ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 การพบกันครั้งแรก
มาแล้วคร๊าบตอนแรกร้อน แอบมาลงเรื่องใหม่(แล้วเรื่องเก่ามันจะจบมั้ย 5555)หวังว่าคงชอบกันนะคะ เช่นเคย ติชมกันได้นะคะน้อมรับด้วยความยินดีคะ
ตอนที่ 1 การพบกันครั้งแรก
ตอนที่ 1 การพบกันครั้งแรก
เดอะ ซันเพลช โรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่งมีสาขาอยู่เกือบทุกภาคของประเทศ บริหารงานโดยชายหนุ่มผู้ซึ่งเพียบพร้อมทั้งทรัพย์สินและหน้าตา อนาวิน สุริยะพาณิชย์ จากชายหนุ่มอารมณ์ดีกลับกลายเป็นชายหนุ่มอารมณ์ร้าย ตั้งแต่มารดาเสียชีวิตเมื่อหกปีก่อน แล้วบิดาผู้ซึ่งเป็นเสาหลักของเขากลับแต่งงานใหม่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่มารดาของเขาจบชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวาย เพราะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียใหม่ของพ่อ แม่เลี้ยงของเขานั้นไม่ใช่สาวสวยแต่กลับเป็นหญิงวัยกลางคนที่อายุสามสิบเจ็ดปี ที่สำคัญหญิงสาวคนนี้เคยผ่านการแต่งงานและมีลูกมาแล้ว ไม่มีอะไรเหมาะสมกับบิดาเขาเลยก็ว่าได้ อนาวินคิดเสมอว่าหญิงสาวผู้นี้แต่งงานกับพ่อของเขาเพียงเพราะเงินที่พ่อเขาสามารถให้ได้มากกว่าสามีเก่าที่ล้มละลาย และที่สำคัญคือผู้หญิงคนนี้ทำให้แม่เขาตายเขาคิดแบบนั้นเสมอ เพราะเหตุนี้เขาจึงเกลียดแม่เลี้ยงของเขาและยังรวมไปถึงผู้หญิงทุกคนที่อยากได้แต่เงินของเขาเท่านั้นอีกด้วย เขาจึงเริ่มใช้เงินซื้อผู้หญิงเพื่อสนองความต้องการแค่บนเตียงเท่านั้น เหมือนมันเป็นเพียงแค่สิ่งบำบัดความเกลียดชังที่เขามี เขาไม่เคยจริงจังกลับใคร และไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนอีกเลย....
“วันนี้มีนัดที่ไหนอีกรึป่าวพี่กร”ผู้เป็นนายถามลูกน้องคนสนิทอย่างอารมณ์ดีเมื่อผลประกอบการไตรมาตรนี้สูงขึ้นถึงยี่สิบเปอร์เซ็นจาก ไตรมาตรที่แล้ว
“ไม่มีแล้วครับคุณวิน หลังจากนี้คุณวินว่างครับ”ปกรณ์คนสนิทที่พ่วงตำแหน่งเลขาหรืองานทุกอย่างที่ผู้เป็นนายต้องการตอบ
“งั้นเราไปหาที่ผ่อนคลายกันดีกว่า”ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าส่งยิ้มให้อย่างรู้กัน
“ให้ชวนคุณพงษ์ด้วยมั้ยครับ”ปกรณ์ถาม
“ก็ดีนะ พี่กรโทรหามันให้หน่อยแล้วกัน”อนาวินบอก แล้วปกรณ์ก็ต่อสายถึงพงศธรทันที่
“ครับ พี่กร”พงศธรรับสายหลังจากสัญญาณดังไม่ถึงห้าครั้ง
“คุณวินจะพูดด้วยครับ”ปกรณ์บอกปลายสายเสร็จก็ส่งโทรศัพท์ให้เจ้านาย
“ไอ้พงศ์ไปหาอะไรแก้เซ็งทำกันดีกว่า”อนาวินชวน
“ได้แต่ขอไปกินข้าวที่ร้านกลิ่นกาหลงก่อนนะ มีคนแนะนำมาว่าเด็ด”พงศธรบอกและเน้นคำว่าเด็ด
“ร้านอะไรว่ะชื่อตลกจริง”อนาวินหัวเราะ
“เออ แต่เขาบอกว่าอาหารอร่อยที่สำคัญลูกสาวเจ้าของร้านสวย”พงศธรบอกเหตุผลที่อยากไปนักหนา
“ที่แท้ก็อยากไปดูคนนี่หว่า ก็ได้อยากรู้เหมือนกันว่าสวยสักแค่ไหน”อนาวินบอกแหละหลังจากนัดหมายสถานที่กันเรียบร้อยแล้วเขาก็รอเวลาเพื่อจะได้ไปตามนัดเพื่อนรักตอนนี้ยังพอมีเวลาอีกสองสามชั่วโมง...
“พราว แกจะไปไหน”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวกำลังเดินหน้าตาไม่สบอารมณ์
“ไปกินเหล้า”หญิงสาวนามว่าพราวหรือฟ้าพราว รัตนโยธิน ตอบด้วยอาการเครียดจัด
“ไม่ให้ไป ถ้าอยากกินไปที่ร้านฉัน”พิมพิชาห้ามเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วงเพราะถ้าเกิดฟ้าพราวอยากดื่มของมึนเมาเมื่อไหร่นั้นก็แสดงว่ามีปัญหากับที่บ้านแน่นอน และเป็นแบบนี้มาตลอดหกปีที่รู้จักกัน
“ได้ แต่ขอค้างด้วยนะไม่อยากกลับบ้าน”ฟ้าพราวบอกเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอ
“ได้สิ พราวอย่าหาว่าสอนเลยนะ เมื่อไหร่จะโตสักทีเอะอะอะไรก็กินแต่เหล้ามันไม่ช่วยแก้ปัญหาให้แกได้เลยนะ”พิมพิชาบอกเพื่อน แต่ก็เหมือนสูญเปล่าเพราะฟ้าพราวชอบทำให้ตัวเองดูแย่ในสายตาคนอื่น และพร้อมที่จะทำให้ครอบครัวต้องอับอายกับเรื่องเสียๆ หายๆ ที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ในสายตาของคนอื่นฟ้าพราวดูเหมือนผู้หญิงใจแตกควงผู้ชายไม่เคยซ้ำชอบเที่ยวเตร่ และผลาญเงินของครอบครัวไปวันๆ ไม่ยอมทำงานทำการ และมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณหนูเอาแต่ใจผู้นี้ เป็นคนอ่อนไหวแค่ไหน
“ฉันอยากทำ..... ฮึแกก็รู้ว่าฉันไม่เคยมีอะไรดีในสายตาของคนที่บ้าน ก็แค่ลูกที่พ่อไม่ต้องการ”ฟ้าพราวพูดเหมือนเยาะตัวเอง
“จำไว้นะพราว ถึงใครไม่ต้องการแก แต่ฉันต้องการแกเสมอ”พิมพิชาบอกเพื่อนอย่างหนักแน่นเพื่อให้รับรู้ว่าเธอคิดแบบนั้นจริงๆ จนฟ้าพราวน้ำตาปริ่มจะไหลถ้าไม่มีเสียงหนึ่งมาขัดอารมณ์ซาบซึ้งเสียก่อน
“ต้องการอะไรกันสองคนเอ่ย”เสียงหล่อๆ ของชายหนุ่มที่หน้าตาดีไม่แพ้เสียงอย่างพิษณุดังขึ้นเมื่อเขาเพิ่งเดินมาถึง
“ต้องการให้ณุเลี้ยงข้าว ที่ร้านพิมไง”พิมพิชาส่งยิ้มหวานให้เพื่อนชายคนสนิท
“เป็นอะไรไปพราว...หน้าตาแบบนี้ ทะเลาะกับที่บ้านชัวร์”พิษณุเดาจากหน้าบึ้งตึงของเพื่อนสาวอีกคน
“รู้ก็ดีแล้ว ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอย่ามากวนตอนนี้”ฟ้าพราวรีบดักคอ เพราะพิษณุเหมือนคนโรคจิตชอบหาเรื่องแหย่ให้เธอหงุดหงิดอยู่เรื่อย แล้วเธอก็บ้าจี้ตามเขาตลอด เป็นพวกแหย่ขึ้นทุกครั้งสิน่า
“โอเคๆ งั้นไปบ้านพิมกันดีกว่า ไป”พิษณุบอกพร้อมดุนหลังเพื่อนสาวทั้งสองไปที่รถ
“เอ้อ เดี๋ยวณุโทรตามไอ้คุณพีทด้วยดีมั้ย”พิษณุเอ่ยถึงเพื่อนหนุ่มที่ไม่ค่อยหนุ่มสักเท่าไหร่ตามที่มันบอกเอาไว้
“ดี...ไม่เจอพีทนานแล้วคิดถึง”ฟ้าพราวเป็นฝ่ายตอบ
“จ้า....งั้นโทรไปบอกมัยเลยดีกว่า”พิษณุไม่รอช้าหยิบโทรศํพท์ขึ้นมาสั่งไอ้คุณพีทหรือพีรวิชญ์ทันที และเมื่อนัดแนะแกมบังคับว่าแกต้องมาแล้ว ก็พาเพื่อนสาวทั้งสองไปที่ร้านอาหารของ พิมพิชา หรือร้านกลิ่นกาหลง ที่มักเป็นที่ฝากท้องประจำของพวกเขาสมัยเรียนและตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่
หลังจากเดินทางฝ่ารถติดมาเกือบชั่วโมง ทั้งสามคนก็มาถึงบ้านของพิมพิชาและก็พบคนที่มื่อกี้บอกว่าไม่อยากมา แต่กลับมาถึงก่อนเสียอีก
“ไหนแกบอกไม่อยากมาไงไอ้คุณพีท”พิษณุแซวทันทีที่เห็นหน้า
“ก็พูดไปงั้นแหละ คิดถึงพิมจะแย่”พีรวิชญ์บอก พร้อมทั้งอ้าแขนรอให้พิมพิชาเข้ามากอด แต่กลายเป็นพิษณุที่เข้ามากอดแทน
“คิดถึงแกมากเลยไอ้คุณพีท”พูดพลางพิษณุก็ตบหลังพีรวืชญ์ไปพลางทั้งที่ยังกอดไว้
“ปล่อยเลยไอ้ณุ ผู้ชายแบบแกฉันไม่ต้องการไออุ่น ออกไป”พีรวิชญ์ผลักพิษณุออกแล้วรีบไปดึงพิมพิชากับฟ้าพราวมากอดแทน
“พอแล้วพีทพราวหายใจไม่ออก”ฟ้าพราวประท้วงเมื่อเพื่อนรักกอดจนหายใจไม่ออก
“ลืมตัวไปหน่อย สบายดีรึป่าวคะสองสาว”พีรวิชญ์ทักทายอย่างอ่อนหวานเช่นเคย ปกติเขาไม่เคยพูดจาคะๆ ขาๆ กับใครนอกจาพิมพิชาและฟ้าพราว และก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนนอกจากมพิชากับฟ้าพราว ต้องบอกว่าผู้หญิงคนอื่นอยู่นอกสายตาทั้งหมดก็เป็นได้ มันก็เลยทำให้เขามั่นใจว่าเขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันหรือที่เขาเรียกกันว่าเกย์นั้นเอง เพื่อนทั้งสามต่างก็รับรู้และก็ยอมรับในตั้วของเขาได้
“หายไปนานเลยนะพีช พิมคิดถึงจะแย่”พิมพิชาส่งยิ้มหวานอย่างเอาใจ
“ช่ายๆ พราวก็คิดถึงพีทเหมือนกัน”ฟ้าพราวรีบสนับสนุน
“ฉันด้วย”พิษณุบอกอีกคน
“พอเลยไอ้ณุแกคิดถึงฉันเนี่ยมันขนลุก แต่สำหรับสองสาวเนี่ยจะอ้อนเอาอะไรคะ” พีรวิชญ์ดักคออย่างรู้ทัน
“แหมพีทก็ รู้ทันทุกทีเลย”ฟ้าพราวส่งยิ้มเขินๆ ที่โดนรู้ทัน
“ของมันแน่”พีรวิชญ์อวด
“พีทจ๋า...รีสรอตท์ที่พีทเพิ่งเปิดใหม่น่ะ ได้ข่าวว่าสวยมากเลยใช่มั้ย”พิมพิชาเกิ่นนำด้วยเสียงหวานๆ ที่ใช้ประจำเวลาอ้อนพีรวิชญ์
“ก็ใช่นะสิ ให้รู้ซะบ้างว่าไอเดียใคร”พีรวิชญ์บอกอย่างภูมิใจ
“ขอเพ็จเก็จ สามวันสองคืนสามวัน เราจะไปเที่ยวกัน ขอบใจนะเพื่อน”พิษณุบอกปุ๊บก็ขอบคุณปั๊บทำให้พีรวิชญ์ไม่ทันได้ปฏิเสธ
“เว้นที่ให้ปฏิเสธกันมั้ยล่ะนั้น”พีรวิชญ์บอกเมื่อเห็นเพื่อนๆ ทำหน้าเว้าวอนเหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ ขอความเห็นใจจากเจ้าของ ก็อดใจอ่อนไม่ได้
“พีทน่ารักที่สุดเลย”พิมพิชากระโดดกอดพีรวิชญ์อย่างดีใจ
“จ้า น่ารักเสมอแหละคะ”พีรวิชญ์บอกพร้อมขยี้หัวเพื่อนสาวอย่างเอ็นดู
เมื่อจัดการเรื่องเพ็จเก็จทัวร์เรียบร้อยแล้วทั้งสี่คนก็เข้าไปช่วยงานในส่วนของร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับบ้าน ร้านกลิ่นกาหลงเป็นร้านอาหารที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ติดเครื่องปรับอากาศส่วนด้านหลัง จะทำเป็นเหมือนสวน บริเวณร้านทั้งหมดจะมีโต๊ะไว้บริการการลูกค้าประมาณสามสิบโต๊ะทั้งเล็กและใหญ่รวมกัน ลูกค้าที่นี่สวนใหญ่มักเป็นลูกค้าประจำหรือเป็นลูกค้าที่บอกต่อกัน ด้วยบรรยากาศสบายๆ ของร้านบวกกับอาหารอร่อยและราคาไม่แพงจึงมีลูกค้าแน่นทุกวันวันนี้ก็เช่นกัน
“ไม่ได้มาหลายเดือนลูกค้าแน่นเหมือนเดิมเลยนะคะ”พีรวิชญ์บอกกับพิมพิชา
“อื้ม พีทไปนั่งเหอะเดี๋ยวพิมให้เด็กไปจัดโต๊ะให้ สองคนนั้นด้วย”พิมพิชาบอกเพื่อนที่มัวแต่ช่วยงานจนไม่ยอมหาอะไรลงกระเพาะกันเลย
“ไม่เป็นไรพิม รอให้ลูกค้าซาลงกว่านี้ก่อนนะ”ฟ้าพราวบอก
“ตามใจแล้วกัน”พิมพิชาว่า แล้วกับไปช่วยพนักงานในร้านเสริฟอาหารให้ลูกค้าต่อ
เวลาประมาณสองทุ่มลูกค้าเริ่มซาลง เพราะร้านกลิ่นกาหลงนั้นปิดประมาณสามทุ่มช่วงนีลูกค้าจึน้อยลง
แล้วในที่สุดร่างสูงของอนาวินก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับปกรณ์หลังจากทิ้งให้พงศธรนังรออยู่คนเดียว
“ทางนี้ไอ้วิน”พงศธรที่มาถึงก่อนเกือบครึ่งชั่วโมงร้องเรียก
“เออ”อนาวินรับคำสั้นๆ เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ปุ๊ปเพื่อนรักก็บ่นทันที
“ทำไมช้านักว่ะ”พงศธรบ่น
“ก็มาถึงแล้วแกจะบ่นทำไมว่ะ”อนาวินบอก
“เออๆ ฉันสั่งอาหารไปและเดี๋ยวก็คงมาแกอยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งแล้วกันนะ”พงศธรบอก อนาวินพยักหน้ารับเนื่อยๆ เพราะเริ่มรำคาญสายตามาจากหญิงสาวโต๊ะข้างๆ
ไม่นานเกินรออาหารที่สั่งก็วางอยู่เต็มโต๊ะ จนอนาวินไม่รู้ว่าจะเลือกชิมจานไหนก่อนดี แต่ก่อนที่จะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกจานไหนก่อนดี พลันสายตา ของอนาวินก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สามารถดึงดูดสายตาของเขาไปอย่างไม่ทันรู้ตัว หญิงสาวร่างบางผิวขาวสวย ริมฝีปากสีชมพูอิ่มเอิบผมยาวเป็นสีน้ำตาลเข้มจนถึงกลางหลังรับกับใบหน้าเรียวหวานใส ช่างถูกใจเขายิ่งนักโดยเฉพาะรอยยิ้มพิมพ์ใจนั่น
“เป็นอะไรไปว่ะ”พงศธรถามเมื่อเพื่อนของเขาเหมือนคนสูญเสียการได้ยินเพราะไม่ว่าเขาถามอะไรมันก็ไม่ตอบ
“ป่าว แค่เจอของถูกใจ”อนาวินบอกยิ้มๆ
“น้องพราว”อนาวินเอ่ยชื่อหญิงสาวออกมาเมื่อเห็นฟ้าพราว นี่ฟ้าช่างเข้าข้างเสียจริง อนาวินดีใจอย่างมาก ที่ดูเหมือนฟ้าพราวจะรู้จักกับผู้หญิงที่เขาเผลอมอง การที่หญิงสาวคนนั้นทำงานในร้านอาหารแบบนี้คงไม่อยากเกินไปที่เขาจะใช้เงินเพื่อให้ได้เธอมา คิดได้ดังนั้น อนาวินจึงบอกกับผู้ร่วมโต๊ทั้งสองว่าขอตัวไปทักทายฟ้าพราวสักครู่...
“สวัสดีรับน้องพราว”เสียงอนาวินทักทายฟ้าพราว
“อ้าวพี่วินมาได้ไงคะเนี่ย”ฟ้าพราวส่งยิ้มดีใจให้กับชายหนุ่ม
“เพื่อนพี่พามาครับ มันบอกว่าอาหารที่นี่อร่อย”อนาวินบอก
“แน่นอนคะ ที่นี่ร้านเพื่อนพราวเอง เดี๋ยวพราวแนะนำให้รู้จัก แล้วพี่วินอย่าลืมมาอุดหนุนบ่อยๆนะคะ”ฟ้าพราวดึงชายหนุ่มให้นั่งลงข้างๆ และเริ่มแนะนำเพื่อนทีละคน
“นี่พี่วินจ๊ะ ส่วน”ฟ้าพราวเริ่มแนะนำ “นี่ก็ณุกับพีทคะเป็นเพื่อนพราว” ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าทั้งสองคนยกมือไหว้ผู้ที่ถูกแนะนำว่าอายุมากว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องพราวเคยเล่าถึงน้องๆ ให้ฟังครับ แต่ยังมีอีกคนไม่ใช่หรือครับชื่ออะไรนะ..”อนาวินจำได้ว่าฟ้าพราวเคยเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนสนิทอยู่สามคนแต่เขาไม่เคยเห็นสักครั้ง
“อ๋อ...มาโน่นแล้วคะ”ฟ้าพราวชี้ไปยังพิมพิชาที่กำลังเดินมาที่โต๊ะ
“พิม...นี่พี่วินที่เคยเล่าให้ฟังไง พี่วินคะนี่พิมคะ”ฟ้าพราวแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนที่เหลืออีกหนึ่งคน
“สวัสดีคะ”พิมพิชาส่งยกมือไหว้อย่างนอบน้อมตามนิสัย
“สวัสดีครับน้องพิม ยินดีที่ได้รู้จักครับ”อนาวินยิ้มกริ่มช่างโชคดีอะไรอย่างนี้เป็นเพื่อนกับพราวฟ้างั้นเขาก็ง่ายขึ้นน่ะสิ...
“พิมคะ ทานข้าวก่อนดีกว่า พิมยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะเดี๋ยวปวดท้อง”พีรวิชญ์จัดแจงตักอาหารให้พิมพิชาเมื่อรู้สึกได้ว่าผู้ชายที่ฟ้าพราวแนะนำนั้นมองพิมพิชาอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ
“ขอบใจจ้า พีทก็ทานเยอะๆนะ บล็อกเคอรี่ผัดกุ้งเนี่ยพิมทำเองนะ”พิมพิชาก็ตักกับข้าวที่บอกว่าตัวเองเป็นคนทำให้พีรวิชญ์เช่นกัน อนาวินเห็นท่าทีของคนที่ฟ้าพราวแนะนำว่าชื่อ พีท เหมือนจะรู้ทันเขาเลยรีบถอยก่อนเดี๋ยวไก่จะตื่นซะก่อน
“งั้นพี่ขอตัวก่อนดีกว่านะครับน้องพราว”อนาวินขอตัว
“คะพี่วิน แล้วพบกันนะคะ”ฟ้าพราวบอกลา
“ครับ”แล้วอนาวินก็เดินกับไปหาพงศธรที่โต๊ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น