ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FINAL FANTASY : Lasciviousness

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่1 ช่วงที่1

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 48


    บทที่ 1



    สีแดงฉานของเปลวไฟ สะท้อนกับเมฆบนนภายามค่ำคืนกลางฤดูใบไม้ร่วง ควันไฟที่ถูกลมพัดเป็นระยะๆ ล่องลอยไปไกลแสนไกลเป็นทางยาว เสียงเหล็กกระทบกันและเสียงตะโกนขู่คำรามใส่กัน บ่งบอกถึงสงครามที่กำลังเกิดขึ้น เลือดสีแดงฉานชโลมอาบไปทั่วพื้นที่ อีกทั้งยังไหลลงสู่แม่น้ำลำธาร มองดูน่าขนพองยิ่งนัก



    “เอาไม้มากั้นประตูไว้! อย่าให้พวกมันผ่านเข้าไปข้างในราชวังได้!”



    เสียงตะโกนของผู้บังคับบัญชาทางทหารของราชอานาจักรใหญ่แห่งหนึ่งแห่งเผ่าHumeตะโกนขึ้น ท่ามกลางวงล้อมของศัตรู



    “หัวหน้า! ไม้กั้นประตูถูกไฟไหม้หมดแล้ว ประตูราชวังเองก็ใกล้จะพังเต็มทีแล้วด้วย!”



    ประตูไม้ขนาดใหญ่เริ่มเอนเอียง ไฟจากลูกธนูของข้าศึกที่ยิงมาเป็นระยะๆ ได้ค่อยๆเผาผลาญประตูใหญ่นี้ทีละน้อย จนกระทั่งมันใกล้จะพังลง



    “พวกเจ้าขวางเจ้าพวกออร์ดไว้ อย่าให้มันผ่านประตูไปได้ อย่าให้มันดูหมิ่นเกียรติของทหารแห่งอนานจักรลินบลัมได้!”



    สิ้นสุดเสียงพูด ผู้บังคับบัญชาวัยกลางคนแห่งราชอานาจักรลินบลัมก็ถูกหอกขนาดใหญ่ของศัตรูแทงเข้าที่ท้อง แล้วลากร่างกายอันอ่อนล้าของเขาไปติดถึงกำแพงปราสาท



    “หัวหน้าบิ๊ก!”



    เหล่าทหารลูกน้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่สามารถผละหน้าที่ป้องกันประตูปราสาทไปจากตรงนั้นได้ ผู้บังคับบัญชาการ “บิ๊ก” ถูกตรึงร่างไว้กับกำแพงปราสาท หอกขนาดยักษ์ที่แทงทะลุหัวไหล่ซ้ายของเขาได้ปักติดแน่นเข้ากับกำแพง ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้ อีกทั้งร่างกายที่อ่อนล้าใกล้หมดสติของเขา ทำให้เขาเริ่มทรุดตัวลงทั้งๆที่หัวไหล่ยังติดอยู่กับกำแพง



    “บิ๊ก! ข้ามาช่วยท่านแล้ว!”



    เสียงตะโกนจากด้านหน้าของบิ๊กดังขึ้น พร้อมกับผู้บังคับบัญชาอีกคนหนึ่ง ซึ่งทะลวงกองทหารของศัตรูออกมาพร้อมกับลูกน้องอีก 3-4 คน



    “ท่านเวจ!”



    เหล่าทหารที่ยืนต้านประตูปราสาทตะโกนขึ้นมาด้วยความดีใจ เมื่อได้เห็นหัวหน้าอีกคนหนึ่งของพวกตนปรากฏตัวออกมา ทะลวงฟันเหล่าศัตรูเสียแขนขาขาดกระเด็นไม่มีชิ้นดี



    “บิ๊ก! นี่ท่าน...ท่านต้องไม่เป็นอะไร!”



    ผู้บังคับบัญชาเวจ สั่งให้ลูกน้องดึงหอกขนาดใหญ่ที่ปักอยู่ที่หัวไหล่ของบิ๊กออก พร้อมกับเข้าไปพยุงเพื่อนรักของตนที่ทรุดลงกับพื้นทันทีที่ดึกหอกออก เวจและลูกน้องรีบตรงไปยังประตูปราสาท เพื่อช่วยต้านเหล่าศัตรูทั้งๆที่ยังพยุงบิ๊กเพื่อนรักอยู่ เหล่าออร์คกว่า10ตัว ณ บริเวณประตูปราสาทต่างล้มตายกันระนาวเมื่อเวจไปถึง



    “ท่านเวจ! ทางด้านหลังปราสาทมีศัตรูเล็ดลอดเข้าไปได้ ทางด้านหน้าที่พวกข้าช่วยกันต้านไว้ ก็เพียงแค่เพื่อกันไม่ให้พวกมันเข้าไปได้มากกว่านี้!”



    ทหารนายหนึ่งรายงานสถานการณ์ต่อหัวหน้าของตน และทรุดลงไปนั่งกับพื้นอันเนื่องมาจากบาดเจ็บจากการต่อสู้ เวจเองหันซ้ายหันขวา แล้วหันไปถามลูกน้องอีกคนหนึ่ง



    “กำลังของพวกเราด้านนอกตอนนี้เหลือเท่าไร!”



    “เกรงว่าจะเหลือไม่ถึงหนึ่งในสี่ครับท่าน กำลังของศัตรูเองดูเหมือนเพิ่งจะลดไปได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้นเอง!”



    เวจขบฟันแน่น ในขณะที่บิ๊กเริ่มได้สติขึ้นมา



    “บิ๊ก! ท่านเป็นอะไรรึเปล่า!”



    “เวจ สั่งให้ทหารทั้งหมดปิดล้อมทางเข้าปราสาทเสียเถอะ เราจะให้พวกมันเล็ดลอดเข้าไปข้างในไม่ได้...”



    ทหารภายนอกปราสาท เริ่มทยอยกันมารวมกันบริเวณรอบๆปราสาท ในขณะที่ศัตรูเองก็ค่อยๆล้อมเข้ามา ทั้งสองฝ่าย ต่างออ่นล้าด้วยกันทั้งคู่ แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่าของข้าศึก ทำให้เหล่าทหารของลินบลัมเข้าขั้นวิกฤต



    “นักบวชของฝ่ายเราไปไหนเสียหมดล่ะ เวจ”



    บิ๊กเอ่ยถามขึ้น ทั้งๆที่ร่างกายของตนย่ำแย่เต็มที



    “คงจะคุ้มกันองค์ราชาอยู่กระมัง ...พวกนักบวชมีความสามารถสูงในการคุ้มกันองค์ราชา คิดว่าไม่น่าจะเกิดอันตรายใดๆกับท่าน...”



    ทันทีที่เวจพูดจบ กำแพงข้างพวกเขาก็ระเบิดออกมาจากด้านใน พร้อมทั้งอัศวินคนหนึ่งกับทหารอีกกลุ่มหนึ่งที่กระเด็นออกมาพร้อมกับแรงระเบิด ทำเอาเหล่าทหารที่ยืนอยู่ ณ บริเวณกำแพงปราสาทในจุดนั้นพลอยบาดเจ็บกันไปด้วย ชุดเกราะสีแดงสนิมอันเต็มไปด้วยเลือดของอัศวินผู้นั้นแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แลเห็นเพียงชุดสีดำที่เขาใส่ไว้ข้างในเพียงเท่านั้น



    “นั่น! ท่านคาเนลนี่!”



    ทหารนายหนึ่งตะโกนขึ้นเมื่ออัศวินคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นอย่างลำบากยากเย็น เหล่าทหารพากันวิ่งไปพยุงเขากับเหล่าทหารที่กระเด็นออกมาด้วย แล้วพามายังหน้าประตูปราสาทที่ทั้งบิ๊กกับเวจยืนอยู่



    “คาเนล! นี่ท่าน...ท่านกับทหารใหม่พวกนั้น!....นี่มันเกิดอะไรขึ้นข้างในกัน!”



    ยังไม่ทันที่คาเนลจะตอบคำถามของเวจ ก็หมดสติไปเสียก่อน ในขณะที่ลมหายใจของเขาแผ่วเบาลงทุกทีๆ ทหารหนุ่มหน้าใหม่คนหนึ่งซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของคาเนล ซึ่งกระเด็นออกมาจากภายในปราสาทด้วยนั้น ค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วบอกกับเวจไปว่า...



    “องค์....องค์ราชาท่าน....ท่านสิ้นแล้ว...”



    เหล่าทหารบริเวณนั้นต่างฮือฮาขึ้นในคำพูดของทหารหนุ่ม ทั้งบิ๊กและเวจต่างตกใจจนหน้าถอดสีกันสิ่งที่ได้ยิน ดาบที่เคยกำแน่นอยู่ในมือได้หล่นลงไปกับพื้น



    “ไม่...จะบ้ารึไง! ทั้งอัศวิน ทั้งนักปราชญ์ นักบวชที่เก่งที่สุดในอานาจักรของเราคอยคุ้มกันองค์ราชาอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะ....”



    บิ๊กกระชากเกราะบริเวณคอของทหารหนุ่มเข้ามาพร้อมกับตะโกนใส่หน้าทั้งๆที่ตนยังบาดเจ็บอยู่ เหล่าทหารเริ่มเสียขวัญเมื่อได้ยินว่าราชาของพวกตนได้จากไปเสียแล้ว



    “องค์ราชาไม่มีวันเป็นอะไรอย่างแน่นอน หากศัตรูที่บุกเข้าไปข้างในเป็นเหมือนดั่งเช่นศัตรูที่ล้อมพวกเราอยู่”



    ทหารหนุ่มอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ในขณะที่ศัตรูที่ล้อมพวกเขาอยู่เป็นวงกว้างนั้น ค่อยๆบุกเข้ามาอย่างช้าๆ



    “แกหมายความว่ายังไง?”



    เวจเอ่ยถามทหารคนนั้น ก่อนที่จะสั่งให้ทหารคนอื่นๆเตรียมพร้อมรับมือกับศัตรู



    “ไอ้พวกที่อยู่ข้างใน มันคือนักรบเวทย์ ผมเห็นมันใช้ดาบจัดการกับเหล่าอัศวินและใช้เวทย์มนต์ดำจัดการกับเหล่านักปราชญ์ทั้งหมด...พวกมัน5คน...เราสู้มันไม่ได้เลย”



    เมื่อได้ยินคำว่านักรบเวทย์ ซึ่งถือเป็นนักรบชั้นสูง อีกทั้งยังมีความสามารถที่เหนือกว่าคนทั่วๆไป ทั้งบิ๊กและเวจก็เริ่มหมดหวังในสงครามครั้งนี้ ด้านหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยศัตรูจำนวนมาก ในขณะที่ด้านหลังเอง ก็มีนักรบเวทย์ของศัตรูอยู่อีก...



    “เหล่าทหารหญิงล่ะ”



    เวจเอ่ยถามลูกน้อง



    “ตอนนี้คงไปกับพวกทหารใหม่ อพยพชาวบ้านไปยังที่หมายแล้วขอรับ”



    ทั้งบิ๊กและเวจต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทั้งคู่ถอนใจแล้วตะโกนสั่งเหล่าทหารทุกนายที่นั่น



    “ทุกคนจงฟัง แบ่งกำลังเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งที่เป็นทหารเก่าให้สู้ตายอยู่กับพวกข้า2คนที่นี่ อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นทหารใหม่ให้รีบตามไปสมทบกับกลุ่มผู้อพยพ ณ ที่หมาย พวกข้าจะเปิดทางให้พวกเจ้าหลุดพ้นไปจากตรงนี้เอง!”



    เหล่าทหารตกใจกับคำพูดของผู้บังคับบัญชา เสียงพูดเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณในขณะที่ศัตรูใกล่เข้ามาทุกทีๆ



    “นี่คือคำสั่ง! หากพวกเจ้ายังเห็นข้าสองคนเป็นหวัหน้าของพวกเจ้า ก็จงปฏิบัติตาม...เราไม่ได้หนี เราไม่ได้ขี้ขลาด แต่เรากำลังจะทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ที่สุด!”



    เหล่าทหารเริ่มมองหน้ากันเอง และเริ่มจัดขบวนรบตามที่พวกตนได้ฝกฝนมาอย่างช่ำชอง ทั้งบิ๊กและเวจเดินไปอยู่หน้าขบวนเพื่อเป็นกำลังหลักและคอยสั่งการเหล่าทหารเก่าที่เคยร่วมกินอยู่และฝึกฝนกันมาเป็นเวลานานหลายปี ส่วนทหารใหม่เอง ก็เริ่มรวมกลุ่มกันเป็นแถวเพื่อที่จะทะลวงออกไปจากแนวรบนี้



    “เหล่าทหารใหม่ทั้งหลาย จงฟัง”



    บิ๊กเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก



    “แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ข้าก็ดีใจ ที่พวกเจ้ามีความกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับสงครามที่พวกเจ้ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่เข้าร่วมก็ได้”



    “พวกเจ้าคืออนาคตที่ดีของพวกเรา เป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่พวกข้าทุ่มเทเพาะปลูกขึ้นมาเป็นอย่างดี พวกข้าภูมิใจที่เจ้าเกิดมาเป็นคนของอานาจักลินบลัม...”



    เวจเสริมขึ้นมา เหล่าทหารเก่าที่จัดขบวนรบอยู่นั้น ต่างพูดจาให้กำลังใจกับเหล่าทหารให่เป็นระยะๆ



    “ส่วนพวกเจ้า...”



    เวจเอ่ยขึ้นกับทหารใหม่กลุ่มหนึ่ง ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของคาเนลที่ยังหมดสติอยู่



    “พวกเจ้าแข็งแกร่ง ข้ายอมรับ และยังแข็งแกร่งขึ้นได้อีกเยอะ จงพาคาเนลไปกับพวกเจ้าด้วย เขาเองก็ยังหนุ่มยังแน่น ยังเป็นกำลังที่สำคัญให้กับบ้านเมืองได้อีกนาน…ไปซะ...”





    การรบเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง บิ๊ก เวจ และเหล่าทหารเก่าจัดขบวนรบเสร็จสิ้น รวมทั้งเหล่าทหารเก่าที่ช่วยกันหามคาเนลขึ้นมาจากพื้น พร้อมที่จะทะลวงด่านของศัตรูออกไป



    “ขอให้ทุกคนโชคดี จิตวิญญาณและเกียรติยศแห่งลินบลัมจะไม่มีวันสูญสลายไป...”



    “ตลอดกาล”



    สิ้นสุดเสียงของสองผู้บังคับบัญชาการทางทหารแห่งลิมบลัม ทหารทั้งสองกลุ่มก็เฮเข้าใส่ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×