คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Next to Me [2]
"อ่ะ..."
"จำฉันได้มั้ย คิมยองอุนไง...ที่นายเคยเรียกฉันว่าคังอินน่ะ เราเรียนม.ปลายด้วยกัน จำได้รึเปล่า"
อีทึกชะงักนิ่งๆปอยู่ในอ้อมแขนของคนแปลกหน้า...ชื่อของปาร์คจองซูเหมือนค้อนที่ตีกระหน่ำลงมาใส่หัวของเขา...ทำให้มึนงง และสุดท้ายก็มีน้ำตา
ทำไมมีแต่คนต้องการปาร์คจองซูนะ
ทำไมมีแต่คนเรียกหาปาร์คจองซูนะ
ดวงตาคูาหวานกระพริบถี่ไล่ม่านน้ำตาที่บดบังใบหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่มคนนั้นจนพร่ามัวไปหมดให้หายไปก่อนจะรีบดันตัวเองให้ถอยห่างออกมาจากความแนบชิดที่เกิดขึ้น...คนซื่อบื้อไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนั้นว่าอย่างไร
"ผมม่ะ..."
"นายกลับมาควางจูตั้งแต่เมื่อไน พอเรียนจบนายก็ย้ายไปต่อมหาลัยที่โซล ไม่เห็นติดต่อกลับมาที่นี่บ้างเลย เลี้ยงรุ่นก็ไม่ยอมมา เพื่อนๆคิดถึงนายมากเลยนะ"
ผู้ชายร่างหนาที่บอกว่าตัวเองชื่อคังอินพูดเจื้อยๆโดยไม่คิดจะฟังประโยคที่เขากำลังจะพูดให้จบ มือใหญ่เอื้อมมาคว้าจับสองมือของเขาเอาไว้พร้อมกับเขย่าไปมาอย่างยินดี อีทึกพยายามจะดึงมือของตนออก หากแต่ผู้ชายคนนั้นก็ยึดจับมันเอาไว้แน่นเกินไปจนเขาหลุดออกมาจากการเกาะกุมไม่ได้...เขาก็ไม่เคยหลุดออกมาจากการเกาะกุมของใครได้ทั้งนั้นนั่นล่ะ เทพธิดามองซ้ายขวาลอกแลกเพื่อเรียกหาใครอีกคนให้เขามาช่วย...ลืมคิดไปนิดว่าใครอีกคนไม่ได้อยู่ข้างกายคอยให้เรียกหาตลอดเวลา
"คุณ...ฮันคยอง"
"จองซูว่าไงนะ?...เป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีดมากเลย"
มืออุ่นข้างหนึ่งเอื้อมมาแตะเข้าที่หน้าผากของเขาเบาๆเพื่อวัดอุณหภูมิ แต่สำหรับอีทึก...มันไม่ได้อุ่นเลยสักนิด...ไม่แม้เพียงนิด! ใบหน้าหวานสะบัดหนีสัมผัสนั้น ในขณะเดียวกันก็ดึงมือหลุดออกมาจากการเกาะกุมได้เป็นสำเร็จ ร่างบอบบางตั้งท่าจะหมุนตัวเดินหนีกลับเข้าไปในร้าน หากแต่เขาก็ชนเข้ากับร่างสูงโปร่งของคนที่เพิ่งผลักประตูร้านเปิดออกมาพอดี อีทึกได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางอยู่ในลำคอคล้ายจะเจ็บที่เขาชนเข้าให้เต็มๆลำตัวที่เต็มไปด้วยบาดแผลซ่อนอยู่ เทวทูตหนุ่มยึดจับต้นแขนของเขาเอาไว้ ดวงตาคมสีควันบุหรี่กดมอง
"เป็นอะไร"
"จองซู?"
เสียงของผู้ชายอีกคนที่เอ่ยเรียกชื่อที่เขาคุ้นเคยทำให้ฮันคยองละความสนใจออกมาจากคำตอบของร่างผอมบางที่บัดนี้ขยับมายืนหลบอยู่ด้านหลังของเขาเสียแล้ว ผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นทำหน้างงงัน
"คุณเป็นเพื่อนของจองซูหรอครับ"
"เปล่า"
"ครับ?"
"เรา...รักกัน"
เทพธิดาตัวชาวาบ...ยืนนิ่งหลบอยู่ด้านหลังร่างสูงโปร่งโดยไม่แม้แต่จะชะโงกหน้าออกไปดูแววตาของผู้ชายคนนั้นยามได้ยินประโยคเมื่อครู่ เพราะดวงตาตอนนี้ของเขาแสบร้อนเกินไป...เพราะแก้มของเขากำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาอย่างน่าสมเพช ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น ในขณะที่มือเล็กก็ยกขึ้นมาปาดเช็ดหยดน้ำตาออกจากข้างแก้มของตนลวกๆ
แม้อีทึกจะยืนอยู่ตรงนี้...
คุณก็ยังรักปาร์คจองซูอย่างนั้นหรอ
แล้วจะให้อีทึกทำยังไง
แล้วจะไม่ให้อีทึก...ไม่ร้องไห้ได้ยังไง
ถ้าตลอดมา...ความอบอุ่นทั้งหมดเป็นเพราะปาร์คจองซู
เป็นเพราะคุณทำร้ายเงาของความรักของคุณไม่ได้
อีทึกไม่รู้...ไม่รู้เลยจริงๆ
......................................................................
อีทึกนั่งนิ่ง...เฝ้ามองและรับฟังคนสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับคนที่ไม่ใช่เขา...คนที่มีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่รู้จัก เขาใช้สองมือจับประคองแก้มโกโก้แสนอุ่นของตัวเองเอาไว้ก่อนจะยกแก้วเซรามิคใบสวยมาวางไว้บนหน้าตักคล้ายอยากจะซึมซาบคววามอบอุ่นของมันเข้าสู่ร่างกายอันหนาวเย็นของตน
"หนาวหรอ"
"อืม"
เขาตอบคำถามอันห่วงใยของคนข้างกายไปด้วยเสียงครางในลำคอเบาๆโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาจากแก้วโกโก้บนหน้าตักของตน มือใหญ่แสนอุ่นเอื้อมมากำจับเข้าที่ข้อมือของเขาพลางใช้นิ้วโป้งลูบไปมาที่หลังมือคล้ายอยากจะปลอบให้เขาอดทนอีกนิด แต่อีทึกรู้...มันก็แค่คล้ายเท่านั้นล่ะ
"จองซูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ พูดน้อยลงเยอะเลย"
ชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มขำขันบนเรียวปาก แต่เรื่องขำขันของใครบางคนกลับทำให้ลำคอของเขาเจ็บแสบขึ้นมาเสียอย่างนั้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันนิด...ไล่ความพร่ามัวในดวงตาให้จางหายไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนที่นั่งอยู่จรงข้ามกับตน
"แล้วแต่ก่อน...ผมเป็นยังไงล่ะครับ"
แรงบีบที่ข้อมือหนักขึ้น...หนักจนเจ็บเลยล่ะ ไม่ว่าจะผ่านไปนานสักเท่าไร ปาร์คจองซูก็ยังคงเป็นชื่อต้องห้ามสำหรับเขาสินะ...จับต้อนางฟ้าให้แปดเปื้อนไม่ได้เลยจริงๆ ชายหนุ่มที่ชื่อคังอินคลี่รอยยิ้มมาให้เขาพลางยกแก้วกาแฟของตัวเองขึ้นจิบนิด
"นายพูดเป็นต่อยหอยเลยน่ะสิ หัวเราะคิกๆคักๆได้ตลอดเวลาเลย ชอบแกล้งคนอื่นเค้าไปทั่วอีกต่างหาก คิดว่ามีคำต่อท้ายว่าชอนซาแล้วจะแกล้งชาวบ้านได้แบบนั้นรึไงปาร์คจองซูชอนซา"
คังอินเอื้อมมือมาผลักศีรษะของเขาเบาๆอย่างหยอกเอน แต่คนที่ถูกหยอกเอนกลับไม่มีแม้เพียงรอยยิ้ม อีทึกเสสายตากลับมามองที่แก้วโกโก้ของตนอีกครั้ง และเขาก็เห็นข้อมือของตัวเองแดงเถือกไปหมด ทั้งๆที่เขาไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด...คงเป็นเพราะบางทีตรงอื่นกำลังเจ็บกว่านั้นอยู่ก็เป็นได้ ดวงตาคู่หวานเหลือบมองคนข้างกายของตนนิด และรอยยิ้มอ่อนจางบนเรียวปากหยักที่มอบให้แกาอากาศธาตุอันว่างเปล่าก็ทำให้เขาต้องรีบเบือนสายตาหนีออกมา
อีทึกเหมือนไม่พอใช่มั้ยล่ะ
ไม่มีอะไรที่คุณชอบ...เลยสักอย่างใช่มั้ยล่ะ
"เป็นอะไรไปจองซู พูดความจริงแค่นี้โกรธเลยหรอ"
"พวกเราคงต้องไปแล้ว ขอตัวนะครับ"
เป็นเทวทูตแห่งความตายที่พูดตัดบทขึ้น ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมที่จะคว้าข้อมือเล็กของคนที่นั่งอยู่ข้างกายมากระตุกให้ลุกตามขึ้นมาด้วย เขาโค้งศีรษะให้คังอินที่มีสีหน้างุนงงนิดเป็นเชิงบอกลาแล้วจุงหมุนตัวเดินจากมาอย่างไม่คิดจะอยู่ฟังคำเอ่ยลาจากปากของอีกฝ่ายเลยสักนิด และอีทึกก็ทำได้เพียงแค่ก้าวเท้าตามแรงลากดึงไปอย่างว่าง่าย อากาศยังคงหนาวบาดผิว แต่ความเงียบงันของคนข้างกายกลับทำให้อีทึกหนาวเย็นยิ่งกว่า
"คุณ...โกรธหรอครับ"
"..."
"..."
"อย่าพยายามเป็นเขา"
"..."
"ห้ามทำแบบนั้นอีก"
"..."
"อย่า...ทำให้ฉันเกลียดนายมากไปกว่านี้"
หัวใจน่ะ...แตกสลายได้จริงๆนะ
แล้วจะให้ทำยังไง
แล้วอีทึกควรจะทำยังไง
แล้วอีทึก...จะทำให้คุณรักได้ยังไง
.........................................................................
อีทึกผลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ใครอีกคนบนเตียงที่นอนตะแคงหันหลังให้เขาเช่นกัน...มันไม่มีห้องว่างเหลือแล้ว พวกเขาเลยต้องมานอนเบียดกันอยู่อย่างนี้ เขาชอบที่มันเป็นแบบนี้...รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กันมากเหลือเกินแบบนี้ ซึ่งคงต่างจากคนที่ทำหน้าผิดหวังตอนเจ้าของตึกบอกไม่มีห้องว่างแล้วเป็นแน่...คนที่อยู่ใกล้อีทึกเพียงแค่อากาศกั้นเท่านั้นเอง แค่พลิกตัวหันกลับไปก็คว้ามากอดได้แล้ว
"ทำไมยังไม่นอน"
"..."
"เดี๋ยวก็อาการกำเริบ รีบนอนซะ"
"ผมนึกว่า...คุณนอนไปแล้วเสียอีก"
ฮันคยองไม่โต้ตอบคำใดๆกลับ เทวทูตหนุ่มนิ่งไป...เนิ่นนานจนเขานึกว่าบทสนทนาของพวกเขาคงจะจบลงเพียงเท่านี้ เตียงขยับยวบไหว และเขาก็รู้สึกได้จากหัวไหล่ที่แนบชิดอยู่กับแผ่นหลังของเขาว่าคนข้างกายได้พลิกตัวขึ้้นมานอนหงาย
"นอนซะ พรุ่งนี้เราจะกลับโซล ไม่ว่านายจะไหวหรือไม่ก็ตาม"
เทวทูตหนุ่มเอ่ยขึ้นมาเสียงห้วนก่อนจะขยับกายลุกออกไปจากเตียงอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เขาจะได้พลิกตัวกลับมาเอื้อมมือควว้ารั้งเอาไว้ได้ทัน ดวงตาคู่สวยมองตามร่างสูงของเทวทูตหนุ่มผู้ซึ่งเดินตรงไปคว้าเสื้อโค้ตของตนมาสวมใส่และเดินหายออกไปจากห้อง เสียงปิดประตูทำให้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงสะดุ้งขึ้นมานิด อีทึกเม้มปาก กระชับผ้าห่มเข้าหาตัวมากขึ้นเพื่อทดแทนไออุ่นที่ขาดหายไป เขาขดตัวเข้าหากัน
บอกหน่อยสิ...
บอกหน่อยได้มั้ย
หาทางออก...ให้อีทึกหน่อยได้มั้ย
ก็ตอนนี้น่ะ...ล้มจนเจ็บไปหมดแล้ว
กำลังจะลุกขึ้นอีก...ไม่ไหวแล้ว
..........................................................
ฮันคยองถอนหายใจออกมาเบาๆ อากาศหนาวเย็กเข้าขั้นติดลบทำให้ลมหายใจของเขาลอยค้างเป็นไออยู่ในอากาศ เขาเฝ้ามองมันลอยคว้างอยู่อย่างนั้นจนมันจางหายไปก่อนจะเบือนสายตาของตนออกไปมองเบื้องหน้าอย่างว่างเปล่าตามเดิม ระเบียงของชั้นสองไม่สูงเท่าไร แต่การออกมานั่งอยู่เงียบๆตรงนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสงบไม่แพ้การออกไปยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูงๆ
ร่างกายของเขากำลังโดนทำร้ายด้วยความคิดถึง
ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันเข้ามาทำร้ายซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
และตอนนี้สิ่งเดียวที่พอจะบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
ก็เป็นเพียงยาที่ไม่เยียวยา หากแต่ยืดความทรมานให้ยาวนานออกไป
"บ้าชะมัด"
เทวทูตหนุ่มสบถอกมาพลางขยับขาที่เหยียดยาวกลับเข้ามาขัดสมาธิตามเดิม...เพราะคนๆหนึ่งแทนกันไม่ได้...เพราะความรักแทนที่กันไม่ได้ เขารู้ดี เขาถึงไม่อยากทำแบบนั้น...ไม่อยากเยียวยาตัวเองด้วยคนที่ไม่ใช่
ทั้งๆที่เกือบทำได้แล้วแท้ๆ
แต่เรื่องเมื่อกลางวันก็ทำให้ทุกอย่างพังหมด
เขาอยู่ใกล้สิ่งที่เป็นปาร์คจองซูมากเกินไป
ฮันคยองเอนศีรษะพิงเข้ากับกำแพงด้านหลัง เหม่อสายตาขึ้นไปมองท้องฟ้าที่มีละอองหิมะร่วงหล่นลงมาไม่เลิกไม่ราเสียที เรียวปากหยักขยับคลี่ออกมาเป็นรอยยิ้มนิดเมื่อนึกได้ว่าบางทีปาร์คจองซูอาจกำลังยิ้มให้เขาอยู่บนนั้น เขาล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดมันออกและล้วงหยิบรูปถ่ายใบเก่าออกมาจากช่องด้านใน...ปาร์คจองซูในรูปยังคงส่งรอยยิ้มสดใสมาให้เขาเหมือนเคย แม้สีจะซีดจางไปตามกาลเวลาบ้าง แต่นางฟ้าของเขาก็ยังงดงาม และเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งรอยยิ้มกลับไปให้เหมือนคนโง่
แต่หากมันเป็นเรื่องของปาร์คจองซู ฮันคยองยอมเป็นคนโง่
คนโง่ที่เลิกร้องไห้ เลิกมีน้ำตาเพราะปาร์คจองซูไม่ได้เสียที
"คิดถึงคุณ...จนไม่รู้จะทำยังไงแล้วรู้มั้ยครับ"
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆกับคนในภาพถ่ายพลางไล้ปลายนิ้วไปตามแนวแก้มใสด้วยสัมผัสอันแผ่วเบาราวกับกำลังสัมผัสแก้มเนียนของปาร์คจองซูอยู่จริงๆกระนั้น และมันก็น่าตลกที่ว่าเขายังจำได้ดีว่าผิวแก้มของปาร์คจองซูให้ความรู้สึกยามจับต้องอย่างไร...อ่านบางยิ่งกว่ากลีบดอกไม้ได้มากขนาดไหน
"ผมรักคุณต่อไปได้...ใช่รึเปล่า"
"..."
"เพราะนอกจากคุณ...ผมก็ไม่รู้จะไปรักใครอีก"
"..."
"ถ้าไม่ใช่คุณ...ผมก็รักไม่ได้จริงๆ"
ถ้าท้องฟ้าถล่มลงมาจะเจ็บปวดได้มากขนาดนี้รึเปล่า
ถ้าพื้นที่เหยียบยืนอยู่พังทลายลงจะแตกสลายได้มากขนาดนี้รึเปล่า
ไม่หรอก...ไม่เลย
มันเทียบกันไม่ได้เลยสักนิดจริงๆ
ร่างบอบบางที่ยืนหลบอยู่ที่ด้านข้างของประตูระเบียงซึ่งเปิดแง้มอยู่ชะงักลมหายใจของตนไปนิด...ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร และอีทึกก็พยายามทำตัวเองให้กลวงเปล่าด้วยการไม่รู้สึกอะไรเลย แต่กระบอกตาที่ร้อนผ่ายก็ทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวในเวลาเพียงไม่นาน...อย่าเพิ่งร้องไห้ เขาพร่ำบอกกับตัวเองอย่างนั้น...อย่างเพิ่งมีน้ำตาตอนนี้...ตอนที่ผู้ชายคนนั้นอาจะหันมาเห็นและหัวเราะให้กับความโง่เง่าของเขาที่ชอบคาดหวังอะไรไร้สาระอยู่เรื่อย
ทั้งๆที่บอกตัวเองไปแล้วว่าจะเลิกหวัง
ทั้งๆที่บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่เอา
แต่พอเอาเข้าจริงๆ...
อีทึกก็ยังหวัง...แย่ชะมัดเลย
อีทึกสูดหายใจ กลั้นน้ำตา ก่อนจะขยับกายอย่างเงียบงันเดินกลับไปตามทางเดิมที่เขาเพิ่งเดินผ่านมา แต่สุดท้ายแล้ว...ก้าวจากไปได้เพียงไม่เท่า เทพธิดาผู้ไม่รู้จะทำอย่างไรก็หมุนตัววิ่งกลับไปยังระเบียง แทรกตัวผ่านบานเลื่อนออกไปสัมผัสลมหนาวที่ด้านนอก ยืนสบตากับเทวทูตหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาอันเรียบเฉย
"ออกมาทำไม"
อีทึกไม่ตอบคำถาม ร่างบอบบางทรุดตัวนั่งลงบนตักของคนที่นั่งอยู่บนพื้นก่อนจะวาดแขนโอบกอดลำคอแกร่งเอาไว้แน่น ฝังปลายจมูกเข้าที่ข้างซอกคออุ่นเพื่อสัมผัสกับกลิ่นกายที่คุ้นเคย และเมื่อแขนแข็งแรงของเทวทูตขยับขึ้นมาโอบกอดเอวของเขาเอาไว้ อีทึก็ยิ่งกระชับอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้น...ฝังใบหน้าเข้ากับบ่ากว้างมากขึ้น
ถ้าอีทึกหวังไม่ได้
ถ้าอีทึกรอเท่าไรก็ไม่เป็นผล
ถ้าอย่างนั้นก็ขอเพียงแค่...
"อย่าไปไหน...อยู่กับผม...อย่าหายไปไหน...แค่อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว"
...................................................................
ยังมีใครรออยู่มั้ยเนี่ยยยย
กลับมาอัพเรื่องนี้อีกครั้งพร้อมกับแฟนพันธ์แท้ 31 คนพอดี
แหม...ของเค้าแรงจริงอะไรจริงอ่ะ= =
เรื่องนี้มีแต่คนไม่รู้จะทำยังไงเนอะ อีทึกก็ไม่รู้จะทำยังไง ฮันก็ไม่รู้จะทำยังไง ไรเตอร์ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน= = หายไปชาติเศษ โดนทวงแล้วทวงอีกจนในที่สุดก็เกิดความละอายแก่ใจ(?) ปั่นให้จนเสร็จได้ในที่สุดนะ - -" เรียกได้ว่าหายไปนานมากจนไรเตอร์ต้องมานั่งอ่านใหม่อีกรอบเพื่อเก็บฟีลของเรื่องนะ ไร้ความรับผิดชอบสม่ำเสมอจริงๆ= = ตอนนี้ก็...ไม่มีอะไรมาก หดหู่นิดหน่อย(มั้งนะ) มันก็สืบเนื่องมาจากตอนที่แล้วน่ะค่ะที่อีทึกว่า เขาจะไม่เอาความรักจากฮันแล้ว ขอแค่ให้คุณอยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว ฟีลเดียวกัน แต่ตอนนี้ก็มีความรู้สึกของฮันมาให้เสียใจแทนอีทึกเล่น(?)นิดหน่อย ไรเตอร์คิดว่าฮันพยายามจะทำให้ทั้งตัวเองทั้งอีทึกไม่เจ็บปวดน่ะค่ะโดยการไม่มองอีทึกเป็นปาร์คจองซูอะไรทำนองนั้น ต่อให้คิดถึงมากขนาดไหน ก็จะไม่เอาอีทึกมาแทน จะไม่ใช้อีทึกเพื่อทดแทนความคิดถึงเหล่านั้น อารมณ์ประมาณนี้ มันก็เลยมาจบที่ว่า ต่อให้เหมือนขนาดไหน แต่ถ้าไม่ใช้ปาร์คจองซู เขาก็จะไม่รัก มันก็ยังไม่ใช่ อะไรทำนองนั้น(ฟีลเหมือนเพลงของเยซองน่ะค่ะ ถ้าไม่ใช่เธอ ชั้นก็ไม่ต้องการ คล้ายๆแบบนั้น) อีทึกก็เลยปลงหนักเข้าไปใหญ่(?) ก็ยิ่งย้ำตัวเองเข้าไปใหญ่ว่าไม่เอาความรักแล้วก็ได้ แค่อยู่ข้างๆก็พอ จบความด้วยประการเช่นนี้เองแล ป๋าฮันเป็นคนดีนะเออออ
รอตอนต่อไปที่ไมแน่ใจว่าจะเปนตอนจบรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็เป็นตอนก่อนจบค่ะ^^
คงไม่หายไปนานแบบนี้อีก เพราะตอนนี้ปิดเทอมอยู่ มีเวลาปั่นให้เหลือเฟือ
เกรงว่าถ้าดองไปอีกจนถึงเปิดเทอม กว่าจะได้ลงจนจบคงปีหน้าแหงๆ= =
ความคิดเห็น