ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Just You พรหมลิขิตหัวใจบอกฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #9 : Next Morning In The New Place

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.49K
      15
      20 พ.ค. 51

     

                แสงแดดที่ลอดผ่านเข้ามาทางรอยแง้มของม่านสีขาวทึบที่ขวางกั้นกระจกบานใหญ่เอาไว้ทำให้เปลือกตาบางของคนที่ยังคงทอดกายหลับใหลอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ขยับขยุกขยิกเล็กน้อยก่อนจะเปิดลืมขึ้นมาอย่างนึกรำคาญ นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองห้องที่ไม่คุ้นเคยอย่างงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนในที่สุดเขาก็นึกได้...มันทำให้สีหน้าและแววตาของเขาพลันว่างเปล่าขึ้นมาทันที

     

                ร่างบอบบางของทงเฮพลิกตัวหันกลับไปมองพื้นที่ว่างเปล่าข้างกาย มือเล็กวางทาบลงบนผ้าปูเตียงที่ยับย่น...สัมผัสความเย็นฉืดของมันอันบ่งบอกว่าเจ้าของอ้อมกอดเมื่อคืนนั้นได้ลุกออกไปนานแล้ว...มันทำให้ความว่างเปล่าเข้าเกาะกุมหัวใจดวงเล็กในทันทีโดยไร้เหตุผล...ว่างเปล่าเช่นเดียวกับสีหน้าและแววตาของตน...ราวกับเป็นตุ๊กตาอันไร้วิญญาณ

     

                ทงเฮยันตัวลุกขึ้นยืน แต่ทันทีที่เขาก้าวขาเพื่อจะออกเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มก็ต้องนิ่วหน้าและจำยอมทรุดตัวกลับลงมานั่งกองอยู่บนเตียง...รู้สึกเจ็บจนต้องนิ่วหน้าและกัดริมฝีปากทน

     

                "ตื่นแล้วหรอจ๊ะ"

                แม่บ้านร่างท้วมที่เดินเข้ามาในห้องร้องทักขึ้น มันทำให้คนที่กำลังนั่งอยู่ริมขอบเตียงด้วยร่างกายเปลือยเปล่าต้องรีบคว้าผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมกายทันที หญิงร่างท้วมเจ้าของเสียงทักอันอ่อนโยนเมื่อครู่คลี่รอยยิ้มที่อ่อนโยนไม่แพ้น้ำเสียงพลางเดินเข้ามาปลดผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดออกจากที่นอน

     

                "ไปอาบน้ำแล้วกินข้าวทานยาเถอะค่ะ"

     

                "แล้ว...?"

                นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบไปมองยังอีกฝากหนึ่งของเตียงนอนอันเย็นฉืด...ท่าทางเฉยชาเพียงแค่นั้นก็ทำให้ป้าแม่บ้านผู้ซึ่งเห็นตุ๊กตาของคุณผู้ชายมาแทบทุกตัวทั้งหญิงทั้งชายรู้โดยทันทีว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ากำลังถามหาใคร หล่อนไม่แสดงท่าทางใดๆนอกจากคลี่รอยยิ้มอันอ่อนโยนมาให้

     

                "คุณผู้ชายออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ท่านฝากให้ป้าดูแลคุณน่ะค่ะ...เห็นบอกว่าไม่สบาย"

     

                "ครับ" ทงเฮตอบรับสั้นๆพลางขยับรอยยิ้มไปให้ป้าแม่บ้านผู้แสนดีก่อนจะฝืนกายเดินไปยังห้องน้ำ...เขาล่ะอยากรู้นักว่าภายใต้รอยยิ้มอันแสนดีและถ้อยคำอันเพราะเสนาะหู ป้าคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่...กำลังดูถูกเขาว่าอย่างไร...เหอะ!...ไม่มีใครเข้าใจอะไรเลยซักคน!!

               

                ทงเฮเหยียดรอยยิ้มหยันขึ้นมามอบให้คนที่สะท้อนอยู่ในกระจก...ดูถูกคนในกระจกให้ถึงที่สุด...มันก็แค่งานที่ได้เงิน...งานดีๆที่ได้เงินดีๆ...จำเอาไว้ลีทงเฮ!

     

                ร่างบางอาบน้ำแล้วจึงพาตัวเองออกมานั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่...นั่งเหม่อลอยอยู่แบบนั้นจนป้าแม่บ้านยกถาดข้าวต้มมาวางตรงหน้านั้นล่ะถึงได้รู้สึกตัว

     

                "ขอบคุณครับ" เขาหันไปขอบคุณด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันมาตักข้าวต้มอุ่นๆในชามกระเบื้องเข้าปาก...แต่ก็กินไปได้เพียงสองคำแล้วก็ต้องวางช้อน

     

                "กินอีกสิคะ...ไม่สบายไม่ใช่หรอ กินเยอะๆแล้วกินยาจะได้หายไวๆไง" ป้าแม่บ้านคะยั้นคะยอเมื่อเห็นว่าข้าวต้มของหล่อนไม่ได้ลดลงไปจากเดิมมากนัก หากแต่คนถูกบังคับให้กินกลับส่ายหัวปฏิเสธพร้อมด้วยรอยยิ้มขอโทษบนริมฝีปาก

     

                "ผมไม่หิว...ขอโทษด้วยนะครับ อุตส่าห์ทำมาแล้วแท้ๆ"

                ถ้อยคำอันแสนสุภาพจุดแววของความแปลกใจให้ปรากฏวาบขึ้นมาบนใบหน้าของป้าแม่บ้านชั่วครู่ก่อนมันจะจางหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ...สุภาพ หากแต่ก็ดื้อรั้น...ยากนักที่จะฝืนใจคนจำพวกนี้

     

                "ถ้าอย่างนั้น...อยากได้อะไรก็เรียกป้านะคะ"

     

                "ครับ" ทงเฮตอบรับพลางลุกขึ้น...จงใจเมินยาแก้อักเสบและยาลดไข้ทั้งสองแผงที่วางอยู่ข้างชามข้าวต้ม ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อหนาวของตนแล้วจึงพาตัวเองออกไปนั่งรับแสงแดดอุ่นๆตรงเก้าอี้นวมที่วางอยู่ที่ระเบียงซึ่งเขาสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อคืน อากาศค่อนข้างเย็นสำหรับฤดูใบไม้ร่วง...หากแต่แสงแดดก็อุ่นจัดจนน่าสบาย

               

                ทงเฮกระชับเสื้อหนาว เฝ้ามองท้องฟ้าอันนิ่งสงบ ก่อนไม่นาน อากาศอันแสนสบายจะทำให้เขาเผลอหลับไป

     

    ...........................................

     

                ถ้าลีฮยอกแจเป็นคนที่โวยวายแล้วทำลายข้าวของแล้วล่ะก็ ป่านนี้เขาก็คงดึ้งทึ้งเจ้าเอกสารในมือให้กลายเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือเศษซากให้จำไปแล้ว...แต่เขาก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น จึงทำได้เพียงแค่นั่งเบิ่งตามองคำว่าไม่ผ่านการคัดเลือกสีแดงตัวใหญ่ด้วยสายตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น...ใช่ว่าเขาไม่ได้คิดเผื่อใจไว้แล้ว...เขาคิดไว้แล้ว คนที่ผิดหวังมานักต่อนักอย่างเขาคิดเผื่อใจไว้เสมอ...แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

     

                "ไอ้บ้า!!...แกไม่คิดจะให้โอกาสฉันบ้างรึไงวะ!!...ไอ้ห่าเอ๊ย!!"

                ฮยอกแจขยำเอกสารในมือจนยับย่นกลายเป็นก้อนกลมๆแล้วจึงเขวี้ยงสุดแรงไปยังมุมห้อง ก่อนแขนเล็กจะหันมากวาดหนังสือและกระดาษมากมายที่วางกองอยู่บนโต๊ะกาแฟตรงหน้าให้หล่นลงไปกองอยู่บนพื้นอย่างหงุดหงิด ปากเล็กๆก็พร่ำขุดหาคำสบถหยาบคายออกมาอย่างไม่รู้จักเหนื่อย

     

                ก๊อกๆ

     

                "ไอ้ห่า!...ใครวะ?!!"

                ตวัดเสียงย้อนถามกลับไปอย่างหงุดหงิดพลางลุกขึ้นเดินกระแทกเทาปึงๆไปเปิดประตูอย่างเสียมิได้ แต่ทันทีที่เห็นคนที่ยืนยิ้มอ่อนๆอยู่ที่หน้าประตูห้อง ความหงุดหงิดก็ดับวูบลงมาราวกับกองไฟที่โดนน้ำถังใหญ่สาดใส่จนไม่เหลือแม้แต่ควันในทันที

               

                "อ่ะ...เอ่อ..."

                ฮยอกแจอ้าปากค้าง...ไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดทักทายคนตรงหน้า...แหงล่ะ!...ถึงแม้จะรู้จักชื่อแถมยังเคยถูกเลี้ยงข้าวมาตั้งมื้อนึง แต่สำหรับลีฮยอกแจนั้น...มันก็ยังถือเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี!

     

                "สวัสดีครับฮยอกแจ ขอโทษที่มาหาเช้าไปหน่อย"

     

                "มีอะไรรึเปล่า"

     

                "แค่อยากให้ฮยอกแจไปกับผมหน่อยเท่านั้นเองครับ"

     

                "ไปไหน" ฮยอกแจย้อนถาม ดวงตาเรียวรีจ้องมองคนเอ่ยปากชวนอย่างไม่ไว้ใจแบบไม่ปิดบัง มือบางกำขอบประตูไว้แน่น เตรียมที่จะผลักปิดใส่หน้าแขกได้ทุกเมื่อ หากแต่แขกตัวโตกลับรู้ทันความคิดนั้น ฮันคยองเอาท่อนแขนของตนยันบานประตูไว้พร้อมกับเอื้อมมืออีกข้างหนึ่งไปคว้าข้อมือเล็กมากำจับไว้เพื่อป้องกันคนตัวเล็กวิ่งหนี...แน่ล่ะ...ก็เขายังไม่อยากเสียเหงื่อตั้งแต่เช้านี่

     

                "ทำตามสัญญาไงครับ"

     

                "สัญญาอะไร?!"

                คนตัวเล็กดึงมือกลับออกมาจากการเกาะกุมหลวมๆนั่นอย่างรวดเร็วและทำท่าจะวิ่งหนีอย่างที่เขาคาดไว้จริงๆเสียด้วย แต่โชคดีที่เขาคว้าเอวบางๆนั่นไว้ทัน ฮันคยองยกคนร่างบางขึ้นพาดบ่าพร้อมกับปิดประตูล๊อคห้องให้อย่างเรียบร้อยก่อนจะหมุนตัวเดินลงบันไดกลับไปยังรถที่เขาจอดทิ้งไว้

     

                "เฮ้ย!!!...สัญญาอะไรของนาย!...นายไม่ได้สัญญอะไรกับฉันไว้ซักหน่อย!" ฮยอกแจโวยวายอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวดิ้นรนอะไรมากนักเพราะกลัวจะทำให้คนแบกพาทั้งเขาทั้งตัวเองกลิ้งตกบันไดชันๆนี่เสียก่อน ฮันคยองหัวเราะออกมาเบาๆพลางกระชับขาเล็กๆนั่นแน่นขึ้น

     

                "ก็ที่คุณอยากให้ผมเลี้ยงไงครับฮยอกแจ...นี่ผมจริงจังนะครับ"

                แค่นั้นล่ะ...แก้มเนียนๆของคนที่กำลังจะถูกเลี้ยงโดยหนุ่มชาวจีนเจ้าของสำเนียงแปลกแปร่งก็ร้อนวูบขึ้นมาทันที

     

                เขาไปตอบตกลงยอมให้ไอ้หมอนี่เลี้ยงตั้งแต่เมื่อไรกันวะ!

     

    .......................................................

     

                "ตื่นแล้วหรอ"

     

                "ค่ะ...ยอมกินข้าวไปนิดเดียว ยาก็ไม่ยอมกิน...ป้าไม่รู้จะบังคับยังไง"

     

                "อย่างนั้นหรอครับ...งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงผมจะกลับไป ป้าช่วยทำอาหารทิ้งไว้ให้ทีนะครับ"

           

                "ได้ค่ะคุณผู้ชาย...เอ่อ...คุณผู้ชายคะ..."

     

                "ครับป้า?"

     

                "ป้ารู้นะคะว่านี่ไม่ใช่เรื่องของป้า แต่คุณผู้ชายช่วยซื้ออะไรมาให้เธอดีใจหน่อยได้มั้ยคะ...คุณทงเฮเธอดูไม่ค่อยสดใสตั้งแต่ตื่นมาแล้วน่ะค่ะ"

     

                "ครับ" คิบอมตอบรับสั้นๆ...ไม่สัญญาหรือปฏิเสธใดๆทั้งสิ้นแล้วจึงกดวางสาย มุมปากกดลึกเป็นรอยยิ้มร้ายกาจที่ยากจะคาดเดาความคิด...แค่คืนแรกเทพธิดานัยน์ตาสีฟ้าของเขาก็ไม่เหมือนใครเสียแล้ว...น่าสนใจจริงๆ!

     

                ถ้าวันนี้เขาไม่มีงานด่วนที่ต้องมาจัดการล่ะก็ เขาก็คงยอมหยุดงานอยู่เล่นกับตุ๊กตาตัวใหม่ของเขาไปแล้ว...แถมเมื่อคืนจู่ๆก็ตัวร้อนขึ้นมา ไม่รู้ว่าตอนนี้จะหายรึยัง ยาก็ไม่ยอมกินเสียด้วย...ให้ตายเหอะ!...ถ้าไม่มีไอ้งานบ้าๆนี่ล่ะก็...แม่ตุ๊กตาตัวน้อยนั่นคงไม่มีสิทธิ์ดื้อดึงทำตามใจตัวเองแบบนี้หรอก!

     

                ก๊อกๆ

     

                "คุณคิบอมครับ"

     

                "เข้ามาสิฮันคยอง"

                เจ้าของห้องเอ่ยปากอนุญาตพลางหมุนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ของตนให้หันกลับเข้ามาในห้อง แล้วก็ต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อไม่ได้มีเพียงร่างสูงของผู้ติดตามของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้ามาในห้อง แต่ยังมีไอ้หนุ่มตัวเล็กที่รีบขยับตัวไปยืนหลบอยู่ข้างหลังของฮันคยองเหมือนเด็กๆที่วาดกลัวต่อการเข้าหาผู้ใหญ่ทันทีที่สายตาของเขาปราดไปหา...เขาว่าหน้าไอ้หนุ่มผมส้มนี่มันคุ้นๆอยู่นา

     

                "มีอะไรหรอฮันคยอง"

     

                "ผมอยากได้คนนี้เป็นลูกน้องครับ"

                เนื่องจากทำงานด้วยกันมานาน อีกทั้งยังเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก มันจึงทำให้ฮันคยองกล้าที่จะพูดขอตรงๆกับคนที่ทั้งบริษัทกลัวนักหนา เขาหันมาคว้าไหล่บางของคนที่ครางพึมพำอะไรซักอย่าง ดึงรั้งให้ก้าวออกมาจากหลังของเขาเพื่อให้ผู้เป็นเจ้านายได้เห็นหน้าตาชัดๆ แต่คนตัวเล็กก็ไม่วายก้มหน้างุดๆหลบสายตาคมๆนั่นเสียอีก

     

                "ชื่ออะไรล่ะฮะเจ้าตัวเล็ก" คิบอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยที่ฟังดูออกจะชอบใจกับเจ้าตัวเล็กที่ก้มหน้าหนีเขาอยู่ไม่น้อย

     

                "ลีฮยอกแจครับ"

     

                "เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า...หน้านายคุ้นมากเลย"

     

                "ไม่เค๊ยไม่เคยเลยครับ! ผมเพิ่งเคยเห็นหน้าคุณนอกจอทีวีครั้งแรกเลย"

                ฮยอกแจาส่ายหน้าปฏิเสธจนผมสีแสบตาขยับไหวไปมา...ท่าทางมีพิรุธเห็นๆทำให้คนที่เฝ้ามองทั้งสองคนต้องกลั้นยิ้ม ฮันคยองรีบวางมือลงบนศีรษะเล็กเพื่อหยุดการส่ายหน้านั่นก่อนที่เจ้าตัวจะทำคอตัวเองเคล็ดไปเสียก่อน

     

                "ว่าไงครับคุณคิบอม"

     

                "ตัวเล็กแบบนี้จะมาดูแลฉันได้เร้อะ...อ๊ะ!..." ชายหนุ่มอุทานออกมาพร้อมกับนัยน์ตาสีดำขยับเบิกกว้างเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ คิบอมเหยียดยิ้มพลางประสานมือทั้งสองข้างไว้บนโต๊ะ

     

                "เอาเป็นว่าฉันรับนายไว้ก็แล้วกัน คำสั่งแรกสำหรับวันนี้นะลีฮยอกแจ...ให้นายกับฮันคยองเตรียมรถให้ฉันตอนเที่ยงด้วย ฉันจะพาไปหาหน้าที่ของนายฮยอกแจ"

     

    ...................................................

     

                "ทงเฮ...ตื่นได้แล้วคนขี้เซา...เที่ยงแล้วนะ"

                เปลือกตาบางขยับขยุกขยิกเพราะลมหายใจอุ่นๆที่รวยรินให้รำคาญใจอยู่ข้างหูและเสียงทุ้มนุ่มที่กระซิบแผ่วเบาอยู่ใกล้ๆ ก่อนในที่สุดก็ทนความรำคาญไม่ไหว ต้องเปิดลืมตาขึ้นมามองสิ่งที่ก่อกวนการนิทราของตน แล้วนัยน์ตาสีฟ้าก็ต้องขยับเบิกกว้างเมื่อสบตากับคนที่ก้มตัวลงเข้ามาใกล้แบบจังๆ ทงเฮยันตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างระมัดระวังไม่ให้เข้าใกล้ใบหน้าคมนั่นมากนัก...แน่ล่ะ....ก็คนปลุกไม่ยอมยืดตัวกลับขึ้นไปเสียทีน่ะสิ

     

                คิบอมคลี่ยิ้ม ก้มตัวเฝ้ามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนตัวเล็กที่เบี่ยงหน้าหนีเขาอย่างเพลินตา

     

                "อากาศเย็นนะ....กลับเข้าไปข้างในดีกว่า เดี๋ยวเธอจะมีไข้อีก"

                นี่ไม่ใช่คำเอ่ยชวนที่คนฟังมีสิทธิ์เลือกที่จะปฏิเสธ หากแต่เป็นการบังคับที่ทงเฮมีสิทธิ์แค่เพียงเชื่อฟังและทำตามเท่านั้น ร่างบางกระชับเสื้อหนาวของตนก่อนจะลุกก้าวตามคนร่างสูงกลับเข้าไปด้านในห้องที่อุ่นกว่าอย่างว่าง่าย

     

                คิบอมลอบมองคนที่ก้าวเดินตามเข้ามายังโต๊ะอาหารอย่างสนใจใคร่รู้...ดูซึมๆอย่างที่ป้านัมยองบอกจริงๆด้วย ใบหน้าสวยซีดขาว นัยน์ตาสีฟ้าหม่นแสงเหมือนท้องฟ้าที่มีม่านหมอก...ไม่สดใสเอาเสียเลยนะลีทงเฮ...เดี๋ยวก็ได้ไม่สบายเอาเข้าจริงๆหรอก

     

                "นั่งสิ...กินข้าวกลางวันซะ ป้านัมยองบอกว่าเธอกินข้าวเช้าไปนิดเดียว"

                ทงเฮทรุดตัวนั่งลงพลางกวาดสายตามองอาหารไม่กี่อย่างบนโต๊ะด้วยแววตาเรียบเฉย...ไร้ความสนใจใดๆทั้งสิ้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังยอมคว้าตะเกียบขึ้นมาคีบนู่นคีบนี่เขาปาก...การกระทำที่ใครๆก็ดูออกว่าทำเพียงเพื่อไม่อยากให้ผู้เป็เจ้าของฝีมือการทำอาหารมื้อนี้ต้องเสียใจเท่านั้น...สีหน้าบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวไม่มีความอยากอาหารแม้เพียงนิด

     

                คิบอมยังคงเพลิดเพลินกับการเฝ้ามองปฏิกิรยาของคนตัวเล็กคนนี้ แม้กระทั่งยามที่ตัวเองกำลังจัดการกับข้าวกลางวัน...ท่าทางของเทพธิดานัยน์ตาสีฟ้าทำให้เขาสนใจ...นิ่งเฉยราวกับตุ๊กตา....เย็นชาราวกับไม่มีชีวิต...ถือเป็นตุ๊กตาตัวแรกของเขาเลยทีเดียวที่นิ่งได้ขนาดนี้...มันน่าสนใจมากกว่าจะน่าเบื่อเสียอีก!

     

                "ทงเฮ"

     

                "ครับ?"

     

                "นี่ของเธอ"

                มือเล็กชะงักตะเกียบก่อนจะวางลงเพื่อเอื้อมมือไปรับสิ่งที่ถูกหยิบยื่นมาให้...เป็นสมุดบัญชีที่มีเงินฝากสำรองไว้แล้วสิบล้านวอน...สมุดบัญชีที่ถูกเปิดขึ้นโดยชื่อของเขา ตัวเลขของจำนวนเงินที่ถูกฝากเอาไว้ทำให้ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไรเหตุผล มือบางกำแน่นจนสมุดบัญชีเล่มเล็กนั่นยับเป็นรอย...นายทำเพื่อสิ่งนี้นี่ลีทงเฮ....ทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อสิ่งนี้นี่...ดีใจสิลีทงเฮ...ยิ้มออกมา

     

                เรียวปากสีสวยฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อยเพื่อส่งไปให้คนที่นั่งอยู่อีกฝากโต๊ะ...เป็นรอยยิ้มที่ถูกฝืนคลี่ออกมา หากแต่ก็ถูกมอบให้อย่างจริงใจ ซึ่งใช่ว่าคนแข็งกระด้างอย่างคิมคิบอมจะดูไม่ออก

     

                "ขอบคุณครับ" ถ้อยคำที่ยาวกว่าคำตอบรับถูกเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรกของวันอย่างจริงใจไม่แพ้รอยยิ้มนั้น

     

                "มันจะเพิ่มขึ้นเดือนละสิบล้าน...นั่นคือคำสัญญาของฉัน"

     

                "ขอบคุณครับ"

     

                "ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเธอ ฉันจะเปิดบัตรเครดิตให้....ตกลงมั้ย"

     

                "แต่..."

                เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง...มันทำให้คนตัวเล็กลังเลที่จะตกปากรับคำ บัตรเครดิตจะทำให้เงินที่เขาควรจะได้ไม่ใช่สิบล้าน...ค่าตัวของเขาไม่ควรมากเกินไปกว่านั้น เพราะมากเพียงแค่นี้...ลีทงเฮก็รู้สึกโลภเกินไปแล้ว

     

                อาการเกรงใจแบบเด็กอย่างนั้นทำให้คิบอมคลี่ยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...เป็นรอยยิ้มเอ็นดูที่หามองได้ไม่บ่อยนักบนริมฝีปากของคิมคิบอม ชายหนุ่มยังคงก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปราวกับเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่เป็นเรื่องทั่วไปอย่างดินฟ้าอากาศ

     

                "ฉันให้...จะปฏิเสธรึไง" เสียงที่แสร้งทำให้เข้มขึ้นทำให้คนที่นึกว่าตัวเองกำลังโดนดุรีบก้มหน้างุดในทันที

     

                "เปล่าครับ"

     

                "ดี...แล้วฉันจะทิ้งคนไว้ให้เธอคนนึง อยากไปไหนหรืออยากได้อะไรก็บอกเขาตกลงมั้ย ฉันจะทิ้งรถไว้ให้คันนึงด้วย...ชอบรึเปล่า"

     

                "ครับ"

                คิบอมคลี่ยิ้มอย่างพอใจกับความซื่อแสนเหลือเชื่อของคนตรงหน้าก่อนเขาจะหันไปตะโกนเรียกชายสองคนที่ยืนคอยอยู่หน้าห้องให้เข้ามา ทงเฮเงยหน้าขึ้นไปมองผู้าใหม่อย่างสนใจทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆก้าวเข้ามาในห้อง...เป็นครั้งแรกกระมังที่คิบอมเห็นเจ้านัยน์ตาสีฟ้านั่นฉายแววอย่างอื่นที่ไม่ใช่ความเฉยชา

     

                ทงเฮจำผู้ชายตาคมตัวสูงคนนั้นได้...เป็นคนติดตามของคิบอมชื่ออะไรซักอย่างที่เขาจำไม่ได้ ส่วนชายอีกคนที่รีบขยับตัวหลบวูบไปอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มร่างสูงทันทีที่ก้าวเข้ามาในระยะการมองเห็นของเขานั้นออกจะคุ้นหน้าคุ้นตาทงเฮอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็นึกไม่ออกเสียทีว่าเคยไปเจอกันที่ไหน...ทั้งๆที่ผมสีส้มแสบตาอย่างนี้ก็ไม่ใช่สีที่คนทั่วๆไปเค้าทำกันซักเท่าไร

     

                "เจ้าคนตัวเล็กนั่นจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอนะทงเฮ...นายจะไปยืนหลบทำไมน่ะฮะเจ้าตัวเล็ก ฮันคยองมีหน้าที่ดูแลฉันคนเดียวเท่านั้นนะ"

                ท่อนแรกนั้นหันมาพูดกับเขา ส่วนท่อนหลังเป็นของเจ้าตัวเล็กที่กำลังทำหน้าแหยๆขณะยอมก้าวออกมาจากด้านหลังของฮันคยองเพื่อโค้งตัวให้เขา

     

                ชายร่างสูงทั้งสองคนนั้นทั้งอมยิ้มทั้งพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทางตื่นๆของคนผมสีแสบตาตรงหน้า มันทำให้บางอย่างในช่องท้องของทงเฮกระตุกขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่เบือนหนีโดยไม่รู้ตัว...ฝืนตัวเองให้ยิ้มอย่างไร...ฝืนตัวเองให้สดใสเท่าไร มันก็คงไม่มากพอหรอกสำหรับลีทงเฮคนนี้เพื่อที่จะได้ปฏิกริยาตอบรับแบบนั้นจากผู้อื่น มันฝืนเกินไปจนคนอื่นรู้สึกได้และสมเพช...มันไม่มากพอ

     

                "เอ่อ...คือ...ผมลีฮยอกแจนะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ" ฮยอกแจพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าพร้อมกับโค้งตัวให้เขาแทบจะขนานกับพื้นไม้ มันทำให้ทงเฮประหลาดใจและทำตัวไม่ถูกว่าควรจะรีบยืนโค้งตัวตอบกลับดีรึเปล่า...แน่ล่ะ...ก็เขาไม่เคยเป็นนายของใครนี่

     

                "ลีทงเฮ...อ่ะ...เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" คำแนะนำตัวตะกุกตะกักทำให้คนที่ลอบมองอดที่จะยิ้มออกมานิดๆไม่ได้...สุภาพเกินไปจริงๆนั่นล่ะ

     

                "พวกนายสองคนออกไปคอยข้างนอกก่อน ฉันมีเรื่องต้องคุยกับทงเฮ"

                ชายผู้เป็นลูกน้องของคิมคิบอมรับคำสั่งนั้นด้วยถ้อยคำสั้นๆอย่างว่าง่ายก่อนทั้งคู่จะหมุนตัวเดินออกไป ทันทีที่ร่างของทั้งสองคนหายลับประตูไป ดวงตาคมก็ตวัดกลับมาหาคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยิบตะเกียบขึ้นมาอีก

     

                "อิ่มแล้วหรอ" น้ำเสียงที่เอ่ยถามไม่คุกคาม หากแต่ก็เนิบนาบคาดคั้นขอคำตอบ

     

                "ครับ...ผมไม่ค่อยหิว"

     

                "มานี่ซิ"

     

                "ครับ" ทงเฮรับคำอย่างว่าง่ายเป็นที่สุดก่อนร่างบอบบางจะลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนเอ่ยเรียก แล้วก็ต้องหลุดเสียงอุทานออกมาเมื่อเอวบางของตนถูกคนชอบสั่งคว้าเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วจนเซถลาลงไปนั่งคร่อมทับ แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อริมฝีปากอุ่นจรดแนบชิดลงมาบนลำคอ...ขบเม้มไม่แรงมาก หากแต่ก็ทำให้รอยสีกุหลาบปรากฏเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง

     

                "คุณคิบอม..."
               
    เสียงหวานแผ่วเบาถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากริมฝีปากบางคล้ายพยายามจะร้องห้าม หากแต่มันก็อ่อนเกินไปจนฟังดูคล้ายเสียงครางไปเสียมากกว่า มือบางที่วางอยู่บนไหล่กว้างเริ่มออกแรงผลักไส...แล้วก็กลายเป็นแน่นิ่งเมื่อมือใหญ่อุ่นร้อนเแสนซุกซนสอดผ่านเข้าไปให้เสื้อ...ลูบผิวเนียนอย่างหลงใหล

     

                "ทำไมไม่สดใสเลยล่ะทงเฮ"

     

                "ผม...ปะ...เปล่า"

                คำตอบช่างแสนตะกุกตะกักไม่ได้ดังใจเพราะอารมณ์หวามไหวบางอย่างในช่องท้อง ลมหายใจเริ่มขาดห้วงเพราะมือใหญ่เริ่มเลื่อนต่ำไปสัมผัสก้อนเนื้อนิ่มด้านหลัง ใบหน้าคมยังคงวุ่นวายกับการสร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของบนซอกคอขาวให้มากที่สุดเท่าที่ผิวขาวจนซีดของเจ้าตัวจะยอมให้เขาทำ

     

                "เปล่าตรงไหนกัน...เธอดูเหมือนไม่มีชีวิตเลย"

                นัยน์ตาสีฟ้าทอประกายเศร้าสร้อยทันทีที่สิ้นถ้อยคำ ทงเฮเบือนหน้าหนีราวกับรู้ว่าไม่นานคนที่กำลังกอดตนอยู่จะต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตา

     

                "ก็ผมเป็นเป็นตุ๊กตานี่ครับ...ตุ๊กตาจำเป็นต้องมีชีวิตด้วยรึไง"

                น้ำเสียงราบเรียบ หากแต่ถ้อยคำกลับฟังดูแสนประชดประชัน มันทำให้คิบอมยอมละริมฝีปากออกมาจากความหอมหวานเพื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนพูด...ดั่งที่ถูกคาดการณ์เอาไว้ เขาไม่รู้ว่านัยน์ตาสีฟ้าแสนสวยนั่นกำลังพูดสิ่งใด...คิมคิบอมอ่านความรู้สึกของผู้อื่นผ่านแววตาไม่เก่งมาแต่ไหนแต่ไร หากแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามันช่างเศร้าสร้อยราวกับน้อยใจที่ถูกเรียกแบบนั้น...แน่ล่ะ...เขาจำได้ว่าเรียกทงเฮว่าตุ๊กตาไปเมื่อคืน...ไม่รู้ทำไมไอ้แววตาแบบนี้ถึงได้ทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแม้ซักอย่างเดียว

     

                "ทงเฮ..."

                มือใหญ่ละออกมาจากบั้นท้ายนุ่ม ลากเลื่อนขึ้นมาตามลำตัวบอบบางเพื่อไปรั้งศีรษะเล็กให้ลงมารับจุมพิตที่ริมฝีปากอุ่นของตน....เป็นจุมพิตที่อ่อนหวานปราศจากการมุ่งร้ายใดๆ เรียวลิ้นค่อยๆไล้เล็มริมฝีปากบางอย่างเชื่องช้าก่อนจะสอดแทรกเข้าไปหยอกล้อกับอีกฝ่ายอย่างใจเย็นและอ่อนโยน....ความอ่อนโยนที่ทำให้ทงเฮถึงกับลืมหายใจ

     

                ร่างสูงละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งพลางตวัดแขนรัดรอบเอวบาง รั้งเข้ามากอดแนบตัวแน่นจนรู้สึกได้ถึงจังหวะเสียงหัวใจเต้นของอีกฝ่าย

     

                "อุ่นมั้ยทงเฮ"

           

                "อุ่นครับ...อุ่นมาก" ทงเฮตอบกลับไปด้วยเสียงอ้อมแอ้ม แก้มร้อนวูบราวกับจะระเบิดออกมาเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นระรัว...นายรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายได้ยังไงกันลีทงเฮ!

     

                "ตัวของเธอก็อุ่นนะทงเฮ..."

     

                "ครับ"

     

                "ตุ๊กตาน่ะ...ตัวไม่อุ่นแบบนี้หรอกนะ...จะไม่มีเสียงหัวใจเต้น...จะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น...แต่เธอน่ะมีชีวิตนะทงเฮ เธอจะเป็นตุ๊กตาหรืออะไรฉันไม่สน แต่อยู่กับฉัน...คนที่ฉันต้องการคือลีทงเฮที่มีชีวิต...แค่ลีทงเฮคนนั้นคนเดียวเข้าใจมั้ย"

                น้ำเสียงเนิบนาบที่ไม่ได้ฟังดูลึกซึ้งอะไรซักนิดกลับทำให้ใบหน้าหวานร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างไม่น่าเป็นไปได้จนต้องซุกหน้าเข้ากับไหล่กว้างราวกับกลัวอีกฝ่ายจะสังเกตเห็น

     

                "ทำตัวให้สดใสและยอมกินยาซะ แล้วเย็นนี้ฉันอาจจะพาเธอไปเที่ยว...เอามั้ย"

                แรงพยักหน้าหงึกหงักเบาๆที่หัวไหล่ทำให้คิบอมเหยียดยิ้มออกมาอย่างพอใจพลางกอดรัดร่างบางแน่นขึ้น...คนอย่างคิมคิบอมเก่งอยู่แล้วล่ะในการหลอกล่อเอาใจคนที่ตัวเองกำลังถูกใจ...ต้องเอาใจเสียให้พอก่อนที่เขาจะทำให้ตัวเองเบื่อไปเสียก่อน!

     

    .........................................................

     

     เปนตอนที่ไม่ค่อยจะได้สาระอะไรเท่าไรสำหรับตอนนี้ แต่มันก็ดันยาวดีเป็นบ้าซะงั้น- -* 


    ตอนนี้เรตติ้งพระเอกสุดหล่อของเรากำลังตกฮวบฮาบ...เราเลยเปลี่ยนแนวมาเป็นบอมฮยอกกันดีกว่าเนอะ เพราะตาบอมดูจะใจดี๊ใจดีกับไก่(ของป๋า)มากกว่านู๋หมวย(ของคนแต่ง)ซะอีก- -...พูดเล่นจ้า^^;;


    ไม่รู้ช่วงนี้คิดไปเองรึเปล่านะ รู้สึกว่าฟิคไม่ค่อยมีไรอัพเลยอ่ะ...มีใครคิดเหมือนเรามั้ยอ่า หรือมันเป็นแค่เรื่องที่เราอ่านอย่างเดียวหว่า


    แจ้งการเปลี่ยนแปลงนิดนึงนะ...สำหรับค่าตัวสินสอดของนู๋หมวยจากหนึ่งล้าน ไรเตอร์เปลี่ยนให้เป็นสิบล้านแล้วนะ หลังจากมีคนมาประท้วงว่าค่าสินสอดไม่เหมาะสมกับฐานะและหน้าตา(?)ของนู๋หมวยซักเท่าไร...รับทราบนะจ๊ะที่รัก แก้ไขให้หมดแล้ว แต่ถ้ามีตรงไหนที่ไม่ได้แก้ก้อบอกกันได้นะ จะได้ไปแก้ให้


    ไปแระๆๆ...ขอบคุณคนอ่านคนเม้นต์ทุกคนนะจ๊ะ^^....ไรเตอร์ล่ะปลื้มมมมม~



    ตอนหน้า...รอพบกับอึนเฮค่ะ...(ได้ข่าวว่านี่คิเฮไม่ใช่หรอหล่อน - -*)





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×