ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอโทษที...ก็หัวใจเพิ่งมีรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 โลกมืดของม่อน

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 66


    บนท้องถนนที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง  ในช่วงกลางดึกทันทีที่รถมอเตอร์ไซค์หลายสิบคัน เข้าสู่จุดสตาร์ท   หญิงสาวในชุดเกาะอกรัดรูปกับกางเกงขาสั้นที่มีความยาวเพียงแค่คืบก็ออกมายืนโบกธง  เธอชูมันสูงขึ้นพร้อมสะบัดลงมาอย่างแรง  อันเป็นสัญญาณให้รถทุกคันเคลื่อนตัวออกจากจุดสตาร์ท หนึ่งในนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์สไตล์รถแข่งรวมอยู่ด้วย  ทั้งสปีดและกำลังของรถ ทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้ทะยานขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ  ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

    คนขับในชุดเสื้อแจ๊คเก็ตยีนส์สีซีด จับแฮนด์รถแน่น ความตั้งใจของเขาคือ ที่หนึ่ง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงินเดิมพันที่รออยู่ข้างหน้าและเขาต้องคว้ามันมาให้ได้

    รถมอเตอร์ไซค์ขี่วนรอบถนนสามรอบ ก่อนจะตีโค้งเข้าสู่รอบสุดท้าย ยิ่งใกล้ถึงเส้นชัย เจ้ามอเตอร์ไซค์รถแข่งยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น ด้านหน้าแม้จะไร้คู่แข่งแต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ไม่มีอะไรแน่นอนในการแข่งขัน ทุกวินาทีสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เมื่อมอเตอร์ไซค์คันเก่งพุ่งพรวดเข้าสู่เส้นชัยอย่างสวยงาม ชนิดที่เรียกว่ามองแทบไม่เห็นคู่แข่ง

    ม่อนถอดหมวกกันน็อคออก ใช้มือสางผมที่ยาวไล่ลำคอให้เข้าทรงนิดหน่อย ก่อนเดินไปหาคนที่ถือเงินด้วยมาดของผู้ชนะ

    “อ่ะ เอาไป วันนี้ชนะอีกแล้วนะมึง  ใจคอไม่คิดจะให้คนอื่นบ้างหรือไงวะ”

    จ๊อด ขาใหญ่ประจำถนนอีกทั้งยังเป็นเจ้ามือในการพนัน  ยื่นเงินให้ ม่อนยิ้มรับ นับเงินในมือจนครบและเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อ

    “โทษทีเฮีย ของอย่างนี้มันยอมให้กันได้ที่ไหน  ถ้าจะแข่งก็ต้องชนะ ไม่งั้นจะแข่งทำไมล่ะจริงมั้ย”

    จ๊อดพยักหน้าเห็นด้วย แต่ไม่วายเข้าไปกระซิบกระซาบอะไรที่ข้างหูชายหนุ่ม

    “มีเทคนิคอะไรดีๆ ก็บอกกันบ้างสิวะ อุบไว้คนเดียวแบบนี้ ไม่แฟร์นี่หว่า”

    “เทคนิคอะไรล่ะเฮีย ฝีมือล้วนๆ คร้าบ” ชายหนุ่มหัวเราะร่า 

    “เออ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ไว้กูหาทีเด็ดมาน็อกมึงเองก็ได้"

    ม่อนยิ้มอีกครั้ง และขอตัวกลับ จะอยู่ต่อทำไมล่ะ  ในเมื่อคืนนี้ เขาหาเงินได้ตามที่ต้องการแล้ว แถมมันยังมากพอสำหรับจ่ายค่าหอพักเดือนนี้และเลยไปถึงเดือนหน้าได้อีกด้วย

    ใครก็รู้ว่าเด็กหอ อดอยากแค่ไหน  แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายตั้งไม่รู้เท่าไหร่  ทั้งค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ค่ากิจกรรม ไหนจะ ค่าหอพักอีก หากรอเงินจากทางบ้านอย่างเดียวคงไม่พอใช้  ยิ่งสำหรับเขาที่มีปัญหากับพ่อด้วยแล้ว เรื่องเงินรายเดือนเป็นอันว่าอด

    พ่อไม่อยากให้เขาเรียนในคณะที่กำลังเรียนอยู่ แต่ม่อนดื้อแพ่งเป็นตายยังไงก็จะเรียนให้ได้  แม้จะต้องหาเงินเรียนเองก็ตาม ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงถูกเด้งออกมาจากบ้าน โดยมีคำขู่ของพ่อตามหลังมาติดๆว่า

    “ถ้าคิดว่าเจ๋ง คิดว่าแน่ หาเงินเรียนเองได้ก็ออกไปเลย อยากดูน้ำหน้านักว่าถ้าไม่มีเงินฉันส่งให้แก่เรียนแล้ว จะมีปัญญาหาเงินได้เองหรือเปล่า ในเมื่อกล้าตีปีกออกไปแล้วก็อย่ากลับมาล่ะ รับรองไม่มีทางใจอ่อนโว้ย”

    แล้วเป็นอย่างไรล่ะ... หนึ่งปีที่ออกมาใช้ชีวิตตามลำพัง หาเงินส่งตัวเองเรียน แม้จะไม่ค่อยได้เข้าเรียน แต่เขาก็ไม่เคยขาดสอบ การทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมันหนักอยู่ไม่น้อย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประมาทจากพ่อที่แสนเผด็จการล่ะก็ ป่านนี้ เขาคงวิ่งกลับบ้านแอบขอเงินแม่มาใช้สบายใจเฉิบไปแล้ว

    แต่ไม่มีคำว่ายอมแพ้ สำหรับผู้ชายชื่อ ม่อน  เมื่อตัดสินใจ แล้วว่าจะทำ  ก็ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ทั้งทางลัด ทางตรง เขาทำทั้งนั้น

    อีกอย่าง..การแข่งรถถือเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของเขา เขาชอบความเร็ว  ชอบเมื่อเวลาที่ตัวเองได้พุ่งออกไปในอากาศ  ความรู้สึกนั่นเหมือนกับกำลังเหาะได้ มีอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตกอยู่ในอำนาจของใคร เมื่อมาคิดดูแล้วที่เขาชอบขี่มอเตอร์ไซค์อาจเพราะต้องการปลดปล่อยตัวเองจากกฎระเบียบที่ถูกพ่อตีกรอบเอาไว้ก็เป็นได้

    “ว้าว !เจ๋งไปเลยม่อน ชนะอย่างนี้ คืนนี้ไปต่อที่ไหนกันดี"

    สาวผมยาวถลาเข้ามากอดเอว  ด้านหลังมีชายหนุ่มรูปร่างสันทัดตามมาอีกคน

    “ขอตัวล่ะ คืนนี้ฉันอยากกลับไปนอนมากกว่า แต่ ถ้าแจงอยากไป  ไปกับไอ้นุแล้วกัน” ม่อนแกะมือที่เอวออก และส่งต่อไปให้กับ ภานุ  เพื่อนร่วมหอพักที่สนิทสุดๆ ของเขา

    หนุ่มร่างสันทัดรับมือที่เพื่อนส่งต่อมาให้อย่างงุงงง  แต่แจงก็สะบัดออก ไม่พอใจ ที่ม่อนทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของ

    “ไม่! แจงไม่ยอม ยังไงคืนนี้ม่อนต้องพาแจงไปฉลอง เลือกเอาว่าจะให้แจงไปกับม่อนหรือให้ไปกับคนอื่น”เธอยื่นคำขาดผสมขู่กรายๆ ม่อนหน้าบึ้งหงุดหงิดขึ้นมา

    “เอาไว้วันอื่นแล้วกัน  คืนนี้ฉันอยากกลับไปนอน” เขาพยายามใจเย็น แต่ไม่ว่ายังไงเด็กเอาแต่ใจตัวอย่างแจงก็ไม่ยอม

    “ทำไมล่ะม่อน ได้เงินมาทั้งที เอาไปใช้เที่ยวให้สนุกไปเลยดีกว่า จะมัวกลับไปนอนให้มันเสียเวลาทำไม น่านะม่อนเราไปฉลองกันต่อเหอะ คืนนี้แจงอยากเที่ยวต่อ ไม่อยากกลับบ้าน นะม่อน นะๆ” แจงเขย่าแขนตื้อจะไปให้ได้

    “ไม่! ฉันเหนื่อย อยากนอน”

    ม่อนบอกเด็ดขาด หันหน้าไปอีกทางเพื่อระงับความหงุดหงิด หญิงสาวพอรู้อารมณ์อีกฝ่าย ก็หยุดตื้อ

    “โอเค! ไม่ไปก็อย่าไป พาแจงไปส่งบ้านด้วยก็แล้วกัน” เธอสะบัดหน้าพรืดแล้วเดินไปรอที่รถ

    ม่อนส่ายหน้าช้าๆ นับวันยิ่งจะไม่ชอบนิสัยเอาแต่ใจของแจงขึ้นทุกที ทั้งขี้หึง  ขี้หวง อย่างร้ายกาจ ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะปล่อยให้เขาออกนอกสายตา แรก ๆ ก็รู้สึกดีอยู่หรอก แต่พอนานเข้า สิ่งที่พอจะทนได้ มันก็เริ่มจะเกินทน และยิ่งมากขึ้นจนกลายเป็นความรำคาญ และไม่อยากให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกต่อไป

    ม่อนสบถออกมา สีหน้าบอกความรำคาญสุดๆ ภานุเข้ามาตบไหล่ ยิ้มให้อย่างเห็นใจ

    “ใจเย็นมึง แจงก็เป็นอย่างนี้ประจำแหละ”

    “แต่มันชักมากขึ้นทุกวันแล้วนะ” ม่อนบอกแบบหัวเสีย ระบายลมหายใจออกมาเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น ก่อนจะกลับมาแตะไหล่หนุ่มร่างสันทัดเบา ๆ “โทษทีนะไอ้นุ ที่แจงทำอย่างนั้นกับมึง” ม่อนหมายถึงที่แจงสะบัดมือใส่

    ภานุแม้จะหน้าเฝื่อนไปบ้างแต่ก็เข้าใจ ใครล่ะจะชอบให้แฟนตัวเองทำเหมือนเป็นสิ่งของยกให้คนอื่นง่ายๆ

    "เออ กูเข้าใจ มึงรีบไปส่งแจงเหอะ เดี๋ยวได้โดนวีนอีกรอบหรอก” ภานุมองไปทางแจงที่ยืนกอดอกหน้าบูดบึ้งอยู่ที่รถ “แล้วไงเจอกันที่หอ”

    ม่อนพยักหน้า เดินแยกไปที่รถ เขาไม่ได้พูดอะไรกับแจงอีกเลยจนส่งเธอถึงบ้าน แจงยังคงหงุดหงิด แต่เมื่อลงจากรถ เธอไม่ลืมที่จะสั่งให้เขามารับในตอนเช้า ม่อนปฏิเสธ พรุ่งนี้เขาไม่มีเรียนเช้าและอยากนอนพักผ่อนมากกว่า

    พอถูกขัดใจอีกเป็นหนที่สอง อารมณ์โกรธของแจงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เธอปาหมวกกันน็อคใส่หน้าชายหนุ่ม โชคดีที่เขารับมันได้ทันก่อนที่เจ้าหมวกเหล็กจะพุ่งมาโดนหน้า  เนี่ย!ล่ะคือนิสัยที่เขาไม่ชอบแจงเลยจริงๆ

    “ทำไม แจงมันเก่าไปแล้วเหรอ ถึงต้องทำท่าเบื่อหน่ายขนาดนี้ด้วย” เธอถามเอาเรื่อง ม่อนพยายามข่มความโกรธ มองตอบด้วยสายตาเย็นชา

    “ไม่ใช่ว่าเบื่อหรอกนะ แต่มันเซ็งมากกว่า”

    “พูดอย่างนี้หมายความว่าไง”

    “นี่ไม่รู้ตัวหรือไง ว่าการที่เธอตามฉันตลอดเวลา สั่งให้ทำนู้น ทำนี่น่ะ มันน่ารำคาญแค่ไหน ขนาดแม่ยังไม่เคยมาจู้จี้จุกจิกกับฉัน เหมือนกับที่เธอทำเลย  แล้วขอร้องได้มั้ยเวลาที่ฉันคุยกับเพื่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง เลิกหวง เลิกแสดงความเป็นเจ้าข้าว เจ้าของซะทีเถอะ!"

    “แล้วทำไมแจงจะหวงม่อนไม่ได้ ในเมื่อเราเป็นแฟนกัน”แจงขึ้นเสียงกลับ กระทืบเท้าทำเหมือนเด็กเวลาโดนขัดใจ

    “แต่ที่เธอทำมันมากเกินไป ซึ่งฉันไม่ชอบ”

    ม่อนเน้นเสียงตรงคำว่า “ไม่ชอบ” อย่างชัดเจน แววตาแข็งกร้าวที่แสดงออกบอกให้เธอรู้โดยสัญชาติญาณว่านั้นคือ ดวงตาของคนที่กำลังเปลี่ยนใจ

    “ม่อนมีคนใหม่แล้วใช่มั้ย  ถึงได้ทำแบบนี้”

    “ไม่! ฉันยังไม่มีใครทั้งนั้น”

    “ต้องมีสิ ไม่อย่างนั้นม่อนไม่กล้าพูดหรอก” ตาเธอดุราวกับแม่เสือ “บอกมาสิ พูดออกมาเดี๋ยวนี้เลย พูดๆ พูดออกมา” แจงทั้งทุบทั้งตี ร้องเอาคำตอบให้ได้  ม่อนสุดทนรวบมือเธอบีบไว้แน่น

    “หยุดสักทีได้มั้ย!!!  ฉันยังไม่มีใครทั้งนั้น ยิ่งเธอทำแบบนี้  ฉันยิ่งคิดว่าเราน่าจะเลิกกัน บางทีการเป็นแฟนอาจไม่เหมาะกับเราก็ได้"

    “ว่าไงนะ”

    “เราเลิกกันเถอะแจง  ฉันทนเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว”  ม่อนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์และขับมันออกไปอย่างเร็ว

    “เดี๋ยวสิ! ม่อน กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องนะ ม่อนจะมาทำอย่างนี้กับแจงไม่ได้นะ แจงไม่ยอม” แจงร้องลั่น รับไม่ได้ ที่ถูกบอกเลิกกะทันหันเช่นนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×