ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ:KIHAE] :: Heartquake ภารกิจเขย่าหัวใจนายตัวร้ายให้ลงล๊อค

    ลำดับตอนที่ #40 : 35th Mission :: มาก่อน .. รู้ตัวที่หลัง (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.18K
      14
      29 ม.ค. 54

    ฮยอกแจตื่นเช้า...ออกจากบ้านแต่เช้า...เพื่อตรงไปยังห้องของคนที่หายไปตลอดช่วงปิดเทอมแต่เช้า วันนี้เปิดเทอมแล้ว...ไม่อยู่ก็ให้มันรู้ไปสิ! เขาหงุดหงิด แน่ล่ะ...เขาหงุดหงิดแหงอยู่แล้ว เล่นหายไปไม่บอกตั้งสองอาทิตย์เชียวนะ! ฮยอกแจโกรธมากเชียวล่ะจะบอกให้!...น้อยใจมากด้วย! พี่ฮีชอลก็เอาแต่แดกดันเขาและมองเขาด้วยสายตาที่เขาไม่ชอบใจ(แต่ก็โวยวายอะไรออกไปไม่ได้เพราะพี่ฮีชอลน่ากลัว ขนาดร้องไห้พี่ฮีชอลยังด่าเลยอ่ะ!)...เอาแต่บอกว่าพี่ฮันจะไม่มาตามใจฮยอกแจอีกแล้ว พี่ฮันจะไม่กลับมาหาฮยอกแจคนนี้อีกแล้ว พี่ฮันจะไปตามใจคนอื่นที่ไม่ใช่ฮยอกแจคนนี้อีกแล้ว...ได้ที่ไหนกัน! คิมฮีชอลเป็นใครถึงมาพูดกับฮยอกแจแบบนี้!

    พี่ฮันเป็นของเขานะ!

    และก็แค่ของเขาคนเดียวด้วย!

    ร่างเล็กกระแทกเท้าโครมๆออกมาจากลิฟต์ ตรงไปยังห้องพักที่เขาจำหมายเลขห้องได้ขึ้นใจ...ฮยอกแจพยายามตัดความรู้สึกปวดหน่วงๆในช่องอกออกไปเมื่อพี่ฮีชอลเอาแต่ย้ำว่าพี่ฮันจะไม่กลับมาหาเขาอีกแล้ว มันวูบโหวงจนทำให้เขาหายใจไม่ออก และรู้สึกเหมือนจะร้องไห้...ความรู้สึกที่ว่ามีบางส่วนขาดหายไปทำให้เขาหายใจไม่ออกมากจริงๆ เพราะเขาไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร...เพราะเขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

    ลีฮยอกแจไม่ฉลาดสักหน่อยนี่!

    ก๊อกๆๆๆๆ!!

    "พี่ฮันนน!!"

    มือบางรัวเคาะลงไปบนบานประตูไม้แรงๆพร้อมกับกรีดเสียงตะโกนร้องเรียกลั่นชั้นอย่างไม่คิดจะเกรงใจห้องพักอื่นที่ไม่มีคนที่ชื่อพี่ฮันพักอาศัยอยู่เลยสักนิด แต่ฮยอกแจไม่สนหรอก เดี๋ยวพี่ฮันก็จัดการให้ฮยอกแจเองนั่นล่ะ!

    "พี่ฮันหะ...อ๊ะ!"

    ริมฝีปากบางที่กำลังจะเปล่งเสียงร้องโวยวายออกมาหุบฉับลงทันทีเมื่อคนที่เดินมาเปิดประตูไม่ใช่คนที่เขาต้องการจะพบ รูมเมทตัวสูงของพี่ฮันยืนทำหน้าบึ้งอยู่ที่หน้าประตู กางแขน อิงสะโพกไว้กับกรอบประตู ใช้สัดส่วนของตนบังสายตาของเขาออกจากสภาพภายในห้องเต็มที่...คงเข็ดที่คราวก่อนเขาวิ่งถลาเข้าไปในห้องตอนที่มาหาพี่ฮันโดยไม่รอฟังคำเชิญเป็นแน่

    "มาหาใครแต่เช้าไม่ทราบเจ้าเปี๊ยก"

    "พี่ฮันกลับมารึยัง!"

    ฮยอกแจเชิดหน้าตอบอย่างไม่คิดหวั่นกับดวงตาคมๆและหน้าบึ้งๆของคนตัวสูงเลยสักนิด...พี่ฮันเข้าข้างฮยอกแจอยู่แล้วล่ะนา! ผู้ชายที่เขาจำได้ว่าชื่อโจวมี่(ที่ชอบเล่นกันดั้มด้วย)ถอนหายใจออกมาหนักๆเหมือนจะเบื่อกับคำถามแบบนี้ของเขาเต็มทน รูมเมทตัวสูงของพี่ฮันก้มหน้าลงมามองหน้าเขาตาดุพร้อมกับใช้นิ้วดีดหน้าผากของเขาเข้าให้

    "ถ้าเขาอยากเจอนาย เขาก็โทรหานายเองนั่นล่ะ!"

    ตวัดเสียงใส่หน้าแขกผู้มาเยือนยามเช้าตัวเล็กเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกระแทกประตูปิดใส่หน้าเขาโครมใหญ่อย่างไม่คิดรักษามารยาทกับเขาเลยสักนิด ฮยอกแจเบะปาก ใบหน้าหวานใสเหยเกบึ้งตึง เจ็บก็เจ็บ โกรธก็โกรธ�และแน่ล่ะ...คนอย่างลีฮยอกแจไม่เคยลังเลที่จะปล่อยโฮให้กับทุกอารมณ์ที่ตัวเองกำลังรู้สึกอยู่แล้ว

    "คนบ้า!...ฮึก...ฉันจะบอกให้พี่ฮันไล่นายออกจากห้อง!"

    ตะโกนจนพอใจ(อันที่จริงยังไม่พอหรอก แต่ท่อรั่วทำเอาหมดแรงไปก่อน)อยู่กับประตูไม้สีเข้มแล้วจึงหมุนตัวกระแทกเท้าเดินโครมๆจากไป ปล่อยให้เจ้าของห้องตัวสูงที่ยังยืนแอบฟังอยู่ที่อีกด้านของประตูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจเสียที

    โจวมี่เสยผมยุ่งๆของตนให้พ้นจากดวงตา เลยลงมาลูบหน้าลูบตาเล็กน้อยให้หายเครียดก่อนจะจบท้ายด้วยการตบหน้าผากของตัวเองไปเบาๆ เขาทอดสายตามองรูมเมทของตนที่นอนแผหลาอยู่ที่โซฟาในสภาพกางเกงยีนส์ตัวเดียวด้วยสายตาหนักใจ...อันที่จริงก็ไม่ได้โกหกหรอกนะ แค่บอกความจริงไม่หมดเท่านั้นเอง ก็เขาไม่ได้บอกเจ้าเปี๊ยกไปสักหน่อยว่าพี่ฮันคนดีของเจ้านั่นกลับมาตั้งแต่สามสี่วันก่อนแล้วนี่นา! แต่เขาก็คงไม่ต้องมาทำบาปโดยการตะคอกเจ้าเปี๊ยกนั่นจนมาปล่อยโฮอยู่ที่หน้าห้องให้พระเจ้า(และเจ้าเปี๊ยกนั่นด้วย)เกลียดขี้หน้าแบบนี้หรอก(ท่านว่าทำร้ายลูกลิงลูกไก่ไม่มีทางสู้แถมยังหน้าตาน่ารักแบบนั้นเป็นบาป)

    ถ้าหากว่าบนร่างสูงๆของพี่ฮันคนดีไม่มีผู้หญิงหน้าหมวยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งนอนซบอยู่บนอกน่ะสิ!

    .....................................................................


    ฮยอกแจอารมณ์ไม่ดีเลย...ซองมินรู้สึก สัปดาห์แรกของการเปิดเทอมแท้ๆ แต่ลูกไก่เพื่อนสนิทของเขาไม่ยอมยิ้มเลยจนเขาอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ แม้แต่คยูฮยอน(ที่ไม่รู้จะหาเรื่องตามเขามาตอนเย็นๆแบบนี้ทำไม สอบเสร็จไปแล้วแท้ๆแถมเทอมนี้หมอนั่นก็ไม่มีเลขให้เรียนแล้วด้วย)ก็เป็นห่วงเหมือนกัน ก็เห็นหาเรื่องชวนทะเลาะเท่าไร ไม่เห็นฮยอกแจจะโวยวายกลับสักที

    ฮยอกแจเหมือนคนอกหักเลย

    "ฮยอกแจอ่า เย็นนี้อยากกินขนมมั้ย คยูฮยอนเลี้ยงเลยนะ"

    "ข้าวเปลือกมั้ยล่ะเจ้าลูกไก่ ฉันซื้อให้สองกระสอบเลยอ่ะ"

    "งื้ออ"

    เจ้าลูกไก่ครางงื้อออกมาเบาๆพลางก้มหน้าก้มตาทำหน้าอมโรคเดินต่อไปโดยที่มือก็จับจูงมือที่นิ่มไม่แพ้กันของเพื่อนสนิทคนดีเอาไว้...เขาเคยดีใจแทบบ้าเลยนะที่ซองมินจับมือน่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะดีใจเลยจริงๆ

    "พี่ฮันไม่เห็นโทรมาเลย วันนี้วันพฤหัสแล้วนะ"

    ชื่อพี่ฮันที่ซองมินและคยูฮยอนได้ยินเจ้าลูกไก่เพ้อออกมาไม่ต่ำกว่าวันละสิบรอบทำเอาทั้งสองคนทำหน้าปั้นยากในทันที โดยเฉพาะพ่อคนกว้างขวางรู้จักชาวบ้านเค้าไปทั่วเห็นทุกกิจกรรมที่ชาวบ้านเค้าทำอย่างโจวคยูฮยอนที่มีท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนถึงกับต้องกระแอมไอออกมาเพื่อกลบเกลื่อนอาการมีพิรุธของตน ก็อันที่จริงน่ะ...เขาก็พอจะรู้หรอกว่าทำไมพี่ฮันคนนั้นถึงไม่โทร เห็นมากับตาจะๆเมื่อบ่ายที่โรงอาหารเลย แต่เขาไม่อยากเป็นคนบอกนี่นา

    "พี่ฮันอาจจะยังไม่กลับมาก็ได้นี่ฮยอกแจ พี่เค้าอยู่ปีสามแล้วนะ พี่เค้าต้องฝึกงานซัมเมอร์นี้แล้ว อาจจะต้องทำเรื่องอยู่ที่จีนอีกนานก็ได้ พี่เค้าก็มีเรื่องต้องทำเหมือนกันนะฮยอกแจ"

    "แต่พี่ฮีชอลบอกว่า..."

    พี่ฮันกลับมานานแล้วนี่

    ประโยคที่เหลือถูกกลืนหายไปเมื่อดวงตาของคนพูเผลอเหลือบไปเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยกกล้องตัวใหญ่ขึ้นมาแนบดวงตา...เห็นแค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าคือใคร ถึงจะน่าตกใจที่เป็นแบบนั้น...ที่เขาใส่ใจมากขนาดนั้น แต่กระนั้นแล้ว...เขาก็ยังสามารถจำคนที่'กลับมานานแล้ว'ได้อยู่ดีแม้จะเห็นเพียงแค่นั้น พี่ฮันของเขากำลังยิ้มกว้างขณะกดรัวชัตเตอร์ใส่ผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเลนส์ห่างออกไปและกำลังมีรอยยิ้มเช่นกัน พวกเขาตะโกนคุยกันในภาษาที่ฮยอกแจไม่เข้าใจ...ไม่มีทางเข้าใจ แล้วฮยอกแจควรทำสีหน้าแบบไหนดีนะ...ไม่รู้เลยจริงๆ แต่ตอนนี้น่ะ...เขาไม่ชอบความรู้สึกปวดหน่วงๆแบบนี้เลย

    "ฮยอกแจอ่า...พี่ฮันอาจจะทำงานอยู่ก็ได้"

    เขาได้ยินซองมินพูดขึ้นมาแบบนั้น แต่เขาก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ เพราะดวงตาของเขาติดตรึงอยู่ที่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นที่กำลังลดกล้องลงมาจากใบหน้าเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นได้มาดูรูป...ผู้หญิงคนนั้นกอดแขนพี่ฮันของฮยอกแจอย่างที่ฮยอกแจเคยทำ...ผู้หญิงคนนั้นเขย่งปลายเท้าขึ้นจนแก้มแทบจะแนบชิดกับพี่ฮันของฮยอกแจเพื่อจะได้ดูรูปที่อยู่ในกล้องได้ชัดๆในระยะห่างเดียวกับคนถือกล้องอย่างที่ฮยอกแจเคยทำ...และฮยอกแจก็ไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้เลยสักนิด

    พี่ฮันเป็นของฮยอกแจ...เป็นแค่ของฮยอกแจ

    ไม่มีใครทำกับพี่ฮันเหมือนที่ฮยอกแจทำได้ทั้งนั้น!

    แต่ถึงจะคิดแบบนั้น เขากลับขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด...แค่ละสายตาออกมาจากภาพตรงหน้าก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...แค่ห้ามน้ำตาก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

    "มันไม่มีอะไรหรอกนะฮยอกแจ อาจจะแค่เพื่อนร่วมคณะของพี่เค้าก็ได้"

    เสียงหวานของซองมินเอ่ยขึ้นมาเบาๆ...เขาเคยรักที่จะได้ยินมาพูดปลอบโยนมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้เขากลับแทบไม่ได้ยินมันด้วยซ้ำ...ตราบใดที่เขายังคงมีภาพที่เคยเป็นภาพของเขาอยู่ในสายตา ฮยอกแจก็แทบไม่รู้สึกอะไรเลย...มันชาจนไม่รู้สึกอะไรสักนิดเลยจริงๆ แต่ยังไม่ทันที่ซองมินจะพูดอะไรออกมาอีก ร่างสูงของใครบางคนก็ก้าวมายืนบังสายตาของเขาจนมิด...จนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืดมิด

    "จะร้องไห้ทำไม ยัยผู้หญิงนั่นแมนได้เท่าครึ่งนึงของนายที่ไหน แฟนเอวเอสไลน์ของนายไม่ชอบหรอก เชื่อฉันสิ"

    คยูฮยอนใช้แขนเพียงข้างเดียวรั้งใบหน้าของเขาไปกดแนบเข้ากับอก...เป็นการกระทำหยาบๆที่ไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แถมน้ำเสียงที่ใช้ปลอบโยนก็ชวนโมโหชะมัด แต่มันกลับทำให้ลำคอของเขาเจ็บแสบไปหมด ฮยอกแจยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น โดยที่มือข้างหนึ่งก็ยังคงจับกระชับมือเล็กนิ่มของเพื่อนสนิทเอาไว้แน่น ฝังจมูกเข้ากับเสื้อแขนยาวสีกรมท่าที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของผู้ชายตัวสูงที่เขาไม่เคยชอบขี้หน้า...ปล่อยโฮออกมาสุดเสียงโดยที่ตัวเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเพราะอะไร

    ฮยอกแจแค่ไม่ชอบใจเลยจริงๆ...ที่ต้องยกพี่ฮันของเขาให้ใคร

    .........................................................

    "รอโทรศัพท์จากใครอยู่งั้นหรอฮยอกแจ"

    เสียงของซองมินที่เอ่ยทักเขาขึ้นมาอย่างห่วงใยทำให้เขายอมละสายตาออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตนและส่งรอยยิ้มข้ามฝั่งโต๊ะกลับไปให้ ฮยอกแจส่ายหน้าปฏิเสธจนผมยุ่งพลางวางมือถือของตนลงบนโต๊ะเพื่อยืนยันคำปฏิเสธของตนแล้วจึงเหม่อสายตามออกไปยังสระน้ำเล็กๆข้างตึกคณะแทน

    ข้างตึกคณะมีต้นไม้ใหญ่ แถมยังมีสระน้ำ โต๊ะนั่งแถวนี้จึงเป็นโต๊ะนั่งที่ดีที่สุดของตึกคณะบัญชีที่พวกเด็กบัญชีชอบแอบมาสิงห์กันเวลาไม่อยากเข้าเรียน แต่วันนี้ฮยอกแจกลับไม่นึกชอบมันเหมือนเคย เขาเอนแก้มลงแนบโต๊ะ ในขณะที่มือซึ่งวางพาดอยู่บนโต๊ะก็ขยับเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กของตนกลับมาถือกำไว้ในมืออีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

    ซองมินเห็นอาการแบบนั้นของเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ...ฮยอกแจเหมือนคนอกหักมากกว่าเดิมเสียอีก พี่ฮันนั่นก็ปะไร ไม่เห็นมาแก้ตัวกับฮยอกแจเสียที ไหนว่าคบกันแล้วไงล่ะ! เขาล่ะอยากจะรู้นักว่าจะอธิบายเรื่องผู้หญิงคนนั้นว่ายังไง

    "เหี่ยวเป็นหวัดไก่เชียวนะเจ้าเด็กไก่"

    เสียงทุ้มที่ค่อนไปทางแหลมสูงเสียมากกว่าเรียกสายตาของเด็กบัญชีเจ้าถิ่นทั้งสองคนให้ตวัดไปมองได้เล็กน้อย แล้วก็เป็นฮยอกแจที่ต้องทำหน้าบึ้งเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั่นเป็นใคร คิมฮีชอลกรีดยิ้มร้ายอันเป็นเครื่องหมายการค้าของตน(ในกรณีสวมบทเป็นตัวร้าย ปกติเป็นนางเอกหรอกย่ะ!)ขึ้นมาบนใบหน้าพลางคลี่สะบัดพัดขนนกสีแดงออกกางเมื่อเห็นสายตาไม่ชอบใจของเจ้าเด็กไก่เป้าหมายของเขา ฮีชอลขยับพัดขนนกสีแดงของตนไปมาทั้งๆที่มันไม่จำเป็นสักนิด เพราะแถวนี้อากาศค่อนไปทางเย็นเสียด้วยซ้ำ(ก็ติดเป็นนิสัยแล้ว ทำยังไงได้ล่ะ!)

    "ไอ้ฮันยังไม่โทรหานายอีกหรอ ไอ้หมอนั่นก็มาเรียนทุกวันนี่นา แถมก่อนเปิดเทอมยังมาช่วยฉันเดินดูคอสตูมอยู่เลย...เอ๋??...หมอนั่นคงไม่อยากเจอนายซะแล้วม้างงงง"

    เขาลากเสียงยาวอย่างชวนทะเลาะเต็มที่ และเจ้าเด็กไก่ก็ยุขึ้นง่ายเป็นบ้า เพราะทันทีที่เข้าพูดจบ เจ้าตัวเล็กหน้าขาวนั่นก็ผลุดลุกขึ้นพร้อมกับใช้ไอ้ตาตี่ๆคู่นั้นถลึงมองเขาอย่างเอาเรื่อง...อ่า...ไม่ผิดคาดเท่าไรนัก ไม่เสียแรงจริงๆที่ยอมแวะมาใช้ตึกบัญชีเป็นทางผ่านไปยังศูนย์ประชุม ฮีชอลขยับรอยยิ้มกว้างขึ้น(ส่งผลให้มันดูร้ายขึ้นตามไปด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ(จริงๆ))

    "ทำไมถึงไม่ว่างโทรหานายน้าาา วันก่อนยังเห็นพาผู้หญิงที่ไหนไปกินชูครีมอยู่ละ...โอ๊ะ!"

    ผลั่ก!

    โทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กในมือของฮยอกแจถูกเขวี้ยงมาใส่หหน้อกของเขาเต็มแรงก่อนไอ้คนลงมือกระทำอุกอาจจะสะบัดตัวเดินหนีไปเฉยอย่างไม่คิดจะรับผิดชอบ ทิ้งเพื่อนให้นั่งทำหน้าตื่นรับผิดชอบการกระทำของตนอยู่คนเดียว เจ้าเด็กตัวอวบผิวขาวฟันจอบเงยหน้าขึ้นมายิ้มแหยๆให้กับเขาพลางรีบลุกขึ้นและรีบยื่นสองมือมารับโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นที่เขาบังเอิญรับไว้ได้ทันพอดีกลับคืน

    "เอ่อ...ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับรุ่นพี่ ช่วงนี้ฮยอกแจอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรน่ะครับ"

    สุภาพใช้ได้...คิมฮีชอลชอบเด็กมารยาทดีอยู่แล้ว ถือว่าไอ้เด็กไก่รอดตัวไป คนสวยของเอกการแสดงโบกพัดในมือไปมาเมื่อรุ่นน้องตัวอวบคนนั้นเริ่มก้มหัวขอโทษจนหน้าผากแทบจะชิดเข่าอยู่แล้วคล้ายไม่อยากจะให้อีกฝ่ายใส่ใจอะไรกับเรื่องเมื่อครู่มากนัก

    "เจ้าเด็กไก่อารมณ์ไม่ดีอยู่งั้นสิ"

    "ก็...เอ่อ...ครับ จะว่างั้นก็ได้...คือ...ฮยอกแจทะเลาะกับแฟนอยู่น่ะครับ"

    "หืมม?"

    ฮีชอลเลิกคิ้วขึ้นสูงในทันทีเมื่อได้ยินคำว่าแฟนหลุดออกมาจากปากเจ้ารุ่นน้องตากลมฟันจอบตรงหน้า นี่นอกจากไอ้ต่างด้าวจะแห้วแดกแบบทุเรศทุรังลูกตา(?)แล้ว แม่งยังโดนหมาชิงตัดหน้าคาบไปแดกด้วยเรอะ?!...ทำไมเขาถึงคบไอ้ต่างด้าวบ้านนอกนั่นเป็นเพื่อนวะ! รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเชียว!

    "แฟนหรอ ฮยอกแจมีแฟนแล้วหรอ"

    เป็นคราวของเด็กบัญชีตัวอวบที่เลิกคิ้วขึ้นสูงใส่เขาบ้าง เจ้าเด็กนั่นเอนคอมองเขาตาแป๋วคล้ายกำลังตั้งคำถามใส่เขา แหม...คิมฮีชอลต้องฝึกท่านี้ไปใช้อ้อนเชวซีวอนหน่อยแล้วล่ะ ถ้ากับเขายังได้ผลแบบรังสียูริ(?)พุ่งสูงปรี๊ดแบบนี้ เจ้าเด็กซีวอนคงไม่รอดเหมือนกันล่ะวะ!

    "เอ๋?...ก็พี่ฮันไงครับ เป็นแฟนกันมาตั้งแต่เทอมที่แล้วแล้ว เดินมามหาลัยด้วยกันทุกเช้าเลย อยู่ด้วยกันตลอดเลยด้วย ข้าวกลางวันก็ไปกินด้วยกัน ตอนเย็นก็กลับบ้านพร้อมกัน ฮยอกแจติดพี่ฮันจะตายไป รุ่นพี่รู้จักพี่ฮันใช่มั้ยครับ ช่วยไปบอกพี่เค้าหน่อยได้มั้ย...เรื่องผู้หญิงคนนั้นน่ะครับ ฮยอกแจเสียใจมากจริงๆนะ ร้องไห้ด้วย...รุ่นพี่ไปบอกให้พี่ฮันมาหาฮยอกแจหน่อยได้มั้ยครับ"

    มึงพลาดละไอ้ต่างด้าวบ้านนอก!

    ไปตกลงอะไรกับไอ้เด็กไก่แล้วลืมแบบนี้...มึงพลาดแล้ว!

    แต่สรุปแล้ว...นี่กูช่วยผิดคนใช่มั้ยวะเนี่ย!

    ....................................................

    ฮยอกแจหงุดหงิดมา...มากจริงๆนะ! เดินออกจากรั้วมหาลัยมาตั้งไกลแล้วเพิ่งจะนึกได้ว่าไม่มีโทรศัพท์มือถือติดตัวมาด้วย(ก็ปาใส่พี่ฮีชอลไปแล้วนี่!) จะกลับไปเอาก็กลัวเสียหน้า เป็นเหยื่อให้พี่ฮีอลถากถางอีก เขาก็เลยได้แต่เดินฟึดฟัดอยู่ที่หน้ามหาลัย...โกรธจนแทบอยากจะร้องไห้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้น่ะไม่มีอารมณ์จะร้องไห้หรอก...คำพูดของพี่ฮีชอลทำให้เขาชา...ชามากเสียจนลืมไปว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดเหล่านั้นดี หรือไม่ควรจะรู้สึกอะไรมาตั้งแต่ต้นกันแน่

    "โกรธแล้วนะ โกรธมากๆด้วย!"

    คนตัวเล็กโวยวายหงุงหงิงออกมากับตัวเองพลางสะบัดปลายเท้าเตะฝุ่น(?)บนฟุตบาธเข้าไปโครมใหญ่ก่อนจะย่ำเท้าตรงไปยังป้ายรถเมล์ป้ายประจำ...นั่งให้ลมเป่าหัวเล่นคงจะทำให้เขาอารมณ์เย็นลงมากกว่าการไปนั่งอยู่ในตู้ขบวนเงียบๆของรถไฟใต้ดินเป็นแน่ และคงทำให้เขาคิดถึงพี่ฮันน้อยลงด้วยล่ะ...ก็พวกเขาขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้านด้วยกันบ่อยๆนี่นา ฮยอกแจทรุดตัวนั่งลงบนม้านั่งตัวสุดท้ายที่เหลือเว้นว่างอยู่ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการลุกยืนขึ้นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือหนังสือพะรุงพะรังเต็มสองมือนั่งแทน(ลีฮยอกแจแมนจะตายไปก็บอกแล้ว!)

    "อย่าให้เจอนะ จะโกรธจนไม่ยอมคุยด้วยเลย"

    บ่นพึมพำกับตัวเองพลางชะโงกหน้าไปดูหมายเลขของรถเมล์ที่กำลังจะวิ่งเข้ามาจอดตรงป้าย และเมื่อเห็นว่ามันไม่ใช่หมายเลขที่ผ่านหน้าบ้าน เขาก็ปล่อยให้มันวิ่งผ่านไป แต่ทันทีที่เจ้ารถคันใหญ่วิ่งพ้นออกไปจากสายตาจนเขาสามารถเห็นฟุตบาธฝั่งตรงข้ามได้อีกครั้ง ดวงตาเรียวรีก็ขยับเบิกกว้าง ในจังหวะเดียวกับที่ผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่อีกฝั่งของถนนเงยหน้าขึ้นมาจากการก้มลงไปช่วยหญิงสาวข้างกายปัดเศษบางอย่างออกจากผิวแก้ม พี่ฮันของฮยอกแจแลดูตื่นตะลึงเมื่อเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ตามลำพังก่อนจะทำเหมือนไม่ได้เห็นอะไรด้วยการหันไปสบตาพูดคุยกับหญิงสาวข้างกายต่อตามเดิม...ฮยอกแจไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

    ฮยอกแจทำผิดอะไรอย่างนั้นหรอ

    เขาจ้องมอง...แม้น้ำตาจะกลบดวงตาจนมองทุกอย่างได้พร่าเลือนไปหมด เขาก็ยังคงจ้องมอง ริมฝีปากสีแดงสดเม้มแน่น แก้มเนียนแดงปลั่งจากการกลั้นเสียงสะอื้นจนตัวสั่น

    เห็นเขาแล้ว...ก็ยังไม่เลือกเขาอย่างนั้นหรอ

    ฮยอกแจยืนอยู่ตรงนี้...ก็ยังไม่เลือกฮยอกแจอย่างนั้นหรอ

    ทำไม...เสียใจจังนะ

    "พี่ฮัน..."

    เหมือนเจ้าของชื่อจะได้ยินเสียงเรียกอันแผ่วเบาของเขา เพราะดวงตาคมของร่างสูงที่ยืนอยู่อีกฝากถนนตวัดมาสบตากับเขาอยู่ชั่วครู่ทันทีที่สิ้นเสียงเรียก...พี่ฮันฟังเสียงของเขาเสมอ เขารู้ดี แต่ฮยอกแจก็เอาแต่ใจเกินกว่าจะเข้าใจแววตาของพี่ชายคนดีของตนว่ากำลังพูดสิ่งใด คนตัวเล็กหน้าเบ้...ร้องไห้ออกมาจนได้ กระนั้นแล้วก็ยังคงจ้องสบดวงตาคู่นั้นไม่หลบ

    เหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าฮยอกแจโกรธ

    เหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าฮยอกแจไม่พอใจ

    เหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าฮยอกแจเสียใจ

    เหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าฮยอกแจ...เจ็บปวดมากจริงๆ

    "ถ้าจะไป...ฮึก...ก็ไม่ต้องกลับมาอีก...ฮึก...ไม่ต้องมาดีกันตลอดไปเลย!"

    .......................................................

    ถึงปากจะตะโกนออกไปแบบนั้นก่อนจะขึ้นรถเมล์หนีจากมา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฮยอกแจกลับมาเดินวนเวียนอยู่หน้าหอพักของผู้ชายใจร้ายคนนั้นราวกับไม่อยากจะให้อีกฝ่ายเดินจากไปจริงๆอย่างที่ปากว่า...ถ้าพี่ฮันไม่กลับมาอีกจริงๆ ฮยอกแจจะทำยังไง...แค่คิดก็นนะร้องไห้อยู่แล้ว เขาใช้ฟันขบริมฝีปากล่างของตนเอาไว้เบาๆอย่างครุ่นคิด เดินลังเลอยู่หน้าทางเข้าจนลุงยาม(ที่เขาคิดว่าน่าจะจำหน้าเขาได้แล้ว)ร่อมๆจะเดินมาถามว่าเป็นอะไรรึเปล่าอยู่หลายรอบ

    ฮยอกแจก็แค่กลัวคำตอบที่ตัวเองจะได้รับเท่านั้นเอง

    "กลัวอะไรวะ นิดเดียวเอง!"

    รวบรวมกำลังใจให้ตัวเองเสร็จสรรพก็ได้ฤกษ์ย่ำเท้าโครมๆเข้าไปในตัวอาคารเสียที แต่ก็ยังไม่วายถ่วงเวลาให้ยืดนานออกไปอีกด้วยการใช้บันไดปีนขึ้นไปยังชั้นสาม และถึงแม้จะใช้บันได้ก็แล้ว เขาก็ยังมาหยุดลังเลอยู่ที่หน้าห้องอยู่ดี ประตูของพักหมายเลข38ปิดแง้มอยู่เล็กน้อย...ต้องมีคนเมากลับห้องแน่ๆถึงได้ไม่ระวังแบบนี้น่ะ มือของเขาเย็นเฉียบและชื้นเหงื่อจนต้องเช็ดเข้ากับกางเกงยีนส์ที่ตนสวมใส่อยู่ลวกๆ ใบหน้าหวานชะเง้อผ่านรอยแง้มเข้าไปดูด้านในเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องรับแขกส่วนกลางของห้องพัก เขาก็ถือวิสาสะแทรกตัวเข้าไปด้านใน

    กระเป๋าหนังสือของพี่ฮันวางอยู่ตรงโซฟา เช่นเดียวกับแล๊ปท๊อปที่พี่ฮันมักจะเปิดงานทิ้งค้างไว้เสมอ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือกระเป๋าถือของผู้หญิงสีหวานที่วางอยู่ข้างกัน ซึ่งเขาจำได้ว่าเป็นของผู้หญิงคนนั้น มันทำให้เขาชะงักไป และเผลอกวาดสายตาไปทั่วห้องราวกับกลัวว่าคนทั้งคู่จะกำลังแอบจ้องมองเขาอยู่ ฮยอกแจรู้สึกอึดอัดในช่องอก รู้สึกเจ็บแสบในลำคอ และรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา เขาไม่เข้าใจ...ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้มาอยู่ที่นี่กับพี่ฮันของเขา

    เสียงหัวเราะคิกคักสลับกับเสียงพูดคุยในภาษาที่เขาฟังไม่ออกดังลอดออกมาจากห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่เขาจำได้ว่าพี่ฮันเคยบอกว่าเป็นห้องที่ใช้อัดรูป ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้ๆ ใช้มือผลักบานประตูให้เปิดแง้มออกนิดเพื่อจะได้ฟังเสียงบทสนทนาด้านในได้ชัดมากขึ้น แม้จะรู้ว่าฟังอย่างไรก็ฟังไม่เข้าใจ เพ่งสายตาเข้าไปให้ตายยังไงก็มองไม่เห็น แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะได้ยินน้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นให้ชัดๆ

    พี่ฮันเคยบอกว่าเขาเป็นคนพิเศษของพี่ฮัน...เป็นคนคนเดียวของพี่ฮัน

    น้ำเสียงของพี่ฮันทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ

    น้ำเสียงที่ใช้เรียกชื่อของฮยอกแจเพียงคนเดียว

    "ภาษาเกาหลีสิ รี่อินต้องฝึกภาษาเกาหลีนะ"

    "แล้วทำไมต้องมาฝึกกับพี่ด้วยล่ะ เพื่อนคนเกาหลีเธอก็มีเยอะแยะไม่ใช่รึไง"

    "เก้อเก่ออ่ะ!"

    ฮยอกแจยังคงนิ่งฟัง แม้ยิ่งฟังช่องอกของเขาจะยิ่งอึดอัดก็ตาม...แบบนี้ไม่ดีเลย หัวใจของเขาไม่รับฟังถ้อยคำใดๆเลย...ลีฮยอกแจเอาแต่ใจมากเกินไปจริงๆ ถ้าเขาหัดฟังสมองที่สั่งว่าให้กลับบ้านไปตั้งแต่ต้น ก็คงไม่ต้องมายืนงี่เง่าอยู่ตรงนี้พร้อมกับความรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำตาของตัวเองอยู่แบบนี้หรอก

    "ตอบคำถามของรี่อินสักทีสิหานเกิงเก่อ"

    "คำถามไหนล่ะ เธอก็ถามพี่เยอะแยะไปหมดเลยนะวันนี้น่ะ"

    "เก้อเก่ออย่าเปลี่ยนเรื่องสิ!"

    พี่ฮันยังมีความสุขดีอยู่อย่างนั้นหรอ...พี่ฮันยังหัวเราะได้อยู่อย่างนั้นหรอ แล้วทำไมเขายิ้มไม่ได้เลยล่ะ...ทำไมเขาหัวเราะไม่ได้เลยล่ะ...ทำไมฮยอกแจถึงต้องร้องไห้ล่ะ...ไม่ยุติธรรมเลย!

    "ก็ที่ถามว่า...รักมั้ยไงล่ะ"

    ข้างในเงียบไป เช่นเดียวกับคนที่แอบฟังที่นิ่งงันไปพร้อมกับเลือดในกายที่ลดอุณหภูมิลงจนเย็นเฉียบ...แค่นี้น้ำตาก็กลบตาไปหมดแล้ว...แค่ยังไม่ได้ยินคำตอบก็มองทุกอย่างพร่ามัวไปหมดแล้ว เป็นแบบนี้แล้วจะให้ฮยอกแจทำยังไง

    "รักสิ...รักมากด้วย...รักที่สุดเลยล่ะ นานแค่ไหนก็คิดว่าจะรักอยู่แบบนี้นั่นล่ะ"

    "รักใคร?!!"

    ร่างบอบบางทะเล่อทะล่าผลักประตูเข้าไปพร้อมกับตวัดเสียงถามดังลั่นจนแทบจะเป็นการกรีดร้อง ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันในห้องแคบๆมืดๆหันมองคนที่โผล่เข้ามาทั้งน้ำตาด้วยสายตาตื่นตะลึง เช่นเดียวกับรูมเมทตัวสูงอีกคนที่เพิ่งกลับมาจากการออกไปก๊งเมื่อคืนที่วิ่งหน้าตื่นโครมครามออกจากห้องด้วยท่าทางเหมือนมีไฟไหม้ แต่ฮยอกแจไม่สนสายตาของใครหรอก เขายืนสะอื้นจนตัวโยนหน้าแดงจมูกแดงไปหมดอยู่ตรงนั้น...สบตากับผู้ชายเพียงคนเดียวที่เขาอยากจะให้แคร์

    "พี่ฮัน...ฮึก...รักใคร...รักใคร...ฮึก...ห้ามรักใครนะ...ฮึก...ห้ามนะ...ฮึก...ห้ามรักใครนะ...ฮึก...ห้ามนะ..."

    "ฮยอกแจคนดี...ไม่ร้องไห้นะครับ หายใจไม่ทันแล้วเห็นมั้ย"

    สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นพี่ฮันคนดีที่เดินเข้ามาโอบกอดคนที่พูดซ้ำไปซ้ำมาเอาไว้แนบอก ฮันคยองถอนหายใจออกมานิด แต่กระนั้นแล้วบนเรียวปากหยักก็ยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มบางแสนอ่อนโยนเหมือนอย่างเคย เขาโยกเอนร่างเล็กในอ้อมแขนที่สั่นไปทั้งตัวไปมาอย่างปลอบโยนเหมือนที่เขาทำเป็นประจำทุกครั้งที่อีกฝ่ายมีน้ำตา

    "พอแล้วนะครับฮยอกแจ เงียบได้แล้วครับเด็กดีของพี่"

    ปลอบฮยอกแจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขารู้เรื่องนี้ดี(และก็รู้มานานมากแล้วด้วย) และยิ่งร้องไห้หนักๆจนปากซีดตัวสั่นสะอื้นจนหอบฮักแบบนี้ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ฮันคยองหันไปพยักเพยิดให้หญิงสาวกับรูมเมทของตนที่มองอยู่คล้ายจะบอกว่าไม่มีอะไรและขอให้พวกเขาออกไปก่อน ซึ่งคนทั้งสองคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี แถมรี่อินคนดียังปิดประตูห้องอัดรูปให้เขาอย่างเรียบร้อยด้วย ส่งผลให้รอบกายของพวกเขามีแต่ความมืดสนิทและความเงียบงัน

    "พี่ฮันห้ามนะ!...ฮึก...ห้ามนะ"

    "แล้วฮยอกแจจะให้พี่ทำยังไงครับ"

    เสียงทุ้มทอดอ่อนคล้ายจะเหนื่อยกับหัวใจของตัวเองที่ไม่เคยทำตามที่สั่งดีๆเลยสักที เขาดันร่างบางออกนิดเพื่อสบตา และถึงแม้จะอยู่ในความมืดสนิท แต่ดวงตาของฮยอกแจกลับทอประกายสุกใสเพราะน้ำตาที่เอ่อค้างอยู่ด้านใจ...เหมือนดวงดาว และเขาก็เห็นมันได้เด่นชัดมากเหลือเกิน คนที่เป็นดั่งความรักของเขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องสบตากับเขาด้วยสายตาตั้งคำถาม

    "ห้ามไม่ให้พี่รัก...แล้วจะให้พี่รักใครครับฮยอกแจ"

    "ฮยอกแจ!...รักฮยอกแจ!"

    หากเป็นเมื่อก่อน...ตอนที่หัวใจของเขายังไม่เหนื่อยมากขนาดนี้...ไม่ใช่ตอนที่เขากำลังพยายามหาเวลาให้หัวใจของตนหยุดพักแบบนี้ คำตอบแบบไม่หยุดคิดอย่างนั้นของคนที่มีน้ำตาเปื้อนอยู่เต็มหน้าคงจะทำให้เขายิ้มจนแก้มแทบปริและคงจะคว้าตัวอีกคนมาฟัดให้สมอยาก แต่ตอนนี้เขากลับทำได้เพียงแค่ยิ้มแกนๆออกมา มือบอบบางทั้งสองข้างของฮยอกแจหยึดจับปกเสื้อของเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับเขย่ามันไปมาเบาๆราวกับอยากจะให้เขาทำตามใจอย่างที่เขาทำมาตลอด แต่ฮันคยองไม่เข้าใจเลย...

    แล้วนี่ไม่รักอยู่รึไง!

    แล้วนี่ยังรักไม่มากพออีกรึไง!

    รักมากขนาดนี้แล้วลีฮยอกแจยังไม่รู้สึกอีกรึไง!

    ลีฮยอกแจชักจะเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อยแล้ว!

    "รักแค่ฮยอกแจก็พอ! คบกับฮยอกแจก็ต้องรักแค่ฮยอกแจสิ...ฮึก!...ต้องแค่ฮยอกแจคนเดียวสิ!"

    เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งเฉย ไม่ได้เข้าไปเอาใจเหมือนเคย ฮยอกแจก็ยิ่งขึ้นเสียงพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ร่วงหล่นลงมาจากขอบตาอีกครั้ง อีกฝ่ายผลักดันเขาเข้าไปจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับกำแพงด้านใน มือเล็กขยุ้มคอเสื้อของเขาไว้แน่น...มันสั่นเทา เขารู้สึกได้ คนที่ตัวเล็กมากเหลือเกินเขย่งปลายเท้าขึ้นจนริมฝีปากอยู่ห่างจากริมฝีปากของเขาไม่เท่าไรราวกับอีกฝ่ายอยากจะเห็นนัยน์ตาของเขาให้ชัดตามากกว่าเดิม และสำหรับเขาผู้มีความอดทนสูงเสมอ...คนโง่เง่าที่ยังตัดใจไม่ได้เสียทีและยังอ่อนไหวกับทุกอย่างที่เป็นลีฮยอกแจ...แบบนี้มันใกล้เกินไป

    "เราคบกันอยู่...ฮึก...ไม่ใช่หรอพี่ฮัน...ฮึก...ใช่รึเปล่า"

    ความอดทนที่เขาใช้กับลีฮยอกแจคงหมดไปเมื่อเขากลับบ้าน...เขาคงใช้มันมากเกินพอแล้ว เขาถึงได้กล้าที่จะยกร่างของอีกฝ่ายขึ้นและหมุนตัวให้แผ่นหลังบอบบางไปกระแทกเข้ากับกำแพงแทนตน ฮันคยองแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ตรงกลาง แนบชิดกับคนที่บัดนี้ตื่นตะลึงจนสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ซ่อนอยู่ใต้แผ่นอกบาง เขาทำเป็นมองเมินความตื่นกลัวนั่นและไล้ปลายจมูกโด่งคมของตนไปตามผิวแก้มเนียนละเอียด

    "พี่ฮัน..."

    เสียงร้องดังแผ่วหวิวอยู่ที่ข้างหูของเขา มือเล็กตั้งท่าจะผลักหัวไหล่ของให้ถอยห่าง แต่เขาก็รวบมันเอาไปตรึงไว้กับกำแพงได้ทันก่อนที่อีกฝ่ายจะได้แผลงฤทธิ์ใส่ เขากดตรึงข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้กับกำแพงข้างศีรษะของเจ้าของผู้ซึ่งเริ่มดูตื่นตระหนกขึ้นมาจริงๆ ฮยอกแจเบ้หน้า...เขารู้ดี เมื่อไรที่เริ่มจะคุมสถานการณ์ไม่ได้ ฮยอกแจเด็กดีของเขาจะเริ่มโกรธและแสดงอาการเอาแต่ใจออกมาหนักข้อกว่าปกติ แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจหรอก...ลีฮยอกแจควรจะสนหัวใจของเขาบ้าง ฮันคยองฝังปลายจมูกลงไปหนักๆที่แก้มนุ่มอย่างที่เคยคิดจินตนาการเอาไว้

    เขาจะไม่ใจอ่อนอีก...เขาสัญญากับตัวเองไว้แล้ว

    แม้จะตัดใจไม่ได้...แต่ก็จะไม่ให้ลีฮยอกแจมาทำร้ายหัวใจกันอีกแล้ว

    "ฮยอกแจ..."

    เขาคลอเคลียริมฝีปากของตนใกล้ๆกับเรียวปากบางของคนตัวเล็กที่เริ่มสั่นระริกไปทั้งตัว...หยอกเย้าอย่างยั่วยวนด้วยสัมผัสจากริมฝีปากและลมหายใจ ดวงตาคมของชายหนุ่มชาวจีนจ้องสบดวงตาช้ำน้ำตาของคนที่เหมือนตกอยู่ใต้ร่างของเขานิ่ง

    "จะให้พี่รักแค่ฮยอกแจได้ยังไง ในเมื่อฮยอกแจยังไม่แม้แต่จะรักพี่เลยด้วยซ้ำ...เอาแต่ใจแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะครับ"

    ............................................................








    = = ช๊อคเท่าโลกกว้างกันเลยทีเดียว ไม่เศร้ามาก แต่ดราม่าสุดๆเลยสำหรับฮันฮยอกตอนนี้ เคะเรื่องนี้แรงทุกคนค่ะ แต่เป้นความแรงในแบบของตัวเอง ยัยหมวยนี่ชัดเจน- -“ ส่วนฮยอกแจก็แรงเหมือนกันนะ แรงในแง่ที่ว่าพูดทุกคำที่คิดออกมาจริงๆ แสดงอารมณ์ของตัวเองออกมาตลอด อะไรทำนองนั้น ลูกไก่เรื่องนี้เหมือนเด็กค่ะ เด็กแบบเด็กเล็กๆเลยล่ะ แบบเอาความพอใจของตัวเองเปนหลักอ่ะค่ะ เด็กๆอ่ะไม่ค่อยคิดถึงใจของคนอื่นหรอกจริงม่ะ กุหิวกุร้องไห้ มึงหิวก็เรื่องสิ อะไรทำนองนั้น= = ฮยอกเลยคิดถึงแต่ตัวเองอ่ะค่ะว่าพี่ฮันต้องรักแต่เค้านะ ต้องรักแค่เค้าสิ พอพี่ฮันทำเหมือนว่าจะไม่รักแล้ว(? น้องรีดเดอร์บอกแม่งคิดเองเออเองตลอดอ่ะไอ้ไก่) ก้ร้องไห้งอแงโวยวาย ทั้งๆที่ในความเปนจริงแล้วอ่ะ ตัวต่างหากที่เป้นคนผิด...ใช่มั้ยล่ะ ตัวเองยังไม่ได้ให้ความรักเขาไปเลย แล้วจะมาเรียกร้องขอความรักแบบนี้...ก็ไม่ใช่ใช่มั้ยล่ะ แต่ตอนนี้ผุ้ชายที่ออกตัวแรงที่สุดคงเป้นโจวคยูแน่ๆ ที่รักราศีพระเอกจับเป้นครั้งแรกของเรื่องเลย = =(ปกติเสี่ยเชวแกเหมาตลอดอ่ะ) ส่วนเจ๊แกก็โผล่มาแว้บเดียว แต่แรงงงกินขาดเลยทีเดียว ส่วนรี่อินคนสวย ก้ยังไม่ชัดเจนเนอะว่าเปนใครมาจากไหนนะ

    ว่าจะมาพล่ามเรื่องคอน(ให้อิจฉาเล่น?) ตามที่สันยา ก้ค่ะ คอนครั้งนี้สำหรับไรเตอร์ที่ว่าประทับใจนะ หรือคงเปนเพราะไรเตอร์ไปวันแรกด้วย (หลุมในตำนานBLนั่นแหล) คนก็เลยน้อย ไรเตอร์ก็เลยไม่ทะเลาะ(?)กับใครมาก= = ก้อย่างที่โม้ไปก่อนหน้านะ ว่าได้จับมือทึก ได้สบตาด๊อง ได้อยู่ใกล้ฮีมาก(ย้ำว่ามาก แม้จะไม่ได้จับมือก็ตาม) และเห้นกล้ามท้องวอนชัดมาก-,,- ถึงแม้จะไม่ได้สบตาโจวที่รักเลย(เห้นแต่ก้น เซ็งจริง) แต่ครั้งนี้ถือว่าเป้าหมายสำเร็จค่ะ= = และก็ยังขอฟันธงเหมือนเดิมค่ะว่าคู่โคดเรียลแห่งปีคงเปนคู่วอนฮยอกนะ เพราะดูสนิทกันมากจริงๆ ทำให้เชื่อเหมือนคำว่believeของชื่อบ้านจริงๆนะ แต่ช๊อตเด็ดของคอนวันแรกคงเป็นช๊อตจุ๊บๆของทึกกับวอนค่ะ (แต่วอนแก่ก็เนียนกอดชาวบ้านไปทั่วอ่ะ) แล้วก็ช๊อตหึงโหดของหนูอุคที่หึงพี่เย่กับมักเน่แบบออกนอกหน้านอกตานะ และก็ขอฟันธงอีกเรื่อง มันเป้นมินคยูมากกว่าคยูมินนะ และก็เปนเฮอึนมากกว่าอึนเฮด้วย เพราะมินตัวใหญ่มาก เน้นว่ามากจริงๆ ดูเผินๆตัวใหญ่กว่าวอนอีก ส่วแม่หนูอึนนางเอกของตอนนี้ก็เอวเล็กมากก บางมากจริงๆเมื่อเทียบกับด๊องที่ว่าบางแล้วอ่ะนะ แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากๆสำหรับคอนครั้งนี้นะ สำหรับไรเตอร์คือรอยยิ้มของด๊องค่ะ มันจริงใจมากจริงๆอ่ะ สัมผัสได้ถึงความจริงๆใจมากจริงๆนะ

    ตอนหน้า เปนไปได้ว่าจะได้ต่อกับคู่ดราม่าสุดๆอย่างฮันฮยอกต่อค่ะ

    เอสเอฟวอนคยูแต่งจบแล้ว แต่ยังไม่มีเวลามาพิมพ์ให้เลย ใครค้างคาก็รอต่อไปนะ= =(ปัดความรับผิดชอบสุดๆอ่ะ)

    เจอกันตอนหน้าจ้า ใครอยากได้รวมเล่ม เข้าดูตอนต่อไปเลยจ้าา^^

    (ทอล์คยาวเว่อร์อ่า)





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×