คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คำเชิญชวน
ตอนที่ 4 คำเชิญชวน
หลังเลิกเรียน
“อายะพี่กลับหละนะ”
“อืม”
ทำไมต้องกลับเร็วขนาดนั้นด้วยนะ จะรีบกลับไปทำไมบ้านไม่หนีไปไหนซักหน่อย
“พี่เธอท่าทางรีบ ๆ นะ”
คิระถามจากข้างหลังฉัน ตอนนี้ฉันกับเขาคงกลายเป็นเพื่อนกันแล้วหละมั้งไม่ว่าจะทำอะไรคิระ
ก็คอยแนะนำและเตือนอยู่ตลอดคนของไนพาราก็ใช่ว่าจะเลวร้ายเหมือนนายไอชิทุกคน
“นั่นน่ะสิ.....ไม่รู้จะรีบไปไหนสงสัยกลัวว่าพ่อฉันจะโกรธที่กลับบ้านช้าหละมั้ง”
“พ่อ???”
คิระทำหน้างงยังกะไก่ตาแตก
“คือ พ่อมัติซึโมโต้ โทมุระน่ะ”
ทำไงได้หละก็ชีวิตฉันมีหลายพ่อนี่น่า
“อ่อ..”
“คิระไปกันเถอะ”
ไอชิตะโกนมาจากหน้าประตูห้องเรียนโดยที่ไม่สนใจเลยว่ามีฉันนั่งอยู่ตรงนั่นด้วย
“เดี๋ยวตามไป”
“ไปเถอะฉันก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ”
“อืม..”
ฉันเดินออกจากห้องตอนแรกกะว่าจะตรงกลับบ้านแต่กลับไปที่บ้านคงไม่มีอะไรทำไปฝึกยิงปืนที่สนามของมหาวิทยาลัยเรียกสมาธิหน่อยดีกว่า
“ปืนพก . 35 ค่ะ”
“เป็นสมาชิกรึเปล่าค่ะ”
“เปล่าค่ะ”
“งั้นขอบัตรนักศึกษาได้ไหมค่ะ”
ตายหละ..ทำไงดีฉันยังไม่ได้รับบัตรนักศึกษาเลย
“เออ...ไม่มีค่ะ”
“งั้นก็ขอโทษด้วยนะค่ะที่นี้รับเฉพาะแบะนักศึกษาของไนพาราค่ะ”
เฮ้อ....อยากจะทำอะไรก็ไม่ได้ทำเบื่อชะมัดถ้าเป็นที่มัติซึโมโต้นะ ฉันไม่ต้องเสียเวลามาคุยอย่างนี้หรอกที่ไหนฉันก็เข้าออกได้โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่ที่นี้ไม่.........
“ให้เธอเข้าไป”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน แต่เดี๋ยวก่อนนะทำไมมันคุ้น ๆ นะ
“ค่ะท่าน”
พนักงานตอบรับอย่างนอบน้อม ฉันหันกลับไปมองดูซิว่าใครกันที่เป็นฮีโร่มาช่วยฉันให้เข้าไปข้าง
ในได้
“อะ..นาย”
“ไม่นึกว่าเธอจะชอบยิงปืนด้วย”
“มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่ชอบยิงปืน”
“ก็นึกว่าจะเหมือนพี่สาวของเธอ”
“พี่นาระไม่ชอบ???”
“ไม่ใช่แค่ไม่ชอบเกลียดเลยด้วยซ้ำ”
นี่...อีตาหมอนี่มาญาติดีคุยกับฉันได้ไงเนี้ยะ..
“ฉันกับพี่ไม่เหมือนกันซักนิด”
“แต่ฉันกลับคิดว่าเธอกับพี่เหมือนกัน”
“ตรงไหนมิทราบ...ตัวฉันเองยังคิดว่าตัวเองไม่เห็นเหมือนพี่ซักนิดแล้วนายเป็นใครมาตัดสินว่าฉันเหมือนพี่”
“หึ....ก็นิสัยดื้อรั้น ใจร้อน และก็แววตาเธอและรอยยิ้มเธอก็เหมือนนาระ”
“ไม่มั้ง...พี่นาระเนี้ยะนะดื้อ”
“อะ....”
ตอนที่เราคุยกันเราก็เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงสนามยิงปืน ไอชิยื่นปืนและที่ครอบหูให้ฉัน
“เธอยิงปืนมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นายจะรู้ไปทำไม”
“ก็แค่อยากรู้”
“8 ขวบ”
“ก็ตั้งแต่พ่อกับแม่เธอแยกทางกันหละซิ”
“หือ.....นายรู้ได้ไงว่าพ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตอนฉัน 8 ขวบ”
“พ่อเธอเป็นคนของไนพารา ฉันรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในไนพาราโดยเฉพาะเรื่องครอบครัวของเธอ”
“ถามจริงเถอะคิดยังไงมาคุยกับฉันทั้งที่ตอนเรียนนายไม่เห็นจะคุยกับฉันเลย”
“ก็เธอไม่คุยกับฉันก่อนคุยแต่กับไอ้คิระ”
นี่....น้ำเสียงนั้นทำไมฟังแล้วดูเหมือนมันน้อยใจฉันนะ
“ เออ...แล้วเพื่อนนายหายไปไหนหมด”
“ไปทำงาน”
“หือ...เพื่อนนายไปทำงานแล้วนายว่าซ้อมยิงปืนเนี้ยะนะ”
“ก็ฉันทำเสร็จแล้ว”
“ปัง !!! ปัง !!! ปัง!!!”
เสียงปืนสามนัดรวดดังออกมาจากกระบอกปืนของไอชิ และเป้าก็เลื่อนมาข้างหน้าเพื่อให้ดูผลงานผลก็คือเข้าเป้าทุกนัดไม่มีพลาดเลย
“แม่นเหมือนกันนิ”
“ฉันฝึกยิงปืนมาตั้งแต่ 10 ขวบ”
มันมาบอกเธอทำไม..
“เพื่อจะได้ปกป้องคนที่ฉันรักแต่......”
อีกแล้ว....ทำไมพวกนี้มันชอบพูดอะไรไม่จบนะ..
“แต่อะไร”
“ช่างมันเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว”
“อย่างนี้ทุกที”
ปกป้องคนที่รักหรอ....นายคงเหมือนถึงพี่นาระใช่ไหม...
“ทำไมเธอไม่เรียกพวกฉันว่าพี่เหมือนที่เรียกนาระ”
“ก็พวกนายไม่ใช่พี่ฉัน”
เรื่องอะไรฉันจะเรียกหละ.....แม้แต่จุนฉันยังไม่เรียกเลย
“หึ.....เธอนี่นะ”
“ปัง !!! ปัง!!! ปัง !!!!”
คราวนี้เป็นเสียงที่ออกมาจากกระบอกปืนของฉัน
“ไม่พลาดเลยซักนัด”
“นั่นแหละ....เป็นสิ่งที่ฉันกลัว”
ทุกครั้งที่ฉันจับปืนไม่ว่าจะเพราะสันชาตญาณหรือความตั้งใจ ฉันก็ไม่เคยพลาดเลยซักครั้ง
“อายะ...”
“อือ”
เป็นบ้าอะไรอีก....อยู่ดี ๆ ก็เรียกชื่อฉันทั้งที่เขาไม่เคยเรียกเลยซักครั้ง
“เธอเคยคิดว่าจะมาทำงานที่ไนพาราบ้างไหม”
“ไม่”
ฉันตอบโดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ อยู่ดี ๆ ทำไมไอชิมาถามเรื่องแบบนี้กับฉันนะ
“ฉันก็กะอยู่แล้วว่าเธอจะปฏิเสธ”
“แล้วนายจะมาถามฉันทำไม”
“ทำไมไม่ลองหละอายะ บางทีเธออาจจะชอบก็ได้ก็ดีกว่าอยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ใช่รึไง”
ไอชิกำลังคิดอะไรของเขานะ ทำไมถึงอยากจะให้ฉันไปทำงานด้วยทั้งที่ฉันเป็นคนของมัติซึโมโต้
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่ไอชิ”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอมาร่วมงานกับเราก็เท่านั้น”
“ทั้งที่นายรู้ว่าฉัน......”
“ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร สรุปคือ ฉันเชื่อใจเธอ”
“นายหัดเชื่อใจศัตรูตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉันไม่เคยคิดว่าเธอเป็นศัตรู”
“แต่ฉันคิด”
“ทำไมเธอถึงเกลียดไนพารานัก”
“..............”
นั่นสิ....ทำไมฉันถึงเกลียดไนพารา ฉันรู้แค่ว่าเกลียดแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกลียด.....
“เธอตอบไม่ได้ใช่ไหม”
“เกลียดก็คือเกลียดมันไม่มีเหตุผลหรอก”
“ทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวของมันอายะ แต่ที่เธอให้คำตอบฉันไม่ได้เพราะในใจลึก ๆ ของเธอไม่ได้เกลียดไนพารา”
“นายจะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา ยังไงฉันก็ไม่มีทางที่จะทำงานที่ไนพารา”
“ฉันไม่ได้พูดให้เธอทำงานที่ไนพารา ฉันแค่อยากให้เธอลองถามใจตัวเองซิว่าเธอเกลียดไนพาราจริงรึเปล่า”
ไอชิเดินจากฉันไป โดยทิ้งปัญหาให้ฉันคิดนี่เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ
“กลับมาแล้วค่ะ”
“อายะทานข้าวมารึยังลูก”
“ยังค่ะ”
“งั้น..ไปทานข้าวข้างนอกนะ”
พ่อจับมือฉันและพาไปออกไปข้างนอก
คืนนั้นเราสองคนไปทานข้าวกันนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทานข้าวกับพ่อมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงมีความสุขมากขนาดนี้ มันอาจจะเป็นเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกหละมั้งแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คือ ฉันรักพ่อ.....
“อายะ..อรุณสวัสดิ์”
พี่นาระทักฉันขณะที่ฉันก้าวเข้ามาในห้องเรียน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่”
“ทำไมวันนี้มาเรียนช้าจัง”
“ก็รถไฟคนเยอะน่ะ ก็เลยต้องรอเที่ยวต่อไป”
“อย่าบอกพี่นะว่านั่งรถไฟมาเรียน”
ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยนะ ก็แค่นั่งรถไฟมาเรียน
“อืม...”
“ทำไม.....”
พี่ยังไม่ทันพูดจบฉันก็แทรกขึ้นมาก่อน เพราะฉันรู้ดีว่าพี่จะถามอะไร
“ก็มันสะดวกดี ไม่ต้องห่วงนะพี่ฉันดูแลตัวเองได้”
“จะดีหรออายะ”
มันอะไรกันนักหนานะ ก็แค่นั่งรถไฟ...
“ที่มัติซึโมโตเขาดูแลพี่อย่างดี แต่ทำไม.........”
นึกว่าเรื่องอะไร
“ที่นี่ก็ดูแลฉันอย่างดีเหมือนกันพี่”
“จุน...เขาเป็นคนยังไงหรออายะ”
“หือ...”
พี่คิดยังไงถึงถามเรื่องจุนนะ
“พี่อยากรู้นะว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร พี่ทำตัวไม่ค่อยถูกน่ะเวลาที่อยู่กับเขา”
ฉันเล่าเรื่องจุนให้พี่ฟังกว่าจะเล่าจบก็เล่นใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็เรื่องของจุนมันมีเยอะจนฉัน
ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนน่ะสิ ในหัวฉันก็มีแต่เรื่องของจุนทั้งนั้นก็ฉันอยู่กับจุนตลอดเวลาที่อยู่ที่มัติซึโมโต้เลยนี่น๊า ฉันว่าฉันรู้เรื่องของจุนมากกว่าเรื่องของตัวเองด้วยซ้ำ
“ขอบคุณมากนะอายะ”
“ขอบคุณทำไม..มันเป็นเรื่องที่พี่ควรรู้อยู่แล้ว”
“อายะอยู่กับพ่อเป็นไงบ้าง”
“ดีสุด ๆเลยค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยหรอ”
“อืม......ไม่เหมือนกับที่ฉันคิดไว้เลย”
“พี่ก็กะไว้แล้วว่าอายะจะมีความสุขถ้าอยู่กับพ่อ”
พี่พูดด้วยรอยยิ้ม แต่นี่...ฉันคิดไปเองรึเปล่าที่รอยยิ้มของพี่มันหมอง ๆ ยังไงชอบกล
“แม่เป็นไงบ้าง”
“สบายดีจ๊ะ”
แม่รู้ดีเสมอว่าควรจะทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้..........ปกติไม่ว่าฉันจะไปไหนแม่จะเป็นห่วงขนาดที่ว่าโทรเช็คกับจุนทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้(ฉันจะออกไปข้างนอกได้ต้องมีจุนไปด้วยเสมอ) แต่เมื่อฉันตัดสินใจที่จะออกจากมัติซึโมโต้โดยที่ไม่ฟังคำสั่งของจุนแม่กลับไม่ร้องไห้ให้ฉันเห็นเลย......
“น่าแปลกนะป่านนี้ไอชิยังไม่มาเรียน”
“.............”
ทำไมจะต้องห่วงขนาดนั้นด้วยนะ ยังกับเขาเป็นเด็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้ยังงั้นแหละ
“มุชิเอระ อายะ”
“หือ..”
“ไอชิเรียกเธอไปที่ห้องปฏิบัติการน่ะ”
“อืม”
ไอชิเรียกฉัน...เรียกไปทำไมกัน
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนนะ”
“อืม”
พี่พาฉันเดินไปห้องปฏิบัติที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารเรียน ท่าทางพี่คงมาที่นี่บ่อยเพราะดูจะชำนาญพื้นที่ พอมาถึงหน้าประตูพี่ก็ key รหัสลงไปพร้อมกับประทับรอยนิ้วมือลงไปอย่างนี้เองซินะที่พี่ต้องมาเป็นเพื่อนฉันก็ถ้าไม่มีพี่ฉันจะเข้าไปข้างในได้ไง นอกจากจะเจาะระบบซึ่งฉันไม่อยากทำอีกหลังจากที่ทำลายข้อมูลของไนพาราในวันนั้น.....
“เธอทำอะไรกับคอมพิวเตอร์ของนักศึกษาไนพารา”
ไอชิยิงคำถามใส่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในห้องปฏิบัติการที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่าง ๆ มิน่าหละถึงต้องป้องกันทางเข้าขนาดนั้น
“ทำอะไร”
“เธอก็น่าจะรู้ดี”
“นี่ไอชิ...ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันไม่รู้เรื่องที่นายพูด และแทนที่นายจะมาถามฉันฉันควรจะถาม
นายมากกว่าว่านายเรียกฉันมาทำไม”
“ใจเย็น ๆ นะอายะ คือ มีนักศึกษาของไนพาราจำนวนมากที่โดนทำลายฮาร์ดิสส์และพอฉันและยา
มาดะลองสืบหาต้นตอดูและเราก็เจอรหัสของคอมพิวเตอร์ที่ตรงกับรหัสที่คุณอาไอดะให้เธอ”
คิระพูดชี้แจงอย่างใจเย็น พูดดี ๆ อย่างนี้ก็สิ้นเรื่อง
“นายก็เลยคิดว่าฉันเป็นคนทำ”
“เธอไม่ทำแล้วจะเป็นใคร”
ไอชิพูดแทรกก่อนที่คิระจะตอบฉัน วันนี้...นายจะทะเลาะกับฉันให้ได้ใช่ไหม
“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
“เธอยังจะมาปฏิเสธอีกหรอหลักฐานมันก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอเป็นคนทำ”
“นี่ไอชิ....ทำไมนายไม่ลองคิดดูหละว่านักศึกษาที่โดนทำลายฮาร์ดดิสส์นั่นน่ะ เป็นฝ่ายที่เดินเข้า
ไปหาไวรัสนั่นเอง”
“นี่เธอ...หมายความว่าพวกเขาเป็นฝ่ายที่เจาะข้อมูลของเธอแล้วโดนไวรัสที่เธอสร้างขึ้นแล้ว
ฮาร์ดดิสส์ก็โดนทำลายโดยอัติโนมัติใช่ไหม”
“ฉลาดนี่”
“งั้นก็แสดงว่าน้องฉันไม่ผิดใช่ไหม”
“ก็น่าจะยังงั้นแหละ พวกเขาร้นหาที่เองสงสัยจะอยากลองของ”
คิระพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ช่วยไม่ได้นี่น๊า......มันก็น่าลองอยู่หรอกนะก็คนของมัติซึโมโต้มาอยู่ที่ไนพาราโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้มันก็น่าสงสัยเหมือนกันว่าเพราะสาเหตุอะไร”
ยามาดะแจงเหตุผลที่ทำไมนักศึกษาพวกนั้นถึงอย่างที่จะดูข้อมูลของฉันนัก
“ทำไมจะต้องสนใจเรื่องคนอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองด้วยนะ”
โดนไวรัสนั่นไป.....น่าสงสารชะมัด ที่จริงก็ไม่อยากจะสร้างอะไรเพื่อทำลายขนาดนั้นหรอกนะแต่ข้อมูลในนั้นมันสำคัญมากและที่สำคัญพวกเขาไม่น่าที่จะอย่างรู้เรื่องของฉัน....
“ก็บอกไปแล้วไงว่าอยากลองของ”
คิระพูดกลั้วหัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ.....
“ข้อมูลโดน hack ไปทั้งหมดอย่างนี้พวกนั้นคงหัวเสียกันน่าดู”
“มันช่วยไม่ได้นี่ไอชิ”
คิระพูดแทรกขึ้น
“เธอคืนข้อมูลทั้งหมดให้พวกเขาได้ไหม”
“ไม่ได้”
“ทำไม”
“คืนไม่ได้ก็คือคืนไม่ได้ ฉันไม่อยากจะได้ข้อมูลพวกนั้นมาเป็นของฉันหรอกนะแต่ฉันคืนข้อมูล
ให้พวกเขาไม่ได้จริง ๆ”
“แล้วเธอจะเก็บข้อมูลนั่นไว้ทำไม”
“ฉันไม่ได้เก็บ”
“แสดงว่าข้อมูลโดนทำลายทั้งหมดงั้นสิ”
“ใช่”
“ทำไมเธอต้องสร้าง firewall ที่ทำลายมากขนาดนั้นด้วย”
“นี่นายกำลังโทษฉันใช่ไหม.....ทำไมนายไม่โทษคนที่อยากรู้เรื่องของคนอื่นที่ริเข้าไปเจาะระบบของฉันหละ”
“พวกเขาก็แค่อยากลองของ”
“ฉันว่าไม่ใช่”
หึ...พวกนั้นต้องการข้อมูลของฉันต่างหาก
“ทำไมเธอถึงคิดว่าพวกเขาไม่ใช่แค่อยากลองของ”
“ข้อแรก พวกเขาโดนทำลายฮาร์ดดิสส์
ข้อสอง ข้อมูลโดนทำลายอย่างสมบูรณ์
ข้อสาม อาจจะหนักหน่อยคือคอมพังทั้งระบบ
ถ้าพวกเขาคิดแค่ว่าอยากลองของเจาะระบบของมัติซึโมโต้หละก็พวกเขาจะออกตั้งแต่ด่านแรกที่โดนฝัง spy ลงบนคอมแล้ว แต่พวกเขาคิดว่าถ้าจัดการเจาะข้อมูลได้เรื่อง spy ค่อยมาจัดการทีหลัง และพวกนั้นดำเนินเจาะข้อมูลต่อโดยไม่สนใจอะไร นี่หรอพฤติกรรมของคนที่แค่อยากลองของ”
“ด่านแรกเธอฝัง spy ลงเครื่องแล้วถ้าพวกนั้นดึงดันที่เข้ามาด่านที่สองเธอก็ลงโปรแกรม hack ข้อมูลเข้าเครื่องของเธอและถ้าพวกยังเจาะเข้ามาได้อีกเธอก็ใส่โปรแกรม clack เพื่อทำลายข้อมูลใช่ไหม”
“เก่งนี่ยามาดะ....”
“พวกนั้นไม่น่าเลยจริง ๆ” ยามาดะพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“ คราวนี้เข้าใจแล้วนะไอชิว่าฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายข้อมูลใคร ถ้าพวกนั้นไม่ร้นหาที่เอง”
“งั้นแปลว่าถ้าใครเจาะถึงด่านที่ 3 ก็สามาถผ่านเข้าระบบเธอได้งั้นสิ”
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกคิระ ฉันไม่ประมาทขนาดนั้นถ้านายอยากรู้ว่าต่อจากด่านที่สามเป็น
อะไรนายก็ลองเจาะระบบฉันดูซิ นายจะได้รู้ไงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับคอมของนาย”
“หึๆ ไม่หละ ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะรู้เรื่องของเธอ”
“คิดได้อย่างนั้นก็ดี ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวหละนะ”
“อายะรอพี่ด้วย”
“นายว่าไงไอชิ”
“ฉันว่าเราเจอคนที่ใช่แล้วหละยามาดะ”
“แต่ว่าคงไม่ง่ายนักหรอก”
“มันจะง่ายมากกว่านี้ถ้าอายะไม่ใช่มัติซึโมโต้และจงเกลียดจงชังไนพาราแบบนี้”
“ใจเย็นน๊าไอชิ ฉันว่าอายะน่ะไม่ใช่คนที่ไม่ฟังเหตุผลหรอก”
“ดูนายรู้จักอายะดีจังนะคิระ”
“คำถามนายแปลก ๆ นะไอชิ”
“แปลกยังไง”
“ก็มันเหมือนนายอิจฉาฉันที่รู้จักอายะ”
ไอชิแปลก ๆ ไปตั้งแต่อายะเข้ามาเรียนแล้ว มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“ทำไมฉันต้องอิจฉานายด้วยคิระ อย่าคิดนะว่าทุกคนจะเหมือนนายที่เจอของแปลกแล้วอยากลอง
ของ”
“มันก็น่าลองไม่ใช่รึไง”
“หวังว่านายจะสมหวัง”
ไม่ชอบให้มันพูดแบบนี้เลยซิน๊า......มันพูดแบบนี้ทีไหร่เขาแห้วทุกที
แต่ครั้งนี้ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด.....ฉันต้องได้ใจเธอมาให้ได้อายะ.....
เม้นด้วยนะค่ะ ขอร้อง!!!!!
ความคิดเห็น