คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Memorize Me, Forgetting You
ถ้าความรู้สึกของคนเราสามารถบังคับกันได้ง่ายๆเหมือนกับการเขียนลงกระดาษล่ะก็นะ
คิมคิบอมจะขอแลกกับทุกสิ่งที่มี...
เพียงแค่สิ่งๆเดียว
เขาจะขอเพียงแค่สิ่งเดียว
ขอเพียงแค่...
ให้ความรู้สึกของลีทงเฮไม่เปลี่ยนไป
ขอเพียงแค่...
ให้พวกเขาไม่เปลี่ยนกลายเป็นคนแปลกหน้ากันแบบนี้
ทงเฮยังคงนั่งนิ่งอยู่บนพื้น จ้องมองคนบนโซฟาด้วยสายตาอันแตกร้าวที่เต็มไปด้วยน้ำตา...หายใจไม่ออกเพราะหัวใจบีบรัด...เจ็บปวดเพราะความรู้สึกที่สับสน
"นายไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดอะไรออกมา นายไม่เคยเข้าใจอะไรเลยคิมคิบอม...ไม่เคยรู้อะไรเลย!"
คนที่ไม่เคยรู้อะไรเลยในสายตาของลีทงเฮลุกออกมาจากโซฟาเพื่อตรงเข้ามากดไหล่บอบบางของคนบนพื้นให้เอนราบลงไปก่อนตัวเองจะตามไปทาบทับเอาไว้ แล้วจึงเริ่มจูบอีกครั้ง...จูบหนักๆ...ย้ำชัดๆ...คล้ายอยากจะยืนยันว่าเขารู้
ทงเฮไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เขาเพียงนอนนิ่งให้อีกฝ่ายดูดกลืนลมหายใจของตนออกไป...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความรักมากมาย เขาจึงไม่อยากผละออกห่าง...อยากจะซึมซับมันเอาไว้ให้มากที่สุดก่อนที่มันจะจางหายไป
"ผมรู้ว่าผมพูดอะไร"
คิบอมผละออกมาจากริมฝีปากแสนหวานคู่นั้นอย่างอ้อยอิ่ง ปลายจมูกโด่งคมเกลี่ยไล้ไปตามแนวแก้มเนียนอย่างเผลอไผล สูดดมความหอมหวานอย่าไม่รู้จักพอ
"ผมพูด...ความรู้สึกของผม"
"..."
"ผมพูด...สิ่งที่ผมรู้สึกมาตลอด17ปี"
"..."
"ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ...ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่คิดถึงคุณลีทงเฮ"
หัวใจของลีทงเฮพองฟู...แต่ความรู้สึกกลับยับเยิน เจ้าหญิงตัวน้อยแห่งจางซึนกีหลุดเสียงสะอื้นออกมาพร้อมกับใบหน้าอันเหยเกบิดเบี้ยว น้ำตากลิ้งหล่นลงมาเปื้อนเต็มแก้มอย่างน่าสงสาร แต่เจ้าตัวก็พยายามจะใช้หลังมือปาดเช็ดมันออก ท่าทางที่ช่างไร้เดียงสาและอ่อนแอทำให้คิบอมต้องดึงมือข้างนั้นออกไปตรึงไว้กับพื้นเพื่อใช้ริมฝีปากของตนซับน้ำตาให้แทนที่ ริมฝีปากอุ่นจูบซับน้ำตาบนข้างแก้มนิ่มอย่างทะนุถนอมอ่อนโยนก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำเพื่อแนบแก้มเข้ากับแผ่นอกบาง...ตรงตำแหน่งของหัวใจ
"กลับมาเป็นเจ้าหญิงของผมนะครับลีทงเฮ...แค่แป๊บเดียวก็ได้ ขอให้ผมได้เป็นเจ้าชายของคุณนะครับ"
...................................................................
"ทำไมพี่ชายต้องไปด้วยล่ะ"
"..."
"พี่ชาย...ฮึก...ไม่อยากอยู่กับทงเฮแล้วหรอ"
"..."
"พี่ชายพูดอะไรสักอย่างสิ!...ฮึก...อย่ามาทำตัวแบบนี้กับทงเฮนะ!"
คนตัวเล็กตรงหน้าตรงเข้ามาผลักอกของเขาพร้อมด้วยน้ำตาเต็มข้างแก้ม เจ้าหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้อยู่ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังสนั่นทั่วบ้าน ข้าวของมีราคาหลายอย่างพังยับเยินจนเหลือเพียงแค่ซากไร้ค่า...และคิบอมก็ยืนอยู่ตรงนั้น...ยืนอยู่ท่ามกลางข้าวของที่พังทลายพร้อมกับเลือดที่ข้างแก้มและกระบอกปืนในมือ...ยืนนิ่งงันอย่างเย็นชา...มีเพียงแววตาที่วูบไหว
ทงเฮก้าวเข้ามาใกล้อีกครั้ง แต่คราวนี้พี่ชายคนดีกลับผลักเขาออกอย่างแรงจนเซหงายหลังล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น มันทำให้ดวงตากลมโตช้ำน้ำตาคู่นั้นขยับเบิกกว้างในทันที...และคิบอมก็เห็นมันแตกร้าวเช่นเดียวกับความรู้สึกของตนเอง เขายกกระบอกปืนขึ้น...และที่อีกด้านของลำกล้องก็คือลีทงเฮ
"อย่ามาจับตัวฉันลีทงเฮ"
"พี่ชาย..."
"ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดพ่อของนาย...ฉันเกลียดทุกอย่างที่เป็นนาย!"
"พี่...ฮึก..."
ปัง!!
กระสุนถูกเหนี่ยวไกออกมา และมันก็ฝั่งอยู่บนพื้นห่างจากมือเล็กที่วางแนบอยู่ไม่เท่าไร ทงเฮสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัวก่อนจะเริ่มสะอึกสะอื้นออกมา...โลกของเขากำลังพังทลายลงมา...โลกทั้งใบของเขา
"คิบอม..."
เสียงทุ้มที่ดังมาจากหน้าประตูเรียกสายตาของคนในห้องให้ตวัดไปหาได้ในทันที และตรงนั้นก็ปรากฏร่างของเชวซีวอนที่มาพร้อมกับชายชุดดำสองสามคน...คนของตระกูลเชวที่เร้นกายอยู่ในความมืดมานานหลายปี
"เราต้องรีบแล้ว ถ้านายอยากจะไป...เราต้องไปกันเดี๋ยวนี้"
คิบอมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาหาคนที่เคยเป็นดั่งเจ้าหญิงของเขา...จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา ทั้งๆที่ในหัวใจกำลังตะโกนบอกอะไรมากมาย
"นายน่ะ...ไม่มีค่าอะไรสำหรับฉันอีกต่อไปแล้วลีทงเฮ"
ดวงตาคมสีรัตติกาลเปิดลืมขึ้นมาอย่างเชื่องช้า และภาพแรกที่เขาเห็นอยู่ในความมืดสลัวก็คือใบหน้ายามหลับใหลของลีทงเฮที่นอนตะแคงอยู่อีกด้านของเตียง เขากระชับมือเล็กที่เกาะกุมกันเอาไว้อยู่กลางเตียงแน่นขึ้นเหมือนอยากจะให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ภาพมายา และความอบอุ่นอีกทั้งแรงบีบตอบกลับเบาๆก็ทำให้เขารู้ว่านี่คือความเป็นจริง...ความจริงที่มีคิมคิบอมและลีทงเฮนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันโดยมีมือจับประสานกันไว้อยู่กลางเตียง
ถ้าความเงียบงันแบบนี้ทำให้เขาได้สัมผัสความอ่อนหวานยามหลับใหลของลีทงเฮแบบนี้...เขายอมอยู่ในโลกที่ไม่มีสรรพเสียงใดๆไปตลอดการเพื่อแลกกับการได้เห็นมันในทุกเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อืมมม"
ทงเฮขยับกายขยุกขยิกไปมาครู่หนึ่งก่อนในที่สุดจะยอมแพ้และตัดสินใจเปิดเปลือกตาตื่นในที่สุด ดวงตาคู่นั้นยังแลดูง่วงงุนยามที่สบตากับเขาในครั้งแรก แต่แล้วมันก็เปลี่ยนกลับมาเป็นนิ่งเฉยว่างเปล่า...ไม่แพ้แววตาของใครอีกคนเลย
"อรุณสวัสดิ์ครับ"
"อืม"
ทงเฮไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรจึงตอบกลับออกไปแค่นั้น...ไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ได้อีก เมื่อคืนหิมะตกหนัก...มีพายุหิมะ มันจึงช่วยไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดคืน แต่เขารู้ดี...ถึงแม้จะไม่มีพายุ...ถึงแม้ท้องฟ้าจะปลอดโปร่ง ลีทงเฮก็ไม่อยากให้คิมคิบอมกลับไป...ไม่อยากเลยจริงๆ
มือเล็กบีบกระชับมืออุ่นของคนตรงหน้าแน่นขึ้นราวกับอยากจะย้ำการมีตัวตนของอีกฝ่ายให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะเขารู้ดี....ตอนนี้มือของพวกเขาเอื้อมหากันไม่ถึงอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้จะจับกันอยู่แบบนี้ แต่กลับไม่รู้สึกถึงกันอีกแล้ว...แบบนี้มันน่าเศร้านะ ทงเฮแนบใบหน้าเข้ากับหมอนเพื่อเบนสายตาของตนไปทางอื่นที่ไม่ใช่ดวงตาคมคู่นั้น แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ...ยังไม่อยากปล่อยมือ
"ขอโทษนะ..."
เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาเสียยิ่งกว่าละอองหิมะ...เพราะมันช่างให้ความรู้สึกบอบบางเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยผู้แสนพิสุทธิ์ที่อ่อนแอ
"แต่ว่า...ช่วยอยู่ต่อได้มั้ย"
คิบอมไม่ได้เอ่ยตอบรับหรือแม้แต่ปฏิเสธ เขาทำเพียงแค่ขยับตัวเข้าไปแนบชิดคนที่นอนห่างออกไปอยู่สองช่วงแขนและโอบกอดเอวเล็กเข้ามาแนบกาย...เป็นฝ่ายซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกบางเพื่อฟังเสียงหัวใจอันเอื่อยเฉื่อยของอีกฝ่าย
"ไปทะเลกันนะครับ"
.......................................................
"คืนนี้ฉันจะไม่กลับ นายไม่ต้องคอย"
เสียงทุ้มโทนเบสเอ่ยกับเจ้าของใบหน้าหวานที่ห่มคลุมตัวเองเอาไว้ด้วยผ้านวมเพียงผืนเดียวพลางก้มตัวลงใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตู...น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาในความรู้สึกของแจจุง และแววตาคู่นั้นนับวันก็ยิ่งว่างเปล่า...ภาพของคิมแจจุงในนัยน์ตาสีสนิมคู่นั้นเริ่มจางลงไปทุกที...กำลังจะหายไปอีกครั้ง
แจจุงยืนอยู่ตรงนั้น....ตรงหน้าประตูกระจกที่เชื่อมติดอยู่กับระเบียงท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นของยามเช้าที่ลอดผ่านกระจกเข้ามาในห้อง มันทำให้ร่างนั้นยิ่งขาวนวล...ยิ่งงดงาม...ยิ่งเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ประดับอยู่บนกล่องดนตรีเสียงหวานราคาแพง แต่ชองยุนโฮไม่ได้หันกลับมามอง....ถ้าคิมแจจุงไม่ได้เปลือยเปล่าอยู่บนเตียงหรือเข้าไปปรนเปรอยั่วยวน ชองยุนโฮก็จะไม่มีทางหันมามอง...ไม่เคยหันมามอง...ไม่มีทางหันมามอง...เป็นแบบนั้นมาตลอด...ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเขา...เป็นแบบนี้เสมอ
แม้แต่ร่างกายทั้งหมดของฉัน
นายก็ยังจะทิ้งกันอีกแล้วหรอ
แม้ฉันจะให้นายทุกอย่าง
มันก็ยังไม่พออย่างนั้นหรอ
นายก็ไม่มีทางที่จะรักฉันใช่รึเปล่าชองยุนโฮ
"ขอผมถามได้มั้ยครับคุณยุนโฮ"
ในที่สุดดวงตาคมสีสนิมคู่นั้นก็หันกลับมามองเขา แต่ถ้ามันจะเย็นชาและว่างเปล่าแบบนั้น...แจจุงยอมยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพังก็ได้ เขากระชับผ้านวมเข้ากับหัวไหล่มากขึ้น...อากาศไม่ได้ทำให้เขาเหน็บหนาว แต่สายตาของยุนโฮกำลังจะทำให้เขาร้องไห้...กำลังทำให้เขาสั่นสะท้านอย่างน่าเจ็บปวด
"คู่หมั้นของฉันป่วย ฉันต้องบินไปเยี่ยมเธอที่ญี่ปุ่น...เธอสำคัญน่ะ"
แล้วคิมแจจุงที่หัวใจแตกสลายอยู่ตรงนี้
แล้วคิมแจจุงที่กำลังจมน้ำตาอยู่ตรงนี้
นายไม่คิดจะสนใจหน่อยหรอชองยุนโฮ
คิมแจจุงที่กำลังจ็บปวดเพราะรักนายมากมายขนาดนี้
ไม่สำคัญหรอ
......................................................................
กว่าพวกเขาจะออกเดินทางกันก็ปาเข้าไปตอนที่ฟ้าใกล้จะมืดเต็มที แถมสภาพอากาศที่ย่ำแย่ก็ทำให้พวกเขาเคลื่อนตัวออกนอกเมืองกันไปได้ช้าเหลือเกิน...ลีทงเฮกำลังทรมานอยู่กับช่วงเวลาอันเงียบงันในรถคันหรูแคบๆแบบนี้เพียงลำพังกับคิมคิบอม เขาหายใจไม่ออก และภาพด้านนอกรถก็ว่างเปล่าจนเขาไม่รู้จะมองไปที่ไหนเพื่อให้หัวใจของตัวเองหยุดเจ็บปวดเสียที เขาอยากจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุเพื่อลดความเงียบงันนี้ลง หากแต่เขาก็เกลียดเสียงดนตรีเกินกว่าที่จะทนมันได้...ลีทงเฮเลิกโปรดปรานเสียงดนตรีไปนานจนจำไม่ได้เสียแล้ว
"บ้านหลังนั้นยังอยู่มั้ยครับ"
คิบอมผู้ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบอันน่าอึดอัดนี้เป็นคนแรก นัยน์ตาคมเหลือบมามองคนที่นั่งอยู่เคียงข้างเล็กน้อยก่อนจะตวัดสายตากลับไปมองถนนตรงหน้าตามเดิม
"ฉันไม่รู้"
"ผมไม่เข้าใจครับ"
"ก็บอกว่าฉันไม่รู้!...ไม่เข้าใจก็ไปตายซะ!"
ทงเฮหันไปตะคอกใส่คนขับรถสุดเสียงก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกและเชิดหน้าออกไปอีกทาง...หัวใจสั่นคลอนอย่างเจ็บปวดโดยไร้เหตุผล นั่นมันก็แค่ความทรงจำเก่าๆที่เขาลบมันทิ้งไปแล้ว...จะเอาอะไรกับมันนักหนา เขาพยายามที่จะลืม แต่คิมคิบอมกลับพยายามที่จะจดจำ...น่าร้องไห้สิ้นดี
"จอดรถ!"
"ครับ?"
"ฉันบอกให้จอดรถ!"
น่าประหลาดที่ลีทงเฮถวิลหาคิมคิบอมจนเจ็บปวดหัวใจ แต่เขากลับทนอยู่ใกล้คิมคิบอมไม่ได้นานเท่าที่ใจต้องการ เพราะหัวใจของเขาจะเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น...เพราะเขารู้ดีว่านานเท่าที่ใจต้องการนั้นหมายถึงตลอดไป แต่ระหว่างลีทงเฮกับคิมคิบอม...มันไม่มีคำว่าตลอดไปมาตั้งนานแล้ว...ไม่มีทางเป็นไปได้อีกต่อไปแล้ว
คิบอมเบนรถเข้าจอดริมถนนตามที่เจ้าของรถสั่งอย่างว่าง่าย และคนตัวเล็กก็ไม่รอช้าที่จะเปิดประตูก้าวออกจากรถไปทันทีที่ล้อนิ่งสนิท พวกเขาออกมานอกตัวเมืองไกลโขแล้ว ข้างทางจึงไม่มีอะไรนอกจากต้นไม้และพงหญ้ารกทึม ร่างสูงดับเครื่องก่อนจะก้าวตามอีกฝ่ายออกไป ทงเฮเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย รถราบนท้องถนนที่วิ่งผ่านไปทำให้ผมนิ่มปลิวสะบัดเช่นเดียวกับเสื้อโค้ทตัวหนา
"ลีทงเฮ!...นี่คุณทงเฮ!"
คิบอมวิ่งเข้าไปรั้งจับข้อมือเล็กเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดเดินหนีเสียที แต่ทงเฮกลับสะบัดเขาออกพร้อมกับหันมาผลักร่างของเขาให้ถอยห่าง
"ทำไมนายถึงอยากที่จะจำอะไรเก่าๆได้คิมคิบอม!...นายมีปัญหาอะไรรึไงกัน!"
ร่างบางตะโกนแข่งกับเสียงลมด้วยท่าทางโกรธเคือง ทงเฮดูหัวเสีย...คิบอมเห็นแบบนั้น แต่ที่เขาไม่เห็น...คือหัวใจที่กำลังเจ็บปวด
"ทำไมนายไม่ลืมมันไปสักที!...ลืมเรื่องทุเรศๆพวกนั้นแล้วเริ่มจำตอนนี้ไม่ได้รึไง!"
"ผม..."
"ฉันอยากให้นายจำฉันในตอนนี้...ฉันที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ฉันคนนั้นที่นายเคยจำได้!"
"...."
"ไปตายซะคิมคิบอม!...คนอย่างนายมันไม่เคยเข้าใจอะไรเลย! นายจะจำก็จำไป ฉันจะลืมมันเองก็ได้!"
พูดจบก็สะบัดตัวหันกลับไปเดินต่อตามเดิม แต่คิบอมก็ไม่คิดจะยอมแพ้แค่นั้น เขาวิ่งเข้าไปประชิดก่อนจะวาดแขนโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่นจากด้านหลัง...ไม่มีทางปล่อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนหรือด่าทอก็ตาม
"ลีทงเฮ..."
"..."
"คุณเป็นสิ่งเดียวที่มีค่าอยู่ในความทรงจำของผม ถ้าผมลืมคุณ...ผมก็จะไม่เหลืออะไรให้จดจำอีกต่อไป"
.....................................................
รู้สึกเหมือนคู่พระนางของเราโดนคู่ของโคดของโคดของตัวประกอบสุดๆอย่างยุนแจแย่งซีนไปแบบเต็มๆ ต้องมีคนทำหน้างงตอนยุนแจแหงๆว่าหมียุนของเราแอบไปมีคู่หมั้นกกไว้ตั้งแต่เมื่อไร ไม่บอกๆ ต้องรอลุ้นกันเอาเอง มาหย่อนยุนแจไว้แบบนี้ รีดเดอร์ที่อยากอ่านยุนแจเตรียมเฮได้เลยค่ะ เปนสัญญาณที่ดีที่พวกเขาจะมีตอนเดี่ยวเป็นของตัวเองในเร็วๆนี้นะ
ตอนนี้ก็มีอดีตโผล่กันมาแบบง่ายๆอีกครั้ง...อยากจะย้อนไรเตอร์ก็ย้อนเอาดื้อๆเลยเนอะ เอาแต่ใจจริงๆ- -“ หลายคนอ่านตอนนี้อาจจะงงๆกับความรุ้สึกของหมวยนิดนึงเนอะว่าแบบ สรุปแล้วหล่อนต้องการอยู่ใกล้เขาหรือไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้กันแน่ยะ อะไรแบบนั้นนะ สองคนนี้มีวิธีรับมือกับอดีตที่ต่างกันค่ะ คนที่ถูกทำให้เจ็บปวดอย่างทงเฮเลือกที่จะลืม ส่วนคนที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวดอย่างคิบอมเลือกที่จะจำ ที่ทั้งสองคนเลือกทำแบบนั้นก็เป็นเหตุผลที่ต่างกันไปนะ เพราะความทรงจำนั้นทำให้ทงเฮเจ็บปวดเลยอยากจะลืม แต่ความทรงจำนั้นกลับทำให้คิบอมอยากหายใจต่อไปเลยอยากจะจำ มันก็เลยมาจบที่ทั้งคู่ตีกันมาตลอดตอนนั่นล่ะ เพราะทงเฮอยากจะเริ่มใหม่แต่คิบอมอยากจะสานต่ออะไรแบบนั้น แล้วตอนนี้ทั้งคู่ก็เหมือนคนแปลกหน้าเนอะ ไม่ได้ติดต่อกันตั้งสิบเจ็ดปี ไม่ลืมหน้าก็ดีถมไปแล้วใช่ม่ะ มันก็เลยดูเหมือนทั้งคู่เข้าหน้ากันไม่ค่อยติดอะไรทำนองนั้นนะ
ตอนหน้าก็ยังเปนคิเฮค่ะ แพ็คของไปทะเลพร้อมกับพวกเค้ากันนะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ลุ้นกันต่อไป^^
สวัสดีปีใหม่ทุกคนเลยนะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว ขอให้รีดเดอร์ที่น่ารักของไรเตอร์ทุกคนมีความสุขมากๆในปี2010นะคะ สุขภาพแข็งแรงทุกๆคนเลย แฮปปี้ๆตลอดไป ขอให้เปนปีที่ดีของทุกคนเลยค่ะ^^
เจอกันปีหน้าค่ะ รักทุกคนเลยนะ จุ๊บๆ^^
ปล. โอพีวีตัวที่สองใจร่มๆเน้อออ ไรเตอร์ยังไม่ได้เริ่มหาภาพเลยค่ะ งานล้นมือจริงๆตอนนี้
ความคิดเห็น