คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เปิดตัว
ตอนที่ 7 เปิดตัว
หลังจากที่แยกจากอายะจุนก็ไม่ยอมกลับบ้าน กลับเดินตามอายะไปเงียบ ๆ ผมอดเป็นห่วงอายะไม่ได้ก็นี่มันดึกมากแล้วนี่น๊า จะให้อายะเดินกลับคนเดียวได้ไงแล้วนี่บ้านอายะจะห่างจากสถานีมากไหมนะ สุดท้าย.....จุนก็อดเป็นห่วงอายะไม่ได้เขาขึ้นรถไฟตามอายะจนถึงบ้าน เมื่อเห็นอายะเดินเข้าบ้านเขาก็โทรเรียกลูกน้องให้มารับที่หน้าบ้านของอายะ
ณ คฤหาสน์มัติซึโมโต้
“แกน่าจะพาอายะกลับมาด้วย”
“ถ้าผมพาเธอมาได้ผมก็พามาแล้วหละครับพ่อ”
จุนตอบพ่ออย่างอารมณ์ดี คงจะต้องยอมรับว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เกิดในญี่ปุ่นแล้วพ่อของเขาจะไม่รู้ วันนี้เขามีความสุขมากเขาไม่อยากที่จะทะเลาะกับพ่อให้เสียบรรยากาศ
“ยังไงอายะจะต้องกลับมา พ่อมั่นใจ”
โทมุระเอ่ยขึ้นขณะที่จุนกำลังจะก้าวขึ้นบันได พ่อไม่เคยพูดอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้สิ่งที่พ่อพูดไม่เคยไม่เป็นจริงสักครั้ง
“ขอบคุณครับพ่อ แต่ถ้าจะให้ดีให้อายะกลับพรุ่งนี้เลยไม่ได้หรอพ่อ”
จุนหันมาตอบพ่อด้วยรอยยิ้ม
“อย่าโลภมาก เพราะมันจะทำให้แกสูญเสียสิ่งที่มีอยู่แล้วจุน”
ทำไมต้องพูดเป็นลางแบบนี้ด้วยนะ.........
แต่ยังไงผมมั่นใจว่าจะไม่มีทางสูญเสียอายะไปเด็ดขาด
“กลับมาแล้วหรอค่ะ”
นาระทักจุนเมื่อเห็นเขากำลังที่จะเปิดประตูเข้าห้อง....
“อืม...เออ..นาระ”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปส่งที่มหาวิทยาลัยนะ”
“ว่า....ว่าไงนะค่ะ” นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม...
“ฉันจะไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย”
ทำไมต้องทำหน้าตกใจมากขนาดนั้นด้วยนะ...
“หา !!!”
นาระอุทานอย่างตกใจเมื่อได้ยินชัดว่าจุนจะไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้
จุนจะไปส่งฉันที่มหา’ลัยพรุ่งนี้ เป็นไปได้ไงนะ.....
“เธอจะตะโกนทำไมยัยบ๊อง”
“ก็ฉันตกใจนี่น๊า คุณจะไปมหาวิทยาลัยไนพาราจริง ๆ นะหรอฉันว่ามันอันตรายเกินไปนะค่ะ”
“นั่นมันเรื่องของฉันเธอไม่ต้องยุ่ง”
จะเป็นห่วงอะไรนักหนา..
“ค่ะ”
รุ่งเช้า
“วันนี้แกจะไปไหนแต่เช้า”
ปกติมันไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้นี่น๊า....แม้แต่ตอนไปเรียนมันก็ไปซะเกือบเที่ยงแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นถึงได้ตื่นแต่เช้าแบบนี้
“ไปส่งนาระ”
นั่นไง.......ก็กะไว้แล้วว่าไอ้เจ้าลูกชายมันมีแผน.....
“ระวังตัวด้วยหละ”
กล้าเหลือเกินนะที่จะไปเหยียบถิ่นศัตรูแบบนั้น เขาไม่มีทางปล่อยให้มันได้ไปแบบนี้แน่ ส่งคนไปแหย่ฝั่งนั่นให้ตกใจเล่นแก้เครียดดีกว่า ยังไงจุนมันก็ต้องไปส่งอายะอยู่แล้วไปทำงานข่มขวัญฝั่งนั้นให้มัติซึโมโต้ กรุ๊ปหน่อยคงไม่เสียหายเท่าไหร่.....
“พ่อ..นี่มันอะไรกัน”
จุนอุทานอย่างแปลกใจเมื่อเห็นขบวนรถที่จะต้องตามเขาไปที่มหาวิทยาลัยไนพารา
“กันไว้ดีกว่าแก้”
“มันไม่มากเกินไปหรอพ่อ”
“ฉันมีลูกชายคนเดียวถ้าไม่มีแกแล้วใครจะมาบริหารบริษัท”
“แต่..คุณลุงค่ะหนูว่ามัน”
“ไม่ต้องพูดแล้วหนูนาระ รีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” โทมุระรีบตัดบทสนทนาทันทีเพื่อให้ทันเวลาตามแผนที่เขากำหนดเอาไว้ เวลาเช้าที่มีคนมาทำงานมากที่สุด......
“ค่ะ”
ทำไมจะไม่ทันนะนี่เหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าอาจารย์จะเข้า....ทำไมคุณลุงต้องรีบให้เราไปมหาวิทยาลัยด้วยนะ
“ไปบ้านที่แกไปรับฉันเมื่อวันเสาร์”
“ครับนาย”
“คุณมีธุระหรอค่ะ จอดตรงนี้ให้ฉันไปรถไฟก็ได้นะค่ะ”
เมื่อเขามีธุระที่จะต้องทำ....แล้วทำไมต้องให้ฉันมาด้วยนะ
“ไม่ต้องหรอก ธุระของฉันทางเดียวกันกับมหาวิทยาลัยเธอ”
“อ่อ..ค่ะ”
เอ๊ะ.......นี่มันทางไปบ้านคุณพ่อนี่น๊า คงไม่มีอะไรมั้งจุนอาจจะมีธุระกับคนแถวนี้
แต่..คนที่นี้ก็เป็นคนของไนพาราทั้งนั้นนี่น๊า แล้วจุนนะหรอมีธุระกับคนของไนพารา
“คุณมาทำอะไรแถวนี้ค่ะจุน”
นาระอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงถามเขาไป
“มารับของรัก”
จุนตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะตอนนี้เขากำลังจินตนาการว่าอายะจะทำหน้ายังไงนะเมื่อเห็นเขาไปรับถึงหน้าบ้านจะดีใจจนหน้าแดงหรือว่าจะโกรธจนควันออกหูนะ
“นี่มัน...”
“ใช่...บ้านพ่อของเธอ”
จุนลงจากรถโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาเจ็บปวดของนาระที่ส่งไปให้เขา
เมื่อจุนออกจากรถเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อายะเดินออกมาจากบ้านเพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก อายะมองขบวนรถที่มาจอดตรงหน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าคงไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
“อายะ”
อายะหันไปตามเสียงเรียกที่เธอคุ้นเคยแต่เธอไม่คิดว่าจะมาได้ยินในช่วงเวลานี้
“จุน....มาทำอะไรน่ะ”
อายะพูดตอบโต้ไปเมื่อเห็นเจ้าของเสียงเรียกที่ยืนเด่นอยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยบอริการ์ดนับสิบ
“มารับอายะไปเรียน”
“หา !!!”
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“จะไม่ตกใจได้ไงจุน นายเอารถห้าคันกับบอริการ์ดนับสิบมารับฉันเนี่ยนะ”
คิดจะเล่นอะไรอีกหละเนี่ยะ.... จุนนะจุนชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อยเลยซิน๊า
“ก็ปกตินี่อายะที่มัติซึโมโต้เราก็ไปไหนมาไหนกันแบบนี้อยู่แล้ว”
“แต่นี่มันเขตไนพารานะจุน ไม่ใช่มัติซึโมโต้”
คิดได้ไงนะจุน....มาเป็นขบวนแบบนี้เดี๋ยวทางไนพาราก็คิดว่าจะแห่มาถล่มเขาหรอก.....
“แล้วไง”
น่าน.....นิสัยไม่แคร์ใครนี่มันแก้ไม่หายเลยจริง ๆ นะ.....
“แล้วไง...ก็มันอันตรายไงนายไม่ควรมาที่นี่”
“อายะอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่น”
นอกจากนิสัยไม่แคร์ใครที่ยังแก้ไม่หายแล้วก็ยังมีนิสัยดื้อที่แก้ยากกว่าอันแรกมาสมทบอีก เฮ้อ......อะไรดลใจให้ฉันรักผู้ชายคนนี้นะ.....
“แต่....”
“ไม่มีแต่อายะ..ไม่ต้องเป็นห่วงนะอายะคราวหลังฉันจะแอบมาเองคนเดียวเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจดีไหม”
“ไม่ได้”
นายจะบ้าหรือไงจุน มาคนเดียวก็เหมือนเป้านิ่งให้เขาลอบทำร้ายนายน่ะสิ
“โน้นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ เธอจะเอายังไงอายะฉันก็แค่อยากมารับมาส่งเธอไปมหาวิทยาลัย ฉันไม่อยากให้เธอนั่งรถไฟไปเรียนนี่”
“มันไม่มีอะไรหรอกจุนจะห่วงไปทำไม ใคร ๆ เขาก็ขึ้นรถไฟกันไม่เห็นมีอะไรเลย”
“ก็ใคร ๆ เขาไม่ใช่คนที่ฉันรักเหมือนอายะนี่”
อึ้งค่ะอึ้ง....จุนบ้ามาบอกรักท่ามกลางบอริการ์ดนับสิบอย่างนี้ได้ไง...
ตัวเองไม่อายไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะอายบางรึไงนะ
ตอนนี้คนถูกบอกรักโดยไม่ได้ตั้งตัวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว ส่วนคนที่บอกรักก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่แกล้งคนอย่างอายะให้หน้าแดงได้
“ไปเถอะอายะเดี๋ยวสายนะ”
ไม่เห็นว่าอายะอึ้งจนไม่ยอมพูดอะไรสักที เขาก็เป็นคนพูดขึ้นก่อนพลางจับมืออายะให้ไปที่รถที่จอดรอมานานแล้ว
“เดี๋ยวจุน”
“หือ”
“ครั้งนี้ครั้งแรกและจะเป็นครั้งสุดท้ายเข้าใจนะจุน”
“ฉันจำเป็นต้องฟังเธอรึไง”
“ก็จุนเป็นของฉันจุนก็ต้องฟังฉัน”
“ฉันเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็ตั้งแต่จุนใส่สร้อยนั่นไง”
จุนก้มลงมองสร้อยที่คอของตังเองและคอของอายะที่มีเหมือนกันแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ......
“ได้..ฉันจะไม่มาที่นี่อีกถ้าเธอไม่อยากให้ฉันมา”
“และไม่ต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วย ฉันไปเองได้”
“อืม...”
จุนตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉัน ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์สุด ๆ
“และถ้าจุนผิดสัญญาอายะจะไม่คุยกับจุนอีก”
“เฮ้ย!!! ได้ไง”
จุนอุทานขึ้นอย่างตกใจ อายะอย่างนี้ทุกทีพอรู้ว่าเขาจะขัดคำสั่งต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ทุกทีและมันก็ได้ผลทุกครั้งก็ใครจะทนคนรักหมางเมินได้หละ
“ได้ไม่ได้.....จุนจะลองดูก็ได้นะ”
อายะตอบอย่างยียวนเพราะรู้ทั้งรู้ว่าจุนไม่มีทางที่จะลองแน่..
“โอเค..อายะ”
จุนเปิดประตูรถให้อายะและทำให้เธอรู้ว่าจุนไม่ได้มาคนเดียวข้างในรถยังมีพี่นาระที่นั่งรออยู่ข้างใน
จุนบ้า....ทำไมถึงไม่บอกนะว่าพี่นาระมาด้วยปล่อยให้พี่รอตั้งนาน..
“หวัดดีอายะ”
“ขอโทษนะที่ต้องให้พี่รอ ก็เพราะจุนนั่นแหละ”
“อ้าว...” คนถูกโยนความผิดทำหน้างง
อายะนะอายะ....ตัวเองเป็นคนผิดเห็น ๆ ยังจะมาโยนความผิดให้คนอื่นอีก ถ้ายอมขึ้นรถดี ๆ คงไม่ต้องปล่อยให้ใครรอหรอก เฮ้อ....จุนถอนหายใจอย่างปลง ๆ สุดท้ายก็ส่งยิ้มให้อายะอย่างเคย
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนพี่รอได้”
เป็นอย่างนี้เองสินะ....มิน่าหละคุณลุงถึงให้รีบมานัก
ในที่สุดฉัน พี่นาระ จุนก็มาถึงมหาวิทยาลัยจนได้และแน่นอนตลอดทางขบวนรถของเราเป็นจุดสนใจถ้าเป็นที่เขตมัติซึโมโต้คงจะไม่แปลกเท่าไหร่แต่นี่มันเป็นเขตของไนพารา จะไม่ให้เขาสนใจได้ไงก็มีรถของตระกูลมัติซึโมโต้เป็นขบวนมาแล่นในเขตไนพาราแบบนี้....
“มองอะไรนักหนา”
จุนบ่นทันทีเมื่อหันไปเห็นนักศึกษาของไนพารามองมาที่เขา
“เป็นฉันฉันก็มอง”
“อายะต้องมองฉันอยู่แล้วจะไปมองคนอื่นได้ไง”
“มันคนละความหมายอย่างมาแกล้งโง่จุน”
“เปล่าสักหน่อย”
บทสนทนาของคนทั้งสองถ้าใครไม่รู้จักพวกเขาว่าเป็นคนหนึ่งเป็นทายาทของตระกูลมัติซึโมโต้ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นลูกครึ่งระหว่างสองตระกูลใหญ่คงคิดว่าเป็นบทสนทนาของคู่รักธรรมดา ไม่น่าเชื่อว่ามัติซึโมโต้ จุนจะมีบุคลิกแบบนี้กับเขาด้วย ตั้งแต่ไปอยู่ที่มัติซึโมโต้ฉันพึ่งเคยเห็นจุนเป็นแบบนี้หรือว่าเขาจะเป็นอย่างนี้เฉพาะที่อยู่ต่อหน้าอายะนะ.....
“ฉันเห็นแล้ว”
ไอชิตอบลูกน้องผ่านโทรศัพท์ที่โทรมารายงานเขาว่ามีขบวนของรถมัติซึโมโต้เข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย....
“มัติซึโมโต้จะมาถล่มเรารึไงนะไอชิทำไมยกโขยงมาอย่างนั้น”
“คงมาส่งนาระตามปกติมั้ง”
คิระมองหน้าไอชิอย่างรู้ทัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันก็รู้สึกผิดปกติเหมือนกันแต่ทำเป็นวางฟอร์มไม่สนใจ แต่ก็ทำได้ไม่เนียนเลยถ้าไม่สนใจจริงทำไมต้องมายืนดูลาดเลาที่ระเบียงแบบนี้ด้วย...
“ฉันว่าไม่”
ยามาดะพูดพลางมองลงไปข้างล่างเป็นจังหวะเดียวกันกับบอริการ์ดเปิดประตูให้อายะและจุน
“มัติซึโมโต้ จุน”
ไอชิเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาที่เดาได้ยากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“หมอนั่นมาทำอะไรที่นี่”
คิระถามยามาดะอย่างสงสัย กล้ามากนะที่ทำแบบนี้หมอนั่นไม่คิดรึไงว่ามาที่นี่อาจจะโดนลอบทำร้ายได้โดยง่าย
“ฉันว่าข่าวที่ว่ามัติซึโมโต้ จุนกับอายะมีความสัมพันธ์กันมากกว่าพี่น้องท่าจะจริงแล้วหละ”
“นี่แกหมายความว่า จุนยอมเสี่ยงเพื่อมาส่งอายะอะนะ”
“ก็เห็นๆกันอยู่ เพราะนาระก็ไปอยู่มัติซึโมโต้เป็นเดือนแล้วไม่เคยเห็นจุนมาส่งเลยสักครั้ง แล้วนี่ก็ไม่เหมือนทุกครั้งที่มีเพียงนาระเท่านั้นแต่ครั้งนี้มีทั้งจุนและอายะ มิน่าหละถึงได้ยกขบวนกันมาขนาดนี้ทางนั้นคงไม่ไว้ใจว่าทายาทของตระกูลจะปลอดภัยกลับไปถ้าไม่มีบอริการ์ดมาคุ้มกันแบบนั้น”
“คิดว่าไนพาราจะป่าเถื่อนเหมือนมัติซึโมโต้รึไง”
“ไม่ประมาทดีที่สุดไม่ใช่รึไงไอชิ และฉันคิดว่ามัติซึโมโต้คงไม่อาจตัดใจให้ทายาทคนเดียวเข้ามาในเขตไนพาราด้วยบอริการ์ดเพียงไม่กี่คนหรอก”
“ไปเถอะ” ไอชิหันมาเรียกเพื่อนและเดินกลับไปที่ห้องเรียนเพราะเขามั่นใจว่าจุนต้องมาส่ง อายะจนถึงห้องแน่ การมามหาวิทยาลัยไนพาราครั้งนี้ของมัติซึโมโต้ จุน คงไม่มาเพียงเพราะมาส่งคนที่รักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คงอยากมาประกาศศักดาด้วยซินะกะเวลาได้เหมาะเจาะทีเดียว....ฉลาดจังนะยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว......
“ไปไหนวะ”
“ก็ไปดูหน้าคู่แข่งแกไงคิระ”
“หึ..ก็ดีเหมือนกันรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
“ฉันว่าแกอย่าเล่นกับไฟดีกว่าคิระ”
“พอดีฉันชอบที่จะเล่นกับไฟอยู่แล้ว แต่ก็ต้องขอบใจแกยามาดะที่เป็นห่วง”
“อายะไม่ใช่ของเล่นของใคร”
“อย่าซีเรียสน๊าไอชิพวกฉันแค่เปรียบเทียบ”
“.............”
ไอชิไม่พูดโต้ตอบคิระอย่างเคยเป็นอันรู้กันว่ามันเคืองเขา มันจะเคืองเขาเรื่องที่เขาเปรียบเทียบอายะว่าเป็นของเล่นธาตุไฟอะนะ มันจะไม่ไร้สาระไปหน่อยรึไงหรือว่ามันก็แอบชอบไฟเช่นเดียวกับเขานะ.....แต่มันจะเป็นไปได้ไงหละในเมื่อมันก็มีนาระอยู่แล้ว คงคิดมากไปเอง....พอสรุปได้แล้วคิระก็ก้าวเท้าเดินตามไอชิและยามาดะที่เดินออกไปก่อนเขาแล้ว....
“ส่งอายะกับพี่นาระแค่นี้นะจุน แล้วจุนก็ไปเรียนเลยนะ”
“ทำไมต้องรีบไล่ขนาดนั้นด้วยอายะ”
จุนตอบอายะเสียงอ่อน ....เมื่อเขาก้าวเท้าแตะพื้นอายะก็ออกปากไล่เขาทันที จะเป็นห่วงอะไรนักหนาทำยังกับว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้งั้นแหละ
“วันนี้จุนก็มีเรียนเหมือนกันไม่ใช่รึไง”
หาข้ออ้างให้มันเนียนกว่านี้ไม่ได้รึไงอายะ..... รู้ก็รู้ว่าฉันไม่เคยเข้าเรียนเลยสักครั้งแต่ก็สอบผ่านเพราะสิ่งที่อาจารย์สอนก็เป็นสิ่งที่เขาทำทุกวันและทำมาตั้งแต่รู้ว่าตัวเองต้องสืบทอดตำแหน่งต่อจากพ่อ
“ให้ฉันไปส่งที่ห้องนะอายะ”
“ไม่ได้”
“ไปเถอะ...นาระช่วยพาไปที่ห้องเรียนเธอทีนะ”
“อืม”
จุนจับมืออายะเดินตามหลังนาระโดยที่ไม่ฟังคำบ่นจากปากอายะที่ออกมายาวพรืดเมื่อเขาขัดคำสั่งเธอ....
“ถึงแล้วก็กลับไปได้แล้วจุน”
“ไหนโต๊ะอายะอะ”
“ถามไปทำไม”
“นาระบอกหน่อยได้ไหมว่าโต๊ะอายะอยู่ตรงไหน”
เมื่อรู้แน่ว่าคงไม่ได้รับคำตอบจากอายะ จุนก็หันไปหาคนที่น่าจะให้คำตอบเขาได้..
“อย่าบอกนะพี่”
แต่ก็โดนอายะดักคอจนได้....จนนาระมองหน้าจุนสลับกับอายะไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อใครดี..
“เออ...พี่ว่าพี่เข้าห้องก่อนดีกว่านะตกลงกันได้แล้วค่อยเข้าไปแล้วกันนะอายะ”
เมื่อตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าข้างฝ่ายไหนนาระก็เลือกวิธีหนีปัญหาเอาซะดื้อๆ
“พี่เธอเขาชอบหนีเหมือนเธอเลยว่าไหม”
“จุน..จะด่าก็ด่าตรง ๆ ทำไมต้องหลอกด่ากันแบบนี้ด้วยนะ”
“โถ..อายะแค่ล้อเล่นน๊า”
เมื่อเห็นว่าอายะเริ่มที่จะหงุดหงิดจุนก็ออกบทง้อทันที........
“ให้มันจริงเถอะจุน”
“อืม”
จุนตอบรับอย่างหนักแน่น....
ขืนไม่เออออไปด้วยมีหวังอายะต้องโกรธเขาจริง ๆ แน่ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น....
“งั้น..จุนกลับเลยนะส่งแค่นี้ก็พอแล้วหละ”
“ทำไมอายะต้องรีบไล่ด้วยมีอะไรรึเปล่า”
“ปะ...เปล่า........จุนก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกหกจุน”
ฉันไม่มีเรื่องโกหกแต่ฉันมีเรื่องปิดบัง.....ขืนจุนอยู่นานกว่านี้มีหวังรู้ความจริงแน่
“งั้นก็เข้าห้องเรียนกัน”
“อืม....แต่ฉันว่าให้บอริการ์ดรอข้างนอกดีกว่านะ”
แค่นี้คนของไนพาราก็หมั่นไส้ฉันจะแย่อยู่แล้ว
ขืนเข้าไปมีหวัง......แค่คิดก็เสียวแล้ว.....
“ไม่ได้ครับคุณหนู”
บอริการ์ดนายหนึ่งพูดแทรกขึ้น....
“ไม่ต้องห่วงนะถ้าใครจะทำอะไรจุนมันต้องข้ามศพฉันไปก่อน”
ฉันรู้ว่าจุนเป็นเหมือนเจ้าชีวิตของพวกเขาที่พวกเขาจะต้องปกป้องดูแล แต่จุนก็เป็นเหมือนเจ้าชีวิตของฉันเหมือนกันฉันคงจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดจุนไป
“แต่ว่า...”
“ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องตามเข้าไป”
เมื่อคำประกาศิตจากเจ้าชีวิตสั่งให้รออยู่ตรงนี้เหล่าบอริการ์ดก็ไม่สามารถที่จะขัดคำสั่งได้
อายะและจุนเดินเข้าไปในห้องเรียนที่มีนักศึกษานั่งอยู่เกือบเต็มแล้วเพราะใกล้เวลาที่อาจารย์จะเข้ามาสอน จุนกลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องทันทีที่ก้าวเข้าไป ฉันรู้ว่าการเป็นจุดสนใจทำให้จุนหงุดหงิดแต่จะทำไงได้ก็เขาเป็นถึงทายาทของตระกูลมัติซึโมโต้ที่เป็นศัตรูสำคัญของไนพารา จุนโอบไหล่ฉันเหมือนจะแสดงความเป็นเจ้าของแต่ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเพราะจุนจะทำแบบนี้ทุกครั้งเมื่อต้องเก็บความรู้สึกหงุดหงิด
“ไม่เป็นไรนะจุน”
ฉันหันไปถามจุนเมื่อรู้สึกว่าเขาเริ่มโอบไหล่ฉันแน่นขึ้น
“อืม....อายะอยู่ที่แบบนี้ได้ไงนะ อึดอัดชะมัด”
จุนหันมาตอบฉันด้วยรอยยิ้ม
“ฉันชินแล้ว”
“งั้นถ้าฉันมาบ่อย ๆ ก็คงจะชินเหมือนกัน”
“ก็คงงั้นแต่จุนคงไม่ได้มาอีกแล้วหละ”
“เอางี้เลยหรออายะ”
“แน่นอนที่สุด”
ถ้าจุนมาที่นี้บ่อย ๆ คงเป็นเธอที่จะรู้สึกอึดอัดแทน....
“ฉันว่านายลำบากแล้วหละคิระ”
ยามาดะเอ่ยขึ้นพลางมองจุนและอายะที่กำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะ
“รักแท้อาจจะแพ้ใกล้ชิดก็ได้ยามาดะ”
“แต่คราวนี้เป็นถึงผู้หญิงของเจ้าพ่อเชียวนะ”
“ครั้งนี้ฉันเอาจริง”
คิระตอบอย่างมุ่งมั่น
“หือ”
ทั้งยามาดะและไอชิหันมามองคิระด้วยสายตาแปลกใจ
“พวกแกเคยรักแรกพบไหม”
คิระหันมาถามเพื่อนทั้งสอง
“ฉันว่าแกตัดใจตอนนี้ยังทัน”
ไอชิเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่จุนและอายะที่นั่งลงที่โต๊ะข้างนาระ
“คงยากวะ....ฉันจะสู้จนกว่าจะไม่มีทางให้ฉันสู้”
“นายเอาจริง”
ยามาดะถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้งเพราะปกติคิระมันไม่เคยจริงจังอะไรกับผู้หญิง...
“อืม”
“ไอชิกับสมุนก็เรียนห้องนี้ด้วย”
“พูดให้ดี ๆ หน่อยจุนที่นี่ไม่ใช่ที่เราจะพูดแบบนั้นได้นะ”
“ฉันอยากพูดที่ไหนฉันก็จะพูด”
“เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยแบบนี้สักทีนะ”
“อายะก็ต้องคอยสอนแบบนี้ไปตลอดซิฉันจะได้เลิก”
“หือ....”
ทำไมฟังดูแล้วมันเหมือนพูดขอแต่งงานเลยนะ......
“ทำไมต้องหน้าแบบนั้นด้วยอายะ”
“ปะ...เปล่า”
“นี่....พี่เธอเป็นไบ้รึไงถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย”
จุนกระซิบถามฉันพลางมองไปที่พี่นาระ....
“ก็นายนิสัยไม่ดีนี่พี่เขาเลยไม่อยากคุยด้วย”
“จริงอะ”
จุนทำหน้าทะเล้นใส่ฉันเป็นอันรู้กันว่าจุนไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
“อย่าเล่นน๊าจุน....ฉันว่านายน่าจะกลับได้แล้ว”
“อีกนิดได้ไหม”
“ฉันจะเรียนแล้วจุน”
“ทำไมมีฉันอยู่แล้วเธอเรียนไม่รู้เรื่องรึไง”
“ใช่”
“เขินรึไงที่มีฉันอยู่ด้วย”
“เปล่าซักหน่อย”
“โอเค...งั้นฉันกลับหละนะแล้วฉันจะโทรหานะ”
“อืม...เดี๋ยวฉันไปส่งนะจุน”
ขืนปล่อยให้เดินไปคนเดียวจุนอาจจะเผลอปล่อยมัดใส่ใครซักคนแน่......จุนยิ่งมีความอดทนต่ำอยู่ด้วย
“ไม่ต้องหรอกเดินไปเดินมาเดี๋ยวอายะเหนื่อย”
“แน่ใจนะจุน”
“อืม..ไปหละ”
ในขณะที่จุนกำลังเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกันที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้อง
“มุชิเอระ อายะ มาหาครูที่หน้าห้องด้วย
นั่นอาจารย์เรียกชื่ออายะใช่ไหมแต่นามสกุลไม่ใช่เและนั่นทำให้เขาที่กำลังเดินออกจากห้องหันมามองอายะที่กำลังเดินไปหาอาจารย์ที่หน้าห้อง
“มีอะไรค่ะอาจารย์”
อายะถามอาจารย์อย่างสงสัยเมื่อโดนเรียกให้ไปหาหน้าห้อง
“นี่..หนังสือเรียกตัวเธอของบริษัทไนพาราให้เธอเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานโปรแกรมเมอร์ของไนพารา”
“หนูคงรีบไว้ไม่ได้หรอกค่ะอาจารย์และหนูก็ไม่คิดที่จะไปทำงานที่นั้นด้วย”
ทางไนพาราไม่สืบประวัติก่อนรับเป็นพนักงานรึไงนะ ถึงได้ยื่นขอเสนอที่ไร้สาระแบบนี้กับฉัน หรือว่าแค่เป็นการท้าทายในความเป็นมัติซึโมโต้ของฉันว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนไม่ว่าไนพาราคิดที่จะทำอะไร ผลสุดท้ายพวกเขาก็ต้องผิดหวัง......
“แต่นี่มันเป็นโอกาสที่ดีที่เธอน่าจะรับไว้นะ”
“หนูรับไว้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ขอโทษนะค่ะที่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง”
เมื่ออายะหันกลับที่จะนั่งที่เดิมก็เจอกับจุนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่ใช่แค่อาจารย์หรอกอายะที่ผิดหวังในตัวเธอ ฉันก็ผิดหวังในตัวเธอเหมือนกัน”
“จุน..”
นี่เขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่....
เขารู้แล้วใช่ไหมในเรื่องที่ฉันปิดบังเขา
“ฉันผิดหวังในตัวเธอจริง ๆ อายะ”
จุนเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของคนในห้องที่มองเขาด้วยความสงสัยว่าเขาผิดหวังอะไรในตัวอายะ....
“จุนฟังฉันก่อนสิ”
อายะรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อที่จะตามจุนให้ทัน..
เมื่ออายะวิ่งออกไปนาระ ไอชิ คิระ และยามาดะ ก็วิ่งออกไปด้วยสร้างความสงสัยให้กับคนในห้องว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“จุน...ฟังฉันก่อนซิ”
อายะตะโกนเรียกจุนแต่เขาก็ไม่หันมาเลย อายะจึงวิ่งไปดักข้างหน้านั่นจึงทำให้เขาหยุดฝีเท้าและมองหน้าอายะด้วยสายตาเย็นชาไม่เหมือนกับจุนคนเดิมที่จะมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน.......
“มีอะไรจะแก้ตัว มุชิเอระ อายะ”
ถ้อยคำเสียดสีที่อายะคิดว่าคงจะไม่ได้ยินจากปากของจุน
“ฟังฉันนะจุน ที่ฉันต้องเปลี่ยนนามสกุลเพราะพ่อฉันเป็นห่วงว่าฉันจะได้รับอันตรายถ้าใช้นามสกุล มัติซึโมโต้”
เชื่อฉันเถอะจุน ถ้าไม่จำเป็นฉันไม่มีทางเปลี่ยนนามสกุลเด็ดขาด.....
“เธอก็เลยกลัวตายยอมเปลี่ยนนามสกุล”
“ใช่ฉันกลัวตายจุน ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ได้เห็นหน้านายอีก นายเข้าใจไหม”
ฉันตะโกนออกไปพร้อมน้ำตาที่ดันมาไหลตอนนี้ ทั้งที่ฉันพยายามที่จะกั้นมันแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล
“ก็รู้ว่าที่นี่อันตรายเธอก็กลับซิอายะ จะทนอยู่ที่นี่ทำไม”
“ฉันยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้จุน ขอเวลาฉันอีกนิดได้ไหม”
ฉันพยายามพูดอ้อนวอนจุน.....จุนจะให้ฉันกลับไปตอนนี้ได้ยังไง ถ้าฉันกลับไปฉันต้องบ้าแน่ ๆ
“ฉันให้เวลาเธอมามากแล้วอายะ เธอต้องเลือกอายะว่าจะกลับไปอยู่กับฉันหรืออยู่ที่นี่และถ้าเธอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ฉันก็จะไม่มายุ่งกับเธออีก”
จุนให้ขอเสนอแก่อายะ เขาจะไม่มีวันให้อายะอยู่ที่นี่นานกว่านี้อีกแล้ว
เขากลัว....กลัวที่จะต้องเสียอายะให้กับไนพารา
นับวันอายะก็ยิ่งมีความสัมพันธ์กับไนพารามากขึ้นและถ้าอายะตัดสินใจที่จะอยู่ไนพาราโดยที่ไม่ฟังเขาแล้วเขาจะอยู่อย่างไรโดยที่ไม่มีอายะ.......ดังนั้นตอนนี้ที่เขาพอจะมีอิทธิพลต่ออายะอยู่เขาจะต้องทำให้อายะกลับมัติซึโมโต้ให้เร็วที่สุด
“จุน...”
เสียงอายะสั่นพร่าเมื่อได้ยินข้อเสนอของจุนที่ไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหนมันก็เป็นทางที่ทำให้เธอเจ็บปวดทั้งนั้น
จุนเสหน้าไปมองด้านข้างเพื่อไม่ให้เห็นหน้าอายะ น้ำตาของอายะจะทำให้เขาใจอ่อนและยอมในสิ่งที่เธอขอทุกครั้งแต่คราวนี้เขาต้องอดทนเพื่อที่จะไม่ให้ต้องเสียอายะไป เขารู้ว่าอายะเจ็บปวดกับข้อเสนอของเขาแต่จะให้เขาทำยังไงในเมื่อนั้นเป็นทางออกเดียวที่เขาจะได้อายะกลับคืนมา
“พรุ่งนี้ฉันจะต้องเห็นเธอที่บ้านอายะ ถ้าเธอไม่อยู่ที่บ้านทุกอย่างก็จบฉันจะคืนชีวิตให้เธอ”
จุนพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับบอริการ์ดทำให้นาระ ไอชิ คิระ และยามาดะเข้ามาหาอายะได้ทั้งที่นาระอยากจะเข้ามาอธิบายเรื่องเปลี่ยนนามสกุลให้จุนฟังแต่บอริการ์ดก็กันไม่ให้ใครเข้าไป ทำให้นาระไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่ามหาวิทยาลัยไนพาราไม่ยินยอมให้คนของมัติซึโมโต้เข้ามาเรียนที่นี่นั้นเป็นอีกเหตุผลที่อายะต้องเปลี่ยนนามสกุล...
“ไม่เป็นไรนะอายะ”
นาระถลาไปกอดอายะที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น
“พี่..ฉันจะทำไงดี ฉันรักเขาแต่ฉันยังกลับไปที่นั้นไม่ได้”
อายะเอ่ยพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างหยุดไม่ได้ หยดน้ำตาทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นแค้นที่มันทำให้อายะต้องร้องไห้มากมายขนาดนี้
จุน..ทำไมนายถึงใจร้ายกับฉันขนาดนี้นะ นายก็น่าจะรู้ว่าฉันขาดนายไม่ได้แล้วทำไมนายยังจะมาเสนอเงื่อนไขที่ปฏิเสธไม่ได้แบบนั้นนายจะไม่ให้เวลาฉันพักฟื้นเลยรึไง นายใจร้ายจุนนายใจที่สุดเลย......
“ใจเย็นๆนะอายะ หยุดร้องไห้นะแล้วค่อยคิดว่าจะเลือกอะไร”
ทำไมจุนต้องใจร้ายกับอายะขนาดนี้ด้วยนะเขาไม่รู้รึไงว่าอายะเจ็บปวดมากแค่ไหน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมอายะถึงมาขอมาอยู่กับพ่อทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นหน้าอายะเลยหลังจากที่แม่และอายะจากไปในวันนั้น มันต้องเป็นเรื่องที่ทำให้อายะจนมุมแล้วจริง ๆ ถึงขนาดที่ละทิ้งศักดิ์ศรีมาขอความช่วยเหลือจากพ่อ แล้วนี่จุนยังจะให้อายะกลับไปทั้งที่อายะยังไม่พร้อมแบบนี้โดยเอาความรักของ อายะมาเป็นข้อต่อรองเขาใจร้ายมากไปแล้วนะ.......
“ไอ้หมอนั่นมันเผด็จการชัดๆ”
คิระพูดขึ้นอย่างเหลืออด เขาแทบจะพุ่งไปต่อยหน้ามันที่ทำให้อายะต้องร้องไห้ถ้าไม่เป็นเพราะบอริการ์ดเป็นสิบของมันที่กันไม่ให้เขาต้องเข้าไปป่านนี้เขาคงได้ต่อยปากไอ้บ้านั่นไปแล้ว
“ไอชิแกจะไปไหน”
ยามาดะถามขึ้นเมื่อเห็นไอชิเดินไปตรงทางที่จุนเพิ่งจากไปเมื่อกี้...
“ไปเก็บบัญชี”
เขาทนไม่ไหวแล้ว อายะทำไมต้องร้องไห้คนอย่างมันด้วย...
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะปกป้องอายะไม่ให้ร้องไห้แต่เขาก็ไม่เคยทำได้สักครั้ง เจ็บใจชะมัด
“ไม่ต้อง...”
อายะยื่นมือไปจับมือไอชิเพื่อห้ามที่จะให้เขาไปเผชิญหน้ากับจุนซึ่งเธอรู้ทั้งรู้ว่ามันจะทำให้ไอชิเจ็บตัวฟรี นายไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ นายเป็นคนของไนพาราฉันไม่ต้องการให้นายช่วยยิ่งนายเข้ามายุ่งเรื่องมันไปยิ่งบานปลายมากขึ้น
“................”ไม่มีเสียงใดออกจากปากไอชิมีเพียงรอยยิ้มบางที่ส่งให้อายะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นรอยยิ้มของไอชิ ไอชิแกะมืออายะออกและเดินต่อพร้อมกับยามาดะและคิระที่รออยู่แล้ว........
“มันไม่ใช่เรื่องของนายไอชิ มันเป็นเรื่องของฉันดังนั้นนายไม่ต้องยุ่ง”
อายะตะโกนออกไปและนั่นทำให้ไอชิหยุดได้
“แต่ฉันอยากที่จะยุ่ง ใครจะทำไม”
ไอชิเดินต่อไปโดยที่ไม่ฟังเสียงตะโกนเรียกของทั้งอายะและนาระที่จะพยายามหยุดเขาไม่ให้ไปเผชิญหน้ากับจุน
“มัติซึโมโต้ จุน” ไ อชิตะโกนเรียกเต็มยศและก็ได้ผลจุนหันมาตามเสียงเรียกของเขา
“มีธุระอะไร” จุนตอบไปอย่างไม่สบอารมณ์
กลับมาอีกครั้งพร้อมแรงฮึดใหม่
เม้นให้กำลังใจด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น