporn : เหมือนเธอ เธอยิ้มบ่อย

                   แทนอึนไม่รู้จะตอบอะไรมาก เขายิ่งอธิบายความรู้สึกไม่ค่อยจะเก่งซะด้วย

                   แต่จะว่าไป เขาก็คิดถึงกายุนเหมือนกันนะ

                เยนนี่ เยอึน : อ่อ

                เยนนี่ เยอึน : น้องเราไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ไม่พอใจนะ

                เยนนี่ เยอึน : เค้าฟอร์มเยอะ เลยชอบแสดงออกตรงกันข้าม

                ATtaneun Nilyaporn : อ่อ...

                เยนนี่ เยอึน : เค้ามาบ่นให้เราฟังด้วยล่ะ ประมาณว่า ถ้าไม่ได้แทนอึนช่วย ต้องแย่แน่เลย

                เยนนี่ เยอึน : 555555

                   ATtaneun Nilyaporn : จริงดิ 55555

                   แทนอึนดีใจที่กายุนนึกถึงเขา ก็นึกว่าไม่ชอบเราเห็นชอบทำหน้าบึ้งใส่..ที่แท้ก็ซึนนี่เอง !

                   ATtaneun Nilyaporn : น้องเธอชอบทำหน้าบึ้งใส่เรา นึกว่าหวงพี่สาว55555

                เยนนี่ เยอึน : อ๋อ ไม่หรอก55555

                เยนนี่ เยอึน : เราไปก่อนนะ

                   แล้วจู่ๆ เยนนี่ เยอึน ก็ออฟไลน์ไปเลย แทนอึนแอบงงเล็กน้อยแต่ก็ได้แต่พิมพ์ข้อความส่งไปหาคนที่ออฟไลน์ไปแล้ว

                ATtaneun Nilyaporn : ฝันดีนะ...เยนนี่

                   คืนนั้นแทนอึนคิดไปต่างๆนานาว่าทำไมเยอึนถึงถามอะไรแบบนั้น แล้วนึกอยากจะออฟก็ออฟไปเลย... แอบใครคุยอยู่หรือเปล่านะ ? 

                   แม้จะปิดคอมแล้วแต่แทนอึนยังไม่วายหยิบไอโฟนขึ้นมาส่องเฟสเยอึนทุกซอกทุกอณู  พอได้ย้อนไปดูรูปเก่าๆแล้ว  มีรูปหนึ่งที่แทนอึนต้องสะดุด...

                   เป็นรูปที่สองพี่น้องเยอึนและกายุนไปเที่ยวทะเลและใส่บิกินี่ แม้จะถ่ายไกลและไม่ชัดนัก..

                   แต่แทนอึนก็ไม่พอใจอย่างมาก

                   และตอนนี้เขากำลังร้อนรนอย่างถึงที่สุด เขาไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่เขาต้องการให้เยอึนลบรูปนั้นเดี๋ยวนี้  มันเซ็กซี่เกินไป... แม้จะรู้ว่าใครๆเขาก็ถ่ายกัน แต่แทนอึนก็ไม่ชอบให้อัพลงแบบนี้อยู่ดี ทั้งเยอึนทั้งกายุนนั่นล่ะ !

                   ทว่าเขาก็ได้แต่รอให้เยอึนออนไลน์  เพราะถึงบอกไปตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอยู่ดี เขาปิดโทรศัพท์พลางข่มตานอน

                   มีแต่ภาพของเยอึนและกายุนวนเวียนอยู่ในหัว...

                   นึกๆไปแล้วก็รู้สึกว่า เยอึนในเฟสดูพูดจาขี้เล่นกว่าตัวจริง  คงเป็นเพราะในชีวิตจริงเธอเขินก็เลยไม่กล้าพูดละมั้ง ? แทนอึนได้แต่มโนเข้าข้างตัวเอง-3- และหลับไปอย่างมีความสุขที่ได้คุย

                   เขาไม่รู้เลยว่า อีกด้านหนึ่ง เฟสบุ๊คของเยอึนมีความลับซ่อนอยู่..

                   ความลับนั้นก็คือ


                   เยอึนหลับไปตั้งนานแล้ว...















    To be continued

    ทอล์คกันนิดหนึ่ง คือจะบอกว่าตอนนี้คิดพล็อตใหญ่ๆออกแล้ว55 แต่ว่า
    ตัวละครอาจจำเป็นต้องสูญเสียความเป็นคัวเองไปเล็กน้อย เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ เข้าใจมั้ย ?
    ส่วนคู่อีเกรฟ ถ้ากูแทรกมึงมามันจะดูยัดเยียดนะ- - รอให้ถึงตอนที่เหมาะสมแบบจุดหักเหหรืออะไรแบบนี้ค่อยแทรกมาดีกว่า คู่หลักยังไม่ลงตัวกันเลยด้วยซ้ำ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×