คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 6th' Lie: Next Morning with the Same Old Kitten
"นี่อีทึก!"
"คุณซีวอนพูดเรื่องอะไรครับ ผมไม่รู้เรื่องที่คุณกำลังพูดอยู่หรอกนะครัย"
ถ้าจะทำเสียงตอแหลขนาดนั้นล่ะก็นะ ..
สาบานให้ฟ้าผ่าเขายังไม่เชื่อเลย!
"ฉันรู้ว่านายรู้ว่าฉันกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่อีทึก นี่มัน..."
"ผมจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะครับว่าคุณซีวอนพูดเรื่องอะไรอยู่ ผมก็บอกแล้วไงครับว่าเพื่อนผมเป็นผู้จัดการของคุณคยูฮยอนมาก่อน แต่เขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเลยอยากให้ผมหาคนมาแทนเขาหน่อย ผมก็เลยเสนอชื่อคุณไปเพราะคิดว่าคุณคงชอบทำงานแบบนี้ มันก็เท่านั้น"
มึงพลาดตั้งแต่คิดว่ากูจะชอบงานนี้แล้วล่ะไอ้ห่า!
เขาอยากจะสบถคำนั้นออกไปใส่ปลายสายนัก หากแต่เขาก็อารมณ์เสีนมากเกินกว่าที่จะตะโกนออกไปเลยได้แต่กดปุ่มวางสายไปแรงๆแทน ซีวอนเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองใส่กระเป๋างกางเกงยีนส์พลางถอนหายใจออกมาเสียงดัง เขาเงยหน้าขึ้นวางศีรษะลงบนพนักพิงโซฟาที่เขาถือวิสาสะเลื่อนตัวขึ้นมานั่งในระหว่างที่เจ้าของห้องขอตัวไปอาบน้ำ ท่านอนที่ผิดธรรมชาติ()ไปสักหน่อยของเมื่อคืนทำให้เขาปวดเมื่อไปทั้งตัวจนต้องเหยียดแขนเหยียดขาออกเพื่อคลายความเมื่อขบ หากแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงติดตรึงอยู่ที่เพดานด้านบนเช่นเดิมเหมือนที่เขาทำมาตลอดคือก่อนที่จะผล็อยหลับไป
เขาไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองตอนนี้เลย
มันไม่ดีต่อหัวใจของเขาเลยจริงๆ
"อาบน้ำหน่อยมั้ยครับ คุณน่าจะใส่เสื้อผ้าผมได้นะ"
ใบหน้าขาวที่ก้มลงมาสบตากับเขาจากด้านหลังโซฟาทำให้เขาเผลอชะงักลมหายใจของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว โจวคยูฮยอนมีรอยยิ้มซนๆอยู่บนเรียวปากแดงๆคู่นั้นเหมือนเดิมนั่นล่ะ หากแต่ผมที่เปียกลู่แบบนั้นกลับทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนลูกแมวจอมซุกซนยิ่งกว่าเก่า ร่างโปร่งกระโดดข้ามพนักโซฟามานั่งข้างเขา และทันทีที่เขารู้สึกได้ถึงไออุ่นของคนที่เขาไม่ได้เจอมานานเกือบสิบสามปีเต็มที่ผิวกายของตน เขาก็ขยับตัวถอยห่างออกไปเบียดชิดที่วางแขนมากขึ้นราวกับไม่อยากให้ความอบอุ่นนั้นมีอิทธิพลกับหัวใจของตัวเองมากเกินไปนัก คุณนักร้องมองตามปฏิกริยาของเขาด้วยดวงตากลมใสแจ๋วคู่นั้นก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆและขยับตัวจามมาเบียดชิดคล้ายอยากจะกลั่นแกล้งให้เขาสูญเสียความเป็นตัวเองมากขึ้น และแบบนั้นน่ะ...ไม่ดีต่อหัวใจของเขาเลยจริงๆ
"ถามหน่ยสิซีวอน"
คำนำหน้าว่ารุ่นพี่ที่หายไปทำให้เขารู้ว่าทุกอย่างไม่ได้เหมือนเมื่อสิบสามปีก่อนอีกต่อไปแล้ว...ไม่มีอะไรสักอย่างเหมือนเดิมทั้งนั้นนั่นล่ะ เขาโตขึ้น...อย่างน้อยนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ...โตขึ้นและไม่เจ็บปวดกับอะไรง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป คยูฮยอนเหลือบสายตามามองเขาเล็กน้อยพร้อมกับขยับตัวเข้ามาเบียดชิดเขามากขึ้นจนทท่อนแขนแนบชิดกัน ผิวกายเย็นๆอันเนื่องมาจากอีกฝ่ายเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปวินาทีหนึ่ง
และเขาก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองที่ข้ามไม่พ้นโจวคยูฮยอนไปได้เสียที
"หายไปไหนมาหรอครับ...ทำไมตอนนั้นถึงได้ย้ายไปต่อไฮสคูลที่อเมริกาล่ะ"
จะไปรู้ได้ยังไงกัน
เรื่องแบบนั้นน่ะ...
"จำไม่ได้แล้ว จะให้ผมจำเรื่องตั้งกว่าสิบสามปีก่อนได้ยังไง"
...........................................................
"ทำหน้าเหมือนแมวกัด เป็นเหี้ยอะไรของมึงขึ้นมาอีกล่ะ วันนี้ไม่ต้องไปดูแลคุณนักร้องรึไง"
ลีฮยอกแจที่กำลังล้างจานงกๆอยู่ในครัวยังไม่วายปากยื่นปากยาวมาจิกกัดเขาแบบไม่ดูฐานันดร()ของตัวเองเลยสักนิด แต่เขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจและจัดการพลิกตัวนอนคว่ำลงกับโซฟาตัวยาวเพื่อปิดกั้นการรับรู้ของตัวเองแทน เขาครางฮอออกมาเหมือนจะบอกให้เพื่อนร่วมห้องที่มีฐานะเป็นเพื่อนกึ่งเมีย()เลิกสนใจเรื่องของเขาเสียที ซีวอนตะแคงหน้าวางแก้มลงบนโซฟาเพื่อดูทีวีที่ตัวเองเปิดทิ้งไว้ หากแต่มิวสิควิดีโอที่กำลังออนแอร์อยู่ก็ต้องทำให้เขาครางฮือออกมาอีกรอบเหมือนไม่อยากจะเชื่อพร้อมกับพลิกหน้าคว่ำลงกับโซฟาเพื่อตัดช่องทางการรับรู้เสียเลย
พอเขารู้สึกตัวก็เอาแต่คอยมาวนเวียนอยู่ใกลๆ
เอาแต่ใจชะมัดเลยจริงๆ!
"เอ้า! ถามก็ไม่ตอบ ไปสารภาพกับคุณนักร้องแล้วโดนเขาหักอกมารึไงครับเพื่อน"
"หุบปากไปเหอะนาาา!"
"ทำเสียงแบบนั้นแสดงว่าจี้ใจดำใช่มั้ยล่าาา"
ลีฮยอกแจปากเก่งกับทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเองนั่นล่ะ หมอนั่นหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องให้กับคำแซวของตัวเองพร้อมกับเดินแท่ดๆมากระโดดขึ้นนั่งอยู่บนแผ่นหลังของเขาที่นอนคว่ำอยู่อย่างไม่รู้ฐานันดร()ของตัวเองแบบสุดๆ เขาได้ยินไอ้เพื่อนกึ่งเมียที่ชอบทำตัวเสมอท่าน()พึมพำบางอย่างออกมาเป็นทำนองว่าไอ้หัวส้มไปทำเหี้ยอะไรอยู่ในทีวี(หัวส้มไหนวะ คุณนักร้องไม่ได้หัวส้มสักหน่อย)ก่อนมันจะคว้ารีโมตมากดโทรทัศน์ปิดไปเสีย และทันทีที่โทรทัศน์หยุดส่งเสียง ลีฮยอกแจก็ดูเหมือนจะกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง หมอนั่นแกว่งขาของตัวเองไปมาด้วยท่าทางเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร
"ดีงจังน้าาา เพื่อนสนิทกูจะมีแฟนเป็นนักร้องดังแล้ว กูต้องเตรียมคำตอบไว้ตอบคำถามของนักข่าวล่วงหน้าป้ะวะ กูจะได้ไปเขียนไว้ก่อ...สัด! มันเจ็บนะไอ้ห่า! ไม่อยากให้แซวก็บอกกันดีๆเซ่! กูต้องใช้ร่างกายทำมาหากินนะมึงรู้มั้ย!"
คนที่ต้องใช้ร่างกายทำมาหากินพูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็ต้องสบถออกมายาวเหยียดเพราะโดนเขาพลิกตัวกลับขึ้นมาตบหัวเข้าให้(และสาบานได้เลย เขาไม่ได้ถนอมแรงกับไอ้ผู้ชายหน้าบ้านๆแบบมันแน่ๆ) แต่ถึงเขาจะเปลี่ยนท่านอนกลับขึ้นมาเป็นนอนหงาย ความผอมของลีฮยอกแจก็ทำให้หมอนั่นยังสามารถนั่งประจำอยู่ในตำแหน่งเดิมของตัวเองได้โดยไม่เซหล่นตกพื้นไป คนที่ตอนนี้นั่งแหมะอยู่บนหน้าท้องของเขาเหลือบสายตามามองค้อนเขานิด
"ว่าไงล่ะ นี่มึงยังไม่ตอบคำถามกูสักข้อเลยนะเชวซีวอน"
ก็เขากำลังคิดหาคำตอบให้ตัวเองอยู่
ตอนนี้น่ะ .. ยังไม่มีคำตอบให้หรอกนะ
......................................................................
"ซีวอน...นี่ซีวอน! ซีวอนอ่าา!"
ต้องเรียกชื่ออยู่กว่าสามรอบ เจ้าของชื่อถึงสะดุ้งเฮือกขึ้นมาและรีบเบือนสายตาไปมองหาคนเอ่ยเรียก แต่เมื่อได้สบตากับคนร้องเรียก เขาก็ถอยกรูดไปแทบจะชิดประตูห้องแต่งตัวของสตูดิโอถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โจวคยูฮยอนเอนคอมองเขาด้วยสายตาเหมือนจะสงสัยว่าเขาเป็นอะไรพลางขยับก้าวตามเข้ามาประชิดตัวเขาอย่างใคร่รู้ ใบหน้าที่หนักเครื่องสำอางไปสักหน่อยเพราะวันนี้ต้องถ่ายรายการทั้งวันเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทั้งตาทั้งปากอย่างน่ารัก แน่ล่ะ...เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันน่ารัก โจวคยูฮยอนเคยน่ารักอย่างไร สิบสามปีต่อมาก็ยังคงน่ารักอยู่อย่างนั้นจนมันน่ากลัว
"ถ่ายเสร็จแล้ว ไปหาอะไรกินกันนะ"
นี่เขายืนเหม่ออยู่ตรงนี้มานานเท่าไรกัน
คนที่เสร็จงานสำหรับวันนี้แล้วหัวเราะออกมาให้กับสีหน้าของเขาที่คงจะถามคำถามนั้นออกไปผ่านแววตาที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวางอยู่ ณ จุดไหนของห้องแต่งตัว มือเย็นเฉียบเพราะไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศข้างหนึ่งเอื้อมมาเกาะกุมเข้าที่มือของเขาก่อนจะกระตุกเบาๆคล้ายอยากจะให้เขาออกมาจากตรงนี้เสียที คุณนักร้องร้องอื้อออกมาอย่างขัดใจเมื่อแรงอันน้อยนิดแบบนั้นไม่สามารถทำให้เขาก้าวตามเข้าตัวไปได้
"ซีวอนอ่าา! เร็วสิ หิวมากแล้วนะ!"
และกว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองต้องทำอะไร
ความรู้สึกเดิมๆก็ทำให้เขาคลี่ยิ้มออกมาและเดินตามแรงลากรั้งไปอย่างเคยชินเสียแล้ว
แบบนี้น่ะ .. ไม่ดีเลยจริงๆ
"ครับๆ ไปแล้วครับ"
เขาขานรับก่อนจะจัดการไล่คุณนักร้องช่างอ้อนที่ชอบมาหาเรื่องให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่เรื่อยให้ไปเปลี่ยนชุดและล้างเครื่องสำอางออกเสีย ระหว่างนั้นเขาก็หมุนตัวเดินออกจากห้องแต่งตัวไปจัดการกับเรื่องที่เขาต้องควรจะจัดการในฐานะของผู้จัดการ ซีวอนปั้นยิ้มให้กับคนนั้นทีคนนู้นทีพร้อมกับโค้งตัวลงปะหลกๆเป็นการบอกลาทีมงานถ่ายทำที่ยังคงวิ่งวุ่นอยู่กับการเก็บของก่อนจะค่อยๆถอยฉากออกมาจากห้องส่งไปรอคุณนักร้องที่บริเวณลิฟต์ด้านหน้า ซึ่งสำหรับคุณนักร้องน่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานขอให้บอกเหอะ...เร็วตลอดอ่ะ!(มันน่าาาาาาจริงๆ) นั่นไงล่ะ!...เขาพูดผิดเสียที่ไหนกัน เดินดุ๊กๆมานู่นแล้ว!
"เสร็จแล้ววว!"
ก็แล้วทำไมจะต้องทำตัวโมเอ้ใส่เขาทุกทีเลยวะ!
ซีวอนรีบเบือนสายตาหนีออกมาจากรอยยิ้มอ้อนๆนั่นเพื่อไม่ให้มันมีอิทธิพลกับความรู้สึกของตัวเองมากเกินไปนักพร้อมกับรีบเอื้อมมือไปกดเรียกลิฟต์เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้(มันก็ไม่ได้แย่ แต่แค่ตะขิดตะขวงใจที่จะยืนจ้องหน้าน่ะ) หากแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนักหรอก เพราะพอเข้ามายืนอยู่ในลิฟต์กันสองคน ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นโจวคยูฮยอนก็ดูเหมือนจะรบกวนทุกประสาทสัมผัสของเขาหนักมากเข้าไปอีก
"นี่ซีวอนอ่า..."
ก็แล้วเขาต้องทำยังไงล่ะ ..
ในเมื่อทุกอย่างที่เขารู้สึกยังคงเต็มไปด้วยโจวคยูฮยอนมากมายไปหมดแบบนี้
"รู้จักร้านอาหารญี่ปุ่นตรงบล๊อคถัดไปมั้ย ที่มีทีรามิทซึอร่อยๆน่ะ"
เขาเหลือบสายตามองคนที่พูดถึงร้านอาหารแต่ดันบอกว่าของหวานอร่อย()นิด และรอยยิ้มแบบนั้นกับดวงตากลมโตคู่นั้นที่จ้องมองมาราวกับตลอดสิบสามปีที่ผ่านมานั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้สักอย่างก็ทำให้หัวใจของเขาปวดหน่วงขึ้นมาจนเผลอขยับตัวถอยห่างออกมายืนอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของลิฟต์
"ไม่รู้จักครับ"
คยูฮยอนนิ่งมองปฏิกริยาของเขาราวกับอยากจะรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อ เจ้าตัวตั้งท่าจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี เขาก็เลยอาศัยจังหวะนั้นก้าวเดินหนีถ้อยคำที่เขาหวาดกลัวว่าจะได้ยินออกมา ซีวอนพยายามก้าวขาให้ยาวที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อหลีกหนีคนที่ครั้งหนึ่งเคยตัวเล็กกว่าเขาอยู่หลายคืบ แต่เขาก็ลืมไปว่าเวลาสิบสามปีนั้นมันนานเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง และตอนนี้โจวคยูฮยอนก็ตัวเล็กกว่าเขาอยู่เพียงไม่กี่เซ็นติเมตรเท่านั้น อีกฝ่ายจึงใช้เวลาไม่นานเหมือนเมื่อก่อนในการวิ่งไล่ตามหลังเขามาให้ทัน
"ซีวอน เดี๋ยวก่อนสิ!"
มือเรียวคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเขาพร้อมกับที่คนร้องเรียกวิ่งขึ้นมายืนขวางหน้าของเขาเอาไว้ด้วยรอยยิ้มแสนซนบนเรียวปาก คยูฮยอนหัวเราะคิกคักออกมาพลางเอนคอจ้องมองเขาด้วยดวงตากลมป๊อกที่เขามั่นใจว่าเจ้าตัวจงใจทำให้มันบ๊องแบ๊วกว่าปกติเป็นแน่(มันรร้ายนักจริงๆพับผ่าสิ!)
"ไปกินอาหารญี่ปุ่นกันนะ"
"แต่ว่า..."
"ไปปปป!"
ถ้าจะให้กูไปตั้งแต่ต้น มึงไม่ต้องชวนกูให้เสียเวลาก็ได้นะ!
คุณนักร้องทำหน้าง้ำก่อนที่เขาจะทันได้พูดประโยคของตัวเองจนจบเสียอีก เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอ้าปากค้างและกำลังทำสีหน้าได้ทุเรศลูกตาดีชะมัด หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก() เพราะเจ้าลูกแมวตัวร้าย(และตัวเดิมด้วย!)จัดการเหมารวมคำตอบของเขาเป็นไปและลากรั้งเขาเดินไปตามทางอย่างเอาแต่ใจเสียแล้ว คยูฮยอนหลุดเสียงหัวเราะออกมาอีกพลางสอดแขนเข้ามาคล้องกับแขนของเขาเอาไว้
"ซีวอนใจดีเหมือนเดิมเลยน้าาา"
มึงบังคับกูไม่ใช่เรอะ!
เขาไม่ได้ตอบรับคำชมนั่นกลับไปให้มันกลับมาเข้าตัว() คุณผู้จัดการคนดีเม้มริมฝีปากนิดเมื่อสุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ยังคงเป็นไปตามที่เจ้าลูกแมวตัวร้ายอยากจะให้เป็นเหมือนเมื่อก่อน...เป็นเขาเพียงคนเดียวที่วิ่งวนไปมาตามที่อีกฝ่ายต้องการมาแบบนี้ตลอดนั่นล่ะ คยูฮยอนพึมพำบางอย่างออกมาเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรได้พลางดึงแขนออกมาจากการคล้องเกี่ยวกับเขา คุณนักร้องตัวบางหันไปควานมือหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าใบใหญ่ที่สะพายอยู่ที่หัวไหล่ข้างหนึ่งของตนก่อนจะเงยหน้ากลับขึ้นมาโดยมีหมวกแก๊ปสีเข้มใบหนึ่งติดมือออกมาด้วย ใบหน้าขาวหันมาส่งรอยยิ้มแสนซนให้เขาพร้อมกับที่เจ้าตัวสวมหมวกลงบนศีรษะของตน...และมันก็ทำให้ซีวอนรู้ตัวว่าเขาไม่ได้ละสายตาออกมาจากร่างโปร่งข้างกายเลยสักวินาที
มันทำให้เขากลัวมากจริงๆ
"มืดแล้ว แต่ใส่หมวกไว้ดีกว่าเนอะ"
โจวคยูฮยอนไม่ได้สอดมือกลับเข้ามาคล้องแขนของเขาเอาไว้เหมือนเดิมอย่างที่เขาคาด หากแต่อีกฝ่ายกลับเกาะเกี่ยวปลายนิ้วของตัวเองเข้ากับแขนเสื้อเชิ้ร์ตของเขาราวกับไม่อยากจะให้เขาหายไปไหนเกินกว่าที่จะเอื้อมถึง คุณนักร้องตัวบางที่ทำตัวเข้าใจยากหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆพลางใช้มืออีกข้างปรับหมวกแก๊ปของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางมากกว่าเก่า
"ผมเคยบอกซีวอนรึยัง"
"บอกเรื่องอะไรครับ"
"ผมคิดถึงคุณนะครับ"
จังหวะการก้าวเท้าเดินของเขาสะดุดไปนิด คนที่ถูกคิดถึงไม่ได้ตอบอะไรกลับในทันที อันที่จริง...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้นของคนที่ฝังตัวลึกอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลาอย่างที่เขาหลอกตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นอย่างนั้น ซีวอนเม้มริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้ง
"ซีวอนเกลียดผมแล้วหรอครับ"
"เปล่า...ไม่ได้เกลียด"
ไม่เคยพูดแบบนั้น .. แม้อยากจะรู้สึกอย่างนั้น
หากแต่ก็ไม่เคย .. เกลียดเลยสักวินาทีจริงๆ
คยูฮยอนหลุดเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆให้กับถ้อยคำของเขา เขาไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังทำสีหน้าแบบไหน เพราะเขาเลือกที่จะมองตรงไปยังทางเบื้องหน้ามากกว่าหันไปสบตากับคนที่เดินอยู่ข้างกาย คนที่เขาไม่เคยเกลียดเลยสักวินาทีอิงศีรษะของตัวเองลงมาที่ไหล่ของเขา ปล่อยให้ผมสีน้ำตาลที่เคลือบไว้ด้วยเครื่องสำอางเพื่อให้มันอยู่ทรงคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มของเขา
"ดีแล้วล่ะ...ไม่เกลียดก็ดีแล้ว"
"..."
"ผมจะทำให้คุณซีวอนรักผมอีก...สัญญาเลยครับ"
.........................................................................
หายไปนานนะสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีข้อแก้ตัวค่ะ= = แต่ต้องยอมรับนิดนึงว่าแต่งเรื่องนี้แล้วไรเตอร์เป๋ไปนิดนิงอ่ะ เพราะคุณคยูเรื่องนี้แบ๊วจัด รู้สึกตะขิดตะขวงในใจยังไงพิกล ตอนวางไว้ครั้งแรกมันไม่ได้แบ๊วแบบนี้ แต่ไปๆมาๆคุณจัดเต็มเลยอ่ะ= = ไรเตอร์ก็เลย .. งงๆนิดหน่อยนะ ไม่เป้นไร .. เอาเปนว่าได้เท่าไหนเท่านั้นละกันนะคะเรื่องนี้ ^^ แล้วคุณคยูที่รักจะทำให้ซีวอนกลับมารักเหมือนเดิมได้มั้ยนะ(จะทำได้ที่ไหนกันล่ะ ก็คุณช่างกล้องเค้ายังรักของเค้าอยู่นี่นาาา^^(สปอยเต็มที่))
เจอกันตอนหน้าจ้า ^^
ความคิดเห็น