คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Confused ?วิลสตันเป็นเหตุ
? Confused ?
[4]
“วิล! ตอนนี้คุณต้องห้ามทำอะไรอื่นนอกจากอยู่ในความดูแลของดร.เล็คเตอร์” เสียงแจ็คนั้นดังออกมาจากโทรศัพท์ในห้องทำงานของดร.เล็คเตอร์เสียจนวิลต้องยื่นมันให้ห่างจะแก้วหู ในตอนนี้ทั้งวิล ทั้งดร.เล็คเตอร์ และดร.บลูม เตรียมตัวที่จะออกไปตามหาวิลสตัน ทั้งๆที่อากาศภายนอกนั้นทั้งหนาวเหน็บและชื้นจากฝนที่ตกเมื่อวันก่อน แต่นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทั้งสามจะออกไปตามหามัน
“แจ็ค! สุนัขของผมหายไปทั้งที ไหนบอกจะดูแลให้ไง?? แค่ออกไปตามหาวิลสตันไม่ทำให้ผมสติแตกหรอกนะ!!” วิลวางสายอย่างแรงโดยไม่ฟังแจ็คพูดให้จบก่อน แต่ก็ลืมไปเสียสนิทว่าที่เขวี้ยงลงไปอย่างแรงนั้นหาใช่โทรศัพท์ของเขาไม่
“ที่จริงให้ชั้นติดต่อให้ จิมมี่ เบรน แล้วก็แคทส์ช่วยให้ก็ได้นะ” บลูมยังคงกังวลเรื่องอาการของวิลอยู่ถึงแม้จะมีดร.เล็คเตอร์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดก็ตาม แถมบางครั้งยังดูแลเกินหน้าที่อีกเสียด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าวิลจะปกติตลอดเวลาเมื่ออยู่โลกภายนอก
“วิล ถ้าคุณมีอาการไม่ปกติเมื่อไหร่ แม้เพียงซักนิดเดียวล่ะก็ ผมจะพาคุณกลับแล้วให้คนอื่นช่วยหาแทน เพื่อตัวคุณเองและวิลสตันด้วย เข้าใจนะครับ” ดร.เล็คเตอร์ ก้มตัวเล็กน้อยเพื่อมองวิลที่ก้มหน้ามองพื้นอยู่ เพราะเขานึกว่าจะถูกนายแพทย์ดุเรื่องเสียมารยาทนั่นเสียแล้ว
“ครับ ผมจะระวังล่ะกัน” ดร.เล็คเตอร์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปเปิดประตูคลินิกให้ทั้งสอง แต่ก็ไม่ลืมที่จะก้มลงกระซิบข้างหูของคนไข้ร่างเล็กว่า
“กลับมาเมื่อไหร่ เตรียมโดนทำโทษเรื่องเขวี้ยงโทรศัพท์ของผมได้เลย”
.
.
.
“โอเค ตอนนี้ตำรวจในท้องที่กำลังหารูปตามกล้องวงจรปิดอยู่ ไม่ต้องห่วงนะ” บลูมยื่นมือจากที่นั่งเบาะหลังมาบีบไหล่วิลเบาๆ วิลกระตุกยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย แต่ภายในใจไม่ได้ใจเย็นลงมากมายนัก ดร.เล็คเตอร์ซึ่งขับรถอยู่นั้นนิ่งเงียบเนื่องจากต้องใช้สมาธิกับการขับรถขณะที่ฝนตกหนัก
“ขอโทษนะครับที่ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วยังต้องให้เบนซ์คันงามนี่มันตากฝนเสียอีก” ดร.เล็คเตอร์ และ ดร.อลาน่า หัวเราะเล็กน้อย “ไม่หรอกน่า ตำรวจที่ว่าเนี่ยก็เพื่อนๆชั้นทั้งนั้น เขารักหมาด้วยน่ะ ไม่งั้นชั้นไม่กวนหรอก” บลูมพูดปลอบใจ วิลเองก็พยายามไม่คิดมากไปกว่านี้
“ที่ปัดฝนเอาไม่อยู่เลยนะเนี่ย” ดร.เล็คเตอร์ นั่งบีบพวงมาไลหนังเบาๆ ซึ่งรอให้รถข้างหน้าเคลื่อนตัวไปทุกๆ20นาทีต่อ3เซนติเมตร ภายในรถเงียบสนิทเป็นเวลาค่อนข้างนาน แต่แล้วเสียงข้อความจากมือถือ ของบลูมก็ดังขึ้น
“…วิล!! มีคนส่งรูปถ่ายวิลสตันมาให้แล้ว!” บลูมยื่นมือถือให้วิลดู ซึ่งเป็นรูปวิลสตันวิ่งไปตามถนนสายหนึ่ง ตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน ดร.เล็คเตอร์เหลือบมองซักครู่ถัดมาก็เลี้ยวรถเข้าซอยๆหนึ่งทันที จนวิลและบลูมที่ไม่ได้ตั้งตัวต้องถูกเหวี่ยงตามแรงของรถ
“ท ทำอะไรครับเนี่ย?” วิลลูบหัวตัวเองไปมาเพราะเพิ่งกระแทกกับกระจกรถเมื่อซักครู่นี้เอง รถเบนซ์ของดร.เล็คเตอร์แล่นมาตามซอยเล็กๆซึ่งไม่ต้องเสียเวลารอรถติด ไม่นานนักทางออกของซอยก็มาถึงถนนสายเล็กแห่งนึง ตามข้างทางมีร้านอาหารและขายดอกไม้ มันเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวนั่นเอง
“ผมเห็นในรูปถ่ายนั่นมีเก้าอี้ร้านกาแฟแห่งนึง น่าจะเป็นที่นี่นะครับ” ดร.เล็คเตอร์ตอบเสียงเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องจำสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ทุกๆอย่างสิ แต่อลาน่าก็มองหน้ากับวิลแบบงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะหาที่จอดรถข้างๆตู้โทรศัพท์ อลาน่าไม่ลืมพกร่มมาด้วยแต่ก็ตามประสาผู้หญิงที่ร่มต้องเล็กและมีลวดลายที่น่ารัก ทำให้อลาน่าอดขำไม่ได้ที่เห็นชายชาตรีสองคนเดินถือร่มลายกุ๊กกิ๊กเดินไปไหนมาไหน
“แปลกจัง ไม่มีคนออกมาเดินเท่าไหร่เลย” วิลเดินไปรอบๆถนนเมื่อเขาและดร.เล็คเตอร์เก็บร่มไว้ในรถแล้ว ซึ่งอลาน่าทำปากเบ้เพราะไม่ได้เห็นสองหนุ่มถือร่มลายน่ารักๆอีก
“คงเป็นไอ้นี่ล่ะมั้งครับ” ดร.เล็คเตอร์ชี้ไปที่โทรทัศน์ภายในร้านกาแฟแห่งนึงซึ่งกำลังฉายข่าวพายุที่ค่อนข้างจะรุนแรงกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในตัวเมืองแห่งนี้ ประกาศให้ทุกคนอยู่แต่ในตัวบ้านและเตือนเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ วิลและอลาน่าหันมามองหน้ากัน เป็นสัญญาณว่าต้องรีบหาวิลสตันเจ้าตัวปัญหาให้เร็วที่สุด
“…แยกทางกันหาไหม?” อลาน่าเสนอความคิดและหมุนร่มไปมาเป็นเชิงถามสองหนุ่มว่าไม่เอาร่มแน่นะ? วิลพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับดร.เล็คเตอร์ “โอเค งั้น…วิล คุณไปกับดร.เล็คเตอร์นะ” อลาน่ายิ้มเล็กน้อยโดยมีความหมายแฝง วิลทำท่าจะคัดค้านที่ต้องให้สุภาพสตรีไปตามลำพังแต่อลาน่าก็ขัดเสียก่อน
“ดร.เล็คเตอร์จะได้ดูแลคุณไงล่ะ แล้วอีกอย่าง บางทีชั้นคงทำงานสะดวกขึ้นถ้าไม่มีผู้ชายไปด้วย” อลาน่าเดินเร็วๆหายไปในสายฝนพร้อมกับร่มสีชมพูเด่นสะดุดตา วิลและดร.เล็คเตอร์จำต้องเดินตากฝนตัวเปียกโชกด้วยความเรื่องมากนั่นเอง
“วิลสตัน วิลสตัน วิลสตัน!” วิลตะโกนไปวิ่งไปตามถนนที่บัดนี้ฝนตกหนักมากขึ้นและท่อระบายน้ำเริ่มที่จะระบายไม่ทันจนเกิดน้ำขังและท่วมขึ้น ในตอนนี้น้ำได้ขึ้นมาจนถึงข้อเท้าแล้ว ดร.เล็คเตอร์วิ่งเหยาะๆตามวิลไปทุกๆที่โดยไม่เอ่ยปากบ่นหรือเหนื่อยซักคำ และพยายามถามคนตามถนนซึ่งเหลือน้อยลงทุกที “เห็นสุนัขตัวสีน้ำตาลตัวประมาณนี้บ้างไหมครับ?” และทุกคนจะตอบตรงกันว่าไม่เห็น บางคนก็แนะให้เลิกหาเสียแล้วกลับบ้านก่อนที่พายุจะมา
“วิลสตัน…แกหายไปไหนนะ?” วิลเงยหน้ามองฟ้าสีดำทะมึนที่เทฝนลงมาไม่ขาดสาย วิลและดร.เล็คเตอร์ต้องเข้าไปนั่งพักใต้กันสาดของร้านขายของที่ระลึกแห่งนึง เจ้าของร้านเห็นดังนั้นก็อดสงสารไม่ได้ จึงเชิญให้เข้ามาดื่มชาร้อนก่อน แต่ไม่ลืมให้เช็ดเท้าด้วย
“น่าสงสารนะเนี่ย เอ้อ ตอนนี้เขามีคนร้ายลักลอบเอาหมาไปขายเมืองจีนอยู่นะ ระวังๆหน่อยล่ะกัน” เจ้าของร้านซึ่งเป็นคุณลุงร่างท้วมๆท่าทางใจดีได้เตือนเรื่องคนร้ายขโมยสุนัข วิลใจเสียขึ้นมาดร.เล็คเตอร์ได้แต่บีบไหล่วิลเบาๆเพื่อปลอบขวัญ
“แล้วคุณสองคน…ชีวิตคู่ที่แตกต่างเป็นไงมั่งล่ะ?” วิลและดร.เล็คเตอร์ขมวดคิ้วและมองหน้ากัน เจ้าของร้านหัวเราะก๊าก นั่นยิ่งทำให้ทั้งสองงงขึ้นไปอีก “หมายถึงแตกต่างจากคนอื่นน่ะ ก็คุณสองคนไม่ได้…เป็นคู่กันเรอะ?” ดร.เล็คเตอร์เลิกคิ้วสูง ส่วนวิลที่กำลังจิบน้ำชาถึงกับกลืนชาร้อนๆเข้าไปอึกใหญ่
“หา? เอ่อ…ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันนะ เพื่อนกันเฉยๆครับ” วิลลนลานนั่นทำให้เจ้าของร้านหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น ดร.เล็คเตอร์อดยิ้มไม่ได้ที่ได้เห็นท่าทีเช่นนั้นของวิล
“เพื่อนสนิทสินะ อืมๆ เข้าใจล่ะ” เจ้าของร้านพยักหน้าหงึกๆอย่างไม่จริงจังนัก ไม่นานนักวิลก็ขอตัวไปตามหาวิลสตันต่อ ในตอนนี้น้ำได้ขึ้นมาถึงเข่าแล้วซึ่งน้ำนี้ทั้งเย็นและแรง ต้องรีบหาต่อให้เร็วที่สุด และแล้วอลาน่าก็ส่งข้อความมาหาเนื่องจากถ้าโทรสนทนากันจะไม่ได้ยินเสียงนั่นเอง
“ชั้นเห็นรถคันหนึ่ง หลังรถมีวิลสตันอยู่ กำลังมุ่งหน้าไปทางที่คุณเดินไป” วิลอ่านให้ดร.เล็คเตอร์ ทั้งสองจึงวิ่งไปดูที่ถนนเล็กๆซึ่งพอจะมีรถผ่านไปมาบ้าง และแล้วก็พบกับรถกระบะคันนึงแล่นมาด้วยความเร็วผิดปกติ หลังรถมีกรงใส่สุนัขอยู่2-3กรง ภายในมีสุนัขที่ถูกจับมา และหนึ่งในนั้นมีวิลสตันด้วย มันมองตามวิลซึ่งรถเพิ่งผ่านหน้าพวกเขาไปหยกๆ
“นั่นไง!! ต้องเป็นโจรขโมยที่ลุงคนนั้นบอกแน่ๆ!!” วิลวิ่งตามรถไปทันที ดร.เล็คเตอร์คิดว่าคงวิ่งกลับไปเอารถไม่ทันแน่ จึงวิ่งตามไป เจ้าหัวขโมยนั่นเห็นจากกระจกมองหลังก็เห็นคนวิ่งตามจึงพยายามบีบแตรไล่รถที่ติดข้างหน้าให้ไป แล้วพยายามแทรกไปตามช่องว่างที่เว้นไว้
“หยุดนะ นี่FBI !!” วิลวิ่งเข้ามาในพื้นที่รถติด รถกระบะคันนั้นพยายามหนีออกไปเรื่อยๆ เจ้าคนร้ายเมื่อเห็นวิลชูป้ายFBI ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร มันจึงหยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วเล็งไปยังวิลก่อนจะขว้างไปอย่างแรง คนในรถบริเวณนั้นต่างมองดู บางคนก็เปิดกระจกมา ไม่ก็ลงจากรถมาดูอาการวิล ซึ่งตอนนี้ขวดนั่นโดนขว้างมาที่ศรีษะวิลเต็มๆ เลือดค่อยๆไหลออกมาเป็นทางยาวไม่หยุด วิลล้มลงไปนั่งกับพื้นเพราะมึนงงและเจ็บปวดที่แผล คนเริ่มมุงดูวิลและยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บ้างแต่ก็กลัวเลือดไม่มีใครกล้าเช็ด บ้างก็โทรเรียกรถพยาบาลบ้าง ตำรวจบ้าง
“วิล! เป็นอะไรไหมครับ?” ดร.เล็คเตอร์วิ่งเข้ามาดูอาการวิลและคว้าผ้าเช็ดหน้าของใครซักคนในกลุ่มคนมุงดูมาซับเลือดให้ ก่อนที่จะพยุงวิลให้ไปนั่งใต้ร่มของร้านขายน้ำแถวนั้น วิลเม้มปากแน่นเพราะเริ่มเจ็บที่แผล แต่ก็ยังดึงดันจะตามรถคันนั้นให้ได้
“วิล คุณนั่งรอตรงนี้เถอะ แล้วผมจะกลับมา” ดร.เล็คเตอร์เดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยถอดเสื้อโค้ทคลุมให้วิลเหลือแต่เสื้อกั๊กสีดำที่ทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด จนตอนนี้มันเปียกโชกด้วยหยาดฝนที่เทลงมาหนักมากขึ้น น้ำเพิ่มระดับสูงจนรถบริเวณนั้นขยับไม่ได้ซักมิลเดียว
“ปั๊ดโธ่!! ไปสิเว้ย!” โจรขโมยสุนัขบีบแตรแล้วบีบแตรอีกก็ไม่ขยับ เขาทั้งกลัวและโมโหถึงขีดสุด ถ้าเขาส่งสุนัขที่จับมาไปให้พ่อค้าจีนเถื่อนไม่ได้ เขาต้องไปอยู่ในคุกตามเดิม วิลสตันซึ่งอยู่หลังรถเมื่อเห็นเจ้าของถูกทำร้าย มันก็เห่าโจรและกระแทกกรงอย่างไม่หยุดหย่อน “เว้ย!! หยุดเห่าซะทีสิวะ!”
“ก๊อกๆ!” ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะกระจกด้านคนขับ เจ้าหัวขโมยสะดุ้งโหยง ภายนอกไม่เห็นอะไรได้มากนักเพราะเม็ดฝนที่ไหลรินลงมาบดบังทรรศณียภาพจนสิ้น แต่ก็พอเห็นเงารางๆว่ามีเงาคนยืนอยู่จริงๆ เขากลัวว่าจะเป็นFBI ตำรวจ หรืออะไรก็ได้ที่จะมาจับ เขาจึงไม่เปิดและภาวนาว่าขอให้รถขยับเสียที
“ก๊อกๆๆ!” คราวนี้เสียงดังมากขึ้นเจ้าโจรใจสุนัขผู้นี้กลัวจนทนไม่ไหว จึงเขียนที่กระจกที่เป็นฝ้าว่า ‘ออกไปให้พ้น!’ และคำด่าที่หยาบคายตามมา เสียงเคาะกระจกหายไป เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย คิดว่าคงไม่ใช่ตำรวจ คงเป็นคนแถวนั้นที่เห็นหมายืนเปียกฝนในกรงแล้วสงสารล่ะมั้ง ช่างโลกสวยเสียเหลือเกิ๊น~~~~~ เขาผิวปาก
“เพล้ง!!” แล้วจู่ๆกระจกรถก็แตกเป็นเสี่ยง เจ้าหัวขโมยร้องสบถดังลั่นด้วยความตกใจและกลัวเกรง ปัสสาวะแทบจะราดรดกางเกงยีนส์ตัวเก่าคร่ำคร่า มือปริศนาที่ตอนนี้เหมือนดั่งเงื้อมมือซาตานจะมาเอาชีวิตได้พุ่งเข้ามาจับที่คอเสื้อของเขาและกระชากลงไปยังพื้นถนนที่บัดนี้น้ำท่วมขังสูงราวๆเหนือเข่าได้แล้ว เขาตกลงมาในน้ำดังตู้มใหญ่ น้ำสาดกระจายไปทั่วบริเวณ โชคดีที่คนแถวนั้นลงมาจากรถแล้วเข้าไปหลบในร้านอาหารตามคำแนะนำของวิทยุเพื่อรอน้ำลด
“เฮ้ย!! ก แกเป็นใคร? ตำรวจเรอะ?” มันถามขณะที่สำลักน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย มือแกร่งก็จับที่คอเสื้อเขาอีกครั้งและโยนเขาให้ไปกระแทกกับรถกระบะ ทั้งเจ็บทั้งมึนแต่ก็เห็นหน้าคนที่เป็นยมบาลนี่แล้ว มันตาเหลือกด้วยความกลัวและดิ้นกระสับกระส่ายไปมา
“เสียใจด้วย ที่ไม่ใช่ตำรวจผู้ใจดี” ดร.เล็คเตอร์จ้องเขม็งที่ดวงตาสั่นระริกของโจรผู้น่าสงสาร แววตาของฆาตรกรนั้นดำมืดและน่าขนพองสยองเกล้า ดร.เล็คเตอร์ไม่เคยโกรธใครได้ถึงเพียงนี้จนต้องเผยจิตใจด้านฆาตรกรเลือดเย็นและอำมหิตออกมา
“ย อย่าทำอะไรชั้นเลยนะ อยากได้อะไรชั้นจะหามาให้เลย ปล่อยชั้นไปเถอะ เอาไปให้ตำรวจก็ได้” เจ้าหัวโขมยเริ่มร้องไห้คร่ำครวญขอชีวิต ดร.เล็คเตอร์กระตุกยิ้มที่มุมปากเหมือนปีศาจเห็นเครื่องสังเวยตะเกียกตะกายหนีเอาตัวรอด
“ชั้นไม่ฆ่าหรอก คุณมันไม่มีค่าพอให้ทำเป็นอาหารเย็นหรอก” ดร.เล็คเตอร์ค่อยปล่อยมือออกจากคอเสื้อที่ยับย่นพอๆกับหน้าตาเจ้าหัวโขมยที่ร้องไห้เพราะความกลัวตาย มันขอบคุณดร.เล็คเตอร์ใหญ่ แต่คุณหมอก็ไม่ได้ใจดีถึงเพียงนั้น นายจิตแพทย์ผู้แสนจะอ่อนโยนลากเจ้าโจรกระจอกผู้น่าสมเพชไปที่หลังรถซึ่งมีสุนัขถูกขังกรงมากมาย
“จ จะทำอะไรครั…?!” หัวขโมยยังไม่ทันจะได้กล่าวอำลาหรือเขียนพินัยกรรม ดร.เล็คเตอร์ก็เปิดกรงที่มีสุนัขตัวใหญ่ รวมถึงวิลสตัน แล้วจับโจรยัดเข้าไปในกรงและเดินออกมาอย่างช้าๆท่ามกลางสายฝนโปรยปรายและเสียงร้องอันเจ็บปวดโหยหวนของหัวขโมย ไม่นานนักวิลสตันก็วิ่งตามดร.เล็คเตอร์มาโดยปล่อยให้หัวโขมยผู้โชคดีได้สังสรรค์กับสุนัขผู้น่ารักทั้งหลาย
“วิลสตัน!!” วิลโผเข้ากอดสุนัขแสนรักโดยไม่ห่วงบาดแผลหรืออะไรทั้งสิ้น คนที่ยืนอยู่แถวนั้นต่างเอ็นดูในภาพความน่ารักของทั้งสอง บางคนถึงกับถ่ายรูปอัพลงเฟส ‘ตำรวจหนุ่มได้กลับมาพบกับเพื่อนผู้ซื่อสัตย์อีกครั้ง’ และคนกดไลค์20กว่าคนภายใน2นาที
“ดร.เล็คเตอร์… คุณไปทำอะไรมาเหรอ?” วิลเงยหน้ามามองนายแพทย์โดยที่รอยยิ้มยังไม่จางหายไป แต่เมื่อเห็นสภาพดร.เล็คเตอร์ตอนนี้ก็ต้องตกใจเล็กน้อย เพราะนอกจากจะเปียกโชกจนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกทะลุเห็นเนื้อหนังแล้ว ผมของดร.เล็คเตอร์ยังยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง
“ดร.อลาน่าคงถามแบบเดียวกัน ผมจะไปเล่าให้ฟังทีหลัง” และตามคาดเมื่ออลาน่าวิ่งมาถึงก็หอบเล็กน้อยก่อนจะถามว่าไปทำอะไรมา ทั้งวิล และนายจิตแพทย์หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกลับบ้านของดร.เล็คเตอร์ แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไป4โมงเย็นแล้ว อลาน่าจึงขอตัวกลับพร้อมพาวิลสตันไปด้วยและกำชับดร.เล็คเตอร์ให้ดูแลวิลให้ดี เพราะแผลที่หัวถึงจะไม่มากแต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี ดร.เล็คเตอร์รับปาก วิลอาบน้ำก่อนตามด้วยนายแพทย์ ก่อนจะลงไปทานอาหารเย็นซึ่งเป็นปลาซาบะอบซอสโชยุ ง่ายๆเบาๆ
“นั่นข่าวโจรที่โขมยวิลสตันไปนี่ครับ” วิลชี้ไปที่โทรทัศน์จอใหญ่ในห้องทานอาหาร ดร.เล็คเตอร์อยากจะตำหนิวิลที่เคี้ยวอาหารยังไม่หมดปากแต่พูดเสียก่อน เมื่อหันไปมองก็เห็นหน้าเจ้าหัวขโมยเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ฟกช้ำดำเขียว ตามเนื้อตัวก็เช่นกัน และกำลังร้องไห้จ้าเป็นเด็กถูกแม่ตี ท่าทางสาหัสอยู่ ดร.เล็คเตอร์ อดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้
“ฝีมือคุณล่ะสิ” วิลเหลือบมองพร้อมยักคิ้วอย่างเป็นท่าทีว่า ‘คิดไว้แล้วเชียว’ เมื่อดร.เล็คเตอร์เห็นดั่งนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย “ผมเปล่า วิลสตันและผิงเพื่อนต่างหาก” วิลหัวเราะออกมา และพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะทานปลาต่อ ในข่าวยังบอกว่าสุนัขทุกตัวถูกปล่อยกลับคืนเจ้าของหมดแล้ว
.
.
.
“วันนี้เหนื่อยสุดยอดเลย~~~” วิลพูดพร้อมกับบิดขี้เกียจเมื่อขึ้นมาบนห้องนอนของดร.เล็คเตอร์แล้วเพื่อเตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากล้างจานและแปลงฟันแล้ว ดร.เล็คเตอร์เดินตามเข้ามาในห้อง และปิดไป แต่ยังคงมีแสงเรืองรองจากโคมไฟหัวเตียงอยู่ ข้างนอกยังคงฝนตก แต่ก็ไม่หนักเท่าตอนกลางวันแล้ว
“ปิดไฟนอนเลยไหมครับ?” วิลขึ้นไปนั่งบนเตียงและถอดแว่นออก และกำลังจะเอื้อมมือไปปิดไปหัวเตียง แต่ก็ถูกรั้งไว้จากมือแกร่งของดร.เล็คเตอร์ วิลหันมามองอย่างงงๆ แต่ก็พบว่าดร.เล็คเตอร์ทำสีหน้าจริงจังเล็กน้อย
“ลืมไปแล้วหรือครับ? ว่าคุณต้องถูกทำโทษเรื่องเขวี้ยงโทรศัพท์ผมก่อนน่ะ” ดร.เล็คเตอร์คว้าข้อมือของวิลมาทั้งสองข้าง วิลตกใจกับการกระทำของดร.เล็คเตอร์ เขาพยายามดิ้นให้หลุดแต่นายแพทย์แข็งแรงกว่า ดร.เล็คเตอร์ผลักวิลให้นอนลงไปจมกำเตียงนุ่ม แววตาของวิลเริ่มหวาดกลัวระคนตกใจ
“ด ดร.เล็คเตอร์??” วิลหน้าแดงเพราะเขินอายที่ใบหน้าของดร.เล็คเตอร์เข้ามาใกล้มากจนผมของคุณหมอปรกลงมาที่หน้าผากวิล และกลิ่นหอมหวนของสบู่ก็เกือบทำให้วิลเคลิบเคลิ้มไป แต่ก็ยังมีสติพอที่จะดิ้นรนให้หลุดออกจากพันธนาการ แต่ก็ไม่เป็นผล
“อยู่นิ่งๆครับ ถ้าสำนึกผิดล่ะก็ ต้องยอมรับผิดดีๆสิครับ” ดร.เล็คเตอร์โน้มตัวลงมาใกล้เพื่อกระซิบเสียงแผ่ว ลมที่เป่าออกมาจากปากนั้นกระทบกับประสาทสัมผัสอันรวดเร็วของวิล วอลสะดุ้งและหน้าแดงก่ำกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ตอนนี้เขาไม่มีแรงหนีแล้ว
“ย อย่า…ดร.เล็ค ต ?!” ริมฝีปากอันนุ่มนวลของวิลถูกกดทับลงมาและจูบอย่างดูดดื่ม วิลเบิงตาโพลงด้วยความกลัวและตระหนกตกใจที่สุด ไม่คิดว่าดร.เล็คเตอร์จะทำเช่นนี้กับเขา นายแพทย์บีบข้อมือวิลแน่นขึ้น และจูบอย่างโหยหา วิลเริ่มหายใจไม่ทันและหลุดร้องครางเสียงสั่นเครือแต่แผ่วเบา
“อ อื้อ.. อึ้ก! ” ถึงจะกลัวและเสียใจแต่ก็อดไม่ได้ที่วิลจะรู้สึกถึงความต้องการมากกว่านี้ วิลเริ่มหมดเรี่ยวแรง สติพร่าเลือน จมดิ่งสู่ภวังค์แห่งความโหยหาไม่มีที่สิ้นสุด
“รักคุณนะ วิล”
TBC.
ฟรั้กกริ้วววววว!! อุฮิ้วๆๆ ซีรี่ย์ตอนที่สองจะมาล่ะค่า~~~~ ขอวิ่งลงไปเปิดทีวีดูก่อน 5555 ตอนนี้รู้สึกตัวเองแต่งอะไรไปกันนะ? มึนงงเหมือนวิลเลยค่ะ
ติดตามหมอและวิลต่อไปนะคะ บอกเลยว่าห้ามพลาด >3<
ความคิดเห็น