คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : Start my good feeling (1)
Chapter 1 : Start my good feeling.
....วันศุกร์เปิดเทอม เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.2556
เปิดเทอมเริ่มชีวิตใหม่ของ ม.4 เริ่มขึ้นแล้ว โรงเรียนเอกชนชื่อดังที่ปกติก็มีจำนวนนักเรียนมากมาย
ก่ายกองอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเปิดเทอมใหม่ นักเรียนที่เข้ามาใหม่ก็ถลาล้นให้นักเรียนมากขึ้นกว่าเดิมไป
อีกเป็นเท่าตัว
ร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงนักเรียนสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตนักเรียนสีขาว ลงอักษรสีนแดงสด
แถวๆ ช่วงหน้าอกเป็นอักษรย่อโรงเรียน ถัดลงมาด้านล่างเป็นตัวเลขฮินดู-อารบิก แสดงถึงเลขประจำตัว
นักเรียน อักษรสีแดงเลข 57875 แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นใคร เพียงแค่มีอาจารย์หรือผู้ปกครองเข้าไปใน
เว็บไซต์ของโรงเรียน แล้วเพียงแค่กดไปที่สแกนหมายเลขประจำตัว เพียงเท่านี้ก็รู้ชัดเจนว่าเป็นใคร
“เฮ้ย! ไอ้เอปน์ สรุปมึงไม่ได้ลาออกใช่มั้ยว้าาา” เสียงดังของใครบางคนดังขึ้นมาทางข้างหลังของ
เด็กหนุ่ม เขาหันหลังกลับไปมองก็พบกับเด็กผู้ชายอีกคนที่วิ่งตามเขามา
“เออๆ พอดีพ่อไม่โดนสั่งย้ายแล้วว่ะ 555” เขาพูด
“เออดิ่ ถ้าพ่อมึงย้ายไปตรัง พวกกูก็ขาดไอ้หน้าม่อประจำกลุ่มนะสิวะ! 555” เมื่อเขาได้ยินเสียง
เพื่อนพูดออกมาอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะ “เพี๊ยะ!!” เบิร์ดกระโหลกเพื่อนแสนตรงไปทีนึง
“ไอ้สลัดเอปน์ กูเจ็บ!” เด็กชายพูดแล้วเอามือกุมหัวตัวเองไว้
“มึงตรงไป ดูคนอื่นมั่งนะสัส มองมาที่กูหมดแล้วเชี้ยย” เด็กหนุ่มเจ้าของมือที่เพิ่งจะฟาดลงไปบนหัว
ของเพื่อนตัวเองโพล่งขึ้น
“ก็มึงหล่อ”
“อุต๊ะ! พูดถูกใจจุงกะเบรยส์ แต่กูว่าหยุดสาระแนแหกปากตรงนี้ แล้วแม่งไปดูรายชื่อคนในห้องดี
กว่าว่ะสัส เผื่อเดี๋ยวใครโดนตกห้อง ในเว็บก็ประกาศแม่งแค่ผล” เด็กหนุ่มคนเดิมพูดขึ้นก่อนที่จะลากคอ
เพื่อนของตนไปหน้าอาคารสีฟ้าอ่อนใหญ่ๆอาคารหนึ่ง ป้ายหน้าอาคารเขียนชื่อไว้ว่า ‘อาคารสมโภชย์ 40 ปี
ดุจดาว-ปาจรีย์ อนุเคราะห์’
เด็กหนุ่มเดินไปยังบอร์ดอะลูมิเนียมสีเทาขุ่น ภายในมีกระดาษหลายใบติดอยู่ มีแผ่นกระจกใสใหญ่
สองแผ่นเลื่อนได้ปิดทับอยู่ เด็กนักเรียนจำรวนมากมุงดูกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ยังสามารถที่จะแทรกเข้าไปได้
“เอปน์ มานี่มาๆ” เด็กชายคนเดิมที่เพิ่งจะโดนลากมาดึงคอเสื้อของเด็กหนุ่มเข้าไปหน้าบอร์ด
“เออๆ ดึงเบาๆดิสัส เดี๋ยวคอเสื้อกูยับ” เขาบ่น
“ทีมึงดึงกูนะ มานี่เลยสัส อย่าเพิ่งโวยวาย มาดูดิ๊ เพื่อนคนไหนหลุดมั่ง” เด็กชายดึงปกเสื้อของอีก
คนให้มายืนข้างๆตัวเอง โดยไม่ได้แคร์สายตาของคนรอบข้างเสียเลย
“เออๆ”
เด็กชายกวาดตามองด้านบนหัวของกระดาษที่มีชื่อห้องเขียนไว้ก่อจะพึมพำเบาๆ “ห้องพิเศษ
Gipted มัธยมศึกษาปีที่ 4/1”
(Epn Speak)
“1.กันตวรา
2.มณฑาพิมพ์
3.อัชรินทร์
4.อัฌญกานต์
อัฌญกานต์ ...เวชกาญจนมนตรี… เด็กใหม่เหรอวะไอ้นิก กูรู้สึกไม่คุ้นชื่อ” ผมถามเพื่อนที่ชื่อ
“นิก” ที่มันยืนอยู่ข้างๆ
“เออ มั้ง น่าจะเด็กใหม่ ปีที่แล้วไม่มีคนชื่อนี้นี่หว่า” ไอ้นิกบอก
“อ่านต่อดิๆ เดี๋ยวเผื่อกูไม่ติด”
“ไม่ติดพ่องดิสัส สอบก็สอบผ่าน ไอ้ห่า!” เวรเอ้ย แม่มพูดมาได้นะสัส สอบก็สอบผ่าน สอบ
ห่าไรก็ผ่าน เสือกบอกไม่ติด - -
“เออ มึงอ่านต่อซะ พล่ามอยู่ได้” มันบอกผม ทั้งๆที่มันมัวแต่
“5. เกวลีลน์
6.ปทุมรัตน์
7.กันตุพงษ์
8.มัณทวัชย์
9.เกษร
.
.
.
.
.
18.เอปกรณ์ กูนี่หว่า เชร้ด (ได้ข่าวว่าติดแล้วนะ)
19.วิรุฬห์กันต์ มึงเลขที่ 19 ไอ้นิก
.
.” ผมพูดหมดทุกคนจนเจ็บคอ ก็พบว่า มีเด็กใหม่เข้ามา 10 คนจาก 35 คน ก็ถือว่าเยอะอยู่ คนเก่าๆ
ก็คงจะออกไปเรียนโรงเรียนรัฐเพื่อหาโควตาเข้ามหา’ลัย หมดละมั้ง
“เรียนห้อง 431 ว่ะ ไกลเลย อดส่องหญิง ม.2 แล้วกู” ครับ คราวนี้ย้ายจากตึก 3 ไปตึกสี่ที่มัน
อยู่ไกลกันตั้งเยอะ ผมก็เลยอดส่องเด็ก ม.1 ที่เพิ่งขึ้น ม.2 ปีนี้น่ะสิ เฟล
“เออน่า พี่ ม.5 ก็มาอยู่กับเรา มีเด็กสวยๆตั้งเยอะ รึมึงจะเหล่ป้อจาย?!” ปากมันหมาอีกแล้ว
ครับ ผมเลยจัด “เพี๊ยะ!”
“มึงตบกูอีกแล้วสัส!” ไอ้นิกมันตวาดใส่ผม ผมทำหน้าเฉยๆแกมทะเล้น ก่อนจะหันหน้าไปอีก
ฝั่งดูรายชื่อห้อง พิเศษ Gipted 2 เพื่อนกันอีกห้องหนึ่งทีไม่รู้ว่าจะมีใครติดมามั่ง
ระหว่างที่ผมหันไปเพื่อไปดูกระดาษแสดงผลของห้อง Gipted 2 ก็พบกับผู้ชายคนนึงหน้า
ขาวๆ กำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ แว่นกรอบสี่เหลี่ยมดำเรียบที่ใส่นั้นดูดึงดูด เป้สีดำที่โดนดึงให้
กระชับกับหลังนั้นยังดึงดูดผมอยู่ เด็กคนนั้นเดินมาทางบอร์ด ม.4 แล้วไล่ดูจากล่างขึ้นบน
“อ๊ะ เจอแล้ว” คนคนนั้นขยับปากพูด ผมเหล่ตาไปมองที่ทางปกเสื้อก็พบว่ามีสัญลักษณ์รูป
หนังสือสีเขียวอ่อนๆ เล็กปักอยู่หนึ่งอัน
‘มอเดียวกับกูนี่หว่า’ ผมนึกในใจ
ผมเหล่ไปอีกทางเพื่อที่จะมองชื่อ “อัชญกานต์ เวชกาญจนมนตรี” ผมพึมพำเบาๆ “ห้องเดียว
กับเราน่ะสิวะ เดี๋ยวไปทักซะหน่อย” ผมคิดอย่างนั้นก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดที่ไหล่ของเขาเบาๆ
“นี่ๆ นายชื่ออัชญกานต์ เวชกาญจนมนตรีป่ะ?” ผมถามเขาพร้อมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่าง
เป็นมิตร
“อ่ะ อืม เราเอง ทำไมเหรอ” เขาตอบผมมาด้วยท่าทีประหม่าไม่น้อย คงจะยังไม่
ชินกับโรงเรียนสินะ
“อืม เรา เอปกรณ์ ชาติรัตน์โอฬาร นะ ชื่อเล่นชื่อ เอปน์ อยู่ห้องเดียวกับนายนะ ม.4/1 ห้อง
ม.4 /G 1 นั่นแหล่ะ คงดูผลมาจากเว็บโรงเรียนแล้วล่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผมแนะนำตัวเอง
“อือ เราชื่อ ฟาน นะ ช่วยแนะนำเราหน่อยสิ เราไม่ค่อยรู้เรื่องอะ พอดีเพิ่งมาใหม่อะ ไม่มี
เพื่อนเลย นายอยู่ห้องเดียวกับเราใช่ไหมอะ นะ” เขาทำท่าเหมือนอ้อนผม ปกติก็น่ารักอยู่เป็นทุนแล้ว
ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งน่ารักไปใหญ่ >< แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกนะครับ -.-
“ได้สิ เดี๋ยวเราพาไปห้องเรียนเองนะ”
“อือ ขอบคุณนะ” เขาพยักหน้าให้ผมแล้วส่งยิ้มมาให้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมพาฟาน (ที่เพิ่งจะรู้ชื่อ) เดินไปตามทางเพื่อจะไปที่ตึก 4 ระหว่างทางก็สาธยายเรื่องเกี่ยวกับ
โรงเรียนไปด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว
“นี่นาย เอ่อ ฟาน ตรงนี้เป็นโรงอาหารเฉพาะของ ม.4 ม.5 นะ เวลาพักทั้งหลายแหล่นายก็มากินข้าว
ที่นี่ได้นะ เดี๋ยวเรื่องตารางเรียน ทางวิชาการจะจัดให้แล้วประกาศบอกอีกที ช้าสุดก็วันมะรืน” ผมพาเพื่อใหม่
พาทัวร์โรงเรียนที่แสนจะเข้าใจยากและใหญ่โตมโหฬาร โดยทิ้งไอ้นิกไว้ตรงบอร์ด (ตอนนี้เพื่อนใหม่สำคัญ
กว่าครับ 555 มันคงโมโหกระฟัดกระเฟียดขึ้นห้องไปแล้วล่ะ)
“แล้ว ม.1-3 อ่ะ จะกินข้าวที่ไหน นี่มันเฉพาะ ม.4 กับ 5 นี่นา หรือว่าปล่อยให้ไปกินกันนอกโรงเรียน
เราเห็นมีร้านค้าเต็มเลยอะ” ฟานพูดพร้อมกับเอียงคอมองผมด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชาย ผมคงจะอุ้มขึ้นห้องนอนแล้วจริงๆนะ!
แต่สงบไว้ เอปกรณ์ สงบไว้ ผู้ชายนะมึง มึงคงไม่ลดชั้นมาเอาผู้ชายกันเองนะ
เอปกรณ์ สงบไว้ๆ ฟานเป็นผู้ชาย….หน้าสวย -O-
“อ๋อ พวกเด็ก ม. ต้น จะไปกินที่ตึก 2 กันน่ะ โรงเรียนเรามันแปร่งๆ ตรงที่จะแยก ม.ต้น
ม.4 ม.5 ไว้คนละที่ อะนะ ม.ต้น จะอยู่ตึก 1 2 3 ส่วน ม.4 ม.5 จะอยู่กันที่ตึก 4 5 ส่วนตึกสมโภชย์ 40 ปี จะ
เป็นตึกประชุมรวมของโรงเรียนอะนะ ตึกนั้นมันจะสวยสุดเลยแหละ ไปได้ทุก ม. แต่ พวกเราก็สามารถเดิน
ไปไหนมาไหนในโรงเรียนได้ตามสะดวกอะนะ” ผมอธิบายจบก็หันไปหาฟานที่ยืนทำหน้ามึนอยู่ อ่าว นี่เอ็ง
เข้าใจที่ข้าพูดมั้ย -.-
“ส่วนตึกหก สกาวฟ้า เป็นตึกพักผ่อนอะนะ ห้องสมุดเอย ศูนย์ต่างๆก็อยู่ที่นั่น รวมถึงห้องเรียนก็อยู่
ที่นั่นด้วย” ผมอธิบายถึงตึกหกที่เมื่อกี้ลืมพูดไป
“อืม เราไม่ค่อยจะเก็ท แต่เราก็จะพยายามเก็ทนะ ^^” ฟานพูดแล้วยิ้มหวานอย่างเป็นมิตรให้ผม
ก่อนจะถามต่อด้วยสีหน้าที่สงสัยเพิ่งจะนึกออกว่า ม.6 หายไป “แล้ว ม.6 ล่ะ หายไปไหน”
“ม.6 จะไปอยู่ศูนย์ฯ น่ะ” ผมอธิบาย “ก็ประมาณว่าคงอยากให้เงียบๆ เตรียมสอบAdmission Gat
Pat มั้ง” ผมอธิบายตามที่ฟานอยากรู้ ก่อนจะพูดต่ออีกเรื่องหนึ่ง “ส่วนอาคารไหนเป็นของ กสร. อะไร ขอเรา
นึกแป๊ปนะ” อ่า..ผมลืมซะแล้ว ปิดเทอมนาน “อ้อ กสร.คณิตอยู่ที่ ตึก 2 ของ ม.ต้น วิทย์ อยู่ตึก 6 สังคม
ภาษาอังกฤษ อยู่ตึก 3 ภาษาไทย อยู่ตึก 4 ส่วนมากวิชาที่ครูอยู่ไกลจากตัวตึกที่ต้องสอนก็จะไปนั่งที่ห้องพัก
ครูของตึกแต่ละตึกอะนะ อย่างครูอ้อยก็จะนั่งอยู่ตึกวิทย์ ครูวิทย์ ม.ต้น ก็จะไปอยู่ตึก 1 เพราะว่าจะมีสะพาน
เชื่อมตึกน่ะ กสร. คอม กับการงาน อยู่ที่ตึกการงาน หรือเรียก ตึกคอมฯ ก็ได้ ดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ อยู่ที่ตึก
ศิลปะ ส่วนกลุ่มบริหารต่างๆ อยู่ที่อาคารสมโภชย์อะนะ” ผมอธิบายตามประสบการณ์ที่ได้อยู่ที่นี่มา 3 ปี
“อืม เราเข้าใจละ ขอบใจเอปน์นะที่ทำให้เรารู้อะไรมากขึ้นอะ” ฟานยิ้มหวามให้ผม จนผมแทบจะยิ้ม
ตอบไปไม่ทัน
“ไปห้องเรียนกันดีกว่า นั่งข้างเรามั้ย พอดีคนที่นั่งข้างเราย้ายออกไปแล้วอะ แล้วก็เปลี่ยนห้องด้วย
เอาปะ” ผมถามเพราะกลัวว่าจะหาเพื่อนไม่ได้
“อือ ^^ ขอบคุณนะเอปน์” ฟานตอบกลับมาแล้วยิ้มกว้างให้ผม
นี่นายจะทำให้ใจฉันละลายแล้วนะ ยิ้มก็หวานซะ ฉันอยากจะฟัดนายแล้วนะ
“ไปห้องดีกว่าเนาะ” ผมพูดตัดบทเพราะกลัวว่าจะมียิ้มหวานออเซาะส่งมาให้อีกระลอกนึงน่ะสิ ถ้ามีอีก ไม่รู้
ว่าผมจะผันตัวจากการชอบผู้หญิงมาชอบผู้ชายแทนรึเปล่าน่ะสิ!
ม่ายยยย ~_~
****************************************************
ความคิดเห็น