คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เทิร์นที่ 4
“ฮึก... ฮือๆๆ”
เด็กชายที่ถูกขังอยู่ในกระจกเงาร่ำไห้ น้ำตาเปื้อนเต็มใบหน้า แองกัสนั่งชันเข่าอยู่ชิดกับกระจกที่กลายเป็นห้องขังเล็กๆ ยังดีที่มิลเลอร์ไม่ได้สร้างกระจกปิดด้านบนของห้องเล็กๆนี้ด้วยไม่อย่างนั้นเด็กน้อยขี้กลัวคงจะประสามเสียไปแล้ว
แผลผุพองที่เพิ่งได้รับมาเมื่อครู่แสบและแดงไปหมด ถึงจะไม่มากเท่าความทรมานที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ก็เจ็บแสบพอดู เด็กชายมองภาพท่อนแขนแดงเถือกที่รู้สึกเจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้วส่งเสียงร้องโฮ ตอนนี้ตาของเขากลับมามองเห็นได้อีกครั้งแม้จะเลือนรางด้วยม่านน้ำตาก็ตามที
ทั้งเจ็บและกลัว... นี่เป็นครั้งแรกที่เขานึกอยากได้ยินเสียงซุญญาสักนิดก็ยังดีแต่ทว่า...
‘วิญญาณกาฝากจะไม่ปรากฏตัวสักระยะหนึ่ง...’
คุณมิลเลอร์หมายถึงซุญญางั้นหรือ ซุญญาหายไป... ทำไม?
“ซุญญา
” เด็กน้อยร้องเรียกวิญญาณร้ายที่อยู่ในร่างของเขา แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา
“ซุญญา...”
“
”
ความเงียบงันเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เด็กชายยิ่งหวาดหวั่นกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วจริงๆ...
@_@_@_@_@
“หึหึหึ... ฮะฮ่าๆๆๆ” เสียงปริศนานั่นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆอย่างที่มิลเลอร์ไม่สามารถจับทิศทางได้ ภูตกระจกกวาดมองไปรอบด้านเพื่อค้นหาที่มาของเสียง
“เพราะเจ้าแท้ๆ ที่ทำให้ข้าสามารถออกมาจากตัวเจ้าเด็กนั่นได้เร็วขึ้น” เสียงนั้นแฝงความยินดีไว้จนเต็มปรี่
“ซุญญา!” มิลเลอร์ มายน์กัดฟันกรอด เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าการที่แองกัสอยู่ห่างจากเมรีสจะทำให้มนตร์ที่นางแม่มดร่ายไว้เสื่อมลง และการที่เขาเข้าไปในตัวของแองกัสก็ยิ่งเป็นการเร่งให้มนตร์สะกดนั้นพังทลายลงไปในที่สุด
แย่...
มิลเลอร์คิด ถึงจะกลับมามองเห็นเหมือนเดิมด้วยอำนาจของเทวรูปที่หมดลง แต่เขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นซุญญาที่เป็นวิญญาณได้อยู่ดี เท่ากับว่าตอนนี้เขากำลังเสียเปรียบเต็มประตู
“นอกจากนี้....” ซุญญาเว้นช่วงไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อด้วยความเกรี้ยวกราด
“ข้าจะได้ตอบแทนเจ้าที่ทำให้ข้ากลับได้ไปรำลึกความหลังในนรกอีกครั้ง!!”
พร้อมกันนั้นเทวรูปเบื้องบนก็ถูกทำลายด้วยพลังของวิญญาณร้าย รูปสลักของจักรพรรดิแห่งดินค่อยๆสลายกลายเป็นผุยผงจากส่วนฐานขึ้นไป กรรมการทั้งสองเบิกตากลมโตสีแซฟไฟร์ที่ไหวระริกด้วยความตื่นเต้นและเริ่มชะโงกหน้าลงไปเพื่อจับตามองการแข่งขันอย่างจริงจัง
“อึ่ก!!”
ผลของการทำลายเทวรูปดินคือแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นถึงหกเท่าตัว มิลเลอร์ มายน์ทรุดลงไปกับผืนดิน ภูตหนุ่มพยายามใช้มือยันตัวขึ้นอย่างยากลำบากท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสมใจของซุญญา
“ความจริงแล้ว... จุดประสงค์ของการเข้าแข่งขันครั้งนี้ก็คือการทำให้เจ้าหนูนั่นตายอย่างทรมานที่สุด แต่ว่าในเมื่อเจ้าอ่อนหัดถึงขนาดสงสารมัน เจ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อข้าอีกแล้ว!!”
มิลเลอร์ มายน์หรี่ตาอย่างคนใช้ความคิดหนัก ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะสามารถโต้ตอบนางวิญญาณกาฝากได้อย่างไรกันนะ แรงโน้มถ่วงนี่มีมากเสียจนแค่ยืนให้ขึ้นก็ยังลำบาก
“ยืนไม่ไหวเหรอ มิลเลอร์” ซุญญาเยาะเย้ยภูตหนุ่มที่ยังคงคุกเข่าลงกับพื้น ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงตัวตนของซุญญาย่างกรายที่เข้ามาใกล้ นางวิญญาณกาฝากเองก็คงได้รับผลกระทบจากเทวาลัยของจักรพรรดิแห่งดินที่พังทลายลงเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าตัวเขา เพราะมวลของวิญญาณนั้นมีไม่มากเท่ามนุษย์หรือแม้กระทั่งภูตกระจกอย่างมิลเลอร์
“ในเมื่อมันยากนัก ข้าก็จะช่วยแล้วกันนะ”
ผู้เสียเปรียบกัดฟันกรอดเมื่อรู้สึกว่าผืนดินกำลังสลายไปทีละน้อยๆ แม้จะไม่เห็นใบหน้าของนางแต่มิลเลอร์มั่นใจว่าซุญญาต้องกำลังแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจอยู่แน่ๆ จิตของภูตหนุ่มนึกเปรียบเทียบความแตกต่างของซุญญากับเธอคนนั้น
ซินเซีย...
ภาพหญิงสาวปรากฏขึ้นในมโนจิต รอยยิ้มที่งดงามของซินเซีย... ถ้าเขาแพ้ตรงนี้ความปรารถนาที่เขามีอยู่ก็คงไม่มีวันเป็นจริง แล้วยังความรู้สึกที่เป็นห่วงและอยากช่วยเด็กชายที่เป็นคู่ประลองอีก ถ้าเขาชนะแองกัสก็ไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบต่อไป
ดังนั้น... แพ้ไม่ได้!!
มิลเลอร์ มายน์ที่ยังคงบอบช้ำจากการใช้พลังเข้าแทรกแซงในโลกของแองกัสรวบรวมกำลังขึ้นสร้างกระจกเงาเพื่อขังวิญญาณร้ายไว้ข้างในเช่นเดียวกับเด็กชาย ผิดกันตรงที่ว่าภูตหนุ่มปิดไว้กระทั่งเบื้องบน ไม่มีแม้แต่แสงสลัวที่จะสามารถลอดผ่านเข้าไปได้
ซุญญาไหวตัวอย่างตระหนกเพราะไม่คิดว่ามิลเลอร์มีพลังเหลือพอจะทำอะไรหล่อน ชั่วขณะที่หล่อนกำลังตกใจ ภูตกระจกก็เริ่มเคลื่อนไหว มิลเลอร์ มายน์รู้ดีว่ากระจกธรรมดาทั้งห้าบานนั้นถ่วงเวลาให้เขาได้ไม่นาน ดังนั้นต้องรีบจบเกมให้เร็วที่สุด
@_@_@_@_@
ทะเลกำลังคลั่ง...
มหาสมุทรเบื้องล่างของสิ่งก่อสร้างที่ตั้งตระหง่านอย่างโดดเดี่ยวม้วนตัวเป็นคลื่นยักษ์ซัดถาโถมออกไปราวกับกำลังโกรธเกรี้ยว ท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆมัว กระแสไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะผ่านกลุ่มไอน้ำบนฟากฟ้าก่อนสว่างวาบพุ่งลงพื้นดินเป็นสายแล้วตามมาด้วยเสียงคำรามลั่นดุจประกาศจุดเริ่มต้นของการทำลายล้าง
เปรี้ยง!!
กระแสไฟทั้งขาวและแดงฟาดลง ณ เทวาลัยปิศาจก่อเกิดเสียงดังสนั่นแล้ววูบหายไปเหมือนไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ แต่ถึงกระนั้นเด็กชายขี้กลัวที่ถูกขังด้วยบานกระจกเงาก็ยังอดสะดุ้งและกรีดร้องไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบนนั่น ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า นี่คือผลจากการทำลายเทวรูปงั้นหรือ คุณมิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถหนีออกมาจากกระจกเงานี่ได้อยู่แล้ว
ถ้าเช่นนั้น... ใครทำกันล่ะ?
เปรี้ยง!!
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีก เด็กชายที่ตอนนี้แทบจะลงไปนอนกับพื้นสะดุ้งอีกครา เขากำมือเพื่อระงับความกลัวแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ลูกแก้วกลมใสกลิ้งหล่นออกจากกระเป๋ากางเกงของเด็กชายแล้วไปหยุดที่อีกฝากหนึ่งของจุดที่เขานอนหมอบอยู่
“อะ...”
แองกัสอุทาน เด็กชายขยับตัวอย่างอยากลำบากและเอื้อมมือออกไปสุดแขนเพื่อคว้ามันกลับเข้ามา แต่ก็ไม่ถึง เขาออกแรงดันตัวเองไปข้างหน้าโดยที่ไม่เฉลียวใจเลยว่าเส้นตายห้าวินาทีกำลังจะหมดลง
สนามนี้อาจจะรู้ผลเร็วกว่าที่คิดก็ได้นะ
เซียร์เฟลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่าของตน ไม่รู้ว่าพระเจ้าผู้กำหนดชะตากลับมาที่สนามนี้เมื่อไหร่ เพราะไนท์แมร์และดรีมมัวแต่สนใจกับการแข่งขันที่ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆทุกขณะจิต
“นั่นสินะ...” เสียงกล่าวไร้อารมณ์ของเซรีเอลดังขึ้นเพียงแผ่วเบาก่อนจะถูกกลบทับด้วยเสียงสนั่นของปรากฏการณ์ธรรมชาตินอกเทวาลัย
ความคิดเห็น