ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Just You พรหมลิขิตหัวใจบอกฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #23 : [SF:HBD KIM KIBUM ] :: Rainy Night ( 100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.41K
      13
      15 ก.พ. 52




    ベッドに座って 君のことを考えていた

    นั่งลงบนเตียงนอนของผม..แล้วผมก็คิดถึงคุณ

     

    逢えなくてもいい 逢い

    ผมไม่สามารถเห็นคุณได้อีกแล้ว ทั้งที่ตอนนี้ผมหวังว่าจะได้พบคุณอีก

     

    たいこの気持ちだけでいいから

    ผมอยากจะฟังความรู้สึกเหล่านี้

     

    強く残っている記憶

    ความทรงจำอันแจ่มชัดของผมค่อยๆก่อตัวขึ้น

     

    君からの短いメッセージが

    ข้อความสั้นๆจากคุณ....

     

    切なく胸締めつけるけど

    แม้ว่าหัวใจอันบอบช้ำของผมจะถูกทำให้รัดกุมไว้อย่างดีที่สุดแล้ว

     

    永久の幸せ僕が守り続けたい

    ผมก็ยังอยากที่จะปกป้องความสุขอันไม่มีวันเสื่อมคลายของคุณต่อไป

     

     風になってそっと包みたい

    ผมอยากจะเป็นสายลมที่โอบกอดคุณไว้ในอ้อมแขนทั้งสองนี้

     

    君がいる世界に すぐ飛んでいきたい

    ผมอยากที่จะโบยบินไปในโลกที่คุณอยู่

     

    逢いたくても逢いたくても

    เพราะผมอยากพบคุณ ผมอยากพบคุณ

     

    待ってるから

    และผมจะรอคุณเสมอ

     

    ただ忘れないで

    เพราะว่าผมไม่สามารถลืมคุณได้เลย

     

    いつもの歩道に

    君の影を感じていた

    ผมยังคงรู้สึกได้ว่ามีคุณเดินเคียงข้างอยู่บนเส้นทางที่เรามักจะเดินไปด้วยกัน

     

     静かに瞳を閉じ祈る

    ผมหลับตาลงอย่างเงียบๆพร้อมกับอธิษฐาน

     

    いつまでも消えないように

    ให้ความรู้สึกนี้ไม่จากไปไหน

     

    深く傷ついていたこと

    รอยแผลที่บาดลึก

     

    気付かせず笑っていた君に

    แม้ว่ามันจะเจ็บสักแค่ไหน ผมยังคงมีรอยยิ้มให้คุณได้

     

     ずっと大切にするから

    แล้วมันจะเป็นสิ่งที่สำคัญตลอดไป

     

    叫び続ける ありふれた言葉でも

    อย่างไรก็ตาม การร้องไห้ต่อไป คงเป็นทาง ที่ผมจะพูดออกไปได้

     

     風になってそっと包みたい

    ผมอยากจะเป็นสายลมที่โอบกอดคุณไว้ในอ้อมแขนทั้งสองนี้

     

    君がいる世界に すぐ飛んでいきたい

    ผมอยากที่จะโบยบินไปในโลกที่คุณอยู่

     

    逢いたくても逢いたくても

    เพราะผมอยากพบคุณ ผมอยากพบคุณ

     

    待ってるから

    และผมจะรอคุณเสมอ

     

    ただ忘れないで

    เพราะว่าผมไม่สามารถลืมคุณได้เลย

     

    君に触れた夜

    ในค่ำคืนที่ผมมีคุณ

     

    壊れてしまうほどに

    จากนี้ไปไม่มีอีกแล้ว

     

    漂う香りに また想いが募る Baby

    ความทรงจำแสนหวานที่เลื่อนลอย มันกำลังมีอำนาจรุนแรงขึ้น....ที่รัก

     

    いつまでも果てないように

    ผมไม่อยากให้มันจบลงเลย

     

    もっと強く繋いだ手

    อยากที่จะจับมือคุณให้แน่นขึ้น

     

    離れないように

    (ที่รัก)...ผมไม่อาจทนเสียคุณไปได้

     

    風になってそっと包みたい

    ผมอยากจะเป็นสายลมที่โอบกอดคุณไว้ในอ้อมแขนทั้งสองนี้

     

    君がいる世界に すぐ飛んでいきたい

    แล้วโบยบินเข้าไปในโลกที่คุณอยู่

     

    逢いたくても逢いたくても

    เพราะผมอยากพบคุณ ผมอยากพบคุณเหลือเกิน

     

    待ってるから

    และผมจะอยู่ตรงนี้ เฝ้ารอคุณต่อไป

    待ってるから

    ผมจะรอคุณต่อไป......

     

     

    ただ忘れないで

    เพราะว่าผมไม่สามารถลืมคุณได้เลย

    ここにいるよ 忘れないで

    ผมจะยังคงรอคุณอยู่ตรงนี้ ผมไม่อาจลืมคุณได้เลย


    ..............................................................




    ติ๊ดๆๆๆๆๆ

     

    เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นตามเวลาที่ถูกตั้งไว้กรีดเสียงร้องขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ไปทั่วห้องนอนกว้างอันเงียบงัน ซึ่งเจ้านาฬิกาปลุกเรือนหลายวอนนั้นก็สามารถทำให้ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเปิดลืมขึ้นมาได้อย่างงัวเงีย มันกระพริบถี่ๆเพื่อปรับจุดโฟกัสอยู่ชั่วครู่ก่อนเจ้าของดวงตาจะค่อยๆชันตัวลุกขึ้นนั่นพร้อมกับบิดขี้เกียจจนสุดตัว

     

    แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านรอยแง้มของม่านเข้ามาทำให้เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างชัดใจ แต่กระนั้นลีทงเฮก็ยังสามารุคลี่รอยยิ้มขึ้นมาบนเรียวปากรับเช้าวันใหม่ได้อยู่ดี และรอยยิ้มนั้นก็ยิ่งชยับกว้างขึ้นเมื่อดวงตาเหลือบไปเห็นอีกคนที่ยังคงหลับสนิททั้งๆที่เสียงร้องของเจ้านาฬิกาปลุกนั้นก็แสบหูจนสุดทนขนาดนี้ ทงเฮหัวเราะออกมาเบาๆ...แล้วอย่างนี้จะซื้อนาฬิกาปลุกมาทำไมนะ ในเมื่อสุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องทำหน้าที่ปลุกทุกเช้าอยู่ดี...เขาก็ต้องปลุกทุกทีล่ะนา

     

    ร่างบางยกมือขึ้นเขย่าไหล่กว้างของคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เขาเบาๆพร้อมกับก้มหน้าลงไปปล่อยลมหายใจอุ่นๆให้รวยรินอยู่ที่ริมหู

     

    "คิบอมคนขี้เซา...ตื่นไปเรียนได้แล้ว"

    เสียงหวานกระซิบบอกเบาๆ ซึ่งมันก็ได้ผลดีเกินคาดเสียอีกเมื่อคนขี้เซาเปิดเปลือกตาพรึ่บขึ้นมาในทันที ร่างสูงชันตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วก่อนจะสะบัดกายออกมาจากสัมผัสและลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีโดนไม่ได้เอ่นอะไรแม้สักคำ

     

    ท่าทางห่างเหินและเย็นชาของคนรักทำให้รอยยิ้มของทงเฮเจือนไปเล็กน้อย...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คิบอมเย็นชาแบบนี้ พวกเขาทะเลาะกันก่อนหน้านั้น และเขาก็คิดว่าทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว...เข้าใจกันดีแล้ว แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นแบบนั้น...คิบอมทำเหมือนเขาไม่มีความรู้สึก...ทำเหมือนเขาเป็นอากาศที่ว่างเปล่า

     

    เสียงน้ำที่ดังมาจากในห้องน้ำทำให้ทงเฮรู้สึกตัวและรีบจัดการวิ่งไปอาบน้ำที่ห้องนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องนอนของเขา...เพราะมันก็หลายปีแล้วที่คิบอมขอให้เขาย้ายมานอนข้างๆอย่างเป็นทางการ ความรคิดแสนอบอุ่นนั้นทำให้ทงเฮมีรอยยิ้มตลอดเวลาที่จัดการกับตัวเอง

     

    "คิบอมอยากกินอะไรเป็นอาหารเช้าล่ะ...จะให้ฉัน..."

    ถ้อยคำของคนที่โผล่ออกมาจากห้องพลันชะงักค้างไปเมื่ออีกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนอีกห้องหนึ่งเดินตรงเข้าไปเปิดตู้เย็น หยิบเพียงนมหนึ่งกล่องออกมาดื่มก่อนจะคว้ากระเป๋าและก้าวเดินออกจากห้องไปโดยไมสนใจคนที่มักจะอาสาทำข้าวเช้าให้เขากินทุกวันแม้สักนิด เลือดในกายของทงเฮพลันเย็นเฉียบ...รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ออกมาเอาเสียดื้อๆ แต่ถึงกระนั้น....คนตัวเล็กก็ยังฝืนยิ้มและรีบวิ่งตามอีกคนออกไป

     

    ภายในรถคันหรูนั้นเงียบกริบ...ทงเฮไม่กล้าพูด...ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบสายตาไปมองคนขับซึ่งมีใบหน้าเรียบเฉยแสนเย็นชาและขับรถเร็วจนน่าหวาดกลัว...แน่ล่ะ...ทงเฮกลัว

     

    "คิบอมขับรถให้มันช้าๆหน่อยได้มั้ย"

     

    "..."

    เจ้าของชื่อนิ่งเฉยต่อเสียงร้องเรียกนั่นราวกับมันเป็นเพียงแค่สายลม ทงเฮก้มหน้าลงมองมือของตนที่กำลังบีบกันแน่นอยู่บนตัก....ซ่อนหยดน้ำตาที่จวนเจียนจะไหลริน

     

    บัลเลเลเล....บัลเลเลเล

     

    คิบอมยกแฮนด์ฟรีขึ้นเสียบหูก่อนจะกดรับสายเรียกเข้าที่เขาเห็นจากหางตาว่ามันเป็นชื่อของเพื่อนสนิทของเขา...ซีวอน

     

    "ว่าไงซีวอน...อืม จะถึงมหา'ลัยแล้ว...ก็ขับรถมาสิวะ...เออ! ก็กูจะถึงแล้วเนี่ย ขับไหวมั้ยล่ะวะ มึงโทรมาก็ดีเลย...เปล่า...จริงๆ กูจะโกหกมึงให้ได้ตังรึไงล่ะวะ....มึงช่วยถือสายไว้จนกว่ากูจะถึงได้มั้ยวะ....ทำไมมึงต้องถามทุกอย่างที่กูพูดเลยวะไอ้วอน....แค่อยู่เป็นเพื่อนกูแค่นั้นล่ะ...อืม ทุกที่เลย...กูก็ว่าดีเหมือนกัน"

     

    หยดน้ำตาตกลงมากระทบฝ่ามือหยดแล้วหยดเล่าจนมันเปียกชื้นซึมไปถึงกางเกงยีนส์ตัวเก่ง แต่ทว่าคนที่ยังคงมีฟรีแฮนด์เสียบอยู่ข้างหูก็ยังไม่คิดจะสนใจ...หรือบางทีอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นก็เป็นได้ คิบอมไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่ก็ยังไม่ยอมวางสายโทรศัพท์ราวกับการอยู่ลำพังกับลีทงเฮเป็นสิ่งที่เขาทนไม่ได้อีกต่อไป...ราวกับการอยู่ลำพังกับลีทงเฮเป็นเรื่องน่าอึดอัดเกินไป ริมฝีปากบางถูกขบกัดแน่นจนห้อเลือด ดวงตาแสบเคืองจากน้ำตาที่ทำให้ทุกอย่างแลดูพร่ามัวไปหมด

     

    คิบอมทนอยู่กับลีทงเฮไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ

     

    ไม่ต้องการลีทงเฮขนาดนั้นเลยหรอคิมคิบอม

     

    ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูก็ขับเข้ามาจอดในรั้วมหาลัย และคิบอมก็ไม่ลังเลเลยที่จะรีบดับเครื่องและก้าวออกจากรถไปโดยไม่แม้แต่จะหันไปสนใจคนที่โดยสารมาด้วย ทงเฮรีบก้าวออกมาจากรถ ทำท่าจะอ้าปากเรียกร่างสูง แต่ทว่าร่างสูงใหญ่ของเชวซีวอนก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน

     

    "โห้ยยย~ย...กูนึกว่ามึงจะมาไม่ถึงมหาลัยแล้วเสียอีก"

     

    "ปากหมาว่ะ" คนพูดน้อยสวนกลับสั้นๆก่อนเพื่อนสนิททั้งสองคนจะพากันเดินกอดคอขึ้นตึกเรียนไป และมันก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่คิบอมหันกลับมาสบตากับคนที่ยังยืนอยู่ข้างตัวรถ...สายตาของเขาช่างเรียบเฉยและว่างเปล่าก่อนจะหันกลับไปหัวเราะกับเพื่อนสนิทตามเดิม

     

    ทงเฮรู้สึกอยากจะยิ้มเมื่อได้สบตากับนัยน์ตสีดำคู่นั้น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเศร้าจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมาจนสุดเสียง

     

    "แค่นี้เองลีทงเฮ...ไม่มีอะไรซักหน่อย" ร่างบางพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ฝืนคลี่ขึ้นมาบนเรียวปาก เขากระชับกระเป๋าเข้ากับหัวไหล่ก่อนจะหมุนตัวเดินมุ่งไปยังตึกเรียนของตน

     

    ............................................................

     

    "เฮ้ยไอ้บอม ห้าโมงแล้วนะโว้ย!...มึงจะเล่นให้ขาดใจตายไปเลยรึไงวะ!!"

    ซีวอนผู้ซึ่งมีเหงื่อท้วมตัวและกำลังหอบฮักๆตะโกนถามเพื่อนสนิทที่ยังคงเลี้ยงลูกบาสวิ่งวุ่นไปทั่วสนามอยู่คนเดียวอย่างไม่รู้จักเหนื่อยมาตั้งแต่บ่ายสามโมง เพื่อนร่วมคณะที่มาเล่นด้วยต่างส่ายหน้ายอมแพ้กันไปตั้งแต่สี่โมงครึ่งเพราะทนวิ่งเป็นเพื่อนมันนานกว่านี้ไม่ไหวแล้ว จะมีก็แต่เพื่อแสนดีเชวซีวอนคนนี้นี่ล่ะที่ยอมเหนื่อยทนเล่นกับมันยันห้าโมงเย็นแบบนี้...ให้ตายสิ...แล้วเย็นนี้เขาจะเอาแรงที่ไหนไปกดซินเดอเรล่าคนสวยของเขาล่ะ!

     

    "พี่คิบอมโอเคนะครับ" เสียงรุ่นน้องที่คณะซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากห้องอาบน้ำของโรงยิมเอ่ยถามขึ้นพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกชื้นของตน ซีวอนถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยใจพลางใช้หลังมือปาดเช็ดหยดเหงื่อที่กำลังจะไหลเข้าตา

     

    "ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะคยูฮยอน แม่งแปลกขึ้นๆทุกวัน...ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า" ชายหนุ่มร่างสูงตอบกลับโดยไม่ปิดบังความกังวลที่เจืออยู่ในน้ำเสียงแม้แต่น้อย ซึ่งคยูฮยอนก็รู้ถึงสาเหตุนั้นดีและเลือกที่จะไม่พูดมันออกมา

     

    "มันก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วนะครับ"

     

    "นั่นสิ...แต่ดูเหมือนเวลาจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย นายคิดเหมือนพี่มั้ยล่ะ"

     

    ...................................................................

     

    ทงเฮละสายตาออกมาจากหนังสือที่ตกำลังอ่านอยู่เพื่อเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตน และเวลาที่ล่วงเลยมากว่าสองชั่วโมงตั้งแต่เขามานั่งคอยก็ทำให้หนุ่มน้อยหน้าหวานยู่ปากเล็กน้อยอย่างขัดใจ

     

    "หายไปไหนของเขานะ...มาถึงแล้วจะบ่นให้หูชาเลย"

    คนตัวเล็กคาดโทษกับคนมาช้าก่อนจะก้มลงกลับาสนใจหนังสือในมือต่อตามเดิม สายลมที่โบกพัดมาพร้อมกับกลิ่นไอฝนทำให้เขารู้ว่าอีกไม่นานพิรุนทร์คงจะสาดเทลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งถ้าคิมคิบอมยังไม่ปรากฏตัวออกมาภายในเร็วๆนี้ เขาคงจะต้องเปียกฝนเป็นแน่แท้ โทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋าดึงความสนใจจากเขาได้เล็กน้อย ทงเฮหยิบมันขึ้นมากดดู และข้อความเตือนความจำที่เขาเคยบันทึกไว้ก็ทำให้เขาคลี่รอยยิ้มกว้างออกมาอย่างง่ายดาย

     

    พรุ่งนี้วันเกิดของคิบอม

     

    ไปซื้อของขวัญให้พรุ่งนี้ละกัน วันนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ...แต่ว่า...เจ้าตัวจะจำได้มั้ยนะว่าพรุ่งนี้มันวันเกิดของตัวเองน่ะ ปกติวันๆเอาแต่ท่องหนังสือจนลืมวันลืมเดือนประจำ ทงเฮอมยิ้มอยู่กับความคิดของตัวเองเงียบๆ

     

    ครื้น!!

     

    ฟ้าที่ร้องลั่นทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือกแขึ้นมาจนสุดตัว แต่ก็ยิ้มออกมาได้ภายในเวลาไม่นานเมื่อเสียงฟ้าร้องนั้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่เขามานั่งคอยนานเหลือเกิน

     

    "มาช้าจังเลยนะคิบอม...หายไปไหนมา" คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างงอนๆ ซึ่งเขาก็ได้รับเพียงแววตาเรียบเฉยและว่างเปล่าที่จ้องตรงมายังจุดที่เขานั่งอยู่เท่านั้น คิบอมไม่ได้โต้ตอบใดๆกลับแม้เพียงสักคำ เขาปลดล๊อครถและเปิดประตูก้าวเข้าไปนั่ง และคงจะขับออกไปแล้วถ้าทงเฮก้าวขึ้นมานั่งช้ากว่านี้แค่วินาทีเดียว

     

    สายฝนเทกระหน่ำลงมาทันทีที่คิบอมพารถออกมาสู่ถนนใหญ่ได้เป็นสำเร็จ...และด้านในก็ยังคงเต็มไปด้วยความเงียบงันเช่นเดียวกับขามา

     

    "คิบอมจะไม่พูดอะไรกับฉันหน่อยเลยหรอ...ยังโกรธฉันอยู่หรอ" ทงเฮยอมเป็นฝ่ายเปิดปากพูดออกมาก่อน ดวงตากลมโตเหลือบมองคนข้างกายที่กำลังสบถพึมพำออกมาเบาๆ คิบอมไม่ได้ตอบอะไรกลับ เขาเหยียบคันเร่งให้มากขึ้นพบางใช้มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมากดหาเบอร์ของใครสักคน

     

    "ให้ตายห่าเหอะ!" ชายหนุ่มสบถออกมาอีกก่อนจะเอาแฮนด์ฟรีขึ้นเสียบหูด้วยทาทางที่ดูหงุดหงิดขึ้น

     

    "เฮ้ยซีวอน กูเอง...กูกำลังจะประสาทว่ะ อยู่เป็นเพื่อนกูหน่อย"

    ทงเฮเม้มริมฝีปากของตนแน่นจนเหลือเป็นเพียงเส้นบางเฉียบ ดวงตากลมโตกดต่ำกลับลงมาจ้องมือของตนที่วางอยู่บนหน้าตัก...และมันก็ช่างพร่ามัว

     

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่คิบอม

     

    มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากันแน่

     

    ทำไมดูเหมือนว่ามีฉันคนเดียวที่ยังไม่เข้าใจล่ะ

     

    .....................................................................

     

    ฝนยังคงไม่หยุดตก...และตอนนี้ในห้องพักของพวกเขาก็ช่างเย็นเยียบราวกับเป็นกล่องใบเล็กๆที่ถูกวางอยู่ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำโดยที่คนด้านในทำได้เพียงแค่ทนต่อความหนาวยะเยือกเท่านั้น

     

    ทงเฮเดินออกมาจากในห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนของห้องดีก่อนจะตัดสินใจเดินไปนั่งอยู่ที่โซฟาเคียงข้างเจ้าของห้องอีกคนที่นั่งดูทีวีอยู่ก่อนแล้ว ร่างบอบบางกรุ่นกลิ่นสบู่ที่เข้าตัวชอบใช้ขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆก่อนจะเอนศีรษะซบลงไปบนไหล่กว้างอย่างเคยชิน

     

    "คิบอม...ทงเฮรักคิบอมนะ" เสียงหวานกระซิบออกมาเบาๆ และมันก็ทำให้ร่างกายของคนถูกบอกรักชะงักเกร็งไปในทันที ลมหายใจของคิบอมกระตุกก่อนเขาจะรีบลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องนอนโดยไม่แม้แต่จะหันมาสนใจคนที่สะอื้นออกมาแม้แต่หางตา

     

    ทงเฮซุกหน้าลงกับฝ่ามือ...ร้องไห้ออกมาเงียบๆอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

     

    ฉันกำลังจะเสียนายไปอย่างนั้นหรอคิบอม

     

     

     

     

    ร่างบางกระชับผ้าห่มเข้าแนบตัวมากขึ้น...ยิ่งดึก ฝนก็ยิ่งตกหนัก และมันก็ยิ่งหนาว แต่คนที่ควรจะออกจากห้องน้ำมานานแล้วกลับยังคงหมกตัวอยู่ในห้องน้ำ...ไม่ยอมออกมาเสียที ทงเฮลืมตาอยู่ในความมืด จ้องมองไปยังประตูห้องน้ำที่ยังคงมีแสงไฟสลัวเล็ดลอดออกมา แต่แล้วเขาก็ต้องรีบหลับตาแสร้งทำเป็นหลับเมื่อเสียงน้ำด้านในเงียบลง และไม่นานประตูก็ถูกผลักเปิดออกมา เสียงฝีเท้าหนักๆดังขึ้นชั่วครู่ก่อนเขาจะรู้สึกได้ถึงเตียงที่ยวบลงไปยังอีกด้านหนึ่ง

     

    ติ๊กต่อก...ติ๊กต่อก

     

    เสียงเข็มนาฬิกขยับดังก้องอยู่ในห้องนอนอันเงียบงัน ทงเฮนนอนตะแคงหันหลังใฟ้อีกฝ่าย เช่นเดียวกับที่คิบอมนอนตะแคงหันหลังให้คนรักของตน

     

    "คิบอม...หนาวจัง" คนตัวเล็กว่าก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกตัวกลับมาและขยับเข้าไปโอบเอวหนาเอาไว้เต็มวงแขน ใบหน้าหวานซุกแนบเข้ากับแผ่นหลังกว้างที่เกร็งขึ้นมาทันทีที่โดนสัมผัส คิบอมกระผ้าห่มเข้าแนบตัวพลางขดตัวเข้าหากันมากขึ้น....พยายามจะปิดเปลือกตาลงเพื่อที่มันจะได้ผ่านพ้นคืนนี้ไปเสียที

     

    ติ๊กต่อก...ติ๊กต่อก

     

    เวลายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ...ฝนยังคงไม่หยุดตก....และคนสองคนที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ ทงเฮเหลือบไปมองนาฬิกา และเข็มเวลาที่บ่งบอกว่าได้เข้าสู่วันใหม่มาได้หลายนาทีแล้วก็ทำให้เขาคลี่รอยยิ้มออกมาได้เล็กน้อย ร่างเล็กขยับตัวขึ้นก่อนจะชะโงกหน้าไปกดปลายจมูกลงบนแก้มป่องๆของคนรักเบาๆ

     

    "สุขสันต์วันเกิดนะคิบอม....นายโตเป็นหนุ่มแล้วนะ"

    ทันทีที่ปลายจมูกโด่งรั้นนั่นสัมผัสกับผิวกายของตน คิบอมก็ลืมตาโพลงขึ้นมาในทันที ลมหายใจของเขาชะงักค้างเช่นเดียวกับเลือดในกายที่ลดอุณหภูมิเย็นเฉียบลง เขาชันตัวลุกขึ้นนั่ง...ผลักไสทุกสัมผัสออกจากร่างพลางใช้มือควานหาโทรศัพท์มือถือของตนอย่างรีบร้อนจนข้าวของบนโต๊ะข้างเตียงล้มระเนระนาด

     

    "คิบอม...?"

    ทงเฮพยายามจะไม่ร้องไห้...พยายามจะไม่ทำตัวงี่เง่าต่อหน้าคนที่กำลังรีบร้อนกดมือถือจนมือสั่นไปหมด เขาจ้องมองแผ่นหลังกว้างที่กำลังสั่นสะท้านโดยไร้สาเหตุ...ทำท่าจะเอื้อมมือไปสัมผัส แต่มันกลับเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงเอาโทรศัพท์ขึ้นแนบหูและลุกขึ้นจากเตียง

     

    "ซีวอน...มารับกูหน่อย กูทนไม่ไหวแล้วว่ะ...กูทนอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว"

    ท่ามกลางเสียงของสายฝน ลีทงเฮกำลังร้องไห้ออกมาเงียบๆขณะเฝ้าดูคนรักของตนเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าโดยที่ทำอะไรเพื่อหยุดรั้งไม่ได้เลย

     

    "คิบอมจะทิ้งฉันหรอ...ฮึก...ไม่รักฉันแล้วหรอคิบอม" คนตัวเล็กวอนขอออกมาอย่างหมดทาด้วยน้ำตานองหน้า แต่ทว่าคนที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าก็ไม่คิดอยากจะรับฟัง เขาปิดตู้เสื้อผ้าเสียงดังราวกับอยากจะให้มันกลบเสียงสะอื้นอันน่าเศร้าของคนที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง

     

    "อย่าไปเลยนะคิบอม...ฮึก...ขอร้องนะ อยู่กับฉันเถอะนะ"

     

    ก๊อกๆ

     

    คิบอมรูดซิปกระเป๋าก่อนจะก้าวดุ่มๆออกไปเปิดประตูทันทีโดยมีทงเโฮรีบเดินตามไปแทบจะในเวลาเดียวกัน

     

    "กูไปคอยที่รถนะ ปิดห้องให้กูด้วย" ชายหนุ่มว่าโดยไม่แม้แต่จะเอ่ยทักทายคนมารับก่อนจะเดินผ่านร่างสูงของเพื่อนสนิทออกไป และมันก็เป็นเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีที่ดวงตาคมเหลือบกลับมาสบตากับคนที่ยืนค้างอยู่ที่ข้างโต๊ะกาแฟก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

     

    ซีวอนถอนหายใจออกมาเบาๆ....อารมณ์ปนเปอยู่ระหว่างความหงุดหงิดที่ถูกปลุกขึ้นมากลางดึกกับความเห็นใจที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เขาส่งรอยยิ้มอ่อนโยนไปให้คนที่ยังคงยืนน้ำตานองหน้าอยู่ที่ข้างโต๊ะกาแฟ

     

    "เลิกทำให้หมอนั่นเศร้าเสียทีทงเฮ มันร้องไห้เพราะคุณทุกวันเลยนะ...เลิกทำร้ายมันแบบนี้ซักที" ซีวอนว่าด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่เขาชอบใช้ก่อนจะปิดประตูห้องลงท่ามกลางเสียงสะอึกสะอื้นของคนที่ยังคงอยู่ด้านใน

     

    .........................................................

     

    เสียงลูกบิดประตูที่ดังขึ้นปลุกคนที่นอนขดตัวอยู่ที่โซฟาให้สะดุ้งตื่นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาบวมช้ำค่อยๆเปิดลืมขึ้นมาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับยันตัวขึ้นนั่ง และทันทีที่ดวงตาสามารถโฟกัสไปที่ผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องได้ชัดตา รอยยิ้มหวานแสนงดงามก็ปรากฏขึ้นมาบนเรียวปากในทันที

     

    "คิบอม!"

    คนโดนร้องเรียกชะงักไปนิด ดวงตาคมปราดมองเจ้าของเสียงเรียกชั่วครู่ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างไม่คิดจะใส่ใจ...แต่ไม่เป็นไร...อย่างน้อยคิบอมก็กลับมา ความคิดนั้นเป็นเพียงความคิดเดียวที่สามารถทำให้ลีทงเฮยังฝืนยิ้มอยู่ต่อไปได้โดยไม่ต้องมีน้ำตา ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กะว่าจะออกมาดักหน้าอีกคนเสียหน่อย แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะยังช้าไปอยู่ดี

     

    คิบอมยืนอยู่ตรงโต๊ะกาแฟ หยิบกรอบรูปที่มีรูปของพวกเขาสองคนหอมแก้มกันอยู่ในนั้นขึ้นมามองใกล้ๆ ทงเฮเฝ้ามองรอยยิ้มที่คลี่บางอยู่บนเรียวปากของคนยิ้มยากแล้วก็ต้องเป็นฝ่ายยิ้มออกมาบ้าง...คิบอมตอนยิ้มน่ะ น่ารักสุดๆไปเลยนะรู้ตัวมั้ย

     

    "คิบอม..."

    เจ้าของชื่อผู้อยู่ในชุดสูทเต็มยศเงยหน้ากลับขึ้นมามองคนเรียกที่ยืนค้างอยู่ที่ประตูห้องนอนชั่วครู่ด้วยรอยยิ้มที่ยังคงค้างอยู่บนริมฝีปาก ก่อนไม่นานรอยยิ้มนั้นจะจางหายไปพร้อมกับที่เขาวางกรอบรูปในมือคว่ำลงกับโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไป...ซึ่งมันก็ทำให้คนที่พยายามไม่ร้องไห้ออกมาร้องไห้ออกมาจนแล้วจนรอด

     

    ทงเฮเดินไปหยิบกรอบรูปที่ถูกวางคว่ำไว้ขึ้นมาดู....และมันก็ยิ่งทำให้เขามีน้ำตามากขึ้นเมื่อคิบอมผู้อยู่ในภาพนั้นกำลังมีรอยยิ้มกว้างขณะแนบริมฝีปากลงบบนแก้มของเขา

     

    ยังคงเป็น...คิมคิบอมที่รักลีทงเฮ

     

    แต่ตอนนี้...มันก็เหลือเพียงแค่

     

    ลีทงเฮที่รักคิมคิบอมเท่านั้นเอง

     

    ทงเฮกอดรูปนั้นไว้แนบอก...ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนตัวโยนอย่างน่าสงสาร แต่ความเงียบงันก็เป็นเพื่อนปลอบใจได้ดีนัก เพราะไม่นานคนตัวเล็กก็เหนื่อยและหยุดร้องไห้ไปเองในที่สุด ทงเฮค่อยๆบรรจงวางกรอบรูปลงไปยังที่เดิมของมันพร้อมกับใช้ปลายนิ้วปาดเช็ดคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนอยู่อย่างทะนุถนอม

     

    บัลเลเลเล...บัลเลเลเล

     

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรียกสายตาจากคนตัวเล็กที่ยังคงอยู่ในห้องได้เล็กน้อย ทงเฮเดินไปตามเสียงรีงโทนที่ดังอย่างไม่ยอมแพ้จนไปเจอมันวางอยู่กลางเตียงของคนที่ไม่อยู่ แต่ทันทีที่เขาจะเอื้อมมือไปกดรับสายแทน คนปลายสายกลับยอมแพ้วางสายไปเสียก่อน หน้าจอปรากฏชื่อของเพื่อนสนิทของเจ้าของเครื่อง...เชวซีวอน

     

    "อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ" ทงเฮพึมพำกับตัวเองเบาๆ เขารีบเช็ดน้ำตาให้แก้งแล้วจึงหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารเครื่องเล็กนั่นวิ่งตามเจ้าของไป...คิดเพียงแค่ว่าคิบอมอาจจะยังไม่ได้ไปไหนไกลก็ได้ ร่างบางก้าวยาวๆออกมาจากลิฟต์และเดินตรงออกไปด้านนอก กลิ่นของอากาศยังคงกรุ่นไปด้วยกลิ่นของไอฝนที่เพิ่งจะหยุดตกไปเมื่อตอนรุ่งสาง

     

    ดวงตากลมโหันซ้านหันขวา จ้องมองผ่านบุคคลมากมายที่เดินกันให้วุ่นวานเต็มฟุตบาธเพื่อมองหาบุคคลที่ยังอาจจะอยู่แถวนี้ ซึ่งเขาก็ไม่ต้องผิดหวังมากนักเมื่อเห็นคิมคิบอมยืนอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้าม ทงเฮทำท่าจะคลี่รอยยิ้มออกมาอย่างยินดี แต่ทว่าสิ่งที่ร่างสูงกำลังทำอยู่กลับทำให้มันเจือนลงมาได้อย่างรวดเร็วพร้อมด้วยหัวใจที่พลันเจ็บร้าว...คิบอมจะซื้อดอกไม้ไปให้ใครกัน?

     

    ชายหนุ่มร่างบางยังคงยืนอยู่ตรงนั้น...เฝ้ามองคนรักของตนจ่ายเงินเป็นค่าของดอกกุหลาบขาวช่อโตสดสวยแล้วหมุนตัวเดินไปที่ไหนซักแห่ง ทงเฮยกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำตาที่กำลังจะไหลรินก่อนจะเดินข้ามถนนตามอีกคนไปอย่างไม่ยอมแพ้

     

    หรือบางที...

     

    อาจจะแพ้มาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้...แค่ยอมรับไม่ได้ก็เท่านั้น

     

    ทงเฮแอบเดินตามคิบอมไปห่างๆ...และยิ่งเดนมาไกลเท่าไร หัวใจของทงเฮก็ยิ่งเจ็บร้าวเข้าไปลึกมากขึ้นเท่านั้น...เจ็บจนแทบจะเดินไม่ไหวและทรุดล้มลงไปอบยู่หลายครั้ง แต่ทว่าน้ำตาที่รื้ออยู่เต็มขอบตาก็ผลักดันให้เขาเดินต่อไป ร่างสูงหมุนตัวเดินเลี้ยวเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง...และทงเฮก็ทำเพียงแค่หยุดยืนอยู่ที่ประตูรั้วพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองยอดปลายแหลมสูงเสียดฟ้าที่มีระฆังกำลังขยับไกวส่งเสียงกังวานไปทั่ว

     

    คิบอมมาโบสถ์ทำไมกัน

     

     

     

    "คิบอมไม่ฟังฉันเลย!...นายจะช่วยฟังสิ่งที่ฉันจะอธิบายหน่อยได้มั้ย!?!"

     

    "คุณนั่นล่ะที่ไม่ฟังผมทงเฮ!...คุณเอาแต่ตะโกนใส่ผมว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นไม่ใช่อย่างนั้น คุณเอาแต่พูดว่าคุณอธิบายได้...แล้วไหนล่ะคำอธิบายของคุณ ผมเบื่อที่จะรอฟังมันแล้ว...พอซักที!"

     

    "หยุดเดี๋ยวนี้นะคิมคิบอม!....อย่าหันหลังให้ฉันแบบนี้นะ!!"

     

     

     

    ยิ่งทงเฮก้าวตามคิบอมเข้าไปในเขตสุสานมากเท่าไร ทุกอย่างในหัวของเขาก็เริ่มหมุนวนมากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับหัวใจที่หนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเต้นต่อไปไม่ไหว

     

    นี่มันอะไรกัน...?

     

     

     

    "คุณนั่นล่ะหยุดลีทงเฮ! พอได้แล้ว...พอซักที!!"

     

    "โอ๊ย!...ฉันเจ็บนะ!"

     

    "คุณเจ็บหรอ...แล้วมันเจ็บเท่าที่ผมเจ็บรึเปล่าล่ะลีทงเฮ!"

     

     

     

    คิบอมหยุดเดินแล้ว...เช่นเดียวกับทงเฮที่หยุดเดินและทิ้งตัวลงบนเข่าของตนในทันที น้ำตาไหลอาบแก้มขณะเฝ้ามองคิบอมย่อตัวนั่งลงไปมอบช่อดอกกุหลาบแสนสวยให้กับผ้ายหลุมศพของใครบางคนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

     

    ทำไม...ถึงเป็นแบบนี้ล่ะคิมคิบอม

     

     

     

    "ฮยอกแจเป็นแค่เพื่อนของฉัน เขาเพิ่งกลับมาจากอเมริกา...เขาก็เป็นแค่เพื่อน นายจะช่วยรับฟังเหตุผลหน่อยได้มั้ย!"

     

    "เหอะ!....เพื่อนหรอ ยุนโฮก็เพื่อนสินะ...มีใครอีกล่ะ...อ้อ...ชื่ออะไรนะไอ้เด็กแลกเปลี่ยนนั่นน่ะ...ฮันคยองรึเปล่า มันก็เพื่อนคุณอีกคนงั้นสิ ผมไม่เข้าใจเลยลีทงเฮ...คุณจำเป็ต้องจูบเพื่อนของคุณทุกคนเลยรึไง!"

     

    คนตัวเล็กเบิกตาโตให้กับข้อกล่าวหา สายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาทำให้ร่างของเขาเปียกปอนไม่น้อยไปกว่าคนที่ยึดร่างของเขาไว้กับกำแพงตึกเรียน

     

    คิบอมใช้สองมือยึดจับไหล่บางเอาไว้แน่น...บีบแน่นจนมันคล้ายจะแตกสลายไปคามือ...ลีทงเฮบอบบางขนาดไหนคิมคิบอมรู้ดี...รู้ดีที่สุด ดวงตาคมวาวโรจน์อย่างโกรธเคือง แต่ท่ามกลางความมืดมิดและสายฝน ดวงตาคู่นั้นกำลังแดงก่ำและหลั่งน้ำตาออกมา

     

    ลีทงเฮคนใจร้าย

     

    แค่ความรักของเขา...มันยังไม่มากพออีกรึไง

     

    เขายังรักได้ไม่มากพออีกหรอ!?

     

    "มันไม่ใช่แบบนั้นนะคิบอม!...นายกำลังเข้าใจฉันผิดนะ!"

     

    "ผิด?...ผมเข้าใจผิด? ผิดตรงไหนล่ะ...ตรงที่พวกมันเป็นแค่เพื่อนรึเปล่า...ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นคู่นอนใช่มั้ล่ะ?!!"

     

    เพี้ย!

     

    ฝ่ามือเล็กฟาดเข้าให้เต็มสันแก้มจนใบหน้าคมสะบัดฟันไปตามแรง คิบอมชะงักค้าง ต่างจากทงเฮที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ...ทั้งโกรธเคืองและเสียใจ

     

    "ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคิบอม...ห้ามพูดแบบนั้นนะ"

     

    "..."

     

    "ฉันรักนายนะคิบอม...รักที่สุด ถึงฉันจะไปจูบกับใครอีกซักกี่คน ฉันก็จะรักแค่นาย...ทำไมถึงไม่เชื่อใจฉันบ้างล่ะ!"

    คิบอมเหยียดยิ้มขึ้นมาบนมุมปากก่อนจะก้มลงไปบดขยี้เรียวปากบางสีแดงสดนั่นอย่างรุนแรงราวกับจะระบายความกรุ่นโกรธและน้ำตาที่ไหลเอ่ออยู่เต็มหัวใจ...คิมคิบอมไม่ได้รู้สึกถึงน้ำตาของลีทงเฮเพราะสายฝนเย็นเฉียบที่กระหน่ำตกลงมา...หรือพยายามทำเป็นไม่รู้สึกกันแน่

     

    "เชื่อใจอย่างนั้นหรอทงเฮ...ผมรักคุณมากจนเชื่อใจคุณไม่ไหวแล้วล่ะ ถ้ารักผมจริงอย่างที่ปากว่า...ทำไมถึงหยุดแค่ที่ผมไม่ได้...ทำไมถึงจูบแค่ผมคนเดียวไม่ได้!"

    คิบอมกระแทกร่างบางเข้ากับกำแพงก่อนจะหมุนตัวเดินข้ามถนนไปท่ามกลางสายตาเบิกกว้างของอีกฝ่าย

     

    "คิบอม!!...ฉันรักนายนะ!...กลับมาคุยกันก่อนสิ!"

     

    เอี๊ยดดด~ด!!

     

    โครมมม~ม!!

     

    "ทงเฮ!!...ให้ตายสิ!...ทงเฮ!!"

     

     

     

    "คิบอม...ฮึก...ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ" ทงเฮคร่ำครวญออกมาเบาๆพลางพยายามจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสกายของอีกฝ่าย แต่ทว่ามันก็มีเพียงสายลมที่โบกพัดไปต้องกายของอีกฝ่ายเท่านั้น คิบอมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้ท้องฟ้าพลางใช้มือลูบสัมผัสตัวอักษรที่สลักอยู่บนแนหินอย่างแผ่วเบาราวกับกำลังสัมผัสพวกแก้มใสของเจ้าของชื่อ

     

    ...ลีทงเฮ...

     

    "ผมมาเยี่ยมคุณนะครับทงเฮ..ดีใจมั้ย"

    คิบอมยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มอบอุ่นของเขาที่ใครบางคนเคยบอกว่าชอบนักหนาเพราะมันทำให้แก้มของเขายุ้ยออกมาอย่างน่าเอ็นดู

     

    "คิดถึงคุณมากๆเลย ห้องที่ไม่มีคุณมันเงียบมากๆจนผมจะประสาทอยู่แล้วรู้มั้ย ผมได้ยินเสียงคุณทุกที่...ได้กลิ่นของคุณทุกแห่ง...รู้สึกเหมือนคุณยังอยู่ตรงนี้...อยู่ข้าๆผมตลอดเวลา มันน่าขนลุกมากเลย...แกล้งผมแบบนี้ไม่สนุกนะจะบอกให้" ชายหนุ่มหัวเราะออกมาแห้งๆพลางปัดเส้นผมออกจากดวงตาของตน...ยังคงมีรอยยิ้มไม่เจือน

     

    "แต่ก็ดีนะ...การที่รู้สึกเหมือนมีคุณอยู่ใกล้ๆแบบนี้ถือเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดเลยล่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะครับทงเฮ"

     

     

     

    "คิบอมคนขี้เซา...ตื่นไปเรียนได้แล้ว"

     

    "อะ...อืม...ยังเช้าอยู่เลย มาให้ผมนอนกอดอีกหน่อยดีกว่า"

     

    "อ๋าาา!...คิบอมอ่า!...อย่านะ! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย!"

     

     

     

    "คิบอมอยากกินอะไรเป็นอาหารเช้าล่ะ...จะให้ฉันทำแซนด์วิชให้มั้ย"

     

    "ไม่เอาอ่ะ ผมกินทงเฮได้มั้ย...งืมๆ...เมื่อคืนยังไม่อิ่มเลย"

     

    "คนลามก!"

     

     

     

    "คิบอมขับรถให้มันช้าๆหน่อยได้มั้ย"

     

    "กลัวหรอ"

     

    "ฉันกลัวไปไม่ถึงมหาลัยน่ะสิ"

     

    "จะกลัวอะไรล่ะครับ...ผมไม่มีทางทำร้ายทงเฮอยู่แล้ว"

     

     

     

    "มาช้าจังเลยนะคิบอม...หายไปไหนมา"

     

    "ก็อาจารย์ปล่อยช้านี่นา"

     

    "จริงอ่ะ...อย่าให้รู้ว่าโกหกนะ"

     

    "ผมจะโกหกทงเฮทำไมให้โดนตีล่ะ...โอ้ยๆๆๆ!...หยิกผมทำไมอ่ะ!...ผมไม่ได้โกหกนะ!"

     

     

     

    "คิบอมจะไม่พูดอะไรกับฉันเลยหรอ...ยังโกรธฉันอยู่หรอ"

     

    "เชอะ!...งอน!!"

     

    "โอ๋ๆๆๆๆ....คิบอมสุดหล่อ หายงอนเค้าน้า"

     

    "เชอะ!...โกรธ!!"

     

     

     

    "คิบอม...ทงเฮรักคิบอมนะ"

     

    "มาแบบนี้จะมาขออะไรรึไง"

     

    "เปล่าซักหน่อย!...เชอะ!...ไม่รักฉันก็บอกมาเหอะ!"

     

    "โธ่...ผมรักทงเฮจะตายไปใครๆก็รู้ทั้งนั้นล่ะ"

     

     

     

    "คิบอม...หนาวจัง"

     

    "มานี่มา...อ่ะ...อุ่นขึ้นรึยัง"

     

    "อืม...อุ่นมากๆเลย กอดแน่นๆแบบนี้ตลอดไปเลยนะคิบอม"

     

     

     

    "สุขสันต์วันเกิดนะคิบอม...นายโตเป็นหนุ่มแล้วนะ"

     

    "มาบอกตอนกลางดึกแบบนี้นี่มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่าเนี่ย"

     

    "บ้าหรอ!...ฉันก็แค่อยากจะบอกนายเป็นคนแรกเท่านั้นเองอ่ะ!"

     

    "งั้นผมขอคุณเป็นของขวัญชิ้นแรกได้มั้ย...ผมโตเป็นหนุ่มแล้วนะ"

     

     

     

    คิบอมยิ้มให้กับความทรงจำของตัวเอง เขาใช้ปลายนิ้วแตะเข้ากับริมฝีปากของตนก่อนจะนำมันไปสัมผัสเข้ากับแผ่นหิน...คล้ายจูบลงเจ้าของชื่อแช้วจึงยืดตัวขึ้น

     

    "ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดที่พิเศษที่สุดนะครับทงเฮ" ชายหนุ่มยกมือขึ้นจัดเสื้อผ้าของตน ทิ้งถ้อยคำสุดท้ายไว้แล้วจึงเดินออกมา

     

    "ผมรักคุณนะครับทงเฮ"

     

    บัลเลเลเล...บัลเลเลเล

     

    เสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคยเรียกสายตาของเขาให้ตวัดไปมองได้เล็กน้อย และเขาก็แปลกใจได้ในทันทีว่าทำไมมือถือของเขาถึงมานอนอยู่แถวนี้...คนทำตกตอนเดินมาล่ะมั้ง ชายหนุ่มคิดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบมันขึ้นมากดรับ

     

    "ยอโบเซโย"

     

    "เฮ้ยไอ้บอม...กูจัดการเรื่องห้องให้มึงได้แล้วนะเว้ย ห้องข้างๆกูว่างพอดี มึงย้ายของเข้ามาอยู่ได้เลย จะให้กูไปช่วยขนรึเปล่า"

     

    "อืม...มึงไปคอยกูที่ห้องแล้วกัน เดี๋ยวกูไป"

     

     

     

    ซีวอนวางสายพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ มันใช้เวลาไม่นานเท่าไรที่เขาจะพาตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องของเพื่อนสนิทที่ครั้งหนึ่งมันเคยอบอวลไปด้วยความรักจนอบอุ่น แต่ตอนนี้มันกลับเงียบเหงาและวังเวงจนหยใจไม่สะดวก เขาเดินไปหยิบกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะการแฟขึ้นมาดู ใช้ปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำบางอย่างออกจากกระจกเพื่อจะได้ดูภาพนั้นชัดๆ และมันก็ทำให้เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างสดใสของคนทั้งสองคนในภาพ

     

    "คุณน่ารักมากๆเลยรู้มั้ยทงเฮ ไอ้คิบอมมันถึงได้รักคุณมากขนาดนี้น่ะ...ทำไมถึงชอบทำให้มันร้องไห้นักล่ะครับ คนสวยนี่ใจร้ายเหมือนยัยฮีชอลทุกคนเลยรึไงนะ"

     

     

     

    "เฮ้ยคิบอม"

     

    "ว่าไงซีวอน"

     

    "มึงมาเรียนรึเปล่าวะวันนี้"

     

    "อืม จะถึงมหา'ลัยแล้ว"

     

    "จะถึงแล้ว?!...มึงมาไงวะเนี่ย"

     

    "ก็ขับรถมาสิวะ"

     

    "ขับรถ?!!...มึงขับรถไหวแล้วหรอวะ!"

     

    "เออ! ก็กูจะถึงแล้วเนี่ย ขับไหวมั้ยล่ะวะ มึงโทรมาก็ดีเลย"

     

    "ทำไม...มึงมีอะไรรึเปล่า เสียงมึงฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะ"

     

    "เปล่า"

     

    "จริงง่ะ"

     

    "จริงๆ กูจะโกหกมึงให้ได้ตังรึไงล่ะวะ"

     

    "เออๆ กูเชื่อก็ได้ สรุปมึงจะให้กูช่วยอะไรป่ะเนี่ย"

     

    "มึงช่วยถือสายไว้จนกว่ากูจะถึงได้มั้ยวะ"

     

    "ถือสาย?!"

     

    "ทำไมมึงต้องถามทุกอย่างที่กูพูดเลยวะไอ้วอน....แค่อยู่เป็นเพื่อนกูแค่นั้นล่ะ"

     

    "มึงไม่เป็นอะไรแน่นะ...ยังได้ยินเสียงทงเฮอยู่อีกรึไง"

     

    "อืม ทุกที่เลย"

     

    "มึงลองไปหาหมอหน่อยมั้ย พ่อกูมีคนรู้จักเป็นหมอเกี่ยวกับด้านนี้นะเว้ย กูโทรไปบอกพ่อให้เอามั้ย เค้าอาจจะช่วยมึงได้นะ อะไรมันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะเว้ย...จะลองดูมั้ย"

     

    "กูก็ว่าดีเหมือนกัน"

     

    ...................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×