คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บ้านหลังใหม่
บทที่ 1 บ้านหลังใหม่
ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจออกมาจากที่นั้นได้ และฉันก็ทำให้แม่ร้องให้อีกจนได้ถึงแม้ว่าต่อหน้าฉันแม่จะมาส่งฉันพร้อมรอยยิ้มก็ตาม ชีวิตฉันคงไม่เคยทำให้แม่ได้ภูมิใจเลยซักครั้งคอยก่อเรื่องให้แม่และคนรอบข้างต้องเดือดร้อนตลอด ดังนั้น ฉันจึงไม่ควรอยู่ใกล้คนที่ฉันรักเพราะพวกเขาจะเดือดร้อนเพราะฉันอย่างที่เคยเป็นมาตลอด อย่างน้อยคนที่นี่ก็คงไม่ให้อภัยฉันตลอดเหมือนที่ฉันอยู่มัติซึโมโต้ ที่นี่ทุกสิ่งจะตัดสินโดยกฎไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนที่มัติซึโมโต้ ป่านนี้จุนคงเกลียดฉันเข้ากระดูกดำไปแล้วที่ฉันขัดคำสั่งของเขาและออกมาแบบนี้ จุนเป็นคนเดียวที่ฉันแคร์มากที่สุดและเป็นคนเดียวในโลกที่สั่งฉันได้ แต่ฉันก็ขัดคำสั่งเขาจนได้และมันทำให้ฉันเจ็บปวดใจมากที่สุดไม่นึกเลยว่าการที่ไม่มีจุนอยู่ข้าง ๆ อย่างเคยจะเจ็บมากขนาดนี้
“นี่ห้องของลูก” ชายวัยกลางกล่าวขึ้นขณะเปิดประตูให้ลูกสาวของเขา ลูกสาวคนที่เขาไม่ได้พบมานับสิบปีไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพบหน้าลุกและภรรยาของเขาแต่ฝ่ายนั้นเองต่างหากที่ไม่เคยอนุญาตให้เขาได้พบเลยซักครั้งทั้งที่เขาพยายามขอพบมานับครั้งไม่ถ้วนเหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่ให้พบ คือ เขาเป็นคนของไนพารา บริษัทด้านไอทีที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญกับบริษัทมัติซึโมโต้ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าพวกมัติซึโมโต้ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทธรรมดาทั่ว ๆ ไป มัติซึโมโต้ยังเป็นยากูซ่าที่ใคร ๆ ต่างก็กลัวกันไปทั่วทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเป็นคู่แข่งกับมัติซึโมโต้ยกเว้นไนพารา
“ขอบคุณค่ะ” อายะกล่าวขอบคุณและเดินเข้าไปในห้องโดยที่ไม่หันมามองหน้าชายคนที่เป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอ
“เดี๋ยวอายะ” อายะหันมาตามคำเรียก
“มีอะไรค่ะ”
“พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงลูกต้องตื่นไปมหาวิทยาลัย”
“เร็วขนาดนั้นเลยหรอค่ะ”
“พ่อกลัวว่าลูกจะเรียนไม่ทัน พ่อคิดว่ายิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
“ค่ะ” นี่ฉันต้องยอมรับความจริงแล้วใช่ไหม ความจริงที่ฉันไม่อยากจะรับมันพรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไนพารามหาวิทยาลัยคู่แข่งของมัติซึโมโต้ มหาวิทยาลัยที่อาจเป็นที่ปราถนาของใครหลาย ๆคนเพราะเมื่อจบจากที่นี่ก็จะได้ทำงานที่ไนพาราแต่ก็น้อยคนนักที่จะสามารถจบไปได้ ที่นั้นเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในญี่ปุ่นที่ฉันไม่อยากจะเข้าแต่เพราะข้อตกลงระหว่างฉันกับพ่อฉันจำเป็นต้องเข้าเรียน พวกนั้นจะคิดยังไงนะที่คนของมัติซึโมโต้เข้ามาเรียน........
“คุณหนูอย่าครับ” ชายคนหนึ่งกำลังขว้างเจ้านายของเขา
“อย่ามายุ่ง”นั้นเป็นคำที่ออกจากปากของเจ้านายเขาไม่มีทางขัดขวางเธอได้เลย เขาไม่กล้าที่จะทำร้ายเธอเพราะเธอเป็นเหมือนเจ้าชีวิตของเขา
“อ๊าก!!!!!” นั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่ได้ยินภายใต้ร่างที่นองไปด้วยเลือด มันเป็นภาพที่ชวนสะอิดสะเอียนกับคนที่ได้พบเห็น
“กรี๊ด!!!!!” อายะตื่นจากฝันร้ายที่เธอพยายามที่ลืมมันแต่มันก็ตามหลอกหลอนเธอตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ที่มัติซึโมโต้และอยู่ที่นี้หรือว่าเธอจะไม่สามารถลืมมันได้แต่การมาอยู่ที่นี้ก็ช่วยทำให้ภาพที่เธอเห็นชัดทั้งในความฝันและตื่นเลือนรางไปบ้างหวังว่าสักวันภาพหลอนเหล่านั้นมันจะหายไปจากชีวิต...... อายะยกมือขึ้นปาดเหงื่อเม็ดใหญ่ที่หน้าผากของเธอ ก่อนที่จะลงจากเตียง....
“มุชิเอระ อายะนี่มันอะไรกัน”
“ลูกต้องใช้นามสกุลของพ่อเข้าเรียนที่นั้น การใช้นามสกุลมัติซึโมโต้จะทำให้ลูกลำบากและที่สำคัญอย่าบอกใครว่าลูกเป็นคนของมัติซึโมโต้”
“ไม่....ยังไงหนูก็จะใช้นามสกุลมัติซึโมโต้ใครจะคิดยังไงหนูไม่สน”
“อย่าดื้ออายะ...เชื่อพ่อเถอะว่ามัติซึโมโต้ไม่ใช่นามสกุลที่ลูกสมควรจะใช้ตอนเรียนที่ไนพารา”
“ถ้าอย่างนั้นพี่นาระจะทำยังไง” ป่านนี้พี่จะเป็นยังไงบ้างนะไม่รู้ว่าจะเข้ากับคนที่นั้นได้รึเปล่า
“พี่เขาเป็นคนปรับตัวง่ายไม่ต้องเป็นห่วงพี่เขาหรอก พ่อเชื่อว่าพี่เขาจะมีความสุข”
“แล้วพี่เขาต้องย้ายมหาวิทยาลัยรึเปล่า”
“พี่เขายังเป็นคนของไนพาราถึงแม้ว่าจะไปอยู่ที่มัติซึโมโต้”
“พี่ยังเป็นไนพาราแต่หนูกลับต้องทิ้งทุกอย่างที่เป็นมัติซึโมโต้ยุติธรรมดีนะค่ะ”
“ลูกเลือกเองนะอายะพ่อไม่เคยบังคับ”
“อะ”พ่อยื่นโน๊ตบุ๊คให้ฉัน
“อะไรค่ะ”
“ที่นั้นลูกต้องใช้นี่ในการเรียนและส่งงานอาจารย์”
“อืม”
“ตั้งรหัสผ่านซะ และสร้าง firewall ไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัยยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี เออ...อีกอย่างลบ cookie ออกทุกครั้งเมื่อทำงานเสร็จแล้วเพื่อความปลอดภัย”
“ทราบแล้วค่ะ”
“ตอนนี้ลูกคงไม่สร้างไวรัสทำลายเหมือนเมื่อก่อนใช่ไหม”
“เลิกนานแล้วหละค่ะ”
นี่พ่อรู้เรื่องของฉันทุกเรื่องเลยหรอเนี้ยะ ท่านไปได้ข้อมูลมาจากไหนนะหรือว่าฉันตั้งกำแพงไว้ไม่พอ ก็ไม่นี่น่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครเจาะเข้าไปในฐานข้อมูลได้ แล้วพ่อรู้เรื่องนี้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนสร้างไวรัสป่วนคอมทั่วโลกเมื่อสามปีก่อน
“พ่อค่ะ”
“หือ”
“พ่อรู้เรื่องไวรัสได้ไงค่ะ”
“อย่าลืมซิอายะพ่อเป็นคนของไนพารานะ พ่อรู้ทุกเรื่องของมัติซึโมโต้”
“อืม”นี่ไนพารารู้เรื่องภายในของเรามากถึงขนาดนี้เชียวหรือเนี้ยะ สมแล้วที่เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านไอทีพวกนั้นคงเจาะระบบมาขโมยข้อมูลของไนพาราหละซิ
“และที่สำคัญเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เรื่องใหญ่ใช่เล่น แถมไนพาราก็เป็นที่แรกที่โดนพ่อเดาได้ไม่ยากหรอกว่าเป็นฝีมือใคร”
“แต่พ่อก็ไม่น่าที่จะรู้ว่าเป็นหนูทำนี่ค่ะ”
“พ่อมีเซ็นต์เรื่องนี้น่ะ”
“หือ”
“สรุปคือพ่อเดา ตอนแรกพ่อก็ไม่รู้หรอก...แต่เมื่อกี้ลูกพึ่งสารภาพกับพ่อ”
“นี่พ่อหลอกหนูนี่ค่ะ”
“.............”พ่อไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากคลีรอยยิ้มบางส่งมาให้ฉัน ตอนแรกก็นึกว่าพ่อจะต้องดุและไม่ยอมรับฉันเป็นลูกซะแล้วแต่พอได้พบกันครั้งนั้น พ่อใช่ว่าจะเลวร้ายอย่างที่ฉันจินตนาการเอาไว้แต่จะดีมากกว่านี้มากถ้าพ่อไม่บังคับให้ฉันเรียนที่ไนพาราและต้องเปลี่ยนจากนามสกุลมัติซึโมโต้เป็นมุชิเอระ
“แล้วทำไมพ่อไม่แจ้งความตำรวจสากลมาจับหนูหละค่ะ”
ทั้งที่มีโอกาสที่จะทำลายชื่อเสียงของมัติซึโมโต้ ไนพารามีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำแบบนั้น
“เรื่องมันยาวน่ะอายะ”
“ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่าค่ะ”
พ่อมีอะไรบิดบังเราอยู่นะ......
“นี่กุญแจรถของลูก รถสปอร์ตสีดำที่จอดอยู่นะ”
“หนูไม่จำเป็นต้องใช้หรอกค่ะ”
“พ่อมีคนขับรถคนเดียวและเขาก็ต้องไปส่งพ่อทีทำงานทุกวัน ตอนนี้ก็ขับรถเองก่อนนะพ่อกำลังประกาศรับคนขับรถอีกไม่นานคงได้”
“พ่อไม่ต้องรับคนขับรถเพิ่มหรอกค่ะหนูนั่งรถไฟไปมหาวิทยาลัยได้ค่ะ”
“ไม่ได้ ลูกก็รู้ว่าทุกวันนี้มันอันตรายขนาดไหน”
“หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ”
ฉันเดินออกจากบ้านหรือจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์ก็ได้ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของพ่อที่ดังไล่หลังฉันมา ฉันรู้ว่าพ่อเป็นห่วงฉันมากแค่ไหนแต่การที่ฉันใช้ชีวิตสบายอย่างนั้นมาตลอดชีวิตมันทำให้ฉันอึกอัดไม่มีอิสรภาพ อยู่ที่มัติซึโมโต้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงที่ทุกคนคอยบริการทุกอย่างไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ได้มาฉันเบื่อกับชีวิตแบบนั้นเต็มทีเมื่อได้ออกมาจากมัติซึโมโต้แล้วฉันอยากจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น..........
ขอเม้นด้วยนะค่ะพี่น้อง.......
ความคิดเห็น