ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Just You พรหมลิขิตหัวใจบอกฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #6 : Coincident

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.31K
      13
      20 พ.ค. 51

               

                          ฮันคยองยกมือขยี้ผมของตัวเองอย่างเบื่อๆพลางก้าวต่อไปตามฟุตบาทที่วุ่นวายไปด้วยผู้คน...เขาเพิ่งกลับมาถึงโซล...เหนื่อยจะแย่!...แต่ท้องเจ้ากรรมกลับไม่อยากให้เขาล้มตัวนอนเพราะมันร้องโครกครากไม่หยุดจนในที่สุดเขาต้องยอมแพ้และต้องลำบากหอบสังขารออกมาจากอพาร์ทเม้นต์เพื่อมาหาอะไรกิน(อันเนื่องมาจากตู้เย็นของเขานั้นดันว่างเปล่าไม่รู้เวล่ำเวลา)ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะนี่ดันเป็นช่วงหัวค่ำที่บริษัทหลายบริษัทใช้เป็นเวลาเลิกงานพอดี มันก็เลยดูเหมือนว่าคนจะเยอะแยะยั้วเยี้ยไปหมดทุกทียังกับมดแตกรัง ไม่ว่าจะเป็นร้านไหนๆก็ดูเหมือนจะไม่มีที่พอให้เขาเบียดเข้าไปนั่งได้แม้แต่ร้านเดียว จะซื้อกลับไปกินห้องก็ท้อกับคิวที่รอยาวเสียเหลือเกิน

               

                ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!

     

    .....................................................

     

                "เฮ้ย!...ไอ้นี่ไง!...ชินดงๆ แกมาดูเร็ว!...ไอ้บ้าเมื่อคืนก่อนไง..."

                เสียงร้องโวยวายของคนที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีทำให้หนุ่มร่างท้วมที่กำลังทำอะไรขลุกขลักอยู่ในครัวต้องเดินออกมาหาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเจ้าเพื่อนหน้าไก่คงไม่เลิกส่งเสียงดังง่ายๆแน่ๆถ้าหากเขาไม่เดินไปหา

     

                "อะไรของแกวะฮยอกแจ...อ่าวเฮ้ย!...ตายห่าแล้ว!!"

                แล้วอาการของชินดงก็ไม่แพ้กับเพื่อนของเขา ฮยอกแจเบิกตาค้างกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ปากอ้าค้าง มือที่ถือรีโมตเตรียมกดเปลี่ยนช่องก็สั่นระริกจนเจ้ารีโมตนั่นจะหลุดออกมาจากมืออยยู่รอมร่อ...เขาก็ตะหงิดๆใจมาตั้งแต่ไอ้บ้านั่นพูดแล้ว แต่ก็ไม่นึกว่าไอ้บ้านั่นจะเป็นคนใหญ่คนโตขนาดนี้นี่!...ภาพของไอ้บ้าเมื่อคืนก่อนกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนจอทีวีจากข่าวที่รายงานสดมาจากพูซาน...ข่าวของประธานบริษัทมือถือยี่ห้อดังซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในเครือคิมกรุ๊ปเดินทางไปจัดการปัญหาการประท้วงของพนักงาน

     

                ...อ้าใช่เลยล่ะ...

               

                ท่านประธานคิมคิบอม...ไอ้บ้าที่ตั๊นหน้าชินดงซะล้มตึงนั่นล่ะ!...ทำไมเขาถึงจำหน้าหมอนั่นไม่ได้วะ ทั้งๆที่เขาเห็นมันในทีวีออกบ่อยเสียขนาดนี้น่ะ!

     

                "ทำไงดีวะชินดง แกว่าไอ้บ้านั่นจะแจ้งตำรวจจับเรามั้ยวะ"

     

                "ไม่หรอกมั้ง..." ชินดงตอบกลับมาพลางเดินมาทรุดตัวนั่งอยู่ข้างๆ แต่น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ทำให้เพื่อนของเขารู้สึกเชื่อมั่นขึ้นมาเลยซักกะผีกริ้น

     

                "แน่ใจหรอวะ...แม่งโคตรใหญ่เลยนะเว้ย!...อาจจะใช้เส้นทำให้เราติดคุกหัวโตเลยก็ได้นะ"

     

                "เออ...ฉันว่ามันจำเราไม่ได้หรอก คนใหญ่คนโตแบบนั้นมีเรื่องให้ทำเยอะแยะ...จำไม่ได้ชัวร์ แกเชื่อฉัน"

                ชินดงตบไหล่เพื่อนข้างๆไปหนักๆเสียสองทีก่อนจะเอื้อมมือไปแย่งรีโมตมาเปลี่ยนเป็นช่องอื่นเสียก่อนที่เพื่อนของเขาจะเห็นหน้าไอ้บ้าแก้มป่องนั่นมากเกินไปจนคิดมากวิกลจริตไปเสียก่อน

     

                ชินดงเหลือบมองคนข้างๆที่ดูสงบลงบ้างแล้วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ...พอเรื่องกะทันหันผ่านไป เรื่องที่จำเป็นที่ต้องกังวลใจมากกว่าติดคุกหัวโตก็เข้ามาทำให้หนุ่มร่างใหญ่มีใบหน้าที่ซึมลงทันที

     

                "ฮยอกแจ..."

     

                "หือ?"

     

                "เย็นนี้เราไม่มีอะไรกินอีกแล้วนะ"

                คำบอกกล่าวทำให้ฮยอกแจชะงักไปเล็กน้อยก่อนเจ้าตัวจะฝืนยิ้มออกมาเหมือนพยายามที่จะเห็นเรื่องนั้นเป็นเรื่องตลกขบขันเสียให้ได้

     

                "พูดเล่นใช่มั้ยชินดง"

                ชินดงไม่ตอบ...หากแต่สีหน้าของเขาก็บอกคำตอบแก่คนถามได้เป็นอย่างดี

     

                "เงินเหลือไม่เยอะแล้วฮยอกแจ ฉันได้งานที่ร้านอาหารแล้วก็จริง แต่จะได้เงินก็คงเป็นเดือนหน้า...ซึ่งเงินที่เราเหลือ..."

     

                "ฉันรู้แล้วนา มันไม่พอไปถึงเดือนหน้าใช่มั้ยล่ะ....นี่ฉันว่าฉันกินน้อยแล้วนะ"

     

                "แกไม่กินเลยต่างหากฮยอกแจ"

     

                "ก็แกมันกินจุนี่!" คนกินน้อยเถียงกลับพลางชันเข่าขึ้นมากอดเอาไว้ ใบหน้าที่ติดออกจะหวานหม่นหมองลงอย่างเศร้าสร้อย

     

                "ผลออดิชั่นที่ฉันไปสมัครไว้จะประกาศอาทิตย์หน้า ฉันว่าฉันต้องไม่ติดอีกแน่ๆเลยว่ะชินดง"

     

                "ไหงคิดงั้นวะ แกเต้นเก่งออกจะตายไป"

     

                "เหอะ!....แกต้องไปเห็นไอ้คนก่อนหน้าฉัน ตีลังการไปตีลังกาจนดูเหมือนแม่งจะลอยได้อยู่แล้ว...เก่งชิบเป้ง" ฮยอกแจพึมพำแล้วจึงผุดลุกขึ้นยืนก่อนที่เพื่อนร่างท้วมของตนจะทันได้พูดปลอบใจ ชินดงมองคนที่เดินไปหยิบเสื้อหนาวด้วยสายตางงๆ

     

                "จะไปไหนของแกฮยอกแจ"

     

                "ไปซื้อข้าวเย็น...จะไปหาเงินด้วย ไปเร็วชินดง เดี๋ยวมันจะหนาวกว่านี้"

     

    .............................................

     

                ฮันคยองรู้สึกอยากจะสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด ถ้าไม่ติดที่ว่าปากของเขากำลังเคี้ยวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ล่ะก็!...มันหนาวจะแย่ แต่เขาดันต้องมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ริมฟุตบาทหน้าร้านสะดวกซื้อ...อ้าใช่เลยล่ะ!...ในที่สุดเขาก็กลับมาตายรังที่ร้านสะดวกซื้อระหว่างทางขากลับอพาร์ทเม้นต์อย่างไม่มีทางเลือก ไม่รู้ว่ามันเป็วันเงินเดือนออกหรือว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญมาน้อยกันแน่ ร้านอาหารตลอดรัศมี 1 กิโลเมตรจากอพาร์ทเม้นต์ของเขาถึงไม่มีที่ว่างให้เขาเข้าไปนั่งกินได้เลยซักร้านเดียว...แม้แต่ร้านต๊อกโบกีริมถนน!...เยี่ยมเป็นบ้า!

     

                "เหอะ!"

                หนุ่มสายเลือดจีนแค่นเสียงขึ้นจมูกเหมือนจะเยาะเย้ยสภาพของตัวเองพลางคว้ากระป๋องเบียร์ที่วางอยู่บนพื้นข้างตัวขึ้นมาจรดริมฝีปาก...นั่งอยู่ริมฟุตบาท มองคนเดินเข้าออกร้านสะดวกซื้อไปมาแม่งก็เพลินตาดีเหมือนกันเว้ย! เขากระแทกกระป๋องเบียร์กลับลงไปวางที่พื้นแล้วจึงหันกลับมาจัดการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อเหมือนเดิม...รีบๆกินให้อิ่มแล้วเขาจะได้รีบๆกลับเสียที

     

                "เฮ้ยจะทำไรวะ!"

     

                "เงียบนะเว้ย!...บอกให้เงียบไงวะ!"

                เสียงขู่กรรโชกที่ดังมาจากมุมมืดข้างร้านสะดวกซื้อเรียกสายตาของคนหูดีให้ตวัดไปสนใจได้เล็กน้อยเหมือนจะแปลกใจว่าโจรสมัยนี้กล้าปล้นกันแบบนี้เลยรึไง และเขาก็คงหันกลับมากินข้าวเย็นของเขาต่ออย่างไม่ใส่ใจไปแล้วถ้าไม่ดันไปสะดุดตากับผมสีน้ำตาลอมส้มแสบตาของไอ้อาชญกรหนุ่มใจกล้านั่นเสียก่อน....นี่โลกมันแคบเกินไปรึไงนะ

     

                ฮันคยองหันกลับมาจัดการเส้นบะหมี่ที่เหลืออยู่ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะเดียวกับชายหนุ่มผู้โชคร้ายวิ่งกระเซอะกระเซิงออกมาจากมุมมืดนั่นพอดี

     

                "ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับฮยอกแจ"

                เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัวจนเกือบจะทำกระเป๋าเงินในมือที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ของตัวเองหล่นลงพื้นพร้อมกับหันมาหาเจ้าของเสียงเรียกด้วยสีหน้าและแววตาตื่นตระหนกปนหวาดกลัวอย่างไม่ปิดบัง

     

                "นะ...นาย..."

                ฮันคยองคลี่ยิ้มให้คนที่เริ่มสอดส่ายสายตาล่อกแล่กหาทางหนีอย่างขบขันพลางโยนกระป๋องเบียร์ที่บัดนี้ว่างเปล่าไปยังถังขยะที่ตั้งวางอยู่ใกล้ๆ

     

                "มันผิดกฎหมายนะครับ"

     

                "ฉะ...ฉันรู้นา....เฮ้ยๆๆๆ!!...หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!...ไม่ต้องเข้ามา!"

                คนตัวเล็กถอยหลังกรูดพร้อมทั้งตะโกนโวยวายเสียลั่นเมื่อชายที่เขายังถือว่าเป็นคนแปลกหน้าผู้เป็นพยานปากเอกในเหตุการณ์จี้ปล้นที่เกิดขึ้นเริ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้

               

                ท่าทางตื่นตระหนกเหมือนเห็นเขาเป็นตำรวจติดตราไว้ที่หน้าอกใส่เครื่องแบบเต็มยศทำให้ฮันคยองหลุดหัวเราะออกมา เขาเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงพลางก้าวเดินไปหาคนที่ดูจะหวาดกลัวมากกว่าเดิมอย่างไม่หวาดกลัวคำขู่ห้ามนั่น...คำขู่ไก่ๆแบบนั้นน่ากลัวตายล่ะ!

     

                "เพื่อนของคุณไปไหนเสียแล้วล่ะครับ...ชินดงน่ะ"

     

                "ฉันกับเพื่อนต้องตัวติดกันตลอดเวลาเลยรึไง!"

     

                "ผมก็แค่ถามเฉยๆ...ไม่เห็นต้องโกรธกันนี่ครับ"

     

                "ก็...อ่ะ...เฮ้ย!..."

                ฮยอกแจชะงักก่อนจะขยับถอยหนีเมื่อคนที่เขาอุตส่าห์ร้องห้ามนักห้ามหนาว่าอย่าเข้ามาเดินเข้ามาประชิดตัวของเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

               

                ฮันคยองแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เมื่อคนตัวเล็กดูเหมือนจะกำลังประสาทเสียด้วยความหวาดกลัว เขายกมือไปจับต้นแขนเล็กๆนั่นไว้เพื่อกันไม่ให้คนที่กำลังตัวสั่นงกๆวิ่งหนี

     

                แค่นั้นล่ะ...

     

                "ว้ากกก~ก!!....อย่าจับฉันเลยนะ...ฮึก...ฉันขอร้องนะ...ก็...ก็ฉันไม่มีเงินจริงๆนี่...อย่าเอาฉันเข้าคุกเลยนะ...ฮือ!..."

                หลังจากร้องออกมาเสียลั่น ฮยอกแจก็เริ่มพูดติดๆขัดๆก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เป็นปี่ไม่เป็นขลุ่ยพร้อมกับทิ้งกระเป๋าเงินอันเป็นหลักฐานมัดตัวชิ้นสำคัญลงพื้นอย่างไม่ไยดี

     

                "เอ้ย!...ฮยอกแจครับ!"

                ฮันคยองแทบจะผงะถอยหนีด้วยความตกใจที่จู่ๆคนปากดีที่ยืนเถียงกับเขาคำไม่ตกฟากก็ร้องไห้โฮออกมาเหมือนเขื่อนแตกเอาเสียดื้อๆ...นี่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!

     

                "ร้องทำไมน่ะฮยอกแจ...อย่าร้องนะครับ"

                ร่างสูงย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อพยายามจะสบตากับคนที่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้น้ำตานอง หากแต่มันก็ไร้ผล...เพราะนอกจากฮยอกแจจะไม่ยอมสบตากับเขาแล้ว คนตัวเล็กยังสะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่าเสียอีก

     

                "ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันสัญญานะ...ไม่ทำอีกแล้ว...ฮึก....อย่าเอาฉันเข้าคุกนะ....ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆอ่ะ...ฮือ..."

                เสียงสะอึกสะอื้นดังลั่นเรียกผู้คนที่เดินอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อให้เดินมาดูเหตุการณ์ได้อย่างง่ายดาย...ผู้ชายตัวโตกำลังยืนปลอบผู้ชายตัวเล็กที่ร้องไห้ไม่หยุด แถมยังอยู่ในมุมมืดลับตาคนเสียอีก...มันควรคิดว่าเกิดอะไรขึ้นดีนะ แต่กลุ่มคนก็จางหายไปทันทีที่นัยน์ตาคมแข็งกร้าวของผู้ชายตัวโตตวัดกลับไปมองอย่างไม่เป็นมิตร

     

                "ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้อง...อย่าทำแบบนี้สิครับฮยอกแจ คุณทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกนะ" ฮันคยองหันกลับมาเอ่ยปลอบหลังจากได้ความเป็นส่วนตัวกลับคืนมา...นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพลันอ่อนลงเมื่อทอดมองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้ มือใหญ่ไล่ลูบหัวลูบไหล่คนร้องไห้ด้วยหวังจะปลอบโยน แต่ในที่สุดก็ทนเสียงสะอึกสะอื้นนั่นไม่ไหว จำต้องรั้งร่างบางเข้ามากอดไว้แนบตัวอย่างไร้ทางเลือก เขาพึมพำอะไรบางอย่างเป็นภาษาบ้านเกิดเบาๆพลางยกแขนทั้งสองข้างโอบกระชับคนที่เขาเพิ่งรู้ว่าผอมเหลือเกินเข้ามาแนบตัวมากขึ้น

     

                "ผอมจังนะครับฮยอกแจ ชินดงแย่งคุณกินหมดเลยหรอครับเนี่ย" เขาพูดติดตลกเพื่อให้คนในอ้อมกอดผ่อนคลายลงบ้าง ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลเพราะเสียงสะอื้นเริ่มสงบลง

     

                "...ว"

     

                "ครับ?...ฮยอกแจว่าไงนะครับ"

                ฮันคยองคลายอ้อมแขน ดันคนตัวเล็กออกเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ลดหน้าลงไปฟังคนที่ก้มหน้าหลบสายตากำลังพึมพำ และมันก็ทำให้เขาสังเกตเห็นแก้มขาวๆที่แดงระเรื่อขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ

     

                "ฉัน...ว"

     

                "ครับ?"

     

                "ฉันหิวอ่ะ!"

                ฮันคยองชะงักไปเพียงชั่วเสี้ยววินาทีก่อนชายหนุ่มจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างไม่เกรงใจคนที่กำลังก้มหน้างุดๆ ซ่อนแก้มแดงๆและดวงตาช้ำน้ำตาของตน

     

                "ฮ่าๆๆๆ!...หิวหรอครับ งั้นเราไปหาอาหารจีนอร่อยๆกินกันดีกว่านะครับ แต่ก่อนอื่น..."

                ชายหนุ่มสายเลือดจีนเอื้อมมือไปใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล่น้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้าคนหิวข้าวด้วยสัมผัสอันแสนแผ่วเบาพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก...มอบความรู้สึกที่แสนอ่อนโยนให้จนฮยอกแจหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

     

                "แค่นี้ก็เรียบร้อย...ไปกันครับ ผมรู้จักร้านอร่อยๆอยู่ที่นึง แต่ไม่รู้จะมีโต๊ะว่างรึเปล่า"

                มือใหญ่เอื้อมคว้ามือเล็กไปเกาะกุมไว้อย่างถือวิสาสะก่อนจะพาเดินออกมาจากมุมมืดนั่น...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฮยอกแจความรู้สึกช้า หิวจนหน้ามืด หรือร้องไห้จนเบลอก็ไม่รู้

     

                เขาถึงยอมให้ร่างสูงพาจูงเดินไปอย่างว่าง่ายและไม่สะบัดไอ้มืออุ่นๆนั่นออกซักที!

     

    ..............................................

     

                "กินอีกสิครับ!...เอาอีกๆ ฮยอกแจกินเข้าไปเยอะๆเลยครับ"

                ฮันคยองคะยั้นคะยอพร้อมกับโบกมือเรียกบริกรมาสั่งอาหารเพิ่งอย่างอารมณ์ดีราวกับเป็นเจ้าของร้านที่มีสิทธิ์กินฟรีจนฮยอกแจผู้ซึ่งซัดข้าวหมดไปแล้วสองถ้วยใหญ่ๆอีกทั้งกับอีกหลายอย่างต้องมองเขาด้วยสายตาจะขิดตะขวงใจอย่างไม่ปิดบัง

     

                "พอแล้วล่ะ...ฉันอิ่มแล้ว"

     

                "แต่ฮยอกแจกินไปนิดเดียวเองนะ"

     

                "ฉันอิ่มแล้วจริงๆ...อีกอย่าง เงินฉันมันไม่พอจ่ายแล้ว"

                ฮันคยองมองคนอีกฝากโต๊ะที่ก้มหน้างุดๆด้วยสายตาอ่อนโยนอยู่ครู่หนึ่งก่อนเขาจะหันไปไล่บริกรที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะให้เดินกลับไป แล้วจึงหันมาคลี่ยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

                "ใครบอกว่าให้ฮยอกแจจ่ายล่ะ มื้อนี้ผมเลี้ยงครับ"

     

                "ก็นั่นล่ะ!....ฉันไม่มีเงินมาคืนนายหรอกนะ"

     

                "ฮันคยองครับ...เรียกผมว่าฮันคยองดีกว่า"

     

                "อะไรก็ช่างเถอะ!"

                ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมามอบสีหน้าบึ้งตึงให้คนที่เขาเพิ่งรู้จักชื่ออย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก...ให้ตายสิ!....ทำไมเขาถึงรู้สึกหมั่นไส้ไอ้หมอนี่ขึ้นมาตะหงิดๆนะ....สุภาพเกินไป...รวยเกินไป แถมยัง...อบอุ่น อ่อนโยนเกินไป

     

                "ผมไม่เอาเงินของคุณหรอกนะครับ ผมบอกแล้วไงว่ามื้อนี้ผมเลี้ยง คิดเสียว่าถือเป็นการไถ่โทษที่ผมทำให้คุณร้องไห้ก็แล้วกันนะครับฮยอกแจ" ฮันคยองว่าพลางเฝ้ามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆของคนตัวเล็กด้วยแววตาขบขันระคนเอ็นดู...ตอนแรกดูเหมือนจะอายกับเรื่องอะไรบางอย่างเพราะแก้มขาวๆที่ขึ้นสีระเรื่อ ต่อมาดูเหมือนจะเพิ่งนึกอะไรได้...และไอ้ที่เพิ่งนึกได้ก็ทำให้ความตื่นตระหนกฉายวาบขึ้นมาในแววตาคู่นั้นทันที

     

                "ฉันไม่...ไม่...อ่า...นายเป็น...

     

                "ผมไม่ใช่ตำรวจครับ ฮยอกแจไม่ต้องกลัวผมจะจับคุณเข้าคุกหรอก"

                ฮยอกแจทำหน้าไม่อยากจะเชื่อทันทีที่เขาพูดจบ นัยน์ตาสีน้ำตาลเรียวรีนั่นเบิ่งกว้างจนแลดูน่าขัน มันทำให้เขาต้องยกมือกอดอกกดซี่โครงของตนไว้เพื่อกลั้นหัวเราะเป็นการใหญ่...เจ้าไก่น้อยทำหน้าทำตาเหมือนเขาเคยบอกว่าทำงานเลี้ยงชีพด้วยการเป็นตำรวจงั้นล่ะ!...เขาเคยพูดคำว่าตำรวจออกไปซักคำรึไงกันนะ!

     

                "นายไม่ใช่ตำรวจหรอ"

     

                "ครับ...ผมเคยบอกฮยอกแจว่าผมเป็นหรอ" ฮันคยองย้อนถามเสียงซื่อ แต่แววตาล้อเล่นนั่นก็อยู่ได้ไม่นานนัก...มันเปลี่ยนมาเป็นจริงจังภายในเวลาต่อมาไม่นาน จนทำให้คนที่นั่งมองอยู่อีกด้านของโต๊ะทำหน้าสลดลงมาทันทีเหมือนจะรู้ว่าตนกำลังจะโดนว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งแน่ๆ

     

                "ทำแบบนั้นไม่ดีเลยนะครับฮยอกแจ"

     

                "ฉันรู้หรอกนา!...นายไม่ต้องมาบอกฉันหรอก...ใครๆก็รู้ทั้งนั้น" เสียงแข็งๆอย่างคนไม่ชอบยอมแพ้ใครในตอนแรกอ่อนลงในตรงท่อนท้ายพร้อมกับใบหน้าที่เบือนหนีหลีกเลี่ยงที่จะสบตา...ท่าทางเหมือนเด็กชายตัวน้อยที่กำลังสารภาพผิดกับผู้ปกครองกระนั้น

     

                "แล้วทำไมถึงทำล่ะครับ งานดีๆก็มีเยอะไป"

     

                "นายจะไปรู้อะไรล่ะ! คนรวยมีเงินอย่างนายจะไปรู้อะไร!...งานดีๆที่นายว่าน่ะเค้ารับคนกันง่ายๆที่ไหน ไม่รู้ก็อย่ามาสอนฉัน!...ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ส่วนนายน่ะ...ไม่รู้อะไรเลย!" ฮยอกแจตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองเขาอย่างขุ่นเคืองก่อนร่างบางจะลุกขึ้น สะบัดตัวเดินปึงปังออกจากร้านไป...ทิ้งเขาไว้ให้จมอยู่ท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของคนในร้านเพียงลำพัง

     

                ฮันคยองค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการขอโทษที่ส่งเสียงดังก่อนจะหยิบเงินออกค่าอาหารออกมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วจึงรีบวิ่งตามคนตัวเล็กออกมานอกร้าน....ซึ่งทันทีที่เขาก้าวเท้าข้ามธรณีประตูของร้านออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ฝนก็เทกระหน่ำตกลงมาอย่างรู้งานในทันที....และแล้วมันก็เป็นอีกวันที่ฮันคยองคนนี้ตัวเปียกโชกไปทั้งตัวเพราะผู้ชายหน้าไก่ตัวเล็กๆคนนึง

     

                "ฮยอกแจครับ!" เขาตะโกนเรียกคนที่เดินตัวสั่นงกๆอยู่ไม่ไกลพลางวิ่งขึ้นไปยืนดักหน้า

     

                "อะไรอีกล่ะ?!" ฮยอกแจตวัดเสียงถามด้วยเสียงสั่นๆ...ดูน่าสงสารสุดๆจนฮันคยองต้องถอดเสื้อสูทเปียกชุ่มของตนไปคลุมศีระะที่มีผมสีแสบตานั่นเอาไว้

     

                "ผมไม่ตั้งใจจะพูดแบบนั้น...อีกอย่าง ผมก็ไม่ได้รวยด้วย ผมเป็นแค่ลูกน้องคนอื่นเขาเท่านั้นเอง" ฮันคยองว่าพลางยึดเสื้อสูทให้คลุมศีรษะของคนตัวเล็กที่ดื้อแพ่งจะดึงออกเอาไว้ ฮยอกแจทำเสียงฮึดฮัดขัดใจก่อนจะยอมแพ้ในการดึงเสื้อสูทชุ่มน้ำที่ดูจะไม่ได้ช่วยกันฝนมากเท่าไรออกจากศีรษะตัวเอง

     

                "แล้วไงล่ะ"

     

                "ที่ผมพูดแบบนั้น...ก็แค่ไม่อยากให้ฮยอกแจทำแบบนั้นอีก ผมไม่อยากให้ฮยอกแจติดคุกนะครับ"

                ร่างบางชะงักไป...จ้องมองคนตรงหน้าผ่านน้ำฝนเหมือนอยากจะเข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเบนสายตาหนี

     

                "ไม่ให้ฉันทำแบบนี้...แล้วจะให้ฉันทำยังไง ทางเลือกของฉันมีไม่เยอะนักหรอกนะ ถ้าไม่ให้ทำแบบนี้แล้วฉันจะเอาอะไรกินล่ะ...นายจะมาเลี้ยงฉันมั้ยล่ะ!?"

                ฮันคยองคลี่ยิ้มพลางใช้ข้อศอกทั้งสองข้างวางลงบนไหล่บางแล้วจึงโอบมือรั้งศีรษะที่ถูกคลุมอยู่ภายใต้เสื้อสูทให้เข้ามาใกล้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อที่จะสบตา...และสายตาอบอุ่นที่เขามอบให้ อีกทั้งลมหายใจอุ่นๆที่รู้สึกได้อยู่ที่ผิวแก้มก็ทำให้คนที่กำลังหนาวรู้สึกร้อนวูบขึ้นมาที่ใบหน้าอย่างรวดเร็ว

     

                "รู้อะไรมั้ยครับ...เลี้ยงไก่น่ะง่ายนิดเดียว ปัญหาก็แค่...ฮยอกแจจะยอมให้ผมเลี้ยงรึเปล่าล่ะครับ"

     

    ........................................................

     

    มาแร้นค่า^^ ...เอาฮันฮยอกน่ารักๆมาขั้นเวลาตอนเศร้าๆของคิเฮซะหน่อย แต่ตอนหน้ายืนยันว่าเป็นคยูมินแน่นอนค่ะ จะเศร้ากว่าคิเฮ หรือฮากว่าฮันฮยอกก็คงต้องรออ่านกันต่อไปเนอะ 


    จะพยายามมาอัพให้อาทิตย์ละอย่างต่ำ 1 ตอนนะคะ สัญญาค่ะ...แต่ถ้าเปิดเทอมแล้วก็จะไม่รับปากนะคะว่าจะทำได้รึเปล่า(ในกรณีที่เรื่องยังไม่จบนะคะ...ซึ่งคนแต่งคาดว่ามันก็คงจะยังไม่จบแหงๆ- -) ช่วงนี้ก็กำลังไล่แก้คำผิกให้อยู่...ซึ่งอ่านไปอ่านมา ก็พบว่า...ตูพิมพ์ผิดเยอะเปนบ้าเลยเว้ย- -*


    ขอบคุณทุกคนที่เม้นต์ให้นะคะ ขอบคุณทุกคำติชมด้วย^^...ดีใจมากๆเลย...เอ้อ!...เกือบลืม มีคนถามชื่อเราเนอะ คนแต่งชื่อปิ่นค่ะ อยู่ม.6แล้ว จะเรียกพี่เรีกน้องก็ตามสะดวก...แต่เรียกป้าจะโกรธมาก- -*



    ไปดีก่า...เทคแคร์นะคะ^^






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×