คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : First Snow
ปลายนิ้วเย็นเฉียบขยับกดเบอร์ของพี่ชายคนดีอีกครั้ง แต่เสียงสัญญาณที่ดังอยู่นานโดยไม่มีวี่แวววาสจะถูกกดรับก็ทำให้เขายอมแพ้และเก็บโทรศัพท์ของตนกลับใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม ฮยอกแจขบริมฝีปากพลางเงยหน้าขึ้นมองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาสั่นไหวอย่างหวาดเกรง...เขาไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้เลยให้ตายสิ!...บ้านของเชวซีวอนไม่ใช่ที่ที่เขาควรเฉียดกรายเข้าใกล้เลยแม้สักนิด! แต่ภาพของพี่ชายที่ถูกพามาพักที่นี่ก็ทำให้ฮยอกแจยังคงทำใจกล้ายืนอยู่ตรงนี้ต่อไป เกล็ดหิมะที่ร่วงตกลงมาจากฟากฟ้าทำให้คนที่สั่นเทาเพราะความหวาดกลัวอยู่แล้วยิ่งหนาวสั่นจนต้องซุกมือเข้ากระเป๋ากางเกงเพื่อแสวงหาความอบอุ่น
"พี่ซองมิน..."
'เราจะได้ดูหิมะแรกของปีด้วยกันนะพี่สัญญา'
คำสัญญาของพี่ชายที่เขาไม่ได้เห็นหน้ามากว่าหกปีทำให้เขาต้องกำมือแน่น ฮยอกแจพึมพำบทสวดสั้นๆที่เป็นเพียงบทเดียวที่เขาจำได้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเองก่อนจะวิ่งไปกระโดดเหวี่ยงตัวข้ามกำแพงสูงของคฤหาสน์ตระกูลเชวเข้าไป
...................................................
"คงต้องระวังเพิ่มมากขึ้นล่ะครับ เพราะบริษัทของตระกูลลีกำลังขยายตัว ราคาหุ้นมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีก"
"ตัวเล็กก็ฉลาดเหมือนกันนี่นา..."
คนตัวสูงว่าด้วยรอยยิ้มเหยียดบนเรียวปากพลางลุกออกจากเก้าอี้หลังสีดำตัวใหญ่ที่ตนนั่งอยู่และหมุนตัวเดินไปยืนอยู่ริมหน้าต่าง ดวงตาสีกาแฟทอประกายร้ายกาจขณะจ้องมองหิมะแรกของปีที่เพิ่งโปรบปรายลงมาจากฟากฟ้าเมื่อเช้าก่อนจะไปสะดุดเข้ากับร่างผอมบางที่มีผิวขาวบริสุทธิ์ไม่แพ้เกล็ดหิมะซึ่งกำลังยืนหลบอยู่ด้านนอกรั้วบ้านของเขา ซีวอนแย้มยิ้มขบขันให้กับท่าทางกระสับกระส่ายของคนด้านล่าง...หน้าคุ้นอยู่ แต่เขาก็นึกไม่ออกเสียทีว่าเคยเห็นที่ไหน
"ส่วนเรื่องรถที่ให้เตรียมไว้ตอนบ่ายสาม ผมจะไปบอกคนขับรถให้นะครับ"
"ขอบคุณมากเยซอง...นายไปได้แล้ว"
คนถูกเอ่ยไล่โค้งตัวรับคำแล้วจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้นายหนุ่มเพลิดเพลินอยู่กับการเฝ้ามอองชายหนุ่มปริศนาตัวเล็กเพียงลำพัง
"นายจะมาปล้นบ้านฉันรึไง"
ซีวอนพึมพำกับตัวเองเบาๆอย่างขบขัน และก็เหมือนปากว่า...ชายหนุ่มผิวสีหิมะที่ถูกเฝ้ามองได้เหวี่ยงตัวข้ามรั้วบ้านของเขาเข้ามาทันทีที่สิ้นคำ เรียกเสียงหัวเราะเบาๆได้จากเจ้าของบ้านผู้เห็นเหตการณ์เล็กน้อย ร่างสูงกระชากม่านปิดก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป...คงต้องไปทักทายแขกเสียหน่อยแล้ว
.....................................................................
ฮยอกแจแทบจะหยุดหายใจให้กับยามที่ยืนประจำการอยู่แทบทุกตารางนิ้วของบ้านหลังโต เขาอาศัยขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็กของตนลัดเลาะไปตามเงามืดจนมาถึงประตูครัวด้านหลัง เมื่อเงี่ยหูฟังจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีแม่บ้านทำงานอยู่ด้านใน ผู้บุกรุกก็ค่อยๆผลักประตูเปิดและสอดตัวเข้าไปด้านฝนอย่างเงียบงัน
"ทำไมไม่เข้าประตูหน้าล่ะ"
เสียงทุ้มที่เอ่ยทักขึ้นทำให้คนที่กำลังหันหลังปิดประตูสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัว ฮยอกแจรีบหมุนตัวกลับมาพร้อมกับชักปืนขึ้นจ่อหน้าร่างสูงผู้มีรอยยิ้มพรายอยู่บนเรียวปากทันทีอย่างไม่ลังเล แผ่นหลังบอบบางแนบสนิทอยู่กับบานประตูจนสัมผัสได้ถึงไอเย็นผ่านเสื้อหนาวตัวหนาที่สวมใส่มา...เป็นสัญญาณว่าไม่มีทางให้หนีอีกต่อไป ซีวอนไม่ยี่หระต่อออาวุธสังหารที่จ่อหน้าเขาอยู่มากนัก คนมากเล่ห์ยังคงแย้มรอยยิ้มหากินของตนต่อไปพลางแบมือทั้งสองข้างออกเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาไม่ได้พกอาวุธใดๆมาด้วย
"ตัวแค่นี้ก็หัดเล่นปืนแล้วหรอ...เก่งจังนะ ตัวเล็กเป็นคนสอนนายรึเปล่า หมอนั่นน่ะยิงปืนเก่งนะ ถึงจะชอบร้องไห้งอแงเพราะเสียงมันดังก็เหอะ"
ซีวอนว่าด้วยน้ำเสียงเนิบนาบพลางยักไหล่...เขาจำได้แล้วว่าเคยเห็นร่างบอบบางนี้ที่ไหน ที่สนามบินยังไงล่ะ มาพร้อมกับตัวเล็กของเขา...คงเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดนั่นล่ะ
"เชวซีวอน..."
ฮยอกแจพพึมพำออกมาเบาๆพลางกระชับปืนแน่นด้วยสองมือ แน่ล่ะ...ทำไมเขาจะไม่รู้จักล่ะ...ใครๆก็รู้จักนักธุรกิจดาวรุ่งแห่งปีเชวซีวอนทั้งนั้น...และเชวซีวอนคงเป็นคนเดียวที่ไม่ว่ากี่ครั้งที่ได้ยินชื่อ ลีทงเฮก็มักจะมีแววตาเศร้าซึมคล้ายจะร้องไห้ทุกทีไป
"รู้จักกันด้วยนี่...งัดเข้าบ้านคนอื่นเค้ามันไม่ดีเลยนะรู้มั้ย"
เจ้าของบ้านยังคงนิ่งสงบ...มีเพียงแววตาที่ร้ายกาจมากเล่ห์ที่ทำให้ฮยอกแจหายใจติดขัดอย่างหวาดกลัว...ลีฮยอกแจไม่ใช่คนกล้ามากนักหรอกนะ
"ฉัน...มาหาพี่ของฉัน"
"พี่ของนาย?"
"ใช่...ลีซองมิน...พี่ชายของฉัน"
มุมปากข้างหนึ่งของร่างสูงบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มคล้ายจะรื่นเริงกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนตัวเล็กผู้มีผิวขาวยิ่งกว่าหิมะ...คิดแล้วก็อยากรู้นักว่ามันจะขึ้นเป็นรอยสีกุหลาบได้ง่ายดายขนาดไหน...จะนุ่มนวลยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้รึเปล่า
"อ่าาา...คุณซองมินนี่เอง"
"ฉันต้องการแค่พี่ของฉัน!"
ฮยอกแจยืนยันด้วยเสียงที่กร้าวแข็งขึ้นเมื่ออีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีจริงจังกับคำพูดของเขา แต่แววตากรุ่มกริ่มที่จ้องมองมากลับทำให้เขาแสร้งทำตัวเข็มแข็งได้ไม่นานนัก...เชวซีวอนยังคงมีรอยยิ้ม...และมันก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจนัก!
"ฉันก็ต้องการ...แค่ร่างกายของนายเหมือนกัน"
"อ่ะ..."
ซีวอนอาศัยเวลาไม่กี่วินาทีที่อีกฝ่ายตื่นตะลึงตรงเข้าไปปัดปืนออกจากมือเล็กๆคู่นั้นจนมันหล่นกระทบพื้นเสียงดังก่อนจะใช้ร่างกายอันสมส่วนของตนกักขังร่างบอบบางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี มือใหญ่ตรึงข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้กับแระตูพร้อมกับแนบกายเข้าหาจนสัมผัสแนบทุกสัดส่วน ปลายจมูกโด่งคมไล้เล็มเก็บเกี่ยวความหอมอยู่ที่ข้างแก้มเนียนของคนที่เริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนเอาเปรียบอย่างไร้ความเป็นธรรม
"แลกกันเอามั้ย..."
"..."
"นอนกันฉัน...แลกกับพี่ของนาย"
ดวงตาเรียวรีของคนที่กำลังดิ้นรนพลันขยับเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินข้อเสนอที่แสนเห็นแก่ตัวของคนมากเล่ห์
"สัญญาว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับจางซึนกีหรือแม้แต่โซเฮยอน"
"..."
"จะเป็นแค่เรื่องระหว่างเรา...แค่ฉันกับนายสองคน"
ริมฝีปากที่ขยับเอ่ยข้อต่อรองแนบประทับลงบนลำคอขาวราวกับอดใจที่จะรอคำตกลงไม่ไหวอีกต่อไป และเพียงแค่สัมผัสลงไปเบาๆ ผิวขาวราวหิมะก็ขึ้นรอยจ้ำแดงขึ้นมาอย่างน่ามองจนคนสร้างสรรค์ต้องยิ้มออกมาอย่างถูกใจ...ไม่คิดฟังคำตอบอีกต่อไปให้เสียเวลา เพราะกลิ่นกายอันหอมหวานของร่างขาวนวลทำให้เขาไม่คิดอยากอดทนอีกต่อไป...ก็อย่างที่บอก...เขาแค่ต้องการร่างกายบอบบางของคนตรงหน้าเท่านั้นเอง!
"เอาเป็นว่าตกลงละกันนะ"
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้ทันทีที่สิ้นคำ...เป็นจูบที่ร้อนแรงและไม่อ่อนโยนเลยสักนิดจนฮยอกแจต้องร้องอื้ออึงและดิ้นรนร้องหาอิสระ
"อื้ออ!....อ้ะ!"
มืออุ่นร้อนละออกจากข้อมือเล็กและสอดผ่านเสื้อตัวหนาเข้าไปสัมผัสผิวนวล ลากระเรื่อยไปบดขยี้ยอดอกสีหวานจนร่างบอบบางดิ้นเร้าเพื่อหลีกหนี
"หยุดนะไอ้บ้า!...อื้ออ!"
คำสบถหยาบคายถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากร้อนที่ดูดกลืนริมฝีปากบางอย่างหิวกระหาย..หลงใหลในความหอมหวานจนอยากจะกลืนกินเข้าไป เสื้อผ้าถูกดึงกกระชากออกโดยฝีมือของคนที่เต็มไปด้วยแรงราคะจนร่างบอบบางเหลือเพียงกางเกงขายาวเพียงตัวเดียว...และทันทีที่ผิวกายสัมผัสเข้ากับอากาศหนาวเย็น ทุกอย่างที่ฮยอกแจเห็นก็พร่ามัวไปหมด เขาพยายามดิ้นรนอีกครั้ง ทั้งจิกข่วน ทั้งร้องตะโกน...แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งใดช่วยได้
"ฉันไม่ตกลงกับแกเว้ย!...ปล่อยฉันสิวะ!...อ้ะ!!"
ยอดอกที่ถูกปร่นเปรอด้วยปลายลิ้นทำให้คำด่าทอชะงักค้างอยู่กลางลำคอ ซีวอนเหยียดยิ้มออกมานิดเมื่อได้ยินเสียงครางเล็กๆแบบนั้น แน่ล่ะ...เขาต้องการมันมากกว่านี้! ชายหนุ่มลากลิ้นขึ้นมาตามแผ่นอกบาง มาหยุดอยู่ที่ลาดไหล่ขาวเนียนที่เต็มไปด้วยรอยรักจนไม่มีพื้นที่ให้เขาเพิ่มรอยอีกต่อไป แต่กระนั้นแล้วเขาก็ยังกดจูบลงไปคล้ายอยากจะย้ำให้ลึกลงไปว่าร่างกายแสนนุ่มนวลนี้เคยเป็นของเชวซีวอนมาก่อน
"พอสักที...พอได้แแล้ว!"
มือเล็กพยายามจะผลักคนตรงหน้าให้ถอยห่าง แต่ดูเหมือนว่าซีวอนจะทนไม่ได้ที่ตัวเองต้องถูกทำร้ายให้เลือดซิบอีกต่อไป ชาบหนุ่มจัดการรวบมือเล็กๆทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวพร้อมกับใช้มืออีกข้างบีบแก้มเนียนจนแดงช้ำและบีบบังคับให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา
"พออะไรกัน...ฉันยังไม่ได้เริ่มอะไรสักอย่าง อย่าเล่นตัวให้มากนักเลย มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยรู้มั้ย แค่เซ็กซ์น่ะ...มันไม่ตายหรอกนะ"
"ไอ้สารเลว!...แบบนี้เขาเรียกว่าข่มขืนต่างหากโว้ย!!"
ถึงจะกลัวจนแทบหยุดหายใจ แต่ลีฮยอกแจก็ยังคงปากกล้าจนวินาทีสุดท้าย คิ้วข้างหนึ่งของคนสารเลวเลิกขึ้นนิดเหมือนจะไม่เข้าใจข้อกล่าวหาดังกล่าวก่อนไม่นานเขาจะเหยียดยิ้มออกมา...เป็นรอยยิ้มของปีศาจที่ทำให้เลือดในกายของคนปากดีลดอุณหภูมิเย็นเฉียบลงทันที
"ข่มขืน?...จะเอาแบบนั้นก็ได้นะ!"
................................................................
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูไม้สีเข้มเบาๆ ขาเรียวอันสั่นไหวจนแทบจะทรงตัวยืนไม่ไหวทำให้น้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งไหลออกมาอีกจนเขาต้องรีบปาดเช็ดมันทิ้งเพื่อไม่ให้ใครบางงคนได้เห็น ดวงจาเรียวรีอันแดงช้ำตวัดมองไปยังใครบางคนที่ยืนเหยียดยิ้มมาให้เขาอยู่ที่มุมทางเดินอย่างเกลียดชังก่อนจะตวัดกลับมาที่ประตูตรงหน้าตามเดิมเมื่อได้ยินเสียงปลดกลอนดังมาจากด้านใน
ฮยอกแจพยายามจะจัดสภาพอันยุ่งเหยิงของตัวเองให้เข้าที่...ทรงตัวยืนต่อไปทั้งๆที่เลือดยังคงไหลริน ประตูถูกผลักเปิดออกมาภายในเวลาไม่นาน แต่คนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่ร่างบอบบางของพี่ชายคนดีที่เขาอยากจะเจอ
"คุณเป็นใคร"
ชายหนุ่มร่างสูงผู้มีมบหน้าเรียบเฉยเอ่ยถาม เสียงทุ้มอันนุ่มหูปลุกให้ฮยอกแจสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากอาการตื่นตะลึง
"ผม...มารับตัวของลีซองมิน"
"คุณเป็นอะไรกับเขากับล่ะ"
"ผมเป็นน้องชายของเขา"
ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาคมคู่นั้นทอแวววูบไหวบางอย่างก่อนมันจะกลับมานิ่งเฉยตามเดิม...และในความรู้สึกของฮยอกแจ มันยิ่งเย็นชา
"ซองมินนอนพักอยู่ คุณมาใหม่พรุ่งนี้ละกัน"
ทิ้งท้ายห้วนๆแล้วจึงปิดประตูอย่างไม่คิดใส่ใจว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ ปล่อยให้คนที่ต้องมาใหม่พรุ่งนี้ยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิมด้วยหัวที่ตื้อตัน...เรียบเรียงอะไรเป็นเรื่องราวไม่ได้สักอย่าง...โดนทำร้ายจนสับสนไปหมด
"ดูเหมือนนายต้องมาใหม่พรุ่งนี้นะฮยอกแจ"
เสียงทุ้มของคนที่ยืนเฝ้ามองอยู่เอ่ยขึ้นด้วยเหมือนจะเยาะหยัน เรียกน้ำตาให้รื้อขึ้นมาเต็มขอบตาอย่างแค้นเคืองได้อย่างง่ายดาย ฮยอกแจกำมือแน่นจนเล็กจิกจมลงไปในฝ่ามือ ร่างกายบอบบางที่โดนทำร้ายเสียจนช้ำไปหมดสั่นระริกอย่างเกลียดชัง ซีวอนเดินเข้ามาประชิดร่างบางที่ด้านหลังก่อนจะใช้มือบีบแก้มเนียนและบังคับให้หันมาสบตา
"ถ้ามาอีก...ก็ต้องแลกอีกนะฮยอกแจ"
..............................................................
"ใครมาหรอคยูฮยอน"
เสียงหวานของคนที่เพิ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำเอ่ยถามพลางเดินไปล้มตัวนอนลงบนเตียงตามเดิม คยูฮยอนหันมายิ้มให้คนรักนิดก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียง
"เปล่าหรอก...แค่ลูกน้องมาบอกงานน่ะ"
มือใหญ่ลูบผมนิ่มของคนป่วยเบาๆด้วยรอยยิ้มจางๆบนเรียวปาก...และยิ่งคนตัวเล็กมีรอยยิ้มกว้างมากเท่าไร คยูฮยอนก็อยากจะยิ้มให้กว้างได้มากเท่านั้น แต่ด้วยนิสัยที่ต่างกัน ดวงตาคู่คมจึงมอบรอยยิ้มให้อีกฝ่ายแทนที่จะเป็นเรียวปาก
"หิมะตกรึยังน่ะคยูฮยอน"
"ทำไมหรอครับ"
"ฉันสัญญากับน้องไว้น่ะสิว่าจะดูหิมะแรกของปีด้วยกัน...เจ้าไก่ต้องโกรธมากแน่ๆถ้าฉันผิดสัญญาน่ะ"
"เล่าเรื่องน้องของซองมินให้ฟังหน่อยสิครับ"
"เรื่องของฮยอกแจน่ะหรอ"
"ครับ"
คนป่วยผู้ซึ่งนอนขดตัวเสียกลมดิกอยู่ใต้ผ้าห่มทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับขยับตัวเข้ามาใช้ศีรษะหนุนตักคนตัวสูงอย่างออดอ้อน
"ฮยอกแจน่ะน่ารักมากๆเลยนะ เป็นคนที่ทุ่มเทมากเลยล่ะ...พวกที่จะทำทุกอย่างจนกว่าจะได้มาอะไรทำนองนั้นแหละ ถ้าเชื่ออะไรแล้วก็จะเชื่อแบบนั้นไปตลอด...ฉันเลยไม่ค่อยสัญญาอะไรกับหมอนั่นเท่าไร ฉันกลัวผิดสัญญาน่ะ"
ซองมินหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆพลางวาดแขนโอบกอดเอวของคนรักเอาไว้ ซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับหน้าท้องแกร่งอย่างซุกซนจนคยูฮยอนต้องหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
"แล้วน้องของซองมินทำงานอะไรหรอครับ"
"ไม่รู้สิ...ถามทีไรก็เอาแต่บอกว่าทำงานอยู่กับคนที่ชื่อลีทงเฮหรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะ"
จางซึนกีจริงๆด้วยสินะ
"หรอครับ...ซองมินนอนพักเถอะนะครับ"
แล้วผมจะมีซองมินแบบนี้ได้อีกนานเท่าไรกันล่ะ
"หิมะตกเมื่อไรนายต้องรีบบอกฉันนะ ฉันต้องไปหาไก่น้อยของฉัน...ห้ามลืมนะ"
แล้วผมจะสามารถรักซองมินแบบนี้ได้อีกนานเท่าไรกันล่ะ
"ครับ...ผมจะรีบบอกซองมินคนแรกเลย นอนได้แล้วครับ"
ในเมื่ออีกไม่นาน...
คนที่ซองมินเลือกจะกลับไปหา....ก็คือลีฮยอกแจคนนั้นอยู่แล้วนี่
.............................................................
"ให้เข้ามาแล้วออกไปแบบนั้นจะดีหรอครับคุณซีวอน"
"เดี๋ยวหมอนั่นก็กลับมาอีกเชื่อฉันสิ...ลีฮยอกแจต้องกลับมาแน่"
คนมั่นใจเหยียดยิ้มออกมานิดให้กับบรรยากาศด้านนอกรถราวกับกำลังหวนกลับไปนึกถึงผิวขาวๆที่เขาเพิ่งจะได้สัมผัสมันเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เยซองที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่กับคนขับรถเหลือบสายตามองนายหนุ่มผ่านกระจกมองหลังเล็กน้อยคล้ายอยากจะอ่านความคิดจากดวงตาคู่นั้น ก่อนไม่นานเขาจะถอนหายใจออกมาเบาๆและเลิกใส่ใจไปในที่สุด ซีวอนกวาดสายตามองร้านรวงริมถนนไปเรื่อยเปื่อย...อย่างน้อยที่นี่ก็คือบ้านของเขาล่ะนะ มันทำให้เขาคิดถึงอะไรได้มากมายเหลือเกิน
"เจ้าซึงฮยอนไปเยี่ยมพ่อบ้างมั้ย"
"ไม่บ่อยหรอครับ แต่คุณซูยองบินกลับมาจากญี่ปุ่นมาเยี่ยมคุณท่านเกือบทุกปี"
"ไอ้เด็กอกตัญญูเอ๊ย..."
ชายหนุ่มพึมพำบ่นน้องชายออกมาเบาๆ แต่ทว่าก็ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูที่หาดูได้ยากนัก ซึงฮยอนไม่ชอบร้องไห้...เขารู้ดี หมอนั่นหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่จะทำให้มีน้ำตาเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสถานที่ที่เขากำลังจะไปเยี่ยมเยียน...สุสานของบิดา
รถยนต์คันหรูชะลอความเร็วลงจนในที่สุดก็หยุดนิ่งเพราะสี่แยกไฟแดงที่ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คนขับรถสบถออกมาเบาๆอย่างขัดใจ ต่างจากผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ที่ยังคงเพลิดเพลินอยู่กับร้านรวงบนทางเท้า ดวงตาคมไปสะดุดเข้ากับร้านดอกไม้เล็กๆที่ทำให้เด่นสะดุดตาออกมาด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดพุ่มเบ้อเริ่มบนขอบหน้าต่างบานใหญ่ของร้าน
ซีวอนยิ้มออกมานิดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพ่อคงโกรธเขามากแน่ๆถ้าไม่มีแม้ดอกไม้สักดอกไปเยี่ยมหลังจากที่หายหัวไปหลายปี เสียงประตูที่เปิดออกกะทันหันเรียกสายตาแปลกใจจากเยซองได้ทันที เลขาหนุ่มแทบจะถลาปีนข้ามเบาะมารั้งจับข้อมือของนายหนุ่มที่กำลังก้าวออกจากรถไปกลางถนนแบบนี้
"จะไปไหนครับคุณซีวอน"
"ซื้อดอกไม้...คอยแป๊บเดียว"
ซีวอนตอบห้วนๆก่อนจะก้าวลงจากรถมาอย่างไม่คิดใส่ใจคำท้วงเกี่ยวกับความปลอดภัยใดๆจากผู้ช่วยของตนอีก เขาผลักประตูปิดก่อนจะเดินแทรกตัวผ่านรถราที่จอดติดอยู่เต็มถนนไปที่ร้านดอกไม้ที่เขาหมายตา
กลิ่นหอมหวานของกุหลาบกรุ่นกลิ่นอยู่เต็มอากาศแม้เพียงก้าวไปยืนหน้าร้าน และมันก็ยิ่งชัดเจนเมื่อเขาก้าวเข้าไปด้านใน เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่เหนือประตูร้านส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งเป็นสัญญาณเรียกให้เจ้าของร้านที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่กับตู้แช่ดอกไม้หันกลับมาส่งยิ้มให้ลูกค้าตัวโตที่รู้สึกเหมือนลมหายใจสะดุดไป...คนอะไรยิ้มหวานชะมัด
"สวัสดีครับ จะสั่งดอกไม้หรอครับ"
ตัวต้นเหตุอาการหายใจติดขัดของเชวซีวอนวางดอกไม้สีหวานในมือลงบนเค้าน์เตอร์ใกล้ๆก่อนจะเดินออกมาต้อนรับเขาถึงที่ มือเล็กเช็ดลวกๆเข้ากับกางเกงของตน คนตัวเล็กหัวเราะออกมานิดก่อนจะเอื้อมมือดึงใบไม้ใบหนึ่งออกจากผมของคนตัวโตที่ดูท่าว่าจะลืมวิธีการหายใจของตนไปเสียแล้ว
"ดอกไม้ของผมทำท่าเหมือนจะชอบคุณนะครับ คุณยังไม่ได้จับอะไรสักอย่าง แต่มันกลับไปจับคุณก่อนเสียเอง...นั่นเป็นเรื่องดีนะครับ"
เจ้าของร้านชูใบไม้ที่เพิ่งดึงออกมาให้อีกฝ่ายดูเหมือนอยากจะให้รู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่คนที่ถูกดอกไม้ชอบกลับยังคงยืนอึ้งจนเขาต้องหัวเราะออกมาเบาๆอย่างขบขัน
"นี่คุณ..."
"ฮะ?...อ่า...เชวซีวอนครับ"
ชายหนุ่มพ่นชื่อของตัวเองออกมาทั้งๆที่ยังไม่ได้ถูกถามอะไรสักอย่าง แหงล่ะ...จะเอาอะไรมากมายกับคนที่รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะหลุดออกมาจากอกล่ะ เจ้าของร้านหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง เขายกมือขึ้นเสยผมของตัวเองด้วยท่าทางที่ไม่ได้ถือสาอะไรด้วยรอยยิ้มเล็กๆบนมุมปาก
"ร้านดอกไม้ของคิมฮีชอลยินดีต้อนรับคุณเชวซีวอนนะครับ อยากให้คิมฮีชอลคนนี้จัดดอกไม้ให้รึเปล่าล่ะครับ"
..................................................................
คำตอบมาแล้วค่ะว่าฮยอกจะคู่กับใคร(ถ้าพวกเขาเป็นคู่กันจิงๆ- -“) คงต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าจะเปนวอนฮยอกหรือวอนซิน ซึ่งถ้าไรเตอร์จำไม่ผิด ไรเตอร์สัญญากับน้องคนนึงไปแล้วว่ามันจะเป็นคู่...แน่ๆ และแน่นอนค่ะ...ไรเตอร์ไม่ใช่คนผิดสัญญา มันจะเป็นคู่นั้นตามที่สัญญาไปแน่นอน น้องจะรู้ตัวมั้ยเนี่ย- -“ อย่าได้หลุดมันออกมาเชียวนะอิหนูว่ามันจะเป็นคู่อะไร เหยียบมันเอาไว้นะจ้ะ
มีคนถามว่าไรเตอร์เรียนที่ไหน(มั้ง...ถ้าจำไม่ผิดนะ- -“) ไรเตอร์อยู่ปีหนึ่งบัญชี ธรรมศาสตร์จ้า^^ ทักทายกันได้เน้อ อยากรู้อะไรก็ถามได้นะคะ ^^
ตอนหน้า...คิเฮที่อรอคอยจะมาแล้วค่ะ แม่ยกรออ่านกันนะจ้ะ^^
บั้ยบายค่ะ ใครใกล้สอบตั้งใจอ่านหนังสือเน้อ
ปล. มีคนทวงฟิควันเกิดบอม....โกรธมากเลย!!....งอนมากด้วย รู้ตัวง้อด่วนเลยนะ!!
ความคิดเห็น