ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: The One I Love ลิขิตหัวใจนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #33 : Memorize Me, Forgetting You

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.65K
      7
      3 ม.ค. 53

    ถ้าความรู้สึกของคนเราสามารถบังคับกันได้ง่ายๆเหมือนกับการเขียนลงกระดาษล่ะก็นะ

     

    คิมคิบอมจะขอแลกกับทุกสิ่งที่มี...

     

    เพียงแค่สิ่งๆเดียว

     

    เขาจะขอเพียงแค่สิ่งเดียว

     

    ขอเพียงแค่...

     

    ให้ความรู้สึกของลีทงเฮไม่เปลี่ยนไป

     

    ขอเพียงแค่...

     

    ให้พวกเขาไม่เปลี่ยนกลายเป็นคนแปลกหน้ากันแบบนี้

     

     

     

    ทงเฮยังคงนั่งนิ่งอยู่บนพื้น จ้องมองคนบนโซฟาด้วยสายตาอันแตกร้าวที่เต็มไปด้วยน้ำตา...หายใจไม่ออกเพราะหัวใจบีบรัด...เจ็บปวดเพราะความรู้สึกที่สับสน

     

    "นายไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดอะไรออกมา นายไม่เคยเข้าใจอะไรเลยคิมคิบอม...ไม่เคยรู้อะไรเลย!"

    คนที่ไม่เคยรู้อะไรเลยในสายตาของลีทงเฮลุกออกมาจากโซฟาเพื่อตรงเข้ามากดไหล่บอบบางของคนบนพื้นให้เอนราบลงไปก่อนตัวเองจะตามไปทาบทับเอาไว้ แล้วจึงเริ่มจูบอีกครั้ง...จูบหนักๆ...ย้ำชัดๆ...คล้ายอยากจะยืนยันว่าเขารู้ 


                 ทงเฮไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เขาเพียงนอนนิ่งให้อีกฝ่ายดูดกลืนลมหายใจของตนออกไป...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน...ลีทงเฮสัมผัสได้ถึงความรักมากมาย เขาจึงไม่อยากผละออกห่าง...อยากจะซึมซับมันเอาไว้ให้มากที่สุดก่อนที่มันจะจางหายไป

     

    "ผมรู้ว่าผมพูดอะไร"

    คิบอมผละออกมาจากริมฝีปากแสนหวานคู่นั้นอย่างอ้อยอิ่ง ปลายจมูกโด่งคมเกลี่ยไล้ไปตามแนวแก้มเนียนอย่างเผลอไผล สูดดมความหอมหวานอย่าไม่รู้จักพอ

     

    "ผมพูด...ความรู้สึกของผม"

     

    "..."

     

    "ผมพูด...สิ่งที่ผมรู้สึกมาตลอด17ปี"

     

    "..."

     

    "ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ...ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่คิดถึงคุณลีทงเฮ"

    หัวใจของลีทงเฮพองฟู...แต่ความรู้สึกกลับยับเยิน เจ้าหญิงตัวน้อยแห่งจางซึนกีหลุดเสียงสะอื้นออกมาพร้อมกับใบหน้าอันเหยเกบิดเบี้ยว น้ำตากลิ้งหล่นลงมาเปื้อนเต็มแก้มอย่างน่าสงสาร แต่เจ้าตัวก็พยายามจะใช้หลังมือปาดเช็ดมันออก ท่าทางที่ช่างไร้เดียงสาและอ่อนแอทำให้คิบอมต้องดึงมือข้างนั้นออกไปตรึงไว้กับพื้นเพื่อใช้ริมฝีปากของตนซับน้ำตาให้แทนที่ ริมฝีปากอุ่นจูบซับน้ำตาบนข้างแก้มนิ่มอย่างทะนุถนอมอ่อนโยนก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำเพื่อแนบแก้มเข้ากับแผ่นอกบาง...ตรงตำแหน่งของหัวใจ

     

    "กลับมาเป็นเจ้าหญิงของผมนะครับลีทงเฮ...แค่แป๊บเดียวก็ได้ ขอให้ผมได้เป็นเจ้าชายของคุณนะครับ"

     

    ...................................................................

     

    "ทำไมพี่ชายต้องไปด้วยล่ะ"

     

    "..."

     

    "พี่ชาย...ฮึก...ไม่อยากอยู่กับทงเฮแล้วหรอ"

     

    "..."

     

    "พี่ชายพูดอะไรสักอย่างสิ!...ฮึก...อย่ามาทำตัวแบบนี้กับทงเฮนะ!"

    คนตัวเล็กตรงหน้าตรงเข้ามาผลักอกของเขาพร้อมด้วยน้ำตาเต็มข้างแก้ม เจ้าหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้อยู่ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังสนั่นทั่วบ้าน ข้าวของมีราคาหลายอย่างพังยับเยินจนเหลือเพียงแค่ซากไร้ค่า...และคิบอมก็ยืนอยู่ตรงนั้น...ยืนอยู่ท่ามกลางข้าวของที่พังทลายพร้อมกับเลือดที่ข้างแก้มและกระบอกปืนในมือ...ยืนนิ่งงันอย่างเย็นชา...มีเพียงแววตาที่วูบไหว

     

    ทงเฮก้าวเข้ามาใกล้อีกครั้ง แต่คราวนี้พี่ชายคนดีกลับผลักเขาออกอย่างแรงจนเซหงายหลังล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น มันทำให้ดวงตากลมโตช้ำน้ำตาคู่นั้นขยับเบิกกว้างในทันที...และคิบอมก็เห็นมันแตกร้าวเช่นเดียวกับความรู้สึกของตนเอง เขายกกระบอกปืนขึ้น...และที่อีกด้านของลำกล้องก็คือลีทงเฮ

     

    "อย่ามาจับตัวฉันลีทงเฮ"

     

    "พี่ชาย..."

     

    "ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดพ่อของนาย...ฉันเกลียดทุกอย่างที่เป็นนาย!"

     

    "พี่...ฮึก..."

     

    ปัง!!

     

    กระสุนถูกเหนี่ยวไกออกมา และมันก็ฝั่งอยู่บนพื้นห่างจากมือเล็กที่วางแนบอยู่ไม่เท่าไร ทงเฮสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัวก่อนจะเริ่มสะอึกสะอื้นออกมา...โลกของเขากำลังพังทลายลงมา...โลกทั้งใบของเขา

     

    "คิบอม..."

    เสียงทุ้มที่ดังมาจากหน้าประตูเรียกสายตาของคนในห้องให้ตวัดไปหาได้ในทันที และตรงนั้นก็ปรากฏร่างของเชวซีวอนที่มาพร้อมกับชายชุดดำสองสามคน...คนของตระกูลเชวที่เร้นกายอยู่ในความมืดมานานหลายปี

     

    "เราต้องรีบแล้ว ถ้านายอยากจะไป...เราต้องไปกันเดี๋ยวนี้"

    คิบอมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาหาคนที่เคยเป็นดั่งเจ้าหญิงของเขา...จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา ทั้งๆที่ในหัวใจกำลังตะโกนบอกอะไรมากมาย

     

    "นายน่ะ...ไม่มีค่าอะไรสำหรับฉันอีกต่อไปแล้วลีทงเฮ"

     

     

     

     

    ดวงตาคมสีรัตติกาลเปิดลืมขึ้นมาอย่างเชื่องช้า และภาพแรกที่เขาเห็นอยู่ในความมืดสลัวก็คือใบหน้ายามหลับใหลของลีทงเฮที่นอนตะแคงอยู่อีกด้านของเตียง เขากระชับมือเล็กที่เกาะกุมกันเอาไว้อยู่กลางเตียงแน่นขึ้นเหมือนอยากจะให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ภาพมายา และความอบอุ่นอีกทั้งแรงบีบตอบกลับเบาๆก็ทำให้เขารู้ว่านี่คือความเป็นจริง...ความจริงที่มีคิมคิบอมและลีทงเฮนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันโดยมีมือจับประสานกันไว้อยู่กลางเตียง

     

    ถ้าความเงียบงันแบบนี้ทำให้เขาได้สัมผัสความอ่อนหวานยามหลับใหลของลีทงเฮแบบนี้...เขายอมอยู่ในโลกที่ไม่มีสรรพเสียงใดๆไปตลอดการเพื่อแลกกับการได้เห็นมันในทุกเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นมา

     

    "อืมมม"

    ทงเฮขยับกายขยุกขยิกไปมาครู่หนึ่งก่อนในที่สุดจะยอมแพ้และตัดสินใจเปิดเปลือกตาตื่นในที่สุด ดวงตาคู่นั้นยังแลดูง่วงงุนยามที่สบตากับเขาในครั้งแรก แต่แล้วมันก็เปลี่ยนกลับมาเป็นนิ่งเฉยว่างเปล่า...ไม่แพ้แววตาของใครอีกคนเลย

     

    "อรุณสวัสดิ์ครับ"

     

    "อืม"

    ทงเฮไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรจึงตอบกลับออกไปแค่นั้น...ไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ได้อีก เมื่อคืนหิมะตกหนัก...มีพายุหิมะ มันจึงช่วยไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดคืน แต่เขารู้ดี...ถึงแม้จะไม่มีพายุ...ถึงแม้ท้องฟ้าจะปลอดโปร่ง ลีทงเฮก็ไม่อยากให้คิมคิบอมกลับไป...ไม่อยากเลยจริงๆ

     

    มือเล็กบีบกระชับมืออุ่นของคนตรงหน้าแน่นขึ้นราวกับอยากจะย้ำการมีตัวตนของอีกฝ่ายให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะเขารู้ดี....ตอนนี้มือของพวกเขาเอื้อมหากันไม่ถึงอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้จะจับกันอยู่แบบนี้ แต่กลับไม่รู้สึกถึงกันอีกแล้ว...แบบนี้มันน่าเศร้านะ ทงเฮแนบใบหน้าเข้ากับหมอนเพื่อเบนสายตาของตนไปทางอื่นที่ไม่ใช่ดวงตาคมคู่นั้น แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ...ยังไม่อยากปล่อยมือ

     

    "ขอโทษนะ..."

    เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาเสียยิ่งกว่าละอองหิมะ...เพราะมันช่างให้ความรู้สึกบอบบางเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยผู้แสนพิสุทธิ์ที่อ่อนแอ

     

    "แต่ว่า...ช่วยอยู่ต่อได้มั้ย"

    คิบอมไม่ได้เอ่ยตอบรับหรือแม้แต่ปฏิเสธ เขาทำเพียงแค่ขยับตัวเข้าไปแนบชิดคนที่นอนห่างออกไปอยู่สองช่วงแขนและโอบกอดเอวเล็กเข้ามาแนบกาย...เป็นฝ่ายซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกบางเพื่อฟังเสียงหัวใจอันเอื่อยเฉื่อยของอีกฝ่าย

     

    "ไปทะเลกันนะครับ"

     

    .......................................................

     

    "คืนนี้ฉันจะไม่กลับ นายไม่ต้องคอย"

    เสียงทุ้มโทนเบสเอ่ยกับเจ้าของใบหน้าหวานที่ห่มคลุมตัวเองเอาไว้ด้วยผ้านวมเพียงผืนเดียวพลางก้มตัวลงใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตู...น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาในความรู้สึกของแจจุง และแววตาคู่นั้นนับวันก็ยิ่งว่างเปล่า...ภาพของคิมแจจุงในนัยน์ตาสีสนิมคู่นั้นเริ่มจางลงไปทุกที...กำลังจะหายไปอีกครั้ง

     

    แจจุงยืนอยู่ตรงนั้น....ตรงหน้าประตูกระจกที่เชื่อมติดอยู่กับระเบียงท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นของยามเช้าที่ลอดผ่านกระจกเข้ามาในห้อง มันทำให้ร่างนั้นยิ่งขาวนวล...ยิ่งงดงาม...ยิ่งเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ประดับอยู่บนกล่องดนตรีเสียงหวานราคาแพง แต่ชองยุนโฮไม่ได้หันกลับมามอง....ถ้าคิมแจจุงไม่ได้เปลือยเปล่าอยู่บนเตียงหรือเข้าไปปรนเปรอยั่วยวน ชองยุนโฮก็จะไม่มีทางหันมามอง...ไม่เคยหันมามอง...ไม่มีทางหันมามอง...เป็นแบบนั้นมาตลอด...ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเขา...เป็นแบบนี้เสมอ

     

    แม้แต่ร่างกายทั้งหมดของฉัน

     

    นายก็ยังจะทิ้งกันอีกแล้วหรอ

     

    แม้ฉันจะให้นายทุกอย่าง

     

    มันก็ยังไม่พออย่างนั้นหรอ

     

    นายก็ไม่มีทางที่จะรักฉันใช่รึเปล่าชองยุนโฮ

     

    "ขอผมถามได้มั้ยครับคุณยุนโฮ"

    ในที่สุดดวงตาคมสีสนิมคู่นั้นก็หันกลับมามองเขา แต่ถ้ามันจะเย็นชาและว่างเปล่าแบบนั้น...แจจุงยอมยืนอยู่ตรงนี้เพียงลำพังก็ได้ เขากระชับผ้านวมเข้ากับหัวไหล่มากขึ้น...อากาศไม่ได้ทำให้เขาเหน็บหนาว แต่สายตาของยุนโฮกำลังจะทำให้เขาร้องไห้...กำลังทำให้เขาสั่นสะท้านอย่างน่าเจ็บปวด

     

    "คู่หมั้นของฉันป่วย ฉันต้องบินไปเยี่ยมเธอที่ญี่ปุ่น...เธอสำคัญน่ะ"

     

    แล้วคิมแจจุงที่หัวใจแตกสลายอยู่ตรงนี้

     

    แล้วคิมแจจุงที่กำลังจมน้ำตาอยู่ตรงนี้

     

    นายไม่คิดจะสนใจหน่อยหรอชองยุนโฮ

     

    คิมแจจุงที่กำลังจ็บปวดเพราะรักนายมากมายขนาดนี้

     

    ไม่สำคัญหรอ

     

    ......................................................................

     

    กว่าพวกเขาจะออกเดินทางกันก็ปาเข้าไปตอนที่ฟ้าใกล้จะมืดเต็มที แถมสภาพอากาศที่ย่ำแย่ก็ทำให้พวกเขาเคลื่อนตัวออกนอกเมืองกันไปได้ช้าเหลือเกิน...ลีทงเฮกำลังทรมานอยู่กับช่วงเวลาอันเงียบงันในรถคันหรูแคบๆแบบนี้เพียงลำพังกับคิมคิบอม เขาหายใจไม่ออก และภาพด้านนอกรถก็ว่างเปล่าจนเขาไม่รู้จะมองไปที่ไหนเพื่อให้หัวใจของตัวเองหยุดเจ็บปวดเสียที เขาอยากจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุเพื่อลดความเงียบงันนี้ลง หากแต่เขาก็เกลียดเสียงดนตรีเกินกว่าที่จะทนมันได้...ลีทงเฮเลิกโปรดปรานเสียงดนตรีไปนานจนจำไม่ได้เสียแล้ว

     

    "บ้านหลังนั้นยังอยู่มั้ยครับ"

    คิบอมผู้ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบอันน่าอึดอัดนี้เป็นคนแรก นัยน์ตาคมเหลือบมามองคนที่นั่งอยู่เคียงข้างเล็กน้อยก่อนจะตวัดสายตากลับไปมองถนนตรงหน้าตามเดิม

     

    "ฉันไม่รู้"

     

    "ผมไม่เข้าใจครับ"

     

    "ก็บอกว่าฉันไม่รู้!...ไม่เข้าใจก็ไปตายซะ!"

    ทงเฮหันไปตะคอกใส่คนขับรถสุดเสียงก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกและเชิดหน้าออกไปอีกทาง...หัวใจสั่นคลอนอย่างเจ็บปวดโดยไร้เหตุผล นั่นมันก็แค่ความทรงจำเก่าๆที่เขาลบมันทิ้งไปแล้ว...จะเอาอะไรกับมันนักหนา เขาพยายามที่จะลืม แต่คิมคิบอมกลับพยายามที่จะจดจำ...น่าร้องไห้สิ้นดี

     

    "จอดรถ!"

     

    "ครับ?"

     

    "ฉันบอกให้จอดรถ!"

    น่าประหลาดที่ลีทงเฮถวิลหาคิมคิบอมจนเจ็บปวดหัวใจ แต่เขากลับทนอยู่ใกล้คิมคิบอมไม่ได้นานเท่าที่ใจต้องการ เพราะหัวใจของเขาจะเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น...เพราะเขารู้ดีว่านานเท่าที่ใจต้องการนั้นหมายถึงตลอดไป แต่ระหว่างลีทงเฮกับคิมคิบอม...มันไม่มีคำว่าตลอดไปมาตั้งนานแล้ว...ไม่มีทางเป็นไปได้อีกต่อไปแล้ว

     

    คิบอมเบนรถเข้าจอดริมถนนตามที่เจ้าของรถสั่งอย่างว่าง่าย และคนตัวเล็กก็ไม่รอช้าที่จะเปิดประตูก้าวออกจากรถไปทันทีที่ล้อนิ่งสนิท พวกเขาออกมานอกตัวเมืองไกลโขแล้ว ข้างทางจึงไม่มีอะไรนอกจากต้นไม้และพงหญ้ารกทึม ร่างสูงดับเครื่องก่อนจะก้าวตามอีกฝ่ายออกไป ทงเฮเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย รถราบนท้องถนนที่วิ่งผ่านไปทำให้ผมนิ่มปลิวสะบัดเช่นเดียวกับเสื้อโค้ทตัวหนา

     

    "ลีทงเฮ!...นี่คุณทงเฮ!"

    คิบอมวิ่งเข้าไปรั้งจับข้อมือเล็กเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดเดินหนีเสียที แต่ทงเฮกลับสะบัดเขาออกพร้อมกับหันมาผลักร่างของเขาให้ถอยห่าง

     

    "ทำไมนายถึงอยากที่จะจำอะไรเก่าๆได้คิมคิบอม!...นายมีปัญหาอะไรรึไงกัน!"

    ร่างบางตะโกนแข่งกับเสียงลมด้วยท่าทางโกรธเคือง ทงเฮดูหัวเสีย...คิบอมเห็นแบบนั้น แต่ที่เขาไม่เห็น...คือหัวใจที่กำลังเจ็บปวด

     

    "ทำไมนายไม่ลืมมันไปสักที!...ลืมเรื่องทุเรศๆพวกนั้นแล้วเริ่มจำตอนนี้ไม่ได้รึไง!"

     

    "ผม..."

     

    "ฉันอยากให้นายจำฉันในตอนนี้...ฉันที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ฉันคนนั้นที่นายเคยจำได้!"

     

    "...."

     

    "ไปตายซะคิมคิบอม!...คนอย่างนายมันไม่เคยเข้าใจอะไรเลย! นายจะจำก็จำไป ฉันจะลืมมันเองก็ได้!"

    พูดจบก็สะบัดตัวหันกลับไปเดินต่อตามเดิม แต่คิบอมก็ไม่คิดจะยอมแพ้แค่นั้น เขาวิ่งเข้าไปประชิดก่อนจะวาดแขนโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่นจากด้านหลัง...ไม่มีทางปล่อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนหรือด่าทอก็ตาม

     

    "ลีทงเฮ..."

     

    "..."

     

    "คุณเป็นสิ่งเดียวที่มีค่าอยู่ในความทรงจำของผม ถ้าผมลืมคุณ...ผมก็จะไม่เหลืออะไรให้จดจำอีกต่อไป"

     

    .....................................................

     

     

     

     

    รู้สึกเหมือนคู่พระนางของเราโดนคู่ของโคดของโคดของตัวประกอบสุดๆอย่างยุนแจแย่งซีนไปแบบเต็มๆ ต้องมีคนทำหน้างงตอนยุนแจแหงๆว่าหมียุนของเราแอบไปมีคู่หมั้นกกไว้ตั้งแต่เมื่อไร ไม่บอกๆ ต้องรอลุ้นกันเอาเอง มาหย่อนยุนแจไว้แบบนี้ รีดเดอร์ที่อยากอ่านยุนแจเตรียมเฮได้เลยค่ะ เปนสัญญาณที่ดีที่พวกเขาจะมีตอนเดี่ยวเป็นของตัวเองในเร็วๆนี้นะ 


    ตอนนี้ก็มีอดีตโผล่กันมาแบบง่ายๆอีกครั้ง...อยากจะย้อนไรเตอร์ก็ย้อนเอาดื้อๆเลยเนอะ
    เอาแต่ใจจริงๆ- -“  หลายคนอ่านตอนนี้อาจจะงงๆกับความรุ้สึกของหมวยนิดนึงเนอะว่าแบบ สรุปแล้วหล่อนต้องการอยู่ใกล้เขาหรือไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้กันแน่ยะ อะไรแบบนั้นนะ สองคนนี้มีวิธีรับมือกับอดีตที่ต่างกันค่ะ คนที่ถูกทำให้เจ็บปวดอย่างทงเฮเลือกที่จะลืม ส่วนคนที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวดอย่างคิบอมเลือกที่จะจำ ที่ทั้งสองคนเลือกทำแบบนั้นก็เป็นเหตุผลที่ต่างกันไปนะ เพราะความทรงจำนั้นทำให้ทงเฮเจ็บปวดเลยอยากจะลืม แต่ความทรงจำนั้นกลับทำให้คิบอมอยากหายใจต่อไปเลยอยากจะจำ มันก็เลยมาจบที่ทั้งคู่ตีกันมาตลอดตอนนั่นล่ะ เพราะทงเฮอยากจะเริ่มใหม่แต่คิบอมอยากจะสานต่ออะไรแบบนั้น แล้วตอนนี้ทั้งคู่ก็เหมือนคนแปลกหน้าเนอะ ไม่ได้ติดต่อกันตั้งสิบเจ็ดปี ไม่ลืมหน้าก็ดีถมไปแล้วใช่ม่ะ มันก็เลยดูเหมือนทั้งคู่เข้าหน้ากันไม่ค่อยติดอะไรทำนองนั้นนะ

     

    ตอนหน้าก็ยังเปนคิเฮค่ะ แพ็คของไปทะเลพร้อมกับพวกเค้ากันนะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ลุ้นกันต่อไป^^

     

    สวัสดีปีใหม่ทุกคนเลยนะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว ขอให้รีดเดอร์ที่น่ารักของไรเตอร์ทุกคนมีความสุขมากๆในปี2010นะคะ สุขภาพแข็งแรงทุกๆคนเลย แฮปปี้ๆตลอดไป ขอให้เปนปีที่ดีของทุกคนเลยค่ะ^^

     

    เจอกันปีหน้าค่ะ รักทุกคนเลยนะ จุ๊บๆ^^

     

     

    ปล. โอพีวีตัวที่สองใจร่มๆเน้อออ ไรเตอร์ยังไม่ได้เริ่มหาภาพเลยค่ะ งานล้นมือจริงๆตอนนี้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×