คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แรกพบ
บทที่ 3 แรกพบ
มหาวิทยาลัยไนพารา
“ก็ไม่เลวแหะ”
ตอนแรกก็นึกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีแต่พวกไฮโซเดินไปเดินมาอวดความรวยกันซะอีก แต่ผิดคาดที่นี้ก็เหมือนมหาวิทยาลัยทั่วไปไม่มีการเบ่งอำนาจจนน่ารำคาญ ถ้าคนพวกนี้ไปเดินข้างนอกคงดูไม่ออกเลยนะว่าเป็นนักศึกษาของไนพาราที่โด่งดังทางด้านไอทีว่ากันว่าถ้าไนพาราสั่งนักศึกษาทุกคนสร้างไวรัสทำลายล้างโลกทั้งโลกก็จะตกเป็นของไนพาราได้ไม่ยาก แต่นั้นมันก็แค่คำรำลือวันนี้แหละฉันจะได้รู้ซะทีว่ามันเป็นอย่างนั้นรึเปล่า
“เอ๊ะ...นั้นมันไม่ใช่รถของไนพารานี่น่า”หญิงสาวคนหนึ่งนินทากับเพื่อนเมื่อเห็นรถลีมูซีนสีดำแล่นเข้ามาในเขตของมหาวิทยาลัย
“เฮ้ยแก....นั่นมันตราตระกูลมัติซึโมโต้นี่น่า”
“แกแน่ใจนะ”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์”
คำว่าตระกูลมัติซึโมโต้ทำให้ฉันต้องหันหน้าไปมองรถที่กำลังแล่นมาทางฉัน มัติซึโมโต้ยังไงก็เป็นมัติซึโมโต้ไม่เคยกลัวอะไรเหมือนเคยคงมาส่งพี่หละซินะ พี่อยู่ที่นั้นคงไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงแถมพี่ยังเป็นคนน่ารัก อ่อนโยนคนที่นั้นคงรักพี่มากกว่าฉันแล้วมั้งป่านนี้ รถผ่านหน้าฉันโดยที่ไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่ข้างทางที่เคยเป็นเจ้านายของมันมาก่อน ทุกอย่างนับจากนี้กำลังจะเปลี่ยนไปฉันต้องอดทนและรับทุกสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ห้องเรียนคณะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ฉันเงยหน้ามองป้ายหน้าห้องอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ นี่คือห้องและคณะที่พ่อเลือกให้ฉันโดยใช้อำนาจและอิทธิพลของการเป็นกรรมการประธานบริษัทไนพาราซึ่งปกติคนธรรมดาทั่วไปคงไม่ได้เข้ามาเรียนในไนพารากลางเทอมแบบนี้
ฉันเดินเข้าห้องไปท่ามกลางสายตาแปลกใจที่หลายคนส่งมาให้ฉัน พวกนั้นคงสงสัยหละซิว่าฉันเป็นใคร
“อายะ” ฉันหันไปตามเสียงเรียกคงไม่ใช่ใครนอกจากพี่นาระ ก็ใครที่นี้จะรู้จักฉันหละนอกจากพี่นาระฉันเดินไปหาพี่นาระโยทีไม่ได้สนใจสายตาของคนในห้องที่ยิ่งทวีความสงสัยมากขึ้นเมื่อพี่นาระเรียกชื่อฉัน
“พี่ก็อยู่ห้องนี้ด้วยหรอ”
“อืม”
“พี่หละน่าจะถามอายะมากกว่าทำไมถึงได้มาเรียนห้องเดียวกับพี่”
“ฉันเรียนข้ามชั้นสองปีน่ะ”
“อ่อ...นี่อายะเธอนั่งข้างพี่นะ”
“อืม...” ฉันวางกระเป๋าและนั่งลงตรงที่พี่บอก
“พี่เป็นไงบ้าง”
“ดีมากเลยจ๊ะ คนที่นั้นตอนรับพี่เป็นอย่างดีและแม่ก็ดีใจมากด้วยที่พี่ไปอยู่กับท่านแล้วอายะหละเป็นไงบ้าง”
“ก็ดีพี่”
ป่านนี้พวกเขาคงลืมฉันไปแล้วหละ มันก็ดีแล้วไม่ใช่รึไงที่พวกเขาลืมฉันได้ฉันควรจะดีใจสิไม่ใช่รู้สึกใจหายแบบนี้
“อรุณสวัสดิ์ไอชิ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งทักทายผู้ชายคนหนึ่งร่างสูง ผมสีดำยาวปะบ่าที่กำลังเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาไม่รู้เพราะอะไรทำไมฉันถึงสะดุดตาคนกลุ่มนี้นัก...
“.............”คนที่ชื่อไอชิไม่ได้ตอบทักทายคนที่ถามตามมารยาทแต่กลับเดินผ่านหน้าโดยไม่ได้สนใจรวมทั้งเพื่อนของเขาด้วย น่าหมั่นไส้ชะมัดถือว่าตัวเองหน้าตาดีรึไงถึงทำเป็นหยิ่งไม่ทักตอบเขา
“คิระ นายทำงานที่ฉันสั่งเสร็จแล้วใช่ไหม”
“อืม”
“แต่เรายังหาคนที่รับหน้าที่สร้าง firewall ไม่ได้”
“หาต่อไป”
“อืม”
“อรุณสวัสดิ์ไอชิ”พี่นาระทักทายไอ้หน้าเก๊กนั้นอย่างร่างเริง เดี๋ยวก็โดนเมินหรอกพี่.....แต่......
“อรุณสวัสดิ์นาระ”อ้าว...เลือกปฏิบัตินี่ว๊า.....
“เป็นไงบ้างท่าทางงานคุณยุ่งนะไอชิ”
“ก็นิดหน่อย” พอไอ้หมอนั่นพูดกับพี่ฉันเสร็จก็หันมามองหน้าฉัน
“นี่น้องสาวฉันชื่อ อายะ”
พี่นาระแนะนำฉันให้ไอชิ ทำไมจะต้องแนะนำด้วยก็ไม่รู้ฉันไม่เห็นจะอยากรู้จักไอ้ขี้เก๊กนี่เลยซักนิด
“อายะนี่ ไอชิ เพื่อนพี่” ฉันพยักหน้าเพื่อแสดงให้รู้ว่าฉันรู้แล้วว่าไอ้หน้าเก๊กนี่เป็นใคร
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอมีน้อง”
“น้องฉันไปอยู่กับแม่น่ะ คงไม่แปลกที่คุณไม่รู้จัก”
“แล้วมาทำอะไรที่นี้” ไอ้นี่ถามแปลกมานี่ก็มาเรียนนะสิจะมาเป่ากบรึไง หน้าตาก็ฉลาดไม่น่าจะโง่เลย.
“น้องฉันพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันแรกน่ะ”
“อ่อ..คนนี้เองซินะที่คุณอาไอดะฝากเข้ามาเรียนที่นี้” ชายร่างสูงคนหนึ่งในกลุ่มเอยขึ้น
“หวังว่าเธอจะอยู่ที่นี่รอด”
ไอชิพูดพลางส่งสายตาแปลก ๆ มาที่ฉัน ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะนั้นมันหมายความว่ายังไง.....
นี่มันอวยพรฉันใช่ไหม.....มาวันแรกก็โดนเขม่นซะแล้วฉัน พอไอชิให้พรฉันแล้วมันก็เดินไปนั่งที่โต๊ะของเขาพร้อมกับเพื่อน ๆ เปิดโอกาสให้ฉันได้ถามว่ามันเป็นใครมาจากไหนทำไมถึงได้วางมาดยังกับเป็นเจ้าของไนพารายังงั้นและคำตอบที่ฉันได้รับจากพี่ก็ทำเอาฉันปวดหัว นี่ฉันไปโดนลูกชายประธานบริษัทไนพาราเหม็นหน้าแล้วหรอเนี้ยะ ไอ้นั่นคงไม่ชอบที่ฉันใช้ระบบเส้นสายเข้ามาหละมั้ง ฉันก็กะไว้แล้วว่าจะต้องเจอแบบนี้ตอนแรกกะว่าจะไม่สนใจแล้วเชียวแต่ไอ้คนที่เขม่นฉันดันเป็นถึงลูกประธานบริษัท หึ....หึ....บางทีการอยู่ที่ไนพาราอาจจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดก็ได้
“อายะ.....ชื่อคุ้น ๆ นะนายว่าไหม”
“ยามาดะนายคิดมากไปแล้วมั้ง”
“คิระแกก็ลองคิดดูดี ๆ สิฉันว่ายัยนี่แปลก ๆ”
“มัติซึโมโต้ อายะ ลูกสาวบุญธรรมของประธานบริษัทมัติซึโมโต้ และเป็นคนสนิทของมัติซึโมโต้ จุนทายาทแห่งตระกูลมัติซึโมโต้”
“นายรู้ทำไมนายพูดตั้งแต่แรกไอชิ”
“คุณอาขอร้องไม่ฉันบอกใครและพวกนายห้ามไปบอกใคร”
“แล้วนายบอกพวกฉันทำไม”
คุณอาบอกว่าไม่ให้บอกใครแล้วมันมาบอกพวกเขาทำไมฟะ ยังงี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“ยัยนั่นเป็นมัติซึโมโต้ ฉันอยากให้พวกนายช่วยจับตาดูยัยนั่นช่วยฉัน”
นั่นไง.....ว่าแล้วเชียว
“นายกลัวรึไง”
“กันดีกว่าแก้ไม่ใช่รึไง ยัยนั่นเป็นคนสนิทของไอ้จุนมีข่าวลือว่ายัยนั่นเป็นคนที่สร้างไวรัสทำลายเมื่อสามปีก่อนโดยคำสั่งของมัติซึโมโต้ จุน”
“อืม...แต่ดูท่าทางไม่น่าจะมีพิษสงอะไรนะ”
“อย่าประมาทยามาดะ”
“ถ้าเป็นอย่างที่นายบอกอายะก็เป็นลูกครึ่งมัติซึโมโต้กับไนพาราหละซิ”
“ยัยนั่นเป็นมัติซึโมโต้ ก็เหมือนกับนาระที่เป็นไนพาราถึงแม้ว่าทั้งสองดูเหมือนเป็นลูกครึ่งของทั้งสองตระกูลแต่ในใจของทั้งสองก็เป็นคนหละฝั่งกัน”
“นายแน่ใจจังเลยนะไอชิว่านาระเป็นไนพารา อย่าลืมซิตอนนี้เธอไปอยู่ที่มัติซึโมโต้นะ”
“ฉันเชื่อในตัวนาระ”
“ก็มันรักของมันยามาดะแกก็สงสัยอะไรมากเลยน๊า”
“ไอ้คิระ”
“ครับ ๆ ฉันจะไม่ล้อแกอีกแล้ว”
ชั่วโมงเรียนวิชาคอมและการสื่อสาร
“เอาหละวันนี้ครูจะให้ทุกคนสร้างโปรแกรมต้านไวรัสที่ครูจะส่งไปให้ แข่งกันซิว่านักศึกษาคนไหนจะสร้างทำลายไวรัสครูได้เร็วที่สุดและใครที่ไวรัสครูทำลายข้อมูลได้มากที่สุด เอาหละเตรียมตัวได้5
4
..3
..2
..1
let’s go”
เมื่อสัญญาณการปล่อยไวรัสสิ้นสุดลงนักศึกษาแต่ละคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำลายไวรัสนั้นอย่างขมักเขม่นรวมถึงฉันด้วย ฉันไม่มีวันยอมให้ไวรัสกระจอกนั้นมาทำลายข้อมูลฉันได้หรอก แต่มันก็ใช่ว่าจะง่ายเหมือนที่คิดไว้ในตอนแรกนี่ซินะไนพาราสมแล้วที่เป็นผู้นำด้านไอทีแต่ไนพาราจะรู้ว่ามัติซึโมโต้ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน
“เอ๊ะ..” ศาสตราจารย์หน้าห้องอุทานขึ้นอย่างแปลกใจก่อนที่จะรั่วนิ้วลงบนคอมพิวเตอร์แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในคอมโดนทำลายเกลี้ยงแบบที่ไม่เหลือไว้ใน back up ให้เรียกกลับได้อีกเลยรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้ามัจจุราชที่ทำลายข้อมูลศาสตราจารย์ได้สำเร็จ ให้มันรู้ซะบ้างว่ามัติซึโมโต้ไม่ได้ด้อยไปกว่าไนพารา
“มีอะไรรึเปล่าครับศาสตราจารย์”นายคนที่ชื่อคิระถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเขาสังเกตเห็นอาการของศาสตราจารย์ที่หน้าซีดไปตั้งแต่เมื่อกี้......
“มีนักศึกษาสักคนในนี้ทำลายข้อมูลอาจารย์ทั้งหมด”
“ว่าไงนะครับ”
“เป็นไปได้ไงนะ” นักศึกษาต่างแปลกใจที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่ไนพารามหาวิทยาลัยที่มีระบบการป้องกันดีเยี่ยมแต่สาสตราจารย์กลับโดนตะลบหลังโดนทำลายข้อมูล
“ใช่ เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นที่ไนพาราแต่มันก็เกิดขึ้นแล้วอาจารย์จะกลับไปตรวจสอบระบบภายในใหม่อีกครั้ง”
“ศาสตราจารย์ค่ะแล้วผลของการทำลายไวรัสหละค่ะ”นักศึกษาคนหนึ่งถามขึ้นขณะที่ศาสตราจารย์กำลังเดินออกจากห้อง
“ผลจะปรากฏที่หน้าจอของทุกคนเมื่อระบบกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” พอศาสตราจารย์พูดจบก็เดินออกจากห้องไปทิ้งความสงสัยไว้ให้นักศึกษาทั้งห้องว่าใครกันที่กล้าทำลายข้อมูลของไนพารา
“แกว่าใครไอชิ”
“จะมีใครหละคิระ”
“อายะงั้นสิ”
“คงไม่มีใครอีกแล้วหละ พวกมัติซึโมโต้ก็ดีแต่ทำลายไม่เคยที่สร้างสรรค์อะไรอยู่แล้ว”
เสียงเยาะหยันนั้นไม่ได้ออมเสียงเลยทำให้เกือบทั้งห้องได้ยินรวมทั้งอายะด้วย นั่นเป็นการดูถูกที่รุนแรงที่สุดที่เธอเคยได้ยินมาไนพารายังไงก็เป็นไนพาราที่ไม่คิดว่าคนอื่นจะดีนอกจากพรรคพวกของตนเองไม่เคยที่จะหันไปมองด้านที่ดีของคนอื่นเลยซักนิด
“มัติซึโมโตไม่ได้เป็นอย่างที่นายกล่าวหา”
ฉันไม่มีวันยอมให้ใครมาดูถูกมัติซึโมโต้ที่เป็นเหมือนชีวิตฉันได้หรอกถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ท่ามกลางคนของไนพาราก็ตาม
“เธอจะปกป้องมัติซึโมโต้ไปทำไมอายะในเมื่อเธอออกจากที่นั้นมาแล้ว”
ไอชิยังเยาะเย้ยอายะอย่างไม่ลดละ
“ฉันเป็นคนของมัติซึโมโต้”
“ทั้งที่เธอใช้นามสกุลมุชิเอระนะหรอ”
“ไม่ว่าใครจะหยัดเหยียดให้ฉันเป็นอะไรก็ตามแต่ในใจฉันก็ยังเป็นมัติซึโมโต้”
เสียงฮือฮาจากนักศึกษาเริ่มที่จะดังขึ้นเรื่อย ๆ
“แล้วเธอจะลำบากเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นมัติซึโมโต้เมื่ออยู่ที่นี้อายะ”
“ฉันว่าไนพาราจะลำบากมากกว่าที่มีคนของมัติซึโมโต้มาอยู่ที่นี้”
ฉันไม่วันยอมแพ้นายหรอกไอชิให้มันรู้ไปสิว่าฉันกับนายใครจะแน่กว่ากัน......
“นี่พวกเราผลคะแนนมาแล้ว”นักศึกษาคนหนึ่งเอ้ยขึ้น และมันทำให้บทสนทนาของเราจบลงแค่นั้นนักศึกษาที่เคยมุ่งดูสถานการณ์ก็แยกย้ายกันไปที่โต๊ะของตัวเองเพื่อดูคะแนนการแข่งขันรวมทั้งฉันด้วย ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าฉันกับไนพาราใครมันจะแน่กว่ากัน
ผลคะแนน
โทโมดะ ไอชิ 30 วินาที
มุชิเอระ อายะ 31 วินาที
นี่ฉันแพ้ไอ้นั่นหรอเนี้ยะให้ตายเถอะไม่น่าประมาทเลย คราวหน้าฉันจะทำให้พวกนั้นเห็นศักยภาพของมัติซึโมโต้จริงๆ ให้ดูครั้งนี้ถือว่าปล่อยให้ชะล่าใจไปก่อนก็แล้วกัน
“เฮ้ย....เป็นไปได้ไงเนี้ยะ” คิระอุทานขึ้นด้วยความประหลาดใจนี่เขาแพ้เด็กนั่นไงกัน
“นายแพ้ไม่แปลกหรอกคิระอย่าลืมซิว่าอายะเป็นมือหนึ่งของมัติซึโมโต้ ดีนะที่ไอชิไม่แพ้ยัยนั่นด้วยไม่งั้นคงได้อายกันไปทั่ว”
“ไม่หรอกยามาดะบางทีอายะอาจจะชนะฉันไปแล้วถ้าไม่มั่วแต่สร้างไวรัสทำลายนั่น”
“น่าสนใจนายว่าไหมไอชิ”
“อืม...คิระบางทีเราอาจจะได้คนที่รับหน้าที่เราขาดก็ได้”
“คุณสมบัติผ่าน”
“แต่...ติดอยู่ที่ใจที่เป็นมัติซึโมโต้ไม่ใช่ไนพารา”
“สุดยอดเลยอายะ”
“แค่ฟลุ๊คน๊าพี่”
“ไม่หรอก...มาเป็นอันดับสองแบบนี้เขาไม่เรียกฟลุ๊คหรอกนะอายะ”
“พี่ก็ใช่ว่าจะไม่เก่งได้ตั้งอันดับห้า”
“ก็ไม่เก่งเท่าอายะหรอกน๊า”
“นี่...จะชมกันอีกนานไหม”
ไอ้หมอนี่มันจะอะไรนักหนาเนี้ยะ พี่น้องเขาชมกันเองแล้วมันไปหนักส่วนไหนของมันวะ
“มีอะไรรึเปล่าไอชิ”
“ไปกินข้าวกัน”
นั่น..ตอนพูดกับพี่ทำไมมันคนละเสียงกับตอนที่พูดกับฉันเลยนะ
“อายะไปทานข้าวกันนะ”
“อืม”
“นี่เธอ....ฉันชื่อคิระนะ”
ผู้ชายที่เป็นเพื่อนกับไอชิทักฉันอย่างอารมณ์ท่าทางนายนี่จะนิสัยไม่แย่เหมือนเพื่อนของเขา
“อืม..หวัดดีฉันอายะ”
ฉันทักทายไปตามมารยาทเดี๋ยวเขาจะหาว่ามัติซึโมโต้สั่งสอนมาไม่ดี
“เป็นไงมาไงเธอถึงมาอยู่ที่ไนพาราได้”
นั่น...คิดจะลวงความลับจากฉันรึไงนะ เรื่องอะไรฉันจะบอกหละฝันไปเถอะ.....
“เรื่องมันยาวน่ะ”
“ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ฉันอยากเตือนเธอหน่อยนะว่าที่นี่น่ะไม่ค่อยชอบตระกูลมัติซึโมโต้นักหรอก”
“เรื่องนั้นฉันรู้”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมเธอถึงออกมาจากมัติซึโมโต้แต่ไนพารายินดีต้อนรับเธอนะ”
“ฉันว่าไม่”
ฉันพูดพลางมองไปที่ไอชิที่เดินข้างพี่ สงสัยนายนี่กับพี่ฉันต้องคบกันอยู่แน่ ๆ
“อย่าต้องไปสนใจไอ้ไอชิเลย มันก็เป็นของมันยังงี้แหละไม่เคยจะญาติดีกับใครนอกจากพวกฉันและก็พี่ของเธอ”
“เขาคบกันอยู่หรอ”
“ก็ไม่รู้สิ....ไอ้นั่นมันไม่ค่อยจะยอมรับอะไรทั้งที่ท่าทางการแสดงออกมันเห็นอยู่ชัด ๆ”
“ปากแข็งอย่างนี้เดี๋ยวก็โดนคนอื่นคาบไปหรอก”
“ฉันก็เตือนมันแล้วแต่สงสัยมันมั่นใจในเสน่ห์ของมันหละมั้งถึงไม่ยอมบอกพี่เธอซักที”
“ตรงไหนนะที่หมอนั่นมีเสน่ห์”
“หือ.....เธอไม่มองเห็นเสน่ห์ของไอชิเลยหรอ”
“ไม่เลยซักนิด”
“แปลกนะ”
“อะไร”
“ก็สาว ๆ ที่นี่น่ะต่างก็ชอบไอชิทั้งนั้นรวมทั้งพี่เธอด้วย
“ฉันอาจจะเกลียดความเป็นไนพาราในตัวเขา”
“เธออาจจะรักไนพาราก็ได้ถ้าเธออยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ไนพาราไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกมัติซึโมโต้คิดหรอกหรือบางทีเธออาจจะรักไนพารามากกว่ามัติซึโมโต้ก็ได้”
“ฉันอาจจะยอมรับไนพารามากขึ้นแต่จะให้ฉันรักไนพารามากกว่ามัติซึโมโต้คงจะเป็นไปไม่ได้”
“อายะเธอไม่เหมือนกับที่ฉันไว้เลยนะ”
“หือ..”
“ก็ตอนแรกฉันนึกว่าเธอจะ......”
คิระไม่ยอมพูดต่อ แต่กลับเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่อย่างนั้น
“จะอะไรอย่าปล่อยให้ค้างแบบนี้สิ”
“ก็เธอดีกว่าที่ฉันคิดไว้ในตอนแรกน่ะ”
“ฉันอาจจะไม่ดีอย่างที่นายคิดก็ได้”
“ฉันว่าฉันมองไม่ผิดนะ เออ...อีกเรื่องเรื่องที่เธอสร้างไวรัสในห้องเมื่อกี้น่ะเลิกทำแบบนั้นซะเถอะมันไม่เป็นผลดีกับใครหรอก และคนที่เดือดร้อนมากที่สุดก็จะเป็นตัวเธอเอง”
หมอนี่...เป็นห่วงฉันใช่ไหม ฉันไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม
“ฉันขอโทษ”
“หือ...”
“ทำไมหรอ”
ทำไมต้องทำหน้าตกใจเหมือนเจอสัตว์ประหลาดขนาดนั้นด้วยนะ
“ก็ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของเธอน่ะสิ”
“ฉันผิดฉันก็ต้องขอโทษไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”
“...........”
ไม่มีเสียงใดออกจากปากคิระมีเพียงรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้ฉัน บางทีคิระอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีของฉันได้
เราเดินคุยกันมาเรื่อย ๆ จนมาถึงโรงอาหารของมหาวิทยาลัยหลังจากที่ทานอาหารเสร็จเราก็กลับไปเรียน คิระยังชวนฉันคุยอย่างเคยซึ่งนั้นมันทำไมให้ไอชิไม่ค่อยที่จะพอใจมากนักแต่จะทำอะไรได้หละในเมื่อคิระไม่ได้เป็นทาสของเขาที่เขาจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้
เม้นด้วยเจ้าค่ะ
เม้นค่ะเม้น
ความคิดเห็น