คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 6.1
Fate Love : รักใสๆ
ของนายเพื่อนร่วมห้อง
Chapter 6
๐๐Fan
Speak๐๐
“ค้างคืนบ้านเรามั้ย” ขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยปากบอกทางกับพ่อของเอปน์ เอปน์ก็ชิงตัดบทพูดขึ้นมาเสีย
ก่อนจนทำให้ผมปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ทัน
“ก็ได้” !? ในขณะที่ผมกำลังเกิดอาการมโนภาพ ผสมกับการคิดและวางแผนว่าควรจะตอบกลับไปยังไงดี
ปากของผมที่มันชอบจะไวไปกว่าความคิดอยู่เรื่อย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ผมรู้สึกดีด้วยเป็นพิเศษ ผมจะปฏิเสธคน
ชนิดนี้ไม่ค่อยเป็น
โดยที่ เอปน์ก็จัดเป็นคนคนหนึ่งในกลุ่มนี้..
“ค้างได้เหรอ?” เอปน์ที่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ถามขึ้นอีกครั้ง ผมที่กำลังมึนเบลอกับคำตอบที่ผมพูดไปเมื่อครู่ก็
ต้องชะงักคิดสักนิด
...........รู้จักกับเราเป็นคนแรก...........
...........แนะนำโรงเรียนใหม่ให้เรา...........
...........แนะนำเพื่อน...........
...........ของขวัญ...อันนั้น...........
...........อันที่ให้เรามา..โดยที่เราก็ไม่รู้สาเหตุ...........
ผมคิดถึงเรื่องที่เอปน์ทำให้ผม ทั้งๆที่เราเป็นแค่ ‘เพื่อน’ กันแท้ๆ ... เพราะฉะนั้น การที่ผมจะปฏิเสธไปมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดใจยังไงแปลกๆ
“อืม ได้” ผมตัดสินใจตอบไปพร้อมกับรอยยิ้มของผม เหตุผลมากมายหลากหลายประการที่ทำให้ผมตอบไปอย่างนั้น ผมไม่อยากทำร้ายน้ำใจเอปน์เลยจริงๆ
“จริงดิ” เอปน์พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม แต่ว่า ยิ้มแบบนั้นมัน เหมือนตอนนั้นเลย.. ตอนที่เอปน์ให้ของขวัญเรา...
ผมรีบหันหน้าออกไปมองที่นอกรถแทบจะทันที เพราะเมื่อผมคิดถึงภาพและเหตุการณ์
การกระทำของเอปน์ในวันนั้น มันทำให้ผมใจเต้นแรง
และรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนเอ็นดูอยู่ เอ็นดูในแบบคนรัก
“พ่อครับ ฟานค้างบ้านเรานะครับ” เอปน์บอกพ่อก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ผม ซึ่งตัวผมเองหันไปมองได้แวบเดียวก็ต้องหันหน้าตัวเองกลับไปมองที่นอกรถอีกครั้งหนึ่ง ทำไมน่ะเหรอครับ มันรู้สึกเดียวกันกับวันนั้นที่ผมโดนเอปน์พาไปมุมตึกเลยน่ะสิครับ!
“อ้าว งั้นเหรอลูก ได้ๆ”
เมื่อพ่อเอปน์ได้ยินเสียงที่เอปน์พูดไปเมื่อครู่ มันทำให้ผมหัวใจเต้นแรงขึ้นไปอีก
‘จะได้นอนห้องไหน?! กับใคร?! ถ้ากับเอปน์ล่ะ?! จะอาบน้ำยังไง?!
อาบเดี่ยวหรืออาบรวม?! ไม่ใช่สิ นี่มันบ้าน
ไม่ใช่ค่าย’ ความคิดจำนวนมากเกี่ยวกับบ้านของเอปน์พรั่งพรูเข้ามาในหัวของผมมากมายก่ายกองจนทำให้ต้องเขยิบเข้าใกล้ให้ชิดหน้าต่างรถเข้าไปอีก
......................................................................................
20 นาทีผ่านไป
“ถึงแล้ว!”
เสียงใครบางคนดังขึ้นในภวังค์ของผม ก่อนที่จะมีเสียงตามมาติดๆ “อ้าว
หลับไปแล้วเหรอนั่น”
เสียงพูดที่ทุ้มดูอ่อนโยนดังขึ้นตามมาจนทำให้ผมต้องส่ายหัวเบาๆ
“พ่อเข้าบ้านไปก่อนเลยครับ
เดี๋ยวผมล็อกรถให้” เสียงที่ผมได้ยินเป็นครั้งแรกดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนที่เสียงทุ้มนุ่มนั่นจะดังตามมา “โอเคลูก งั้นเดี๋ยวพ่อเข้าบ้านก่อนนะ
ถ้าไม่ตื่นก็อุ้มลงมาเลยก็แล้วกัน”
เสียงนั้นดังห่างไกลไปทุกทีก่อนที่ตัวผมจะโดนเขย่าเบาๆ
“ฟาน ตื่นได้แล้ว
ถึงแล้ว” เสียงที่ได้ยินเป็นครั้งแรกพูดก้องอยู่ในภวังค์ของผม
จนผมต้องขยับตัวหนีจากเสียงนั้นไปให้ไกล
“ฟาน ฟาน ตื่นเร็ว”
เสียงนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้งจนผมรู้สึกชักจะรำคาญ
ผมขยับตัวหนีอีกครั้งก็พบว่าตอนนี้ผมติดกับผนังอะไรสักอย่างที่ผมไม่สามารถขยับเขยื้อนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
ความรู้สึกเย็นๆ
เกิดขึ้นที่แก้มซ้ายของผม ความรู้สึกเหมือนกำลังโดน....!หอมแก้ม!.... เมื่อความคิดอกุศลดังนั้นผุดขึ้นมาผมก็รีบลืมตาขึ้นมาอย่างเกรงกลัวว่ากำลังจะโดนคนที่เรียกปล้ำเอาเข้าให้
แต่เมื่อผมลืมตามาก็ต้องถึงกับตะลึง
‘เอปน์หอมแก้มผมอยู่!’
“เฮ้ย!” ผมรีบแหกปากพร้อมกับขยับหน้าหนีเอปน์ทันที
“5555”
เอปน์หัวเราะพร้อมกับขยับตัวหนีไป “คิดอยู่แล้วเชียวว่าต้องตื่น 5555” เอปน์พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ทำให้หน้าเอปน์ดูหล่อมากขึ้นไปอีก
“ลงจากรถแล้วขึ้นบ้านได้แล้วฟาน
ตื่นๆ 555”
เอปน์พูดแล้วเดินลงจากรถ หลังจากนั้นก็กวักมือเรียกผมจากบนรถ
“อือ...”
ผมครางเบาๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเบาะรถ เตรียมไปนอนบนบ้านเอปน์ต่อ 555 น่าจะหลับสบายอยู่นะ..
“ไปเร็ว”
เอปน์กวักมือเรียกอีกครั้งนึง
ผมรีบขยับตัวลงจากรถก่อนที่จะลงไปยืนหน้าเอปน์แล้วยิ้มแหยๆ
ให้เอปน์อย่างอดเสียไม่ได้
“ไปเร็ว เข้าบ้านๆ”
เอปน์มองก่อนจะจับมือผมแล้วลากผมเดินเข้าไปในบ้าน
“เฮ้ย เราลืมปิดประตูรถว่ะ” เอปน์ปล่อยมือผมแล้วเดินไปทางโรงรถอีกครั้ง “เอ้อ ฟานเข้าบ้านไปก่อนเลยนะ
เดินไปสักพักจะมีประตูอยู่” เอปน์ที่คงเพิ่งจะนึกขึ้นได้หันหน้ามาบอกผมอีกครั้งก่อนจะเดินทางเดิมที่เดินมาเพื่อล็อก
รถ
‘ผมอดขำไม่ได้จริงๆ ห่วงผมจนลืมล็อ...’ นี่ผมคิดอะไรออกไปเนี่ย! บ้าจริงๆ ผมรีบเอามือขึ้นมาลูบหน้าแล้ว
เดินจ้ำอ้าวเข้าบ้านเอปน์ทันที
ผมเดินเข้าไปในบ้านเอปน์โดยไม่ได้สังเกตว่าพ่อเอปน์กำลังยืนรออยู่หน้าบ้าน
“อ้าว แล้วเอปน์ล่ะลูก?” พ่อเอปน์ถามผมในขณะที่ผมเดินเข้าไปในบ้าน
“อ๋อ เห็นว่าเอปน์ลืมปิดประตูรถน่ะครับ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มเหยเกให้ ให้พ่อเอปน์ก่อนที่จะทำหน้าเป็นปกติอีกครั้ง ก็ใช่สิ มาบ้านคนอื่นครั้งแรกจะเดินไปไหนได้ยังไงล่ะครับ !
“เออ พ่อว่าจะถามอยู่เหมือนกันว่าเราเป็นอะไรกับเอปน์?” พ่อเอปน์ถามผมจนผมอึ้งไปสักพัก ‘เป็นอะไรกัน?เป็นอะไรกัน?’ คำนี้วนถามผมอยู่ในหัวจนกระทั่งพ่อเอปน์ต้องเรียกผมขึ้นมาอีกที
“สรุปนี่เรากับเอปน์เป็นอะไรกัน”
คำพูดปกติธรรมดาที่พ่อเอปน์พูดออกมา เหมือนเป็นการตะคอกและบังคับให้ผมพูดอยู่กลายๆ
เป็นอะไรกัน??? นี่เรากับเอปน์เป็นอะไรกันแน่??? พ่อเอปน์ถามผมเกี่ยวกับเรื่องอะไรเนี่ย เรื่องในห้องน้ำ?! ต้องเป็นเรื่องในห้องน้ำแน่ๆ เลย
“...เพื่อน..ครับ” ผมพูดออกไปโดยไม่ทันตั้งตัว
“เหรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ” พ่อเอปน์ยิ้มให้ผมก่อนที่จะยื่นมือมากดไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะพูดให้ผมตะลึงต่ออีกครั้งหนึ่ง
“นอนห้องเดียวกับเอปน์นะ”
-----------------------------------------------
‘นอนห้องเดียวกับเอปน์’ ผมทวนคำที่พ่อของเอปน์พูดอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะทำหน้าเหวอใส่พ่อของเอปน์โดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“เดินขึ้นบันไดไปแล้วเดินไปห้องริมสุดเลยนะลูก”
พ่อเอปน์พูดบอกผมก่อนจะตบไหล่ผมอีกครั้งเบาๆ แล้วเดินออกไปจากบ้าน
‘นอนห้องเดียวกัน จะเจออะไรบ้างเนี่ย’ ผมคิดพึมพำอยู่ในหัวก่อนจะมโนภาพตัวเองโดนเอปน์ปล้ำขึ้นมา..!! ผมจะทำยังไงดีล่ะทีนี้?!
หลังจากที่พ่อเอปน์ออกไปผมเดินขึ้นบนชั้นสองของบ้านเอปน์ที่พ่อเอปน์บอก
“โห ห้องเยอะจังแฮะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ
แล้วเดินไปทางที่พ่อของเอปน์บอกผมมาเมื่อกี้นี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
“อ้าว มาแล้วเหรอ”
ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นเอปน์เดินเข้ามาในห้อง เพราะเวลาที่ล่วงผ่านมาจากนาฬิกาในห้องเอปน์แสดงเป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว
“อ๋อ พอดีพ่อขอคุยด้วยอะ”
เอปน์ตอบก่อนที่จะเดินไปยังที่ตู้ๆ หนึ่งที่ผมเดาได้ว่าคงจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ตรงข้ามกับเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่แล้วหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนหนึ่ง
ก่อนจะหันหน้ามาบอกผม
“เดี๋ยวเราขอไปอาบน้ำก่อนนะ”
เอปน์พูดก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่งที่อยู่ทางปลายของเตียงนอน
“อืม” ผมตอบกลับไปเบาๆ
ก่อนจะยิ้มให้
ห้องของเอปน์เป็นห้องที่ขนาดปานกลางไม่เล็กมาก ขนาดประมาณ 6x6* ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่ มีเตียงนอนขนาดเกือบใหญ่อยู่ริมซ้ายของห้อง
มีโต๊ะวางของเล็กๆ ตั้งอยู่ข้างๆ เตียง
ถัดจากปลายเตียงเป็นประตูไม้เปิดเข้าไปในห้องน้ำซึ่งผมได้ไปสำรวจภายในนั้นมาหมดแล้ว . . . ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องว่าเอปน์มีอะไรในห้องน้ำหรอกนะครับ !
ระหว่างที่เอปน์เข้าไปอาบน้ำผมก็ดูของในห้องเอปน์ไปเรื่อย จนไปเจอกับแผ่น DVD หนังเรื่องหนึ่งวางอยู่บนชั้นบนสุดของชั้นหนังสือ ซึ่งเป็นหนังเรื่องที่ผมอยากดูมาก ถึงมาก แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูจบสักที ทำไมน่ะเหรอ...หาแผ่นยากจะตาย...ในเน็ตก็ดูแล้วกระตุก ตุก ตุก ดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องก็ปิดหน้าเว็บแล้วเล่นเกมเสียยังดีกว่า รำคาญมันจะตาย ไอ้เรื่องหนังกระตุกเนี่ย แต่วันนี้โชคดีจริงๆ ที่ได้มาค้างนี่ จะได้ยืมไปดูที่บ้านเสียหน่อย แหม พูดแล้วก็น่าหยิบใส่กระเป๋าแล้วเผ่นแน่บจริงๆ
“ผะ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น จนผมรีบโยนแผ่นทิ้งไปบนเตียง เอปน์ที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะตรงไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาใส่แล้วโยนผ้าผืนที่นุ่งเมื่อกี้ให้ผม
“เรามีผ้าแค่นี้อะ ใช้ได้ป่ะ” เอปน์ถามผมในขณะที่ผมกำลังนั่งอึ้งกับผ้าที่ชื้นน้ำอยู่นิดๆ หน่อย
“ได้ ได้” ผมตอบกลับไป ก่อนจะหยิบผ้าผืนนั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยแก้มที่กำลังร้อนผ่าว
“เอปน์ เราอยากดูเรื่องนี้อะ” หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำได้สักพักมาแต่งตัวและเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้ง ผมก็เริ่มปฏิบัติการอ้อนเพื่อที่ให้จะได้ดูหนังเรื่องที่ผมโคตรอยากจะดูเสียที
“เรื่องนี้อะนะ?” เอปน์พูดก่อนจะหัวเราะใส่ผม
“ทำไมอะ”
ผมถามกลับไปด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ ผมจะดูมันแปลกมาเหรอ?
“เปล่าๆ ว่าแต่นะ
ไม่เคยดูอ่อฟาน 555” เอปน์แขวะผมอีกละ
มันน่าจริงๆ
“ไม่ดูก็ได้..”
ผมตอบกลับไปด้วยท่าทางงอนๆ ได้ๆ กลับไปดูแบบกระตุกๆ ที่โน้ตบุ๊คที่บ้านก็ได้
หรือถ้ามันกระตุกจนเหลืออดก็จะหาทางซื้อแผ่นแม่งซะเล้ย!!
“โอ๋โอ๋ อย่างอน
จะดูก็ดู มาๆ” เอปน์ดึงผมไว้แล้วพูดก่อนจะยิ้มละลายใจให้ผม
“...” ผมเงียบ
“อย่างอนดิ”
เอปน์เขย่าผมก่อนจะหัวเราะ
“ไม่ได้งอน”
ผมยังคงกระเง้ากระงอดต่อไป หะ? ใครว่าผมหยิ่งครับ ผมไม่ได้หยิ่งสักนิดนะครับ !!
“งั้น” เอปน์พูดก่อนเสียงหนึ่งจะตามมา “ฟอด~” !!!!!!!
“เฮ้ย เอปน์ทำไร” เมื่อผมได้ยินเสียงและความรู้สึกอุ่นๆ
จากลมหายใจของเอปน์ ผมก็รีบขยับตัวหนีด้วยความเร็วแสง
“55555” เอปน์หัวเราะอย่างไม่มีเหตุผลก่อนจะยิ้มให้ผม “หอมแก้มไง ฟอด..ฟอด...”
เอปน์พูดแล้วทำเสียงล้อเลียนผม
“แล้วตกลงจะดูป่ะเนี่ย?”
“ดูดิ
เปิดเลย เราอยากดู” ผมตอบไปพร้อมกับขยับตัวไปใกล้ๆ เอปน์อีกครั้งหนึ่ง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
*ความรู้เพิ่มเติมเรื่องกฎหมาย พรบ.กำหนดให้ห้องนอนในอาคารให้มีความกว้างด้านแคบที่สุดไม่น้อยกว่า 2.50 เมตร และมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร (อ้างอิงจากhttp://www.reic.or.th/RealEstateForPeople/Topic-ProblemHome08.asp)
ความคิดเห็น