คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 หัวใจเต้นแรง..เมื่อเขายิ้มมา
“ฮ้าวๆๆ”
รสาปิดปากหาวติดๆกันหลายหน แย่ชะมัด ทั้งที่เมื่อคืนคิดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ฝันถึงนายม่อนนั่น แต่ในฝันเจ้ากรรมก็ดันมีหน้าหมอนั่นโผล่มาซะได้ เล่นเอาเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝัน พอจะนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ผลเลยออกมาอย่างที่เห็น
“รสาเมื่อคืนแกไปทำอะไรมา ไม่ได้นอนหรือไง ถึงได้ร้องหาวๆอยู่ได้ นู้น ดู นู้น” แยมเข้ามาสะกิดแขน ขยิบตาให้หันไปทางอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง ความประจวบเหมาะทำให้เธอประสานสายตาเข้ากับอาจารย์โอ๋พอดิบพอดี แถมแววตานั้น ยังดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ด้วย รสาเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนให้อาจารย์ก้มหน้าทำท่าเหมือนตั้งใจเรียนต่อ สักพักแยมก็เข้ามาสะกิดแขนอีก
“รู้มั้ยว่าอาจารย์โอ๋หันมามองแกกี่รอบ มองมาแต่ละทีนะ ตางี้เขียวปั้ด ฉันเข้าใจว่ะว่าเวลาแกสอนเหมือนกับกำลังสวดมนต์ให้ฟัง นี่เรายังเก่งนะ แกดูยายสองคนนั่นสิ”
รสาเอี้ยวตัวไปดูนัทและจูนที่นั่งถัดจากแยม ด้านหน้าสองสาวมีหนังสือวิชาที่กำลังเรียนอยู่กางขึ้น มองเผิน ๆ อาจเหมือนว่าทั้งคู่นั่งเรียนด้วยความตั้งใจ แต่ด้านหลังหนังสือนี่สิ กลับมีหน้าของนัทและจูนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ ท่าทางจะหลับสนิทซะด้วย อันนี้เธอสังเกตได้จากน้ำใส ๆ ที่ไหลออกมาจากปากทั้งคู่
“ยัยสองคนนี้ไม่กลัวตายหรือไง กล้ามากเลยที่หลับในชั่วโมงนี้ ” รสากลับมาพูดกับแยม
“ดีที่อาจารย์ยังไม่เห็น ไม่อย่างนั้นล่ะก็...” แยมเอามือเชือดคอ ทำหน้าสยดสยองจนรสาขำ
ช่วงบ่ายหลังจากหมดชั่วโมงเรียนแล้ว แยมขอตัวไปประชุมกับกลุ่ม ว้ากเกอร์ ส่วนรสา นัทและจูนยังไปไหนไม่ได้เพราะพวกเธอถูกอาจารย์โอ๋เรียกเข้าไปอบรมเรื่องที่แอบหลับในชั่วโมง ซึ่งการกระทำแบบนี้เป็นการเสียมารยาทมาก ทั้งสามรับฟังอย่างตั้งใจ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก (มั้ง) จากนั้นพวกเธอจึงลงมาสมทบกับแยมข้างล่าง
รสาเห็นแยมนั่งประชุมงานอยู่ที่โต๊ะหินใกล้กับโรงอาหาร ด้านข้างมีโต๊ะว่างอยู่โต๊ะหนึ่ง รสาจึงรีบเข้าไปจอง แยมเห็นเธอและส่งยิ้มให้เล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าส้นรองเท้าที่กระทบไปบนพื้นหินอ่อนบริเวณทางเดินจะส่งเสียงดังรบกวนสมาธิของกลุ่มว้ากเกอร์เข้า ทุกคนเลยหันมามองเป็นตาเดียว รวมถึงนายม่อน หัวหน้าว้ากเกอร์ด้วย
เป็นอีกครั้งที่รสาถูกเขาส่งยิ้มยียวนมาให้ ซึ่งมันก็ทำให้เธอหน้าแดงจนต้องรีบก้มหน้าวางกระเป๋าและหนังสือลงบนโต๊ะ พร้อมกันนั้นก็แอบเหล่ไปทางโต๊ะข้าง ๆเพื่อดูปฏิกิริยาอีกฝ่าย
แน่ะ! อีตาบ้าย ยังจะยิ้มให้อยู่อีก บ้าหรือเปล่า หรือว่าหน้าของเธอจะมีอะไรประหลาดกว่าคนอื่นงั้นเหรอ หญิงสาวคิดในใจ ใบหน้าขาวร้อนผ่าว เพราะเธอไม่เคยถูกใครทั้งจ้องและยิ้มให้อย่างนี้มาก่อน
นัทและจูนตามมาทีหลัง ทันได้เห็นนายม่อนโปรยเสน่ห์ใส่รสา จนตอนนี้เขาก็ยังไม่เลิกจ้องและยิ้มให้กับเพื่อนพวกเธอ ริมฝีปากของทั้งคู่ฉีกกว้าง ดวงตาเปล่งประกายสนุกปนจับผิด
“นัท แกเห็นเหมือนกับที่ฉันเห็นหรือเปล่า ว่านายม่อนมองยาย รสาใหญ่เลย” จูนนั่งลง ดึงนัทให้นั่งตาม
“นั่นน่ะสิ อย่างนี้แปลว่าอะไรอ่ะจูน” นัททำตัวเป็นลูกคู่ที่ดี เหล่ไปทางทีมว๊าก “อุ๊ย! ดูสิ ฉันเห็นเขาหันมามองรสาอีกแล้ว”
“ไหน ?” จูนค่อย ๆ เหล่ไปทางโต๊ะข้างๆ “จริงด้วยนั่นดูสิรสาเขามองแกใหญ่เลย ตาเงี้ยหวานหยาดเยิ้มอย่างกับน้ำเชื่อมแน่ะ”
สาวร่างใหญ่กระแซะรสา ทำหน้าล้อเลียน
“บ้า! เลิกล้อเล่นได้แล้ว ไม่ตลกนะยะ” รสาพยายามข่มความเขิน ทำเสียงดุใส่สองสาว นัทและจูนเงียบลงแต่ไม่วายปิดปากกระซิบกระซาบหัวเราะกันอยู่สองคน
สักพักกลุ่มว้ากเกอร์เลิกประชุม แยมลุกกลับมานั่งที่โต๊ะ ส่วนคนอื่นๆ ในกลุ่มต่างแยกย้ายกันไป รสาพยายามจะไม่หันไปมองทางนั้น แต่ก็ทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้ เธอลอบมองไปยังกลุ่มคนที่เดินกระจัดกระจาย นายม่อนหายไปแล้ว
สาวตากลมยังคงมองเรื่อยเปื่อย และตรงบริเวณมุมตึกก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในโรงอาหาร เธอก็เห็นร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้น ม่อนมองมาที่เธอและยิ้มหวานให้ สาบานได้ว่าคราวนี้ เขาไม่ได้ทำหน้ากวนใส่เธอเลยสักนิด กลับกลายเป็นว่ารอยยิ้มของเขาในครั้งนี้จะทำให้หน้าขาว ๆ ของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาจนแทบระเบิด
รสาสบตาเขา ปากบ่นพึมพัมว่า “บ้า” ใส่คนที่มอง ม่อนเองเหมือนจะอ่านปากเธอออก ส่งยิ้มกวนมาให้อีกครั้งแล้วเดินเลี้ยวเข้ามุมตึกไปอย่างอารมณ์ดี
ทิ้งคำถามให้กับรสาว่า ทำไมทุกครั้งที่เจอกัน เขาจะต้องมองและยิ้มให้แบบนั้นด้วย หรือเธอดูตลกมากในสายตาเขา รสาจับหน้าตัวเอง ลูบคลำไปที่ปาก จมูกและตา ไม่นี่ หน้าเธอไม่ได้มีอะไรผิดปกติสักหน่อย แล้วอย่างนี้เขายิ้มทำไมกันนะ
“รสามีอะไรเหรอ แล้วนี่ แกจับหน้าตัวเองทำไม” แยมจับมือเพื่อนสาวลง คิ้วขมวดกันเป็นโบ
“แกว่าหน้าฉันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เอียงซ้ายที ขวาที เพื่อให้เพื่อนมองอย่างละเอียด แยมก้มดูหน้ารสาผ่านๆ
“ไม่เห็นมีนี่ ถามทำไมวะ”
“ไม่มีจริงอ่ะ แกดูแน่แล้วนะ” ยื่นหน้าเข้าไปอีก
“เออ แน่แล้ว แกนี่พิลึก หน้าตาดีๆไม่ชอบ อยากให้หน้าตัวเองประหลาดนักหรือไง”
“ช่างฉันเถอะ” รสาตัดบท แต่ยังไม่วายระแวง หยิบกระจกอันเล็กในกระเป๋าขึ้นมาส่องดูเพื่อความแน่ใจ
“ฉันว่าที่รสาเป็นแบบนี้ เพราะเมื่อกี้ถูกนายม่อนนั่งจ้องหน้าล่ะมั้ง” นัทเปรยขึ้นมาลอย ๆ ส่งสายตากับจูนอย่างรู้กัน
“แกว่าใครมองนะ” แยมฟังไม่เคลียร์
“ก็เมื่อกี้ตอนแกประชุมอยู่ พวกฉันแอบเห็นนายม่อน มองยัยรสาใหญ่เลย เหมือนแบบว่าสนใจอ่ะ”
“จริงเหรอ เจ๋งไปเลยรสา รู้มั้ยว่าสตาฟสาวๆหลายคนก็แอบปิ๊งม่อนเหมือนกันนะ งานนี้รับรองฉันเชียร์แกเต็มที่จะกันคนอื่นออกไปให้หมดเลย ดีมั้ยเพื่อน” แยมตื่นเต้นแทน ส่วนรสาทำหน้าบอกไม่ถูก
“ไปกันใหญ่แล้ว นี่เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรกับฉันซะหน่อย อย่าลืมสิว่าอีตานั่นมีแฟนแล้วนะ จะมาสนใจฉันอีกทำไม”
“โถ! เรื่องแฟนอย่าไปสน ไม่มีอะไรแน่นอนในการเป็นแฟนกันของวัยรุ่น คบกันได้ก็เลิกกันได้ ไม่แน่ บางทีม่อนอาจจะเลิกกับแจงแล้วก็ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำท่าเหมือนกำลังเล็งแกอยู่หรอก”
จูนวางท่าทางชำนาญราวกับเคยมีความรักซะเอง
“ถึงต่อให้ ไม่เลิกกัน แกก็แอบแซ่บกับนายม่อนได้นี่”
“ห๊า! ตบปากแกเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้จูน แกจะให้ฉันไปแย่งแฟนคนอื่นงั้นเหรอ สมองกลับไปแล้วใช่มั้ยถึงจะให้ฉันทำตัวแรดวอนให้โดนตบน่ะ"
รสาร้องเสียงหลง ต่อให้จะต้องอกหักอีกสักกี่ล้านครั้ง เธอก็ไม่ยอมลดคุณค่าตัวเองลงไปทำแบบนั้นแน่
“คิดมากไปได้ สมัยนี้เขาก็คบซ้อนกันทั้งนั้นแหละ ไม่เสียหายอะไรสักหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปเป็นเองซิ แต่สำหรับฉันไม่มีทางเด็ดขาด” รสายืนยันเสียงแข็ง จริงจังจน จูนกร่อย ไม่กล้าเสนอความคิดอีก
“แปลว่า ถ้านายม่อนมาจีบแกก็ไม่สนงั้นสิ” แยมลองหยั่งเชิงทีเล่น ทีจริง
“ใช่ ฉันไม่ชอบคนที่มีแฟนแล้ว”
“แล้วถ้าม่อนเลิกกับแฟน แล้วมาจีบแกล่ะ จะสนเขาหรือเปล่า ฉันว่าเขาก็หล่อดีนะ” นัทแหย่อีกคน และลอบสังเกตสีหน้ารสา
ได้ผล! คำถามนี้ทำให้สาวตากลมเกิดอาการลอกแลก ยังไม่แน่ใจในตัวเองเท่าไหร่นัก แต่เพื่อรักษาฟอร์ม เธอจำเป็นต้องหนักแน่น
“ฉันไม่สนใจเขาหรอก ท่าทางเกเรอย่างนั้น แถมยังดูเจ้าชู้อีกต่างหาก”
“แหม ! ให้มันจริงเถอะ แล้วฉันจะคอยดู ว่าแกจะกลืนน้ำลายตัวเองหรือเปล่า”นัทเบ้ปากหมั่นไส้ รสาเชิดหน้า วางท่าว่าไม่มีวันซะหรอก
“เลิกเถียงกันดีกว่า นั่นน้องปีหนึ่งลงมาแล้ว รีบไปทำหน้าที่ สตาฟที่ดีเร็ว”แยมเบรกลุกเดินนำไปทางกลุ่มน้องปีหนึ่งที่ถูกเกณฑ์ให้มาซ้อมเชียร์
การซ้อมเชียร์ดำเนินไปจนถึงช่วงเย็น หลังจากที่กลุ่มว้ากเกอร์ลงว้ากน้องเรียบร้อยแล้ว ประธานเชียร์ก็ให้น้องๆ ไปพักดื่มน้ำและมีเกมสนุกๆมาให้เล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ระหว่างนั้นรสายืนอยู่ด้านหลังกำลังรินน้ำให้กับน้องๆ
“ขอน้ำแก้วหนึ่งได้มั้ย”
เสียงทุ้มนุ่ม ดังขึ้น รสาเงยหน้ามอง ตรงหน้าคือ ม่อน หญิงสาวตกใจไม่คิดว่าจะได้เจอเขาในระยะประชิดขนาดนี้ เสียงหัวใจเริ่มเต้นแรง เลือดไหลซูบฉีดจนใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองจะต้องเขินด้วย
รสาข่มความเขินก้มหน้ารินน้ำส่งให้ เสี้ยววินาทีที่เธอเงยขึ้น ดวงตากลมโตอดไม่ได้ที่จะมองหน้าม่อน ก็มันอยากรู้นี่นาว่าที่เพื่อนๆบอกว่าเขาสนใจเธอน่ะมันจะจริงสักแค่ไหน
ดูไปหน้าเขาก็คมเข้มดีนะ จมูกโด่งเป็นสัน ตาโต ยาวรี ดูคมกริบ ปากเล็กบางไม่หนาจนเกินไป ผมยาวไล่อยู่ที่ต้นคอ ถ้าเขาจะไปตัดผมสักหน่อยแล้วเซตเสยเปิดหน้าผากขึ้น คงดีกว่านี้แน่ รสาคิดวิเคราะห์ในใจ
“เฮ้! จะมองหน้ากันอีกนานมั้ย คือว่าฉันหิวน้ำน่ะ”
ม่อนโบกมือผ่านหน้ารสาหนึ่งรอบทำให้หญิงสาว รู้สึกตัว ตื่นจากภวังค์ความคิด หน้าตาเหลอหรา ออกอาการเปิ่นให้เห็น
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ” รสาถามย้ำ ไม่แน่ใจว่าเขาพูดอะไร นายม่อนยิ้มขำ
“ฉันบอกว่าหิวน้ำ แล้วนี่เธอจะส่งแก้วน้ำให้ฉันได้หรือยัง” เขามองไปที่แก้วในมือเธอ
รสาดูแก้วพร้อมกับเงยหน้ามองเขาอีกรอบ ใบหน้ากวนมีรอยยิ้มขันอย่างเห็นได้ชัด แล้วอย่างนี้ไหนล่ะที่นัทกับจูนบอกว่าเขาสนใจเธอ หญิงสาวหน้าแดง ไม่ใช่เพราะเขิน แต่เธอโกรธต่างหากล่ะ และดูนั่น นายม่อนยิ้มยียวนใส่อีกแล้ว เขาคงคิดว่าเธอมองเพราะชอบงั้นสิ
หญิงสาวส่งแก้วน้ำให้อย่างกระแทกกระทั้น เสร็จแล้วก็สะบัดหน้าเดินเลี่ยง เอาน้ำไปแจกให้น้อง ๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครคนหนึ่งแอบยิ้มขำตามหลังเธอไปตลอดทาง
“ยายรสา!”
เสียงแจ๋วๆ ของสองแสบดังประสานมาจากด้านหลัง รสาสะดุ้งโหยงจนน้ำในแก้วที่กำลังถือกระฉอกออกมา
“พวกฉันเห็นนะเมื่อกี้นี้น่ะ” สองสาวทำหน้าล้อ รสารีบเก๊กหน้าดุใส่
“เห็นอะไร ไม่มีอะไรสักหน่อย”
“อ๊ะ! ก็เห็นอยู่ว่านายม่อนเขามายืนใกล้ ๆ กับแก อย่ามาไก๋หน่อยเลย” จูนหรี่ตาจับผิด
“เขาแค่มาขอน้ำ ทำเป็นตื่นเต้นไปได้” รสาว่า
“แล้วถ้าไม่มีจริง ๆ ทำไมแกต้องหน้าแดงด้วย นี่น่ะเหรอที่บอกว่าไม่สนใจ” นัทแซวอีก “ แอบสนเขาเหมือนกันก็บอกมาเถอะ”
รสาโดนจี้ใจดำเริ่มทำหน้าไม่ถูก จะบอกก็ไม่ได้ว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งเสียหน้าเพราะไปยืนมองหน้านายม่อนมา ขืนบอกให้ยัยพวกนี้รู้ มีหวังจะต้องรุกเธอหนักยิ่งกว่านี้แน่
“ก็..ก็” รสาอึกอัก พยายามหาเหตุผลมาแก้ตัว จากที่โกรธนายม่อนเปลี่ยนมาเป็นโกรธที่ถูกเพื่อนแซวและซักไซ้ไล่เลี่ยงขนาดนี้ “ทำไม ก็แดดมันร้อน หน้าฉันก็ต้องแดงสิ พวกแกทำไมชอบมายุ่งวุ่นวายกับฉันด้วยนะ หลีกไป จะไปทำงานต่อแล้ว”
รสาทำกระฟัดกระเฟียดเดินหนีไป นัทและจูนยิ้มให้กัน แตะมือกับความสำเร็จที่ยั่วเพื่อนได้อีกหน
16 มิถุนายน
น่าอายจริงๆ น่าอายจริงๆ ฉันไปทำท่าจ้องมองแถมวิเคราะห์หน้านายม่อนต่อหน้าเขาได้ยังไงนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังโดนนายนั่นจับได้อีก แล้วอย่างนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ ป่านนี้เขา คงผยองคิดว่าฉันสนใจล่ะมั้ง
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ ฉันไม่น่าเลยจริงๆ นี่ถ้าไม่สงสัยว่าเขาสนใจฉันจริงหรือเปล่า ฉันคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก แล้วทำไมตอนที่นายม่อนเข้ามาใกล้ ฉันต้องเขินด้วยนะ หรือว่าฉันจะชอบเขา ไม่หรอกน่า ฉันชอบพี่เอ็มเจ ฉันจะเปลี่ยนไปชอบคนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง
ที่เกิดอาการเขินอายขึ้น คงเพราะฉันไม่เคยถูกใครมองอย่างจริงจังมาก่อน ไหนจะถูกพวกเพื่อนๆ แซวอีก ก็เลยเกิดอาการไขว้เขว พอเจอหน้านายนั่น คำพูดเพื่อนที่บอกว่าเขาสนใจฉันก็ดังเข้ามา ฉันเลยทำตัวไม่ถูกเกิดความอายขึ้น ทุกอย่างเป็นเพียงปฏิกิริยาตามธรรมชาติเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากหรอก อีกทั้งนายนั่นยังมีแฟนอยู่แล้ว จะมาชอบฉันได้ยังไง ที่เขายิ้มกวนฉันบ่อยๆ คงคิดว่าฉันตลกล่ะสิ ค่อยดูนะคราวหน้าถ้าเจอกันอีก ฉันจะเชิดใส่ ไม่ทำอะไรหน้าขายหน้าอย่างวันนี้อีกแล้ว
Yes! ..ฉันไม่มีทางทำอะไรเปิ่นๆ อีกแน่
^^ เอาดีๆ นายม่อนไม่ธรรมดา นายม่อนเป็นผู้ชายสายรุกแน่นอน โอ๊ย! เขินสายตา
ความคิดเห็น