คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 17 ใครจูบรสา?
เหมือนเดิมอีกแล้วความรู้สึกแบบนี้ กลิ่นหอมฉุนของห้องพยาบาล นี่เธอเป็นอะไรไปอีกงั้นเหรอ หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นช้า ๆ รู้สึกปวดระบมตั้งแต่บริเวณหน้าผากเรื่อยไปจนถึงท้ายทอย ทั้งยังมึนศีรษะมากจนคิดว่าน่าจะนอนต่อไปอีกสักครู่
รสาหลับตานิ่ง ชั่วขณะหนึ่งที่กำลังจะวูบไปก็ได้ยินเสียงเหมือนคนลากเก้าอี้มาหยุดอยู่ข้างเตียง ไม่ทันตากลมจะลืมขึ้น เจ้าของร่างเล็กก็เกร็งตัวขึ้นทันทีเมื่อถูกมืออุ่นของใครบางคนเกาะกุมเอาไว้ ไอร้อนจากมือที่สัมผัสเคลื่อนผ่านต้นแขนขึ้นไปบริเวณหน้าผาก ก่อนแตะมันแผ่วเบาแล้วปัดผมที่ปรกหน้าขึ้นไป
หญิงสาวกลั้นลมหายใจ พยายามแสดงเหมือนคนที่ยังไม่ได้สติ ทั้งที่ข้างในใจกำลังเต้นระรัว เธอควรลืมตาขึ้นดีมั้ย หรือจะหลับตาต่อไปเพื่อรับสัมผัสที่นุ่มนวลนั่น รสาคิดตรึกตรองอย่างสับสน แล้วไอร้อนจากใบหน้าก็ยิ่งทวีความแรงมากขึ้น เมื่อริมฝีปากของเธอนั้นกำลังถูกสัมผัสด้วยการจูบจากคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้ว่าคือใครเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น สัมผัสก็ช่างอ่อนหวาน อบอุ่นและนุ่มนวลเหลือเกิน
รสาเคยฝันถึงการจูบหลายครั้งและก็มีแอบคิดเองเล่น ๆ บ้างว่าหากถูกคนรักจุมพิตอย่างดูดดื่ม จะเกิดความรู้สึกเช่นไร ร่างกายจะเบาหวิวเหมือนขนนกที่ถูกดึงเข้าสู่ทุ่งดอกไม้หลากสี และคล้ายกับกำลังมีฝูงผีเสื้อบินวนอยู่ในท้องเช่นนี้หรือไม่...
เธอคิดฟุ้งซ่านไปไกล ก่อนที่ความวาบหวามจะหยุดลง ความเงียบปกคลุมอึกใจใหญ่ แม้จะมีเสียงแทรกเข้ามาบ้างแต่รสาก็ไม่ใส่ใจ หญิงสาวได้แต่คิดทบทวนไปมา ถึงเวลาแล้วล่ะที่เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าความรู้สึกอบอุ่นและสัมผัสอันอ่อนหวานนั้นมาจากใคร
1..2..3.. ดวงตาโตลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พี่เอ็มเจ!”
“เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ย” หนุ่มหล่อนั่งยิ้มอยู่ข้างเตียง มือใหญ่เอื้อมมาลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ “ไหนขอพี่ดูแผลหน่อยซิ” เขาเอี้ยวตัวมองแผลที่ปูดเป็นลูกมะนาวตรงหน้าผากของเธอ
“ไม่เป็นไรมาก เฮ้อ! โล่งใจ เห็นรสาสลบไปพี่ใจหายแทบแย่”
“พี่เอ็มเจ นั่งอยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอคะ”
รสาลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ตากลมจับจ้องเจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาทว่าคมสันอย่างตื่นเต้น
“จ้ะ พี่เป็นห่วงเรามากรู้มั้ย”
“งั้นพี่เอ็มเจก็” พอคิดว่าเขาเป็นคนจูบเธอเมื่อกี้ แก้มขาวใสก็แดงก่ำ ทั้งสีหน้าและแววตาฉายความยินดีออกมาโดยไม่รู้ตัว
“อะไรเหรอ”
“มะ.. ไม่มีอะไรค่ะ”
หญิงสาวก้มหน้างุด ไม่กล้าพูดได้แต่ยิ้มเขิน ไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเอียงอายที่แสดงออกมานั้นจะสร้างความเอ็นดูในสายตาชายหนุ่มมากแค่ไหน
"รสา”
“คะ” มือใหญ่ประคองวงหน้าเธอไว้อย่างอ่อนโยน
“พี่ชอบรสานะ”
“คะ!”
สาวตากลมคล้ายอยากสลบไปอีกรอบที่จู่ ๆ ชายในฝันก็พูดจาแบบไม่ให้เธอตั้งตัวมาก่อน
“เราเป็นแฟนกันเถอะ ตอนแรกพี่คิดว่าคงจะรักรสาแบบน้อง แต่ยิ่งเราสนิทกันมากขึ้น ความน่ารักที่รสามีก็ยิ่งทำให้พี่ประทับใจ จนวันนี้ที่รสาตกจากเวที พี่ถึงได้รู้ใจตัวเองว่าชอบรสามากแค่ไหน”
“พี่เอ็มเจ!”
รสาอึ้ง รับฟังคำสารภาพที่พรั้งพรูออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตัน ร่างกายเบาหวิวซะจนเกือบลอยได้ ความฝันเป็นจริงแล้ว พี่เอ็มเจกำลังของเธอเป็นแฟน นี่เป็นเรื่องเดียวที่รสาไม่เคยเตรียมใจมาก่อน เพียงแค่มีตัวตนในสายตาเขาก็รู้สึกดีมากแล้ว แต่สำหรับตอนนี้ที่กำลังถูกขอความรักมันออกจะเกินฝันไปด้วยซ้ำ
“ว่าไงจ๊ะรสา เรามาลองคบกันเถอะนะ”
“รสา...คือ” หญิงสาวดีใจจนพูดไม่ออก
“ทำไมหรือว่ารสาไม่ได้ชอบพี่” เขาหน้าเสียไปเล็กน้อย รสารีบส่ายหน้า
“ถ้างั้นก็แปลว่าตกลงนะ จากนี้ไปเราสองคนเป็นแฟนกันแล้ว มาพี่ขอทำสัญญาหน่อย” เขายื่นนิ้วก้อยให้ รสายิ้มอาย ส่งนิ้วเข้าไปเกี่ยวเช่นเดียวกันก่อนที่เอ็มเจจะดึงรสาเข้าไปกอด
“ขอโทษค่ะ..อุ๊ย” แยมเปิดประตูเข้ามา พร้อมทำหน้าเหลอหลาเมื่อเห็นภาพหวานตรงหน้า “พอดีอาจารย์ให้มาตามพี่เอ็มเจไปพบค่ะ”
สาวร่างเล็กยิ้มแหย รู้ตัวว่าเข้ามาเป็น กขค. โดยไม่ตั้งใจซะแล้ว
“งั้นพี่ไปหาอาจารย์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวกลับมารับ”
หญิงสาวยิ้มรับ ใบหน้าอิ่มเอมไปด้วยกลิ่นอายความรัก หากมีใครถามว่าวันไหนเป็นวันที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุด รสาพร้อมตอบในทันทีเลยว่าเป็นวันนี้ นาทีนี้และตอนนี้ที่เธอกับพี่เอ็มเจเพิ่งจะตกลงเป็นแฟนกัน
ภายในห้องสูทกว้างขวางพรั่งพร้อมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แจงกำลังนั่งมองเสี้ยวหน้าคมเคร่งเครียด อยู่อีกฟากของห้องด้วยความอดทนและอดกลั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาจะเรียกเธอให้ออกมาหาทำไม ในเมื่อคิดจะนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้
“ตกลงพี่เอ็มเจจะเป็นอย่างนี้อีกนานมั้ยคะ ถ้าไม่มีอะไร แจงกลับล่ะ” สาวผมยาวบอกหงุดหงิด หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น
“ทำไมวันนี้ต้องเล่นแรงขนาดนั้นด้วย คิดบ้างหรือเปล่าว่าหาก รสาเป็นอะไรไป ละครเราจะเป็นยังไง”
“เรื่องนี้เองเหรอที่ทำให้พี่เครียดขนาดนั่งเป็นใบ้ได้ตั้งนาน”
แจงกระแทกเสียงใส่ ยิ่งเห็นแววตาตำหนิของเขาแล้วก็ยิ่งโมโห
“แล้วจะให้พี่ยิ้มร่าเริงมองดูละครที่ตัวเองสร้างพังไปต่อหน้า ต่อตาหรือไง”
“แต่มันเป็นอุบัติเหตุ แจงไม่ได้ตั้งใจทำรสาตกเวทีซะหน่อย ทำไมพี่จะต้องทำเสียงเหมือนแจงจงใจด้วยล่ะ”
เธอทรุดนั่งหน้าเตียงและก็เริ่มบีบน้ำตาออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หากเป็นได้ก็อยากให้รสาเจ็บตัวมากกว่าแค่หัวโนด้วยซ้ำ จะแขนหัก ขาหักให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ได้ แต่ยายนั่นก็ยังดวงแข็งทั้งที่เธอออกแรงเต็มที่แล้วเชียว
“ในสายตาพี่คงเห็นแจงเป็นนางมารร้ายในละครใช่มั้ย ถึงต้องทำอะไรแย่ๆ ขนาดนั้นด้วย”
แจงคร่ำครวญ สะอึกสะอื้นจนดูน่าสงสาร เอ็มเจมองหญิงสาวข้างกาย รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปว่าเธอ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน
“เอาล่ะๆ พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะ” เขาสวมกอดและแตะริมฝีปากที่แก้มหญิงสาวเบา ๆ “พี่รู้แล้วว่าแจงไม่ได้ตั้งใจ"
เอ็มเจปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน นับจากที่ได้รู้จักกันในผับคืนนั้น ทั้งสองก็สานต่อความสัมพันธ์กันเรื่อยมา แม้จะเป็นไปอย่างลับ ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่ายที่ตกลงจะเป็นเพียงแค่เพื่อนเที่ยวและเพื่อนนอนเท่านั้น เพราะเขารู้จักตัวเองดีว่าเป็นคนขี้เบื่อและไม่คิดว่าจะทนกับอะไรได้นานนัก
“หยุดร้องได้แล้วน่า ดูสิร้องจนตาบวมหมดแล้ว”
“แล้วใครล่ะที่ทำให้แจงร้องไห้”
“จ้ะ พี่รู้ว่าผิด พี่ขอโทษแล้วกันนะ” เอ็มเจโค้งให้อย่างยอมแพ้ แจงระบายยิ้มพอใจ
“เมื่อจำเลยรับสารภาพแบบนี้ ศาลจะยอมยกโทษให้กึ่งหนึ่ง มาค่ะเลิกโค้งได้แล้ว” เธอดึงเขาให้เงยหน้าขึ้น “ ทีนี้ก็มาพูดเรื่องของเราได้แล้วสิ”
เธอแนบริมฝีปากจูบเขา เคลื่อนมือลูบไล้ไปตามร่างกายอีกฝ่ายอย่างเย้ายวน เอ็มหลับตาพริ้ม มีความสุขกับสัมผัสที่ได้รับ แต่เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ เขาก็ปรือตาขึ้นเล็กน้อย
“ความจริงพี่มีอีกเรื่องอยากจะบอก”
“อะไรคะ”
“พี่กับรสาเราเป็นแฟนกันแล้วนะ” หญิงสาวชะงักมือทันที
“เหรอคะ..”
แจงนิ่ง พยายามซ่อนความไม่พอใจไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดให้ลั่น ให้มันได้อย่างนี้สิน่า ทำไม..เธอถึงไม่เคยชนะยายนั่นได้เลยสักครั้ง ทั้งที่คิดว่าตนเป็นต่ออยู่ก้าวหนึ่งแท้ ๆ แต่ก็ยังถูกแซงขึ้นไปเหนือกว่าอีกจนได้
“ว้า! ถ้าอย่างนั้นก็น่าสงสารม่อนจัง นี่ถ้าเขารู้คงเสียใจน่าดู แหม ก็คนเคย ๆ ชอบกันอยู่นี่คะ”
“ม่อน” เอ็มเจนิ่วหน้า แจงพูดต่อ
“แฟนเก่าแจงไง ที่แจงเคยเล่าให้ฟัง เขากำลังตามจีบรสาอยู่ อะไรกัน นี่พี่ไม่เคยสังเกตเลยเหรอ ว่าหมู่นี้มักมีผู้ชายหน้าตาดีๆ คอยเทคแคร์แฟนพี่ตลอดเวลา”
“ ใช่คนที่ขาหักหรือเปล่า”
เอ็มเจเริ่มนึกไปถึงสตาฟชายร่างสูงที่ชอบมาวอแวอยู่ใกล้รสา เขาเองก็เคยนึกสงสัยพฤติกรรมเหล่านั้น แต่เพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เขาจึงไม่ได้ติดใจอะไร
“นั่นแหละค่ะ เขาตั้งใจเลิกกับแจง เพื่อจะไปจีบผู้หญิงคนใหม่ของพี่เลยนะ”
แจงอมยิ้ม ยังหรอกรสา ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายนำเธออยู่ก้าวหนึ่ง คิดจะคบผู้ชายพร้อมกันสองคนน่ะเหรอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นแน่
“ถ้ารสาตกลงคบกับพี่แล้วแบบนี้ ม่อนก็คงจะอกหักจริงๆ แล้วสินะ รสานี่ก็เหลือเกิน ถ้าชอบพี่เอ็มเจอยู่ก่อนแล้ว ก็ไม่น่าไปให้ความหวังม่อนเลย”
“แจงว่ารสาอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจมากกว่า ในเมื่อหมอนั่นทำให้รสาชอบไม่ได้เองก็ต้องยอมรับความจริงสิ ไม่ใช่มาคร่ำครวญและโทษว่าเป็นความผิดของผู้หญิงแบบนี้” เอ็มเจออกรับแทนแฟนสาว ในใจเกิดความทะนงเพิ่มขึ้น เมื่อคิดว่าตนเป็นฝ่ายชนะ
แจงแสยะปากหมั่นไส้ คิดว่าร้อยทั้งร้อยผู้ชายหลงตัวเองเหมือนกันหมดจริง ๆ
“และถ้าเขาไม่ถอยล่ะคะ”
“พี่ก็จะลุยให้มันแหลกไปเลยน่ะสิ”
เท่านั้นล่ะแผนการในสมองของแจงก็แล่นปรู๊ดปร๊าดขึ้นมาทันที
23 กันยายน
ความสุขที่สุดในชีวิตมันเป็นอย่างนี้เอง ฉันกับพี่เอ็มเจ เป็นแฟนกันแล้ว ไม่เชื่อ..แต่ก็ต้องเชื่อ จนถึงตอนนี้ฉันเองก็ยังรู้สึกเหมือนว่าฝันไป แต่ถ้าเป็นความฝัน แล้วสัมผัสกับจุมพิตอันอ่อนหวานนั่นล่ะ คือ จินตนาการที่ฉันสร้างขึ้นเองด้วยหรือเปล่า
ไม่หรอก ทั้งหมดคือเรื่องจริง พี่เอ็มเจชอบฉัน และฉันก็ชอบเขามาก ฉันอยากป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้จริง ๆ นะ อยากให้ทุกคนช่วยแบ่งปันความสุขและความปลื้มใจไปจากฉันบ้าง ไม่รู้ว่าความรักของฉันจะเป็นยังไงต่อไป หวังว่าคงไม่จบเร็วเหมือนที่เห็นหลายคู่เขาเป็นกันหรอก ฉันเชื่อว่าพี่เอ็มเจเป็นผู้ชายที่ดี เขาจะต้องไม่ทำให้ฉันเสียใจแน่ๆ รู้มั้ยว่าฉันอดจินตนาการถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนที่จะค่อยๆ พัฒนาและจบลงที่การแต่งงานไม่ได้
โอ๊ย! คิดอะไรก็ไม่รู้ เลยเถิดกันไปใหญ่แล้ว แต่ก็เถอะ ฉันอยากให้ความรักของเราสิ้นสุดลงในแบบนั้น เป็นความรักที่สวยงาม ไม่มี
รสาเป็นแฟนกับเอ็มเจแล้ว ว่าแต่…คนที่จูบรสาจะเป็นเอ็มเจแน่เหรอ ?
ความคิดเห็น