คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : I Think I...
"ไม่ได้จริงๆหรอฮันคยอง"
"ครับ...งานที่นี่ยุ่งมาก คงกลับไปตอนนี้ไม่ได้จริงๆ"
"แต่ทงเฮโดนรถชนนะ ไม่ใช่แค่หกล้ม!....โทรมาหน่อยไม่ได้เลยหรอ แค่แป๊บเดียวก็ได้"
"ผมไม่ใช่คุณคิบอมนะครับฮยอกแจ ผมทำอะไรเรื่องนั้นไม่ได้"
"หรอ...อืม...ก็จริงนะ ขอโทษนะฮันคยอง"
"แต่ผมจะพยายามให้นะครับ"
"อืม...ขอบคุณนะ"
ฮยอกแจกดวางสายก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงของตนตามเดิม เขาถอนหายใจออกมาเบาๆพลางเหลือบมองผ่านประตูกระจถที่เชื่อมต่ออยู่กับระเบียงที่เขากำลังยืนอยู่ไปยังเตียงคนไข้ที่มีร่างบอบบางของทงเฮนอนหลับสนิทอยู่....ถ้าเป็นเขาจะรู้สึกยังไงนะ นอนมีสายน้ำเกลือระโยงระยางพร้อมทั้งผ้าพันแผลพันอยู่กว่าค่อนตัวมาถึงสามวันโดยไร้เงาของคนที่ต้องการมากที่สุด...คงเศร้ามากๆเป็นแน่
ทำไมฮยอกแจจะไม่รู้ล่ะว่าทงเฮกำลังคอยใครอยู่...นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยนั่นบอกทุกอย่างแก่เขาจนหมดสิ้น และนับวันมันก็ยิ่งหม่นหมองเศร้าสร้อยลงเรื่อยๆเมื่อมันยังคงไร้วี่แววของคนที่ถูกต้องการ...ซึ่งฮยอกแจก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้ยังไง การโทรไปคาดคั้นกับฮันคยองก็ดูเหมือนจะทำให้ทุกอย่างดูเลวร้ายลงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ร่างบางเลือนประตูกระจกเปิดออก แทรกตัวผ่านเข้าไปแล้วจึงปิดมันลงอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้คนป่วยได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
ก๊อกๆ
ประตูห้องพักถูกเคาะอย่างแผ่วเบาก่อนจะถูกผลักเปิดเข้ามา และใบหน้าของชายหนุ่มผู้ที่มาเยี่ยมเยียนก็ทำให้ฮยอกแจคลี่ยิ้มออกมาได้เล็กน้อย ชองยุนโฮเดินเข้ามาวางช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ลงบนโต๊ะข้างเตียง เคียงข้างกับดอกคาเนชั่นของเมื่อวานที่ถูกจัดลงแจกันใบใหญ่ที่พี่พยาบาลสาวอุตส่าห์หามาให้
"เพิ่งหลับหรอ"
"ครับ เพิ่งกินยาแล้วหลับไปเมื่อกี้เอง...อ่าว...พี่แจจุง...สบายดีแล้วหรอครับ" ฮยอกแจหันไปเอ่ยทักพี่ชายคนสวยที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องพร้อมด้วยกระเช้าผลไม้ในมือข้างหนึ่ง แจจุงยกแขนข้างซ้ายที่มีเฝือกอ่อนหุ้มไว้ขึ้นมาโบกไปมาเหมือนจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากพลางเดินมาวางกระเช้าผลไม้ใบใหญ่ไว้บนเค้าน์เตอร์เล็กๆข้างตู้เย็น...ไม่แม้แต่จะชายตามองร่างสูงของอีกคนที่ยืนจ้องมองเขาตั้งแต่ก้าวเข้ามาแม้แต่หางตา
"พี่สองคนมาด้วยกันหรอครับ"
"เปล่า ฉันกับชองยุนโฮต้องตัวติดกันตลอดรึไง เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"
ชื่อที่ถูกเรียกออกมาด้วยน้ำเสียงห่างเหินทำให้ฮยอกแจรู้สึกถึงความผิดปกติระหว่างเพื่อนสนิทสองคนตรงหน้าทันที....ต้องมีอะไรเกิดขึ้นวันนั้นแน่ๆ เขามั่นใจ ท่าทางของพี่ชายทั้งสองคนดูแปลกๆมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว
"แจจุง..."
"ทงเฮเป็นยังไงบ้าง" แจจุงพูดขัดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนๆนั่นเอ่ยเรียกชื่อของตน มือบางอันสั่นเทายังคงขยับจัดการผลไม้ในตระกร้าคล้ายไม่คิดจะใส่ใจไม่ว่าสิ่งที่จะถูกเอ่ยออกมานั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที
"ดีขึ้นเรื่อยๆน่ะครับ หมอบอกว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงออกได้อาทิตย์หน้า"
"ดีแล้ว ขอโทษนะที่ฉันเพิ่งมาเยี่ยม เรื่องที่ร้านยุ่งมาก"
ถ้อยคำที่ถูกเอ่ยออกมาเรียบๆจากปากคนหน้าหวานทำเอาอีกคนที่ยังคงยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้สะอึกทันทีรากับถูกประชดเสียอย่างนั้น...ซึ่งฮยอกแจก็เดาว่าพี่แจจุงต้องตั้งใจประชดแน่ๆ เขาเหลือบตาไปมองคนที่มาที่นี่ทุกวันอย่างยุนโฮเล็กน้อย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมาเพื่อไม่ให้บรรยากาศเลวร้ายมากลงไปกว่านี้
ยุนโฮอ้าปากคล้ายอยากจะพูดอะไรซักอย่าง หากแต่เขากลับไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยากจะพูดอะไรกันแน่ ชายหนุ่มจึงหมุนตัวไปลากเก้าอี้ตัวเล็กมาใกล้ๆก่อนจะทรุดตัวนั่งลง....นั่งลง ณ ที่ประจำของเขาตลอดสามวันที่ผ่านมา....นั่งอยู่เคียงข้างเตียงคนไข้และเฝ้ามองคนป่วยผู้กำลังหลับใหลด้วยแววตาแสนอ่อนโยนที่ดูก็รู้ว่า...รักคนที่กำลังถูกจ้องมองมากมายขนาดไหน...ทิ้งอีกคนที่กำลังแอบเหลือบมองไว้ให้จมอยู่กับน้ำตาปริ่มขอบตาอยู่เพียงลำพังโดยไม่คิดจะสนใจอะไรมากไปกว่านี้
ชองยุนโฮคนโง่
ชองยุนโฮคนบ้า
อย่างน้อย...ฉันก็เพื่อนสนิทนายนะ
อย่างน้อย...ฉันก็รู้จักนายมานานกว่าใครนะ
ช่วยสนใจ...ฉันหน่อยไม่ได้รึไงกันชองยุนโฮ
แจจุงเม้นริมฝีปาก สูดจมูกหนักๆเสียหลายทีก่อนจะกระแอมไอเพื่อคลายลำคอที่กำลังตีบตันของตน...เขาไม่น่ามาที่นี่เลยจริงๆ เพราะเอาเข้าจริงๆ...เขาก็ทนมันไม่ไหวอยู่ดี
"ฉันกลับแล้วนะฮยอกแจ ทิ้งร้านมานานแล้ว"
"แต่พี่แจจุงเพิ่งมาเองนะครับ จะกลับแล้วหรอ ไม่อยู่รอคุยกับทงเฮหน่อยหรอครับ"
"ใช่...นายจะรีบกลับไปไหนกันแจจุง เดี๋ยกลับกับฉันก็ได้" ยุนโฮหันมาเอ่ยบ้าง ซึ่งเขาก็ได้แววตาแข็งกร้าวเย็นชาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาเป็นการตอบแทนความห่วงใยนั้น...หากแต่ชองยุนโฮผู้ซึ่งความสนใจเดียวของเขาอยู่ที่ร่างบางที่กำลังหลับใหลก็ไม่ได้ทันสังเกตเห็นดวงตาโตที่กำลังแตกร้าวของเพื่อนสนิทของตน
"นายไม่ต้องมายุ่งกับฉันชองยุนโฮ ฉันไม่ได้พูดกับนาย...ไม่ต้องมายุ่ง!" ร่างบางหันไปตวาดกลับอย่างโกรธเคืองจนทำให้คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ถึงกับชะงักลมหายใจและทำตาโตอย่างคาดไม่ถึง แจจุงหันไปขยับรอยยิ้มฝืนๆให้รุ่นน้องที่ยืนอึ้งอยู่ที่อีกมุมห้องพลางโบกมือลา
"ฉันไปนะฮยอกแจ ฝากบอกทงเฮด้วยว่าว่างๆฉันจะมาเยี่ยม"
พูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป โดยมีร่างสูงๆของชองยุนโฮทำท่าจะขยับลุกตาม หากแต่ร่างบอบบางที่ขยับตัวขยุกขยิกอยู่บนเตียงก็ดึงความสนใจของเขากลับไป...และทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจที่จะวิ่งตามออกไปลงในทันที
........................................................
"ทงเฮกินข้าวนะ"
"พี่ยุนโฮไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวผมกินเอง
"ได้ไงล่ะ นายไม่สบายอยู่นะ...อย่าดื้อสิ"
น้ำเสียงที่กึ่งๆจะดุทำให้ทงเฮยอมอ้าปากรับข้าวต้มอุ่นๆจากช้อนในมือของยุนโฮอย่างไร้ทางเลือก อาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆทำให้เขาใช้เวลาพักผ่อนในช่วงกลางวันน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้ว่าพี่ชายตัวโตของเขาคนนี้มาเยี่ยมเขาบ่อยขนาดไหน...ผิดกับพี่ชายหน้าหวานอย่างคิมแจจุงที่ฮยอกแจเล่าให้ฟังว่าเคยมาเยี่ยมเขาครั้งหนึ่ง และก็ไม่ได้มาอีกเลยตลอดทั้งอาทิตย์
ส่วนอีกคนน่ะหรอ...ใบน้าหวานหม่นลงมาทันทีที่คิดถึงตรงนี้ หัวใจพลันปวดหนึบๆโดยไร้สาเหตุเช่นเดียวกับลำคอที่เจ็บแสบ...เขากำลังหวังอะไรอยู่นะ...ตุ๊กตาตัวนี้กำลังหวังอะไรกันนะ...เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย...ความรู้สึกของคนที่กำลังคาดหวังสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดถึงด้วยซ้ำ
"ทงเฮ?...กินอีกสิทงเฮ"
"ไม่ล่ะครับ ผมอิ่มแล้ว....ฮยอกแจ ช่วยผมหน่อยสิ ผมอยากเข้าห้องน้ำ"
คนที่ถูกร้องหารีบวิ่งเข้ามาช่วยประคองร่างบอบบางของทงเฮให้ลุกขึ้นโดยมียุนโฮคอยช่วยด้วยอีกแรงก่อนจะเป็นฝ่ายให้ฮยอกแจพาทงเฮเดินไปยังห้องน้ำเพื่อตัวเองจะได้หันมาจัดการเก็บอาหารที่ถูกทานเหลือ
"ไหวมั้ยครับทงเฮ"
"ไหวสิ...ใกล้ๆนิดเดียวเอง" ทงเฮตอบยิ้มๆ มือข้างหนึ่งกำจับเสาน้ำเกลือส่วนมืออีกข้างหนึ่งนั้นยึดจับท่อนแขนบอบบางไม่แพ้กันของฮยอกแจเอาไว้เป็นเครื่องพยุงตัว
"คุณคิบอมติดงานอยู่ที่เชจู ทงเฮอย่าคิดมากเลยนะครับ"
ถ้อยคำที่ถูกเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาทำให้ฝีเท้าของทงเฮชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเดินต่อไปอย่างปกติพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆบนเรียวปาก
"ผมไม่ได้คิดอะไรมากซักหน่อย อีกอย่างนะ...ผมไม่ได้สำคัญถึงขนาดให้เขาต้องทิ้งงานกลับมาเพื่อมาดูแลหรอก...ผมไม่ใช่คนสำคัญของคิบอมหรอกนะ" ร่างบางกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบพร้อมด้วยรอยยิ้มบางที่เขาใช้อยู่เป็นนิจก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้ฮยอกแจยืนดึงทึ้งผมของตัวเองคอยอยู่ด้านนอก...ไอ้ลีฮยอกแจปากพล่อย!...แกทำให้ทงเฮเศร้าหนักกว่าเดิมอีก!!
"นี่ฮยอกแจ"
"ครับพี่ยุนโฮ"
ฮยอกแจสะดุ้งเฮือกขึ้นมาก่อนจะหันไปหาคนเรียกที่กำลังเดินไปเปิดทีวี
"ทงเฮเค้าไม่มีญาติที่อื่นเลยหรอ พี่ไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมเขาซักคน"
"ผมไม่ทราบครับ บางทีอาจจะยังไม่รู้ข่าวก็ได้"
"อ่าว...นายพูดงี้ได้ไง!...นายเพื่อนเค้านะ"
"ก็ผม...เอ้ย!...ตายห่าแล้ว!"
คำสบถหยาบคายที่หลุดออกมากลางประโยคของฮยอกแจทำให้ยุนโฮผู้ที่กำลังเป็นคู่สนทนาสะดุ้งขึ้นมาเบาๆทันทีก่อนเขาจะขมวดคิ้วเขม่นมองรุ่นน้องด้วยสายตาตะขิดตะขวงใจ
"อะไรของนายฮยอกแจ"
"ปะ...เปล่าครับ แค่..."
"แค่?"
"มีอะไรกันหรอฮยอกแจ"
"ว้ากกก!"
คนที่จู่ๆก็โผล่ออกมาจากประตูห้องน้ำทำเอาฮยอกแจร้องออกมาเสียงหลงก่อนคนตกใจจะทำท่ามีพิรุธเต็มที่ด้วยการขยับตัวยึกยักไปมาราวกับกำลังบังอะไรซักอย่าง หากแต่มันก็ไม่ได้ช่วยบังเสียงที่ดังมาจากสิ่งที่เขากำลังปิดบังอยู่ได้เลย
"นี่คือการถ่ายทอดสดจากเกาะเชจูนะคะ ณ โรงแรมH อันเป็นที่ใช้จัดประชุมประจำปีของบริษัทในเครือคิมกรุ๊ปค่ะ...."
เสียงหวานๆของผู้สื่อข่าวที่ดังมาจากในทีวีทำให้ทงเฮชะงักในทันทีก่อนแขนบอบบางจะดันร่างบางๆของฮยอกแจออกให้พ้นทางเพื่อจะได้เห็นภาพในทีวีได้ชัดตา
ภาพของคิมคิบอมปรากฏอยู่บนจอทีวี...ใบหน้าเคร่งขรึมและอยู่ในชุดสูทสีดำเหมือนอย่างเคย...หล่อเหลาร้ายกาจดังเช่นปกติ ชายหนุ่มโดนรายล้อมด้วยนักข่าวมากมายที่ล้วนแต่ถามคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปของบริษัทของเขา...แต่คำถามหนึ่งก็ทำให้ลมหายใจของทงเฮถึงกับชะงัก
"ผู้หญิงที่เป็นคู่ควงของคุณคิบอมในงานเลี้ยงเมื่อคืนเป็นใครคะ เป็นคนพิเศษรึเปล่า"
เลือดในกายของทงเฮพลันลดอุณหภูมิเย็นเฉียบลงทันทีที่สิ้นคำถามของผู้สื่อข่าวหญิงคนนั้นราวกับเป็นคนถูกถามเสียเอง มือบางกำจับเสาน้ำเกลือแน่นจนชื้นเหงื่อ ดวงตาจ้องนิ่งไปยังดวงตาคมกล้าของคนในทีวี...สบตากับอีกฝ่ายแน่นิ่งคล้ายกำลังคาดหวังคำตอบ
"เจสสิก้าน่ะหรอครับ...ก็ไม่รู้สิครับ แต่เราวางแผนจะพักอยู่ที่นี่ต่อนะครับ ผมไม่มีอะไรต้องรีบกลับอยู่แล้ว"
โครม!
"ทงเฮ!!" ฮยอกแจและยุนโฮประสานเสียงร้องเรียกทันทีเมื่อร่างบอบบางของทงเฮทรุดล้มลงไปกองอยู่บนพื้นกระเบื้อง ฮยอกแจรีบปราดเข้าไปพยุงทงเฮให้ลุกขึ้น เช่นเดียวกับยุนโฮที่รีบวิ่งมาช่วยพยุงอีกข้าง
"ผมไม่เป็นไร แค่หน้ามืดนิดหน่อย" ทงเฮปฏิเสธการช่วยเหลือด้วยรอยยิ้มจางๆบนเรียวปากเหมือนอย่างเคย แต่กระนั้นเขาก็ถูกชายหนุ่มทั้งสองคนพยุงตัวไปที่เตียงอยู่ดี
"เดี๋ยวฉันไปตามหมอให้นะ" รุ่นพี่ร่างสูงว่าก่อนจะหมุนตัววิ่งหายออกจากห้องไปก่อนที่ทงเฮจะรั้งไว้ได้ทัน
"ทงเฮนอนพักดีกว่านะ" ฮยอกแจกล่าวพลางเดินไปปิดทีวีแล้วจึงเดินกลับมาจัดการปรับเตียงและห่มผ้าเพื่อให้คนป่วยได้พักผ่อน ทงเฮขยับรอยยิ้มขอบคุณไปให้ก่อนจะกระชับผ้าห่มเข้าแนบตัวและหลับตาลง
ลีทงเฮอย่ารู้สึกแบบนี้สิ
ลีทงเฮห้ามรู้สึกแบบนี้สิ
อย่าผูกพันธ์กับคิมคิบอมมากเกินไป
อย่ารู้สึกอะไรกับคำพูดของคิมคิบอมแม้เพียงคำพูดเดียว
เพราะเขาไม่มีสิทธ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น...ไม่มีสิทธ์แม้แค่จะอ้อนวอนขอความห่วงใย
ตุ๊กตาไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึก...
ตุ๊กตาไม่จำเป็นต้องมีหัวใจ...
แล้วทำไม....
หัวใจของลีงเฮถึงเจ็บขนาดนี้ล่ะ
คิมคิบอมไม่มีทางมองลีทงเฮมากไปกว่าตุ๊กตาที่ฉีกขาดก็ซ่อม....ที่คนอื่นอยากได้ก็ยกให้เมื่อยามหมดคุณค่า....ที่เบื่อก็โยนทิ้ง...
ไม่มีความจำเป็นต้องสนใจมากไปกว่านี้...
ไม่มีเลย!
...................................................
"รั้งไว้ได้มั้ย"
"เจสสิก้ากำลังทำอยู่ แกกำลังทำอะไรไม่ดีอยู่รึเปล่าฮงกี"
"เปล่าซักหน่อย...ตอนแรกก็กะจะทำอยู่แต่มีพลเมืองดีมาทำหน้าที่แทนซะนี่"
ฮงกียิ้มกริ่มพลางลากปลายนิ้วลงบนของตะกร้าของเยี่ยมไข้ที่วางอยู่ข้างกาย คนที่ขับรถชนทงเฮไม่ใช่เขา...ก็เกือบแล้วล่ะ...แต่มีไอ้ขี้เมาจากไหนก็ไม่รู้มาทำแทนเขาเสียก่อน...สบายเขาไป!
เด็กหนุ่มคุยโทรศัพท์กับพี่ชายอีกเพียงไม่กี่คำก็วางสาย เขาเหยียดยิ้มพลางหยิบตะกร้าของเยี่ยมไข้และลุกขึ้น เดินตรงไปยังห้องพักคนไข้ที่เขาได้หมายเลขมาจากพยาบาลตรงเค้าน์เตอร์ด้านหน้า...ห้องพักของคนไข้ที่ชื่อลีทงเฮ
ก๊อกๆ
ฮงกีเคาะประตูเบาๆพอเป็นมารยาทก่อนจะผลักเปิดเข้าไปและทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปยืนด้านใน สายตาของทุกคนในห้องก็ตวัดขัวบมามองเขาเป็นตาเดียวทันทีราวกับเขาไม่ควรจะก้าวเข้ามา
"สวัสดีครับทงเฮ พี่ยุนโฮบอกผมว่าคุณถูกรถชนก็เลยมาเยี่ยม"
สรรพนามที่ถูกเรียกอย่างสนิทสนมเรียกเสียงแค่นขึ้นจมูกเหมือนอยากจะดูถูกได้เบาๆจากคนหน้าสวยที่กำลังปอกแอ๊ปเปิ้ลอยู่ที่เค้าน์เตอร์เล็กๆ ส่วนพี่ยุนโฮที่ถูกกล่าวอ้างและกำลังถูกโกรธโดยไม่รู้ตัว(อีกรอบ)ก็ได้แต่ทำหน้าเหลอหลาเหมือนยังคงสงสัยว่าเขาไปบอกเอาตอนไหน แต่ไม่นานเขาก็ร้องอ้อออกมา
"อ้าใช่...ฮงกีถามหานายวันก่อนน่ะทงเฮ พี่ก็เลยบอกไป"
"อ่า...ครับ"
ทงเฮยิ้มบางๆพลางโค้งตัวลงเล็กน้อยเป็นการทักทายก่อนจะยื่นมือไปรับตะกร้าของเยี่ยมเอาไว้แบบพอเป็นพิธี แล้วจึงปล่อยให้ฮยอกแจเอามันไปวางไว้บนโต๊ะ
"ทงเฮเป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นรึยังครับ"
"ครับ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ"
"แล้วนี่...แฟนไม่มาเยี่ยมหรอครับ" คำถามที่ถูกถามออกมาทำเอาทงเฮหน้าเจื่อนลงทันที หากแต่เพียงไม่นานริมฝีปากบางก็บิดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนๆตามเดิม...ลีทงเฮคนนี้ถนัดนักล่ะกับการฝืนมีรอยยิ้มไว้บนใบหน้าไม่ว่าตอนนั้นจะรู้สึกยังไง
"ผมยังไม่มีแฟนหรอกนะครับ"
"หรอ...น่าเสียดายจัง ทงเฮออกจะน่ารักขนาดนี้...อ่า...ผมต้องไปแล้วล่ะ"
ฮงกีแสร้งยกนาฬิกาข้อมือเรือนสวยขึ้นดูก่อนจะเอ่ยลา เด็กหนุ่มบอกลาทุกคนพร้อมกับโค้งให้แล้วจึงเดินออกจากห้องไป แต่ระเบิดที่เขานำมาทิ้งไว้ก็ไม่ได้จางหายไปเสียทีเดียว ฮยอกแจห่อไหล่ขณะช่วยแจจุงปอกแอ๊ปเปิ้ล...แค่พี่แจจุงมาเยี่ยมทงเฮพร้อมกับพี่ยุนโฮเป็นครั้งที่สองบรรยากาศในห้องก็อึมครึมจนมันยากที่จะหายใจอยู่แล้ว...นี่คนป่วยยังซึมไปแบบนี้อีก
"ชองยุนโฮ...เหอะ!...ไอ้คนเฮงซวย"
เสียงพึมพำของร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆทำเอาฮยอกแจต้องขยับตัวถอยห่างออกมา เพราะกลัวเจ้ามีดเล่มเล็กในมือของแจจุงจะลอยมาเฉาะเอากลางหัวของเขาเสียก่อน ถึงแม้คิมแจจุงจะกระดูกแขนร้าวจนต้องใส่เฝือกอ่อน หากแต่มันก็ไม่ได้บันทอนความคล่องแคล่วในการใช้มีดปอกผลไม้ของเขาได้เลย...ฮยอกแจอึ้งในความสามารถนี้จริงๆ
"พี่แจจุงครับ..." ฮยอกแจเรียกเสียงอ่อยๆ หากแต่เจ้าของชื่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจมากนัก ชายหนุ่มร่างบางนามคิมแจจุงยังคงจัดการใช้มีดปอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลที่ถูกถืออยู่ในมือข้างที่ใส่เฝือกต่อไป ซึ่งเขาก็ไม่อยากที่จะเดาว่าเจ้าแอ๊ปเปิ้ลผมน้อยนั้นกำลังรับเคราะห์แทนหัวหล่อๆของใคร
"ชองยุนโฮคนเฮงซวย...ไอ้บ้าเอ๊ย!"
แจจุงโยนของในมือลงบนเค้าน์เตอร์โครมใหญ่ก่อนจะกระแทกเท้าโครมๆออกจากห้องไป
"แจจุง...เฮ้ย แจจุง!..."
ในที่สุดชองยุนโฮก็รู้ตัวเสียทีว่ากำลังโดนโกรธ ชายหนุ่มร่างสูงร้องเรียกคนที่ก้าวเดินฉับๆออกไป...ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว
ฮยอกแจมองตามเพื่อนสนิทที่งอนกันยังกับแฟนพลางส่ายหน้าเบาๆก่อนจะยกจานแอ๊ปเปิ้ลที่แจจุงปอกเสร็จแล้วส่วนหนึ่งมาให้คนป่วยที่เริ่มมุดตัวกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง
"ทงเฮกินแอ๊ปเปิ้ลมั้ย หวานมากเลยนะ"
"ไม่เอา...ผมไม่อยากกิน"
"เป็นอะไรรึเปล่าครับทงเฮ"
"เปล่าซักหน่อย ก็แค่อยากนอนพักน่ะ" คนป่วยตอบกลับพลางกระชับผ้าห่มให้ขึ้นมายังปลายคางแล้วจึงขดตัวนอนตะแคงหันหลังให้...ซึ่งลีฮยอกแจก็ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ที่ริมเตียงโดยไม่สามารถเอ่ยคำพูดใดๆ
.....................................................
บัลเลเลเล~....บัลเลเลเล~
ทงเฮงัวเงียสะดุ้งตื่นขึ้นมาพลางควานหาโทรศัพท์มือถือของตนที่กำลังกรีดร้องจะเป็นจะตายอย่างไม่ยอมแพ้อยู่ตรงไหนซักแห่งบนโต๊ะข้างเตียง มือบางป่ายสะเปะสะปะไปทั่วจนในที่สุดก็คว้าตัวต้นเสียงได้ ดวงตาโตหยีมองหน้าจอที่เรืองแสงอยู่ในความมืด และเบอร์ที่ไม่คุ้นตาก็ทำให้เขาต้องกดรับอย่างจำใจ...เที่ยงคืนกว่าแล้ว ใครมันโทรมานะ รู้อย่างนี้ปิดเครื่องไว้ซะก็ดี
"สวัสดีครับ"
"ทงเฮ" เสียงนุ่มทุ้มที่เขาควรจะคุ้นเคยทำให้ดวงตาสีท้องฟ้าพลันเบิกกว้างขึ้นมาทันที มือเล็กสั่นไหวจนต้องใช้ทั้งสองมือประคองเจ้าโทรศัพท์เครื่องบางของตนเอาไว้แนบหู ร่างบางค่อยๆชันตัวขึ้นนั่งบนเตียงอย่างเชื่องช้า
"คิ...คิบอม"
เสียงที่เอ่ยโต้ตอบกลับไปของเขานั้นช่างแผ่วเบา...และอ่อนแรงราวกับใกล้จะร้องไห้เต็มทน ทงเฮยอมรับว่าเสียงที่ดังมาตามสายโทรศัพท์ทำให้หัวใจของเขาพองโต...แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันเจ็บปวดจนช่องท้องบิดเกร็ง
"เปิดทีวีสิ"
"ครับ?"
"ไปเปิดทีวี"
ร่างบางค่อยๆขยับลงมาจากเตียงเพื่อเดินไปเปิดทีวีตามที่ถูกสั่งก่อนจะถอยกลับมานั่งอยู่บนเตียงตามเดิม
"เปลี่ยนช่อง..." ปลายสายบอกหมายเลขช่อง ซึ่งทงเฮก็ทำตามที่ถูกสั่งอย่างว่าง่ายยิ่งกว่าลูกแมวเชื่องๆ...และภาพที่ปรากฏอยู่ในจอแก้วก็ทำให้ดวงตาคู่สวยต้องขยับเบิกกว้างมากกว่าเก่า
"คิบอม..."
เจ้าของชื่อยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นเป็นรอยยิ้มพลางยกมือขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนอยากจะทักทาย
"ว่าไง...เห็นฉันมั้ย ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไรเลยนะที่มีแต่เธอคนเดียวที่ได้เห็นฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้เห็นเธอน่ะทงเฮ"
ดวงตาสีฟ้าจ้องนิ่งไปยังจอทีวี...มองไปยังมุมหนึ่งของจอภาพ...เป็นมุมเล็กๆที่มีร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำหรูหราอันคุ้นตายืนอยู่และกำลังส่งรอยยิ้มบางๆผ่านกล้องมาให้เขา
หัวข้อที่ปรากฏอยู่ด้านล่างบอกว่านี่เป็นการถ่ายทอดสดตรงจากเกาะเชจู เป็นงานเลี้ยงของส่วนหนึ่งในการประชุมผู้บริหารประจำปีของบริษัทในเครือคิมกรุ๊ปโดยมีประธานาธิบดีมาเข้าร่วมด้วย ตรงกลางของภาพจึงเป็นภาพของประธานาธิบดีคนสำคัญที่กำลังถูกรุมล้อมด้วยผู้คนมากมาย...หากแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทงเฮสนใจ คนที่เขาสนใจคือชายหนุ่มที่กำลังเดินตามหน้ากล้องห่างๆต่างหาก
"เป็นยังไงบ้าง...รถชนน่ะ เจ็บหนักรึเปล่า"
"เปล่าครับ แค่ซี่โครงหักไม่กี่ซี่" ทงเฮเอ่ยตอบ...ไม่ละสายตาไปจากคนในจอทีวีแม้แต่เสี้ยงวินาที...อยากจะยื่นมือออกไปสัมผัส หากแต่เขาก็ทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใช้สองมืออันสั่นเทาประคองโทรศัพท์ไว้แนบหูและพยายามหยุดหัวใจที่กำลังเต้มผิดจังหวะของตน
"ก็หนักอยู่นะ"
"ครับ...ดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกหรอครับ"
"เดี๋ยวงานก็เลิกแล้ว ประธานาธิบดีกำลังจะกลับแล้ว"
"..."
"..."
ดวงตาคมกล้าของคิมคิบอมจ้องตรงมายังเลนส์กล้องคล้ายกลับรู้ว่าคนที่นั่งอยู่อีกด้านของทีวีนั้นกำลังจ้องตาของตนตอบเช่นกัน...นานหลายนาทีที่ไร้คำพูดใดๆระหว่างคนทั้งสองคน
"ไม่โกรธหรอที่ฉันไม่ไปเยี่ยม"
"คิบอมต้องทำงานนี่ครับ ผมจะไปโกรธได้ยังไง"
ทงเฮกลืนบางอย่างที่อัดแน่นอนู่เต็มลำคอลงเพื่องเปล่งเสียงพูดออกมา แต่แววตาที่ใครต่อใครต่างหลงใหลกลับวูบไหว...ไม่สามารถโกหกได้เช่นน้ำเสียง...จึงเป็นโชคดีที่คิมคิบอมไม่สามารถจ้องมองผ่านเลนส์กล้องมาได้
ทำตัวแง่งอนเรียกร้องขอการเอาใจมันอาจจะทำให้คิมคิบอมรำคาญ...ทำให้เขาถูกเบื่อเร็วเกินไป เพราะอย่างนั้น...ลีทงเฮยอมโกหกดีกว่า...ยอมหลอกตัวเองว่าไม่ต้องการความห่วงใยใดๆมากเกินไปกว่าที่คิมคิบอมจะให้ดีกว่า...ยอมอดทนกับความรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าเพื่อต่อเวลาในการอยู่แบบนี้ให้นานออกไปอีกซักหน่อยก็ยังดี
ทงเฮฝืนคลี่ยิ้มไปให้ปลายสายที่กำลังยืนจ้องหน้าเขานิ่งเหมือนกำลังจับผิดบางอย่าง
"ฉันต้องอยู่ที่นี่อีกนานเลยนะ"
"ครับ...ผมทราบแล้ว คุณจะอยู่ที่เกาะเชจูต่อกับคุณเจสสิก้า"
ยิ่งพูด...เสียงหวานของทงเฮก็ยิ่งแผ่วเบา...เช่นเดียวกับหัวใจที่อ่อนแรงลงทุกที
"ขอให้สนุกนะครับ"
"ใครบอกเธอแบบนั้น" คิบอมย้อนถามเสียงเข้มพร้อมด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
"คิบอมพูดเอง...เมื่อตอนเย็น"
คิบอมขยับตัวไปมาพลางเปลี่ยนมือที่ถือโทรศัพท์ พอดีกับที่ฮันคยองเดินเข้ามากระซิบกระซาบอยู่ที่ริมหูของเขาแล้วจึงเดินจากไป...ปล่อยให้เขายืนอยู่เพียงลำพังตามเดิม หากแต่ด้วยท่าทางที่ดูหงุดหงิดขึ้นมา
"ทงเฮฟังฉันนะ"
"ครับ"
"เธอจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร"
"ประมาณอาทิตย์หน้าครับ"
"ดี...ฉันจะให้ฮันคยองไปพาเธอกับฮยอกแจมาที่นี่ ตกลงมั้ย"
"คะ...ครับ" ทงเฮตอบรับกลับไปด้วยท่าทางลังเลเหมือนจะยังไม่แน่ใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องทำแบบนั้น และทันทีที่เขาเอ่ยปากตกลงกลับไป ภาพในจอทีวีก็ตัดกลับไปเป็นใบหน้าของผู้รายงานข่าวในห้องส่ง...ทำให้เขาอดเห็นสีหน้าของคิมคิบอมยามที่เอ่ยถ้อยคำต่อมาไปอย่างน่าเสียดาย
"แค่ไม่กี่วัน...ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังคิดถึงเธอทงเฮ"
...................................................
พลิกโผคับพลิกโผ!!
ทั้งเรื่องของฮงกีและเรื่องของตาบอม^^
อึ้งกันเลยล่ะซี...โดยเฉพาะเรื่องของตาบอมใช่ม้า~...
ตอนนี้หมียุนเรตติ้งตกอย่างแรง อย่าเพิ่งไกรธยุนน้า~....คนมันไม่รุ้นี่ ทำไงได้ล่ะ
แจ้งข่าวร้ายจ้า อาทิตย์หน้าไรเตอร์ไปเข้าค่าย ไม่อัพนะจ๊ะ
ไปแระค่า^^...ขอบคุนทุกคอมเม้นต์นะจ๊ะ
ความคิดเห็น