คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : The spring love :: [4] เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อๆไป
เค้าว่ากันว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ลืมเรื่องหลายๆเรื่องได้ง่าย แต่ว่า... นี่มันสามวันมาแล้วนับจากวันนั้น โทชิยูกิก็ยังทำตัวไปตามเดิม มาดูงานที่ค่ายเพลงนี้ทั้งวัน ยิ้มและคุยกับโปรดิวเซอร์และพนักงานคนอื่นๆตามปกติ แต่ไม่ได้พูดอะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น และผมก็เช่นกัน ผมต้องทำเป็นว่าไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและต้องทำเหมือนกับว่าผมลืมมันไปแล้ว ถึงแม้ว่าพอโทชิเข้ามาใกล้หรือคุยกับผม ผมมักจะสะดุ้งและหน้าแดงเสมอ... นั่นล่ะ... แล้วผมจะลืมเข้าไปได้ไง = =||
ตอนนี้ก็เย็นแล้ว หลังจากซ้อมเต้นเสร็จ ชิราอิชิซังกับมิอุระซังต้องไปถ่ายรายการต่อ ส่วนไคโตะก็ติดธุระ วันนี้คงต้องกลับบ้านคนเดียวแล้วสินะ... เอาเป็นว่าวันนี้กลับอพาทเม้นต์เลยดีกว่า ผมที่เหงื่อชุ่มตัวก็ตัดสินใจไปอาบน้ำในห้องน้ำใกล้ๆนั่น ก่อนจะแต่งตัวเช็ดหัวและเก็บกระเป๋า พอเดินออกมาก็พบโทชิในชุดสูทเต็มยศที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุมของบริษัท
“ นี่ ไดสุเกะ จะกลับแล้วเหรอ?? ” โทชิรีบวิ่งมาหาผม
“ อื้ม มีอะไรเหรอ? ”
“ คือชั้นลืมเอาCDเพลงที่ยืมไปเมื่อวานมาคืนนายน่ะ นายอยากจะแว๊ะบ้านชั้นก่อนกลับมั๊ย? ”
“ ไม่เป็นไร ” ผมยิ้มและตอบไป “ นายเอามาคืนชั้นพรุ่งนี้ก็ได้ ”
“
” เขาเงียบและทำหน้าเหมือนกำลังผิดหวังกับคำตอบของผม “ เอ่อ... ชั้นมักจะหลงๆลืมๆน่ะ บางทีพรุ่งนี้ชั้นอาจจะลืมเอามาก็ได้... มันไม่ดีกว่าเหรอในเมื่อนายก็ต้องผ่านบ้านชั้นอยู่แล้ว... ”
ผมมองสายตาของโทชิที่ก้มมองต่ำลงพื้นเหมือนรู้สึกผิด หรือว่า... โทชิยูกิกำลังกังวลอยู่นะ เขาคงอยากจะคงสถานะเพื่อนกับผมอยู่... แต่พูดตรงๆ ผมไม่อยากจะไปบ้านของเขาเลย ไม่อยากจะเข้าไปในห้องของเขาที่เรา... มีอะไรกัน... ทุกอย่าง... ผมยังจำได้ดี
“ นายไม่อยากจะไปบ้านชั้นเหรอ... ” โทชิพูดปลุกผมจากภวังค์
“ ปะ เปล่า... ไม่ใช่แบบนั้น^^ ” ผมยิ้ม “ แต่... ”
โทชิมองพื้นอย่างผิดหวังเหมือนเด็กๆที่โดนพ่อแม่บอกว่าจะไม่ซื้อของเล่นให้ พอผมเห็นหน้าแบบนั้นของเขา ก็ทำให้ผมใจอ่อน
“ โอเค... ชั้นจะแวะไปบ้านนาย ”
เมื่อได้ยินคำตอบของผมเขาก็มองหน้าผมพร้อมกับยิ้มแป้นเหมือนเด็กๆ “ เจ๋งลย ^^ ชั้นจะไปรอนายที่รถนะ ”
ยังไงซะ... ผมก็จะไปยืนรอเอาCDที่ตรงประตูบ้านเขาก็พอ
“ นี่ ยืนอยู่ทำไมล่ะ... เข้ามาสิ ” ไม่นานนักเราก็มาถึงบ้านของโทชิ เขาเรียกผมที่ยืนบื้ออยู่ตรงที่วางรองเท้าติดกับประตูหน้าบ้านให้เข้ามาข้างใน
“ อ่ะ... เอ่อ... ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นรออยู่ตรงนี้ละกัน^^ ” ผมปฏิเสธคำเชิญ เขามองผมก่อนจะฉุดแขนผม และลากไปผมที่โวยวายดิ้นเพื่อให้เขาปล่อยและตรงไปที่ห้องเขาอย่างไม่รีรอ โทชิยูกิเหวี่ยงผมใส่เตียงตัวเดิมแรงๆ ล๊อคประตูห้องก่อนจะขึ้นมานั่งคร่อมผมบนตัว
ผมได้แต่มองโทชิอย่างตกใจ กะ... เกิดอะไรกับเขาน่ะ??
“ มาทำกันเถอะไดสุเกะ... ” โทชิพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตของผมออกโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ผมทั้งตกใจและงงเอามากๆ
“ ฮะ... เฮ่!! ออกไปนะ! ” พอเริ่มเข้าใจสถานการณ์ ผมก็ดิ้นและพยายามออกไปจากตัวของเขา แต่แรงของผมก็ไม่สามารถสู้ร่างใหญ่ๆของโทชิได้ “ เลิกล้อเล่นซักที!! ”
“ ชั้นไม่ได้ล้อเล่นนะ ”
“ แล้วทำไม!! นายถึง!!.. ”
“
”โทชิจ้องมองผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดผมพร้อมจับมือผมที่พยายามจะดิ้นหนีไว้แน่น
“ หยุด!! นายผิดหวังไม่ใช่เหรอที่รู้ว่าสิ่งที่ทำกับชั้นมันไม่เป็นแบบที่นายคิดไว้น่ะ!! ”
“ ผิดหวัง? นายหมายความว่าไง? ” ผมมองผมอย่างงงๆว่าผมกำลังพูดถึงอะไร “ ชั้นแค่คิดว่ามันรู้สึกดีกว่าที่ที่จินตนาการไว้มาก... หลังจากตอนนั้น ในหัวชั้นก็มีแต่นาย... ”
เอ๋!!!??????
ก่อนจะทันรู้ตัว โทชิก็จัดการถอดเสื้อผมต่อ
“ ปล่อยนะ! นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าแค่ครั้งเดียวน่ะ!! เราสัญญากันไว้แล้วนี่!! ”
“ สัญญา... อ้อ... สัญญาว่านายจะไม่หนีสินะ... ”
เจ้าบ้าเอ้ย=[]=! ไปสัญญาว่าแบบนั้นกันตอนไหนวะ!!!
“ เอาหน่าไดสุเกะ นายก็รู้สึกดีเหมือนกันนี่~ ” เขาพูดก่อนจะพรมจูบแรงๆลงที่ต้นคอผม “ มาสนุกกันอีกซักครั้งสองครั้งจะเป็นไร ”
“ หยุด...!! โทชิ!! ไม่!! อึก.... ”
ผมรู้สึกถึงริมฝีปากของโทชิและมือใหญ่อุ่นๆของเขา ไม่... ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยร่างกายผมให้เป็นไปตามอารมณ์ของเขาอีกแล้ว
“ ชั้นจะไม่ทำมันเด็ดขาด!! ” ผมตะโกนและพยายามขัดขืนร่างใหญ่และทรงพลังที่คร่อมผมอยู่ “ นายมีแฟนอยู่แล้วนะโทชิ!! สิ่งที่นายกำลังทำอยู่นี่มันคือการนอกใจไม่ใช่เหรอ??! นายไม่ควรจะทำแบบนี้แค่คิดว่านายอยากทำ! นายไม่รู้สึกผิดกับแฟนของนายรึไง!!? ”
“ นายหมายถึงมาริน่ะเหรอ?? หึ... ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเธอเลยนี่ ”
“ เกี่ยวสิเฟ้ยยยยยยยยย!! ”
“ ถ้านายว่างั้น... การที่ชั้นคิดถึงแต่นายเวลามีอะไรกับเธอ... มันไม่เรียกว่านอกใจรึไง? ”
เจ้าบ้า=[]=! ชั้นไม่ได้หมายถึงแบบนั้น!!
.
..
“ อ่ะ!! ไดจัง ^0^! ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันมั๊ย ?!! ” ไคโตะ มือเบสผู้ร่าเริงของวงผมเดินเข้ามาทักหลังจากเราซ้อมดนตรีในห้องเก็บเสียงเสร็จ “ วันนี้เห็นว่าทางบริษัทจัดบุพเฟ่ให้ด้วยล่ะ! ”
“ อ้อ ไม่ล่ะ^^ ชั้นยังไม่หิวเลย พวกนายไปกินก่อนเถอะ ”
“ ว๊า~ แย่จัง=3= ลูกพี่ เราไปกินกันสองคนก็ได้=3=~ ” ไคโตะพูดเสร็จก็เดินไปกับมิอุระซึ่งเป็นมือกลอง “ มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้น ~ รีบๆมากินนะไดจัง^w^ ”
ผมมองลงไปทางประตูทางเข้าที่ชั้นแรก หญิงสาวผมน้ำตาลเดินเข้ามากอดหนุ่มหน้าฝรั่งที่ผมคุ้นเคยก่อนจะกอดแขนเขาเลยเดินไปทางห้องจัดเลี้ยง มาริมาหาโทชิแทบทุกเที่ยงเลยแฮะ และดูท่าโทชิยูกิจะมีความสุขดีนี่ เขาดูสุภาพและอ่อนโยนลงมากเมื่ออยู่กับเธอ
ทำไมกัน...
ถึงแม้จะอย่างนั้นก็เถอะ... ผมก็ยังรักโทชิอยู่ดีนั่นแหล่ะ
ผมเดินไปนั่งในห้องนั่นเล่นเงียบๆ ใกล้ๆนั่นมีกระติกน้ำร้อนที่เสียบปลั๊กไว้อยู่ พร้อมกับซองกาแฟที่เตรียมไว้ให้ศิลปินที่ต้องการมาพักผ่อน ที่นี่ไม่มีใครอยู่ ผมคิดว่าทุกคนคงไปกินบุฟเฟ่สุดหรูที่ห้องจัดเลี้ยง ผมเดินไปชงกาแฟก่อนจะมานั่งริมหน้าต่างที่มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ผลิของเมืองหลวงแห่งนี้ พลางคิดว่าผมอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วนะ ผมเจออะไรหลายๆอย่างที่นี่... ผมเจอโทชิที่นี่ เจอโคตะที่นี่.. ได้ออดิชั่น... ได้เจอเพื่อนๆพี่ๆในวงที่แสนดี... เจอเจ้าของค่ายเพลงที่ใจดี เจอผู้จัดการที่เฮฮาและมองพวกเราเป็นเหมือนน้องชาย...
“ อ่าว... ไดสุเกะ... ”
ใครบางคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องนี้โดยที่ผมไม่รู้ตัวทักขึ้น... พอผมหันไปก็ผมชายร่างสูงผมสีน้ำตาลอ่อน และสายตาที่อ่อนโยน ชิราอิชิซัง หัวหน้าวงของผมเอง
“ อ่ะ... ชิราอิชิซัง... ”
“ ไม่ไปกินบุพเฟ่เหรอ? ” เขาพูดพลางมานั่งตรงที่นั่งข้างๆกับผม “ แล้วนี่กินอะไรรึยังน่ะ? ”
“
” ผมเงียบและมองพื้น ก็ไม่ได้กินน่ะสิ= =||
“ เอ้อนี่... ” ชิราอิชิซังที่ถือถุงพลาสติกของมินิมาทใกล้ๆนี่มาด้วยยื่นถุงขนมปังรสกาแฟให้ผม
“ อ่ะ... ไม่เป็นไรครับ คือผมยังไม่หิวน่ะ^^|| ” ผมปฏิเสธ
“ เอาหน่า... ถึงนายจะไม่ชอบของหวานก็เถอะ... ยังไงนายก็ชอบรสกาแฟนี่... เรายังต้องซ้อมอีกเยอะนะ ยิ่งอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงคอนเสิร์ตแล้ว ถ้าไม่สบายเข้าโรงบาลแล้วจะแย่เอา ”
ผมมองถุงขนมปังก่อนจะเปิดมาออกมา “ ขอบคุณนะฮะ... แล้วชิราอิชิซังไม่ไปกินที่นู้นเหรอ? ”
“ ก็จะไปอยู่น่ะ แต่ชั้นไม่ชอบที่ๆคนเยอะๆน่ะ ก็เลยคิดว่ายังไงก็ออกไปซื้อของรองท้องกินที่มินิมาร์ทคงจะดีกว่า ” เขาพูดและเอาขนมปังของเขาออกมากิน
ผมบิขนมปังทรงรีๆของตัวเอง ข้างในเป็นใส่ช๊อกโกเล็ตและครีมม๊อคค่า แป้งขนมปังข้างนอกเป็นรสกาแฟกรอบๆ ผมฉีกตรงแป้งและเอาไปป้ายกับครีมข้างในก่อนจะกิน
ชิราอิชิซังมองผมและหัวแระ
“ นายกินเหมือนชั้นเลย ” เขาบอกและยิ้ม “ เคยคิดบ้างมั๊ยว่าทำไมเค้าไม่ใส่ไส้ข้างในให้ทั่วขนมปังเนาะ... อ่ะ... แล้วเวลานายกินไทยากิ นายเริ่มกินจากตรงไหนก่อนล่ะ? ”
“ อื่ม... ผมกินหัวก่อนนะ... อ่ะ! แต่พอจะกินต่อก็ไปกินที่หาง ” ผมตอบ
“ ใช่มั๊ยๆ ฮ่าๆๆๆ ชั้นก็เป็นนะ ^^ ” ชิราอิชิซังยิ้มและหัวเราะ พอเห็นหัวหน้าวงผู้ใจดีหัวเราะ ผมก็อดหัวเราะตามไม่ได้ ดีจังเลยที่เขามาที่นี่ ผมไม่เคยมีพี่ชายมาก่อน แต่พอผมอยู่กับชิริชิซัง ผมรู้สึกนับถือเขาเหมือนพี่ชายจริงๆ ชิราอิชิซังทั้งอ่อนโยน ใจดี ห่วงใยคนอื่นเสมอ และสามารถทำให้คนรอบๆตัวเขามีความสุขได้ง่ายๆ
เรานั่งคุยกันเรื่องงานและเรื่องคอนเสิร์ตที่กำลังจะมาถึงกันซักพักใหญ่ๆ ก่อนจะรู้สึกตัวเองใกล้จะถึงเวลาซ้อมแล้ว
“ เอ้อ... ไดสุเกะ... นายกำลังกังวลเรื่องเพลงเดี่ยวปิดท้ายคอนเสิร์ตที่ชั้นให้นายไปคิดอยู่รึเปล่า? ” เขาพูดขณะเรากำลังเดินออกจากห้องพัก “ เห็นช่วงนี้นายทำท่าเหมือนแบกโลกทั้งโลกไว้กับนายคนเดียว ”
“ อ๊ะ!! คอนเสิร์ตมีแสดงเดี่ยวด้วยนี่นา... ” ผมลืมสนิทเลย=[]=!!!
“ อะไรกัน!? นั่นมันสำคัญมากเลยนะ!! ” ชิราอิชิซังมองผมอย่างเป็นห่วง “ นายลืมเข้าไปได้ไงเนี่ย ”
“ เอ่อ... ขอโทษครับ^^|| ”
“ ระวังจะไม่ทันเอานา ”
“ ครับๆ ผมจะรีบจัดการ^^|| ”
“ มีอะไรค้างคาใจก็มาบอกชั้นได้เสมอนะ^^ ”
ผมยิ้มให้ชิราอิชิซังกลับเป็นการตอบรับก่อนจะขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำและบอกให้เขาไปที่ห้องซ้อมก่อน พอเดินออกมาจากห้องน้ำหลังทำธุระเสร็จก็เจอโทชิที่กำลังเท้าเอวและทำหน้าเครียดรอผมอยู่หน้าห้องน้ำ
“ นายไปไหนมา? ชั้นไม่เห็นนายที่ห้องจัดเลี้ยง ” เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง “ หรือนายไปกินที่อื่น? แล้วไปกินกับใคร? ”
ทำไมเขาต้องอารมณ์เสียไร้เหตุผลแบบนี้ด้วย= =?
“ ไม่ใช่เรื่องของนายซักหน่อย ” ผมบอกก่อนจะทำเป็นเดินไปโดยไม่สนใจเขา “ จะบ่ายหนึ่งแล้วทำไมนายไม่กลับไปห้องทำงานของนายล่ะ ”
“ ชั้นกำลังกังวลเรื่องของนายอยู่นะ! ชั้นคิดว่านายไม่ได้กินข้าวหรือเปล่า พอคิดจะหานายก็หาไม่เจอ แล้วพอดูเวลาก็รู้ว่ามันใกล้หมดเวลาพักแล้ว แล้วก็เจอนายกำลังเดินเข้าห้องน้ำ ”
“ ชั้นไปห้องนั่งเล่นที่ชั้นสามเพราะยังไม่ค่อยหิวน่ะ ” ผมตอบไป “ พอดีไปเจอชิราอิชิซังเขาก็เลยให้ขนมปังชั้นมาห่อหนึ่ง... ”
“ ชิราอิชิ โทรุน่ะเหรอ!? ” เขาตะโกนใส่ผมดังซะจนผมตกใจ “ เขาซื้อขนมปังให้นายกินน่ะเหรอ?! พวกนายกินด้วยกันสองคนน่ะเหรอ!??? ”
เจ้าบ้านี่จะตะโกนทำไมเนี่ย -*- วันนี้โทชิเป็นบ้าอะไรของมันน่ะ
“
” เขาทำท่าอึ้งพร้อมกับพูดไม่ออกและเดินตามผมเงียบๆก่อนจะจับมือผมไว้แล้วยื่นบางอย่างให้กับผม “ นี่... นายชอบนี่ไม่ใช่เหรอ... ”
เขายื่นถุงพลาสติกมาให้ผม พอผมเอาของในนั้นออกมาดูก็พบว่าเป็นซองกระดาษที่ด้านในมีแซนวิซไส้กรอกชีสร้อนๆของโปรดของผม นี่โทชิลงทุนเดินไปซื้อมาให้ผมเลยเหรอ? แถมยังต้องรอซื้อ 10 นาทีกว่าร้านจะทำเสร็จ
“ ชั้นชอบนะ... แต่... ”
“ โทชิยูกิ^^ !!! ” เสียงหวานๆของมาริตะโกนดังมาแต่ไกล “ หาตั้งนานแหน่ะ! รีบไปกันเถอะที่รัก ^0^ !! ”
“ รีบไปสิ... ” ผมบอก เขาลังเลซักพัก ถอนให้ใจ บอกผมว่าอย่าลืมกินแซนวิซแล้ววิ่งไปหาแฟนสาวของเขา ผมได้แต่มองร่างสูงใหญ่ก่อนจะเดินลงไปที่ห้องซ้อมของตัวเอง
เราเพิ่งทำมันเมื่อ 2 วันก่อน ถ้าเรายังทำมันบ่อยๆแบบนี้ มีหวังผมต้องตัดใจจากโทชิไม่ได้แน่ๆ เขาแค่คิดว่า ผมเหมือนของเล่นชิ้นใหม่ของเขา ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องเบื่อและทิ้งผมไป...
เย็นวันนั้น โคตะโทรมาบอกผมให้ไปกินข้าวที่บ้านเขา เขาเพิ่งลองทำเมนูใหม่และอยากให้ผมลองไปกินดู เจ้าโคตะว่างงานขนาดนั้นนักรึไง ผมเดาว่าเขาคงมีบางอย่างต้องคุยกับผมแน่ๆ แต่ผมก็ตอบตกลง
ที่บ้านโคตะตอนนี้เต็มไปด้วยเอกสารมากมาย เขาคงกำลังเริ่มเขียนนิยายอีกเรื่องแล้วสินะ เขาเคลียร์โต๊ะทั้งหมดก่อนจะวางสเต็กปลาแซลม่อนตรงหน้าผม โคตะเป็นคนทำอาหารไม่ค่อยเก่ง และกำลังเรียนทำอาหารอยู่ เขาจึงอยากให้ใครซักคนมาลองชิมผลงานฝีมือเขา
“ นี่ไดสุเกะ... ถ้าชั้นคิดไม่ผิด ” เขาพูดขณะที่พวกเรากำลังกินกัน “ นายกับโทชิ... กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แบบว่า... เอ่อ... ความสัมพันธ์แบบนั้น... ”
บะ... แบบนั้น !! มัน....!! ผมถึงกับหน้าซีด โคตะ... รู้ได้ไง??
“ เอ่อ... อะไร.... ” ผมตะกุกตะกักและพูดไม่ออก
“ หือ? ”
“ กับ... ” ผมนิ่งและเงียบ หน้าซีด โคตะกลับยิ้มเหมือนกำลังใจผม
“ เอ่อ... ชั้นเข้าใจ^^|| ” เขาตบหลังผมเบาๆ “ นายไม่ต้องกลัวหรอกนะ ชั้นคิดว่าไม่มีใครมองออกหรอกนอกจากชั้น... ”
“ เอ๊ะ? ทำไม? ” ผมมองเพื่อนสนิทนักเขียนตรงหน้าอย่างงงๆและเหงื่อตก
“ ก็... ชั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ” โคตะบอก “ ระหว่างพวกนายสองคนมันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างน่ะ อื่ม... คงจะเรียกว่าบรรยากาศล่ะมั้ง ”
“
” ผมเงียบ
“ มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะ? โทชิมัน... ”
“ ชั้นรู้!! ” ผมตะโกนแย้งออกมา “ แต่... มันช่วยไม่ได้นี่! พอชั้นรู้สึกตัวชั้นก็ทำไปแล้ว= =|| ”
โคตะถอนหายใจเบาๆก่อนจะกอดอก “ ชั้นบอกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอว่านายอาจจะเจ็บได้ถ้านายหลงไปกับมันน่ะ... ” เขาเกาหัวแกร่ก “ ชั้นไม่คิดเลยนะว่าเจ้านั่นจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นกับเพื่อนตัวเอง... ถ้าพวกนายทำเพราะพวกนายชอบกัน ชั้นก็จะดีใจและจะสนับสนุนด้วย... แต่ว่าโทชิมัน... ”
“ ชั้นรู้... เจ้านั่นทำไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น ” ผมบอกพร้อมกับเขี่ยจานสเต็กที่ว่างเปล่าตรงหน้า “ เจ้านั่นก็แค่อยากลองดูแล้วก็คิดว่ามีดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้ เขาก็เลย... ”
“ ไดสุเกะ! ” โคตะตะโกนพร้อมกับลุกขึ้นพรวด “ ทำไมนายไม่โกรธเจ้านั่นล่ะ?! นายต้องทำให้โทชิรู้สิว่านายโกรธอยู่แล้วก็ปฏิเสธเขา! ”
เขานั่งลงสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นผมยังคงเงียบ “ ถ้านายบอกชั้นให้เร็วกว่านี้ ชั้นอาจจะช่วยนายได้ แต่ทำไม... ”
“ ชั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายน่ะ... ” ผมตอบ
โคตะถอนหายใจอีกครั้งและมองผมที่เอาแต่จ้องจานอย่างสำนึกผิด “ โทชิมันชอบวางอำนาจ แล้วนายก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกเจ้านั่นโน้มน้าว พอเจ้านั่นใช้กำลังกับนาย นายก็เลยปฏิเสธไปไม่ได้ใช่มั๊ย? นี่... มันไม่ดีเลยนะ... ในเมื่อนายเป็นคนที่ตกหลุมรักเจ้านั่นก่อน โทชิแค่อยากนอนกับนายเท่านั้น แต่มันไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายเลย! ”
ชั้นเป็นคน... ที่ตกหลุมรักเจ้านั่น... น่ะเหรอ????
“ โคตะ... ” ผมหันมามองหน้าเพื่อนสนิทที่ยังคงไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป “ นาย... รู้น่ะเหรอ? ”
โคตะทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเผลอหลุดบอกอะไรออกมาอีกครั้ง “ เอ่อ... คือชั้น... ”
ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไป “ ขอบคุณสำหรับอาหารเย็น... ชั้นกลับล่ะ... ”
ผมเดินออกมาดื้อๆ โคตะไม่ได้เดินตามมา เขาคงคิดว่าคนอย่างผมมันน่ารังเกียจสิ้นดีที่รู้สึกแบบนั้นกับเพื่อนสนิทของตัวเองจนทำให้ตัวเองไปมีอะไรกับคนที่ชอบ ... ผมอาจจะ... เสียเพื่อนสนิทที่คบกับมากว่า 7 ปีไปอย่างนี้น่ะเหรอ?
ผมโบกรถแท็กซี่ใกล้ๆนั่นให้ไปส่งที่บ้านใหญ่ ผมยังรู้สึกไม่ดีที่จะกลับไปอพาทเม้นต์ที่ต้องผ่านบ้านโทชิ ถ้าผมอยู่แต่ในอพาทเม้นต์ ผมก็ทำได้แค่ทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นที่มุมหนึ่งของห้อง ก่อนจะร้องไห้จะเป็นจะตาย คงจะดีกว่าถ้าผมเอาเวลาไปซ้อมดนตรีให้มีประโยชน์ดีกว่า
ไม่นานนักผมก็ถึงบ้านใหญ่ ไคโตะกำลังดูทีวีกับน้องชายของมิอุระซัง ส่วนมิอุระซังกำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ผมไม่พูดอะไรและเดินตรงไปยังห้องซ้อมดนตรี ไคโตะถามเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของผม ผมก็ตอบแค่ว่าไม่มีอะไร
พอผมเข้าไปในห้องซ้อมก็เจอชิราอิชิซังกำลังยืนร้องเพลงอยู่ที่กลางห้อง ผมบอกเขาว่าขอโทษที่ขัดจังหวะการซ้อมและจะไปที่อื่นแทน เขาก็ดึงแขนผมเอาไว้และบอกว่าหน้าผมซีดมาก ก่อนจะพาผมเข้ามานั่งตรงโซฟาในห้องซ้อมนั่น
“ ไดสุเกะ... เป็นอะไร?? ” ชิราอิชิซังที่นั่งติดกันถามผมด้วยความเป็นห่วง
“
” ผมสั่นและกำมือแน่น ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ทั้งเศร้า ทั้งอยากร้องไห้
ชิราอิชิซังมาจับมือผมที่สั่นให้สงบลงพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “ ใจเย็นไว้นะ... มันจะดีขึ้นเอง... มีอะไรก็บอกชั้นมาเผื่อชั้นจะช่วยได้... ”
ผมเงยหน้ามามองชิราอิชิซังที่มองและยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่นเหมือนกำลังบอกว่ายังมีเขาอยู่ทั้งคน
“ หรือว่า... นายบอกชั้นไม่ได้?... ”
“
” ผมส่ายหน้า ผมอยากบอกเขา แต่ก็ไม่กล้า... มันเป็นเรื่องที่คนปกติไม่ควรจะรู้
“ นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? หรือกำลังกังวลอะไรอยู่? หรือไปทะเลาะกับใครมา? ”
“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ” ผมบอก “ แต่ถ้าผมบอกคุณไป... คุณอาจจะดูถูกผมก็ได้... ”
“ ชั้นไม่หรอก ” ชิราอิชิซังปฏิเสธทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง
มันคงไม่ต่างกันหรอกถ้าถูกคนเกลียดอีกซักคนสองคนน่ะ
“ ไม่... คุณต้องดูถูกผมแน่ๆ ” ผมพูดก่อนจะโพล่งออกไปทั้งหมด “ เพราะว่าผมมีเซ็กส์กับเพื่อนสนิทผมน่ะสิ!! แล้วเพื่อนผมคนนั้นก็... เป็นผู้ชายเหมือนกัน... ”
“
” ชิราอิชิเงียบและมองผมอย่างอึ้งๆก่อนจะเข้ามาตอบไหล่ผมเบาๆ “ ไม่เป็นไร... ใจเย็นๆนะ... เค้าข่มขืนนายเหรอ? ” ชิราอิชิซังจับมือที่เย็นและเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะความเครียด
“ ไม่หรอกครับ... ” ผมพูด “ มันไม่ใช่การข่มขืนหรอก... ”
“ ก็ดีแล้วนี่^^
งั้นก็ไม่ปัญหาน่ะสิ ” ชิราอิชิซังพูดพร้อมยิ้มอย่างอบอุ่นให้ผมเช่นเคย “ ชั้นไม่คิดว่านายจะต้องคบกับผู้หญิงเสมอไปหนิ ”
“ คือ... ไม่ใช่คบหรอกครับ ” ผมก้มหน้าพูด “ ถึงแม้ผมจะรักเขามากก็จริง... แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับผม... เขาทำไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นน่ะ ”
“ อื่ม... นายบอกว่านายชอบเค้า... แสดงว่านายเป็นคนเริ่มก่อน? ”
“ เปล่าฮะ... เขาเป็นคนเริ่ม ” ผมบอก “ เขาบอกว่าเขาอยากลองดู... โดยที่ไม่รู้เลยว่าผมคิดยังไงกับเขา... ”
“ ลองดูน่ะเหรอ?... แสดงว่าเขาก็ชอบนายเหมือนกันน่ะสิ ”
ผมรีบส่ายหน้าโดยเร็ว ไม่ใช่เด็ดขาด =[]= !!
“ อื่ม... ” ชิราอิชิซังมองผมด้วยสายตาที่เศร้าพอๆกัน “ หนักใจเลยสินะ... ”
ใช่... มันหนักมาก ไม่ใช่แค่ร่างกายของผม แต่จิตใจของผมก็กำลังกรีดร้องออกมา ทั้งๆที่ได้มีเซ็กส์กับคนที่ชอบแท้ๆ แต่ผมกลับไม่มีความสุขเลย... ทั้งรู้สึกผิด ทั้งอยากจะตัดใจ... แต่ก็ทำไม่ได้ ผมมันแย่ชะมัด
พอผมรู้สึกตัวอีกที น้ำตาผมก็ไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ ถึงอย่างนั้น... นายก็ยังชอบเขา? ”
ผมไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้และเช็ดน้ำตาตัวเอง ผมไม่ใช่คนที่จะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นง่ายๆ พอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกน่าอายชะมัด
“ ทำไมนายไม่บอกความรู้สึกที่นายมีให้เขาออกไปล่ะ ” ชิราอิชิซังทักขึ้น “ นายไม่รู้หรอก ถ้าเขา.. ”
“ ผมไม่มีทางพูดเด็ดขาด!! ” ผมตะคอก “ แม้ว่าต้องตายผมก็ไม่บอกเขาเด็ดขาดTmT ”
เมื่อเห็นผมร้องไห้ไม่หยุด ชิราอิชิซังที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก็เดินมาลูบหัวผมเบาๆ
“ แต่ถ้านายยังทำกับเขาแบบนี้อยู่ มันจะไม่ยิ่งหนักใจเข้าไปใหญ่หรอกเหรอ? ”
“ ใช่ฮะ... แต่ว่า... ” ผมตอบไปอย่างอายๆ “ ผมอยากจะหยุดมัน แต่พอเขาถามผมให้ทำ ผมก็ปฏิเสธเขาไม่ลง... แล้วเพื่อนสนิทผมอีกคนก็รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ”
“ อื้ม ชั้นเข้าใจล่ะ ” ชิราอิชิซังกลับไปนั่งที่และทำท่าครุ่นคิด “ คนที่นายชอบคงจะเป็นพวกที่ชอบสร้างปัญหาสินะ อาจจะเป็นพวกที่ชอบวางอำนาจด้วยใช่มั๊ย? ”
“
”
“ นี่ไดสุเกะ ” ชิราอิชิซังโน้มตัวเข้ามาหาผม “ นายอยากจะหยุดสิ่งที่นายทำกับเขาไหม? แม้ว่าจะต้องทำกับคนที่นายรัก? ”
“ ผมอยากจะเลิกครับ... ” ผมบอก “ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความเจ็บปวด ”
“ นั่นสิ... ถ้างั้น... ” ชิราอิชิซังขยับเก้าอี้มาที่หน้าผมก่อนจะจ้องหน้าผมและยิ้ม “ ทำไม... นายกับชั้นไม่ลองคบกันดูล่ะ... ”
เอ๊ะ?
“ ชั้นหมายถึง... คบหลอกๆน่ะ ” เขาพูดต่อ “ เพื่อที่นายจะปฏิเสธเขาไง... นายต้องมีคนที่นายกำลังคบอยู่ เวลาเขาขอนายทำอย่างว่า นายจะได้ปฏิเสธได้ว่านายกำลังคบกับอีกคนอยู่... แล้วแน่ล่ะ มันจะไม่ได้ผลถ้าคนที่นายคบเป็นผู้หญิง เข้าใจไหม? ”
“
? ” ผมยังไม่ค่อยเข้าใจน่ะ= =||
“ คืออย่างนี้... เขามีแฟนสาวแล้วใช่ไหม แต่เขาดันมาทำแบบนั้นกับนายที่เป็นผู้ชาย ถ้านายปฏิเสธเขาโดยที่นายบอกว่านายก็มีแฟนสาวเหมือนกัน เขาก็จะไม่สนใจ เพราะเขาก็มีเหมือนกัน ” ชิราอิชิซังอธิบายให้ผมฟัง “ แต่ถ้านายปฏิเสธและบอกว่านายมีแฟนที่เป็นผู้ชาย และนายไม่อยากจะทำแบบนี้กับคนอื่นนอกจากแฟน... เขาก็จะไม่บังคับนาย และเขาก็จะประหลาดใจที่ว่านายมีแฟนเป็นผู้ชาย... ชั้นว่านะ... เขาคงไม่ใช่ชายแท้หรอกในเมื่อกล้าทำแบบนั้นกับนายได้ ”
อย่างนั้น?... น่ะเหรอ?? ผมไม่เคยมีความคิดอย่างนี้มาก่อนเลย แม้ว่าเขาจะทำแบบนั้นกับผม แต่ผมก็ไม่รู้เลยว่าเขาเกลียดโฮโมเซ็กชวลรึเปล่า ผมถึงต้องเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้แบบนี้
“ นายต้องไปหาเขาวันนี้รึเปล่า?? ”
“ ครับ... เมื่อตอนเช้าเขาบอกไว้ ”
“ ถ้าเขาจะบังคับนายอีก... นายก็บอกเขาว่านายกำลังคบกับชั้น โอเค? ” ชิราอิชิซังขยิบตาให้ผมก่อนจะชวนผมมาเล่นคีบอร์ดและร้องเพลงด้วยกัน
ผมเคารพชิราอิชิซังมากๆเลยรู้สึกเกรงใจที่ต้องมารบกวนเขาด้วยข้อเสนอนี้ ผมกำลังสร้างปัญหาให้เขารึเปล่านะ? หรือว่าผมควรจะปฏิเสธดี? แต่พอเห็นเขาร้องเพลงและจับมือผมเล่นคีบอร์ด เห็นรอยยิ้มของเขาที่ดูมีความสุขอย่างที่ผมไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนะ ก็เลยไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
แล้วทำไมผมจะต้องเล่าเรื่องพวกนี้ให้เขาฟังด้วยเนี่ย= =!!?
.
..
ความคิดเห็น