คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เทิร์น 6
ชื่อผู้สมัคร | แองกัสแข่งกับมิลเลอร์มายด์ |
รอบการแข่งขัน | คู่ที่สองของสนาม |
สนาม | เทวาลัยปีศาจ |
เทิร์น | 6 |
คนเขียน | Heselnut |
มืดเหลือเกิน....
เด็กชายตัวเล็กยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่ดูกว้างใหญ่เสียจนไร้ที่สิ้น เขามองไม่เห็นแม้กระทั่งร่างกายของตนเองด้วยซ้ำ แต่แปลกนัก... ในตอนนี้เด็กชายแทบไม่เหลือความกลัวอยู่เลย บางทีอาจเป็นเพราะมีความรู้สึกอื่นพุ่งเข้ามาบดบังก็เป็นได้
คุณมิลเลอร์ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ทำให้ซุญญาสามารถยึดครองร่างของเขาไปแบบนี้... เพื่ออะไรกัน?
เพื่อจะลงมือกับซุญญาให้เต็มที่?
เพื่อจะกำจัดคู่แข่งให้พ้นทาง?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เพื่อทำลายเขาที่เป็นคู่แข่งอย่างนั้นหรือ?
เด็กน้อยผู้ขลาดและเขลาทรุดลงนั่ง ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียวว่าภูตหนุ่มทำแบบนี้เพื่อตัวของเด็กชายเอง ยิ่งกว่านั้นยังคิดไปอีกทาง ทางที่ตรงกันข้ามที่สุด
แองกัสคิดว่ามิลเลอร์มายน์ตั้งใจจะทำลายตนเองจริงๆ เด็กชายเริ่มน้ำตาคลอ เปล่า... ไม่ใช่น้ำตาแห่งความกลัว แต่เป็นน้ำตาแห่งความเสียใจ ผิดหวังซึ่งหลั่งออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต
“แองกัส...”
@_@_@_@_@
ฟ้ามืดครึ้มส่งเสียงคราญครืน เมฆทะมึนลอยตัวอยู่อย่างหนาแน่น พื้นที่ซึ่งถูกปกคลุมด้วยความมืดสว่างวาบเป็นช่วงๆเมื่อสายอัสนีแล่นวูบลงมา เพดานเทวาลัยที่เปิดกว้างไม่สามารถปิดกั้นสายฟ้านั้นได้อีกต่อไป
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!!
สองร่างบนแผ่นดินลอยกระโดดหลบได้โดยไม่ยากเย็น หนึ่งในนั้นรวมสมาธิเพ่งจิตเพื่อทำลายอีกฝ่าย แต่ภูตหนุ่มก็ดูจะรู้ทันหลบหลีกไปข้างหลังร่างของแองกัสทันที ซุญญาหันควับ หล่อนแสยะยิ้มให้มิลเลอร์มายน์ แล้วตั้งใจชกที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง โดยธรรมชาติภูตกระจกกำหมัดแน่นแล้วชกกลับไปตามความแรงที่ซุญญาทำ ร่างของเด็กน้อยเมืองหนาวกระเด็นไปข้างหลังทั้งที่รอยยิ้มยังไม่จาง
“จุ๊ๆๆ...” เด็กน้อยส่งเสียง มิลเลอร์มาน์ชะงักงันกับใบหน้าเด็กน้อยที่บวมเป่ง “เบามือหน่อยสิ ถ้าเกิดร่างนี้ใช้การไม่ได้ขึ้นมา วิญญาณของแองกัสจะใช้ร่างที่ไหนสิงสู่เล่า” วิญญาณร้ายที่บัดนี้ยึดร่างของเด็กชายไปได้เอ่ยยั่วเย้าหวังจะเห็นท่าทีเจ็บใจของอีกฝ่าย
“ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้น ข้าก็มั่นใจว่าจะขับไล่วิญญาณกาฝากอย่างเจ้าออกไปได้ ”ภูตหนุ่มกล่าวหน้านิ่ง ไม่แสดงอาการอะไรอย่างที่ซุญญาคาดหวังไว้ แถมยังตอกเธอกลับมาเสียอีก
ใบหน้าที่เคยไร้เดียงสาของแองกัส บัดนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและแววอำมหิต ซุญญาชักสีหน้า หลายคราแล้วที่หล่อนโดนเจ้าภูตกระจกตรงหน้าดูถูกเอา คิดแล้วจึงพุ่งเข้าไปด้วยแรงโทสะ แม้ร่างนี้จะไม่ใช่ของเธอแต่ก็ไม่ยากเย็นอะไรในการเคลื่อนไหวเพราะขนาดและสภาพร่างกายมีความใกล้เคียงอยู่มากทีเดียว ถ้าเทียบกันแล้วร่างแองกัสมีแรงเยอะกว่าร่างจริงของเธอเสียอีก
ภูตกระจกคิดหาวิธีทำลายซุญญาโดยไม่กระทบถึงแองกัสพลางพยายามปัดป้อง เพราะในใจเขาก็ไม่อยากจะโต้กลับหรือทำร้ายร่างของเด็กชายมากนัก
มีแน่ๆ... อย่างน้อยก็วิธีนั้น แต่จะสำเร็จได้หรือ
ภูตหนุ่มผู้รอบรู้ทุกสรรพสิ่งคิดหนัก วิธีสะกดซุญญาน่ะมี จะว่าง่ายก็ง่ายแต่ก็ยากเย็นนัก... เพราะคนที่จะทำได้ก็มีเพียงเด็กน้อยผู้ขลาดกลัวซึ่งเป็นเจ้าของร่างกายเท่านั้น
“หึหึ...”
อยู่ดีๆฝ่ายตรงข้ามก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ภูตหนุ่มจึงเกิดความคลางแคลงก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุ ซุญญาเองพอเห็นท่าทีของมิลเลอร์มายน์ก็ได้ใจ
“ดูเหมือนเจ้าแทบจะไม่ได้ใช้มือซ้ายของเจ้าเลยนะ เพราะของสำคัญของเจ้าอยู่ตรงนั้นรึเปล่า” หล่อนเว้นช่วง “แหวนนั่นใช่ไหม?”
ภูตหนุ่มกัดฟันกรอด หล่อนสังเกตเห็น! นางวิญญาณร้ายหมายถึงแหวนสีทองเกลี้ยงเกลาที่ถูกประดับด้วยทับทิมรูปหัวใจ อัญมณีชิ้นเดียวที่ต่างจากชิ้นอื่นบนร่างกาย เป็นสิ่งที่เขา ‘รัก’ มากที่สุดเพราะได้รับมอบมาจาก เธอคนนั้น
ซินเซีย...
“ดูท่าข้าจะเดาถูกสินะ” ซุญญาแสดงความน่ารังเกียจโดยการแสยะยิ้มชั่วร้าย หล่อนเล็งเครื่องประดับชิ้นนั้นเป็นเป้าหมายใหม่ทันที พลังแห่งการทำลายถูกงัดขึ้นมาใช้ มิลเลอร์มายน์ตวัดสายโซ่ที่ขาขึ้นมาซัดร่างเล็กๆจนกระเด็น
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรุก
ซุญญาตั้งตัวได้แต่มิลเลอร์ก็พุ่งตามเข้าไปติดๆ ตั้งใจจะไม่ให้ซุญญาได้มีโอกาสควบคุมสมาธิเพื่อใช้พลัง ถึงภูตหนุ่มจะไม่ได้ใช้แรงสุดกำลัง แต่มันก็สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของแองกัสได้มากทีเดียว วิญญาณสาวพยายามถอยออกห่างแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อมิลเลอร์มายน์รุกไล่เข้ามาติดๆ
วิญญาณของหล่อนเป็นปีศาจก็จริงทว่าร่างกายเล็กๆนี่อย่างไรก็เป็นของมนุษย์ แถมยังเป็นมนุษย์ที่อายุไม่ถึงสิบปีดีด้วยซ้ำ เมื่อเริ่มถึงขีดสุดสองแขนก็ปล่อยลู่ลงข้างลำตัวยืนนิ่งรอรับหมัดที่พุ่งเข้ามาใกล้ ใบหน้าที่มีแผลไฟไหม้ถูกปรกด้วยเส้นผมสีดำประกายม่วงจนมองไม่เห็นแววตา ภูตกระจกเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของเด็กชาย ร่างนั้นสะอื้นฮักเหมือนเด็กน้อยคนเดิม
“คุณ... มิลเลอร์” ร่างน้อยครางพลางเงยใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยคราบดินและคราบน้ำตาขึ้นมา ภูตกระจกชะงักมือ แววตาที่เย็นเฉียบของมิลเลอร์มายน์คลายลงทันที
“แองกัส...”
เมื่อสิ้นเสียงเรียก มิลเลอร์มายน์ก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่มือซ้ายและถอยออกห่างร่างตรงหน้า พร้อมๆกับที่เสียงหัวเราะดังลั่นอย่างสะใจ
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย! เจ้าคิดว่าแองกัสมันจะออกมาข้างนอกได้งั้นหรือ ”วิญญาณมากเล่ห์กรีดเสียง ”น่าเสียดาย... เจ้าไหวตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นข้าคงทำลายมันได้แน่ๆ แหวนนั่น!”
“แองกัสจะต้องชนะเจ้าและออกมาได้แน่ๆ” ภูตหนุ่มข่มความเจ็บปวดแล้วพูดออกมาตามที่เขาคิดแม้ประโยคของซุญญาจะไม่ใช่ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบก็ตาม วิญญาณกาฝากชักสีหน้า
“ไม่มีวัน!! มันอยู่ในนี้ กำลังร้องไห้ ข้ารู้สึกได้... เด็กอย่างมันทำอะไรไม่เป็นนอกจากร้องไห้ด้วยความกลัว!!” หล่อนตะโกนเกรี้ยวกราดแม้ใจที่บิดเบี้ยวจะไม่เริ่มมั่นคง หล่อนกำลังบอกมิลเลอร์หรือย้ำตัวเองให้เชื่อเช่นนั้นกันแน่
ภูตหนุ่มผู้รู้ทุกสิ่งเหยียดยิ้ม แทบจะเป็นครั้งแรกที่นางวิญญาณกาฝากพูดความจริง แม้จะปนไปด้วยความลวงมากมาย ความรู้สึกของแองกัสซุญญาย่อมสัมผัสได้ และตอนนี้หล่อนรู้สึกได้ว่าเด็กชายกำลังพยายามทำ ‘สิ่งอื่น’ อยู่
สิ่งอื่นที่ไม่ใช่การนั่งร้องไห้
@_@_@_@_@
เขาพอจะสัมผัสได้ แม้ไม่ชัดเจนแต่ก็รู้สึกได้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นบทสนทนาทั้งหมดแจ่มชัดเหมือนว่าเขาได้ฟังกับหูตน ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้ถูกต้อง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความช่วยเหลือจากร่างอันคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้า
“เจ้าทำได้ ลูกแม่” เสียงแผ่วเบาลอยเข้ามา เสียงท้ายประโยคเปี่ยมไปด้วยความอาทร แองกัสไม่รู้ว่าแม่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอบอุ่นใจขนาดนี้ เด็กน้อยรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไหลเวียนทั่วกาย และเต็มเปี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหัวใจ...
เด็กชายไม่แน่ใจเท่าไหร่นักแต่ก็คิดว่านี่แหละ... สิ่งที่เรียกว่า ‘ความกล้าหาญ’
@_@_@_@_@
“อื้อ!!”
ซุญญาอุทาน นิ่วหน้าและงอร่างด้วยความเจ็บปวด เป็นไปไม่ได้! เจ้าเด็กบ้านั่น... แองกัสมัน
!!
“เป็นอะไรไปล่ะ ซุญญา ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลยนะ” คราวนี้เป็นทีของภูตหนุ่มที่เป็นฝ่ายเอ่ยด้วยรอยยิ้มเยาะ “หรือคนที่ทำให้เจ้าเป็นแบบนี้จะเป็น... ” มิลเลอร์มายน์ลากเสียง ยิ่งทำให้ซุญญารู้สึกแค้นใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นคำพูด ท่าทางรวมถึงน้ำเสียง... มันสะท้อนนิสัยเธอมาชัดๆ!!
“ไม่มีทาง!!”
“...”
“เป็นแค่แองกัส...” ใบหน้าของแองกัสบิดเบี้ยว ร่างเล็กหายใจหอบอย่างหนัก “เด็กอย่างมัน...” นัยน์ตาที่เคยไร้เดียงสาปูดโปนเบิกกว้าง มิลเลอร์มายน์ยืนมองสภาพของวิญญาณร้ายด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่นั่นดูจะเป็นชนวนจุดประกายความโกรธของหล่อนให้ระเบิดขึ้นมา
“ไม่มีทางงงงงงงงงงงงงง!!!!”
ตะโกนเสียงลั่นพร้อมพลังแห่งการเสื่อมถอยที่พุ่งออกมาเป็นกระแสทุกทิศทาง พื้นเทวาลัยหายไปเป็นรัศมีวงกลมรอบตัวซุญญา หลายส่วนพุ่งขึ้นสู่ฟ้าผ่านหน้ากรรมการภาคสนามทั้งสองที่จ้องมองด้วยนัยน์ตาแป๋วแหววสีแซฟไฟร์
“วู้วววววว” ปีศาจความฝันส่งเสียงพร้อมทั้งมองตาม
“ว้ากกกกกกกก” เสียงโวยวายของเซียร์เฟลดังขึ้น พลังของซุญญาไม่ต้องกายเทพผู้กำหนดชะตากรรมก็จริง แต่มันเฉียดสร้อยคอคู่กายที่กระเด้งกระดอนไปมาอยู่บนอก เซรีเอลก้มลงมองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยเเววตาเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์
ความคิดเห็น