คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : The spring love :: [1] เหตุเกิดเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“ นี่ไดสุเกะ... ชั้นสงสัย... ”
“ หือ? สงสัยอะไร? ”
“ ว่าทำไม... เวลาที่ชั้นมองนายเนี่ย ... ชั้นเกิดอารมณ์ว่ะ ”
ผมที่กำลังจะคีบซูชิเข้าปากถึงกับอึ้งและเผลอปล่อยซูชิหน้าโปรดลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางมองไอ้หน้าหล่อเหมือนพระเอกหนังฝรั่งอย่างโอแลนโด้ บลูมที่ตัดทรงผมสั้นเรียบร้อยและทำตาใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกับว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ นะ... นายพูดอะไรน่ะ... =[]=! ” ผมพูดตะกุกตะกัก เฮ่ย!! นี่ผมเป็นผู้ชายนะเฟ้ยยยย!! แล้วไอ้เจ้าคนที่พูดกับผมตะกี้ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันและดันเป็นเพื่อนสนิทเก่าแก่ของผมตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัยซะด้วย ถ้าอยู่ดีๆมีเพื่อนสนิทมาพูดกับคุณแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องอึ้งเป็นธรรมดาน่ะสิ!!
“ เป็นอะไรของนายน่ะ... มันแปลกมากรึไง? ” เขาทำน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นผมเหวอกับสิ่งที่เขากำลังจริงจังอยู่ “ นี่ชั้นพูดจริงๆนะ... ไดสุเกะ... นายคิดว่าไง ?? ”
“ คะ... คิดอะไร??... ” ผมยังคงอึ้ง
เอ๊ะ????
รึ... หรือว่า... เจ้านี่จะรู้ตัวแล้ว... ว่าผมชอบเค้า .... ?????
ผมชื่อนิชิซาว่า ไดสุเกะ มีผมสีน้ำตาลแดง นัยน์ตาสีเขียว อายุ 23 ปี กรุ๊ปเลือด A สูง 168 หนัก 53 ตอนนี้ผมเป็นมือกีต้าของวงดนตรีชื่อดังอย่างวง ‘Beyond’ (บียอนด์)มาจากการออดิชั่นเมื่อปีที่แล้ว ผมที่ไม่ได้จริงจังกับดนตรีเท่าไหร่ แต่ดันฟลุคเข้ามาได้เพราะเพื่อนๆดันผมเข้ามา วงนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนและจัดตั้งมาได้1ปีแล้ว และตอนนี้ก็ดังเป็นพลุแตกจนถึงมีคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศเลยทีเดียว
ตอนนี้ผมและเพื่อนสนิทเก่าแก่ที่ไม่ใช่เพื่อนในวงมาอยู่กันที่ร้านซูชิบาร์ของร้านอาหารชื่อดังในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ส่วนไอ้คนตัวสูงใหญ่ หน้าเหมือนพระเอกหนังฝรั่ง-อาหรับ และแต่งตัวเหมือนนักธุรกิจคนนี้คือเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของผมเอง ชื่อฟุคุดะ โทชิยูกิ เราอายุเท่ากัน จบมาจากโรงเรียนเดียวกันมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม่ของโทชิเป็นคนอียิป ส่วนพ่อก็เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษ ก็เลยได้ลูกออกมาฝรั่งจ๋าแบบนี้ ตอนนี้โทชิทำงานต่อที่บริษัทระดับบิ๊กๆของประเทศซึ่งเป็นสาขาย่อยของพ่อเขา ไม่ว่าใครก็รู้จักพ่อของเขารวมถึงเขาด้วย เขาได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากทั้งๆที่อายุเพียง23ปี แต่ก็อาจจะเป็นเพราะเส้นสายของพ่อเขาด้วย แต่ถึงแม้บ้านจะมีฐานะและมีชื่อเสียงมากแค่ไหน โทชิไม่ทำตัวเป็นคนดังในวงการธุรกิจเลย เขาเป็นคนซื่อๆ อีกทั้งยังไม่หยิ่งแถมยังมองโลกในแง่บวกเสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนพูดตรงไปหน่อย ถ้าไม่ชอบอะไรก็จะบอกว่าไม่ และเอาแต่ใจตัวเองก็เถอะ แต่หน้าตาที่ดึงดูดคนรอบตัวให้อยากเข้าใกล้เขา รวมถึงผมด้วย... พอรู้สึกตัวอีกที ก็กลายเป็นว่าผมรักเขาเข้าซะแล้ว...
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตอนช่วงผิดเทอมหน้าร้อนที่พวกเรากำลังจะขึ้นม.6 ตอนที่ได้เห็นโทชิยิ้มแย้มและเล่นเหมือนเด็กๆตอนไปว่ายน้ำด้วยกัน ตอนที่เขาจับไหล่ของผม ตอนที่เขากระซิบข้างหูผม ตอนที่เขาหายใจอยู่ข้างๆผม แค่สิ่งเล็กๆแค่นี้ก็สามารถทำให้หัวใจผมเต้นรัวราวกับจะระเบิดออกมา หลังจากนั้นผมก็เริ่มกลัวว่าเขาจะรู้ความรู้สึกของผมเข้า เราเป็นผู้ชายด้วยกัน ถึงแม้โทชิจะไม่เคยแสดงท่าทีว่ารังเกียจพวกรักร่วมเพศ แต่ผมคิดว่าถ้าเขารู้ความรู้สึกของผม เขาจะตีตัวออกห่างผมไป ผมจึงได้แต่ปกปิดความรู้สึกนี้และคอยอยู่ใกล้ๆเขาในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งๆที่ผมซ่อนมันไว้ขนาดนี้แท้ๆ... ทำไมเขาถึงพูดเหมือนกับว่าเขารู้ความรู้สึกที่ผมมีให้เขาอย่างนั้นล่ะ?? ... หรือว่า... เขาต้องการจะเค้นให้ผมพูดความจริงออกมา?... แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่มีทางบอกอะไรที่จะทำลายมิตรภาพของพวกเราเด็ดขาด
“ คิดยังไงน่ะเหรอ?! ทำไมชั้นต้องคิดเรื่องแบบนี้ด้วยเล่า =[]= ! ” ผมตอบคำถามไอ้คนจริงจังผิดเรื่องตรงหน้าผม “ นายก็เก็บเอาไปคิดเองสิเฟ้ยยยยย!! ”
โทชิยูกินิ่งอึ้งเล็กน้อยก่อนที่จะสลัดความคิดบางอย่างของตัวเองออก
“ อื่ม... นั่นสินะ... ” โทชิเกาหัวแกร่กๆก่อนจะหันมายิ้มให้ผมเหมือนปกติ “ โทษทีนะ ที่พูดอะไรแปลกๆไปน่ะ... เรื่องแบบนี้ ชั้นก็ต้องคิดเองสิเนาะ -0- !”
ผมมองท่าทีของโทชิที่ผิดคาดไปจากความคิดผมอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าเขาจะหัวเราะออกมาดังๆแล้วบอกว่า ล้อเล่นหน่าๆ^^ ... แต่เขากลับยิ้มและหัวเราะเหอๆอย่างไม่เข้าใจตัวเอง
โทชิที่หันกลับไปคีบซูชิเงียบๆและครุดคิดบางอย่าง เฮ่ย!! นี่นายเอาไปคิดจริงๆรึไง=[]=!! แต่พอเห็นผมยังจ้องเขาด้วยสายตาแปลกๆก็หันมาพูด
“ ลืมมันไปซะเถอะหน่า... เอาเป็น... นายก็ทำเป็นเหมือนว่าชั้นไม่ได้พูดอะไรละกัน ลืมๆมันไปซะ-*-! ” แล้วเขาก็หันกลับไปคีบซูชิกินตามเดิมด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างบอกไม่ถูก
อ่ะ... เอ๋... ให้ลืมมันน่ะเหรอ... ที่ก่อนหน้านี้นายเพิ่งจะพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า นายเกิดอารมณ์กับเพื่อนสนิทชิดเชื้อของนายอยู่เลยนี่หว่า=[]=! คนปกติที่ไหนเขาพูดแบบนี้กับเพื่อนสนิทของตัวเองกันล่ะเนี่ย!! หรือว่า... เขาอาจจะรู้ว่าเราคิดยังไงกับเขา ก็เลยกำลังจะตอบรับความรู้สึกของเรา...
ปะ... เป็นไปไม่ได้หน่า!!
“ อ๊ะ !! โทษทีๆๆ ชั้นมาสายไปน่ะ ^^|| ” หนุ่มแว่นร่างสูงโปร่งหน้าสวย ผมยาวสีน้ำตาลทองแดงถูกมัดอย่างลวกๆเดินหอบแฮ่กๆเข้ามานั่งตรงที่นั่งที่ยังว่างติดกับผม “ พอดีวันนี้พวกบรรณาธิการชั้นจะมาเอาต้นฉบับไปส่งสำนักพิมพ์น่ะ เลยต้องรีบปั่นให้เสร็จ ”
เขาคือโอกาว่า โคตะ เพื่อนเก่าของผมเช่นกัน กลุ่มที่สนิทๆกันจริงๆและยังติดต่อกันของผมตั้งแต่ม.ปลายก็มีผม โทชิยูกิ แล้วก็โคตะ โคตะเป็นคนที่เหมือนพี่ใหญ่ในกลุ่มของเรา เขารับปรึกษาปัญหาของพวกเราเสมอ แถมยังรู้เรื่องทุกเรื่องของทุกคนแม้เขาเหล่านั้นจะไม่ได้หลุดปากมาให้โคตะรู้เลยก็ตาม ตอนนี้เขาเป็นนักเขียนนิยายหลากหลายแนวให้กับสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง และอยู่ในช่วงกำลังรุ่งโรจน์ซะด้วย
“ ฮ่าๆๆๆ ดูหน้านายก็รู้ วิ่งหน้าตั้งมาเชียว^^ ” โทชิแซวเพื่อนสนิท “ ว่าแต่งานเป็นไงบ้างน่ะ? เห็นหนังสือเล่มก่อนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้วยไม่ใช่เหรอ? ”
“ ก็ใช่... แต่รู้มั๊ยว่ากว่าชั้นจะผ่านตอนนั้นมาได้ !! เล่นเอไม่ได้กินไม่ได้นอนจนเข้าโรงบาลไปแล้วครั้งหนึ่งนะ=[]=!! ” โคตะโวยวาย “ พอตอนเขียนเรื่องนี้ชั้นก็แทบเป็นแบบเดียวกัน โอยยย ชั้นไม่มีอะไรตกถึงท้องมา 2 วันแล้วนะเนี่ย = =|| ”
“ ก็เพราะนายไม่ขยันตั้งแต่ต้นไงล่ะ ว่างทีเป็นต้องออกมาเที่ยวกับพวกชั้นตลอด จะไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ไง ” โทชิแซว
“ หุบปากไปเลยแก = = !! ดูสิว่าใครกำลังพูด! ลูกเจ้าของบริษัทฟุคุดะสาขาโตเกียว ที่ตอนนี้กำลังมากินเลี้ยงกับเพื่อนตั้งแต่ยังไม่หมดเวลางานเนี่ยนะ! ”
“ แต่ยอดขายบริษัทชั้นก็ยังไม่ตกนะ แถมยังพุ่งสูงกว่าเก่าด้วย^^ ” โทชิยิ้มรับ
“ ซักวันชั้นจะไปทำให้บริษัทแกล้มละลาย!! ”
“ เอาสิ^^
แล้วชั้นจะรอดูนะ พ่อนักเขียนไส้แห้ง~ อ๊ะๆ เห็นว่านิยายเรื่องก่อนก็โดนแบนนี่ เค้าว่าเนื้อหารุนแรงเกินไป *0*?? ”
“ มันก็แค่เรื่องเดียวแหล่ะหน่า!! ตอนนั้นมันก็แค่ดวงตก !! =A= ! ”
ผมมองพวกหนุ่มไฟแรงสองคนเถียงกันเรื่องอาชีพที่ตัวเองทำ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เก่งไปซะทุกเรื่องตั้งแต่กีฬาและการทำงาน แถมยังหน้าตาดีอีก โทชิ ตอนนี้ธุรกิจของพ่อเขาที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีท่าทีจะล้มละลายแน่นอน ส่วนโคตะที่จบเภสัชมาตอนนี้เป็นนักเขียน เขาเห็นแววมาตั้งแต่ตอนอยู่ม.6 แล้วล่ะ และตอนนี้หนังสือที่เขาเขียนหลายเล่มก็ได้รับรางวัลมากมาย แต่ถึงเขาจะไม่เขียนหนังสือก็มีร้านยาของพ่อแม่เขามารองรับอีกที ดูเป็นอาชีพที่มั่นคงทั้งคู่ ส่วนผมที่ถึงตอนนี้จะดัง แต่เพราะการเป็นนักร้องนี่สิ เลยทำให้ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงต่อไป ซักวันก็ต้องมีวันดับลง แล้วถึงตอนนั้นผมจะทำยังไง ผมที่จบบริหารธุรกิจเหมือนกับโทชิ แต่ผมไม่มีบริษัทมารองรับผมนี่สิ... ผมจะทำไงดี...
“ นี่... แล้วนายล่ะ ไดสุเกะ ”
โคตะทักผมที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้ฟังที่พวกเขาพูดกันเลย “ หือ? อะไรเหรอ? ” ผมถาม
“ วงดนตรีของนายน่ะ เป็นไงบ้าง เห็นว่าดังมากๆเลยหนิ ” โคตะพูดต่อ
“ อ้อ... อื่ม... ก็เรื่อยๆน่ะ... ” ผมตอบ
“ วงบียอนด์ที่หัวหน้าวงชื่อชิราอิชิ โทรุใช่มั๊ย พ่อแม่ชั้นรู้จักกับพ่อแม่เขาน่ะ ” โทชิยูกิบอกพร้อมยิ้ม “ ตอนเด็กๆชั้นก็ไปเที่ยวสวนสนุกของแม่เค้าบ่อยๆน่ะ แต่พอบริษัทของพ่อเค้าโตขึ้นก็ดันขายสวนสนุกไปให้คนอื่น ทั้งๆที่ดูแลสวนสนุกควบไปด้วยก็ดีกว่าแท้ๆ... แต่ก็ไม่คิดเลยนะ... ว่าลูกของตระกูลชิราอิชิจะไปเป็นนักร้องดังขนาดนั้นซะได้ ”
“ อ้อ! โทรุ ~ นักร้องหน้าหล่อแห่งทศวรรษ ชั้นเคยได้ยินฉายานี้มาเหมือนกันนะ ” โคตะเสริม “ เห็นว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนตั้งวงนี้ขึ้นมาเอง ปั้นแค่ปีเดียวถึงกับดังขนาดนี้แล้ว เรียกได้ว่าเจ๋งจริงๆ ”
ชิราอิชิ โทรุก็เป็นแบบนั้นจริงๆน่ะล่ะ นี่!! ชมมือกีต้าบ้างสิเฟ้ยยย ชมทำไมแต่นักร้องนำน่ะ=[]=!
หลังจากคุยสัพเพเหระได้ซักพัก ไม่นานนักเราก็ทานเสร็จและออกจากร้าน และคิดว่าจะไปหาร้านเหล้าหาอะไรดื่มกันต่อ ผมที่วันนี้ไม่มีงานก็เลยตอบตกลงไป แต่พอพวกเรากำลังจะเรียกแท็กซี่ไปต่อ รถเบ้นซ์คันหรูก็มาจอดตรงหน้าเราและมีผู้หญิงสาวสวยในชุดเดรสสีชมพูอ่อนลายดอกไม้วิ่งมาหาโทรุ
“ โทชิยูกิ!! ” เธอโบกมือเรียกพร้อมวิ่งมาเกาะแขนโทชิหนึบ เล่นเอาผมแทบหลีกทางไม่ทัน “ แหม~ มาเที่ยวกับเพื่อนเหรอคะ^^ ไม่บอกกันเลยนะ!! ”
โทชิมองเธอเมินๆก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้พวกผมไปกันก่อน เขาบอกว่ายังไงจะตามไปทีหลัง ผมก็ได้แต่มองเขาเดินไปกับผู้หญิงสวย(มากๆ)แปลกหน้าคนนั้น โคตะยิ้มให้ผมและจูงมือผมก่อนจะบอกว่า เราไปกันก่อนเถอะ เหมือนไม่อยากให้ผมเห็นพวกเขาสองคนจีบกันให้เจ็บเล่นๆ
นั่นสินะ... โทชิมักจะมีสาวๆมาเกาะแกะตลอดตั้งแต่ตอนม.ปลายแล้ว เขามักจะเป็นที่ป๊อบปูล่าเสมอในหมู่สาวๆ เพราะด้วยใบหน้าแนวพระเอกหนังฝรั่งที่ไม่เหมือนใคร แถมที่บ้านก็รวยเอามากๆ และเขาก็เก่งกีฬาแบบสุดๆและแทบทุกประเภท แต่ไม่ใช่แค่กีฬานะ เขายังเรียนเก่งอีกด้วย
มันก็ไม่แปลกหรอกว่าตอนนี้เขามีแฟนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น... ความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆในอกของผมก็ไม่เคยหายไปซักที=3=
“ ไดสุเกะ... ” โคตะเริ่มบทสนทนาเมื่อเขาเห็นผมเหม่อๆ ตอนนี้พวกเรากำลังนั่งกันอยู่ที่บาร์ใกล้ๆกับร้านที่เพิ่งไปกินมา “ ชั้นคิดว่านะ... ”
“ หือ?? ”
“ คือ... ชั้นคิดว่าโทชิคงจะบอกอะไรแปลกๆกับนาย อย่างเช่นว่ามันเกิดอารมณ์หรืออะไรนำนองนี้... ใช่มั๊ย? ”
เอ๊ะ =A=?? อะไรน่ะ?? .... ทำไม... โคตะถึง...
“ คือตอนนี้นายดูเมือนจะกำลังกังวลเรื่องบางอย่างอยู่ ” เขาพูดต่อ
ทะ... ทำไม=A=
ทำไมโคตะถึง... ถึงรู้เรื่องที่โทชิบอกกับผม ??
โคตะมองหน้าผมที่กำลังทำท่ากระวนกระวายก่อนจะถอนหายใจเบาๆเหมือนรู้ความคิดของผม “ เฮ้อ... ก็มันเพิ่งบอกชั้นน่ะ คือพอดีเมื่อเช้าดันไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายเดียวกับมัน ”
“ อ่ะ... ละ... แล้ว... ” ผมตะกุกตะกัก “ โคตะ... นายคิดว่าไงอ่ะ... ”
“ อื่ม... ” โคตะทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะจิบคอกเทลในแก้วตัวเอง “ ก็นะ... ชั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอก... แต่นายหน้าตาน่ารักดี แถมยังร่างบางตัวเล็กเหมือนเด็กผู้หญิงอีก เพราะงี้เลยทำให้โทชิมันรู้สึกอะไรๆแบบนั้นก็ได้... แต่ชั้นก็ไม่คิดว่ามันจะพูดบอกนายไปตรงๆแบบนี้ ”
เฮ่ โคตะ นายต้องการจะชมชั้นรึอะไรกันเนี่ย= = !! กลายเป็นว่าผมกำลังเอาแต่มองแก้วไวน์ตรงหน้ากลับหน้าแดงแจ๋และทำตัวไม่ถูกซะแล้ว
“ แต่ยังไงก็เถอะ... นายก็อย่าคิดมากละกัน ” โคตะหันไปจิบคอกเทลสีฟ้าในแก้วเขาต่อ
จะบอกว่าให้ชั้นไม่คิดมากก็เถอะ... แต่ชั้นคิดไปต่างๆนานานแล้วเนี่ยตอนนี้!! =[]=! พระเจ้า! ผมสับสนไปหมดแล้ว =A=||
“ อย่าเก็บมันมาใส่ใจเลยหน่า ” โคตะพูดต่อพลางมองท่าทีสับสนของผม “ ถ้านายปล่อยให้โทชิมันทำตามที่มันอยากทำ จะกลายเป็นว่านายจะทำร้ายตัวนายเองไปเปล่าๆ ”
เอ๊ะ ? “ นายหมายความว่าไง...? ”
โคตะหลับตาเกาหัวแกร่กๆก่อนจะหันมาคุยกับผมต่อ “ ก็ไม่ได้หมายความว่าไงหรอก... ก็เจ้าโทชิน่ะ มันเหมือนหมาบ้า นายรู้ใช่มั๊ย? ” เขาเอาหน้ายื่นเข้ามาใกล้ผมพลางจ้องตาผมด้วยสีหน้าจริงจัง “ เจ้านั่นไม่คิดหรอกว่าจะหญิงหรือชาย แค่คิดว่าตัวเองสนใจและอยากจะทำก็สามารถข่มขืนได้ทุกคนล่ะ นายน่ะ... ระวังตัวไว้ดีๆล่ะ ”
อ่า... พอได้ยินแบบนี้ ก็พอเข้าใจว่าโทชิคงไม่รู้หรอกว่าผมคิดยังไงกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... เจ้าโทชิมันก็น่ากลัวิย่างนั้นจริงๆล่ะ= =! ข่มขืนเนี่ยนะ!!!
“ บ้าหน่า... ชั้นไม่ปล่อยให้โทชิทำหรอก... ก็เป็นผู้ชายด้วยกันนี่หว่า-0-! ” ผมพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา
พอเห็นท่าทีแปลกๆของผม โคตะก็ขยี้หัวผมใหญ่ “ นายไม่รู้อะไร! นายมันป้ำๆเป๋อๆอยู่ด้วย อย่างนี้ล่ะหลอกง่ายนะเฟ้ย!! -0-!! ”
“ ชั้นได้ป้ำเป๋อๆนะ=[]=!! ”
“ ทั้งป้ำเป๋อทั้งซื่อบื้อเลยล่ะ~~!! ;P ” โคตะเข้ามาหยอกผมใหญ่ พร้อมขยี้หัวที่จัดทรงแล้วอย่างเมามันเหมือนเป็นของเล่น
“ หยุด ! เจ้าบ้าโคตะ! หยุดนะเฟ้ยยย =[]=!! ”
“ พวกนายมาหยอกอะไรกันในร้านน่ะ ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยพูดขึ้นพร้อมกับประคองหลังผมที่กำลังจะตกจากเก้าอี้
“ อ่าวโทชิ... คุยกับผู้หญิงคนตะกี้เสร็จแล้วเหรอ? ” โคตะหันไปถามโทชิที่เพิ่งมา
“ อื้ม... เสร็จแล้วล่ะ ก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องนิดหน่อย-*- ” โทชิพูดหงุดหงิดนิดๆ
“ แฟนนายน่ะเหรอ ?? ” โคตะถามต่อ
“ อื้ม... ” โทชิตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยก่อนจะนั่งลงข้างๆพวกเรา
แฟนจริงๆด้วยสินะ...
ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนโทชิจริงๆด้วย ทั้งๆที่ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยมาผมก็ยังไม่เคยเห็นเขาคบใครอีกเลย... ทั้งๆที่มีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเขามากหน้าหลายตาแท้ๆ แต่เขาก็ปฏิเสธตลอด
“ ผู้หญิงคนนั้น... ” ผมพูดเสียงสั่น “ เธอ... ตรงเสป็คนายเหรอ...? ”
โทชิเกาหัวก่อนจะหันมาตอบผมและถอนหายใจเบาๆ “ อืม.... ก็ไม่เชิงน่ะ... ชั้นแค่อยากลองคบดู... เธอดูเป็นคนแรงนิดๆ แต่ก็น่ารักดีแล้วหน้าอกก็ใหญ่ด้วย ชั้นก็เลย.... ”
“ เห็นมั๊ยไดสุเกะ โทชิมันเป็นแบบที่ชั้นบอกเลย-0- ” โคตะหันมาบอกกับผม
“ ห๊ะ? ... ชั้นเป็นแบบไหนน่ะ - -* ”
“ ก็หมาบ้าไร้ศิลธรรมไง -0- ~ ” โคตะหันมาทำท่ากระซิบกับผมพร้อมจ้องหน้าโทชิเหมือนอยากให้เขาได้ยิน
“ อะไรของนายน่ะไอ้สี่ตา=[]=** !! ” โทชิทำท่าจะต่อยหยอกๆกับโคตะ
“ ว๊ากๆๆๆ อย่าใช้กำลังในที่สาธารณะสิ!! ” โคตะตะโกน
ผมที่เอาแต่เงียบอยู่นานก็ลุกขึ้นพรวดพร้อมกับวางเงินไว้บนโต๊ะ จริงๆผมไม่ได้ฟังที่พวกเขาคุยกันเลย “ เอ่อ... พอดีชั้นมีงานน่ะ ต้องรีบกลับแล้ว... ”
ผมโกหก
“ อ่ะ... เดี๋ยว! เฮ่!! ไดสุเกะ! รอก่อนนน !! ” โทชิตโกนรั้งผมไว้ แต่ผมก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เพียงแต่รีบวิ่งออกไปให้ห่างที่นี่ให้เร็วที่สุด ที่ที่มีโทชิ ที่ที่พวกเขากำลังพูดเรื่องผู้หญิงที่กำลังคบกับโทชิอยู่...
ผมเรียกรถแท็กซี่ขึ้นไปที่บ้านใหญ่ของวงผม ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนที่อยู่มัธยม ตอนที่ผมยังไม่ได้ชอบโทชิยูกิ ตอนที่เขาอยู่กับแฟนคนก่อนนู้น ตอนที่ผมยังไม่รู้ถึงความรู้สึกที่ผมมีให้เขา ตอนนั้นผมเพียงแค่รู้สึกไม่ดีกับแฟนสาวของโทชิ ผมแค่ต้องอดทนกับความรู้สึกของผมที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ และตอนนั้น... เขาก็คบผู้หญิงมากหน้าหลายตา แ ต่ก็ไม่มีใครที่เขาจริงจังด้วยซักคน
แต่ตอนนี้... ผม...
ผมวิ่งขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้านใหญ่ ตรงไปที่ห้องซ้อมดนตรีโดยไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ผมเดินเข้าไปในห้องที่เปิดไฟสว่างและปิดประตูปัง ผมยืนพิงประตูหอบแฮ่กๆ คำพูดของโทชิมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนกำลังตอกย้ำความรักที่ผมมีให้เขา
“ แต่ก็น่ารักดีแล้วหน้าอกก็ใหญ่ด้วย ชั้นก็เลย.... ”
ผมจับหน้าอกตัวเอง... หน้าอก... นั่นสินะ ในเมื่อโทชิพูดแบบนั้น เขาก็ต้องคนชอบหน้าอกใหญ่สิ... ความรู้สึกที่ว่ามีหน้าอกจะเป็นแบบไหนกันนะ... ผม... สู้ไม่ได้หรอก... ยังไงก็สู้ผู้หญิงไม่ได้หรอก...
“ ไดสุเกะ... เป็นอะไรรึเปล่า ? เจ็บหน้าอกเหรอ ? ” เสียงนิ่มๆและอ่อนโยนทักขึ้น พอผมหันไปมองก็เห็นร่างสูงของชิราอิชิ โทรุ หัวหน้าวงของผมกำลังนั่งอยู่ตรงคีบอร์ด ผมไม่สนใจทุกอย่างจนลืมมองไปว่ามีคนอยู่ในห้องนี้ด้วย ... ผมทำอะไรแปลกๆออกไปรึเปล่าเนี่ย???!!
“ อ่ะ... ชิราอิชิซัง... ขอโทษครับ คือ... ผมไม่รู้ว่าคุณจะอยู่นี่ ”
“ อ้อ... พอดีชั้นถ่ายรายเสร็จแล้วน่ะ ” เขายิ้มให้ผม ชิราอิชิซังมักจะตีสีหน้าอ่อนโยนแบบนี้ให้กับพวกเราในวงเสมอๆ “ ว่าแต่นาย... ”
“ อ่ะ! ผม! ไม่เป็นไรครับ! ” ผมปฏิเสธ “ พอดีว่าวิ่งมาก็เลยหอบน่ะ! ”
“ อ้อ... งั้นดีแล้วล่ะ... ชั้นนึกว่านายเป็นอะไรซะอีก^^ ” โทรุเสยผมขึ้นและตีสีหน้าโล่งอก เขาดูดีเหมือนที่ใครๆเขาพูดกันจริงๆล่ะ “ แล้วรีบวิ่งมานี่... จะซ้อมกีต้าหรือร้องเพลงเตรียมคอนเสิร์ตเหรอ? ”
“ เอ่อคือ... เปล่าหรอกครับ
คือ... ” ผมก้มมองพื้น... ว่าแต่เราวิ่งมาที่นี่ทำไมเนี่ย = =||
ชิราอิชิซังมองผมเหมือนเข้าใจว่าผมก็สับสนพอๆกัน “ คอนเสิร์ตเดือนหน้า ที่ชั้นให้นายร้องเดี่ยว เลือกเพลงได้แล้วรึยัง? ยังไงมีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาชั้นได้นะ^^ ”
เอ้อ! นั่นสินะ... ลืมเรื่องคอนเสิร์ตไปซะสนิทเลยแฮะ = =|| มัวแต่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่สมองให้เกะกะเปล่าๆ หันมาทุ่มเทกับงานหน่อยสิไดสุเกะ!! อย่างนี้มันไม่ใช่ไดสุเกะที่มักจะจริงจังกับงานเลยนี่หว่า !! ฮึ๋ยๆๆ ผมเคาะหัวตัวเอง
“ อ้อ! ก็คิดอยู่ล่ะครับว่าจะร้องเพลงอะไรให้แฟนคลับที่สนับสนุนเรามานานขนาดนี้ พอคิดว่าจะแต่งเพลงให้พวกเขา ผมก็คิดไม่ออกเลย ”
หัวหน้าวงยิ้มให้ผมก่อนจะเดินมาลูบหัวผมเบาๆ “ ก็ค่อยๆคิดก็ได้นี่... ไว้นายมีอารมณ์จะแต่งเพลงก็ค่อยแต่ง อารมณ์มันจะพาเราไปเอง... ”
อา~ นั่นสินะ ค่อยแต่งตอนที่ความรู้สึกมันพาไป... ไม่ใช่ใครจะแต่งเพลงได้ง่ายๆนี่เนาะ ... ว่าแต่ว่า ความรู้สึกที่ว่านั่นน่ะ... พอคิดแบบนั้นแล้ว อยู่ดีๆหน้าของโทชิยูกิก็ผุดขึ้นมา
และประโยคที่โคตะบอกผมก็ผุดขึ้น... “ อย่าเก็บมันมาใส่ใจเลย ”
พร้อมกับเสียงของหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้นที่เรียกชื่อโทชิยูกิ...
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะต้องมาคิดเรื่องพวกนี้สิ!! อย่าเก็บมันมาใส่ใจไงเล่าไดสุเกะ!!
ระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ก็ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีสายตาของใครบางคนใกล้ๆนี้กำลังมองดูผมอย่างเป็นห่วงอยู่
.
..
ความคิดเห็น