คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Sleeping Beauty
ลีดงแฮกำลังหายใจไม่ออก...ทั้งๆที่มันก็เป็นห้องเดิมๆที่เขาต้องหาเวลามาทุกเดือนอย่างน้อยก็ซักครั้ง ถึงแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าผู้เป็นเจ้าของห้องไม่มีวันจะรับรู้ว่าเขามาเลยก็ตามที ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปที่ริมเตียงเพื่อกดริมฝีปากของตนลงบนหน้าผากอันเย็นเฉียบอย่างที่เขามักจะทำทุกครั้งพลางใช้ปลายนิ้วปัดเส้นผมสีน้ำตาลเข้มให้พ้นออกจากใบหน้าหวานของคนบนเตียงที่เหมือนเขาไม่ผิดเพี้ยน
"ทงเฮ....เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย" เสียงหวานเอ่ยกระซิบถามน้องชายเบาๆ....เหมือนทุกๆครั้ง และมันก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆตอบกลับเขามานอกจากลมหายใจอันแผ่วเบาเหมือดังเช่นทุกครั้ง....ซึ่งมันก็ทำให้กระบอกตาของเขาร้อนผ่าวได้ทุกครั้งเช่นกัน
"ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปจะดีหรอดงแฮ"
"อย่างคุณจะไปรู้อะไร!....ไม่ต้องมาสอนผมในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้คุณคิบอม!"
เมื่อรู้ความจริงแล้ว....ลีดงแฮก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวอ่อนหวานอีกต่อไป....ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งในสิ่งที่ไม่ใช่เขาเสียที เขาหันไปตวาดคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยเสียงแข็งกร้าว...เย็นชา ให้ความรู้สึกเป็นใครอีกคนอย่างชัดเจนจนคิบอมอดรู้สึกใจหายไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้...ยังคงใจเย็นเพื่อให้คนที่กำลังไขว่คว้าทุกอย่างเอาไว้อย่างเกินตัวปล่อยวางเสียที ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น
"เธอก็รู้นี่ว่าเขา...ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว"
"คุณเอาอะไรมาพูด!...อย่ามาพูดแบบนั้นนะ!...ทงเฮต้องฟื้นสิ เขาจะฟื้นขึ้นมา!....เขาต้องฟื้นขึ้นมา เขาจะไม่ฟื้นขึ้นมาได้ยังไงกัน ผมสัญญากับพ่อไว้แล้ว...สัญญาว่าจะดูแลเขา...สัญญาว่าจะไม่ให้เขาเป็นอะไร ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาฟื้น...ไม่ว่าจะอีกซักกี่ปี...ผมรอได้ทั้งนั้น"
เสียงของดงแฮแผ่วเบาลงเรื่อยๆตลอดเวลาที่เขาพูด ต่างจากหยดน้ำตาที่เพื่อมขึ้นเรื่อยๆตรงขอบตา มือเล็กเกาะกุมมือของน้องชายเอาไว้แน่นราวกับอยากจะถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้ บนเรียวปากบางมีรอยยิ้ม...รอยยิ้มอันคุ้นเคยที่ทุกคนเห็นจนชินตา...รอยยิ้มบางที่แสนเศร้า
"ดงแฮ..."
"คุณไม่รู้หรอกว่าทงเฮน่ะสำคัญมากขนาดไหน...คุณไม่มีทางรู้หรอก"
"แล้วตัวเธอเองไม่มีค่าเลยรึไง เธอก็ใครบางคนเหมือนกันนะดงแฮ"
"มันไม่เหมือนกัน!...ลีทงเฮไม่เหมือนผม!....ไม่มีทางที่จะเหมือนผม" ดงแฮตวาดกร้าวออกมาอีกครั้ง ถ้อยคำของเขาล้วนเย็นชาและแข็งกระด้าง หากแต่มือเล็กกลับกำลังลูบผมของเจ้าหญิงนิทราอย่างอ่อนโยน ดวงตาสีฟ้าตวัดมามองชายหนุ่มอีกคนอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกับน้ำเสียง
"พอแล้วคุณคิบอม คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว....ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องเชื่อฟังคุณอีก ผมไม่ใช่ตุ๊กตาของคุณอีกต่อไปแล้ว"
"ฉันก็แค่...อยากให้เธอยอมรับความจริงดงแฮ ดื้อรั้นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา"
คิบอมพยายามจะเข้าไปสัมผัสร่างบาง แต่มือของเขาก็ถูกปัดออกอย่างไม่ไยดี ดงแฮขยับกายถอยห่างออกไป แววตาวูบไหวชั่วครู่เพราะความหวาดกลัวที่อัดลึกอยู่ข้างในใจ เขาจับมืออันเย็นเฉียบของน้องชายแน่นขึ้น เสียงครงหึ่งๆของอุปกรณ์การแพทย์และเสียงติ๊ดๆของเส้นกราฟหัวใจดังแทรกอยู่ในความเงียบงันที่พลันโรยตัวลงมา
"เธอยอมขายตัวเองเพื่อคนที่ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาทำไมกันดงแฮ"
"เพราะว่า...ลีทงเฮเป็นลมหายใจของผม...เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม"
ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาที่กำลังแตกร้าวจ้องมองเขาอย่างแข็งกร้าว....และคราวนี้คิบอมก็เห็นมันวูบไหวอย่างชัดตา ร่างบางก้มลงไปโอบกอดคนบนเตียงไว้หลวมๆ...คล้ายกำลังปกป้องไม่ให้คนที่ยืนอยู่อีกด้านได้เข้ามาสัมผัสนางฟ้าแสนพิสุทธิ์ของเขา
"คนอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจคุณคิบอม...คนที่มีแต่คนต้องการอย่างคุณไม่มีทางเข้าใจ..."
"..."
"ผมจะขายตัวเองให้ใครอีกซักกี่คนเพื่อน้องชายของผมมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของคุณ!...ไม่ต้องเข้ามานะ!!" เสียงหวานตะโกนกร้าวออกไปทันทีเมื่อคิบอมพยายามจะรั้งร่างของเขาเข้าไปอีกครั้ง ดงแฮยอมผละอกอมาจากร่างของน้องชายและก้าวถอยออกไปจนชิดผนังเมื่อคราวนี้อีกฝ่ายไม่คิดจะยอมแพ้เหมือนครั้งก่อน คิบอมรั้งร่างบางเข้ามาแนบกาย กดศีรษะเล็กลงแนบไหล่....กอดกระชับเอวบางเอาไว้จนไร้ทางที่จะดิ้นหลุด
"ใช่สิ...ก็ในเมื่อหัวใจของฉันมันร้องหาแต่เธอ ฉันจะยอมให้เธอทำแบบนั้นได้ยังไงกัน"
...............................................
"ไม่ได้คุยกับเธอนานเลยนะทงเฮ"
"ครับ"
"อ่ะนี่กาแฟ...มันอาจจะทำให้เธอดูสดใสขึ้นมาบ้าง"
ดงแฮรับถ้วยกาแฟกระดาษมาจากนายแพทย์ควอนจียงเจ้าของไข้ของทงเฮที่ค่อนข้างจะสนิทกับเขามากพอสมควรพลางทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ใช้นั่งรอเรียกตรวจเคียงข้างในแพทย์หนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
โรงพยาบาลค่อนข้างจะเงียบเหงาเมื่อตกดึกขนาดนี้ บริเวณที่ทั้งคู่นั่งอยู่จึงเงียบงันและวังเวงเพราะไร้ซึ่งผู้คน ดงแฮวางข้อศอกลงบนเข่าทั้งสองข้าง ถือแก้วกาแฟอุ่นๆไว้ตรงระหว่างขาด้วยสองมือ...ปล่อยให้ทุกอย่างเงียบไปอยู่อย่างนี้โดยไม่คิดจะทำลาย
"เรื่องบ้านเป็นยังไงบ้าง"
"ครับ?"
"เธอเคยเล่าให้หมอฟังว่ากำลังเก็บเงินซื้อบ้านไม่ใช่หรอ"
ดวงตาสีฟ้าที่หม่นหมองอยู่แล่วพลันยิ่งหม่นหมองลงกว่าเก่า มือเล็กกำจับแก้วกาแฟแน่นจนมันปริ่มล้นอยู่ที่ขอบแก้ว
"ทำไมถึงอยากได้บ้านนักล่ะ อพาร์ทเม้นต์มันจะไม่ถูกกว่ารึไง...เศรษฐกิจอย่างนี้บ้านเดี่ยวมันไม่ใช่ราคาถูกๆเลยนะ"
"พ่อรักบ้านหลังนั้นมาก พ่อออกแบบบ้านหลังนั้นเอง...มันเป็นทุกสิ่งในชีวิตของพ่อ ผมสัญญากับพ่อแล้วว่าจะดูแลมัน"
"แล้วตัวของเธอล่ะทงเฮ...เธอสัญญาจะให้อะไรกับตัวเองบ้างรึเปล่า"
ดงแฮแค่นยิ้มออกมานิดพลางใช้มือข้างหนึ่งปัดผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากออกให้พ้นตา...ไม่ตอยคำถามนั้นโดยเลือกที่จะนิ่งเงียบ ซึ่งหมอหนุ่มก็รู้จักเขาดีพอที่จะไม่คาดคั้นใดๆอีก นายแพทย์หนุ่มยกแก้วกาแฟของตนขึ้นจรดริมฝีปากพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางเหนื่อยๆ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ
"แล้วเรื่องของพี่ชายล่ะจะทำยังไง"
"ผมจะไม่เถียงเรื่องนี้กับหมออีก"
ดงแฮเบือนหน้าหนีออกมาเป็นการปฏิเสธการยินยลถ้อยคำโน้มน้าวใจใดๆจากหมอข้างกายอีก เขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบเพียงเล็กน้อยแล้วจึงงอตัวกลับไปนั่งท่าเดิม...นิ่งเงียบไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ดูเหมือนนายแพทย์หนุ่มจะไม่ยอมแพ้คนดื้อรั้นเหมือนครั้งก่อนๆ ดวงตาหลังแว่นกรอบหนาเหลือบมองคนที่เขาเอ็นดูด้วยแววตาเห็นใจ
"เธอจะเอาทั้งบ้านทั้งพี่ชายไม่ได้หรอกนะทงเฮ...มันเกินกำลังของเธอมากเกินไป ขนาดเงินเดือหมอเองยังสู้ค่ารักษาของพี่ชายของเธอในแต่ละเดือนแทบจะไม่ไหวเลย"
"หมอไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมมีทางของผม ผมมีเงินจ่ายหมอทุกเดือนอยู่แล้ว"
"แล้วเธอจะมีจ่ายถึงตลอดไปเลยรึไง ทำงานหาเงินแทบตายเพื่อนาคตที่มืดมนแบบนี้น่ะหรอทงเฮ...อยากให้มันเป็นแบบนั้นรึไง"
"หมอบอกว่าเขามีโอกาสจะฟื้น!....หมอบอกผมเองว่าเขาอาจจะฟื้นก็ได้!...หมอพูดแบบนั้น หมอเป็นคนบอกผมเอง!!" ดงแฮหันไปตวาดกร้าวใส่คนข้างกายพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานบึ้งตึง แต่แววตายังคงแตกร้าว เขารีบปล่อยมือเมื่อรู้สึกตัวและเอนตัวกลับมาวางข้อศอกลงบนหัวเข่าของตนตามเดิม
"ขอโทษนะครับ"
ควอนจียงครางตอบรับคำขอโทษเบาๆในลำคอพลางจัดปกเสื้อของตนให้เข้าที่ตามเดิม
"ก็ใช่...หมอพูดแบบนั้น แต่นี่มันสองปีกว่าแล้วนะทงเฮ นานเกินไปที่จะรอคนๆหนึ่งฟื้นขึ้นมาแล้ว มันถึงเวลาที่เธอควรปล่อยวางได้แล้ว...เธอทำอะไรไม่ได้แล้ว"
"หมอจะให้ผมปล่อยอะไรล่ะ..."
หยดน้ำตาของคนที่นั่งก้มหน้าตกลงไปในแก้วกาแฟที่บัดนี้เย็นชืดไม่น่าดื่มอีกต่อไป...ร้องไห้ออกมาเงียบๆด้วยไหล่อันสั่นไหว มือเล็กจับแก้วกาแฟแน่นจนกาแฟล้นทะลักออกมาลงเปรอะพื้น
"ในเมื่อทุกๆสิ่งที่ผมกำลังเหนี่ยวรั้งไว้...เป็นทุกๆที่ผมปล่อยไปไม่ได้...เป็นทุกๆสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม....เป็นทุกๆสิ่งที่ทำให้ผมยังยอมหายใจ ถ้าผมปล่อยไป....แล้วผมจะหายใจได้ยังไงกัน"
หมอหนุ่มไม่ได้เอ่ยโต้ตอบสิ่งใด เขาปล่อยให้เด็กหนุ่มได้คิดโดยการตบไหล่บางเบาๆและลุกเดินจากไป ดงแฮเม้มปากแน่น ก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆแบบนั้นอยู่เนิ่นนานจนกระทั่งมีเงาของใครคนหนึ่งทอดทับลงมา
ดวงตาสีฟ้าเปียกชื้นช้อนขึ้นมอง...และเขาก็พบกับใบหน้านิ่งเรียบของคิมคิบอมที่ยืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มร่างสูงดุงแก้วกาแฟกระดาษออกมาจากมือเล็กที่บีบจับมันแน่นจนยับย่นเอาไปวางไว้ที่เก้าอี้ใกล้ๆก่อนจะยกมือที่เปรอะเปื้อนขึ้นมาจรดริมฝีปาก ใช้ลิ้นเช็ดคราบกาแฟที่เปื้อนอยู่จนหมดท่ามกลางสายตาอันเรียบเฉยของเจ้าของมือ
"ขอกอดหน่อยสิ"
"ฉันเคยปฏิเสธรึไง"
คนตัวเล็กแค่นยิ้มออกมานิดก่อนจะไขว่คว้าเอวหนาของคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้ ใบหน้าหวานฝั่งแน่นอยู่กับหน้าท้องแกร่ง...ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนสุดเสียง คิบอมโอบกอดไหล่บางเอาไว้...ไม่คิดจะพูดอะไรนอกจากลูบผมปลอบโยนเท่านั้น
.....................................................
"แค่เซ็นชื่อตรงนี้ แล้วมันก็จะเรียบร้อย"
ดงแฮมองเอกสารที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ซึ่งหมอหนุ่มก็รอคอยให้เขาจับปากกาขึ้นมาเซ็นอย่างใจเย็น แต่ร่างบางก็ไม่ได้ทำแบบนั้น ดงแฮเดินเลี่ยงไปที่เตียงคนป่วยที่มีเจ้าหญิงนิทรานอนสลบอยู่ เขาโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากมนเบาๆก่อนจะอนบแก้มลงกับกลุ่มผมนุ่ม...มอบรอยยิ้มบางๆแสนอ่อนหวานให้แก่คนที่เขาโอบกอดเอาไว้หลวมๆ
"ได้ยินพี่มั้ยทงเฮ...ได้ยินเสียงของพี่รึเปล่า" เสียงหวานกระซิบถามน้องชายอย่างแผ่วเบายิ่งกว่าสายลมจนบุคคลมากมายที่อยู่ในห้องไม่มีทางได้ยิน ดงแฮยังคงยิ้ม....ทั้งๆที่ดวงตากำลังเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
"นางฟ้าตัวน้อย...ขอร้องได้มั้ย พี่ขอร้องนายได้มั้ย..."
"..."
"ลืมตาขึ้นมาเถอะนะ"
ดงแฮรีบปาดน้ำตาออกจากข้างแก้มพร้อมกับรีบฝืนรั้งรอยยิ้มเอาไว้บนเรียวปากต่อไป เขาหัวเราะแห้งๆออกมาเบาๆ
"ถึงเวลาต้องตื่นแล้วนะ ถ้านายไม่ตื่นตอนนี้..."
"..."
"นายจะต้องหลับไปตลอดกาลเลยนะทงเฮ อย่าทำแบบนั้นเลยนะ"
"..."
"เหอะ..." ดงแฮแค่นเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนจะฟุบหน้าลงกับไหล่ผอมบางของน้องชายฝาแฝด...ใช้มือเขย่ามันเบาๆคล้ายอยากจะปลุกให้ลุกตื่นขึ้นมาเสียที
"อย่าทำแบบนี้สิทงเฮ อย่าล้อเล่นแบบนั้....ทงเฮข้อร้องนะ...นายฟังเสียงของพี่ตลอดนี่...เป็นคนเดียวที่ได้ยินเสียงของพี่...ฟังพี่สิ...ได้โปรดนะทงเฮ"
"..."
หากแต่ทุกอย่างที่ได้ตอบรับจากเสียงวอนขออันสั่นเครือนั้นก็มีเพียงแต่ความเงียบงันจากคนที่หลับใหล....และมันก็ยิ่งทำให้คนวอนขอมีใบหน้าเหยเกยิ่งกว่าเก่า
"ไอ้เด็กบ้า!"
"..."
"แกดีแต่หาปัญหามาให้ฉัน!...ดีแต่ทำให้ฉันร้องไห้!....สนุกมากนักรึไงฮะ!!....เกลียดฉันมากรึไง!!...ฉันเกลียดแกไอ้เด็กบ้า!....เกลียดแกที่สุดเลย!!...แกทำลายชีวิตของฉัน แย่งทุกๆอย่างไปจากฉัน...ตายไปซะได้ก็ดีไอ้เด็กบ้า!!"
"ดงแฮ!!"
คิบอมรีบวิ่งเข้าไปดึงรั้งร่างบางที่เริ่มอาละวาดทำร้ายร่างของน้องชายให้ออกห่างออกมาจากเตียง คนที่มีใบหน้าบึ้งตึงทั้งน้ำตาขยับตัวฮึดฮัดอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงด้วยเสียงสะอื้น
"พอแล้วดงแฮ...พอได้แล้วนะ" เสียงทุ้มกระซิบบอกอยู่ที่ริมหูทำให้ดงแฮสงบลง เขาสะบัดตัวออกมาจากการเกาะกุมก่อนจะเดินเข้าไปหาหมอหนุ่มที่ยืนรอคอยอยู่ที่หน้าประตู
"เซ็นตรงไหน"
"ตรงนี้"
ดงแฮคว้ากระดานรองเขียนที่มีเอกสารสองสามแผ่นหนีบเอาไว้ออกมาจากมือของคนถืออย่างหยาบคาย มือบางตวัดสายเซ็นลงไปในช่องที่กำหนดไว้อย่างลวกๆแล้วจึงส่งคืนให้
"เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"
"อืม....บาทหลวงจะมาสวดให้ตอนเที่ยง แล้วหลังจากนั้น..."
ดงแฮไม่คิดจะอยู่ฟังส่วนที่เหลือให้จบ เขาสะบัดตัวเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว...ประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องให้ใครตามตนมาทั้งนั้น
................................................
"บาทหลวงสวดเสร็จแล้ว แกไปตามดงแฮมาสิไป"
ฮีชอลที่ได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างจากน้องชายแล้วและถูกขอให้มาช่วยจัดการงานต่างๆให้เพราะช่วงหนึ่งที่คนเดินเรื่องอย่างคิบอมจำต้องไปประชุมที่บริษัทหันไปสั่งคนที่เล่าเรื่องให้ตนฟังเมื่อวันก่อนด้วยเสียเรียบๆเมื่อบาทหลวงในชุดดำได้เดินออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อย
คิบอมพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะหมุนตัวเดินเบี่ยงหลบฮยอกแจและซองมินที่รู้เรื่องแล้วเช่นกันออกไปด้านนอกเพื่ตามหาคนสำคัญที่เขาไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด แต่เขาก็หาเจอได้ไม่ยากนัก ร่างบางกำลังนั่งอยู่ด้านนอกตัวอาคาร....ในเขตที่ใช้สูบบุหรี่
"ดงแฮ..."
เจ้าของชื่อเหลือบวายตามามองตามเสียงเรียกเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเหม่อมองท้องฟ้าตามเดิม ริมฝีปากบางคาบมวนบุหรี่ที่ไหม้หายไปกว่าครึ่งเอาไว้หมิ่นๆจนนน่ากลัวว่าจะล่วงหล่นลงมา ชายหนุ่มสูดควันลงปอดลึกๆก่อนจะใช้ปลายนิ้วคีบมันมาถือไว้เมื่อคนเอ่ยเรียกได้ก้าวเข้ามานั่งข้างๆที่ม้านั่งเดียวกัน
"หัดสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไร"
"นานแล้ว...ตั้งแต่ม.ต้น" ดงแฮตอบคำถามด้วยท่าทางเฉยเมย...ยังคงเหม่อมองไปบนท้องฟ้าราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าที่หลบซ้อนอยู่ด้านหลังก้อนเมฆ มือเล็กข้างที่ว่างยกขึ้นไปแนบอยู่บนผืนฟ้าสีสด ให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจนปรากฏเงาเป็นรูปมืออยู่บนใบหน้าหวาน
"คุณเป็นคนที่สองที่รู้รู้มั้ย...มีแค่ทงเฮเท่านั้นที่รู้"
"หมอกำลังจะมาแล้ว...จะไปมั้ย"
ร่างบางชะงักไปนิด....ชะงักท่าทางที่ทำเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นไปจนความเศร้าพาดผ่านเข้ามาในแววตา
"ไปสิ...ไปแน่อยู่แล้ว"
ดงแฮดับบุหรี่ในที่ๆจัดไว้ให้ก่อนจะลุกเดินนำคนมาตามออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันมาเรียกให้ตามมา คิบอมชะงักไปนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะลุกตามร่างบางไป
ทั้งคู่มาถึงห้องคนป่วยในเวลาไม่นานและในเวลานั้นนายแพทย์ควอนจียงเจ้าของไข้ก็กำลังตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆอยู่ ดวงตาสีฟ้ากวาดมองบุคคลมากหน้าหลายตาในห้องเพียงชั่วครู่ก่อนจะหันกลับไปสนใจร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงตามเดิม...ไม่เอ่ยทักทายคนพวกนั้นแม้สักคำ....ไม่แม้แต่จะยิ้มทักทายเลยด้วยซ้ำ
ร่างบางหันไปพยักเพยิดให้หมอหนุ่มเป็นเชิงให้รีบจัดการเสียที...และสิ่งเดียวที่นายแพทย์ควอนจียงทำตามคำเรียกร้องก็คือการค่อยๆถอดเครื่องช่วยหายใจออกมาจากใบหน้าหวานที่หลับสนิท
ติ๊ดๆ--------ติ๊ดๆ--------ติ๊ดๆ--------
"..."
ติ๊ดๆ---------------ติ๊ดๆ---------------ติ๊ดๆ---------------
"..."
ติ๊ด--------ติ๊ด--------
"ทงเฮ..."
ติ๊ด--------ติ๊ด--------
"ไม่!....พอแล้ว เขาจะฟื้นขึ้นมา!....ทงเฮ!!...ไม่เอาแล้ว พอได้แล้ว!!" ดงแฮกรีดร้องขึ้นมาทันทีที่เสียงคลื่นหัวใจเริ่มช้าลง...ทวีความแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ร่างบางทำท่าจะถลาเข้าไปคว้าเครื่องช่วยหายใจกลับไปใส่ให้น้องชายอีกครั้งจนคิบอมที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังต้องรีบคว้ากอดเอวบางเอาไว้ แต่ถึงกระนั้นดงแฮก็ยังดิ้นรนและกรีดร้องอย่างไม่ยอมแพ้
"ดงแฮ!....อย่าทำแบบนี้"
"เขาจะฟื้นขึ้นมา!...เขาจะตื่น คิบอมเชื่อผมนะ...ทงเฮจะตื่นขึ้นมา บอกหมอให้ช่วยน้องผมนะ!...ทำให้เขาฟื้นกลับขึ้นมาหมอ!!...ฮึก...ทงเฮจะเป็นแบบนี้ไม่ได้...ฮึก....เขาต้องตื่นสิ!"
ติ๊ด---------------ติ๊ด---------------
"ทงเฮ...."
ติ๊ดดดด----------------------------ด
"ไม่นะ....อย่าทำแบบนี้สิทงเฮ อย่าทำกับฉันแบบนี้นะ...."
หลังจากพึมพำออกมากับตัวเองอย่างแผ่วเบา ดงแฮก็กรีดร้องออกมาจนสุดเสียง ดิ้นรนอย่างบ้าคลั้งทั้งน้ำตาเพื่อให้หลุดพ้นออกมาจากพันธนาการ แต่คิบอมก็กอดเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย กัดฟันทนการจิกข่วนและแรงกระแทกด้วยใบหน้านิ่งเฉย
"อย่าให้เขาตายนะหมอ!...ทำให้เขาฟื้นขึ้นมา!!"
ฮยอกแจและซองมินที่ต่างอยู่ในอ้อกอดของฮีชอลปิดหูของตัวเองแน่นเพื่อปิดกั้นตัวเองจากเสียงกรีดร้องคร่ำครวญราวกับกำลังจะขาดใจของคนที่กำลังร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด
"ดงแฮไม่เอา....พอแล้วนะดงแฮ...มันจบแล้ว"
"ไอ้เด็กบ้า!!...แล้วแกก็ทิ้งฉันไปเหมือนทุกๆคน!!...แกก็หนีฉันไปเหมือนทุกๆคน!!....ไหนบอกจะคอยเป็นเงาให้ฉันไงไอ้บ้า!...แล้วนี่อะไรของแก...แกทำแบบนี้ได้ยังไงไอ้เด็กบ้า!!"
หลังจากกรีดเสียงด่าทอออกมาจนพอใจดงแฮก็หันไปผลักอกคนด้านหลังจนผงะปล่อยแขนก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกจากห้องไปทั้งน้ำตา
"ตามไปคิบอม!....ตามดงแฮไปเร็ว!" ฮีชอลรีบหันไปสั่งน้องชายที่หมุนตัวเดินตามไปก่อนที่เขาจะอ้าปากสั่งเสียอีก
คิบอมเดินอย่างรวดเร็วตามคนที่ก้าวหายไป...และเขาก็พบร่างบาง ณ ที่เดิมที่เขาเจอเมื่อครั้งก่อน ดงแฮนั่งอยู่ตรงนั้น....เหม่อขึ้นมองไปยังฟากฟ้าพลางจุดบุหรี่มวนใหม่ขึ้นสูบ คิบอมเดินเข้าไปนั่งอยู่เคียงข้างเงียบๆ นัยน์ตาคมเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาก่อนมือใหญ่จะเอื้อมไปใช้ปลายนิ้วไล้เช็ดออกจนหมดด้วยสัมผัสอันแผ่วเบา
"อยากกอดมั้ย"
"ไม่ล่ะ..."
ดงแฮพ่นควันสีเทาจางๆออกมาจากริมฝีปากขึ้นไปในอากาศก่อนนัยน์ตรสีฟ้าที่ยังคงเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาจะตวัดกลับมามองเขาด้วยแววตาอันแสนเรียบเฉย...ว่างเปล่ายิ่งกว่าเคย
"ยื่มตักหน่อยสิ"
"เอาสิ"
คนขอคลี่ยิ้มออกมานิดพลางเอื้อมมือไปดับบุหรี่ที่จุดมาได้ไม่ถึงห้านาทีก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งพาดอยู่บนตักของร่างสูงข้างกาย ซุกกายแนบอยู่กับแผ่นอกอุ่นพร้อมกับกดใบหน้าเข้ากับไหล่กว้าง...ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนได้ และมันก็ยังเป็นคนๆเดิมในสองสามวันที่ผ่านมาที่โอบกอดและปลอบโยนเขาเอาไว้ด้วยความเวียบงัน
คิบอมกระชับร่างบางเข้าแนบกายพร้อมกับเอนศีรษะแนบแก้มลงกับกลุ่มผมนุ่ม....แล้วจึงนิ่งเงียบไปอย่างเช่นเคย
................................................
มาแร้นค่า มาอย่างดึกเลยทีเดียววันนี้ แหะๆ...โทดทีนะจ้ะ เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษมา คงพอเข้าใจกันอย่างแจ่มแจ้มแล้ว(รึเปล่า)สำหรับตอนนี้ ปาติหานไม่มีจิงค่ะสำหรับเรื่องนี้- - ตอนนี้ตาบอมก้อ...ไม่รุ้จะอธิบายมันยังไงดีจริงๆ มีคนสันนิฐานเรื่องดงแฮกับทงเฮถุกเยอะเหมือนกันนะเนี่ยหลังๆอ่ะ เปนเหตุเปนผลมากทีเดียว
มีคนถามเราไว้...ก้อหลายอย่างอยุ่ แต่เราจำไม่ได้หมด- -*...จำได้ว่ามีเรื่องรวมเล่ม(อันนี้ถามเยอะเลยจำได้- -*) ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องทำยังไงค่ะ กำลังรีไรต์+ติดต่ออะไรหลายๆอย่างให้(เพราะยังคงงงๆอยุ่) แต่ยังให้คำตอบที่แน่นอนอะไรไม่ได้ว่าจะได้รวมเล่มได้จริงๆรึเปล่า เพราะอย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าปีนี้ไรเตอร์ยุ่งมากๆ กำลังจะเอนในไม่ช้าแล้วค่ะ ก้อเลยยังไม่รุ้ว่าจะเปนยังไง ถ้าได้ยังไงก้อจะมาบอกกันอีกทีนะจ้ะ อีกเรื่องคงเปนที่ถามว่าจะมีเรื่องต่อไปมั้ย(รึเปล่านะ..มีคนถามอะไรคล้ายๆแบบนี้เมื่อสองตอนก่อนรึไงเนี่ยแหละ) ขอตอบว่ามีค่ะ ยังคงเปนคิเฮอยุ่เช่นเดิม(คุ่อื่นขออุบไว้ก่อนๆ) จะเส้าไม่เท่าเรื่องนี้แน่นอนค่ะ ยืนยันๆ
...คงมีแค่นี้แหละมั้ง...เราจำได้แค่นี้อ่ะ ถ้าของใครตกหล่นก้อถามมาอีกนะ เอาสีแดงตัวใหย่ๆเลย ไรเตอร์จะได้จำได้ถึงอาทิตย์หน้า
ลืมบอกๆๆ...อาทิตย์หน้างดนะจ้ะ เพราะไรเตอร์ต้องสอบยาวถึงอาทิตย์นู้นเลย เจอกันอีกทีก้อคงปีใหม่เลยเนอะ สำหรับตอนหน้า ถ้าใครยังงงๆอยุ่ ก้อคงจะหายงงเปนปลิดทิ้ง เพราะเราจะไปย้อนอดีตของนู๋หมวยกันค่ะ(เข้าสุ่ช่วงแยกตอนขายอีกเช่นเดิม- -)
โม้ยาวอีกเช่นเคย...ไปแระค่า^^
พีเอส. คนที่กำลังสอบตรง(มีคนนึงจำได้ๆ) ขอให้โชคดีน้า^^ ตอนนี้เรารอผลสัมภาดอยุ่...ไม่รุ้จะได้รึเปล่า ขอให้ติดตามที่หวังนะคะ
ความคิดเห็น