คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เลี้ยงฉลอง Hollywood (5)
เพลงได้จบลงไปเพลงนึงแล้ว และเพลงใหม่ก็กำลังจะเริ่มบรรเลงขึ้นทุกคนหยุดเต้นกันหมดแล้ว ยกเว้นมีคู่ๆหนึ่งที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาซ้อมเต้นลีลาศกันอยู่
“โธ่เอ๊ย ! ผิดจังหวะอีกแล้วนะ เฮ่ะๆๆๆ” เสียงหัวเราะที่มีเอกลักษณ์นี้หัวเราะออกมาอย่างไม่อายใคร และ เพราะรอยยิ้มที่เป็นมิตรนั้นก็ทำให้คนรอบข้างไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรที่เสียงดัง แต่กลับจะหลงซะมากกว่า
“คร้าบ คร้าบ ท่านอาจารย์ Tom Hiddleston ผมจะตั้งใจซ้อมอีกรอบ ” เสียงทุ้มต่ำแสดงถึงความแข่งแกร่งนั้นพูดล้อเลียน ทอม ฮิดเดิลสตัน ด้วยความรู้สึกอายปนความสับสนกับท่าเต้นยากๆซักเล็กน้อย เพราะเมื่อไม่กี่นาทีนั้น ทอม ได้ชวน Chris Hemsworth ชายร่างสูงใหญ่ที่โด่งดังจาก Thor ไปเต้นรำด้วยกัน ดูท่าทอมจะดูสนุกสนานเอามากๆ เพราะเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ ต่างจากบท Loki น้องชายจอมเจ้าเล่ห์ของ Thor
“ลองอีกครั้งนะคริส คราวนี้อย่าเหยียบเท้าชั้นอีกล่ะ” ทอมพูดทีเล่นทีจริง เพราะแรงเหยียบจากเท้าของคริสนั้นเล่นเอากระดูกเท้าแตกได้เลยทีเดียว
“โอเคๆ ขอโทษที คราวนี้ไม่พลาดแน่นอน” คริสพูดด้วยน้ำเสียง และ สายตาที่จริงจังกว่าเดิม เขาดูมุ่งมั่นจริงจังสมแล้วที่เล่นบทThor เทพแห่งสายฟ้า
ทั้งสองเริ่มซ้อมกันใหม่คราวนี้คริสก้าวนำจังหวะทอมเพราะเขาไม่อยากตามอีกแล้ว “โอ๊ะ!?เก่งขึ้นเยอะเลยนี่น่า?” ทอมกล่าวชื่นชมอย่างปลื้มปิติกับความคิดอ่านที่ว่องไวของร่างสูง
“ชั้นค่อนข้างเรียนรู้อะไรๆได้เร็วน่ะ ไม่ได้หลงตัวเองนะ ฮ่ะๆ” คริสชมตัวเอง ดูท่านิสัยนี้จะติดมาจากบทธอร์ที่เขาเล่นเสียแล้ว แต่การเต้นของคริสที่ดีขึ้นทำให้ทั้งคู่เต้นประสานจังหวะกันได้อย่างราบลื่นจนเป็นที่สะดุดตาของหลายๆคน
“นี่ๆ หยุดเต้นได้แล้วน่า คนเขาหันมามองกันใหญ่แล้วนะ”ทอมพูดเสียงแผ่วเบาแต่รวดเร็ว เพราะสายตาของคนรอบข้างนั้นถึงจะเป็นสายตาเอ็นดู ระคนชื่นชม แต่ก็ทำให้ทอมเขินอายจนหูเริ่มแดง
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่? ดูทุกคนเขาก็ชอบนะ” คริสยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“ชั้นอายนะ คริส! พอเถอะน่า” ทอมซุกหัวต่ำทำให้ดูเหมือนกับว่าคริสกอดทอมไว้อยู่ คราวนี้มีเสียงหัวเราะคิกคักจากฝั่งสุภาพสตรีบ้างแล้ว
“ทอม! อย่าสิ …. โอเคๆๆ เลิกแล้วๆ” คริสเริ่มอายแทนจึงผละออกจากทอม ซึ่งก็ได้ผลชงัด เพราะคนที่เริ่มมามุงดูแตกวงออกไปแล้ว
“เห็นมั้ย? นายก็อายเป็นนี่น่า” ในตอนนี้คริสจึงรู้ว่าเขาถูกหลอกให้อายนั่นเอง เพราะใบหน้าของทอมตอนนี้แต่งแต้มไปด้วย รอยยิ้ม และ สายตาที่เจ้าเล่ห์ แต่ก็ยังคงความเริ่งร่าปนความซุกซนไว้อยู่
Just Give Me A Reason - P!nk ft.Nate Ruess (Cover)
“เจ้าเล่ห์จริงๆนะ …. โอ๊ะ เพลงเริ่มแล้ว ไปกันเถอะ” เพลงที่สองเริ่มบรรเลงขึ้นแล้ว และ ไฟก็ได้ปิดลงอีกครั้ง คราวนี้แทนที่จะเป็นฝ่ายถูกชวนคริสกลับจูงมือทอมไปลานเต้นรำ และ เริ่มเต้นนำจังหวะเหมือนตอนซ้อมซึ่งทำได้ดีมากทีเดียว
“แหม เก่งจริงนะ ฮ่ะๆๆ” ทอมก้าวตามจังหวะที่คริสได้วางไว้ให้อย่างว่าง่าย การเต้นรำของทั้งคู่ไหลลื่น และ เจิดจรัส ดั่งสายน้ำที่สะท้อนแสงจันทร์ในยามนี้ ห้องทั้งห้องมีเพียงเสียงบรรเลงของเพลง และ ภาพแห่งความงามในการเต้นรำของแต่ละคู่
“ตัวนาย….อบอุ่นจังนะ” ทอมกระซิบอย่างแผ่วเบา เพราะเขาต้องการแค่ให้คนตรงหน้าได้ยินแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งก็ได้ยินทุกคำพูด
“….งั้นก็อยู่ในท่านี้ต่อไปนานๆเลยได้มั้ย?” คริสอ้อนวอนขอให้มันเป็นจริงแม้ว่าจะเป็นการพูดจาหยอกล้อกันเท่านั้นก็เถอะ
“…..เอาสิ ถ้าจู่ๆชั้นไม่หายไปซะก่อนน่ะนะ ฮ่ะๆๆ” ทอมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงเหมือนเช่นเคย ใช่แล้วเขาเองก็ไม่อยากพรากจากคริสไปเลย…………………………………….
แต่พวกเขาไม่ได้รับรู้ตัวตนของสิ่งสิ่งนึงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในเงามืดที่จับตาดูพวกเขาอยู่.
It's Time - Imagine Dragons - Daniel Jang - YouTube เพลงที่สามเริ่มต้นขึ้นแล้ว คราวนี้มีผู้ร่วมเต้นรำเปลี่ยนคู่บ้าง และ นั่งพักบ้าง แต่ก็ยังมีอยู่คู่หนึ่งที่ไม่คิดจะห่างจากกันเลยแม้เพียงวินาทีเดียว
“ดูเหมือนคนอื่นเค้าจะเหนื่อยกันแล้วนะ” แมดส์พูดด้วยเสียงนุ่มลึกและแผ่วเบาพอแค่ให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น
“ฮื่อ…ก็มีแต่พวกรักไม่ยั่งยืนซะล่ะมั้ง ฮ่ะๆๆ” ฮิวจ์พูดล้อเลียนนักแสดงหลายคู่ที่นั่งพักซึ่งบางคู่ก็เคยมีข่าวทะเลาะ หรือ เลิกรากันมาบ้างแล้วทั้งนั้น ไม่ก็เป็นคู่ของนักแสดงสูงอายุที่ยืนหยัดเต้นรำด้วยกันถึงสองเพลง
“หือ? แล้วเราสองคนล่ะ?” แมดส์ยังคงเต้นนำจังหวะได้อย่างสวยงาม และ คล่องแคล่ว แมดส์มีนิสัยอบอุ่น และ ขี้เล่น แตกต่างจากDr.Lecter ที่น่าหวาดกลัว ทำให้ฮิวจ์อยากใช้เวลากับแมดส์ให้นานที่สุด
“…เต้นไปจนกว่าจะจบงานเลยไหมครับ?” ฮิวจ์ก้มหน้าต่ำเพราะกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของอีกฝ่าย
“อย่าล้อเล่นแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็เอาจริงๆหรอก” แมดส์ดูเอาจริงเอาจัง แต่สายตาในเงามืดของเขานั้นฉายแววความขี้เล่นออกมา
“…..ผมเอาจริงนะ” คราวนี้ฮิวจ์เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนตรงหน้าตรงๆ แววตาที่สะท้อนแสงเพียงน้อยนิดนั้นไม่คิดจะพูดล้อเล่นเลยซักนิดเดียว แต่มันเป็นเววตาที่ซ่อนความหวัง ปะปนไปกับความสุขเล็กๆที่เริ่มก่อตัวขึ้น
“อย่ามื่อยไปเสียก่อนล่ะ”แมดส์เองจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่คลาดสายตา และกำมือฮิวจ์แน่นกว่าเดิมเล็กน้อย เหมือนกับกลัวว่าฮิวจ์จะหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไรอย่างนั้น
“….รู้อะไรมั้ยครับ….ตอนนี้ผมรู้สึก…?” ฮิวจ์หยุดพูดไปชั่วขณะ เมื่อมีนิ้วเรียวมากดที่ริมฝีปางบางของเขา
“ชั้นเองก็มีความสุขมากๆเลยเหมือนกัน…สายตาเธอมันบอกแบบนั้นน่ะ” แมดส์ยิ้มกว้างอย่างคนที่มีความสุขอยู่จริงๆ ใช่แล้ว ทั้งสองสัมผัสถึงจิตใจของกันและกันได้แม้ไม่ต้องบอกผ่านถึงกัน
“คนที่เล่นบทHannibalต้องอ่านใจคนเป็นทุกคนเลยหรือครับ?.... อุ๊บ…ฮ่าๆๆ” ฮิวจ์กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นแมดส์ทำท่าเล่นบทเป็นชาลล์ เซเวี่ยน ที่อ่านใจคนได้ในเรื่องX-MEN นิ้วเรียวแตะที่ขมับและจ้องเขม็งมาที่ฮิวจ์
“ฮะๆ ชั้นรู้เรื่องของเธอทุกอย่าง เพียงแค่จ้องเข้าไปในดวงตาเท่านั้น…เอาล่ะ” แมดส์หยุดเล่นแล้วหันมาตั้งใจกับการเต้นเหมือนเดิม จังหวะของทั้งคู่ถึงจะดูเรียบง่าย แต่กลับสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และ ความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม เหมือนดั่งสีสันที่มาจากคนละทิศละทางแต่เมื่อมารวมกันกลับกลายเป็นงานศิลปะที่เลิศเลอที่สุด
ความคิดเห็น