ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอันตรายคุณชายเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #10 : เปิดตัว

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 52


                                       




    ตอนที่   7  เปิดตัว

               

    หลังจากที่แยกจากอายะจุนก็ไม่ยอมกลับบ้าน     กลับเดินตามอายะไปเงียบ ๆ  ผมอดเป็นห่วงอายะไม่ได้ก็นี่มันดึกมากแล้วนี่น๊า      จะให้อายะเดินกลับคนเดียวได้ไงแล้วนี่บ้านอายะจะห่างจากสถานีมากไหมนะ     สุดท้าย.....จุนก็อดเป็นห่วงอายะไม่ได้เขาขึ้นรถไฟตามอายะจนถึงบ้าน    เมื่อเห็นอายะเดินเข้าบ้านเขาก็โทรเรียกลูกน้องให้มารับที่หน้าบ้านของอายะ

     

      คฤหาสน์มัติซึโมโต้

     

    “แกน่าจะพาอายะกลับมาด้วย”

     

    “ถ้าผมพาเธอมาได้ผมก็พามาแล้วหละครับพ่อ”

     

    จุนตอบพ่ออย่างอารมณ์ดี   คงจะต้องยอมรับว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เกิดในญี่ปุ่นแล้วพ่อของเขาจะไม่รู้    วันนี้เขามีความสุขมากเขาไม่อยากที่จะทะเลาะกับพ่อให้เสียบรรยากาศ

     

    “ยังไงอายะจะต้องกลับมา  พ่อมั่นใจ”

     

     

    โทมุระเอ่ยขึ้นขณะที่จุนกำลังจะก้าวขึ้นบันได    พ่อไม่เคยพูดอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้สิ่งที่พ่อพูดไม่เคยไม่เป็นจริงสักครั้ง

     

    “ขอบคุณครับพ่อ    แต่ถ้าจะให้ดีให้อายะกลับพรุ่งนี้เลยไม่ได้หรอพ่อ”

     

    จุนหันมาตอบพ่อด้วยรอยยิ้ม

     

    “อย่าโลภมาก   เพราะมันจะทำให้แกสูญเสียสิ่งที่มีอยู่แล้วจุน”

     

    ทำไมต้องพูดเป็นลางแบบนี้ด้วยนะ.........

     

     

    แต่ยังไงผมมั่นใจว่าจะไม่มีทางสูญเสียอายะไปเด็ดขาด

     

    “กลับมาแล้วหรอค่ะ”

     

    นาระทักจุนเมื่อเห็นเขากำลังที่จะเปิดประตูเข้าห้อง....

     

    “อืม...เออ..นาระ”

     

    “ค่ะ”

     

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปส่งที่มหาวิทยาลัยนะ”

     

    “ว่า....ว่าไงนะค่ะ”   นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม...

     

    “ฉันจะไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย”

     

    ทำไมต้องทำหน้าตกใจมากขนาดนั้นด้วยนะ...

     

    “หา !!!

     

    นาระอุทานอย่างตกใจเมื่อได้ยินชัดว่าจุนจะไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้

     

    จุนจะไปส่งฉันที่มหาลัยพรุ่งนี้    เป็นไปได้ไงนะ.....

     

    “เธอจะตะโกนทำไมยัยบ๊อง”

     

    “ก็ฉันตกใจนี่น๊า     คุณจะไปมหาวิทยาลัยไนพาราจริง ๆ นะหรอฉันว่ามันอันตรายเกินไปนะค่ะ”

     

    “นั่นมันเรื่องของฉันเธอไม่ต้องยุ่ง”

     

    จะเป็นห่วงอะไรนักหนา..

     

    “ค่ะ”

     

    รุ่งเช้า

     

    “วันนี้แกจะไปไหนแต่เช้า”

     

    ปกติมันไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้นี่น๊า....แม้แต่ตอนไปเรียนมันก็ไปซะเกือบเที่ยงแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นถึงได้ตื่นแต่เช้าแบบนี้

     

    “ไปส่งนาระ”

     

    นั่นไง.......ก็กะไว้แล้วว่าไอ้เจ้าลูกชายมันมีแผน.....

     

    “ระวังตัวด้วยหละ”

     

    กล้าเหลือเกินนะที่จะไปเหยียบถิ่นศัตรูแบบนั้น     เขาไม่มีทางปล่อยให้มันได้ไปแบบนี้แน่  ส่งคนไปแหย่ฝั่งนั่นให้ตกใจเล่นแก้เครียดดีกว่า   ยังไงจุนมันก็ต้องไปส่งอายะอยู่แล้วไปทำงานข่มขวัญฝั่งนั้นให้มัติซึโมโต้    กรุ๊ปหน่อยคงไม่เสียหายเท่าไหร่.....

     

     

     

    “พ่อ..นี่มันอะไรกัน”

     

    จุนอุทานอย่างแปลกใจเมื่อเห็นขบวนรถที่จะต้องตามเขาไปที่มหาวิทยาลัยไนพารา

     

    “กันไว้ดีกว่าแก้”

     

    “มันไม่มากเกินไปหรอพ่อ”

     

    “ฉันมีลูกชายคนเดียวถ้าไม่มีแกแล้วใครจะมาบริหารบริษัท”

     

    “แต่..คุณลุงค่ะหนูว่ามัน”

     

    “ไม่ต้องพูดแล้วหนูนาระ    รีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวไม่ทัน”   โทมุระรีบตัดบทสนทนาทันทีเพื่อให้ทันเวลาตามแผนที่เขากำหนดเอาไว้    เวลาเช้าที่มีคนมาทำงานมากที่สุด......

     

    “ค่ะ”

     

    ทำไมจะไม่ทันนะนี่เหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าอาจารย์จะเข้า....ทำไมคุณลุงต้องรีบให้เราไปมหาวิทยาลัยด้วยนะ

     

    “ไปบ้านที่แกไปรับฉันเมื่อวันเสาร์”

     

    “ครับนาย”

     

    “คุณมีธุระหรอค่ะ    จอดตรงนี้ให้ฉันไปรถไฟก็ได้นะค่ะ”

     

    เมื่อเขามีธุระที่จะต้องทำ....แล้วทำไมต้องให้ฉันมาด้วยนะ

     

    “ไม่ต้องหรอก     ธุระของฉันทางเดียวกันกับมหาวิทยาลัยเธอ”

     

    “อ่อ..ค่ะ”

     

    เอ๊ะ.......นี่มันทางไปบ้านคุณพ่อนี่น๊า   คงไม่มีอะไรมั้งจุนอาจจะมีธุระกับคนแถวนี้

     

    แต่..คนที่นี้ก็เป็นคนของไนพาราทั้งนั้นนี่น๊า       แล้วจุนนะหรอมีธุระกับคนของไนพารา

     

    “คุณมาทำอะไรแถวนี้ค่ะจุน”

     

    นาระอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงถามเขาไป

     

    “มารับของรัก”

     

    จุนตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก    เพราะตอนนี้เขากำลังจินตนาการว่าอายะจะทำหน้ายังไงนะเมื่อเห็นเขาไปรับถึงหน้าบ้านจะดีใจจนหน้าแดงหรือว่าจะโกรธจนควันออกหูนะ

     

    “นี่มัน...”

     

    “ใช่...บ้านพ่อของเธอ”

     

    จุนลงจากรถโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาเจ็บปวดของนาระที่ส่งไปให้เขา    

     

    เมื่อจุนออกจากรถเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อายะเดินออกมาจากบ้านเพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก    อายะมองขบวนรถที่มาจอดตรงหน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าคงไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ 

     

    “อายะ”

     

    อายะหันไปตามเสียงเรียกที่เธอคุ้นเคยแต่เธอไม่คิดว่าจะมาได้ยินในช่วงเวลานี้

     

    “จุน....มาทำอะไรน่ะ”

     

    อายะพูดตอบโต้ไปเมื่อเห็นเจ้าของเสียงเรียกที่ยืนเด่นอยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยบอริการ์ดนับสิบ

     

    “มารับอายะไปเรียน”

     

    “หา !!!

     

    “ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”

     

    “จะไม่ตกใจได้ไงจุน    นายเอารถห้าคันกับบอริการ์ดนับสิบมารับฉันเนี่ยนะ”

     

    คิดจะเล่นอะไรอีกหละเนี่ยะ.... จุนนะจุนชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อยเลยซิน๊า

     

    “ก็ปกตินี่อายะที่มัติซึโมโต้เราก็ไปไหนมาไหนกันแบบนี้อยู่แล้ว”

     

    “แต่นี่มันเขตไนพารานะจุน   ไม่ใช่มัติซึโมโต้”

     

    คิดได้ไงนะจุน....มาเป็นขบวนแบบนี้เดี๋ยวทางไนพาราก็คิดว่าจะแห่มาถล่มเขาหรอก.....

     

    “แล้วไง”

     

    น่าน.....นิสัยไม่แคร์ใครนี่มันแก้ไม่หายเลยจริง ๆ นะ.....

     

    “แล้วไง...ก็มันอันตรายไงนายไม่ควรมาที่นี่”

     

    “อายะอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่น”

     

    นอกจากนิสัยไม่แคร์ใครที่ยังแก้ไม่หายแล้วก็ยังมีนิสัยดื้อที่แก้ยากกว่าอันแรกมาสมทบอีก      เฮ้อ......อะไรดลใจให้ฉันรักผู้ชายคนนี้นะ.....

     

    “แต่....”

     

    “ไม่มีแต่อายะ..ไม่ต้องเป็นห่วงนะอายะคราวหลังฉันจะแอบมาเองคนเดียวเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจดีไหม”

     

    “ไม่ได้”

     

    นายจะบ้าหรือไงจุน    มาคนเดียวก็เหมือนเป้านิ่งให้เขาลอบทำร้ายนายน่ะสิ

     

    “โน้นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้     เธอจะเอายังไงอายะฉันก็แค่อยากมารับมาส่งเธอไปมหาวิทยาลัย    ฉันไม่อยากให้เธอนั่งรถไฟไปเรียนนี่”

     

    “มันไม่มีอะไรหรอกจุนจะห่วงไปทำไม   ใคร ๆ เขาก็ขึ้นรถไฟกันไม่เห็นมีอะไรเลย”

     

    “ก็ใคร ๆ เขาไม่ใช่คนที่ฉันรักเหมือนอายะนี่”

     

    อึ้งค่ะอึ้ง....จุนบ้ามาบอกรักท่ามกลางบอริการ์ดนับสิบอย่างนี้ได้ไง...

     

    ตัวเองไม่อายไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะอายบางรึไงนะ

     

    ตอนนี้คนถูกบอกรักโดยไม่ได้ตั้งตัวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว    ส่วนคนที่บอกรักก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่แกล้งคนอย่างอายะให้หน้าแดงได้

     

    “ไปเถอะอายะเดี๋ยวสายนะ”

     

    ไม่เห็นว่าอายะอึ้งจนไม่ยอมพูดอะไรสักที    เขาก็เป็นคนพูดขึ้นก่อนพลางจับมืออายะให้ไปที่รถที่จอดรอมานานแล้ว

     

    “เดี๋ยวจุน”

     

    “หือ”

    “ครั้งนี้ครั้งแรกและจะเป็นครั้งสุดท้ายเข้าใจนะจุน”

     

    “ฉันจำเป็นต้องฟังเธอรึไง”

     

    “ก็จุนเป็นของฉันจุนก็ต้องฟังฉัน”

     

    “ฉันเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่”

     

    “ก็ตั้งแต่จุนใส่สร้อยนั่นไง”

     

    จุนก้มลงมองสร้อยที่คอของตังเองและคอของอายะที่มีเหมือนกันแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ......

     

    “ได้..ฉันจะไม่มาที่นี่อีกถ้าเธอไม่อยากให้ฉันมา”

     

    “และไม่ต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วย   ฉันไปเองได้”

     

    “อืม...”

     

    จุนตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉัน    ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์สุด ๆ

     

    “และถ้าจุนผิดสัญญาอายะจะไม่คุยกับจุนอีก”

     

    “เฮ้ย!!! ได้ไง”

     

    จุนอุทานขึ้นอย่างตกใจ   อายะอย่างนี้ทุกทีพอรู้ว่าเขาจะขัดคำสั่งต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ทุกทีและมันก็ได้ผลทุกครั้งก็ใครจะทนคนรักหมางเมินได้หละ

     

    “ได้ไม่ได้.....จุนจะลองดูก็ได้นะ”

     

    อายะตอบอย่างยียวนเพราะรู้ทั้งรู้ว่าจุนไม่มีทางที่จะลองแน่..

     

    “โอเค..อายะ”

     

    จุนเปิดประตูรถให้อายะและทำให้เธอรู้ว่าจุนไม่ได้มาคนเดียวข้างในรถยังมีพี่นาระที่นั่งรออยู่ข้างใน         

     

    จุนบ้า....ทำไมถึงไม่บอกนะว่าพี่นาระมาด้วยปล่อยให้พี่รอตั้งนาน..

     

    “หวัดดีอายะ”

     

    “ขอโทษนะที่ต้องให้พี่รอ   ก็เพราะจุนนั่นแหละ”

     

    “อ้าว...”   คนถูกโยนความผิดทำหน้างง

     

    อายะนะอายะ....ตัวเองเป็นคนผิดเห็น ๆ ยังจะมาโยนความผิดให้คนอื่นอีก    ถ้ายอมขึ้นรถดี ๆ คงไม่ต้องปล่อยให้ใครรอหรอก    เฮ้อ....จุนถอนหายใจอย่างปลง ๆ  สุดท้ายก็ส่งยิ้มให้อายะอย่างเคย

     

     “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ    ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนพี่รอได้”

     

    เป็นอย่างนี้เองสินะ....มิน่าหละคุณลุงถึงให้รีบมานัก

     

    ในที่สุดฉัน   พี่นาระ   จุนก็มาถึงมหาวิทยาลัยจนได้และแน่นอนตลอดทางขบวนรถของเราเป็นจุดสนใจถ้าเป็นที่เขตมัติซึโมโต้คงจะไม่แปลกเท่าไหร่แต่นี่มันเป็นเขตของไนพารา    จะไม่ให้เขาสนใจได้ไงก็มีรถของตระกูลมัติซึโมโต้เป็นขบวนมาแล่นในเขตไนพาราแบบนี้....   

     

    “มองอะไรนักหนา”

     

    จุนบ่นทันทีเมื่อหันไปเห็นนักศึกษาของไนพารามองมาที่เขา

     

    “เป็นฉันฉันก็มอง”

     

    “อายะต้องมองฉันอยู่แล้วจะไปมองคนอื่นได้ไง”

     

    “มันคนละความหมายอย่างมาแกล้งโง่จุน”

     

    “เปล่าสักหน่อย”

     

                บทสนทนาของคนทั้งสองถ้าใครไม่รู้จักพวกเขาว่าเป็นคนหนึ่งเป็นทายาทของตระกูลมัติซึโมโต้ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นลูกครึ่งระหว่างสองตระกูลใหญ่คงคิดว่าเป็นบทสนทนาของคู่รักธรรมดา   ไม่น่าเชื่อว่ามัติซึโมโต้    จุนจะมีบุคลิกแบบนี้กับเขาด้วย   ตั้งแต่ไปอยู่ที่มัติซึโมโต้ฉันพึ่งเคยเห็นจุนเป็นแบบนี้หรือว่าเขาจะเป็นอย่างนี้เฉพาะที่อยู่ต่อหน้าอายะนะ.....

     

    “ฉันเห็นแล้ว”

     

    ไอชิตอบลูกน้องผ่านโทรศัพท์ที่โทรมารายงานเขาว่ามีขบวนของรถมัติซึโมโต้เข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย....

     

    “มัติซึโมโต้จะมาถล่มเรารึไงนะไอชิทำไมยกโขยงมาอย่างนั้น”

     

    “คงมาส่งนาระตามปกติมั้ง”

     

    คิระมองหน้าไอชิอย่างรู้ทัน   ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันก็รู้สึกผิดปกติเหมือนกันแต่ทำเป็นวางฟอร์มไม่สนใจ   แต่ก็ทำได้ไม่เนียนเลยถ้าไม่สนใจจริงทำไมต้องมายืนดูลาดเลาที่ระเบียงแบบนี้ด้วย...

     

    “ฉันว่าไม่”

     

    ยามาดะพูดพลางมองลงไปข้างล่างเป็นจังหวะเดียวกันกับบอริการ์ดเปิดประตูให้อายะและจุน

     

    มัติซึโมโต้   จุน”

     

    ไอชิเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาที่เดาได้ยากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

     

    “หมอนั่นมาทำอะไรที่นี่”

     

    คิระถามยามาดะอย่างสงสัย   กล้ามากนะที่ทำแบบนี้หมอนั่นไม่คิดรึไงว่ามาที่นี่อาจจะโดนลอบทำร้ายได้โดยง่าย

     

    “ฉันว่าข่าวที่ว่ามัติซึโมโต้  จุนกับอายะมีความสัมพันธ์กันมากกว่าพี่น้องท่าจะจริงแล้วหละ”

     

    “นี่แกหมายความว่า   จุนยอมเสี่ยงเพื่อมาส่งอายะอะนะ”

     

    “ก็เห็นๆกันอยู่     เพราะนาระก็ไปอยู่มัติซึโมโต้เป็นเดือนแล้วไม่เคยเห็นจุนมาส่งเลยสักครั้ง   แล้วนี่ก็ไม่เหมือนทุกครั้งที่มีเพียงนาระเท่านั้นแต่ครั้งนี้มีทั้งจุนและอายะ    มิน่าหละถึงได้ยกขบวนกันมาขนาดนี้ทางนั้นคงไม่ไว้ใจว่าทายาทของตระกูลจะปลอดภัยกลับไปถ้าไม่มีบอริการ์ดมาคุ้มกันแบบนั้น”

     

    “คิดว่าไนพาราจะป่าเถื่อนเหมือนมัติซึโมโต้รึไง”

     

    “ไม่ประมาทดีที่สุดไม่ใช่รึไงไอชิ      และฉันคิดว่ามัติซึโมโต้คงไม่อาจตัดใจให้ทายาทคนเดียวเข้ามาในเขตไนพาราด้วยบอริการ์ดเพียงไม่กี่คนหรอก”

     

    “ไปเถอะ”  ไอชิหันมาเรียกเพื่อนและเดินกลับไปที่ห้องเรียนเพราะเขามั่นใจว่าจุนต้องมาส่ง     อายะจนถึงห้องแน่     การมามหาวิทยาลัยไนพาราครั้งนี้ของมัติซึโมโต้   จุน  คงไม่มาเพียงเพราะมาส่งคนที่รักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น    คงอยากมาประกาศศักดาด้วยซินะกะเวลาได้เหมาะเจาะทีเดียว....ฉลาดจังนะยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว......

     

    “ไปไหนวะ”

     

    “ก็ไปดูหน้าคู่แข่งแกไงคิระ”

     

    “หึ..ก็ดีเหมือนกันรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

     

    “ฉันว่าแกอย่าเล่นกับไฟดีกว่าคิระ”

     

    “พอดีฉันชอบที่จะเล่นกับไฟอยู่แล้ว    แต่ก็ต้องขอบใจแกยามาดะที่เป็นห่วง”

     

    “อายะไม่ใช่ของเล่นของใคร”

     

    “อย่าซีเรียสน๊าไอชิพวกฉันแค่เปรียบเทียบ”

     

    “.............”

     

    ไอชิไม่พูดโต้ตอบคิระอย่างเคยเป็นอันรู้กันว่ามันเคืองเขา    มันจะเคืองเขาเรื่องที่เขาเปรียบเทียบอายะว่าเป็นของเล่นธาตุไฟอะนะ    มันจะไม่ไร้สาระไปหน่อยรึไงหรือว่ามันก็แอบชอบไฟเช่นเดียวกับเขานะ.....แต่มันจะเป็นไปได้ไงหละในเมื่อมันก็มีนาระอยู่แล้ว     คงคิดมากไปเอง....พอสรุปได้แล้วคิระก็ก้าวเท้าเดินตามไอชิและยามาดะที่เดินออกไปก่อนเขาแล้ว....

     

    “ส่งอายะกับพี่นาระแค่นี้นะจุน   แล้วจุนก็ไปเรียนเลยนะ”

     

    “ทำไมต้องรีบไล่ขนาดนั้นด้วยอายะ”

     

    จุนตอบอายะเสียงอ่อน  ....เมื่อเขาก้าวเท้าแตะพื้นอายะก็ออกปากไล่เขาทันที     จะเป็นห่วงอะไรนักหนาทำยังกับว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้งั้นแหละ

     

    “วันนี้จุนก็มีเรียนเหมือนกันไม่ใช่รึไง”

     

    หาข้ออ้างให้มันเนียนกว่านี้ไม่ได้รึไงอายะ.....    รู้ก็รู้ว่าฉันไม่เคยเข้าเรียนเลยสักครั้งแต่ก็สอบผ่านเพราะสิ่งที่อาจารย์สอนก็เป็นสิ่งที่เขาทำทุกวันและทำมาตั้งแต่รู้ว่าตัวเองต้องสืบทอดตำแหน่งต่อจากพ่อ

     

    “ให้ฉันไปส่งที่ห้องนะอายะ”

     

    “ไม่ได้”

     

    “ไปเถอะ...นาระช่วยพาไปที่ห้องเรียนเธอทีนะ”

     

    “อืม”

     

    จุนจับมืออายะเดินตามหลังนาระโดยที่ไม่ฟังคำบ่นจากปากอายะที่ออกมายาวพรืดเมื่อเขาขัดคำสั่งเธอ....

     

    “ถึงแล้วก็กลับไปได้แล้วจุน”

     

    “ไหนโต๊ะอายะอะ”

     

    “ถามไปทำไม”

     

    “นาระบอกหน่อยได้ไหมว่าโต๊ะอายะอยู่ตรงไหน”

     

    เมื่อรู้แน่ว่าคงไม่ได้รับคำตอบจากอายะ   จุนก็หันไปหาคนที่น่าจะให้คำตอบเขาได้..

     

    “อย่าบอกนะพี่”

     

    แต่ก็โดนอายะดักคอจนได้....จนนาระมองหน้าจุนสลับกับอายะไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อใครดี..

     

    “เออ...พี่ว่าพี่เข้าห้องก่อนดีกว่านะตกลงกันได้แล้วค่อยเข้าไปแล้วกันนะอายะ”

     

    เมื่อตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าข้างฝ่ายไหนนาระก็เลือกวิธีหนีปัญหาเอาซะดื้อๆ

     

    “พี่เธอเขาชอบหนีเหมือนเธอเลยว่าไหม”

     

    “จุน..จะด่าก็ด่าตรง ๆ ทำไมต้องหลอกด่ากันแบบนี้ด้วยนะ”

     

    “โถ..อายะแค่ล้อเล่นน๊า”

     

    เมื่อเห็นว่าอายะเริ่มที่จะหงุดหงิดจุนก็ออกบทง้อทันที........

     

    “ให้มันจริงเถอะจุน”

     

    “อืม”

     

    จุนตอบรับอย่างหนักแน่น....

     

    ขืนไม่เออออไปด้วยมีหวังอายะต้องโกรธเขาจริง ๆ แน่ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น....

     

    “งั้น..จุนกลับเลยนะส่งแค่นี้ก็พอแล้วหละ”

     

    “ทำไมอายะต้องรีบไล่ด้วยมีอะไรรึเปล่า”

     

    “ปะ...เปล่า........จุนก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกหกจุน”

     

    ฉันไม่มีเรื่องโกหกแต่ฉันมีเรื่องปิดบัง.....ขืนจุนอยู่นานกว่านี้มีหวังรู้ความจริงแน่

     

    “งั้นก็เข้าห้องเรียนกัน”

     

    “อืม....แต่ฉันว่าให้บอริการ์ดรอข้างนอกดีกว่านะ”

     

    แค่นี้คนของไนพาราก็หมั่นไส้ฉันจะแย่อยู่แล้ว 

     

    ขืนเข้าไปมีหวัง......แค่คิดก็เสียวแล้ว.....

     

     “ไม่ได้ครับคุณหนู”

     

    บอริการ์ดนายหนึ่งพูดแทรกขึ้น....

     

    “ไม่ต้องห่วงนะถ้าใครจะทำอะไรจุนมันต้องข้ามศพฉันไปก่อน”

             

               ฉันรู้ว่าจุนเป็นเหมือนเจ้าชีวิตของพวกเขาที่พวกเขาจะต้องปกป้องดูแล     แต่จุนก็เป็นเหมือนเจ้าชีวิตของฉันเหมือนกันฉันคงจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดจุนไป

     

    “แต่ว่า...”

     

    “ฉันดูแลตัวเองได้    ไม่ต้องตามเข้าไป”

     

    เมื่อคำประกาศิตจากเจ้าชีวิตสั่งให้รออยู่ตรงนี้เหล่าบอริการ์ดก็ไม่สามารถที่จะขัดคำสั่งได้

     

                อายะและจุนเดินเข้าไปในห้องเรียนที่มีนักศึกษานั่งอยู่เกือบเต็มแล้วเพราะใกล้เวลาที่อาจารย์จะเข้ามาสอน  จุนกลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องทันทีที่ก้าวเข้าไป   ฉันรู้ว่าการเป็นจุดสนใจทำให้จุนหงุดหงิดแต่จะทำไงได้ก็เขาเป็นถึงทายาทของตระกูลมัติซึโมโต้ที่เป็นศัตรูสำคัญของไนพารา   จุนโอบไหล่ฉันเหมือนจะแสดงความเป็นเจ้าของแต่ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเพราะจุนจะทำแบบนี้ทุกครั้งเมื่อต้องเก็บความรู้สึกหงุดหงิด   

     

    “ไม่เป็นไรนะจุน”

     

    ฉันหันไปถามจุนเมื่อรู้สึกว่าเขาเริ่มโอบไหล่ฉันแน่นขึ้น

     

    “อืม....อายะอยู่ที่แบบนี้ได้ไงนะ   อึดอัดชะมัด”

     

    จุนหันมาตอบฉันด้วยรอยยิ้ม

     

    “ฉันชินแล้ว”

     

    “งั้นถ้าฉันมาบ่อย ๆ ก็คงจะชินเหมือนกัน”

     

    “ก็คงงั้นแต่จุนคงไม่ได้มาอีกแล้วหละ”

     

    “เอางี้เลยหรออายะ”

     

    “แน่นอนที่สุด”

     

    ถ้าจุนมาที่นี้บ่อย ๆ  คงเป็นเธอที่จะรู้สึกอึดอัดแทน....

     

    “ฉันว่านายลำบากแล้วหละคิระ”

     

    ยามาดะเอ่ยขึ้นพลางมองจุนและอายะที่กำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะ

     

    “รักแท้อาจจะแพ้ใกล้ชิดก็ได้ยามาดะ”

     

    “แต่คราวนี้เป็นถึงผู้หญิงของเจ้าพ่อเชียวนะ”

     

    “ครั้งนี้ฉันเอาจริง”

     

    คิระตอบอย่างมุ่งมั่น

     

    “หือ”

     

    ทั้งยามาดะและไอชิหันมามองคิระด้วยสายตาแปลกใจ

     

    “พวกแกเคยรักแรกพบไหม”

     

    คิระหันมาถามเพื่อนทั้งสอง

     

    “ฉันว่าแกตัดใจตอนนี้ยังทัน”

     

    ไอชิเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่จุนและอายะที่นั่งลงที่โต๊ะข้างนาระ

     

    “คงยากวะ....ฉันจะสู้จนกว่าจะไม่มีทางให้ฉันสู้”

     

    “นายเอาจริง”

     

    ยามาดะถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้งเพราะปกติคิระมันไม่เคยจริงจังอะไรกับผู้หญิง...

     

    “อืม”

     

    “ไอชิกับสมุนก็เรียนห้องนี้ด้วย”

     

    “พูดให้ดี ๆ หน่อยจุนที่นี่ไม่ใช่ที่เราจะพูดแบบนั้นได้นะ”

     

    “ฉันอยากพูดที่ไหนฉันก็จะพูด”

     

    “เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยแบบนี้สักทีนะ”

     

    “อายะก็ต้องคอยสอนแบบนี้ไปตลอดซิฉันจะได้เลิก”

     

    “หือ....”

     

    ทำไมฟังดูแล้วมันเหมือนพูดขอแต่งงานเลยนะ......

     

    “ทำไมต้องหน้าแบบนั้นด้วยอายะ”

     

    “ปะ...เปล่า”

     

    “นี่....พี่เธอเป็นไบ้รึไงถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย”

     

    จุนกระซิบถามฉันพลางมองไปที่พี่นาระ....

     

    “ก็นายนิสัยไม่ดีนี่พี่เขาเลยไม่อยากคุยด้วย”

     

    “จริงอะ”

     

    จุนทำหน้าทะเล้นใส่ฉันเป็นอันรู้กันว่าจุนไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด

     

    “อย่าเล่นน๊าจุน....ฉันว่านายน่าจะกลับได้แล้ว”

     

    “อีกนิดได้ไหม”

     

    “ฉันจะเรียนแล้วจุน”

     

    “ทำไมมีฉันอยู่แล้วเธอเรียนไม่รู้เรื่องรึไง”

     

    “ใช่”

    “เขินรึไงที่มีฉันอยู่ด้วย”

     

    “เปล่าซักหน่อย”

     

    “โอเค...งั้นฉันกลับหละนะแล้วฉันจะโทรหานะ”

     

    “อืม...เดี๋ยวฉันไปส่งนะจุน”

     

    ขืนปล่อยให้เดินไปคนเดียวจุนอาจจะเผลอปล่อยมัดใส่ใครซักคนแน่......จุนยิ่งมีความอดทนต่ำอยู่ด้วย

     

    “ไม่ต้องหรอกเดินไปเดินมาเดี๋ยวอายะเหนื่อย”

    “แน่ใจนะจุน”  

     

    “อืม..ไปหละ”

     

    ในขณะที่จุนกำลังเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกันที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้อง

     

    มุชิเอระ   อายะ     มาหาครูที่หน้าห้องด้วย

     

    นั่นอาจารย์เรียกชื่ออายะใช่ไหมแต่นามสกุลไม่ใช่เและนั่นทำให้เขาที่กำลังเดินออกจากห้องหันมามองอายะที่กำลังเดินไปหาอาจารย์ที่หน้าห้อง

     

    “มีอะไรค่ะอาจารย์”

     

    อายะถามอาจารย์อย่างสงสัยเมื่อโดนเรียกให้ไปหาหน้าห้อง

     

    “นี่..หนังสือเรียกตัวเธอของบริษัทไนพาราให้เธอเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานโปรแกรมเมอร์ของไนพารา”

     

    “หนูคงรีบไว้ไม่ได้หรอกค่ะอาจารย์และหนูก็ไม่คิดที่จะไปทำงานที่นั้นด้วย”

     

                ทางไนพาราไม่สืบประวัติก่อนรับเป็นพนักงานรึไงนะ    ถึงได้ยื่นขอเสนอที่ไร้สาระแบบนี้กับฉัน   หรือว่าแค่เป็นการท้าทายในความเป็นมัติซึโมโต้ของฉันว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนไม่ว่าไนพาราคิดที่จะทำอะไร    ผลสุดท้ายพวกเขาก็ต้องผิดหวัง......

     

    “แต่นี่มันเป็นโอกาสที่ดีที่เธอน่าจะรับไว้นะ”

     

    “หนูรับไว้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ  ขอโทษนะค่ะที่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง”

     

    เมื่ออายะหันกลับที่จะนั่งที่เดิมก็เจอกับจุนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

    “ไม่ใช่แค่อาจารย์หรอกอายะที่ผิดหวังในตัวเธอ     ฉันก็ผิดหวังในตัวเธอเหมือนกัน”

     

    “จุน..”

     

    นี่เขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่....

     

    เขารู้แล้วใช่ไหมในเรื่องที่ฉันปิดบังเขา

     

    “ฉันผิดหวังในตัวเธอจริง ๆ อายะ”

     

    จุนเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของคนในห้องที่มองเขาด้วยความสงสัยว่าเขาผิดหวังอะไรในตัวอายะ....

     

    “จุนฟังฉันก่อนสิ”

     

    อายะรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อที่จะตามจุนให้ทัน..

     

    เมื่ออายะวิ่งออกไปนาระ  ไอชิ   คิระ  และยามาดะ  ก็วิ่งออกไปด้วยสร้างความสงสัยให้กับคนในห้องว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

    “จุน...ฟังฉันก่อนซิ”

     

           อายะตะโกนเรียกจุนแต่เขาก็ไม่หันมาเลย   อายะจึงวิ่งไปดักข้างหน้านั่นจึงทำให้เขาหยุดฝีเท้าและมองหน้าอายะด้วยสายตาเย็นชาไม่เหมือนกับจุนคนเดิมที่จะมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน.......

     

    “มีอะไรจะแก้ตัว  มุชิเอระ  อายะ”

     

    ถ้อยคำเสียดสีที่อายะคิดว่าคงจะไม่ได้ยินจากปากของจุน

     

    “ฟังฉันนะจุน      ที่ฉันต้องเปลี่ยนนามสกุลเพราะพ่อฉันเป็นห่วงว่าฉันจะได้รับอันตรายถ้าใช้นามสกุล     มัติซึโมโต้”

     

    เชื่อฉันเถอะจุน     ถ้าไม่จำเป็นฉันไม่มีทางเปลี่ยนนามสกุลเด็ดขาด.....

     

    “เธอก็เลยกลัวตายยอมเปลี่ยนนามสกุล”

     

    “ใช่ฉันกลัวตายจุน    ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ได้เห็นหน้านายอีก   นายเข้าใจไหม”

    ฉันตะโกนออกไปพร้อมน้ำตาที่ดันมาไหลตอนนี้    ทั้งที่ฉันพยายามที่จะกั้นมันแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล

     

    “ก็รู้ว่าที่นี่อันตรายเธอก็กลับซิอายะ    จะทนอยู่ที่นี่ทำไม”

     

    “ฉันยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้จุน   ขอเวลาฉันอีกนิดได้ไหม”

     

    ฉันพยายามพูดอ้อนวอนจุน.....จุนจะให้ฉันกลับไปตอนนี้ได้ยังไง      ถ้าฉันกลับไปฉันต้องบ้าแน่ ๆ    

     

    “ฉันให้เวลาเธอมามากแล้วอายะ      เธอต้องเลือกอายะว่าจะกลับไปอยู่กับฉันหรืออยู่ที่นี่และถ้าเธอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ฉันก็จะไม่มายุ่งกับเธออีก”

     

    จุนให้ขอเสนอแก่อายะ   เขาจะไม่มีวันให้อายะอยู่ที่นี่นานกว่านี้อีกแล้ว

     

    เขากลัว....กลัวที่จะต้องเสียอายะให้กับไนพารา

     

    นับวันอายะก็ยิ่งมีความสัมพันธ์กับไนพารามากขึ้นและถ้าอายะตัดสินใจที่จะอยู่ไนพาราโดยที่ไม่ฟังเขาแล้วเขาจะอยู่อย่างไรโดยที่ไม่มีอายะ.......ดังนั้นตอนนี้ที่เขาพอจะมีอิทธิพลต่ออายะอยู่เขาจะต้องทำให้อายะกลับมัติซึโมโต้ให้เร็วที่สุด

     

    “จุน...”

     

    เสียงอายะสั่นพร่าเมื่อได้ยินข้อเสนอของจุนที่ไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหนมันก็เป็นทางที่ทำให้เธอเจ็บปวดทั้งนั้น

     

                จุนเสหน้าไปมองด้านข้างเพื่อไม่ให้เห็นหน้าอายะ    น้ำตาของอายะจะทำให้เขาใจอ่อนและยอมในสิ่งที่เธอขอทุกครั้งแต่คราวนี้เขาต้องอดทนเพื่อที่จะไม่ให้ต้องเสียอายะไป        เขารู้ว่าอายะเจ็บปวดกับข้อเสนอของเขาแต่จะให้เขาทำยังไงในเมื่อนั้นเป็นทางออกเดียวที่เขาจะได้อายะกลับคืนมา

     

    “พรุ่งนี้ฉันจะต้องเห็นเธอที่บ้านอายะ  ถ้าเธอไม่อยู่ที่บ้านทุกอย่างก็จบฉันจะคืนชีวิตให้เธอ”

     

    จุนพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับบอริการ์ดทำให้นาระ  ไอชิ   คิระ  และยามาดะเข้ามาหาอายะได้ทั้งที่นาระอยากจะเข้ามาอธิบายเรื่องเปลี่ยนนามสกุลให้จุนฟังแต่บอริการ์ดก็กันไม่ให้ใครเข้าไป  ทำให้นาระไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่ามหาวิทยาลัยไนพาราไม่ยินยอมให้คนของมัติซึโมโต้เข้ามาเรียนที่นี่นั้นเป็นอีกเหตุผลที่อายะต้องเปลี่ยนนามสกุล...

     

    “ไม่เป็นไรนะอายะ”

     

    นาระถลาไปกอดอายะที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น

     

    “พี่..ฉันจะทำไงดี   ฉันรักเขาแต่ฉันยังกลับไปที่นั้นไม่ได้”

     

     

               อายะเอ่ยพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างหยุดไม่ได้   หยดน้ำตาทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นแค้นที่มันทำให้อายะต้องร้องไห้มากมายขนาดนี้

     

             จุน..ทำไมนายถึงใจร้ายกับฉันขนาดนี้นะ      นายก็น่าจะรู้ว่าฉันขาดนายไม่ได้แล้วทำไมนายยังจะมาเสนอเงื่อนไขที่ปฏิเสธไม่ได้แบบนั้นนายจะไม่ให้เวลาฉันพักฟื้นเลยรึไง      นายใจร้ายจุนนายใจที่สุดเลย......

     

    “ใจเย็นๆนะอายะ    หยุดร้องไห้นะแล้วค่อยคิดว่าจะเลือกอะไร”

     

          ทำไมจุนต้องใจร้ายกับอายะขนาดนี้ด้วยนะเขาไม่รู้รึไงว่าอายะเจ็บปวดมากแค่ไหน      ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมอายะถึงมาขอมาอยู่กับพ่อทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นหน้าอายะเลยหลังจากที่แม่และอายะจากไปในวันนั้น    มันต้องเป็นเรื่องที่ทำให้อายะจนมุมแล้วจริง ๆ  ถึงขนาดที่ละทิ้งศักดิ์ศรีมาขอความช่วยเหลือจากพ่อ   แล้วนี่จุนยังจะให้อายะกลับไปทั้งที่อายะยังไม่พร้อมแบบนี้โดยเอาความรักของ    อายะมาเป็นข้อต่อรองเขาใจร้ายมากไปแล้วนะ.......

     

    “ไอ้หมอนั่นมันเผด็จการชัดๆ”

     

    คิระพูดขึ้นอย่างเหลืออด    เขาแทบจะพุ่งไปต่อยหน้ามันที่ทำให้อายะต้องร้องไห้ถ้าไม่เป็นเพราะบอริการ์ดเป็นสิบของมันที่กันไม่ให้เขาต้องเข้าไปป่านนี้เขาคงได้ต่อยปากไอ้บ้านั่นไปแล้ว

     

    “ไอชิแกจะไปไหน”

     

    ยามาดะถามขึ้นเมื่อเห็นไอชิเดินไปตรงทางที่จุนเพิ่งจากไปเมื่อกี้...

     

    “ไปเก็บบัญชี”

     

    เขาทนไม่ไหวแล้ว      อายะทำไมต้องร้องไห้คนอย่างมันด้วย...

     

    ทั้งที่ตั้งใจว่าจะปกป้องอายะไม่ให้ร้องไห้แต่เขาก็ไม่เคยทำได้สักครั้ง   เจ็บใจชะมัด

     

    “ไม่ต้อง...”

     

    อายะยื่นมือไปจับมือไอชิเพื่อห้ามที่จะให้เขาไปเผชิญหน้ากับจุนซึ่งเธอรู้ทั้งรู้ว่ามันจะทำให้ไอชิเจ็บตัวฟรี     นายไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งในเรื่องนี้    นายเป็นคนของไนพาราฉันไม่ต้องการให้นายช่วยยิ่งนายเข้ามายุ่งเรื่องมันไปยิ่งบานปลายมากขึ้น

     

    “................”ไม่มีเสียงใดออกจากปากไอชิมีเพียงรอยยิ้มบางที่ส่งให้อายะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นรอยยิ้มของไอชิ    ไอชิแกะมืออายะออกและเดินต่อพร้อมกับยามาดะและคิระที่รออยู่แล้ว........

     

    “มันไม่ใช่เรื่องของนายไอชิ    มันเป็นเรื่องของฉันดังนั้นนายไม่ต้องยุ่ง”

     

    อายะตะโกนออกไปและนั่นทำให้ไอชิหยุดได้

     

    “แต่ฉันอยากที่จะยุ่ง  ใครจะทำไม”

     

    ไอชิเดินต่อไปโดยที่ไม่ฟังเสียงตะโกนเรียกของทั้งอายะและนาระที่จะพยายามหยุดเขาไม่ให้ไปเผชิญหน้ากับจุน   

     

    มัติซึโมโต้    จุน” ไ อชิตะโกนเรียกเต็มยศและก็ได้ผลจุนหันมาตามเสียงเรียกของเขา

     

    “มีธุระอะไร”   จุนตอบไปอย่างไม่สบอารมณ์



    กลับมาอีกครั้งพร้อมแรงฮึดใหม่


    เม้นให้กำลังใจด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×