คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 4 : เลี้ยงส่ง
Fate Love : รักใสๆ ของนายเพื่อนร่วมห้อง
Part 4 : เลี้ยงส่ง
๐๐Fan Speak๐๐
ผมโดนเอปน์ลากให้ไปส่งแม่ของเขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเหตุผลสั้นๆ และฉับไวว่า ‘อยากให้
ไปด้วยกันหน่อย’ ผมซึ่งยังยืนอึ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ก็โดนลากลงไปจากห้องเสียแล้ว จนเมื่อมาถึงที่หน้าลาน
เอนกประสงค์ ผมก็ขอตัวไปซื้อน้ำมากินเพื่อแก้อาหารคอแห้งเสียหน่อย แต่เมื่อเดินออกมาถึงหน้าสหกรณ์
หลังจากที่ซื้อน้ำมาดื่มแล้ว ก็เจอเกวที่กำลังวิ่งถลามาทางผมพร้อมกับผู้หญิงสองคนที่สวยมากๆ มากๆ เดิน
ตามมาอย่างช้าๆ เหมือนปล่อยให้เกวบ้าอยู่คนเดียวและยังหันไปหัวเราะคิกๆ ให้กัน
“อ้าว ฟาน ยังไม่กลับบ้านเหรอ?” เกวที่วิ่งมาเมื่อกี้นี้หยุดที่ตรงหน้าผม พร้อมกับหอบแฮ่กๆ พลาง
มองไปยังสองคนด้านหลังที่เดินหัวเราะอย่างมันปากคนหนึ่ง และอีกคนหนึ่งหัวเราะแบบเงียบๆ แบบหลังนี่
ใครว่าน่ากลัวเหมือนผมบ้างครับ
“แต่ว่ายังไม่กลับก็ดีนะ เราไปสยามกันมั้ย?” เกวถามผมขณะที่ผมยังยืนสยองกับการหัวเราะของ
เพื่อนเกวด้านหลังอยู่ น่ากลัว แต่ว่าผมติดธุระเสียแล้วล่ะ
“คงไปไม่ได้อะ” ผมตอบเกวไปทำให้เกวหน้าบูดขึ้นมาทันที อะไร นี่เพิ่งรู้จักกันสัปดาห์กว่าๆ จะงอน
กันแล้วเหรอ ไม่เอานะ ผมไม่ชอบง้อ
“อ่าว โธ่ น่าเสียดาย ว่าแต่ จะไปไหนอะ?” เกวถามผมพร้อมกับสายตาสงสัยและต้องการที่จะเ ือก
แบบสุดๆ เลยล่ะครับ
“อ่ะ อ๋อ พอดีเอปน์ชวน...” ตายล่ะ เอปน์บอกว่าอย่าบอกใคร ถ้าผมบอกไปผมจะโดนเอปน์เล่น
งานมั้ยเนี่ย T^T โอ้ย ชีวิตอันน่ารันทดของอัฌญกานต์ ตายๆๆ
“เอปน์ชวนไปไหน?!” เอาล่ะนั่นไง ผมเผลอไปแล้ว แล้วนี่ผมต้องบอกมั้ยเนี่ย?
“เอ่อ...”
“เอ่อ...”
“เอ่อ อะไรล่ะฟาน เอปน์จะพาไปไหน บอกเราหน่อยดิ ระวังมันจับฟานปลํ... อุ๊ป” เกวพูดออกมา
พร้อมกับประโยคสุดท้ายพี่ผมอยากจะกระโดดถีบปากเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย มาพูดอะไรแบบนี้แถวนี้
ล่ะ คนเยอะแยะ ถ้าเป็นที่อื่นก็ว่าไปอย่าง เห้ย! ไม่ใช่นะครับ!
“เอปน์จะพาเราไปส่งแม่เอปน์มันอะ” ผมตอบไปพร้อมกับความสยดสยองที่เอปน์ห้ามบอกใคร แต่
ผมดันบอกไปเสียหมดเปลือกนี่สิ เฮื้อะ น่ากลัวจริง T^T
“อ๋ออออออออ ถึงว่าไม่ว่าง สามี.. อุ๊ป แต่ว่า น้ารัตน์จะไปไหนวะตูน พิม น้าเขาบอกพวกมึงป่ะวะ?”
เกวหันไปถามเพื่อนเกี่ยวกับคนที่ผมไม่รู้จักว่าเขาจะไปไหน
“เปล่านี่” ผู้หญิงผมสั้นประบ่าทางด้านขวาตอบเกวที่หันไปถาม
“แล้วเขาบอกมึงป่ะ ตูน?” เกวหันไปถามผู้หญิงหน้าออกสีมพูผมยาวอีกคนหนึ่งที่สวย สวยมาก ผม
ชอบผู้หญิงแบบนี้จังเลย ><
“เปล่านี่ งั้นเราไปกับฟานด้วยเลยมั้ยล่ะ?” ผู้หญิงที่ชื่อตูนถามเกว
เกวนิ่งคิดอยู่สักพักก็ตอบออกมา ซึ่งนั่นอาจจะเป็นคำตอบที่ผมไม่อยากได้มากที่สุด ถ้าเกวไปผม
อาจจะโดนเอปน์โกรธ หรืออาจจะไม่คุยกับผมเลยก็ได้ โธ่ อย่างนั้นล่ะก็ เอปน์เป็นถึงเพื่อนคนแรกของ
โรงเรียนนี้เลยเชียวนะ ไม่ๆๆๆ ให้ไปไม่ได้
“ไปดิ ไปๆ” ไม่น้าาาาา ทำไมเกวพูดอย่างนี้ล่ะ ให้ไปไม่ได้สิครับอย่างนี้
“ไม่ต้อ....” ผมยังพูดไม่ทันจบเลย เกวก็เอาแขนขวามาวางทับคอผมแล้วลากผมเดินไปแทบจะทันที
โดยที่ผมไม่มีโอกาสจะได้พูดอะไรต่ออีกเลย
----ต่อครับ----
เกวพาผมเดินมาหาเอปน์ที่ยืนรออยู่ตรงลานหน้าสหกรณ์โรงเรียนพร้อมกับเพื่อนของ
เกวอีกสองคนตามหลังมา
ผมเห็นหน้าเอปน์อยู่ไกลๆ แล้วพร่ำนึกถึงชะตาตัวเองที่ผิดคำสัญญากับเอปน์ ผมคิดว่าผมจะโดน
เกลียดหรือเปล่าที่ทำแบบนี้ ผมจะโดนเอปน์ตัดเพื่อนมั้ย โอ๊ย! เครียดๆๆๆ!! T_T
ก่อนที่เกวจะพาผมเดินไปหาเอปน์ เธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นจนคนแถบนั้นหันมามองกันเกือบหมด
‘ไม่ห่วงภาพพจน์เลยรึยังไงเนี่ยผู้หญิงคนนี้’ ผมคิดในใจ เพราะผมรู้ว่าหากผมพูดไป.. ชีวิตผมอาจจะไม่รอด
จากครั้งนี้เป็นแน่ เสียงตะโกนของเธอทำให้เอปน์ที่ยืนคุยอยู่กับใครบางคนหันมามองผมพร้มกับขมวดคิ้ว
อย่างงงๆ
และในที่สุดผมก็โดนเกวดึงตัวไปอยู่ตรงหน้าเอปน์ แล้วก็พบว่าเอปน์มองมาแบบสงสัย แต่ผมว่า
สีหน้าทำไมมันดูเหมือนโกรธเลยล่ะ T^T โอ้ยยย ชีวิตอัฌญกานต์นี่ทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ T^T
เอปน์มองหน้าผมแบบงงๆ ก่อนจะพูดคำที่ผมภาวนาว่าอย่าให้เป็นคำด่าออกมาเลย “อ่าว ฟาน ไป
เจอทโมนสามตัวนี้มาจากไหนล่ะ ?” เอปน์พูดพร้อมกับชี้ไปยังผู้หญิงสามคนทางด้านหลังของผม
“อะ เอ่อ... คือว่า” ผมที่กำลังอึ้งอยู่กับคำพูดของเอปน์เอ่ยปากออกมาเบาๆ ก่อนจะมีเสียงของคน
ด้านหลังมาขัดจังหวะไปเสียจังๆ
หลังจากที่ผมเงียบไปสักพัก เสียงแหวของคนที่รุนหลังผมอยู่ก็ดังขึ้นมา พร้อมกับปล่อยมือจากหลัง
ผมไป “นี่ อีเอปน์! มึงจะพาฟานไปปล้ำรึไงฮะ ถึงชวนพวกกูบ๊างงง ไม่ได้เนี่ย” เกว แหกปากออกมาพร้อมกับ
เสียงหัวเราะของผู้หญิงทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลัง
“แล้วมึงด้วยไอ้นิก ไปไหนไปกันแค่ผู้ชาย มึงรู้ม๊ายยยยยยย สมัยเนี้ยะ ระวังผู้หญิงไม่เอากันนะ
ว่อยยยยย” เกวแหกปากอย่างไม่เกรงกลัวใครเลยจริงๆ เธอแหกปากแหวระเบิดระเบ้ออย่างน่ากลัว
“แหม เกว มึงก็ ผู้ชาย สามคนเขาจะไปสวิง....อุ๊ป สวีทกันมึงก็ไปขัดเขานะ” ในขณะที่เกวกำลัง
แหกปากใส่เอปน์อยู่นั้น เสียงล้อเลียน (แบบทำให้ฮาบรรลัยน่ะสินะ : ไรท์เตอร์) จากด้านหลังของผมก็ดังขึ้น
มาพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบยะเยือกเย็นของคนข้างๆ อีกคนหนึ่ง ซึ่งผมได้สดับทีไรขนแขนผมต้องเป็นลุก
ตลอดเลย T^T
“โอ๊ย เอาเลือดมาให้กูสิพิ๊มมมมมมม กรุ๊ป Y เนกาทีฟด้วยนะมึง!! โอ๊ย กูฟินกับคำพูดตัวเองแป๊ป
โว้ยยยยย” หลังจากเธอพูดได้ไปแล้วสักพักหนึ่ง เธอก็ทำท่าเหมือนเลือดกำเดาจะไหลก่อนเรียกเพื่อนอีกคน
ให้มาช่วยกันเอาเลือดกรุ๊ปวาย เนกาทีฟมาให้ ห้ะ?! เลือดกรุ๊ป Y negative มันมีด้วยเหรอ!?
“พอเถอะมึง อายเค้า” ในที่สุด เอปน์ที่ทนฟังมานานก็พูดขึ้นก่อนที่จะพูดออกมาจนเกวและผู้หญิง
อีกสองคนหยุดพูดไป ก่อนที่พูดต่อ “มึงไม่อาย แต่กูอายนะเกว” เอปน์พูดต่อจนเกวเงียบไป ผมรู้สึกสะใจ
กลายๆ
“ถ้ามึงจะไปก็ไปได้นะ” เอปน์พูดก่อนที่ผมจะย้ายร่างของตัวเองไปยืนข้างๆ เอปน์ฝั่งที่ไม่มีคนยืนอยู่
ก่อนที่จะสะกิดแล้วกระซิบกับเอปน์เบาๆ “ไปเหอะ” ผมกระซิบ
“ป่ะๆ ไปดีกว่า เดี๋ยวพ่อกูรอ” เอปน์พูดก่อนที่จะเดินนำหน้าพวกเราไปจากหลังอาคารสี่ด้านใกล้ๆ
กับสหกรณ์โรงเรียนไป
พวกเราเดินตามเอปน์ไปจนเจอกับรถตู้คันใหญ่คันหนึ่งแล้วเจอกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งยืน
รออยู่ที่หน้าประตูรถตู้คันนั้น
เอปน์เดินเข้าไปทักทายก่อนที่จะหันมามองแล้วชวนขึ้นบนรถโดยนิกนำไปเป็นคนแรก พร้อมกับผู้
หญิงสองคนที่เดินไปยังผู้หญิงคนนั้น จนผมต้องเดินตามไปเพื่อไม่ให้โดนทิ้ง
ผมเดินไปยังที่ตรงประตูหน้ารถตู้คันใหญ่คันนั้นก่อนที่จะทักทายผู้หญิงด้านหน้ารถก็พบว่าเป็นแม่
ของเอปน์ จนทำให้ผมถึงกับเหวอ "แม่เอปน์สวยจัง" ผมคิดในใจ
“นี่หนูเป็นเพื่อนใหม่เอปน์เหรอจ๊ะ แม่ไม่เคยเห็นหน้าหนูเลย” แม่เอปน์ถาม
“อ๋อ ครับ ผมเพิ่งย้ายมาจากเชียงใหม่นะครับ” ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้
“อ๋อ งั้นเหรอจ๊ะ ตั้งใจเรียนนะลูกนะ ถ้าเอปน์ทำไรผิดบอกแม่ได้เลยนะเรา” แม่เอปน์พูดพร้อมกับ
เอื้อมมือมาตบไหล่ของผม
“ครับ” ผมตอบก่อนจะเดินขึ้นรถไป
ในระหว่างที่พวกเรานั่งไปบนรถนั้นก็มีบทสนทนามากมายที่สร้างความเฮฮาไปได้แล้วผมก็ได้รู้จัก
เพื่อนใหม่อีกสองคนนั่นก็คือ “พิม” และ “ตูน” ซึ่งเป็นเพื่อนของเกวที่ผมเห็นหน้ามาบ่อยมากแต่ดันไม่รู้จัก
แม่ของเอปน์พาผมไปกินอาหารเย็นเลี้ยงส่งที่ร้าน XXX ซึ่งเป็นร้านซีฟู๊ดชื่อดังในย่านปทุมวันเพื่อ
เป็นการอำลาแม่เอปน์ที่จะไปทำงานที่สวีเดน ผมซึ่งโดนเอปน์ลากไปด้วยก็เลยอิ่มหมีพีมันกันไปเลยทีเดียว
555
“อิ่มว่ะ” เอปน์พูดออกมาพร้อมกับอาหารที่หมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือสักอย่าง อืม..ก็นะ นอกจากผัก
และสารพันเครื่องเทศกลิ่นหอมฉุยแต่ไม่มีใครกล้าแตะลิ้มลองเลยสักคนเดียว 555
ผมที่ซึ่งก็อิ่มมากๆ ก็เผอเรอออกมาจนเพื่อน พ่อ และแม่ของเอปน์กลั้นหัวเราะไม่อยู่ไปตามๆ กัน
แหม ก็คนมันอิ่มนี่หว่า ให้ทำไงได้ ไม่งั้นแก๊สในกระเพาะได้ระเบิดกระเพาะจนท้องผมกระจุยกระจายล่ะ
ครับ ซึ่งก็นะ ผมคงไม่อยากจะขึ้นข่าวหน้าหนึ่งว่า “เด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง กินเยอะไปเลยมีแก๊ส
ในกระเพาะมาก แต่ไม่ยอมเรอออกมา ท้องแตกตายคาร้านอาหารชื่อดัง” ซึ่งผมคิดว่ามันอนาถแบบที่สุดไป
เลย
“เอาอะไรอีกกันไหมลูก?” แม่เอปน์เอ่ยปากถามจนพวกผมจนพวกผมต้องส่ายหน้าสะบัดมือกันเป็น
พัลวัน
“ไม่เอาแล้วค่ะ / ครับ” พวกผมห้าคนพูดขึ้นพร้อมกัน เพราะถ้าหากแม่เอปน์สั่งอาหารมาเพิ่มอีก
คงจะกินไม่หมดแน่นอน คงต้องทิ้ง หรือห่อกลับบ้าน ซึ่งผมว่าอย่างแรกมีเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้มากกว่า
เยอะมาก
“งั้นเหรอจ๊ะ พ่อเอาไรมั้ย?” แม่เอปน์หันไปถามพ่อเอปน์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัว ก่อนที่พ่อเอปน์จะนั่งคิด
สักพักแล้วตอบออกมา
“อืม เอาไอติมช็อกโกแลตซันเดย์ท็อปปิ้งเป็นเชอรี่ให้พ่อสักถ้วยสิแม่” พลันที่พ่อเอปน์ตอบกลับมา
ทำให้เหล่าบรรดาลกๆ ถึงกับอึ้ง เพราะใครล่ะที่กวาดอาหารจนเรียบ ก็พ่อเอปน์! ใครกันที่สั่งอาหารมากมาย
ก็พ่อเอปน์! ผมยังอดคิดไม่ได้เลยว่าพ่อเอปน์กินแล้วเอาไปไว้ส่วนไหน? มิติที่สี่?
“พ่อยังไม่อิ่มอีกเหรอ” เอปน์ถามพร้อมกับหันมามองเพื่อนของตัวเองเรียงตัว เริ่มจากผม พิม ตูน
และเกว แต่ทำไมผมรู้สึกว่าผมเขินที่โดนเอปน์มองเป็นคนแรกล่ะ!?
“อืม...ก็นะ” พ่อเอปน์ตอบก่อนจะหยิบส้อมมาเขี่ยๆ ที่จานยำหมูเด้งจนพวกผมแทบอ้าปากค้าง ‘นี่
กระเพาะหรือหลุมดำวะ?’ ผมคิด
“ฟาน ไปเข้าห้องน้ำกัน” เอปน์หันหน้ามาทางผมก่อนจะเอ่ยชวน
“ไปดิ ป่ะ” ผมตอบกลับก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วจัดแจงเสื้อนักเรียนตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดีหน่อยเพื่อ
จะได้ไม่เสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน ผิดกับเอปน์ที่ปล่อยชายเสื้อหลุดรุ่ยออกจากกางเกงแบบไม่แคร์สายตา
ใคร
“เอาเสื้อใส่กางเกงหน่อยสิเอปน์” ผมพูดหลังจากที่เดินออกมาจากโต๊ะได้สักพักแล้ว ก่อนที่จะเดิน
ไปใกล้ๆ เอปน์มากขึ้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมเดินมาก่อน แต่ดันมาอยู่หลังเอปน์ซะได้ เฮ้! ใครว่าผมขาสั้น
ครับ!?
“ช่างมันเหอะน่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” เอปน์พูดก่อนที่จะเดินไปอย่างไม่คิดจะสนใจผม ทำให้ผมต้อง
ใช้มาตรการขั้นสุดยอด มาตรา 44 (ไรท์เตอร์ – ไม่ใช่ละนะ ระวังโดนเรียกรายงานตัว ><!)
“ช่างไม่ได้สิ!” ผมพูดก่อนจะเดินไปขวางหน้าแล้วหยิบชายเสื้อของเอปน์ยัดเข้ากางเกงสีน้ำเงินเข้ม
ของเจ้าตัว ทำให้เอปน์มองมาที่ผมอย่างงงๆ แต่ตอนนั้นผมที่กำลังบรรจงมือเอาเสื้อใส่กางเกงให้เอปน์ ผม
จึงไม่รู้สึกว่า สายตางงผสมกับความรู้สึกบางอย่างกำลังจ้องมองมาที่ผมอยู่
ผมยัดเสื้อเข้ากางเกงเอปน์ด้วยความมุ่งมัน (เพื่ออะไร?) จนกระทั่งเมื่อผมยัดเข้าจนเสร็จแล้ว ก็เลย
เงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้เอปน์ที่จ้องผมอยู่ แต่ผมไม่ยักกะรู้ตัวว่าสายตาคู่นั้นมีความรู้สึกอันหลากหลายที่ผสม
ปนเปกันไปหมด
“อะ” ผมอุทานเบาๆ ก่อนที่จะยัดติ่งเสื้อด้านหน้าเอปน์ที่เหลืออยู่เล็กน้อยเข้าในกางเกง แต่ผมยัดได้
ไม่ทันไร เอปน์ก็จับแขนผมดึงเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว…
จบบทที่ 4
End Chapter 4
Special แถมนิดนึง
อะ” ผมอุทานเมื่อเอปน์จับมือผมแล้วดึงให้เข้าไปในห้องน้ำชายที่อยู่ใกล้ๆ กับตรงที่ผมยัดเสื้อ
นักเรียนของเขาใส่กางเกงให้แทนเจ้าตัวที่มีทีท่าว่าจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของผมง่ายๆ
เอปน์ผลักผมให้เข้าไปติดกับผนังด้านข้างห้องน้ำก่อนจะนำร่างที่สูงและใหญ่กว่าผมเล็กน้อยมา
คร่อมบนตัวผม
“ทำอะไรน่ะเอปน์” ผมพูด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วนะงับบบ บท 4 เดี๋ยวบทที่ 5 จะตามมาในไม่ช้าาาา ><
เตรียมตัวรอรับความฟินได้เล๊ยยย
ไรท์เองเขียนไปกรี๊ดไป (เหรอ?)
ฟินนน ~~~
ฟิน~~~~~~
ตอนที่ห้าจะมาเสิร์ฟให้นะคัฟฟฟ ^^!!!
วันนี้ สวัสดี และขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับบบ
ความคิดเห็น