ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diaryคุณลุงปริศนา

    ลำดับตอนที่ #4 : Diaryคุณลุงปริศนา ตอน นักมายากลฮัลโลวีน

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 56


    บันทึกของคุณลุงปริศนา 4

    …………………………………………..

    อืม….” ผมลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย กลิ่นของยาฆ่าเชื้อ และหลอดไปแสงจ้ำกระทบดวงตาจนนอนไม่ลงอีก ที่นี่คือ โรงพยาบาล?

    ตื่นแล้วเหรอครับ? คุณมิคเคลสัน ข้างๆเตียงผู้ป่วยคือ วิล ที่นั่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ผมดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องล้มลงไปนอนอีกครั้ง เมื่อแผลที่ถูกต่อยใต้ซี่โครงยังเจ็บอยู่ มันเจ็บเสียจนผมต้องปิดตาและกัดฟันเสียแน่นเพื่อไม่ให้หลุดร้องออกมา

    อย่าเพิ่งขยับนะครับ! ซี่โครงของคุณแตกไป2ซี่แน่ะ แถมมีบางส่วนทิ่มที่ปอดด้วย โชคดีมากนะครับที่ไม่ลึกน่ะ ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หมอบอกว่าอย่าเคลื่อนไหวร่างกายแบบหักโหมไปซักพักนะครับ วิลเข้ามาประคองตัวผมให้ลงไปนอนอย่างเบามือที่สุด เขาจะกลายเป็นภรรยาผมขึ้นไปทุกวันแล้วสิ

    ขอบคุณมากนะวิล ผหลับไปนานแค่ไหนกันนะ วิลหัวเราะน้อยๆ แล้วจึงชี้ไปที่ปฏิทินที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะข้างๆเตียงนี่เอง

    วันที่คุณหลับไปนั้นวันที่28ตุลา วันนี้31ตุลาแล้วนะครับ 3วันแน่ะครับ คุณไม่สังเกตเห็นของฝากจากทุกๆคนหรือครับ? วิลยิ้มอย่างสดใสแล้วหันไปทางกองของฝากที่สูงพอๆกับโมเดลคอนโด ผมทั้งตกตะลึงและอดดีใจไม่ได้เช่นกัน ผมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    อันนี้ของผมเอง วิลส่งกล่องไม้ที่สะลักเป็นรูปฟักทองหน้ายิ้มปากหยึกๆหยักๆให้ ข้างในเป็นช็อกโกแล็ต ดูน่ารักเอามากๆ มันทำให้แผลหายเจ็บไปเลย

    อ้อ! นี่วันฮัลโลวีนแล้วนี่เนอะ ขอบคุณนะวิล ผมยิ้มให้ วิลเองก็หัวเราะอย่างร่าเริงแล้วจึงหยิบของขวัญชิ้นต่อไปมาให้

    นี่ของลาเรียลกับโนอาห์ น่ารักไหมครับ? พวกเขาสองคนทำเองเลยนะ มาขอยืมห้องครัวของร้านน่ะครับ กล่องที่วิลหยิบขึ้นมานั้นเป็นไม้แกะสลักเช่นเดียวกับของวิล แต่เป็นรูปนกฮูกกางปีก ดูท่าทางอ้วนพี แต่ตากลับปรือใกล้ปิด พอเปิดหัวของมันออกก็มีคาราเมลอยู่ข้างนพร้อมข้อความในโน้ตเล็กๆว่า ลุงป่วยจนเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ หายไวๆนะ ไม่มีลุงก็เลยจับคุณวิลจิ้นกับใครไม่ได้เลย ^ ^ จาก ลาเรียล กับ นัวร์ ผมหัวเราะฮึในลำคอ วิลหน้าแดงเล็กน้อยเพรากลั้นขำอยู่ แต่พวกเธอใส่ใจมากจริงๆ

    ชิ้นนี้ของมาเฟียคนนั้นครับมาเป็นกระเช้าเลย ผมจะอ่านโน้ตให้ฟังนะครับ กระเช้าของเฌอบลองนั้นอลังการมากจนสะดุดตา คงไม่มีระเบิดซ่อนอยู่หรอกนะ

    ถึงลุง ชั้นก็ไม่อยากบอกหรอกนะ แต่เจ้าพวกบอดี้การ์ดสองตัวนี้มันฝากขอโทษมา วันหลังก็พูดให้เร็วกว่านี้สิ! แล้วก็นะ ขอค้างที่บ้านนายซักพักละกัน ชั้นกำลังหาซื้อที่ดินแถวๆนี้อยู่พอดี คงไม่ว่านะ แล้วก็บ้านนายไม่รกแน่ เข้าใจไหม อย่าบ่นด้วย เมื่อวิลอ่านจบ ทั้งผมและเขาก็มองหน้ากัน เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้เชียวล่ะครับ

    อ เอ่อเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ ฮะๆ วิลยิ้มกลบเกลื่อน ผมเองก็หัวเราะแห้งๆ นี่พวกเรากำลังจะมีเพื่อนบ้านเป็นมาเฟียเหรอเนี่ย

    ต่อไปเป็นของชาเรสสินะ ผมจดจ้องไปยังกล่องของขวัญอันเล็กสีน้ำเงินที่ผูกโบว์สีฟ้าดูบิดๆเบี้ยวๆ วิลหัวเราะคิก แล้วส่งกล่องนั้นมาให้ผม

    ถึงภายนอกจะดูไม่ดี แต่ภายในนี้สวยงามมากนะครับ วิลยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว ผมไม่ค่อยเข้าใจความหมายนักหรอก ผมจึงบรรจงค่อยๆเปิดกล่องดู ก็พบกับคุ้กกี้แผ่นใหญ่ซัก 5 แผ่น วางซ้อนกันอยู่ เป็นรสช็อกโกแล็ตชิพ น่าตาดูน่าทานมาก แถมก้นกล่องมีตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือตวัดๆ

    “ ’จะสำออยไปไหนฟระ! แก่แล้วเหรอไงนี่ชาเรสเป็นคนทำทั้งหมดเลยเหรอ? ผมแปลกใจนิดๆ ไม่น่าเชื่อว่าชาเรสจะทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย ยกเว้นเนื้อความในโน้ตนะ

    ครับ รับรองว่าไม่มีอะไรแปลกๆใส่ลงไปหรอกครับ ก่อนที่ผมจะมาหาคุณเขาก็วิ่งเอามาให้ผมน่ะ ถ้ามันอร่อยผมกะจะให้เขาเป็นคนทำขนมขายในร้านไปเลย ฮะๆๆ วิลดูชื่นบานเอามากๆ ผมลองชิมดูก็พบว่ามันอร่อยมาก เผลอๆจะอร่อยกว่าตามร้านขายขนมทั่วไปอีก

    อื้อ! อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานเลยมั้งเนี่ย อย่างชาเรสเนี่ยนะ?  ผมนึกภาพชาเรสตอนทำขนมนี่ไม่ออกเลย จากเจ้าหนูที่ท่าทางกระด้างๆ กลับกลายเป็นขนทำขนมไปแล้ว นี่แค่ผมหลับไป3วันเท่านั้นเองนะ

    ชาเรสต้องดีใจมากแน่ๆครับ….อ้อ! คุณมิคเคลสัน มีคนไข้จะขอมาหาน่ะครับ ผมเลยให้ที่อยู่ไปวิล หลุบตาต่ำเปรียบเหมือนลูกสุนัขที่รู้ตัวว่าทำอะไรผิดซักอย่าง

    คนไข้เหรอ? ช่วงนี้ไม่มีนี่น่า….ขอบใจมากวิล ผมไม่ได้โกรธอะไรเสียหน่อย ผมขำกับท่าทีของเขาเสียจริงๆ เมื่อวิลรู้ว่าผมไม่ได้เอาผิดอะไรก็กลับมาสดใสเหมือนเดิมเหมือนดอกไม้ที่ได้น้ำ

    อ้อ เกือบลืมไปแน่ะครับ ของฝากจากคนในย่านนั้นครับ เป็นพวกผลิตผลของพวกเขาเชียวนะครับ ยังสดอยู่เลย วิลยกตะกร้าผักผลไม้นานาชนิดขึ้นมา ดูท่าจะหนักน่าดูครับ ทั้งหมดในนั้นยังดูสดอยู่เลย แอปเปิ้ลสีแดงสดเหมือนในเรื่องสโนวไวท์ ผักปลอดสารพิษก็ดูน่ารับประทานอย่างมาก

    ฝากขอบคุณพวกเขาด้วยนะครับวิล วิลรับคำด้วยการยิ้มตอบ แล้วเขาก็ขอตัวกลับไปดูแลร้านต่อ หรือไปดูแลไม่ให้ชาเรสก่อเรื่องก็ไม่ทราบได้

    ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าวิลนำหนงสือนิยายตั้งหลายเล่มมาให้ผม ทั้งเล่มที่ยังอ่านไม่จบและของวิลเองที่เพิ่งออกตีพิมพ์ มันเป็นแนวสยองขวัญ และเรื่องผีสางทั้งนั้น และนี่ผมก็นอนอยู่ในห้องเดี่ยวเสียด้วยสิ อากาศข้างนอกก็ยังคงมีหิมะตก ท้องฟ้าบอกเป็นสีแสดเปรียบได้เหมือนผลส้มบ่งบอกถึงเวลายามเย็น ผมมองดูนาฬิกาก็พบว่า 5โมงเย็นแล้ว ใกล้จะได้เวลาที่เด็กๆจะออกมาแต่งผีขอขนมแล้วสินะ เสียดายที่ปีนี้เด็กๆคงไม่ได้อะไรจากผมเสียแล้ว  ผมเปิดทีวีดูข่าวเทศกาลฮัลโลวีน หรี่เสียงให้เบาๆแล้วก็จึงเปิดหนังสือนิยายอ่าน

    .

    .

    .

    เวลาผ่านไป นี่ทุ่มนึงแล้ว นางพยาบาลนำอาหารเย็นกลับไปแล้ว ผมจึงได้อยู่คนเดียวอีกครั้ง ข่าวตอนนี้น่าเบื่อขึ้นทุกที ผมจึงปิดมันเสียแล้วอ่านนิยายของวิลต่อไป มาถึงฉากน่ากลัวพอดี และจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดั่งขึ้นในความเงียบงัน

    ก๊อกๆ!” ผมสะดุ้งเฮือก บอกได้เลยว่าผมไม่ได้กล้าหาญอะไรขนาดที่ว่าจะไม่กลัวผีหรอกนะ แถมผมเป็นหมอด้วยก็ต้องเชื่อหลักวิทยาศาสตร์ใช่มั้ย? แต่ผมต่างจากคนอื่นคือผมออกจะกลัวผี แต่ไม่กลัวมากมายขนาดที่ว่าไม่มีเหตุผล แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงกลัวขึ้นมาได้

    ครับ เชิญครับ ผมเชื้อเชิญให้คนเคาะประตูเข้ามา แต่ มันกลับเงียบสนิท จนผมเริ่มหวาดๆขึ้นมาแล้ว นี่มันฉากในนิยายสยองขวัญชัดๆ! อย่ามาแกล้งหลอกกันนะ!

    ก็อกๆๆๆ!!” คราวนี้จังหวะมันรัวขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องตัดสินใจพยายามลุกขึ้นไปเปิดประตู แผลมันเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกแล้ว ผมทำหน้าทุกข์ระทมสุดๆเพราะคิดว่าไม่มีใครเห็น แต่ให้ตายสิน่า ผมคิดผิด

    ไม่ต้องลุกครับเจ็บอยู่สินะ? มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากหลังบานประตู คราวนี้ผมเหงื่อไหลเลยครับ ไหลแบบที่ว่าหน้าร้อนยังม่ไหลขนาดนี้ ผมพยายามตั้งสติอีกครั้งทำให้เหงื่อแห้งไปได้

    คุณเป็นใครน่ะ เข้ามาสิ ไม่ได้ล็อกครับ ผมใจดีสู้เสือตอบเขาไป หวังว่าประตูจะเปิดออกมาแล้วมีคนจริงๆยืนอยู่นะ และแล้วบานประตูก็ผละออกทีละนิด ถึงจะไม่มีเสียงของบานพับเอี๊ยดอ๊าดแบบในหนังก็เถอะ แต่ที่สยองสุดๆเลยสำหรับผมตอนนี้คือ ไม่มีคนยืนอยู่ตงนั้น

    ผมเริ่มหน้าซีดแล้วครับ ตอนนั้นน่ะ แล้วข้างนอกก็มืดแสนจะมืดเลย แต่แล้วทันใดนั้นประตูก็ปิดเองดัง ปึง!! สนั่นสะเทือนมาถึงแผลเลยล่ะครับ ผมสะดุ้งสุดตัว ผมเกือบจะโทรตามวิลซะแล้วล่ะครับ แต่ก็คิดได้ว่ามันคงงี่เง่าน่าดู ผมจึงดูท่าทีไปก่อน ถ้ามีอะไรมาจริงๆค่อยว่ากันทีหลัง

    กลัวเหรอครับ? ไม่ต้องกลัว มันเป็นเพียง ทริค นิดๆหน่อยๆ คราวนี้เสียงมันอยู่ข้างๆเตียงนี่เอง ผมตัดสินใจหันขวับไปทางที่มาของเสียง ก็พบกับ

    “….เธอ เป็นใครน่ะ? เด็กหนุ่มที่ท่าทางจะโตกว่าชาเรสไม่ก็เฌอบลองนิดหน่อย สวมชุดกั๊กและหมวกสานใบเล็ก เห็นแล้วแปลกตา ก็ดูดีแปลกๆนะครับ แต่ในมือของเด็กหนุ่มผู้นี้ถือสำรับไพ่ไว้ด้วย นักมายากลหรือ?

    ขอแนะนำตัว ผม  Antonio Bonaducci ครับ เป็นนักมายากล คนไข้ที่คุณวิลบอกนั่นล่ะครับ แต่ผมไม่ได้เป็นอะไรนะ เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันที่เรียงกันอย่างสวยงาม แถมเริ่มเล่นลีลากับไพ่แล้ว ดูท่าจะเก่งน่าดู แต่ก็ไม่รู้จะมาไม้ไหนหรอกครับ

    เอ่ออันโทนีโอ ผมเรียกว่าอันโทนี่นะครับ ผม….”

    ผมขอเรียกลุงตามพวกเพื่อนๆของคุณนะครับ อันโทนี่ยิ้มอย่างร่าเริง ดูเหมือนเขาจะรู้อะไรมาเยอะกว่าที่คิดแหะ คนแบบนี้ไม่ได้ป่วยหรอกครับ ดูท่าทีก็รู้ว่าแค่มาหาอะไรสุกๆทำ แต่คงมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ ผมไม่มีอะไรเลย แล้วตอนนี้ก็บาดเจ็บอีกต่างหาก

    เอาล่ะครับ ผมได้ข่าวของคุณมาเหมือนกันนะว่าคุณไม่ใช่หมอธรรมดาๆ ถ้าถามว่าได้ยินจากไหน ก็ที่ใต้ดินไงล่ะครับ ผมไปเล่นกลที่นั้นบ่อยๆ เขาสับไพ่ไปมา มันคงไม่ใช่อาวุธนินจาอะไรเทือกนั้นสินะ เขาจ้องมองมายังผมด้วยแววตาสีเหลืองดั่งอำพันที่สะท้อนแสงจันทร์

    “…ผมขอบอกไว้เลยว่า ผม-เป็น-คน-ธรรมดา ทำไมชอบเข้าใจผิดเรื่อยเลยนะ ผมอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ อันโทนี่ชำเลืองมองผม ปากก็ไม่หุบยิ้มเสียที ดูท่าทางเหมือนจับผิดผม

    งั้นเหรอครับ? แล้วทำไมถึงมีป้ายประกาศล่าหัวคุณตั้ง 300,000 ดอลล่าอยู่ในเมืองในเมืองใต้ดินล่ะครับ? แต่ก็นะครับ ไม่มีรางวัลจับตายหรอก วางใจได้ครับ อันโทนี่หัวเราะฮึๆ แล้วหยุดสับไพ่ ผมค่อนข้างตกใจทีเดียวล่ะ นี่ขึ้นราคาตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมแพงเอาการเลยทีเดียว นั่นมันเงินเดือนผมเลยนะ เอ่อเงินจากรับงานในเมืองอื่นะครับ

    ก็แค่เข้าไปเกี่ยวกับพวกมีอิทธิพลนิดหน่อย ทำให้พวกนั้นเสียหน้าบ้าง จับส่งตำรวจบ้าง แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลยนะ คราวนี้ผมจ้องอันโทนี่เขม็ง เพราะเขาเก็บไพ่ไปแล้ว ดูท่าจะเป็นสัญญาณว่าเลิกเล่นได้แล้ว แต่ก็ยังยิ้มกว้างอยู่ดี

    ฮึๆๆๆๆ นั่นล่ะครับ ที่เรียกว่าไม่ธรรมดา ผมรู้ว่าคุณทำอะไรไว้มากกว่านั้น แต่คุณไม่ได้เป็นคนไม่ดี ผมจึงมาเตือน ว่าพวกเขาเริ่มตามหาคุณจริงจังแล้ว ระวังตัวคุณไว้ครับ อันโทนี่กระซิบเสียงแผ่วเบาข้างๆหูผม มันชัดเจนมากทีเดียว ผมไม่ได้กลัวพวกนั้นหรอก ผมชินชาเสียแล้ว เดี๋ยวก็กลับไปอีกตามเคยล่ะ

    ดูคุณไม่กลัวเลยนะ? อันโทนี่เลิกคิ้วสูง ท่าทางแปลกใจไม่น้อยจะให้บอกว่าชินแล้วก็แปลกๆสินะครับ แต่มันเป็นส่วนนึงของชีวิตเสียแล้วล่ะครับ เว้นแต่ว่าพวกนั้นจะมาทุอะไรคนที่ย่านนี้ล่ะก็ เรื่องจะไม่จบง่ายๆแนครับ ผมทำได้แต่หัวเราะตอบ อันโทนี่ยิ้มรับและลุกขึ้นยิดตัวตรง

    ในฐานะที่ผมอยากเห็นคนวิเศษอย่างคุณมานาน ผมขอมอบของขวัญนี่แทนกระเช้าผลไม้ล่ะกันนะครับ อันโทนี่ยื่นมือมาให้ผม ผมลังเลชั่วอึดใจก็ยอมจับมือกับเขา แล้วทันใดนั้นตัวของผมก็เบาเหมือนขนนก ยังไม่ทันที่ผมจะแปลกใจเสร็จดี อันโทนี่ก็กระโดดออกไปนอกหน้าต่างพร้อมลากผมออกไปด้วย ผมตกใจแทบสิ้นสติ นึกว่าจะตกลงไปเสียแล้วจากชั้น6ลงไปข้างล่างนี้ แต่ปรากฏว่า

    นี่ผมบินอยู่เหรอ?!” ผมตะโกนด้วยความตกใจ ดีใจ และแปลกใจไปพร้อมๆกัน อันโทนี่เองก็ลอยคว้างอยู่ในอากาศ เขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน และโชว์ลีลาในการอยู่บนอากาศอย่างชำนาญ นี่มันมายากลแน่เหรอเนี่ย?

    เอาล่ะ สนุกไหมครับ? พอก่อนล่ะกันนะครับ เดี๋ยวแผลจะเปิด อันโทนี่ดึงผมเข้าไปในห้องเหมือนเดิม ผมยังตื่นเต้นไม่หายเลยละ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ตอบแทนเขาได้เช่นกัน โดยใช้ทริค

    เอาล่ะ ตาผมบ้างนะ เมือพูดจบผมก็ถือแก้วน้ำขึ้นมา และปล่อยมันลงกับโต๊ะไม้แข็งๆ ทำให้ขอบแก้วมีรอยร้าวและชิ้นส่วนแตกหายไปเล็กน้อย อันโทนี่ใจจดใจจ่อกับการแสดงของผมมาก ของจ้องที่แก้วไม่วางตาเลยทีเดียว

    เอาล่ะ ดูที่ขอบแก้วที่เสียหายนี่ดีๆนะครับ ผมหมุนแก้วหนึ่งรอบ รอยร้าวหายไปพร้อมกับใบหน้าประหลาดใจของอันโทนี่ หมุนรอบที่สองชิ้นส่วนที่หายไปกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง คราวนี้อันโทนี่ลุกจากเก้าอีกแล้วเอาหน้าเข้ามาประชิดแก้ว แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นเสียเต็มประดา ปากฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆที่ได้เห็นมายากลล้ำเลิศ

    ทำได้ไงครับ? อันโทนี่หันมาทำตาลุกวาว ดูท่าทางตื่นเต้นอย่างมากจริงๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักมายากลที่เสกให้คนอื่นลอยได้จะแปลกใจกับทริคของผม

    ทริคน่ะ บอกกันไม่ได้หรอก ผมหัวเราะนิดๆให้ อันโทนี่ทำหน้าผิดหวังหน่อยๆ แล้วก็ลุกขึ้นมายืดตัวตรงอีกครั้ง

    คุณไม่ธรรมดาจริงๆด้วย ผมต้องไปล่ะ คราวหลังผมจะมาอีก ไว้คุณหายเมื่อไหร่ผมจะมาเล่นกลให้ดูจนคุณติดใจแน่นอน อันโทนี่พูดพลางเดินไปเปิดประตูกำลังจะไปอยู่ร่อมร่อแล้วผมจึงพูดขึ้นว่า

    ติดใจตั้งแต่ประตูเปิดแล้วครับ ผมหันไปส่งยิ้มให้ อันโทนี่เองก็หันมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มตอบอย่างร่าเริง แล้วเดินออกไปก่อนที่จะมีเสียงประตูปิดเบาๆตามมา

    เอาล่ะจะได้อ่านต่อเสียที และผมก็ได้เวลาอ่านนิยายต่อไป ก่อนที่จะดับไฟ และนอนหลับลงอย่างสบายใจเป็นที่สุด

    TBC.

    จบกันง่ายๆงี้เร้อออออออออ!! จบง่ายเกินไปแล้ววววว ต้องขออภัยเจ้าของตัวละครอันโทนี่ด้วยค่าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×