ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Just You พรหมลิขิตหัวใจบอกฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : The Thief

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 51


               
                ฮันคยองยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก...ปล่อยให้เจ้าเครื่องดื่มรสขมนั่นเป็นตัวรั้งเปลือกตาของเขาให้เปิดอยู่ต่อไปก่อนจะวางแก้วลงในที่วางแก้ว แล้วจึงเหม่อสายตาออกไปมองสายฝนนอกหน้าต่างที่เขาเลื่อนลงเพื่อรับลม มือใหญ่ข้างหนึ่งยกขึ้นวางไว้บนขอบประตูเพื่อนำมาเท้าคาง ส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นวางนิ่งอยู่บนพวงมาลัยราวกับพร้อมที่จะออกรถได้ตลอดเวลา...แน่ล่ะ...เขาน่ะพร้อมจะออกรถได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว ติดก็แต่นายหนุ่มผู้แสนดีของเขาเท่านั้นเอง

     

                ฮันคยองเหลือบมองนาฬิกาที่เรืองแสงอยู่ในความมืดบนคอนโซลหน้ารถแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ...นี่มันก็เลยเวลาผับปิดมานานโขแล้ว ทำไมยังไม่มาซักทีนะ...หรือว่าจะจำไม่ได้ว่าเขามาจอดรถไว้ที่ไหน...บ้านา...คนอย่างคิมคิบอมความจำดียิ่งกว่าชิพคอมพิวเตอร์เสียอีก แค่เรื่องเล็กๆแบบนี้ไม่น่าจะลืมหรอก ฮันคยองส่ายหน้าไล่ความคิดของตัวเองพลางนั่งรอคอยต่อไปในความมืดกับสายฝนที่กระหน่ำตกลงมา

     

                แสงไฟที่เริ่มดับลงของร้านค้าริมถนนและผับต่างๆทำให้ท้องถนนถึงกับมืดสลัว...ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่นั่งใจเย็นอยู่ในรถเริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมาบ้าง...หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?!...ชายหนุ่มสตาร์ทรถพร้อมกับกดปุ่มปิดกระจก...ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายตามหานายหนุ่มเอง เขาค่อยๆพารถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีน้ำเงินเข้มคันหรูออกมาจากซอยแคบๆ (ที่เขาย้ำนายหนุ่มไปแล้วว่าจะมาจอดคอย)

     

              โครม!!

     

              เอี๊ยดดด~ด!!

     

                แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพาเจ้ารถคันหรูวิ่งออกไปนอกถนนใหญ่ อะไรบางอย่างก็วิ่งชนด้านข้างรถของเขาดังโครมใหญ่จนเขาต้องเหยียบเบรคจนตัวโก่งเพราะความตกใจ

     

                "เฮ้ย!"

                ฮันคยองรีบปลดเซฟดี้เบลต์...ระหว่างนั้นก็สบถพึมพำเป็นภาษาจีนบ้านเกิดของตนไปด้วย แล้วจึงรีบเปิดประตูก้าวออกไปอยู่ท่ามกลางสายฝนอย่างไม่กลัวเปียกเพื่อวิ่งไปดูอะไรบางอย่างที่วิ่งมาชนรถของเขา...แต่อะไรบางอย่างดันกลายเป็นคนบางคนเสียนี่...ไม่สิ...สองคนต่างหาก

               

                    ฮันคยองรู้สีกเหมือนปากของเขาอ้าค้างด้วยท่าทางที่ทุเรศสุดๆ

     

                "เอ่อ...คุณ..."

                ชายหนุ่มร่างบางผู้มีผมสีน้ำตาลอมส้มบาดตาหันมาหาเขาด้วยใบหน้าเหยเกและมือที่ลูบๆคลำๆอยู่ที่หน้าผากของตน....คงเป็นคนที่วิ่งชนรถของเขาเป็นแน่

     

                "เป็นอะไรมั้ยครับ"

     

                "ไม่เป็นกับหอกน่ะสิ!"

                น้ำเสียงสุภาพของฮันคยองถูกโต้กลับมาด้วยคำพูดที่ไม่เป็นมิตรเท่าไรนักของร่างบางผู้ดูจะโกรธอยู่ไม่น้อย

     

                "เอ่อ...แล้วเพื่อนของคุณ...?"

                นัยน์ตาของคนถามเหลือบลงไปมองร่างท้วมที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาตะขิดตะขวงใจเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าการวิ่งชนรถเพียงแค่นั้นจะทำให้คนตัวใหญ่ถึงขนาดนั้นเป็นลมล้มตึงลงไปได้...ก็ขนาดไอ้หนุ่มตัวบางมันยังไม่เป็นอะไรเลยนี่!

               

    คำถามของเขาดูเหมือนจะทำให้ร่างบางนึกขึ้นมาได้ว่าพาเพื่อนมาด้วย  เจ้าหนุ่มผมสีแสบตาโบกมือไหวๆพลางก้มตัวลงไปสอดแขนเข้าไปใต้วงแขนของเพื่อนตัวใหญ่ของตน...ตั้งท่าเตรียมที่จะลากต่อ

     

                "อ้อเปล่าๆ....มันไม่เป็นอะไรหรอก นายไม่ได้ชนมัน"

                ฮันคยองเฝ้ามองคนที่พยายามจะพยุงเพื่อนของตัวเองขึ้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเป็นขบขันก่อนจะทนไม่ได้กับท่าทางเหมือนจะโดนทับเสียเองแบบนั้นจนต้องเข้าไปช่วย

     

                "ผมช่วยดีกว่านะครับ"

                เขาเอาแขนข้างหนึ่งของหนุ่มร่างใหญ่ขึ้นพาดบ่าโดยมีเพื่อนร่างผอมยืนประคองอยู่อีกข้าง

     

                "จะไปไหนครับ...ให้ผมไปส่งมั้ย"

     

                "ไม่ต้องหรอก ทำรถนายเปียกเปล่าๆ"

     

                "งั้นเดี๋ยวผมช่วงพยุงเพื่อนคุณไปละกัน...จะไปไหนล่ะครับ"

     

                "อ่ะ...เอ่อ...แค่อพาร์ทเม้นต์ตรงนี้เอง"

                ฮันคยองช่วยพยุงคนตัวใหญ่ให้เดินไปตามฟุตบาทโดยมีเพื่อนร่างบางของเขาคอยช่วยประคองอยู่อีกข้าง แต่ดูเหมือนคนร่างบางจะไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก เพราะเจ้าตัวดูท่าจะหนาวจนไม่มีแรงเอาเสียแล้ว

     

                "คุณชื่ออะไรครับ"

     

                "ฮะ?"

     

                "ชื่อของคุณน่ะ"

     

                "ฮยอ...อ่ะ...เอ่อ...อึนฮยอกน่ะ ลีอึนฮยอก"

                อาการอึกอักเหมือนกำลังจะหลุดพูดอะไรซักอย่างออกมาของอึนฮยอกไม่ได้รอดพ้นสายตาอันคมกริบของคนที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งได้....กลับกัน มันทำให้ฮันคยองสนใจนายลีอึนฮยอกคนนี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

     

                "แล้วเพื่อนของคุณ?"

     

                "ชินดงน่ะ...เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย มันก็เลยสลบไป" อึนฮยอกอธิบายสาเหตุด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มพลางเหลือบสายตาไปมองด้านหลังเป็นพักๆราวกับกลัวใครจะไล่ตามมา...ซึ่งนั่นก็ไม่พ้นสายตาของฮันคยองอีกนั่นล่ะ

     

                "ฝนตกแบบนี้ก็แย่เลยนะครับ"

     

                "ก็ฉันไม่ได้รวยมีรถขับแบบนายนี่!" คนตัวเล็กตวัดเสียงกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เรียกเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้เบาๆ....ช่างประชดเสียด้วย

     

                "ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อย"

     

                "แล้วหมายความว่าไงล่ะ...นายนี่พูดจาแปลกๆนะ"

     

                "อือ...โอยยย~ย...ฮยอกแจ ฉันปวดกรามชิบเป้งเลยว่ะ"

     

                "เฮ้ยชินดง!!...ชินด้งงง~ง!...แกฟื้นแล้วนี่!!"

                คนตัวเล็กตะโกนร้องออกมาทันทีที่เพื่อนร่างใหญ่ของตนครางพึมพำๆออกมาและเริ่มรู้สึกตัวจนไม่ได้ติดใจกับชื่อที่เพื่อนเอ่ยเรียกออกมาแม้แต่นิดเดียว...แต่อีกคนน่ะ...ได้ยินมันเต็มสองรู้หูเลย


                ฮันคยองยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นเป็นรอยยิ้มพลางเอาแขนที่พาดบ่าของตนอยู่ออกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสามารถที่จะยืนด้วยขาตัวเองได้แล้ว....ลีฮยอกแจอย่างนั้นสิ...หึ!...มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

     

                "แกเป็นไงมั้งวะ ไอ้บ้านั่นซัดแกทีเดียวซะล้มตึง...ฉันน่ะโคตรตกใจเลย แกเจ็บตรงไหนมั้ยวะ"

                หน้าตาตื่นๆของคนตัวเล็กที่ถามนู่นถามนี่ไม่หยุดทำเอาคนร่างสูงที่เฝ้ามองหลุดหัวเราะออกมาเบาๆอย่างเสียไม่ได้ แต่โชคยังดีที่เสียงของสายฝนกลบมันไปจนมิดทำให้คนที่เขาหัวเราะไม่ทันได้ยิน...และกว่าฮยอกแจจะนึกออกว่ามีอีกคนอยู่กับพวกเขาด้วย มันก็ผ่านไปนานหลายนาทีจนฮันคยองเกือบจะยอมแพ้เดินกลับไปเงียบๆเสียแล้ว

     

                "อ๊ะ!ขอบคุณนายมากนะ"

                พูดพลางคลี่รอยยิ้มมาให้พร้อมกับโค้งตัวลงเล็กน้อย แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเพราะความหนาวเย็น...มันทำให้ฮันคยองใจเต็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น...น่ารัก...เป็นคำสรุปง่ายๆที่เขาจะใช้อธิบายคนตรงหน้า

     

                "ผมไปส่งคุณดีกว่านะฮยอกแจ"

     

                "ตามใจก็...อ่ะ...เอ้ย!..."

                คนที่กำลังจะก้าวเดินนำออกไปชะงักเเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตนถูกเรียกว่าอะไร ฮยอกแจมองหน้าคนเรียกอย่างตื่นตระหนกแบบไม่มีปิดบังก่อนดวงตาจะเริ่มล่อกแล่กคล้ายกำลังหาทางหนี

     

                "แกเป็นอะไรของแกฮยอกแจ"

     

                "อย่าเรียกชื่อนี้ตอนออกมาทำงาน...ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่หรอวะชินดง!"

     

                "ตอนนี้มันทำงานที่ไหนแล่า"

     

                "มันมีคนอื่นอยู่แกเห็นมั้ยวะ!"

                ภาพที่ทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเสียงกระซิบที่ไม่ได้เบาเอาเสียเลยท่ามกลางสายฝนที่หนาวเข้ากระดูกทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง(แต่เสียงมันดังกว่าเสียงฝนเสียนี่)อดที่จะอมยิ้มอยู่คนเดียวอีกครั้งไม่ได้

     

                "นาย!...ฉันบอกแล้วนี่ว่าฉันชื่ออึนฮยอก"

     

                "ทำไมล่ะครับ ชื่อฮยอกแจไม่เพราะหรอครับ"

     

                "นั่นสิฮยอกแจ แกจะเรื่องมากอะไรนักหนาวะ"

     

                "ไอ้อ้วน!...แกอยากให้ฉันติดคุกมากรึไงวะห๊า!!"

                คนตัวเล็กกรีดเสียงขึ้นสูงปรี๊ดพร้อมกับไล่ตบตีเพื่อนร่างใหญ่ของตนที่พยายามจะไม่โต้ตอบใดๆกลับเป็นการใหญ่ จนคนเฝ้ามองต้องถอนหายใจและเดินเข้าไปห้ามทัพด้วยการยกร่างบางของคนช่างโวยวายขึ้นพาดบ่าเอาเสียดื้อๆ

     

                "อพาร์ทเม้นต์ของคุณไปทางไหนครับ" ฮันคยองหันไปถามชินดงที่ดูจะยังคงงงๆกับการกระทำของคนที่ยังถือว่าเป็นคนแปลกหน้าก่อนร่างท้วมจะรีบก้าวจ้ำอ้าวเดินนำทางไปทันที...คงไม่อยากอยู่คอยระเบิดลงเป็นแน่...ใกล้แล้วล่ะ...เขาผู้ซึ่งอยู่กับไอ้หนุ่มจอมโวยวายนั่นมาเกือบสิบปีรู้ดี....คอยแค่เวลาให้หายตกใจแค่นั้นเอง

     

                "เฮ้ยยยย!!...ไอ้บ้า!!...ปล่อยฉันนะโว้ยยย!!"

                ตู้ม~!!...นั่นไง...ลงมาโครมเบ้อเริ่มเลย

     

                "บอกให้ปล่อยไงวะ...ไม่ปล่อยฉันจะร้องจริงๆนะ"

     

                "แล้วนี่คุณไม่ได้ร้องอยู่รึไงครับฮยอกแจ"

                คำย้อนที่เจ็บแสบใช่เล่นของคนที่มีท่าทางสุภาพเสมอต้นเสมอปลายทำให้ฮยอกแจถึงกับสะอึกก่อนจะปลี่ยนวิธีการเอาตัวรอดมาเป็นดิ้นรนแทนที่ แต่นั่นก็ไม่ได้ระคายผิวคนอย่างฮันคยองเท่าไรนักหรอก เขาโยนร่างบางขึ้นเบาๆเหมือนจะกระชับให้อยู่กับไหล่มากขึ้นก่อนจะก้าวเดินต่อไปราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆพาดอยู่บนบ่านอกจากอากาศธาตุ

     

                "อ๊ากกกกก~ก!!...ปล่อยฉันสิวะ!....ชินดง...ไอ้ชิงด้งงงง~ง!!...แกช่วยฉันที ฉันไม่รู้จักหมอนี่นะ! ฉันเพิ่งเจอเขาเมื่อกี้เองอ่า....แก๊~!!...แกอย่าปล่อยฉันทิ้งไว้กับคนแปลกหน้าในสภาพแบบนี้เซ่!!...ชินดงฮี!!"

                ชินดงยกมือขึ้นปิดหูพึ่บทันทีที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั่นพลางสาวเท้าเดินนำออกไปให้เร็วกว่าเดิมอีกเท่าตัวเพื่อทิ้งห่างไอ้เจ้าเสียงโหยหวนบาดหูของเพื่อนรัก...ให้อยู่แบบนั้นซักพักก็ดีแล้วล่ะ ปล่อยลงมายืนเดี๋ยวเขาก็ได้โดนทำร้ายร่างกายแบบไม่เห็นใจอีก

     

                "เหนื่อยแล้วสินะครับ" ฮันคยองหันไปถามคนที่เริ่มเงียบไป

     

                "เออสิวะ!...ไอ้ชินดงบ้า!...ฉันจะไม่แบ่งข้าวเย็นให้แกอีกเลย คอยดูสิ!"

                คนตัวเล็กตวัดเสียงตอบบกลับแล้วจึงบ่นพึมพำๆอยู่คนเดียวด้วยเสียงที่ไม่เบาเอาเสียเลยจนคนได้ยินอดที่จะอมยิ้มอยู่คนเดียวอีกครั้งไม่ได้ นอกจากช่างประชดประชันแล้วยังขี้น้อยใจซะอีก...น่ารักซะจริงนะลีฮยอกแจ

     

                "จะอธิบายให้ผมฟังได้มั้ยครับว่าทำไมคุณถึงเป็นทั้งฮยอกแจทั้งอึนฮยอก"

     

                "เรื่องมันยาวน่ะ"

     

                "เรามีเวลาเหลือเฟือนี่ครับ"

     

                "ใครว่า...ถึงอพาร์ทเม้นต์ฉันแล้ว" ฮยอกแจตอบด้วยเสียงปัดๆอย่างไม่พอใจพลางยันตัวขึ้นมามองข้ามไหล่ของคนแบกไปยังอพาร์ทเม้นต์เก่าๆที่ชินดงกำลังเดินเลี้ยวเข้าไป

     

                "นี่หรอครับ"

     

                "ฉันไม่ได้รวยแบบนายนี่!"

                ดูเหมือนจู่ๆคนตัวเล็กจะโกรธอะไรขึ้นมาอีกซักอย่าง ถึงได้ตวัดเสียงใส่เขาแบบนี้ แต่ฮันคยองก็ไม่คิดจะสนใจหาสาเหตุ (เพราะเขาเดาได้ลางๆว่าเขาต้องมีส่วนด้วยแน่ๆ)

     

                เขาเดินตามร่างท้วมเข้าไปด้านใน....ซึ่งดูทรุดโทรมมากกว่าด้านนอกเสียอีก ปีนบันไดขึ้นไปด้วยตัวเปียกโชกจนถึงชั้นสามอันเป็นชั้นสูงสุดก่อนในที่สุดคนนำทางจะหมุนตัวไปไขประตูบานหนึ่งให้เปิดออก...เผยให้เห็นห้องพักแคบๆให้คนที่เดินตามหลังมาได้เห็น...มันแคบเกินไปสำหรับคนสองคน และมีเฟอร์นิเจอร์น้อยเกินไปสำหรับคนสองคน

     

                "จะดื่มชาก่อนมั้ย...หรือว่า..."

     

                "แกจะไปชวนทำไมวะ! หมอนี่เป็นคนแปลกหน้านะโว้ย แกให้คนแปลกหน้าเข้าห้องได้ไงวะห๊า!! ฮยอกแจแว้ดขึ้นมาเสียงสูงจนคนแบกหลุดเสียงหัวเราะเบาๆออกมา...ยังมีแรงเหลืออยู่อีกหรือนี่ ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

     

                "ไก่เอ๊ย"

     

                "ว่าไงนะ"

     

                "เปล่าครับ" ตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะพลางย่อตัวปล่อยคนบนบ่าให้ลงมายืนบนพื้น ซึ่งทันทีที่ปลายเท้าสัมผัสเข้ากับพื้นห้อง คนตัวเล็กก็รีบวิ่งแจ้นไปหลบแยู่ข้างหลังเพื่อนของตนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่วายทำเก่งโผล่มาทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา...ให้ตายสิ!...น่ากลัวตายล่ะเจ้าไก่น้อย

     

                "ไปได้แล้ว" ฮยอกแจเอ่ยปากไล่โดยไม่มีอ้อมค้อมพลางโบกมือไล่ไหวๆประกอบคำพูด ปล่อยให้ชินดงผู้ซึ่งยืนอยู่เป็นแนวหน้าทำหน้าลำบากใจให้แก่แขกผู้มาเยือนเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไร....อยากชวนให้อยู่ก่อนก็อยาก แต่จะขัดใจไอ้เพื่อนตัวดีที่ดูจะปอดกับไอ้หนุ่มตัวสูงคนนี้ไปแล้วมันก็กระไรอยู่

     

                "หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะครับฮยอกแจ ชินดง...ลาก่อนครับ"

                ฮันคยองโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องนั้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆบนมุมปาก ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทอันเปียกชุ่มของตนออกมาถือพาดไหล่ไว้ เดินตากฝนกลับไปยังรถที่จอดทิ้งไว้อย่างอารมณ์ดีและดูเหมือนจะไม่หนาวเลยซักนิด

     

                ...ลีฮยอกแจ...

     

                ...ก็น่ารักดี...

     

                เขาหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆพลางส่ายหน้าไล่ความคิดนั้นให้ออกไปจากหัว...คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ...ให้ตายสิ!...ไม่รู้ทำไมความคิดแบบนั้นถึงทำให้เขาเศร้านะ

     

                ผลั่ก!

     

                "ขอโทษครับ...อ้าว!...คุณคิบอม" คนที่กำลังเอ่ยปากขอโทษชะงักไปเมื่อเห็นชัดตาว่าคนที่ตนชนจนล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นแบบนั้นคือนายหนุ่มของตนที่เขากำลังจะออกตามหา(แต่ก็ดันลืมไปสนิท)

               

                            ชายหนุ่มบนพื้นกระพริบตางงๆอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่ยืนค้ำตัวของเขาอยู่ด้วยสายตาเหมือนจะแปลกใจ

     

                "ฮันคยองเองหรอ...รถอยู่ไหนวะ"

     

                "ก็จอดอยู่ที่เจ้านายบอกให้ผมจอดคอยไงครับ"

                คิบอมกระพริบตาถี่ๆอีกครั้งก่อนจะมอบสีหน้าและแววตาที่ซื่อที่สุดเท่าที่ฮันคยองเคยเห็นตลอดระยะการทำงานหลายปีของเขากับนายหนุ่มคนนี้มาให้

     

                "หรอ...ฉันลืมว่ะ"

     

    ...................................................


    อันยองค่ะ^^ ได้ฤกษ์ทักทายกันซะทีหลังจากมาลงมาตั้งสามตอน ช่วงนี้ชีวิตค่อนข้างงวุ่นวายอยู่กับการเรียนพิเศษอยู่เล็กน้อยเลยไม่มีเวลามาทักทาย สำหรับฟิคเรื่องนี้ก็เปนฟิคเอสเจเรื่องแรกที่คยแต่งนะ(เปนวายเรื่องแรกด้วย) ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ^^ ขอบคุนทุกๆคอมเม้นต์เลยน้า ...คิเฮไปแล้ว ฮันฮยอกก็ไปแล้ว เหลืออีกคู่นึง..เดากันได้มั้ยเอ่ย(เดาได้แน่เลยอ่ะ- -*) ไปแล้วดีก่า...คิเฮรักคิเฮหลงทุกคนจ้า(คนแต่งสาวกคิเฮ...ต้องเข้าจัย- -)




     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×