คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [sf] Before I Fall in Love
[SF] Before I Fall in Love
Pairing: Wonkyu
Rate: ไม่รู้สิ
Note: ยังคงเป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่เหมือนเดิม = =
รัก .. เพราะถูกบอกให้รัก .. เรียกว่าความรักจริงสิ?
บอกกันหน่อยสิ .. บอกกันก่อนที่ฉันจะตกหลุมรักนายนะ
คนคนหนึ่งถูกกำหนดให้มีเทวทูตประจำตัวหนึ่งองค์
เพื่อปกป้อง .. เพื่อดูแล .. เพื่อรัก
แต่ก็นั่นล่ะ .. เชวซีวอนก็ไม่เคยหาเทวทูตของตัวเองเจอสักที
"นี่..."
"..."
เด็กผู้ชายตัวขาวซีดคนนั้นช้อนดวงตาขึ้นมามองเขาแน่นิ่ง ร่างผอมบางที่นั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝนไม่มีทีท่าหนาวสั่นเลยสักนิดทั้งๆที่น้ำฝนนั้นเย็นเฉียบบาดผิวจนเขาเองยังเห็นลมหายใจของตัวเองลายเป็นไอจางๆอยู่ในอากาศตรงหน้า เขายื่นมือออกไป แบ่งปันเงาใต้ร่มคันใหญ่ของเขาให้กับคนที่นั่งอยู่ที่ขอบฟุุตบาธ ซีวอนกดดวงตาลงมอง ในขณะที่อีกฝ่ายก็ช้อนดวงตาขึ้นมามองหน้าเขา ริมฝีปากแดงจัดเพราะอากาศที่เย็นยะเยือกคู่นั้นเม้มเข้าหากันนิดคล้ายเจ้าตัวอยากจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง
"ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้"
"..."
"ไม่หนาวหรอ"
"..."
"ตามใจ เอาร่มไปละกัน"
เขายัดร่มของตัวเองใส่มือของเด็กผู้ชายคนนั้นที่น่าจะอายุไม่ห่างจากเจ้ามินโฮน้องชายของเขาเท่าไรด้วยท่าทางเหมือนจะรำคาญที่ตัวเองต้องพูดอยู่คนเดียว ร่างสูงในชุดนักเรียนมัธยมต้นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังสบถพึมพำออกมาให้กับความใจดีของตัวเองที่ยอมเปียกยอมหนาวเพื่อใครสักคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะเปิดปากพูดกับเขาด้วยซ้ำ เขายกแฟ้มใส่เอกสารที่ตอนแรกหนีบอยู่ใต้วงแขนขึ้นบังหัวก่อนจะหมุนตัวเดินจากมา
"ฉันต้องไปเรียนพิเศษแล้ว กลับบ้านซะนะ...เข้าใจมั้ยเจ้าลูกแมว"
คงเป็นเพราะ .. เขาไม่ได้คว้าเทวทูตของตัวเองเอาไว้ก่อนที่จะสูญเสียตลอดไปกระมัง
.............................................................
ฝนมักจะตกในวันที่มีการจัดงานศพ ซีวอนค้นพบความจริงข้อนี้มาตั้งแต่งานศพของคุณพ่อแล้ว และก็ต้องเป็นวันฝังด้วยนะ วันที่สวดในโบสถ์น่ะไม่เห็นจะเคยตกสักที...วันนั้นก็ฝนตกแบบนี้ มันหนาวแบบนี้เลยล่ะ หรือไม่ก็นะ...วันนี้มันหนาวกว่าวันนั้นเสียอีก คงเป็นเพราะวันนี้เป็นงานศพของเชวมินโฮน้องชายที่เขารักมากกว่าใครในโลกก็ได้ ทุกอย่างถึงได้กัดกินความรู้สึกของเขามากขนาดนี้ ร่างสูงที่เปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำฝนเย็นเฉียบเดินเลี่ยงออกมาจากเต็นท์จัดงาน และพาตัวเองมาทรุดตัวนั่งตากฝนอยู่ที่ม้านั่งห่างออกมา
"น่าเบื่อชะมัด"
ชายหนุ่มบ่นพึมพำพลางพาดแขนทั้งสองข้างวางลงบนพนักเก้าอี้ และเงยหน้าขึ้นรับหยดน้ำฝนที่เทกระหน่ำลงมาจากบนฟ้าราวกับคนด้านบนอยากจะไล่เขาให้ไปหาที่แห้งๆอยู่สักที...แต่ก็นะ วันนี้มันน่าเบื่อมากขนาดนั้นจริงๆกับสายตากล่างโทษกันแบบนั้นน่ะ มันน่าเบื่อที่จะมองเห็นจริงๆ ซีวอนถอนหายใจออกมา และเขาก็เห็นลมหายใจของตัวเองลายเป็นไอจางๆอยู่ตรงหน้า...สายฝนในฤดูใบไม้ร่วงมันหนาวขนาดนั้นนั่นล่ะ เสื้อสูทสีดำเนื้อดีที่ชุ่มน้ำไปหมดกำลังทำให้เขาไม่สบายตัวจนนึกอยากจะถอดมันทิ้งๆไปเสีย เพราะมันหนักอึ้งมากพอๆกับหัวใจของเขา แต่เขาก็ไม่อยากจะทำตัวหยาบคาบในงานของคนที่เป็นโลกทั้งใบของเขาแบบนั้น...เขามินโฮคนแสนจริงจังนั่นต้องเอาเขาไปบ่นกับพระเจ้าแน่ๆถ้าเขาทำตัวไร้มารยาทแบบนั้น
ท้องฟ้าด้านบนมัวซัว หม่นหมอง...น่าเบื่อแม้เพียงแค่มองขึ้นไปอย่างว่างเปล่าไร้จุดหมาย ซีวอนถอนหายใจออกมาอีกพร้อมกับปิดเปลือกตาของตัวเองลง หยดน้ำฝนเย็นเฉียบบางทีก็ทำให้เขาลืมความรู้สึกของตัวเองไปได้ครู่หนึ่ง หากแต่ไม่นาน ฝนก็หยุดตกลงมาต้องใบหน้าของเขา คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากันอย่างขัดใจนิดก่อนดวงตาคมจะเปิดลืมขึ้นอย่างเกียจคร้านปนขัดใจเล็กๆ ผืนฟ้าสีหม่นน่าเบื่อด้านบนถูกบดบังด้วยร่มสีดำสนิท เขาขยับยกศีรษะขึ้นมาตั้งตรงอีกครั้ง และที่ยืนอยู่ตรงหน้าในชุดสูทสีดำเรียบร้อยพร้อมกับร่มสีเดียวกันในมือก็คือผู้ชายตัวบางผิวขาวจัดที่มีดวงตาแสนเย็นชา
"คุณเชวซีวอน"
เสียงของผู้ชายคนนั้นนุ่มนวลน่าฟัง...โอบล้อมความรู้สึกของเขาให้นิ่งงันด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนแม้ดวงตาคู่นั้นจะแสนเย็นชา ซีวอนไม่ได้เอ่ยตอบรับอะไรออกไปในทันที เขาเพียงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นในท่าเดิม อาศัยร่มเงาใต้คันร่มที่อีกฝ่ายหยิบยื่นแบ่งให้โดยไม่คิดแม้จะเอ่ยปากขอบคุณ...ทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นจ้องมอง
"มีอะไร"
"คุณเชวมินโฮส่งผมมา"
"..."
"ผมจะมา...เป็นเทวทูตของคุณครับ"
หึ!...ตายไปแล้วก็ยังไม่วายจุ้นจ้านกับชีวิตของเขานะไอ้น้อง!
.............................................................
อยากรู้มั้ยใครเป็นเจ้าของเทวทูต
เอาหัวใจของเทวทูตออกมาดูสิ!...ชื่อของผู้เป็นนายสลักลึกไม่มีวันจางหายอยู่ในนั้นนั่นล่ะ!
"นายบอกว่าตัวเองชื่ออะไรนะ"
"โจวคยูฮยอนครับ"
"เป็นเทวทูตของเจ้ามินโฮมันงั้นสิ"
เขาเอ่ยถามโดยไม่คิดจะหันไปสบตากับคนที่เดินกางร่มให้ตัวเองตามหลังเขามา...เป็นคำถามที่งี่เง่าดีชะมัดเลยนั่นล่ะ คนที่มีเงาของเชวมินโฮอยู่เต็มแววตาแบบนั้นจะเป็นเทวทูตของคนอื่นไปได้ยังไงกัน ซีวอนล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงพลางย่ำก้าวหนักๆฝ่าสายฝนไปตามทางเดินดินที่เลาะเลียบไปตามแนวสุสานของโบสถ์ประจำตระกูลของเขา...เขาไม่ใคร่สนใจคำตอบจากริมฝีปากแดงจัดของผู้ชายที่มีน้ำเสียงเหมือนมาชเมลโล่วอุ่นนุ่มคนนั้นเท่าไรนัก
"ครับ"
"แล้วหมอนั่นก็สั่งให้นายมาหาฉันหลังที่มันโดนรถชนตายน่ะนะ...เชื่อมันเลย มันคิดว่าฉันจะหาเทวทูตให้ตัวเองสักองค์ไม่ได้เลยรึไงกันนะ"
พี่ชายคนดีบ่นพึมพำกับตัวเองไปตามประสาพลางสะบัดปลายเท้านิดๆเพื่อไล่เศษดินที่กระเด็นขึ้นมาโดนชายกางเกง เขาเหลือบสายตาไปมองคนที่เดินตามหลังมาเล็กน้อย แล้วก็ต้องหันกลับมาสนใจทางเดินตามเดิมเพราะร่มได้บดบังแววตาของคนที่ยืนอยู่ใต้มันเอาไว้เสียหมดไม่ให้เขาได้เห็นเลยสักนิดราวกับพระเจ้าอยากจะบอกว่าเขาไม่มีสิทธิใดๆในตัวของเทวทูตโจวคยูฮยอนคนนี้ทั้งนั้น
"คุณมินโฮเป็นห่วงคุณมากนะครับ"
"ให้มันเป็นห่วงต่อไปในนรกเหอะ"
ไม่สิ...คนแสนดีอย่างเจ้ามินโฮไม่มีทางถูกส่งไปนรกหรอก
ซีวอนสบถออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อบทสนทนาชักจะดึงเขาให้จมกลับลงไปในอดีตที่วนเวียนอยู่รอบตัวของน้องชายมากเข้าไปทุกที...ถึงจะสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่มีทางเหลียวกลับไปมองบ้านหลังนั้นอนีก หากแต่ว่าเชวมินโฮผู้ซึ่งรักบ้านหลังนั้นมากเหลือเกินก็มักจะทำให้เขาต้องคอยหันกลับไป...ก็แค่เพื่อเจ้าน้องชายปัญหามากคนนั้นคนเดียวเท่านั้นนั่นล่ะ...ซึ่งมันน่ารำคาญมากจนอยากจะบ้า!
"คุณซีวอนครับ"
มือเรียวสวยของคนที่เดินตามอยู่ด้านหลังเอื้อมมารั้งจับแขนของเขาเอาไว้พร้อมกับออกแรงดึงเบาๆเพื่อเรียกให้เขาเบี่ยงตัวไปสบตา ดวงตากลมโตของโจวคยูฮยอนจ้องมองมาที่เขาในขณะที่เจ้าตัวขยับร่มมาบังเหนือศีรษะของเขาเอาไว้..บดบังปัดป้องสายฝนไม่ให้ตกลงมาต้องกายของเขาอีกครั้งด้วยร่มคันเดิม มือที่ดูบอบบางข้างนั้นเลื่อนมาจับเข้าที่เนคไทของเขาก่อนจะออกแรงดึงเพื่อรั้งใบหน้าของเขาลงไปรับจุมพิตบางเบาที่เรียวปาก
"ผมรักคุณครับเชวซีวอน"
...............................................................
เทวทูตน่ะ .. มีเจ้าของได้แค่คนเดียวนะ เปลี่ยนไม่ได้เด็ดขาด
ขนาดเด็กสามขวบยังรู้เรื่องนี้เลย!
"คุณซีวอน...อ้ะ!...คุณซีวอน"
ซีวอนขยับดันตัวเองสอดลึกเข้าไป ลำตัวของโจวคยูฮยอนอุ่นจัด ต่างจากตัวของเขาที่เย็นเฉียบเพราะสายฝน เขาดึงสะโพกของคนที่นอนคว่ำอยู่ใต้ร่างของเขาเข้าแนบชิดพลางโน้มตัวลงไปกดจูบที่ข้างลำคอขาว สร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้หนักๆราวกับอยากจะประกาศให้พระเจ้ารู้ว่าตั้งแต่บัดนี้เทวทูตโจวคยูฮยอนจะเป็นของเขา...เป็นเพียงแค่ของเขา
"แยกขวกว้างอีกแล้วมันจะไม่เจ็บ"
เขากระซิบบอกพลางแตะปลายนิ้วลงบนริมฝีปากนุ่ม เคล้นคลึงมันอย่างหยอกเย้าก่อนจะขยับสอดเข้าไปเย้าแหย่กับเรียวลิ้นชื้นด้านในบ้างเพื่อไม่ให้เสียงครางหวานหูหลุดรอดออกมาดังนัก...เขาไม่อยากได้ยิน...เขาแค่กลัวสิ่งที่จะหลุดลอดออกมาพร้อมเสียงครางเครือพวกนั้นก็เท่านั้น
"อื้ออ!...อ้ะ!"
ซีวอนขยับตัวหนักหน่วงรุนแรง ผิวกายของโจวคยูฮยอนช่างขาวจัดจนรอบจูบมากมายของเขาดูเด่นตาขึ้นมาบนแผ่นหลังเนียนมากกว่าที่เขาอยากจะให้มันเป็น...แต่ก็นะ เขาไม่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนั้นหรอก เขาจัดการผลิกร่างขาวจัดให้นอนหงายขึ้นก่อนจะดึงขึ้นมานั่งคร่อมทับอยู่บนหน้าตัก คยูฮยอนหายใจหอบหนัก แก้มแดงปลั่งไปหมดเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกพัดกระพือขึ้นสูง หากแต่กระนั้น...ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นก็ยังคงเย็นชา เทวทูตหนุ่มที่บัดนี้สูงกว่าเขาวาดมือโอบกอดลำคอของเขาเอวไว้หลวมๆพร้อมกับกดสายตาจ้องมองลงมา
"คุณซีวอน..."
"มินโฮส่งนายมา?"
"ครับ"
"นายทำทุกอย่างที่มันสั่งงั้นสิ?"
"ครับ"
เขาไล้นิ้วไปตามแนวแก้มนิ่มที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัดก่อนจะเลยไปปัดผมสีน้ำตาลหยักศกเล็กน้อยที่ปกระอยู่เหนือหน้าผากเนียนออกให้พ้นจากใบหน้าเพื่อเขาจะได้มองเห็นดวงตากลมโตแสนเย็นชาคู่นั้นได้ชัดๆ แต่สุดท้ายแล้ว...เขาก็ยังถวิลหาจูบจากเทวทูตที่หวานไปทั้งตัวคนนั้นอยู่ดี ซีวอนใช้สองมือประคองแก้มนิ่มเอาไว้และรั้งใบหน้างดงามนั่นลงมารับจูบหนักหน่งลึกซึ้งที่เรียวปากของเขา ปลายลิ้นกระหวัดพันล่อหลอกด้วยหวังจะให้อีกฝ่ายจมลึกลงไปในรสจูบของเขา เช่นเดียวกับที่ตัวของเขาเองกำลังจมลึกอยู่ในตัวของอีกฝ่าย
ถ้าไม่รั้งตัวเองเอาไว้ให้มากกว่านี้...เชวซีวอนคงจะจมลึกลงไปกว่านี้
จมลึกมากเกินกว่าที่จะพาตัวเองกลับขึ้นมาอีกต่อไป
"ที่นายรักฉัน...ก็เป็นเพราะมินโฮบอกให้นายรักงั้นสิ?"
มือใหญ่ติกตรึงใบหน้าขาวของเทวทูตหนุ่มเอาไว้ให้ก้มลงมองมาเพียงแค่ตนราวกับไม่อยากจะพลาดยามที่ความหลอกลวงพาดผ่านดวงตาแสนเย็นชาคู่นั้นเข้ามา แววตาของโจวคยูฮยอนสั่นไหวครู่หนึ่งก่อนที่มันจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเย็นชาตามเดิม ริมฝีปากแดงจัดคู่นั้นเม้มเข้าหากันนิด เทวทูตผู้แสนเย็นชาแนบใบหน้าลงมาที่ไหล่ของเขา
"ครับ"
ตกหลุมรักใครสักคนมันเจ็บปวดขนาดนี้เลย...เชวซีวอนก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
...........................................................
เทวทูตฟังแค่เสียงของเจ้าของ
เรื่องนั้นน่ะ...เป็นกฎนะ!
"โจวคยูฮยอนหรอคะ"
"ครับ เทวทูตของมินโฮน่ะ"
"อ่าา...คุณคยูฮยอนอยู่กับคุณซีวอนใช่มั้ยคะ ป้าโล่งใจจัง คนที่บ้านเริ่มเป็นห่วงแล้วที่คุณคยูฮยอนยังไม่กลับสักที"
เสียงของป้าแม่บ้านผู้เป็นคนรับสายของเขาฟังดูโล่งใจจริงๆที่โจวคยูฮยอนไม่ได้หายไปไหนไกลตา ซีวอนเปลี่ยนมือที่ถือโทรศัพท์มือถือพลางอิงสะโพกที่ซ่อนหมิ่นๆอยู่ใต้กางเกงยีนส์เนื้อหนาเข้ากับราวระเบียงด้านนอกห้องพักของตน แผ่นอกที่เปลือยเปล่าไม่ได้ทำให้เขาหนาวอะไรมากมายนักแม้จะมีละอองฝนเย็นๆกระเด็นเข้ามาต้องตัวก็ตาม
"เขาคงจะอยู่กับผมสักพักน่ะครับ บอกที่บ้านให้ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง"
"หนูคยูฮยอนเป็นเด็กดีนะคะ คุณซีวอนไม่ต้องกังวลว่าเธอจะสร้างปัญหาหรอกค่ะ ป้าไม่เคยเห็นเธอก่อปัญหาให้ใครสักที"
"หรอครับ"
"ค่ะ คุณหนูมินโฮรักเธอมากเลยนะคะ"
น้ำเสียงของหญิงชราผู้อยู่ปลายสายฟังดูเศร้าลงยามที่หล่อนเอ่ยถึงคุณหนูคนโปรดของหล่อนที่เพิ่งผ่านพิธีฝังไปเมื่อตอนกลางวัน เขาก็เลยเลือกที่จะไม่เอ่ยซักอะไรอีกให้มากความ ซีวอนพึมพำบอกลาและรีบตัดสายทิ้งโดยไม่คิดรอฟังคำชวนให้กลับบ้านของหล่อนจนจบ เขาวางโทรศัพท์มือถือของตนไว้บนขอบราวระเบียงก่อนจะหันหลังพิงราวระเบียงเอาไว้พลางวางพาดข้อศอกทั้งสองข้างเอาไว้หมิ่นๆ เขาแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้านบนได้ชั่วครู่หนึ่งเสียงเลื่อนประตูเปิดก็เรียกสายตาของเขาให้ตวัดกลับลงมามองด้านล่างเหมือนเดิม เทวทูตหนุ่มก้าวจากในห้องออกมายืนอยู่ตรงหน้าเขา ร่างบอบบางยิ่งดูผอมบางภายใต้ชุดนอนตัวใหญ่ของเขา ผมสีน้ำตาลยังคงเปียกชื้น โจวคยูฮยอนขยับกายเข้ามาใกล้...ใช้ดวงตากลมๆคู่นั้นต้องมองเขาไม่เลิกไม่ราเสียที
"คุณซีวอนจะออกไปข้างนอกหรอครับ"
"ฉันนัดเพื่อนไว้"
"คุณจะไม่สบาย"
มือบอบบางที่เคยอุ่นจัดบัดแต่บัดนี้เย็นเฉียบเพราะเจ้าตัวเพิ่งอาบน้ำมาแตะสัมผัสลงเบาๆที่ข้างแก้มของเขาราวกับอยากจะวัดอุณหภูมิของเขาว่าสูงกว่าปกติรึเปล่า...และมันก็ให้ความรู้สึกดีชะมัดที่ได้รู้สึกถึงผิวนุ่มเต็มไปด้วยเลือดเนื้อของใครสักคน
โจวคยูฮยอนให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกดูแลดีชะมัด
แต่มันก็เป็นหน้าที่ของเทวทูตอยู่แล้วไม่ใช่รึไงที่ต้องดูแลน่ะ!
"ช่างฉันเหอะนา เอาตัวเองให้รอดก่อนละกัน"
ซีวอนปัดมือข้างนั้นออกก่อนจะผละก้าวเข้าไปในห้อง เดินสาละวนหาเสื้อเชิ้ร์ตง่ายๆมาใส่พร้อมกับคว้าหยิบกุญแจรถและกระเป๋าเงินมาถือเอาไว้ในมือ เขาได้ยินเสียงประตูระเบียงเลื่อนปิด และกว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่...กำลังรู้สึกอะไรอยู่ โจวคยูฮยอนก็เดินเข้ามาประชิดตัวของเขาอีกครั้ง มือเล็กบางที่เขาชอบสัมผัสของมันเหลือเกินจับเข้าที่ปกเสื้อของเขา ขยับจัดมันให้เข้าที่เรียบร้อยด้วยท่าทางใจเย็น
"คุณซีวอนครับ..."
"..."
"ผมรักคุณนะครับ"
คำว่ารักที่พูดออกมาง่ายขนาดนั้น
มันมีความรู้สึกมากเท่าปริมาณที่มันออกมามั้ยนะ
.......................................................
เทวทูตน่ะแสนดีใครก็รู้
ดีมากไปจนมันน่ารำคาญ!
"เศร้าขนาดนั้นเลยรึไง"
"เรื่องอะไร"
"มินโฮไง"
"ทำไมถึงคิดงั้นล่ะ"
คิมฮีชอลเพื่อนสนิทคนสวยของเขาไหวไหล่พลางยกแก้วของตัวเองขึ้นแตะริมฝีปาก หมอนั่นหันมาส่งรอยยิ้มกวนโมโหตามนิสับผ่านขอบแก้วมาให้
"ไม่รู้สิ เพราะฉันเป็นเทวทูตของใครสักคนล่ะมั้ง"
นั่นล่ะที่กวนโมโห
ซีวอนแค่นเสียงขึ้นจมูกนิดเหมือนจะดูถูกคำกว่าวอ้างนั้นพลางกระดกของเหลวดีกรีแรงในแก้วของตนลงคอไป เสียงเพลงดังลั่นและแอลกอฮอร์ดีกรีบาดคอทำให้เขาหัวโล่งขึ้น และรู้สึกสักทีว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เขากระแทกแก้วเปล่าลงกับโต๊ะก่อนจะจัดแจงรินเครื่องดื่มให้ตัวเองใหม่อีกแก้ว
"หาเทวทูตให้ตัวเองสักองค์สิเชวซีวอน บางครั้งนายก็ต้องการคนดูแลนะรู้มั้ย"
"ฉันมีแล้ว"
"มีแล้ว?! ไปหามาจากสวรรค์ชั้นไหนกันล่ะ ฉันล่ะอยากจะเห็นหน้าจริงๆ"
"มินโฮให้มา"
เสียงหัวเราะคิกคักของฮีชอลหยุดชะงัดลงในทันทีที่สิ้นคำตอบของเขา ซีวอนเห็นจากหางตาว่าอีกฝ่ายทำหน้าจริงจังมากขนาดไหนยามที่เอนตัวมาข้างหน้าเพื่อคุยกับเขาที่ยังคงคีบน้ำแข็งใส่แก้วของตัวเองให้เต็มไม่ได้สักที
แบบนั้นก็กวนโมโหเขาอีกนั่นล่ะ
"พูดเล่นรึเปล่า"
"เปล่า"
"เทวทูตยกให้กันไม่ได้นายก็รู้นี่"
"ก็รู้ แต่ไอ้มินโฮมันไม่ฟัง ไปด่ามันในนรกเอาเองละกัน"
ซีวอนตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางรินแอลกอฮอล์ใส่แก้วของตนในสัดส่วนที่มากเกินพอดีไปเสียหน่อย เขาเอนหลังกลับมาพิงโซฟาตามเดิม เอาแก้วเหล้าที่เกาะไปด้วยหยดน้ำเย็นจัดแนบเข้ากับหน้าผากของตัวเองราวกับอยากจะให้มันช่วยปัดเป่าเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้ให้ออกไปจากชีวิตของเขาเสียที ซีวอนปิดเปลือกตาของตนลง
เรื่องน่าปวดหัวที่ชื่อโจวคยูฮยอนคนนั้นน่ะ
"แล้วนายจะเอายังไงต่อ"
"ไม่ไง จะอยู่ก็อยู่...ฉันไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว"
"กับเทวทูตที่ไม่มีทางรักนายน่ะหรอ"
นั่นน่ะ...
ดวงตาคมเปิดลืมขึ้น และที่เขาเห็นกำลังก้าวเดินตรงมาหาเขาท่ามกลางผู้คนมากมายก็คือเทวทูตที่ไม่อาจมีพื้นที่ว่างในหัวใจให้ชื่อของเขาได้สลักลึกลงไปแม้เพียงน้อย ซีวอนลดแก้วที่แนบอยู่บนหน้าผากของตัวเองลงบนโต๊ะก่อนจะอ้าแขนออกรวบร่างผอมบางเข้ามายืนอยู่ตรงกลางระหว่างขาของตน แนบแก้มลงกับหน้าท้องแบนราบเพื่อสัมผัสจังหวะการหายใจอันเนิบช้าของอีกฝ่าย
"ตามหาฉันเจอด้วยหรอ เก่งจังนะ"
"คุณลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ เพื่อนคุณโทรมา เขาบอกว่าจะมาสาย"
"งั้นหรอ"
เขาเหยียดยิ้มออกมานิดพร้อมกับปิดเปลือกตาลงอีกครั้งเพื่อซึมซับกลิ่นกายหอมหวานของโจวคยูฮยอนให้มากกว่าเดิม...มันทำให้ความรู้สึกของเขาสงบลงเช่นเดียวกับเสียงอ่อนนุ่มนั่น มือบอบบางข้างหนึ่งแตะสัมผัสเข้าที่ไหล่ของเขา ส่วนอีกข้างก็แตะลงเบาๆที่ศีรษะของเขา ลูบผมของเขาไปมาด้วยสัมผัสที่ให้ความรู้สึกแสนปลอบโยน
"ผมจะพาคุณกลับบ้านนะครับคุณซีวอน"
.........................................................
เทวทูตน่ะตกหลุมรักได้นะ
ลองมองตาสิ...เห็นความรักอยู่ในแววตาคู่นั้นรึเปล่า
"นายจะฟังแค่เสียงของฉัน"
"ครับ"
"เพราะนายฟังแค่เสียงของมินโฮ...และมินโฮก็บอกให้นายฟังแค่เสียงของฉันสินะ"
ซีวอนสรุปความกับตัวเองก่อนจะทำเสียงเหอะออกมาให้กับความจริงที่เขาสรุปได้ เขาผลักประตูรถปิดเสียงดัง กดปุ่มล๊อครถ แล้วจึงหมุนตัวเดินเข้าไปในตัวอพาร์ทเม้นต์โดยไม่คิดจะเหลือบสายตาไปมองเทวทูตหนุ่มคนนั้นเลยสักนิดว่าออกมาจากรถเรียบร้อยแล้วรึยัง พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำอพาร์ทเม้นต์ก็ยังคงทำตัวสุภาพกับเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลายด้วยการโค้งตัวลงทักทายและเปิดประตูให้ทั้งๆนี่ก็ปาเข้าไปตีสองกว่าแล้ว...แต่เขาก็ไม่ได้อารมณ์ดีมากพอที่จะเอ่ยปากชื่นชมเสียด้วยสิ
"คุณซีวอน"
เสียงอุ่นนุ่มนั่นชักจะไม่เสนาะหูของเขาอีกต่อไปเสียแล้ว
มือใหญ่ที่กำลังเอื้อมไปกดปุ่มเรียกลิฟต์ชะงักค้างอยู่กลางอากาศก่อนสุดท้ายแล้วเขาจะตัดสินใจกลับห้องโดยใช้บันไดหนีไฟแทนลิฟต์เหมือนเคย ซีวอนย้ำเท้าหนักๆตามนิสัยก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ไม่ยี่หระต่อเสียงฝีเท้ามั่นคงแผ่วเบาที่ตามหลังเขามาเลยสักนิด...เดี๋ยวก็ยอมแพ้ไปเอง เขาเชื่อ ผอมบางขนาดนั้นจะปีนขึ้นบันไดไปถึงชั้นเก้าโดยไม่หยุดพักได้ยังไง
"โกรธอะไรผมหรอครับคุณซีวอน"
"เปลา"
เขาแค่ต้องการเวลาอยู่กับตัวเอง
เวลาที่ไม่มีโจวคยูฮยอนอยู่ใกล้ๆคอยทำให้หัวใจวุ่นวาย
ซีวอนล้วงสองมือลงกระเป๋ากางเกงพลางก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ...จมลงไปกับความคิดของตัวเองอยู่เงียบๆ แต่กว่าจะรู้ตัวว่าเสียงฝีเท้าที่คอยไล่ตามเขามานั้นเงียบหายไปก็เป็นตอนที่สายตาเหลือบไปเห็นเลจเจ็ดอยู่บนผนังอันว่างเปล่าตรงหน้าเสียแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดยืนช่างใจตัวเองอยู่นานก่อนสุดท้ายแล้วก็ต้องสบถด่าตัวเองออกมาอย่างหัวใจ เพราะจนแล้วจนรอดหัวใจก็สั่งให้เขาหมุนตัวเดินกลับลงไปดู...และที่นั่งนิ่งอนู่ที่ขั้นบันไดตรงบริเวณชั้นห้านั้นก็คือคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของเขามากเหลือเกินทั้งๆที่ได้สบตากับมาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง
"นี่..."
เขาก้าวเดินลงไปยืนตรงหน้าคนตัวผอมที่บันไดขั้นที่ต่ำกว่าที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ขั้นหนึ่ง โจวคยูฮยอนช้อนตาขึ้นมามองหน้าเขา ใบหน้าขาวชื้นเหงื่อไปหมดจนเขาอดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วปาดเช็ดให้...และผิวกายของโจวคยูฮยอนก็ช่างอุ่นจัดจนมันน่าสัมผัสมากเหลือเกิน
"พอแล้วโจวคยูฮยอน"
"แต่ว่า..."
"เลิกเดินตามฉันทั้งๆที่นายไม่เต็มใจสักที"
"ผมปละ..."
"คิด...ก่อนที่นายจะพูดมันออกมา"
มือข้างที่ไล้เช็ดหยดเหงื่ออยู่ที่ข้างแก้มขยับกางออกเพื่อใช้สองนิ้วบีบแก้มนุ่มเอาไว้...ไม่แรงนัก หากแต่ก็มากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายหยุดขยับปากเจรจาได้ชะงักนัก ซีวอนแค่นเสียงหัวเราะขึ้นจมูกนิดก่อนจะดึงมืออีกข้างออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยกมันขึ้นเสยผมของตัวเองลวกๆ
"ฉันน่ะ...อยากจูบนายนะ"
"..."
"แต่ถ้านายจูบฉันตอบเพราะคนอื่นสั่งล่ะก็ ฉันยอมไม่จูบนายดีกว่า"
เขาสะบัดใบหน้าที่แลดูเย็นชาของเทวทูตผู้ซึ่งไม่มีทางเป็นของเขาทิ้งก่อนจะล้วงมือกลับเข้าใส่กระเป๋ากางเกงและก้าวผ่านคนตัวบางขึ้นบันไดต่อไป...เป็นฝ่ายทิ้งห่างออกมาอีกครั้ง
"คุณซีวอนเสียใจ"
"คงไม่หรอกมั้ง"
คนที่ถูกกล่าวหาว่าเสียใจพึมพำประชดประชันกับตัวเองเบาๆพลางย่ำเท้าก้าวต่อไปอย่างไม่คิดจะสนใจเสียงฝีเท้าซอยถี่ๆที่ดังตามหลังเขามา และเพียงไม่นานโจวคยูฮยอนก็วิ่งตามเขาขึ้นมาทันจนได้แม้จะหอบเหนื่อยจนตัวโยนก็ตาม ซีวอนยอมชะลอฝีเท้าของตัวเองให้ช้าลงนิด เขาเหลือบสายตาไปมองเทวทูตผู้ช่างมีความพยายามมากเหลือเกินด้วยหางตาเล็กๆก่อนจะเบือนสายตากลับมามองตรงไปเบื้องหน้าตามเดิม
โจวคยูฮยอนทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้งอีกครั้ง
"ผมรักคุณนะครับคุณซีวอน"
"หยุดพูดแบบนั้นสักทีโจวคยูฮยอน!"
เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียงของตัวเองดังมากขนาดนั้น หากแต่โถงทางเดินของบันไดหนีไปก็ทำให้มันฟังดูเหมือนเสียงตวาดไปเสียฉิบ ซีวอนคว้าจับต้นแขนเล็กเอาไว้เต็มมือก่อนจะผลักร่างผอมบางเข้ากระแทกกับผนังสุดแรง และขยับเบียดตัวแนบชิดเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจอันถี่รัวของคนที่มีสีหน้าตื่นตระหนกให้เห็นเพียงวูบหนึ่ง
"ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าพูด...ถ้าไม่รู้สึกก็อย่าพูด"
ซีวอนเลื่อนมือขึ้นไปจับประคองใบหน้าของเทวทูตหนุ่มที่ไม่มีทางเป็นของเขาเอาไว้เต็มอุ้งมือทั้งสองข้างก่อนจะกดจูบลงไปเบาๆที่หน้าผากเนียนราวกับอยากจะขอโทษที่ทำให้เจ็บเมื่อครู่
เขาก็แค่อยากให้อีกฝ่ายรู้วึกว่าเวลาเจ็บปวดน่ะมันรู้สึกอย่างไร
"เพราะฉันไม่ชอบ"
"แต่ผม...แต่ผม..."
ดวงตากลมของโจวคยูฮยอนวูบไหว ในขณะที่ใบหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยวราวกับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่รู้จะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้อย่างไร...แต่เชวซีวอนไม่อยากเข้าใจอะไรยุ่งยากแบบนั้น มันน่ารำคาญ เขาแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากของคนที่ยืนอยู่ใต้เงาของเขา ส่งเสียงชู่ว์ออกมาเบาๆเพื่อห้ามไม่ให้อีกฝ่ายได้ร้องไห้ออกมาจริงๆ
"ฉันไม่สนหรอกนะ..."
"..."
"แต่ก่อนที่ฉันจะตกหลุมรักนายไปมากกว่านี้...ช่วยรักฉันด้วยความรู้สึกหน่อยได้มั้ยโจวคยูฮยอน"
.............................................................
END
คำถาม .. คิดว่าโจวคยูฮยอนเป็นคนรึเปล่าคะ?
ความคิดเห็น