"ทางหน่วยลาดตระเวณรายงานว่าตอนนี้กองทัพมอนเตอร์กำลังเคลื่อนที่มุ่งมาด้วยความเร็วสูงครับ คาดว่าอีกอีกไม่นานก็คงจะถึงพวกเ้ราครับ!"
ทหารของอาชาสีครามภายใต้การปกครองของพันเอกเอิร์ลกล่าวรายงานขึ้น
ณ ตอนนี้เมืองเพเดร์ได้อยู่ในมาตราการการป้องกันระดับสูงโดยการร่วมมือจากกองทัพจากศูนย์บัญชาการหลักและเหล่านักผจญภัย เหล่าทหารและนักผจญภัยกว่า 12,500 คนได้แบ่งกองกำลังเป็นทั้งหมด 4 กองทัพ
ทางประตูทิศเหนือของเมืองเพเดร์ที่คาดว่าจะมีกองกำลังมอนเตอร์แห่มามากที่สุดจึงมอบหน้าที่ดูแลนี้ให้กับกองทัพของพันเอกเอิร์ลและกองพันอาชาสีครามทหารสวมเกราะขาวที่มีสัญลักษณ์รูปม้าสีครามตรงเกราะไหล่ของเขาทั้งหมด 3,000 คน
"ฮุย ฮุย!อาชาสีคราม!!"
"หวังว่าทิศของเจ้าหนูนั่นกับท่านแคลร์จะรับมือไหวนะ" พันเอกเอิร์ลยิ้มกล่าว
ซึ่งคาดว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ แต่ด้วยจำนวนที่มากของกองกำลังมอนเตอร์ทางฝั่งประตูทิศเหนือแคลร์จึงให้กองกำลังทหารของเธอหรือของเมืองเพเดร์ไปช่วยอีก 500 คน ทำให้ประตูทิศเหนือมีกองทัพมนุษย์ทั้งหมด 3,500 คน
"หึ หึ พวกเราอย่าไปน้อยหน้าพวกทหารของจักรวรรดิ์ละ ยังไงซะเมืองเพเดร์ของพวกเราพวกเราก็จะปกป้องให้ได้!"
"เฮ!!"
กิลมาสเตอร์ที่ดูแลประตูทิศใต้กล่าวปลุกใจ
ทางประตูทิศใต้กองทัพที่ดูแลคือกองทัพของเหล่านักผจญภัยทั้ง 2,000 คนและกองทัพของแคลร์ที่ส่งไปช่วยทางด้านนี้อีก 1,000คน กองกำลังประตูทิศใต้นี้นำโดยกิลมาสเตอร์ของเมืองเพเดร์'วอร์เบิร์ต'ชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่มีระดับถึงขั้น 4 ระดับ 100 ทำให้กองกำลังทางประตูทิศใต้มีคนถึง 3,000คน
"เจ้าคือนักเวทย์น้ำแข็งของท่านเจ้าเมืองสินะ"
"ค่ะ ผู้พันดอร์ค"
"เดี๋ยวทหารของข้า ข้าจะสั่งเอง เจ้าดูแลทหารของท่านเจ้าเมืองทีละ"
"ค่ะ"
นักเวทย์น้ำแข็งสาวไอน์โค้งรับคำสั่งกับผู้พันดอร์คที่อาวุโสกว่า แต่ในใจพอรู้ว่าพันโทดอร์คไม่ชอบใจเท่าไรที่นักเวทย์ดูแลสวนผักอย่างเธอมาช่วยในการนำทัพแบบนี้ ถึงจะได้คำยืนยันจากแคลร์ว่าไอน์มีฝีมือมากก็เถอะ
ทางประตูทิศตะวันออกดูแลโดยกองทัพของพันโทดอร์คจำนวน 2,500คนและทหารของแคลร์อีก 500 คน กองทัพนี้นำโดยนักเวทย์น้ำแข็งของแคลร์'ไอน์'กับพันโทดอร์ค ทำให้กองทัพทางประตูทิศตะวันออกมีถึง 3,000คนเช่นกัน
"ชายชุดทหารของจักรวรรดิ์คนนั้นที่ขี่ม้าข้างๆท่านแคลร์นั่นใครกันน่ะ จะมานำทัพพวกเราด้วยเหรอ?"
(***ชุดของทหารจะแตกต่างกันของแต่ละเมือง แต่จะมีสัญลักษณ์ของจักรวรรดิ์อยู่ติดที่หัวไหล่ของทหารทุกเมืองเพื่อบ่งบอกว่าเป็นทหารของจักรวรรดิ์ ส่วนคำว่า'ทหารของจักรวรรดิ์' หมายถึงทหารหลวงที่อยู่ในเมืองหลวงนั่นเองส่วนใหญ่จะแข็งแกร่งกว่าทหารของเมืองหน้าด่านหรือเมืองชั้นใน)
"นั่นสิ จะให้มาทำตามคำสั่งนอกจากท่านแคลร์และท่านกริมเมอร์แบบนี้ก็ลำบากนา"
เสียงของพวกทหารทางด้านทิศตะวันตกเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับสเวนที่ตอนนี้นั่งในท่าทางสงบนิ่งอยู่บนหลังม้าสีขาวข้างม้าของแคลร์
ทางด้านทิศประตูตะวันตกที่มีกองทัพของเมืองเพเดร์หรือของแคลร์ที่เหลือ 3,000 คน นำกองทัพโดยแคลร์ กริมเมอร์และเดย์ แน่นอนว่าพวกทหารไม่รู้จักกับเดย์เพื่อให้คลายความแคลงใจและสงสัย...
"ชายคนนี้ที่จะมานำทัพพวกคุณร่วมกับเรา เขามีนามว่าสเวน เขาเป็นคู่หมั้นของเรา เรื่องฝีมือเขาไม่ต้องห่วงได้เลยเขาถือว่าเป็นหัวกะทิในหมู่หัวกะทิของโรงเรียนเตรียมทหารระดับนายกองเลยทีเดียว
เวลานี้เป็นยามฉุกเฉินการที่จะให้พวกคุณเชื่อว่าเขามีความแข็งแกร่งที่เชื่อถือได้ไหมคงเป็นเรื่องยากสำหรับตอนนี้ แต่เราก็ขอให้พวกคุณเชื่อเราก็เพียงพอเราเอาชีวิตเรารับประกันเลยว่าคู่หมั้นของเราจะพาชัยชนะมาสู้เมืองเพเดร์แห่งนี้!!"
"พวกเราเชื่อในตัวท่านแคลร์!!"
"ท่านแคลร์ๆ!!"
"ชัยชนะจะเป็นของพวกเรา!!"
เฮ เฮ!!
"........."
เดย์หันมายิ้มมองเธอเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าเธอจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าทหารของเธอได้ง่ายดายขนาดนี้ แสดงว่าพวกทหารเหล่านั้นคงเคารพและเชื่อใจเธอมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
จุดนี้ทำให้เดย์อดที่จะชมเธอไม่ได้เพราะการเป็นที่เคารพขนาดนี้ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ถ้าไม่ได้ทำจากใจจริง แต่เดย์ก็ยังคงแอบเห็นสายตาของเธอที่มองออกไปยังชายป่านอกเมืองเพเดร์
เป็นทิศที่พวกมอนเตอร์จะบุกมาสายตาของแคลร์ที่ถึงแม้จะสวมชุดเกราะสีขาวประจำตำแหน่งแม่ทัพอย่าสง่างามและน่าเกรงขาม แต่ในดวงตากลมโตสีม่วงอัญมณีของเธอสั่นไหวด้วยความกลัวลึกๆ
หมับ
"........"
"ต้องให้บอกกี่รอบฮะ...ฉันบอกแล้วว่าจะปกป้องเธอเอง"
หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ราวกับว่าต่อไปนี้ทั้งสองคนไม่ใช่เพียงแค่คนที่เพิ่งรู้จักกันอีกแล้ว ความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยนเพียงข้ามคืนทำให้ทั้งสองเลือกที่จะเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกอีกฝ่าย
"อื้อ"
แคลร์หันมายิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่เชื่อมั่นในตัวเขา ก่อนที่ทั้งสองจะไม่ทันได้พูดอะไรต่อกริมเมอร์องครักษ์ส่วนตัวของแคลร์ที่ช่วยนำทัพในครั้งนี้ก็กล่าวแทรกขึ้นมา
"ตกลงชายคนนี้คือคนที่นายหญิงจะหมั้นด้วยจริงๆเหรอครับ?"
กริมเมอร์ขี่ม้าสีดำตัวใหญ่มาข้างๆ ก่อนจะเหลือบมองเดย์เล็กน้อย ยอมรับว่าชายตรงหน้านี้ดูดีมีสง่าราศรีจริงๆ แต่ที่เขาสงสัยและระแวงก็ไม่แปลกเพราะเขาอยู่กับแคลร์มาตั้งนานไม่คิดว่าแคลร์จะเลือกชายคนนี้
ที่เป็นเพียงทหารหน้าใหม่ที่ยังไม่บรรจุถึงเรื่องสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารนายกองได้จริงตามที่แคลร์กล่าวกับเหล่าทหาร แต่ที่เหลือนั้นแต่งเติมทั้งสิ้น...
นั่นจึงทำให้กริมเมอร์เข้าใจว่านายหญิงของตนเลือกที่จะแต่งงานกับชายคนนี้จริงๆ แต่ชายคนนี้เขาก็แค่คนที่ช่วยชีวิตเธอจากนักฆ่าไม่ใช่เหรอ? ไม่น่าจะมีเหตุอะไรให้ถึงกับแต่งงานกับเขาเลยนี่ รู้จักกันถ้าจากที่ฟังก็เพียงแค่สามวันเองไม่ใช่เหรอ?
"เราตัดสินใจแล้วกริมเมอร์แล้วจะไม่พูดซ้ำสอง เข้าเรื่องดีกว่าเรื่องที่เราให้ท่านไปตรวจสอบความผิดปกติของพวกมอนเตอร์ได้ความว่าอย่างไรบ้าง?"
แคลร์ส่ายหน้าเลิกที่จะฟังคำถามนั้นของกริมเมอร์ ก่อนสีหน้าของเธอจะกลายเป็นจริงจังแล้วถามเรื่องที่เธอสั่งให้เขาไปทำ
"พวกมันไม่ได้ขาดแคลนอาหารอย่างที่ท่านทั้งสองว่านั่นแหละ จากที่ข้าไปตรวจสอบมาพร้อมกับเหล่านักเวทย์ข้าได้พบความผิดปกติของพื้นที่ป่ารอบๆเมืองเพเดร์แห่งนี้"
"มันคือ?"
แคลร์กล่าวถามเมื่อกริมเมอร์พูดค้างไว้ เดย์ก็ตั้งใจฟังด้วยความอยากรู้เช่นกัน
"มีวงเวทย์ขนาดใหญ่ถูกร่ายรอบๆบริเวณป่ารอบๆของเมืองเพเดร์ครับ และยังเป็นเวทย์ระดับสูง"
"......."
แคลร์หรี่ตาลงมองเล็กน้อย มันเป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน นี่มันไม่ได้เกิดจากธรรมชาติภัยพิบัติความกระหายเลือดของพวกมอนเตอร์ครั้งนี้มีผู้อยู่เบื้องหลัง
คนที่น่าจะทำแบบนี้ได้ถ้าไม่ใช่ศัตรูอย่างพวกจักรวรรดิ์อื่นก็คงเป็นฝีมือของ...
"พวกปักษาทมิฬสินะ...นักฆ่าผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะเป็นคนขององค์กรนั้น"
แคลร์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เธอกัดฟันด้วยความแค้นใจพวกองค์กรนี้มันไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย พวกมันสนแค่ทำให้เป้าหมายที่ได้รับได้สำเร็จลุล่วง แคลร์คาดว่าสิ่งนั้นก็คือแหวนมรดกของเธอ
"แต่ทำไมมันถึงยังจ้องชิงแหวนนั่นอยู่ละ ในเมื่อผู้ว่าจ้างอย่างพันตรีเอริธโดนจับไปแล้ว?"
เดย์ที่เงียบมานานกล่าวถามขึ้นอย่างสงสัย แคลร์กับกริมเมอร์มองมาที่เดย์เล็กน้อยอย่างแปลกใจเหมือนกับว่าเขาพลาดที่จะรู้อะไรบางอย่างไปเกี่ยวกับองค์กรนั้น
"สเวนคุณไม่รู้เหรอว่าพวกปักษาทมิฬน่ะ...ถ้ามันเจอสิ่งของที่ถูกใจมันก็จะแย่งมาไม่ว่าจะด้วยวิธีแบบไหนก็ตาม ตอนนี้พวกมันจึงไม่สนผู้ว่าจ้างแล้วยังไงละคะ"
แคลร์กล่าวอธิบายถึงความชั่วร้ายขององค์กรนี้ เดย์พอได้ฟังก็เข้าใจ แต่นั่นยิ่งเพิ่มความกังวลให้เขาไปอีก ถ้าพวกมันชั่วถึงขนาดนี้แล้วฮายอนจะจบด้วยการแค่ถูกควบคุมเฉยๆไหมนะ...
'ถ้าพวกมันกล้าทำอะไรกับเธอ...ฉันขอสาบานเลยว่าจะกวาดล้างพวกมันให้หมดสิ้น'
ครืน...
เดย์กำหมัดแน่นตรงบังเหียนของม้า จิตสังหารของเขาที่ถูกแผ่ออกมาทำให้ผู้คนรอบๆสัมผัสได้ พวกเขาแทบจะหายใจไม่ออกกันเลยทีเดียวและไม่คิดเลยว่าชายคู่หมั้นของเจ้าเมืองของพวกตนจะมีพลังถึงขนาดนี้
"สเวน..."
แคลร์ตกใจเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเห็นสีตาของเขาจากสีฟ้ากลายเป็นสีแดงวูบหนึ่ง...
"กริมเมอร์ช่วยรายงานต่อทีค่ะว่าตอนนี้มีกองกำลังมอนเตอร์รูปแบบไหนบ้างที่กำลังมายังที่นี่" แคลร์จับมือของเดย์ให้เขาใจเย็นลงก่อนจะหันไปกล่าวถามกับองครักษ์ส่วนตัว
"ก๊อบบลิน 5,000 ตน ฮอร์บก๊อบบลิน 3,000ตน ออร์ค 5,000ตน หมาป่าเขาเดียว 3,000ตัว หมียักษ์แดง 1000 ตัว แรดหิน 3,500ตัว งูยักษ์ตาเดียว 2,000ตัว ต้นไม้ปีศาจ 3,000ตัว โกเลมหิน 2,000ตัว แมงมุมพิษ 2,000ตัว ไซคลอป 500 ตัวและ...ราชันย์ราชสีห์เพลิง สัตว์มายาธาตุไฟ 1 ตัวครับ"
กริมเมอร์กล่าวตัวสุดท้ายด้วยเสียงเครียด...
"อะไรนะคะ!ทำไมสัตว์มายาแบบนั้นถึงมาอยู่แถวป่าของเมืองเราได้ นั่นมันมีระดับถึงขั้น 5เลยนะคะ!แถมยังมีหมียักษ์แดงระดับขั้น 3 และไซคลอปขั้น 4 อีก..."
แคลร์อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงเครียด...
ในขณะที่เดย์ก็ลอบยิ้มเพราะแบบนี้พลังของเขาน่าจะขึ้นได้รัวๆเลย แถมทักษะอีกด้วย ตะกี้ถ้าฟังไม่ผิดสิงโตไฟอะไรนั่นจะมีระดับมากกว่ายมทูตที่เขาฆ่าตนแรกตั้งแต่มาที่โลกนี้อีกสินะ
"จัดทัพเตรียมพร้อมหน่วยระยะไกลนักธนู นักเวทย์อยู่ทัพหลังสนับสนุนทัพหน้า ทัพหน้าให้ทหารโล่ดาบมือดาวอยู่หน้าสุด ทหารหอกอยู่แถวที่สอง
ส่วนแถวสามของทัพหน้าเป็นต้นมาให้เป็นทหารราบที่ใช้อาวุธดาบ ขวาน ค้อนให้หมด จัดรูปขบวนแบบจัตุรัสเพื่อเตรียมการป้องกันและขอกองทัพหลังขึ้นไปอยู่บนกำแพงเมืองด้วย!!"
เดย์ขี่ม้าทะยานออกไปยังหน้าของกองทัพ ก่อนจะกล่าวคำสั่งออกมาด้วยเสียงอันดังลั่น แต่เมื่อเดย์เห็นว่าพวกทหารยังคงอึ้งๆกันอยู่
เขาก็โชว์ศักยภาพนำพลังธาตุสายฟ้าที่มีถึงระดับสามฟาดไปทางทิศข้างหน้าที่เป็นพื้นที่โล่ง ก่อนจะมีสายฟ้าพุ่งออกมาจากปลายดา่บคาตานะของเขาลงไปยังพื้นบริเวณจุดนั้นอย่างรุนแรง
เปรี้ยงง!!!
"ถ้าได้ยินก็ขานรับ!"
"คะ...ครับ/ค่ะ!!"
เหล่าทหารชายหญิงพอได้เห็นพลังของเดย์ก็สะดุ้งก่อนจะขานรับคำสั่งเสียงดังอย่างพร้อมเพรียงจัดขบวนทัพอย่างรวดเร็ว แคลร์กับกริมเมอร์พอได้เห็นก็อึ้งกับความเป็นผู้นำของเขา
ตึง ตึง!!!
"มาแล้วสินะ..."
เสียงพื้นเริ่มสนั่นหวั่นไหวจนทุกคนเริ่มรู้สึกได้ ทางหน้าด้านของชายป่าเริ่มมีต้นไม้หักโค่นลงเป็นจำนวนมาก เดย์ขี่ม้ากลับมาทางด้านหน้าอีกครั้งหลังจากวนรอบทัพเพื่อดูรูปขบวนพร้อมกับกริมเมอร์ ส่วนแคลร์เขาให้ไปอยู่หลังกับพวกนักเวทย์เพราะแคลร์นั้นไม่ได้เก่งกาจเรื่องการรบระยะประชิด
"พลธนู นักเวทย์เตรียมพร้อม!!"
เดย์สั่งการขึ้นทหารธนูบนกำแพง 200 คนและด้านล่างอีก300 คนก็เตรียมลูกศรยกค้างขึ้นฟ้าเพื่อเตรียมการยิง เหล่านักเวทย์อีก 500 คนก็ร่ายเวทย์เตรียมพร้อมแคลร์เองก็ด้วย
ตึงง!!!
"โฮกกก!!!"
"ฮว้ากก!!"
"ฮูมมม!!"
ทันทีที่ต้นไม้ตรงชายป่าล้มลงพวกเขาก็เห็นเหล่าก็อบบลินและออร์คพุ่งออกมาจำนวนมาก ก่อนจะเป็นหมียักษ์แดงและไซคลอปที่โผล่ร่างอันใหญ่โตออกมาพร้อมคำรามเสียงดังลั่น
"ยิงได้!!"
ฟุบ ฟุบ ฟุบๆๆ
โฟร่วว!!
เปรี้ยง!
แช้ดด!!
ทั้งลูกศรเคลือบเวทย์และคลื่นพลังเวทย์ไฟ กระสุนธาตุดิน น้ำก็ถูกยิงไปที่พวกมอนเตอร์อย่างรุนแรงจนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
บรึ้มม!!!
"โฮกก!!"
การโจมตีครั้งนี้ทำให้พวกก็อบบลินตายลงไปเป็นจำนวนมากและพวกออร์คก็ด้วยเช่นกัน แต่กับพวกหมียักษ์แดง ไซคลอปสร้างได้เพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น
"ทหารโล่เตรียมการรับการปะทะมีแรดหินพุ่งตรงมาแล้ว!"
เป็นทีของกริมเมอร์ที่สั่งการบ้างเมื่อเขาเห็นพวกแรดหินที่ตัวใหญ่ถึง 3 เมตรกำลังวิ่งพุ่งมาหลายตัวด้วยความเร็วสูง มันมาเพื่อจะเปิดทางให้กับพวกมอนเตอร์อื่นๆ นี่ราวกับว่ามีการสั่งการเลยทีเดียว ฝูงมอนเตอร์ที่ปะทะกับพวกเดย์นั้นมีประมาณ 8,000ตนซึ่งถือว่าเยอะพอสมควรกับฝั่งเขาที่มีแค่ 3,000คน
ตึง ตึง!!
"ทหารธาตุดินสร้างกำแพงดินขึ้นมาป้องกันให้พวกโล่อีกชั้น!!"
เดย์สั่งการทหารนักเวทย์ที่เป็นธาตุดิน พวกเขารับคำสั่งรีบสร้างกำแพงดินขึ้นมา ด้วยความร่วมมือของเหล่านักเวทย์ทั้ง 500คนและเดย์ช่วยเสริมอีกทำให้มีกำแพงดินหนาและใหญ่เกิดขึ้นมา
เปรี้ยงง!!
เปรี๊ยะๆ
"ตอนนี้แหละพลหอกแทงจุดที่เป็นรอยร้าวเลยพลธนูและนักเวทย์เตรียมซ้ำ"
เดย์สั่งการพร้อมดูจังหวะที่กำแพงใกล้แตกพร้อมต้องฉวยโอกาสนี้ที่พวกแรกชะงักโจมตีทันทีเพราะกำแพงจะแตกพอดิบพอดีทำให้พวกแรกอาจไม่ทันตั้งตัว
เปรี้ยง!!
ฮูมม!!
พวกแรกถึงจะมีผิวที่แข็งแต่เมื่อโดนการผสานเวทย์ของพลหอกที่มีเหล่านักเวทย์คอยเพิ่มพลังบัพให้ทำให้พลังมีความรุนแรงมากกว่าเดิมสร้างบาดแผลให้พวกแรดได้พอสมควร ก่อนพวกมันจะโดนเหล่านักธนูและนักเวทย์โจมตีซ้ำจนตาย
"ท่านสเวนสุดยอด!!"
"เฮ เฮ!!!"
พวกทหารถึงกับทึ่งที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เดย์คิดไว้เป้ะอย่างไม่มีผิดเพี้ยน พวกเขาไม่คิดว่าการโจมตีฉับพลันแบบนี้จะสามารถเพิ่มความรุนแรงกับผิวของแรดหินได้มากขนาดนี้ แน่นอนว่าแคลร์กับกริมเมอร์ก็ยังอึ้งตลอดทุกการกระทำของเขา
"เอาละทีนี้ก็สู้แบบปกติได้เลย ป้องกันแนวหลัง พวกนักเวทย์อย่าลืมใช้เวทย์ป่วนไซคลอปกับหมียักษ์แดงช่วยพวกแนวหน้าด้วยละ!!"
เดย์สั่งการคำสั่งสุดท้าย ก่อนเขาจะควบม้าถือดาบคาตานะพุ่งตรงเข้าไปกลางดงของมอนเตอร์ท่ามกลางความตกใจของเหล่าทหาร แต่ไม่ทันที่พวกทหารจะได้กล่าวอะไร...
ฟ้าวว!!
เดย์ก็กระโดดทะยานออกจากหลังม้า เขาสังเกตุเลือดของพวกมอนเตอร์มากมายที่กองกับพื้นและตามบาดแผลของพวกมัน เดย์ก็ใช้ทักษะของแพทริกทันทีที่เขาให้มา
"ควบคุมโลหิต"
เดย์กล่าวสั้นๆก่อนกองเหลือจำนวนมากจะไหลมารวมกันเป็นรูปทรงกลมสีแดงกลางของกองทัพ เดย์ทำให้มันกลายสภาพเป็นเลือดที่แข็งตัว และทันทีที่เดย์กำหมัดมันก็กลายเป็นหนามแหลมสีแดงกระจายพุ่งเสียบแทงพวกก็อบลินและออร์ครวมถึงตัวอื่นๆตกตายเป็นจำนวนมาก
ฉึกกๆๆๆ!!
"ก๊าซซซ!!"
"ไหนลองนี่ดูสิ...ทักษะปลุกชีพศพ"
เดย์กล่าวขึ้นก่อนที่จะมีวงเวทย์สีดำเกิดขึ้นมากมาย ออกมาเป็นพวกซอมบี้ของก็อบบลิน ออร์ค แรดหินที่เขาเพิ่งฆ่าตายไปตะกี้กับพวกที่เขาเคยฆ่าก่อนหน้านี้ ซอมบี้โคบอลด์ก็มีและสุดท้ายเป็นซอมบี้ของ...ลาเมียร์
พวกมันคงอาจตายไม่นานเลยยังไม่กลายเป็นโครงกระดูกละมั้ง...
"ท่านเดย์มีพลังธาตุมืดสูงส่งขนาดนั้นเชียวรึ!"
กริมเมอร์กับพวกทหารที่เห็นก็ตกใจ พวกเขาจำได้ว่าจากปากที่แคลร์กล่าวบอกเขาเป็นแค่ระดับทหารยศร้อยเอกเองไม่ใช่เหรอถึงจะมาจากโรงเรียนเตรียมทหารชั้นผู้กองก็เถอะ แต่พลังที่เขาแสดงอยู่ตอนนี้เผลอๆมันมากกว่าระดับผู้พันเสียด้วยซ้ำ
ก๊าซซ!!
พวกซอมบี้ก็อบบลิน ออร์ค โคบอลด์ แรดหินและลาเมียร์ถึงร่างซอมบี้จะอ่อนแอกว่าร่างจริงแต่พวกมันก้ทุ่นแรงได้เยอะ ซอมบี้ของเดย์มีประมาณ 500ตนได้ตอนนี้
เขาสามารถอัญเชิญได้มากกว่าจอมเวทย์คนนั้นที่เขาฆ่าและชิงทักษะนี้มาได้เสียอีก แต่พอจะเชิญมากกว่านี้ก็ไม่ได้แล้วถึงจะใช้ลูกแก้วแรร์มานามาช่วยเพิ่มค่ามานาแล้วก็ตาม
"สเวนระวัง!"
แคลร์ร้องเตือนเมื่อเห็นหมียักษ์แดงสองตนพุ่งเข้ามาจากทั้งสองข้างของเดย์ เดย์ก็เหลือบมองเฉยๆก่อนเขาจะใช้ทักษะกายาภูติผี
ตูมม!!
หน้าของพวกมันชนกันเอง ก่อนเดย์จะใช้คาตานะสับหัวพวกมันขาดทั้งคู่อย่างว่องไว
ฉัวะ ฉัวะ!!
"บ้าน่าตัดหัวหมียักษ์แดงด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวเรอะ!แถมถึงสองตัวฟันอย่างกับมันเป็นสไลม์อย่างงั้นแหละ!!!"
กริมเมอร์ที่สุขุมเยือกเย็นมาตลอด เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เขาว่าเขาลองสัมผัสพลังของเดย์ดูแล้วเดย์นั้นมีพลังน้อยกว่าเขาอีกไม่ใช่เหรอ?
เขามีพลังพอๆกับพวกระดับนายพันเลยนะ แต่เขาก็ไม่สามารถฟันหัวของหมียักษ์แดงด้วยการโจมตีครั้งเดียวได้หรอกอย่างน้อยต้องเคลือบเวทย์รุนแรงและฟันมันจุดเดิมถึง 3 ทีเลยทีเดียว...หรือว่าดาบคาตานะของเดย์จะมีระดับสูงมาก?
"สเวนสุดยอดเลย..."
แคลร์ที่ใช้เวทย์ก็มองเดย์อย่างทึ่ง ในใจก็อดภูมิใจไม่ได้ที่เธอนั้นจะได้แต่งงานกับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เธอนี่ช่างโชคดีจริงๆที่ได้สามีทั้งหล่อและเก่งแบบนี้
"สายลมเริง...ระบำ"
ฉัวะ!!!!!
"เขาฟันฆ่าไซคลอปด้วยการฟันครั้งเดียวพระเจ้า!!!"
ทั้งทหารและกริมเมอร์ที่รับมือกับพวกออร์คตะโกนอุทานด้วยความตกใจสุดขีดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเดย์หายไปจากจุดที่เขายืนอยู่ก่อนจะโผล่ไปด้านหลังของไซคลอปยักษ์ที่สูงถึง 10 เมตรเขาฟันมันผ่ากลางอย่างง่ายดายแบบนั้นได้ยังไง!!
นี่มันราวกับเขากลายเป็นเทพสงครามไปแล้ว แคลร์ กริมเมอร์และเหล่าทหารเพเดร์มองไปยังเดย์ที่กำลังฟันพวกมอนเตอร์นับพันด้วยตัวคนเดียวด้วยกระบวานท่าฟันดาบแสนแปลกประหลาดของเขา
เขาแทงที่ท้องของไซคลอปอีกตนก่อนจะลากดาบขึ้นผ่ากลางมันกลายเป็นสองท่อน จากนั้นเขาก็หมุนตวัดฟันกลับหลังสะบั้นคอพวกออร์คที่เข้ามาในระยะอย่างแม่นยำตายทีเดียว 5 ตัว
ท่วงท่าการฟันของเขาราวกับกำลังร่ายรำทุกครั้งที่มีมอนเตอร์เข้ามาใกล้เขามันก็จะกลายเป็นเพียงเศษของก้อนเนื้อ
"อัศนีกัมปนาต!"
เดย์ใช้ดาบคาตานะเคลือบเวทย์สายฟ้าระดับเกือบ 4 ชี้ไปที่พวกมอนเตอร์ตนนึง...
เปรี้ยง!!
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปรี้ยง!!!
"ก๊าซซซ!!!"
สายฟ้าที่ผ่ามอนเตอร์ตัวนั้นกระจายไปรอบๆข้างราวกับกำลังแผ่กระจายไปจุดที่มีมอนเตอร์อยู่ใกล้ๆ พวกมันโดนชอตร่างอย่างรุนแรงจนกลายเป็นเถ้าธุลี มอนเตอร์บริเวณนั้นที่มีประมาณหลายร้อยตนหายวับไปกับตาเหลือเพียงแค่เศษขี้เถ้าธุลี
"เหยๆหมอนี่มันแค่ระดับขั้นสี่จริงๆเหรอเนี่ย"
กริมเมอร์เริ่มไม่อยากเชื่อประสาทสัมผัสตัวเองแล้ว...
ติ๊ง ติ๊งๆๆ!!!
[ท่านได้รับทักษะใหม่]
-(ทักษะคำราม ระดับ : B)
สามารถแผดเสียงคำรามสร้างความหวาดกลัวให้แก่ศัตรูได้ คล้ายๆกับจิตสังหารแต่กรณีของทักษะคำรามจะสามารถผลักศัตรูออกไปได้
-(ทักษะกายาหิน ระดับ : B)
สามารถทำให้ร่างลายแข็งดุจหินได้ จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตนเอง 2 เท่าและกลายเป็นหินได้อีกด้วยเมื่อผู้ใช้หยุดอยู่กับที่เหมาะสำหรับการซ่อนตัว
-(ทักษะตาทิพย์แห่งไซคลอป ระดับ : A)
สามารถมองเห็นสิ่งที่ถูกกำบังได้หรือมองทะลุนั่นเอง และสามารถมองได้ไกลถึง 1 กิโลเมตร
[ท่านได้รับไอเทมใหม่]
-(ชุดหนังหมี ระดับ : B )
สามารถเพิ่มพลังต้านทานกายภาพ 30%และเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เหมาะกับการเดินทางในป่าหิมะหรือพื้นที่เขตหนาว
-(นอแรดหิน ระดับ : B)
มีความแข็งแรงทนทานถ้าทำเป็นอาวุธจะสามารถเป็นประเภทเจาะเกราะได้
เสียงแจ้งได้รับทักษะและไอเทมใหม่ของเดย์ดังขึ้นรัวๆพร้อมกับพลังของเขาที่ฆ่าพวกมันก็มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ตอนนี้เขามาอยู่ที่ระดับขั้น 5 กว่าแล้วจากการฆ่าไซคลอปและหมีแดงที่ระดับเยอะกว่าเขาซะส่วนใหญ่ การฆ่าล้างบางของเขาทำให้ตอนนี้เหลือมอนเตอร์เพียงแค่พันกว่าตนเท่านั้น ส่วนทหารของพวกเขาตายเพียงไม่กี่ร้อยคน
"แฮ่ก...แบบนี้ชัยชนะเป็นของพวกเราแน่"
แคลร์ที่ใช้มานาในการช่วยผู้บาดเจ็บและใช้เวทย์โจมตีไปด้วยทำให้เธอตอนนี้มานาหายไปเยอะพอสมควร เธอจึงมีสภาพเหนื่อยอย่างที่เห็น แต่อาจเพราะด้วยความเหนื่อยของเธอทำให้ประสาทสัมผัสรับรู้ของเธอช้าลง
ฟุบบ!!
"เอ้ะ?"
ทำให้เธอไม่รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวผมชมพูที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาดีในภาพแหวนขอมรดกเข้ามาใกล้ตัวเธอตอนไหน และทหารด้านหลังของเธอโดนฆ่าตอนไหน
ภาพที่เธอเห็นตอนนี้คือหญิงสาวผมชมพูทะยานมาอยู่ตรงหน้าของเธอ ก่อนจะต่อยท้องของเธอ...
ตึง!!
"อั๊ก!"
ชุดเกราะของเธอบุบตามความแรงของมันพร้อมกับแคลร์ที่กระอักเลือดออกมาคำโต เดย์ที่มีทักษะหูทิพย์มาจากทักษะส่วนตัวของเขาตอนอยู่โลกนั้นและยังมีทักษะตาทิพย์ของดวงตาแห่งไซคลอป์ทำให้เขาหันไปมองทิศที่แคลร์อยู่
แล้วก็เห็นว่าแคลร์ถูก...ฮายอนพาตัวไป
"กริมเมอร์ฝากดูกองทัพทีชั้นจะไปช่วยแคลร์เอง!"
"ขะ...เข้าใจแล้วฝากด้วยท่านสเวน!"
กริมเมอร์ก็เห็นเหตุการณ์ตะกี้เช่นเดียวกัน แต่เขาไม่สามารถฝ่ากองทัพมอนเตอร์ไปช่วยได้ทันเหมือนเดย์ตอนนี้ เดย์ทะยานอย่างรวดเร็วตามฮายอนที่อุ้มแคลร์ไปทันที
"ฮายอน!!"
ณ ที่แห่งหนึ่ง...
"เจ้าคือจอมมารสินะ..."
เสียงทรงอำนาจของหญิงสาวนางนึงในชุดเกราะสีดำน้ำเงินบนหลังม้าเหล็กสีดำตัวใหญ่ของเธอ เธอมีเรือนผมยาวสลวยถึงกลางหลังสีดำขลับ นัยต์ตาคมสีน้ำเงินมหาสมุทร
ใบหน้าสวยคมความงามของเธอมากยิ่งกว่าเหล่าเทพนางฟ้าบนสรวงสวรรค์กับผิวพรรณสีขาวอมชมพูสว่างสไว มือข้างขวาของเธอกำดาบเล่มยักษ์สีดำน้ำเงินไว้แน่นพร้อมปล่อยออร่าจิตสังหารที่รุนแรงออกมา
กองทัพทหารชุดเกราะเหล็กหนัก ลักษณะของชุดเกราะของพวกเขาราวกับมันมาจากโลกอนาคตชุดของพวกเขาดูราวกับหุ่นยนต์นักรบ ทางด้านหลังก็ยังมีหุ่นยนต์ยักษ์ติดอาวุธขนาดใหญ่ถึง 5 เมตร
ข้างในหุ่นยนและอาวุธที่พวกทหารถือบรรจุแกนพลังเวทย์ไว้เพื่อสามารถใช้ในการยิงพลังเวทย์ออกมาได้ตลอดโดยหลักการใช้คือนำมานาของตนเองถ่ายเทไปยังแกนพลังนั่นถ้าเทียบกับคฑาเวทย์อาวุธที่คล้ายปืนที่พวกทหารถือนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพที่รุนแรงกว่า 2 ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
"โอ้จูเลียส...เจ้าอยู่กับจักรวรรดิ์คลาวด์ฮาร์ทนี่เอง"
จักรวรรดิ์คลาวด์ฮาร์ทคือจักรวรรดิ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า 3 จักรวรรดิ์ที่เหลือ ถ้าพูดถึงยุทโธปกรณ์ด้านอาวุธละก็จักรวรรดิ์คลาวด์ฮาร์ทนี้มีอาวุธที่น่ากลัวที่สุด ขนาดสามารถสร้า่งหุ่นยนต์ยักษ์เหล็กได้เลยทีเดียว
"......"
ทีอามองไปยังจูเลียสแล้วพอลองสัมผัสประเมินพลังดูปรากฎว่าเธอมีระดับถึงขั้น 13 ระดับ 90 เลยทีเดียว นั่นเป็นสิ่งที่ทีอาตกใจอย่างมาก เพราะจูเลียสชาติก่อนกว่าจะมีระดับถึงตอนนี้ได้ก็มีอายุถึง 35 ปีแล้ว...
'ถ้าไม่กำจัดมันเสียตอนนี้...เห็นทีภายภาคหน้าคงเป็นปัญหากับปีศาจอย่างแน่นอน ถ้าปล่อยให้มันเติบโตมากกว่านี้ละก็'
ทีอาคิดในใจในขณะที่ยืนอยู่หน้าทัพกองกำลังปีศาจนับ 2 แสนตนโดยทัพของจูเลียสมีเพียงแค่ 1 หมื่นคนเพราะเธอแค่ใช้กำลังทหารของจักรวรรดิ์ส่วนน้อยมาสำรวจตามพระบัญชาของราชาเพียงเท่านั้น เพราะเขาให้หาสาเหตุที่ป่าแห่งนี้มีคลื่นพลังงานลึกลับบางอย่าง
ราชาและราชินีของจักรวรรดิ์คลาวด์ฮาร์ทเท่าที่ทีอาได้ยินมา พวกเขาแข็งแกร่งกว่าราชาจักรวรรดิ์อื่นๆเสียอีก แถมพวกเขานั้นยังฉลาดกว่าอีกด้วย พูดตามตรงจักรวรรดิ์ที่ทีอากลัวที่สุดก็คือจักรวรรดิ์คลาวด์ฮาร์ทนี่ละ
"ทะ...ท่านจูเลียสข้าว่าพวกเราควรรีบหนีก่อนดีกว่านะครับ เราควรแจ้งกับพระราชาก่อนดีกว่า พวกเราไม่สามารถชนะผู้หญิงคนนั้นได้หรอกครับต่อให้เธอไม่ใช่จอมมารก็ตาม แถมหน้าที่สังหารจอมมารเป็นของ..."
"เจ้าจะบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้กล้าอย่างงั้นเรอะ..."
"ขอรับ..."
จูเลียสแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจมาทางแม่ทัพชายวัยกลางที่มาด้วยกับตน เขาเป็นคนฉลาดและคิดรอบคอบเสมอและต่อให้ไม่ฉลาดก็เถอะแต่ดูยังไงพวกเขาที่มีทหารเพียงแค่นี้ถึงจะมียุทโธปกรณ์ที่ล้ำกว่าแต่ก็ไม่มีทางชนะกองกำลังปีศาจที่มีมากกว่าตนถึง 20 เท่าได้หรอก
"เจ้าปวกเปียกนั่นเนี่ยนะจะสามารถชนะจอมมารได้ ตอนข้าเจอกับมันมันยังไม่สามารถสร้างบาดแผลให้ข้าได้เลยเสียด้วยซ้ำ"
จูเลียสกล่าวเย้ยยันเมื่อนึกถึงตอนที่เจอกับผู้กล้าหนุ่ม เป็นตอนที่เธอไปเยี่ยมน้องสาววานาดีสของเธอที่จักรวรรดิ์โรฮันเนสล่า
แน่นอนว่าถึงจักรวรรดิ์ทั้งสองจะวางตัวเป็นศัตรูกันแต่ความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเธอก็ไม่เกี่ยววานาดีสอย่างพวกเธอไม่สนใจใครหน้าไหนอยู่แล้ว
"นั่นเพราะท่านผู้กล้ายังเพิ่งเริ่มเรียนรู้ได้ไม่นานเองขอรับหลังจากถูกอัญเชิญมา ถ้าให้เวลาเขารับรองว่าเขาต้องแข็งแกร่งแน่นอน และเราต้องหาทางนำเขามาฝ่ายจักรวรรดิ์ของเราอีกด้วย"
แม่ทัพวัยกลางคนน้อมกล่าว...
"หึ ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ ข้ายอมรับแผนการณ์ของเจ้าละกันเราต้องหาทางหนีและไปแจ้งแก่ราชา พวกเจ้านำกองกำลังหนีไปก่อนเดี๋ยวข้าจะถ่วงเวลานาง..."
โพละ!!
เสียงอะไรบางอย่างระเบิดกระจายออกมาโดยไม่ทันที่วานาดีสสาวจะกล่าวจบ หัวของแม่ทัพวัยกลางคนคนสนิทของเธอกับหัวของทหารนับหมื่นก็ระเบิดออกมา...
แต่เธอที่ต้านพลังนั้นได้ทำให้มีแต่แขนของเธอเท่านั้นที่ถูกระเบิดออกมาแทนที่จะเป็นศรีษะของเธอ...
"อ๊าาาาา!!!!!"
จูเลียสร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เธอกลิ้งตกจากหลังม้าจับแขนที่ระเบิดของตนกับพื้นดิ้นอย่างทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
จูเลียสกัดฟันระงับความเจ็บปวดพร้อมมองด้วยสายตาอาฆาตแค้นไปทางหญิงสาวผมขาวที่นั่งอยู่บนหลังมังกรดำด้วยท่าทางชิลๆ...เธออยู่ในท่าเหมือนเพิ่งดีดนิ้วไปตะกี้
"!!!"
จะบอกว่าที่ผู้หญิงคนนั้นทำให้ทหารที่แข็งแกร่งนับหมื่นของจูเลียสต้องตายและเสียแขนของเธอไปอย่างง่ายดายตะกี้ เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่ดีดนิ้วอย่างั้นเหรอ!
ทีอามองมาที่จูเลียสที่นอนอยู่กับพื้นในท่าจับแขนที่ขาดของตนและมองมาที่เธอด้วยสายตาอาฆาตแค้น
"เห...หัวของเธอไม่ระเบิดอย่างงั้นเหรอเนี่ย"
ทีอากล่าวอย่างประหลาดใจด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันมามองกองทัพของตนก่อนจะส่ายหน้า รู้สึกเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าจูเลียสนำกองทัพมาเยอะเธอจึงนำทัพมาด้วย เพราะท่าจูเลียสนำคนมาซักหลายแสนคนจะให้เธอมานั่งดีดนิ้วฆ่าหมดก็คงไม่ไหวเพราะมันกินมานาเธอพอสมควร
"เจ้านี่ทำให้ข้ายุ่งยากเสียจริงนะ...แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกน้องสาวของเจ้าก็จะตามไปเอง"
ทีอากล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ก่อนจะชี้นิ้วมาที่จูเลียสที่อยู่ห่างกับเธอหลายร้อยเมตร พร้อมปรากฎคลื่นพลังสีดำที่นิ้วของเธอ
ซูมมม!!!
จูเลียสกัดฟันมองลำแสงสีดำตรงหน้าที่พุ่งมาด้วยความเจ็บใจ เธอที่เป็นถึงวานาดีสที่แข็งแกร่งที่สุดกลับต้องมาตายอย่างอนาถด้วยสภาพนี้...
"เดียรินี่น้องข้า...ถ้าเจ้าได้ยินเสียงข้า...ข้าอยากให้เจ้าอย่าสู้กับจอมมาร..."
บรึ้มมม!!!
เสียงระเบิดดังสั่นหวั่นไหวพื้นที่หลายกิลโเมตรที่จูเลียสอยู่เหลือเพียงแต่หลุมขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น...
พรึบ!!
"ทะ...ท่านพี่"
ณ ปราสาทแห่งหนึ่งหญิงสาวผมชมพูอ่อนสั้นลอนในชุดกิโมโนสีชมพูลายดอกไม้สีม่วง นัยต์ตากลมโตคู่หวานสีม่วงอัญมณีของเธอเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงสุดท้ายของผู้เป็นพี่
เธอกัดฟันกำดาบคาตานะในมือแน่นพร้อมปล่อยออร่าจิตสังหารที่รุนแรงออกมาด้วยความแค้นใจ
"ฉันจะ...ไม่หนีค่ะท่านพี่...ฉันจะล้างแค้นให้ท่านพี่"
หญิงสาวหน้าสวยออกทางน่ารักกล่าวขึ้น ก่อนจะทะยานออกจากห้องนอนของตนในปราสาทของจักรวรรดิ์โรฮันเนสล่า ใช่แล้วเธอคือวานาดีสที่ประจำอยู่ที่จักรวรรดิ์โรฮันเนสล่าที่เดย์อยู่นั่นเอง
ข้อมูลเดย์
[เดย์ ข้ารับใช้จอมมาร]
[สเวน]
ฉายา : ผู้ปราบวิญญาณ
นักผจญภัยระดับ : B
อาชีพ : นักดาบ
ระดับ : ขั้น 4>5 ระดับ 50>75
เลเวล : 350
พลังธาตุ :
[ธาตุลมระดับ 4 : 0 ดาว]
[ธาตุไฟระดับ 2 : 6 ดาว]
[ธาตุน้ำระดับ 2 : 2 ดาว]
[ธาตุดินระดับ 2 :2 ดาว]
[ธาตุสายฟ้าระดับ 3 : 6 ดาว]
[ธาตุแสงระดับ 2 : 0 ดาว]
[ธาตุความมืดระดับ 2 : 4 ดาว]
ทักษะ :
-ควบคุมโลหิต ระดับ S
- กายาภูติผี ระดับ SS
-เคลื่อนย้ายควัน ระดับ S
-สายลมเริงระบำ ระดับ S
-ทักษะกรดแห่งไสลม์ ระดับ E
-ทักษะสร้างทายาทกับทุกเผ่า ระดับ A
-ทักษะทำอาหาร ระดับ B
-ทักษะเย็บปักถักร้อย ระดับ A
-ทักษะทำความสะอาด ระดับ B
-ทักษะต้านทานกายภาพ ระดับ : A
-ทักษะลุ่มหลง ระดับ : A
-ทักษะแรงดึงดูด ระดับ : S
-พยัคฆ์อัศนีบาต ระดับ : A
-ทักษะอาภรณ์แสง ระดับ : B
-ทักษะปลุกชีพศพ ระดับ : S
-ทักษะควบคุมเงา ระดับ : A
-ทักษะคำราม ระดับ : B
-ทักษะกายาหิน ระดับ : B
-ทักษะตาทิพย์แห่งไซคลอป ระดับ : A
อาวุธ :
- ดาบคาตานะ (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนไรเฟิล M41 (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนพก DSE (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-เคียวยมทูต ระดับ : A
ชุดอุปกรณ์
-ชุดผู้กอง (ต่างโลก) ระดับ : A
-ชุดยมทูต ระดับ : A
-หน้ากากยมทูต ระดับ : A
-ลูกแก้วแรร์มานา ระดับ : A
ปล.คอมเม้นเป็นกำลังใจในการแต่งตอนต่อไปด้วยนะงับ โหวต เม้้น แชร์ให้ด้วยถ้าชอบกันนะครับ
ปล.2ตอนนี้ยาวจุง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย